หัดทำสมาธิครับ
- ก้อนหิน
- Verified User
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 1
ผมรู้สึกว่าตั้งแต่เริ่มทำงานมา ผมเป็นคนที่สมาธิสั้นลงเยอะมากครับ อาจจะเป็นเพราะทำงานแบบ เปลี่ยนไปๆมาๆ หลายๆงานในวันเดียวก็ได้ครับ
ทำให้จะจับหนังสือเรียนมาอ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองสมาธิสั้นครับ
ตอนนี้เลยเริ่ม นั่งสมาธิ เองที่บ้านครับ
แต่ตอนนั่งนี่ก็ฟุ้งซ่านน่าดูเลย
พี่ๆ ที่เคยทำสมาธินี่เวลานั่งสมาธิใช้วิธีไหนกันบ้างครับ
ทำให้จะจับหนังสือเรียนมาอ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองสมาธิสั้นครับ
ตอนนี้เลยเริ่ม นั่งสมาธิ เองที่บ้านครับ
แต่ตอนนั่งนี่ก็ฟุ้งซ่านน่าดูเลย
พี่ๆ ที่เคยทำสมาธินี่เวลานั่งสมาธิใช้วิธีไหนกันบ้างครับ
- aor_vi
- Verified User
- โพสต์: 336
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 2
ก้อนหิน เขียน: ทำให้จะจับหนังสือเรียนมาอ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองสมาธิสั้นครับ
เป็นเหมือนกันเวลาอ่านหนังสือก็อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง
ไม่รู้จะเกี่ยวกับสมาธิสั้นหรือเปล่า เพราะเคยอ่านในหนังสือพิมพ์เค้าบอกว่าเดี๋ยวนี้คนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำมักจะเป็นคนที่รออะไรนาน ๆ ไม่ได้
แต่สำหรับตัวเองรู้สึกว่าตอนนี้เริ่มเป็นซะแล้ว สงสัยต้องไปหัดนั่งทำสมาธิดูเผื่อจะช่วยได้
พี่ ๆ คนไหนที่ใจดีช่วยแนะนำหน่อยน่ะค่ะ
"คนที่ไม่เคยล้มเหลวเลย โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นยาก"
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 4
ฝึกจากการตามดูกายก่อน น่าจะง่ายที่สุด(จริงๆมันแล้วแต่จริตแต่ละคนว่าแบบไหนง่ายยากค่ะ)
หรือจะเริ่มจากภายนอกก่อนเลยก็ได้ค่ะ
เช่น นั่งดูต้นไม้ ไม่ใช่เพ่งพินิจนะ แต่ดูแบบแค่ตามดู ดูแบบเอาใจใส่ ไม่ใช่เพ่ง ดูให้เห็นลมที่พัดสอดเข้าไปในช่องว่างของแต่ละใบแต่ละกิ่ง เงาที่ทาบลงมาของแสง ...อะไรต่างๆ แค่ดูเท่านั้น ไม่ต้องบังคับปรุงแต่งอะไร
ถ้าจิตมันคิด ก็อย่าไปกังวลว่า ...ว้า คิดจัง ออกไปสิฟระเจ้าความคิด ...ไม่ต้องค่ะ ก็ให้มันคิดไป แล้วตามดูความคิดนั้นอีกที ให้รู้สึกได้ว่า เจ้าความคิดกำลังคิดอีกแล้ว ดูมันอีกชั้นนึง
พอเราดูภายนอกจนชินกับวิธีการ ค่อยๆหลับตาลง สังเกตุดูว่าลูกกะตา มันกลิ้งไปมามั้ย ดูว่าจะกลิ้งไปไหน กลิ้งทำไม ทำให้นิ่งได้มั้ย
เพ่งพินิจกะเอาใจใส่ ต่างกัน ทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน ยิ่งเพ่งยิ่งกลิ้งสั้งเกตุดูสิ
ค่อยๆค่ะ ดิฉันเรียก"เอาใจใส่" ...เป็นไงลูกตาจ๋า กลิ้งทำไมจ๊ะ มีไรเป่า กังวลไรไหนว่ามาค่ะลูกตาขา ..อ่ะ ไม่มีไรนี่นะใช่มะลูกตา ไม่มีไรต้องกลิ้ง งั้นนิ่งๆดีก่ามะลูกตาจ๋า..
โอเคจากนั้น ขยับเข้าในอีกนิด ตามดูลมหายใจ ลมหายใจนี่ท่านพุทธทาส ว่าคือ ประเภทกาย คือกายลมนั่นเอง กายเราคือกายเนื้อ
ดูให้เข้าใจว่า กายสองกายมันทำงานร่วมกัน หรือคือ มันสัมพันธ์กัน
ลองเริ่ม หายใจยาว เข้าออก ดูว่าเป็นไง พอดูจนรู้สึกได้ว่าลมหายใจยาวนั้นเริ่มละเอียด (ท่านให้ลองฝึกจับอะไรซักอย่างไว้ แล้วไม่เพ่งไปที่สิ่งที่จับนั้น แต่ตามไปกะลมหายใจ ดูว่าของที่จับนั้นนิ่งมั้ย เมื่อรู้สึกได้ว่าลมหายใจละเอียดขึ้น จะพบว่าของที่จับนิ่ง ไม่สั่น หรือสั่นน้อยลงแล้ว,นั่นล่ะใช่)
แล้วก็ถัดมาเรื่อย เริ่มดูลมหายใจชนิดสั้น ดูว่ายาวเป็นไง สั้นเป็นไง....
หลักๆก็คือ "ตามดู" ทำความเข้าใจ ไม่ใช่ไปบังคับมัน
ณ ตื่นอยู่นั้น สังเกตุเถอะว่า จิตคิดจะมาเรื่อย แจมตลอด ปล่อยเขาค่ะ อย่าไปรมณ์เสีย เคือง หงุดหงิดเวลาเขามา ให้เขามา แล้วตามดูเขาอีกทอดนึง
ขั้นที่ดูจิตคิดนี่ค่อนข้างยาก ยิ่งไปขัดขวาง พยายามจะทำให้เขาสงบ เลิกคิก ...ยิ่งมารัวเลย ...เหมือนเด็กดื้อค่ะ ยิ่งว่าเหมือนยิ่งไปยุเขา
เฉยๆซะ ชิวๆค่ะ ...จิตคิดมาก็ ...อื่อหื๊อ อ่าห๊า อ่า หรอ จ๋าจ้ะ ..แล้วค่อยๆฉากออก มองไปยังสองตัวนี่มันคุยกัน อืมม เพลินๆไปค่ะ พอมีการมองเขาเกิดขึ้น เขาจะอายม้วนหายไปพักนึง เดี๋ยวมาอีกค่ะ มาแหย่เรื่อยๆ แต่พอตระหนักรู้ปั๊ป จะแว๊บบบ ไป
ฝึกตามดู ฝึกตระหนักรู้ ยากหน่อยค่ะ แต่ต้องฝึกไปเรื่อยๆ ทุกอริยาบทในหนึ่งวัน พยายามมีสติในการตระหนักรู้ตลอด
เช่น ดูหนัง แหมบทเศร้า เราจะเผลออินไป(ก็ไม่แปลก) พออารมณ์เกิด น้ำตาเริ่มมารื้นๆแล้ว พยายามฝึกให้ตระหนักรู้ การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ของอารมณ์นั้นๆ
ไม่ต้องไปกังวลมัน ว่าโอยฉันพลาด จับวินาทีแรกที่เริ่มเศร้าไม่ทัน มาจับได้เอาอีตอนน้ำตาเอ่อออกมาแล้ว ...บ่เป็นหยังค่ะ จับบ่อยๆ อาศัยลูกอึด แกมาฉันตาม มาสิ แกมาอีกฉันตามดูแก
ตระหนักรู้ กะ ติดยึด นี่มันจะเหมือนคู่ต่อสู้กัน สังเกตุสิ พอตระหนักรู้มาปุ้ป นังน้ำตารื้นๆที่กะลังจะไหลนั่น ชะแวบเลย เผ่นแน่บ(ดูมันจนหยดสุดท้ายนะคะ ให้เห็นมันเผ่นแน่บเห็นหลังไวไวเลย คือดูมันจนอีตอนที่มันดับไป)
ง่า...ดิฉันก็เป็นแต่เพียง นักเรียนน้อยๆ เพิ่งเริ่มฝึกเหมือนกัน ไม่ทราบว่าที่แลกเปลี่ยนไปจะช่วยอะไรพี่ได้บ้างหรือไม่ ...รอผู้อาวุโสท่านอื่นมาชี้แนะอีกทีนะคะ
:oops: :oops:
หรือจะเริ่มจากภายนอกก่อนเลยก็ได้ค่ะ
เช่น นั่งดูต้นไม้ ไม่ใช่เพ่งพินิจนะ แต่ดูแบบแค่ตามดู ดูแบบเอาใจใส่ ไม่ใช่เพ่ง ดูให้เห็นลมที่พัดสอดเข้าไปในช่องว่างของแต่ละใบแต่ละกิ่ง เงาที่ทาบลงมาของแสง ...อะไรต่างๆ แค่ดูเท่านั้น ไม่ต้องบังคับปรุงแต่งอะไร
ถ้าจิตมันคิด ก็อย่าไปกังวลว่า ...ว้า คิดจัง ออกไปสิฟระเจ้าความคิด ...ไม่ต้องค่ะ ก็ให้มันคิดไป แล้วตามดูความคิดนั้นอีกที ให้รู้สึกได้ว่า เจ้าความคิดกำลังคิดอีกแล้ว ดูมันอีกชั้นนึง
พอเราดูภายนอกจนชินกับวิธีการ ค่อยๆหลับตาลง สังเกตุดูว่าลูกกะตา มันกลิ้งไปมามั้ย ดูว่าจะกลิ้งไปไหน กลิ้งทำไม ทำให้นิ่งได้มั้ย
เพ่งพินิจกะเอาใจใส่ ต่างกัน ทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน ยิ่งเพ่งยิ่งกลิ้งสั้งเกตุดูสิ
ค่อยๆค่ะ ดิฉันเรียก"เอาใจใส่" ...เป็นไงลูกตาจ๋า กลิ้งทำไมจ๊ะ มีไรเป่า กังวลไรไหนว่ามาค่ะลูกตาขา ..อ่ะ ไม่มีไรนี่นะใช่มะลูกตา ไม่มีไรต้องกลิ้ง งั้นนิ่งๆดีก่ามะลูกตาจ๋า..
โอเคจากนั้น ขยับเข้าในอีกนิด ตามดูลมหายใจ ลมหายใจนี่ท่านพุทธทาส ว่าคือ ประเภทกาย คือกายลมนั่นเอง กายเราคือกายเนื้อ
ดูให้เข้าใจว่า กายสองกายมันทำงานร่วมกัน หรือคือ มันสัมพันธ์กัน
ลองเริ่ม หายใจยาว เข้าออก ดูว่าเป็นไง พอดูจนรู้สึกได้ว่าลมหายใจยาวนั้นเริ่มละเอียด (ท่านให้ลองฝึกจับอะไรซักอย่างไว้ แล้วไม่เพ่งไปที่สิ่งที่จับนั้น แต่ตามไปกะลมหายใจ ดูว่าของที่จับนั้นนิ่งมั้ย เมื่อรู้สึกได้ว่าลมหายใจละเอียดขึ้น จะพบว่าของที่จับนิ่ง ไม่สั่น หรือสั่นน้อยลงแล้ว,นั่นล่ะใช่)
แล้วก็ถัดมาเรื่อย เริ่มดูลมหายใจชนิดสั้น ดูว่ายาวเป็นไง สั้นเป็นไง....
หลักๆก็คือ "ตามดู" ทำความเข้าใจ ไม่ใช่ไปบังคับมัน
ณ ตื่นอยู่นั้น สังเกตุเถอะว่า จิตคิดจะมาเรื่อย แจมตลอด ปล่อยเขาค่ะ อย่าไปรมณ์เสีย เคือง หงุดหงิดเวลาเขามา ให้เขามา แล้วตามดูเขาอีกทอดนึง
ขั้นที่ดูจิตคิดนี่ค่อนข้างยาก ยิ่งไปขัดขวาง พยายามจะทำให้เขาสงบ เลิกคิก ...ยิ่งมารัวเลย ...เหมือนเด็กดื้อค่ะ ยิ่งว่าเหมือนยิ่งไปยุเขา
เฉยๆซะ ชิวๆค่ะ ...จิตคิดมาก็ ...อื่อหื๊อ อ่าห๊า อ่า หรอ จ๋าจ้ะ ..แล้วค่อยๆฉากออก มองไปยังสองตัวนี่มันคุยกัน อืมม เพลินๆไปค่ะ พอมีการมองเขาเกิดขึ้น เขาจะอายม้วนหายไปพักนึง เดี๋ยวมาอีกค่ะ มาแหย่เรื่อยๆ แต่พอตระหนักรู้ปั๊ป จะแว๊บบบ ไป
ฝึกตามดู ฝึกตระหนักรู้ ยากหน่อยค่ะ แต่ต้องฝึกไปเรื่อยๆ ทุกอริยาบทในหนึ่งวัน พยายามมีสติในการตระหนักรู้ตลอด
เช่น ดูหนัง แหมบทเศร้า เราจะเผลออินไป(ก็ไม่แปลก) พออารมณ์เกิด น้ำตาเริ่มมารื้นๆแล้ว พยายามฝึกให้ตระหนักรู้ การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ของอารมณ์นั้นๆ
ไม่ต้องไปกังวลมัน ว่าโอยฉันพลาด จับวินาทีแรกที่เริ่มเศร้าไม่ทัน มาจับได้เอาอีตอนน้ำตาเอ่อออกมาแล้ว ...บ่เป็นหยังค่ะ จับบ่อยๆ อาศัยลูกอึด แกมาฉันตาม มาสิ แกมาอีกฉันตามดูแก
ตระหนักรู้ กะ ติดยึด นี่มันจะเหมือนคู่ต่อสู้กัน สังเกตุสิ พอตระหนักรู้มาปุ้ป นังน้ำตารื้นๆที่กะลังจะไหลนั่น ชะแวบเลย เผ่นแน่บ(ดูมันจนหยดสุดท้ายนะคะ ให้เห็นมันเผ่นแน่บเห็นหลังไวไวเลย คือดูมันจนอีตอนที่มันดับไป)
ง่า...ดิฉันก็เป็นแต่เพียง นักเรียนน้อยๆ เพิ่งเริ่มฝึกเหมือนกัน ไม่ทราบว่าที่แลกเปลี่ยนไปจะช่วยอะไรพี่ได้บ้างหรือไม่ ...รอผู้อาวุโสท่านอื่นมาชี้แนะอีกทีนะคะ

-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 7
ค่ะพี่ก้อนหิน ไม่ง่ายค่ะ แต่บทจะได้ก็ได้ค่ะ เลยไม่รู้จะบอกว่าง่ายหรือยากดี
เอาง่ายสุดเริ่มเบื้องต้นเลย
ดิฉันว่า พี่น่าจะฝึกจากกายก่อนค่ะ จิตปล่อยมันไปก่อนเดี๋ยวค่อยจัดการ
เอากายก่อน
ง่ายๆ เช่น พี่จะเดินไปหยิบน้ำมากินแก้วนึง
พี่เริ่มจาก"รับรู้"ก่อนว่าพี่เริ่มก้าวเท้าไหนก่อน แล้วเท้าไหนตาม ไปทีละก้าวเลย (ไม่จำเป็นว่าต้องเดินเชื่องช้าหนืด เอาจังหวะเราล่ะเป็นใช้ได้)
ทุกอริยาบทเลยค่ะ พี่ตามดูไปเรื่อย คือเรียกว่ารู้ตัวทุกฝีก้าวเลย
จนกระทั่งไปถึงตู้ หยิบแก้วด้วยมือไหน รับรู้ตลอดทาง จนถึงน้ำเย็นหรือร้อนที่พี่ดื่ม พี่รู้สึกมั้ยมันร้อนหรือเย็น พี่ดื่มไปพี่รู้สึกว่าน้ำมันไหลไปจมอยู่แถวไหนของร่างพี่
.....
ดิฉันลองสังเกตุ อย่างเช่น พระบางรูป ฟ้าผ่าเปรี้ยง ไม่มีสะดุ้งเลย ประตูเปิดอยู่ๆลมพัดมา ปั้ง ด้านหลังท่านด้วยนะ ...ไม่มีสะดุ้ง ไม่มีเหลียวแม้แต่นิดน้อย
จิตรับรู้ไวมากๆ อาจจะเรียกว่าแทบจะแนบสนิทกะเหตุการณ์ที่เกิดเลย สติคงอยู่กะตัวตลอดเวลา ....ไม่ง่ายค่ะ ต้องฝึก
ดิฉันเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ามากๆ ตั้งแต่เด็กเลย แค่ฝนตั้งเค้านี่สั่นแล้ว
ก็พยายามฝึกสติ ฝึกไงก็ยังสะดุ้ง เริ่มไม่ได้ใจค่ะ เปิดหน้าต่างเลย เปรี้ยงใช่มะ ขอดู ขอชมเลย ยืนดูการแสดงคอนเสิร์ทของฟ้าเลย ...อ๊ะ ดีขึ้นแฮะ ค่อยๆสังเกตุกายใจเรา ไหนสะดุ้งช่วงไหน เสียวหลังตอนไหน เกิดขึ้นยังไง ตั้งอยู่นานมั้ย แล้วดับลงได้มั้ย เมื่อไหร่
อะไรทำนองนี้อ่าค่ะ :oops: :lol: :D
เอาง่ายสุดเริ่มเบื้องต้นเลย
ดิฉันว่า พี่น่าจะฝึกจากกายก่อนค่ะ จิตปล่อยมันไปก่อนเดี๋ยวค่อยจัดการ
เอากายก่อน
ง่ายๆ เช่น พี่จะเดินไปหยิบน้ำมากินแก้วนึง
พี่เริ่มจาก"รับรู้"ก่อนว่าพี่เริ่มก้าวเท้าไหนก่อน แล้วเท้าไหนตาม ไปทีละก้าวเลย (ไม่จำเป็นว่าต้องเดินเชื่องช้าหนืด เอาจังหวะเราล่ะเป็นใช้ได้)
ทุกอริยาบทเลยค่ะ พี่ตามดูไปเรื่อย คือเรียกว่ารู้ตัวทุกฝีก้าวเลย
จนกระทั่งไปถึงตู้ หยิบแก้วด้วยมือไหน รับรู้ตลอดทาง จนถึงน้ำเย็นหรือร้อนที่พี่ดื่ม พี่รู้สึกมั้ยมันร้อนหรือเย็น พี่ดื่มไปพี่รู้สึกว่าน้ำมันไหลไปจมอยู่แถวไหนของร่างพี่
.....
ดิฉันลองสังเกตุ อย่างเช่น พระบางรูป ฟ้าผ่าเปรี้ยง ไม่มีสะดุ้งเลย ประตูเปิดอยู่ๆลมพัดมา ปั้ง ด้านหลังท่านด้วยนะ ...ไม่มีสะดุ้ง ไม่มีเหลียวแม้แต่นิดน้อย
จิตรับรู้ไวมากๆ อาจจะเรียกว่าแทบจะแนบสนิทกะเหตุการณ์ที่เกิดเลย สติคงอยู่กะตัวตลอดเวลา ....ไม่ง่ายค่ะ ต้องฝึก
ดิฉันเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ามากๆ ตั้งแต่เด็กเลย แค่ฝนตั้งเค้านี่สั่นแล้ว

ก็พยายามฝึกสติ ฝึกไงก็ยังสะดุ้ง เริ่มไม่ได้ใจค่ะ เปิดหน้าต่างเลย เปรี้ยงใช่มะ ขอดู ขอชมเลย ยืนดูการแสดงคอนเสิร์ทของฟ้าเลย ...อ๊ะ ดีขึ้นแฮะ ค่อยๆสังเกตุกายใจเรา ไหนสะดุ้งช่วงไหน เสียวหลังตอนไหน เกิดขึ้นยังไง ตั้งอยู่นานมั้ย แล้วดับลงได้มั้ย เมื่อไหร่
อะไรทำนองนี้อ่าค่ะ :oops: :lol: :D
- ก้อนหิน
- Verified User
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 8
อืม ลึกซึ้งจริงๆครับพี่ พอใจpor_jai เขียน: 8) พี่ถึงถามไงว่ารู้ไหม สมาธิคืออะไร
พี่วิ่งจ๊อกกิ้งอยู่ก็ทำสมาธิได้
ไม่เห็นต้องนั่งนิ่งๆเลย ....
จริงๆ ผม อาจจะแค่ต้องการเวลา สำรวมจิตใจประจำวันก็ได้มั้งครับ
ปล อย่างงี้ที่เราไปจิบเบียร์กัน ก็บอกที่บ้านว่าไปทำสมาธิพอไหวมั้ยครับพี่

- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 11
8) ที่น้องสายลับของพวกเราเล่ามานี่
เหมือนพระอาจารย์สุรศักดิ์ที่วัดผาณิตาราม
สอนไว้ ทุกประการเลยครับ
แสดงว่าสายเดียวกัน
พระอาจารย์ว่ามีหลายทาง
แต่ทางนี้เป็นทางสายเอก
ผมเองปฏิบัติไม่ก้าวหน้าเลยครับ กิเลสหนามากๆ
กลับจากวัดที่ผมได้ๆมา2อย่าง ติดตัวมาจนวันที่โพสเนี่ย
หนึ่ง ผมกำหนดสติขณะขับรถได้ดีขึ้น
สอง เข้าสู่สมาธิได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน
ตั้งใจว่าต้นเดือนหน้าจะขับรถไปส่งคุณเจ๋งที่วัดมเหยงค์
คุณเจ๋งแกจะไปปฏิบัติธรรม15วัน
ผมเองจะได้ถือโอกาสไปทำบุญด้วย
วาสนาคงได้แค่ไปส่ง คนเข้าวัด
เหมือนพระอาจารย์สุรศักดิ์ที่วัดผาณิตาราม
สอนไว้ ทุกประการเลยครับ
แสดงว่าสายเดียวกัน
พระอาจารย์ว่ามีหลายทาง
แต่ทางนี้เป็นทางสายเอก
ผมเองปฏิบัติไม่ก้าวหน้าเลยครับ กิเลสหนามากๆ
กลับจากวัดที่ผมได้ๆมา2อย่าง ติดตัวมาจนวันที่โพสเนี่ย
หนึ่ง ผมกำหนดสติขณะขับรถได้ดีขึ้น
สอง เข้าสู่สมาธิได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน
ตั้งใจว่าต้นเดือนหน้าจะขับรถไปส่งคุณเจ๋งที่วัดมเหยงค์
คุณเจ๋งแกจะไปปฏิบัติธรรม15วัน
ผมเองจะได้ถือโอกาสไปทำบุญด้วย
วาสนาคงได้แค่ไปส่ง คนเข้าวัด
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 12
ง่ายที่สุด สำหรับการฝึก คือ เวลานั่งทำงาน หาเวลา สัก 1 นาที ในการเริ่มต้น
โดยการนั่งสบายๆ แล้ว ยกมือขวา ขนานกับพื้น
แบมือ
แล้วก็กำมือ
กำมือ
แล้วก็แบมือ
ทำแบบนี้สัก 1 นาที แล้วค่อยๆเพิ่ม เป็น 2 , 3 , 4 , 5
ทำทุกวัน วันละนิด
ระหว่างที่แบมือ ก็ให้กำหนด แบหนอ
ระหว่างที่กำมือ ก็กำหนด กำหนอ
กำหนดในใจ
แค่นี้ครับ ง่ายสุดๆแล้ว
โดยการนั่งสบายๆ แล้ว ยกมือขวา ขนานกับพื้น
แบมือ
แล้วก็กำมือ
กำมือ
แล้วก็แบมือ
ทำแบบนี้สัก 1 นาที แล้วค่อยๆเพิ่ม เป็น 2 , 3 , 4 , 5
ทำทุกวัน วันละนิด
ระหว่างที่แบมือ ก็ให้กำหนด แบหนอ
ระหว่างที่กำมือ ก็กำหนด กำหนอ
กำหนดในใจ
แค่นี้ครับ ง่ายสุดๆแล้ว
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 14
8) น้องอู๋ครับก้อนหิน เขียน:ปกติ พวกนี้เราจะสามารถรู้ได้ยังไงว่าเรามีพัฒนาการครับ
หรือว่า เรารับรู้ได้ด้วยความรู้สึกเองว่า เรามีสติที่ดีขึ้นครับ
อย่างง่ายๆขับรถเนี่ย
เมื่อก่อน ใครมาปาด เอาซีวะ
ดูซิ มรึงก๋ากรู ครายจะเร็วกว่ากัน ก็อัดตามไป
ปากก็ด่าพ่อแม่ ญาติโยม ฝั่งตรงข้ามไปด้วย
ถ้าสติเราอยู่กับตัว
ใครมาปาด เราก็กำหนดในใจ ปาดหนอ
หายใจเข้าออกลึกๆอีกที ก็ไม่รู้สึกไรแล้วครับ
หรืออย่างวิ่งจ๊อกกิ้งนี่ยิ่งเห็นชัด
ถ้าเรากำหนดที่ลมหายใจเข้าออกให้เกิดสมาธิ
เมื่อเทียบกับตอนที่วิ่งไปฟุ้งไป
ความเหนื่อยเทียบกันไม่ได้เลยครับ
คนละสเกล เลย
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 15
ปาดหนอ ชัก....เปรี้ยง :lol:
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 16
พี่พอใจจ๋า อย่างพี่เนี่ย เรียกว่าสติและสมาธิดีพออยู่แล้ว ดูจากการโพสท์ความคิดเห็นต่างๆ ก็มองออกค่ะ
พี่สามารถวิ่งจ๊อคกิ้งพร้อมทำสมาธิไปได้ด้วย นี่มัน เซน ชัดๆค่ะ
อย่างกำแบที่เฮียเจ๋งแนะนำ ก็ดีนะคะ สำหรับเริ่มต้นใหม่เอี่ยมๆเลย และคิดไปว่าตนเป็นพวกเรียนรู้ช้า เอาอย่างพี่เจ๋งว่าก็น่าจะดี
คือ ถ้าอ่านหนังสือพวกนี้เยอะๆ ดิฉันพบว่า การปฏิบัติเพื่อเข้าสู่ความเข้าใจในพุทธศาสนามีสองสายหลักๆคือ สายเชื่องช้า กะ สายฉับพลัน
ไม่ได้แปลว่า สายโง่กะสายฉลาดนะ เปล่าเลย คือมันเป็นแต่เพียงความถนัดนั่นเอง ใครทำแบบไหนแล้วเข้ากะตัวเองได้ดี นั่นแหละคือใช่
ขอบคุณพี่นริศที่ชมค่ะ แต่บอกเรื่องจริงๆ ดิฉันก็ยังไม่ใช่ว่าไปถึงไหนนักหนาหรอก :lol:
พี่ก้อนคะ คำถามที่พี่สงสัย ไม่ทราบควรตอบไงดี เอาเป็นว่า ยกมาทั้งดุ้นเลยดีกว่า
เจาจูถามนานจว๋านว่า ...."อะไรคือมรรค"
นานจว๋าน....................."คือจิตทุกขณะ"
เจาจู............................"หากเป็นดังนั้น จำเป็นที่ต้องมีการบรรลุถึงหรือไม่"
นานจว๋าน....................."ความปราถนาที่จะบรรลุถึงมรรค ย่อมเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับมรรคอยู่แล้ว"
เจาจู............................"หากไร้ความปราถนาเสียแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่านั่นคือมรรค"
นานจว๋าน....................."มรรคนั้นมิได้อยู่ที่ รู้ หรือ ไม่รู้ ถ้ามีใครคนนึงที่ รู้ ความรู้นั้นก็เป็นเพียงสิ่งที่ประกอบขึ้นมาจากความนึกคิด ถ้า ไม่รู้ ความไม่รู้นั้นก็หาได้แตกต่างไปจากสิ่งไร้ชีวิตทั้งหลายไม่ ถ้าท่านได้ไปจนถึงสภาวะอันเป็นที่สิ้นสุดแห่งความสงสัยทั้งมวล ท่านก็จะเห็นจักรวาลอันไร้ขอบเขตเปิดโล่งอยู่เบื้องหน้า จักรวาลอันสรรพสิ่งได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวนี่แหละ ใครจะเป็นผู้แบ่งแยกสรรพสิ่งในขณะที่อาศัยอยู่ในโลกอันกลมกลืน"
(คัดลอกมาจาก "กุญแจเซน"ของท่าน ติช นัท ฮันห์)
.....เอ...เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย.......อิอิ
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
พี่สามารถวิ่งจ๊อคกิ้งพร้อมทำสมาธิไปได้ด้วย นี่มัน เซน ชัดๆค่ะ
อย่างกำแบที่เฮียเจ๋งแนะนำ ก็ดีนะคะ สำหรับเริ่มต้นใหม่เอี่ยมๆเลย และคิดไปว่าตนเป็นพวกเรียนรู้ช้า เอาอย่างพี่เจ๋งว่าก็น่าจะดี
คือ ถ้าอ่านหนังสือพวกนี้เยอะๆ ดิฉันพบว่า การปฏิบัติเพื่อเข้าสู่ความเข้าใจในพุทธศาสนามีสองสายหลักๆคือ สายเชื่องช้า กะ สายฉับพลัน
ไม่ได้แปลว่า สายโง่กะสายฉลาดนะ เปล่าเลย คือมันเป็นแต่เพียงความถนัดนั่นเอง ใครทำแบบไหนแล้วเข้ากะตัวเองได้ดี นั่นแหละคือใช่
ขอบคุณพี่นริศที่ชมค่ะ แต่บอกเรื่องจริงๆ ดิฉันก็ยังไม่ใช่ว่าไปถึงไหนนักหนาหรอก :lol:
พี่ก้อนคะ คำถามที่พี่สงสัย ไม่ทราบควรตอบไงดี เอาเป็นว่า ยกมาทั้งดุ้นเลยดีกว่า
เจาจูถามนานจว๋านว่า ...."อะไรคือมรรค"
นานจว๋าน....................."คือจิตทุกขณะ"
เจาจู............................"หากเป็นดังนั้น จำเป็นที่ต้องมีการบรรลุถึงหรือไม่"
นานจว๋าน....................."ความปราถนาที่จะบรรลุถึงมรรค ย่อมเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับมรรคอยู่แล้ว"
เจาจู............................"หากไร้ความปราถนาเสียแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่านั่นคือมรรค"
นานจว๋าน....................."มรรคนั้นมิได้อยู่ที่ รู้ หรือ ไม่รู้ ถ้ามีใครคนนึงที่ รู้ ความรู้นั้นก็เป็นเพียงสิ่งที่ประกอบขึ้นมาจากความนึกคิด ถ้า ไม่รู้ ความไม่รู้นั้นก็หาได้แตกต่างไปจากสิ่งไร้ชีวิตทั้งหลายไม่ ถ้าท่านได้ไปจนถึงสภาวะอันเป็นที่สิ้นสุดแห่งความสงสัยทั้งมวล ท่านก็จะเห็นจักรวาลอันไร้ขอบเขตเปิดโล่งอยู่เบื้องหน้า จักรวาลอันสรรพสิ่งได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวนี่แหละ ใครจะเป็นผู้แบ่งแยกสรรพสิ่งในขณะที่อาศัยอยู่ในโลกอันกลมกลืน"
(คัดลอกมาจาก "กุญแจเซน"ของท่าน ติช นัท ฮันห์)
.....เอ...เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย.......อิอิ
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
- ก้อนหิน
- Verified User
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณพี่ สายลับ 007 ครับ
ไม่เป็นไรครับ มันเป็นแค่ชื่อ อิอิอิ
ลึกซึ้งมากๆครับ เรื่องนี้
เหมือนกับว่า ถ้าการมีสมาธิ มันคือ การมีสติทุกขณะจิต นั่นเอง
สำหรับตัวผมคงต้องพยายามต่อไปครับ
แต่เดี๋ยวนี้ชื่อผมกลายเป็นอะไรแล้วหว่าพี่ก้อนคะ คำถามที่พี่สงสัย ไม่ทราบควรตอบไงดี เอาเป็นว่า ยกมาทั้งดุ้นเลยดีกว่า
ไม่เป็นไรครับ มันเป็นแค่ชื่อ อิอิอิ
ลึกซึ้งมากๆครับ เรื่องนี้
เหมือนกับว่า ถ้าการมีสมาธิ มันคือ การมีสติทุกขณะจิต นั่นเอง
สำหรับตัวผมคงต้องพยายามต่อไปครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 19
vbvb ขออภัยค่ะ ย่อมากไปหน่อย ตอนแรกจะย่อ พี่หิน มันก็ไงๆอยู่ เอาพี่ก้อนดีก่า มันฟังดูคล้ายๆ "ทองก้อน" เลยแต่เดี๋ยวนี้ชื่อผมกลายเป็นอะไรแล้วหว่า
ไม่เป็นไรครับ มันเป็นแค่ชื่อ อิอิอิ
......ว่าไปเรื่อย :lol: :lol:
......"มันเป็นแค่ชื่อ"......เริ่มลึกซึ้งแย้ววว

-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 21
[quote="por_jai"][quote="ต.หยวนเปียว"]ปาดหนอ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 22
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ปกติ พวกนี้เราจะสามารถรู้ได้ยังไงว่าเรามีพัฒนาการครับ
หรือว่า เรารับรู้ได้ด้วยความรู้สึกเองว่า เรามีสติที่ดีขึ้นครับ
ไม่ว่าเราจะอยากพัฒนาหรือไม่อยากพัฒนาก็ตาม
พระพุทธเจ้า เปรียบเหมือน กระพรวนเรือ ที่ชาวประมงลากเรือ ขึ้นลง กระพรวนเรือ จะสึกไปทีละนิด โดยไม่รู้ตัว มาดูอีกทีก็สึกไปมากแล้ว
พระครูเกษม เขมรังสี วัดมเหยงคณ์ เปรียบการปฎิบัติ ไปทีละนิด เหมือนกับ เอากระดาษทราย ค่อยๆ ขัดไม้กระดานหยาบๆ ขัดไปเรื่อยๆ ขัดทุกวัน
ผ่านไประยะหนึ่ง ไม้กระดานจะเรียบขึ้น ไม่ว่าเราจะสังเกตเห็นหรือไม่ก็ตาม
การปฎิบัต ต้องมีวัตถุประสงค์ ชัดเจน
คือเราฝึกสติ เพื่อเอาสติ ไปขัดเกลากิเลส เพื่อให้ทุกข์น้อยลง
เพราะฉะนั้นสติเป็นแค่เครื่องมือ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปยึดว่าเราต้องมีสติ แต่เราฝึกให้มีสติ เพื่อป้องกัน การปรุงแต่ง จากการยั่วยวนของกิเลส ที่จู่โจมเข้ามาทุกขณะจิต ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
เมื่อเราฝึกไปเรื่อยๆ เราจะรู้ด้วยตัวเองว่า เดี่ยวนี้ เราทุกข์น้อยลง เช่น จากการสูญเสีย ลาภ ยศ สรรเสริญ หรือ พรัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ที่พอใจ
หากว่า เรายังทุกข์มากขึ้น มากขึ้น กับเรื่องราวต่างๆบนโลก เราก็ต้องระลึกรู้ว่า เรายังประมาท ขาดสติ ที่จะรับรู้ว่า เรื่องราวใดๆในโลกล้วน ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้เลย
สรุปว่า เราจะประเมิณการพัฒนาของการมีสติของเราได้จาก เราจะต้องทุกข์น้อยลง ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 23
น้องก้อนหิน เอางี้ เวลาฟุ้งซ่าน ก็กำหนดในใจนะ ฟุ้งซ่านหนอ ฟุ้งซ่านหนอ
แล้วสักพัก พอหายฟุ้ง ก็ค่อยๆ หยิบงาน แต่ละชิ้น มาทำ ตามลำดับความสำคัญ
( ตอนที่เรากำหนด ฟุ้งซ่านหนอ ฟุ้งซ่านหนอ ตอนนั้น ตัวสติ กำลังเข้าไปดู ตัวฟุ้ง ในที่สุด ตัวฟุ้งจะหายไป เพราะจริงๆ แล้ว ตัวฟุ้ง ก็มีลักษณะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ครับ )
แล้วสักพัก พอหายฟุ้ง ก็ค่อยๆ หยิบงาน แต่ละชิ้น มาทำ ตามลำดับความสำคัญ
( ตอนที่เรากำหนด ฟุ้งซ่านหนอ ฟุ้งซ่านหนอ ตอนนั้น ตัวสติ กำลังเข้าไปดู ตัวฟุ้ง ในที่สุด ตัวฟุ้งจะหายไป เพราะจริงๆ แล้ว ตัวฟุ้ง ก็มีลักษณะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ครับ )
- odacroniandevil
- Verified User
- โพสต์: 101
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 25
ลองฝึกแบบหลวงพ่อจรัญไหมครับ
http://jarun.org/v6/index.html
เวบนี้มีสอนวิธีนั่งด้วยครับ
ผมลองปฏิบัติแล้วช่วยให้นิ่งได้เยอะขึ้น
โดนเฉพาะเวลากระทิงบุก จิตผมจะระส่ำระส่ายมาก หุหุ
http://jarun.org/v6/index.html
เวบนี้มีสอนวิธีนั่งด้วยครับ
ผมลองปฏิบัติแล้วช่วยให้นิ่งได้เยอะขึ้น
โดนเฉพาะเวลากระทิงบุก จิตผมจะระส่ำระส่ายมาก หุหุ
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 28
[quote="ต.หยวนเปียว"]ปาดหนอ
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 29
เอามาแปะในนี้แล้วกัน
เมื่อประชาธิปไตยที่ไม่ประสีประสา มาเจอปัญหาศาสนาประจำชาติ
http://www.watnyanaves.net/sounds/policybud.php
(อย่ามองว่าเป็นเรื่องการเมืองเลย เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยเอามาแปะ)
ลองฟังมุมมองจากพระสงฆ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพชรน้ำเอกแห่งวงการพระสงฆ์ไทยดูครับ
เมื่อประชาธิปไตยที่ไม่ประสีประสา มาเจอปัญหาศาสนาประจำชาติ
http://www.watnyanaves.net/sounds/policybud.php
(อย่ามองว่าเป็นเรื่องการเมืองเลย เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยเอามาแปะ)
ลองฟังมุมมองจากพระสงฆ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพชรน้ำเอกแห่งวงการพระสงฆ์ไทยดูครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
หัดทำสมาธิครับ
โพสต์ที่ 30
ดิฉันว่าเกี่ยวนะก้อนหิน เขียน:
ตั้งแต่เริ่มทำ มานี่ รู้สึกทำงานเสร็จแล้วเพลีย น้อยลง ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันมั้ยนะครับ แต่รู้สึกดีครับ
แล้วถ้าพี่ก้อนหินลองพยายามกะดึ๊บมาจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานดูนะ
พี่น่าจะต้องรู้สึกได้ว่า โอ การใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้มันง่ายจัง อะไรๆมันจะง่ายขึ้นมาก จะตายยังง่ายเลย
นี่เอาประสบการณ์สดๆใกล้ๆนี่เอง มาเล่าคร่าวๆให้ฟังเลยดีก่า
ชายท่านนึงที่ดิฉันรู้จักค่ะ เพิ่งเสียชีวิตไป
ก่อนจะเสีย ก็คือ พอพบว่าป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายล่ะ ทั้งบ้านก็วิ่งกันให้วุ่น หาหมอนั่น หายาวิเศษนั่นนี่ให้มั่วไปหมด
ดิฉันก็ไปเยี่ยมแกบ่อยๆในช่วงท้ายๆของชีวิต แล้วคือถ้าเรามีสติ เอาแค่สติในขั้นปกติก็พอ มองด้วยสายตาที่ไม่ต้องจบแพทย์นี่ก็รู้แล้วไม่รอดฝนนี้แน่ๆ เราก็ตรงๆไปเลย(คงเพราะเราสนิทกันด้วย พวกคอเดียวกัน)
..."พีๆ เตรียมพร้อมยัง"
..."อืม สบายๆ พี่รู้แล้ว วันไปฟังผล พอได้ยินหมอออกมาจากห้อง พูดว่า...เอ่อ เดี๋ยวหมอขอคุยเฉพาะกะญาติหน่อยคับ คือจะคุยเรื่องวิธีการรักษานาคับ เด๋วคนไข้รอข้างนอกก่อนนะคับ.....เท่านั้นล่ะ พี่รู้แล้วโว้ย ฮาดีอ่า เหมือนที่เราดูในหนังเลย คือ กรูตายแน่ 5555"
....
พอมาวันสุดท้ายที่แกนอนแบบในโรงบาน วันสุดท้ายเลยที่แกยังรู้สึกตัวอยู่ แกก็ยังมีมุขเล่นกะคนมาเยี่ยมตลอดนะ คือพูดไม่ได้แล้ว ใช้เขียนเอา หงิกๆงอๆก็เขียนมา
ช้อความที่แกเขียนก้เช่น
"ตำรวจอยู่ไหน" ....คนก็งง ไรของแกฟระ
"647 478 910 " .....คือ ให้หวยเลยค่ะ ฮากันกระจาย คงประมาณว่า พวกแกเอาไปเลย ไม่ต้องรอฝัน ไม่ต้องรอวันจุดธูปขอ เอาไปล่วงหน้าเลย 55555555555
คำถามท้ายๆที่ดิฉันกระซิบถามแก(กัวญาติเขาได้ยินเขาจะดีดเราออกนอกห้องซะไง :lol: )
..."พี่ๆ กลัวมะ"..... :lol: อยากรู้ไง
...แกส่ายหน้า แล้วใช้ภาษาใบ้คือ ยกนิ้วปาดคอตัวเอง แล้วชูนิ้วชี้ขึ้นแทนเลขหนึ่ง ..(แปลความคือ ไม่กลัว คนเราตายครั้งเดียว)
คืนที่แกไป ไปด้วยอาการสงบ ใบหน้ามีรอยยิ้มนิดๆที่มุมปาก ตาหลับสนิท ไม่ดีดดิ้นทุรนทุรายไรเลยแม้แต่น้อย
ตายยังชิวชิว
