มีท่านใดบ้าง ที่ไม่ทำบัตรเครดิต และไม่คิดจะทำ

[J o r n]

ผมเอง เป็นคนที่ไม่ได้ใช้
ขณะที่เพื่อนมีแทบทุกคน

...เท่าที่ทราบ
ข้อดีคือ สามารถซื้อสินค้ามีส่วนลดได้
แล้วก็สะดวกมาก ไม่ต้องพกเงิน
สามารถสะสมยอดเพื่อรับสิทธิประโยชน์
หรือนำไปใช้ลดราคาตั๋วเครื่องบิน
ลดค่าน้ำมัน หรืออะไรๆ ต่างๆได้
กินเลี้ยงทีไร ไม่ต้องกังวลว่าลืมกดเงินจาก ATM
หรือเหตุฉุกเฉิน ก็ไม่ต้องเสียเวลาออกไปเบิกเงินสด


ส่วนข้อเสียคือ ต้องเสียเวลาไปชำระให้ตรงเวลาทุกเดือน
แล้วก็บางที ระบบบัญชีรายจ่ายของเราจะเสียวินัย
เพราะอาจมือเติบ เวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อนฝูง
-----------------------------------------
พอดีว่าเป็นคนไม่ค่อยได้ใช้เงินเลยไม่ทำน่ะครับ
เพราะขี้เกียจอ่านแผ่นพับ ที่ส่งมากับจดหมาย
ที่บ้านตอนนี้ก็เยอะแล้ว

แต่คิดอีกที มีไว้ก็สะดวกดีเหมือนกัน

-----------------------------------------
อยากทราบว่า เพื่อนๆ ท่านใดบ้างที่ไม่มีบัตรเครดิต
ขอทราบเหตุผลด้วยนะครับ...ขอบพระคุณมากครับ

[MO101]

ไม่มีบัตรเครดิตก็ได้ส่วนลดครับ (อันนีจริง)
แล้วก็ถ้าซื้อเงินสด สามารถลดได้อีก 3%
เพราะบัตรมันจะชาร์จ 3% อยู่แล้ว

[crongcrang]

ผมอยากจะปิดบัตร แต่ไม่มีตังเคลียหมด เดือนๆต้องจ่ายขั้นต่ำ
เศร้าครับ

[ปรัชญา]

โฮมโปร ถือบัตร  กรุงศรี  ลด3%  เงืนสดไม่ลด  อิอิ

ผมไม่มีบัตรกรุงศรี  อดได้เงินผมเลย

ปั๊มเจ็ท  บัตรวีซ่า   แถมน้ำแบะรายการพิเศษ  (เงินสด  อด  อิอิ)

บิ๊กซี  มีจัดรายการบ่อยแถม

ที่ช๊าตร์บัตรก็ร้านเพชร  ทอง  อ้อ  รพ.หูตาคอจมูก   ปิ่นเกล้าลดเงินสด

ก็ดีและไม่ดี  ซื้อตัวเครื่องก็ได้รับการคุ้มครอง  เงินสดก็ไม่เห็นจะลดแฮะ

อื่นๆอีกมากมาย

[akekarat]

ดีมากเลยครับ ผมมีบัตร 2 ใบ บัตรเงินของกสิกรกับ Titanium ของ KTC แต่ผมใช้ของกสิกรใบเดียว ก็เหมือนกับเราซื้อของแล้วได้เครดิต 30 วันนั่นแหละ เวลาเติมน้ำมันก็ไม่ต้องพกเงินไม่ต้องเสียเวลาหา ATM เบิกเงิน จากที่เคยต้องไปกด ATM สัปดาห์ละครั้ง กลายเป็นเดือนละครั้งสองครั้ง

เวลาครบยอด ก็ตั้งเวลาจ่ายทาง Cyber Banking ให้ตัดอัตโนมัติ ไปเลย 100% ไม่จ่ายขั้นต่ำ ไม่เห็นเสียเวลาเลยครับ มีแต่ได้กับได้ ของดีต้องใช้ให้เป็นครับ ใช้ไม่เป็นก็เป็นหนี้หัวบาน

[fantasia]

มี 5 ใบครับ กำลังจะสมัครใบที่ 6
ชอบคำนวณครับว่าใช้บัตรอะไรตอนไหนที่ไหนได้ประโยชน์สูงสุด (หาเรื่องปวดหัวให้ตัวเองเล่น)

อย่างช่วงนี้ต้องใช้ central martercard ครับ
ถ้ายอดใช้จ่ายมากกว่าเดือน กค. ทุก ๆ 6 พันบาท จะได้คะแนนสะสม 6 เท่า
คิดแล้วเท่ากับว่าแลกคูปอง central ได้ 3% ทุก ๆ 6,000 บาท

ส่วนโปรแลกตั๋วเครื่องบินตอนนี้ก็ต้อง standard chartered platinum
มียอดใช้จ่าย 150,000 บาท ก็แลกตั่ว TG ภายในประเทศได้แล้ว
หรือถ้านำคะแนนสะสมมาแลกเป็น Cashback ก็จะได้ 1,500 บาท (1% ของยอดการใช้จ่าย)

ถ้าไม่ชอบปวดหัวมากก็ใช้ KTC Cashback ครับ ทุกยอดการใช้จ่ายจะได้คืน 0.40% เลยภายในรอบบัญชีที่ใช้ (ถ้าใช้เยอะได้มากกว่าอีก)

หรือไม่ก็ AIG X-Card คะแนนสะสมใช้แลกเป็น Cashback ได้
โดยจะแลก Cashback ได้ 0.8% ของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร (มากกว่า KTC)

ช่วงนี้ต้องระวังอย่าพกแต่บัตร platinum อย่างเดียวครับ เพราะมีร้านค้าบางแห่งเริ่มไม่รับ เนื่องจาก Charge % มากกว่า VISA ธรรมดา

[bankniti]

เห็นด้วยกับคุณ akekarat ใช้ไม่เป็น หนี้ท่วมหัวเลยครับ

มีบัตรเครดิตไว้ก็ดี ไม่ต้องพกเงินสดมากๆ บางบัตรก็มีสะสมแต้มหรือ cashback นี้ก็น่าสน แต่ต้องมีวินัยในการใช้ เราควรจะใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก แต่อย่าใช้จนเป็นหนี้ (คือต้องรู้ตัวเราว่าเราสามารถจะจ่ายได้หมดในแต่ละเดือน อย่าเหลือค้างให้เป็นหนี้) เพราะดอกเบี้ยบัตรเครดิต 18-20% นี้มากกว่าดอกเบี้ยเงินกู้มากเลยนะครับ

อีกอย่างไม่รู้ว่าจริงหรือไม่(วานถามผู้รู้ด้วยครับ) ที่บอกว่า เวลามียอดค้างของเดือนก่อน พอเริ่มเดือนแล้วใช้บัตรเครดิต ดอกเบี้ยจะไม่ใช่คิดจากยอดคงเหลือจากเดือนก่อนเพียงอย่างเดียว แต่รวมยอดใหม่ที่เราใช้เข้าไปคิดดอกเบี้ยด้วย

[kangkrub]

มาเสริมเรื่อง cash back ครับ..
Tesco card บัตรทอง ก็น่าสนใจนะครับ ลด
- 3% สำหรับปั๊ม esso หรือ caltex (จำไมได้)
- 2% ทุกการใช้จ่ายที่ Lotus และ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
- 1% สำหรับการใช้จ่ายนอกห้างครับ

[ครรชิต ไพศาล]

ผมครับ ไม่เคยมีบัตรเครดิต และ ไม่เคยคิดจะมี
บัตร ATM ก็ไม่มีแล้วยกเลิกไปแล้ว เพราะไม่เคยได้เบิกเงิน  :D

[BHT]

ผมมีบัตรกดเงินครับ ว่าจะปิดไปเหมือนกัน แต่เปลี่ยนเป็นใช้หนี้หมดแล้วเก็บไว้ เผื่อฉุกเฉิน

[Blue planet]

ผมไม่เคยใช้เหมือนกันครับ
ไม่เคยศึกษาด้วยว่าคิดดอกเบี้ยอะไรยังไง? รู้สึกว่ารายจ่ายข้างเคียงยิบย่อยไปหมด ค่าธรรมนงเนียม.. ก็เลยไม่ทำ..

[kongkang]

ฟังข่าว แบงค์ชาติตั้งเป้าให้คนไทยใช้บัตรเครดิตแทนเงินสด เนื่องจากใช้เงินสดมีต้นทุนสูงกว่า(ในการพิมพ์แบงค์ออกมาหมุนเวียน) ขณะที่ประเทศอื่นนิยมใช้บัตรเครดิตมากกว่า  ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียแล้วแต่วินัยของแต่ละคน แต่ก็เห็นด้วยนะที่รณรงค์ให้ใช้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นน่ะ ช่วยชาติค่ะ

[ปรัชญา]

อีกอย่างไม่รู้ว่าจริงหรือไม่(วานถามผู้รู้ด้วยครับ) ที่บอกว่า เวลามียอดค้างของเดือนก่อน พอเริ่มเดือนแล้วใช้บัตรเครดิต ดอกเบี้ยจะไม่ใช่คิดจากยอดคงเหลือจากเดือนก่อนเพียงอย่างเดียว แต่รวมยอดใหม่ที่เราใช้เข้าไปคิดดอกเบี้ยด้วย

การคิดดอกเบี้ย  ที่คุยกับเพื่อนที่เคยทำงานสายนี้

บริษัทจะคิดดอกเบี้ยที่ค้างชำระย้อนหลังไป
 ตั้งแต่วันที่ซื้อสินค้ามาถึงวันคิดดอกเบี้ยขณะนั้น
ไม่ได้คิดของใหม่รวม  นอกจากรอบเดือนต่อไป

[terati20]

ตอน จบใหม่ๆ ใช้บัตร รูด ปื้ด ๆ หนี้บานเลยครับ

หลังๆระมัดระวัง หาบัตรที่มีโปรโมชั่นดีๆ
เช่น บัตร  KTC  บางกอกเเอร์เวย์ ได้ตั๋วบินไป สมุยฟรี

citibank  ก็มีโปรโมชั่น ร้านอาหารครึ่งราคา อยู่

:lol:  :lol:  :lol:

[...]

ผมว่าข้อดีข้อเสียนี่อยู่ที่ตัวเรามากกว่านะครับ ไม่ได้อยู่ที่บัตร

[Saran]

ของผมใช้อยู่ใบเดียวครับ เป็นของกรุงศรีแต่เป็นบัตรเสริมของพ่อนะครับ (ตัวเองเล่นหุ้นอย่างเดียวไม่มีรายได้) ค่าธรรมเนียมฟรีตลอดชีพ พ่อเลยแนะนำให้สมัครไว้บ้างครับ เพื่อมีเหตุฉุกเฉิน

ผมพกมาเกือบ 2 ปี เพิ่งจะได้ใช้ตอนไปเข้าโรงบาลเมื่อต้นปีเองครับ ไปตรวจภูมิแพ้แล้วตังค์ไม่พอจ่าย - -"

[kiri]

บัครเครดิตสมัยนี้แข่งกันจัดโปรโมชั่นเร้าใจให้ใช้มากกว่าเงินสดจริงๆ

แต่ผู้ใช้บัครก็ควรจะรักษาวินัยทางการเงินอย่างสูง (ไม่ให้เสียชื่อนักลงทุน...ผู้ชาญฉลาด )
อย่าจ่ายเงินเกินวันที่กำหนด เพราะค่าดอกเบี้ยแพงมาก
มีเพื่อนคนหนึ่ง เขาใช้วิธีนี้ คือทุกครั้งที่รูดบัตร เขาจะกันเงินสดจำนวนเดียวกันกับยอดที่รูดบัตรเก็บไว้สำหรับจ่ายหนี้เลย

เวลาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนใหญ่ๆ หากจ่ายบัตรเครดิตมักจะมีส่วนลดพิเศษ กรณีนี้ได้ประโยชน์จริงๆ หากต้องพักรักษาในโรงพยาบาล ได้ลดประมาณ 5%

ที่บ้านต้องจ่ายค่าน้ำมันทุกเดือน เดือนละหลายสตางค์ จะจ่ายสด เขาก็ไม่มีส่วนลดให้ หากจ่ายด้วยบัตรเขาก็ไม่Charge เพิ่ม เราก็เลยใช้บัตรเครดิต ทำให้ได้ประโยชน์มาเต็มๆ โดยไม่เสียอะไรเลย

ปล.บริษัทบัตรเครดิตจะได้รับรายได้จากผู้ขายสินค้าทุกครั้งที่เรารูดบัตรค่ะ

[akekarat]

แปลกครับ ที่หลาย ๆ คนกังวลเรื่องดอกเบี้ยบัตรเครดิต ไม่ยอมมีบัตรด้วยเหตุผลนี้ ผมเองก็มีบัตรทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สนใจเรื่องดอกเบี้ยเลยว่าจะคิดยังไง ดอกเท่าไหร่

มีบัตรแล้วไม่สามารถจ่าย 100% ณ สิ้นงวดได้ แต่กลับมาจวกธนาคารเรื่องดอกเบี้ยมหาโหด ผมว่าก็ไม่สมควรมีบัตรเครดิตครับ เพราะถือว่าคน ๆ นั้นไม่มีวินัยทางการเงิน และที่สำคัญ ผมว่าแนวคิดบัตรเครดิต คือการให้คุณมีเครดิต 30 วัน และไม่ต้องถือเงินสดเวลาจับจ่ายนะ ไม่ได้หมายความว่าให้คุณมีบัตรเงินผ่อน หรือบัตรเงินกู้ ซะหน่อย

[upside down]

ตัวเองก็เป็นคนที่มีบัตรเครดิต ก็หลายใบอยู่ ประโยชน์ก็มีเยอะนะคะ  อืม... แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งที่เจอ คือ ขยันโทรมาขายนู่น นี่ นั่น เช่น ประกันชีวิต โดยให้หักผ่านบัตร หรือ จะให้วงเงินกู้  มันทำให้ลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตนั้น รำคาญ มากๆๆๆ  เราไม่อยากกู้ ก็จะลุ้นให้กู้อยู่นั่นแหละค่ะ

[tummeng]

ผมว่าอยู่ที่คนใช้น่ะครับ ถ้าใช้เป็นก็มีประโยชน์เยอะน่ะครับ เพราะ ส่วนตัวผมก็มีบัตรเครดิตอยุ่หลายใบเหมือนกันน่ะครับ

ข้อดีที่พอคิดได้

* ดีตรงดูว่าเราใช้จ่ายอะไรบ้าง เพราะสิ้นเดือนมีส่ง statement มาให้เราก็ตรวจเช็คได้ ว่าเผลอซื้ออะไรไร้สาระไปบ้างเดือนนี้  :lol: (เพราะ บางทีถ้าจ่ายเป็นเงินสดนี่จ่ายไปเรื่อยๆๆ ไม่รู้ใช้ไปเท่าไหร่น่ะครับ เพราะเป็นคนขี้เกียจทำบัญชีน่ะครับ เลยอาศัยว่าบัตรใบนึงไว้ใช้จ่ายสำหรับส่วนตัว ส่วนอีกใบก็ใช้สำหรับครอบครัว จะได้ไว้ตรวจสอบได้อย่างคร่าวๆๆน่ะครับ)

*  ส่วนลดที่ได้ตามร้านอาหาร บางทีก็ได้ส่วนลด 5-10%  หรือ เดี๋ยวนี้ตามซุปเปอร์บางแห่งก็มีส่วนลดเพิ่มให้ด้วยน่ะครับ หรือ เติมน้ำมันก็มีส่วนลดด้วย คิดๆๆแล้วก็เดือนๆๆนึงก็หลายตังค์เหมือนกันนะครับ

* พกเงินสดไม่ต้องเยอะมาก เพราะ ส่วนตัวเคยทำกระเป๋าเงินหายไปที ทั้งใบมีอยู่ 1000 บาท กับ บัตรเครดิต  ... เลยเสียเงินไปแค่นั้น แค่รีบโทรไประงับบัตร เพราะ คิดๆๆดูถ้าไม่มีบัตร เราคงพกเงินไว้ตรึม แล้วคงหายไม่ได้คืนชัวร์

* บัตรบางใบสามารถสะสมแต้มเพิ่มเติมจากการใช้บัตร ซึ่งแต้มเรานี้ เราก็เอามาแลกเป็นของรางวัล หรือ คูปองน้ำมันไว้ใช้ต่อได้น่ะครับ หรือ ว่าบางใบเดี๋ยวนี้มี บริการเสริมใช้รถไปส่งสนามบินฟรีปีละครั้ง หรือ รถเสียเรียกรถลากฟรี (ส่วนตัวเคยใช้บริการนี้แล้ว ถือว่า OK เลยครับ)

ส่วนข้อเสีย

* ข้อเสียใหญ่ แน่ๆๆเลย อาจทำให้ใช้จ่ายเงินเกินตัวเพราะบางทีไปเจอของทึถูกใจ อยากได้มาก เงินไม่พอ เลยรูดไปก่อนเลย สิ้นเดือนค่อยหาทางเคลียร์ แต่ถ้ามีแต่เงินสดก็คงทำใจไม่เสียเงินไปน่ะครับ  *** อันนี้เป็นบ่อย 555

* จ่าย late นี่ดอกแพงมากเลยน่ะครับ (ส่วนตัวไม่เคยจ่าย late เลยไม่มีปัญหาน่ะครับ)

* ความเสี่ยงจากการโดน hack ข้อมูลบัตร ... ของผมที่ใช้มาเคยโดนอยู่ครั้งนึงน่ะครับ แต่โชคดีหน่อย ไอ้เจ้าคน hack มันเป็นคนต่างประเทศมั้ง มัน hack แล้วเอาไปใช้ที่สวิสมั้ง แต่ตัวเราอยู่ที่นี่ แล้วทางแบงค์ตรวจสอบเจอเลยแจ้งให้ทราบและก็เคลียร์ปัญหากันไป

สรุป ผมว่า อยู่ที่คนใช้น่ะครับ ประโยชน์ก็มีนะเยอะนะครับ แต่โทษนี่ก็มีเหมือนกัน ถ้าเราไม่รู้จักควบคุมมันน่ะครับ

[niyom_value]

ผมยังไม่มีครับ แต่ผมมองว่า
ข้อดี คือ มีส่วนลดเมื่อใช้จ่าย โดยเฉพาะถ้าเป็นค่าใช้จ่ายประจำ จ่ายบ่อยๆ เช่นค่าน้ำมัน เนี่ยะ ผมว่าประหยัดได้มากเลย
ข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายไม่ประจำจะมีมากขึ้น ซึ่งผมคงต้องใช้ความอดทนสูงครับการนี้ แย่นะครับ อยากได้ เป็นเจ้าของได้ แต่ไม่มีเงินจ่าย แฮะๆๆ

[paul_n]

ใช้ครับ แต่ต้องมีวินัยทางการเงินครับผม ลองเอาวิธีที่ผมทำดูมาใช้ก็ได้นะครับไม่ว่ากัน

1. เริ่ม มีบัตรเครดิต
2. เปิดบัญชีเพื่อใช้ในการตัดบัตรโดยเฉพาะ
3. ให้ตัดบัญชีอัตโนมัติ ซึ่งปกติเขาจะไปตัดวันสุดท้าย
4. เวลาคุณใช้อะไรไป โอนเงินจากบัญชีหลัก (เงินเดือน) ไปบัญชีนี้หลังจากที่ใช้ทุกครั้งดีกว่าครับ (ขอย้ำ)

แน่นอนว่าข้อดีจากบัตรก็มีตั้งหลายๆอย่างแล้วอย่างที่เห็นในผู้รู้ในนี้ แต่ที่ผมทำอย่างนี้เพื่อว่าเวลาตัดบัตรเนี่ย อย่างน้อย เราก็รู้ว่าเราใช้ไปเท่าไหร่จริงๆ และอย่างน้อยเงินในบัญชีก็สามารถงอกเงยเป็นดอกเบี้ยได้ด้วยครับ (เอาน่าได้นิดหน่อยก็ยังดีกว่าเงินอยู่ข้างนอกแบงค์หรือในกระเป๋าเรา ซึ่งอาจจะมีแต่หดหายอย่างเดียวครับ)

[007-s]

ดิฉันก็ใช้นะ เพราะมันสะดวก และได้ส่วนลดพิเศษ แถมแต้มสะสมอีก

วิธีควบคุมรายจ่าย อันนี้สำคัญ และคิดว่าบัตรเครดิตคงมีส่วนอยู่บ้าง แต่หลักๆมันขึ้นอยู่กะวิธีบริหารความอยากของตัวเองมากกว่าค่ะ

อย่างดิฉันไม่ได้ใช้วิธีคอยนั่งกันเงินตามจำนวนเงินที่รูดไปแต่ละครั้ง
แต่จะใช้วิธีตั้งงบประมาณขึ้นมาเลย แล้วทำตารางรายรับ-จ่าย แยกหมวดออกมาให้ชัดเจน
ไม่ว่าจะจ่ายด้วยรูดปื๊ด หรือจ่ายเงินสด ก็นำยอดแต่ละครั้งมาลงไว้เลยตามแต่หมวด เพื่อหักออกจากงบ
เช่น หมวดหนังสือ มีงบ 1000/เดือน รูดไป 300 คงเหลืองบ700 เอาอีก450 เหลือ 250 ...ถ้าเกิดยังอยากได้อีกเล่มนึง แต่ราคา 400 เท่ากะว่าจะต้องเกินงบทันที 150 นะ เราจะรู้ทันที ...รอปัดไปซื้อเล่มนี้เดือนหน้าได้มั้ย ถ้าไม่ได้ อยากได้ตัวสั่นล่ะ ก็เอาเลย แต่อีที่เกิน 150 นั่นหมายถึง จะต้องไปขโมยเงินส่วนนี้มาจากงบหมวดอื่น เช่น อาหาร ต้องถูกตัดงบลงแล้ว....ต้องหักงบกินลง โดนหั่นลง 150

มันไม่ยากนะ ถ้าจะคุมจริงๆ ขอให้รู้ตัวตลอดเวลา มันก็คุมได้ล่ะ
บางคนคุมแบบ ไม่รู้ตัว คือ ประหยัดมากเสียจนบีบคั้นตัวเองไปหมด งี้ก็เครียดเกิน ไม่ประเมินงบออกมาว่า เท่าไหร่จึงพอดี รู้แค่ท่องว่า ไม่ใช้ ๆๆๆๆๆ ...พอเวลาระเบิดใช้ขึ้นมานี่ เยอะเลย พรวดเดียวเลย

[tanate@man]

[quote="ครรชิต ไพศาล"]ผมครับ ไม่เคยมีบัตรเครดิต และ ไม่เคยคิดจะมี
บัตร ATM ก็ไม่มีแล้วยกเลิกไปแล้ว เพราะไม่เคยได้เบิกเงิน

[MindTrick]

ผมว่าอยู่ที่คนใช้น่ะครับ ถ้าใช้เป็นก็มีประโยชน์เยอะน่ะครับ เพราะ ส่วนตัวผมก็มีบัตรเครดิตอยุ่หลายใบเหมือนกันน่ะครับ

ข้อดีที่พอคิดได้

* ดีตรงดูว่าเราใช้จ่ายอะไรบ้าง เพราะสิ้นเดือนมีส่ง statement มาให้เราก็ตรวจเช็คได้ ว่าเผลอซื้ออะไรไร้สาระไปบ้างเดือนนี้  :lol: (เพราะ บางทีถ้าจ่ายเป็นเงินสดนี่จ่ายไปเรื่อยๆๆ ไม่รู้ใช้ไปเท่าไหร่น่ะครับ เพราะเป็นคนขี้เกียจทำบัญชีน่ะครับ เลยอาศัยว่าบัตรใบนึงไว้ใช้จ่ายสำหรับส่วนตัว ส่วนอีกใบก็ใช้สำหรับครอบครัว จะได้ไว้ตรวจสอบได้อย่างคร่าวๆๆน่ะครับ)

*  ส่วนลดที่ได้ตามร้านอาหาร บางทีก็ได้ส่วนลด 5-10%  หรือ เดี๋ยวนี้ตามซุปเปอร์บางแห่งก็มีส่วนลดเพิ่มให้ด้วยน่ะครับ หรือ เติมน้ำมันก็มีส่วนลดด้วย คิดๆๆแล้วก็เดือนๆๆนึงก็หลายตังค์เหมือนกันนะครับ

* พกเงินสดไม่ต้องเยอะมาก เพราะ ส่วนตัวเคยทำกระเป๋าเงินหายไปที ทั้งใบมีอยู่ 1000 บาท กับ บัตรเครดิต  ... เลยเสียเงินไปแค่นั้น แค่รีบโทรไประงับบัตร เพราะ คิดๆๆดูถ้าไม่มีบัตร เราคงพกเงินไว้ตรึม แล้วคงหายไม่ได้คืนชัวร์

* บัตรบางใบสามารถสะสมแต้มเพิ่มเติมจากการใช้บัตร ซึ่งแต้มเรานี้ เราก็เอามาแลกเป็นของรางวัล หรือ คูปองน้ำมันไว้ใช้ต่อได้น่ะครับ หรือ ว่าบางใบเดี๋ยวนี้มี บริการเสริมใช้รถไปส่งสนามบินฟรีปีละครั้ง หรือ รถเสียเรียกรถลากฟรี (ส่วนตัวเคยใช้บริการนี้แล้ว ถือว่า OK เลยครับ)

ส่วนข้อเสีย

* ข้อเสียใหญ่ แน่ๆๆเลย อาจทำให้ใช้จ่ายเงินเกินตัวเพราะบางทีไปเจอของทึถูกใจ อยากได้มาก เงินไม่พอ เลยรูดไปก่อนเลย สิ้นเดือนค่อยหาทางเคลียร์ แต่ถ้ามีแต่เงินสดก็คงทำใจไม่เสียเงินไปน่ะครับ  *** อันนี้เป็นบ่อย 555

* จ่าย late นี่ดอกแพงมากเลยน่ะครับ (ส่วนตัวไม่เคยจ่าย late เลยไม่มีปัญหาน่ะครับ)

* ความเสี่ยงจากการโดน hack ข้อมูลบัตร ... ของผมที่ใช้มาเคยโดนอยู่ครั้งนึงน่ะครับ แต่โชคดีหน่อย ไอ้เจ้าคน hack มันเป็นคนต่างประเทศมั้ง มัน hack แล้วเอาไปใช้ที่สวิสมั้ง แต่ตัวเราอยู่ที่นี่ แล้วทางแบงค์ตรวจสอบเจอเลยแจ้งให้ทราบและก็เคลียร์ปัญหากันไป

สรุป ผมว่า อยู่ที่คนใช้น่ะครับ ประโยชน์ก็มีนะเยอะนะครับ แต่โทษนี่ก็มีเหมือนกัน ถ้าเราไม่รู้จักควบคุมมันน่ะครับ

เห็นด้วยครับ
กำลังจะทำของโลตัสอีกที่ ซื้อของเค้าบ่อยเหลือเกิน จนต้องเอาส่วนลดที่ให้คืน1-2%บ้างแล้ว

สุดท้ายอยู่ที่ใจ คุมไม่ได้ ทำอะไรก็เจ๊ง.. :lol:

[adi]

ผมมีอยู่สามใบ

ผมว่าสะดวกดี และมีประโยชน์ถ้าใช้ให้เป็น ที่ผมชอบคือสามารถ track ค่าใช้จ่ายได้ โดยไม่ต้องจด

ส่วนใหญ่ผมจะ assign เป็นใบๆ ว่า ใบนี้สำหรับค่าใช้จ่ายในบ้าน ใบนี้สำหรับส่วนตัว ใบนี้สำหรับท่องเที่ยว

ทำให้ติดตาม และควบคุมงบประมาณในแต่ละเดือน และวางแผนการใช้เงินได้ดีขึ้นด้วยครับ

[MarginofSafety]

เคยให้ความคิดเห็นไว้ในกระทู้นี้

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... c&start=30

ขอแจมเรื่องบัตรเครดิตครับ

บัตรเครดิตถ้าใช้อย่างถูกต้อง ไม่เอาไปผ่อนซื้อสินค้า
ผมว่ามันทำให้เราประหยัดมากกว่าจะเป็นการฟุ่มเฟือยครับ
จะมีกี่ใบก็มีไปเถอะครับ เพราะว่าโอกาสในการได้รับส่วนลดจากการซื้อสินค้า/บริการก็มากขึ้น
เช่นตอนนี้ห้างนี้ ใช้บัตรของแบงค์นี้ซื้อแล้วได้ส่วนลด เป็นต้น

แต่ส่วนตัวผมคิดว่าควรมีของ VISA 1 ใบ Master Card 1 ใบ
แล้วก็แบงค์ต่างชาติ (HSBC หรือ CitiBank) 1 ใบ เวลาไปต่างประเทศจะได้อุ่นใจ

เคยมีเรื่องเล่าขำๆว่าก่อนที่กสิกรไทย จะเปลี่ยนชื่อจาก Thai Farmer Bank
เป็น Kasikorn Bank ต่างชาติเค้าคิดว่าคนถือบัตรเป็นชาวนา เลยกล้าๆกลัวๆ ไม่ยอมอนุมัติบัตรรายการที่ซื้อผ่านบัตรเครดิต

ประโยชน์ต่อมาก็คือการ Defer Payment โดยไม่เสียดอกเบี้ย
1 เดือนบ้าง 45 วันบ้าง ซึ่งตามหลัก Time value of money ก็คือ
เงินที่เราจ่ายไปในวันนี้ มีค่ามากกว่าเงินจำนวนเดียวกันที่เราจ่ายในอีก 1 เดือนข้างหน้า

ประโยชน์ต่อมาก็คือเวลาเราซื้อของชิ้นใหญ่เราก็ไม่ต้องคอยพกเงินสดมากๆ
และแต้มที่สะสมไว้ก็สามารถแลกรับของรางวัลได้ครับ

ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียม ของแบงค์ต่างชาติที่ต้องเสียรายปี
เราโทรไปขอ waive fee ได้เลยครับ เค้ายินดีไม่คิด
ถ้าคนไม่ทราบก็เสียโอกาสตรงนี้ไป

ส่วนเวลาใช้จ่ายตามปกติก็เลือกใช้บัตรของแบงค์ไทย เพราะว่าเราไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจ่าย

สรุปในมุมมองผมก็คือใช้บัตรเครดิตให้เหมือนใช้เงินสด (จ่ายเต็ม)
เราจะได้ประโยชน์จากการ Defer Payment ได้แต้มสะสมแลกของ
และได้ส่วนลดเกี่ยวกับ สินค้า/บริการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

[Zionism]

จิตวิทยาการตลาด

[MarginofSafety]

ใช้ให้เหมือนตอนไม่มีบัตร
การตลาดจะมาเกี่ยวอาราย  8)

[โอ@]

แต่ตอนนี้รู้สึก Citibank ไม่ยอมยกเลิกค่าธรรมเนียมให้นะครับ