90 วัน (เรื่องเกี่ยวกับคนที่ตายแล้วฟื้น)

[teetotal]

หลังจากอยู่สีลม เห็นสาวๆ สวยๆ แล้ว ไข้ใจ จะขึ้น
เลยหาหนังสือธรรมมะมาอ่าน ดับความร้อนของกิเลสในใจให้บรรเทาเบาบางลงไปบ้าง

ผมเลือกอ่านเรื่องเกี่ยวกับ ตายแล้วฟื้น ครับ
พอดีได้หนังสือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว มา 2 เล่ม  
เล่มหนึ่งได้จากงานมาฆะบูชาที่สนามหลวง(ได้เป็นรางวัลจากการทดสอบความรู้ทาง ศาสนาที่องค์กรแห่งหนึ่งจัด)
อีกเล่ม ที่มีเนื้อหาในทำนอง เดียวกัน เพิ่งได้จาก สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ(เป็นหนังสือเก่ามือสองเล่มละ 10 บาท)

หลายๆ เรื่องเหมือนเรื่องฝันๆ แต่ผมติดใจอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งอ่านซ้ำตั้งสองรอบเพราะ มีการอ้างถึง หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี  คือ เรื่องของ ลุงยุ้ย คนเมืองสิงห์บุรี ที่ตายแล้วฟื้นครับ

เรื่องมีอยู่ว่า  

ลุงยุ้ยแกนอนหลับ แล้วฝันว่า ยมฑูต 4 คน มาเอาตัวไป  
แกมิอาจขัดขืนได้ จึงเดินทางไปกับยมฑูต จนไปได้พบกับพญายมราช
พอแกเจอกับ พญายมราช แล้ว แกก็เอ่ยปากขอร้อง ขอกลับมาสั่งเสียลูกเมีย ก่อน
พญายมราช พิจารณาแล้ว เห็นว่าแกเป็นคนดี รักษาศีลแปดในวันพระ ใกล้ชิดภิกษุและฟังธรรมจากท่าน สม่ำเสมอ (แกนับถือ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน) จึงเมตตา อนุญาตให้แก กลับมาอีก 90 วัน

ก่อนกลับ พญายม บอกบางสิ่งบางอย่างกับแก นัยว่า จะเป็นเครื่องเตือนใจ ว่า การมาพบท่านในครั้งนี้ หามิใช่เป็นเพียงความฝันธรรมดาอันไร้แก่นสารสาระไม่

สิ่งที่ พญายมราช บอกกับแก คือ

1. ในอีก 40 วันนับจากนี้ จะมีคนๆ หนึ่ง ตาย ซึ่งแกเองก็ไม่รู้จักเขาคนนั้นมาก่อน แต่ พญายมราชก็บอก บ้าน ตำบล อำเภอ ของคนๆนั้นให้ เสร็จสรรพ คนแรกนี้เป็นคนสิงห์บุรีเหมือนกับแก

2. และในอีก 30 วัน นับจากคนแรกตาย จะมีคนอีกคนหนึ่งต้องตาย พญายมราช บอกรายละเอียดให้เรียบร้อยด้วยเช่นกัน คนที่สองนี้ แกเองก็ไม่รู้จักมาก่อนเหมือนกัน คนที่สองนี้ เป็นคนลพบุรี

แล้วพญายมก็ไล่แกกลับมา แกจึงตื่นขึ้นมา พบว่า ตัวเองนอนอยู่บนที่นอน

เมื่อแกตื่นขึ้นมา แกเล่าให้ลูกให้เมียฟัง ลูกเมียไม่เชื่อ
หาว่า แกฝันไปเพราะกินมากท้องไส้ปั่นป่วน

แกก็เริ่มพิสูจน์ความฝันของแก โดยการไปสืบหา คนๆ แรก ที่พญายมบอกว่าจะต้องตายในวันที่ 30  
แล้วแกก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบว่า มีคนชื่อนี้ บ้านนี้ ตำบลนี้ อยู่จริง  
พอครบ 30 วัน แกก็เดินทางไปดูอีกครั้ง
ปรากฏว่า เขาผู้นั้นตายจริงๆ เหมือนพญายมท่านกล่าวไว้  

คราวนี้ แกเชื่อว่า แกไม่ได้ฝันไปเองแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันแรกที่แกตื่นมาอีกครั้ง  แกก็ทำบุญ บริจาคทาน และ บำเพ็ญสมาธิภาวนาอย่างหนัก กว่าที่เคยทำมา

เพื่อยืนยันหนักแน่นขึ้นว่า สิ่งที่แกฝันว่าเป็นเรื่องจริง แกจึงสืบหา คนที่สอง ซึ่งอยู่ ลพบุรี แล้ว ก็ปรากฏว่า มีตัวตนอยู่จริงเช่นกัน และ ในวันที่ 70 หรือ 40 วัน หลังจากคนแรกตาย คนที่สองซึ่ง พญายม บอกไว้ก็ ตายจริงๆ เหมือนกัน

แม้ว่า แกจะทำดีมากในระหว่างนี้ แต่จิตใจแกก็ไม่คลายจากความกลัว
แกกลัว จนป่วย และคิดว่า คราวนี้ไม่รอดแน่  
แกป่วยจนกินข้าวไม่ได้ พ่ายผอมลงไป  
เมื่อ แกล้มป่วย แก อยากจะฟังธรรมจาก ลพ จรัญ เป็นครั้งสุดท้าย
จึงให้เมียไปนิมนต์ท่านมาที่บ้าน
แต่ในสัปดาห์สุดท้าย หลวงพ่อก็รับกิจนิมนต์ตลอด ไม่ว่างเลย
จนวันสุดท้าย หลวงพ่อก็มาโปรดแกถึงบ้าน  
แกดีใจ ถึงขั้นกินข้าวได้อีกครั้ง

แกจึงเล่าเรื่องนี้ให้หลวงพ่อ จรัญ ฟัง หวังให้ หลวงพ่อจรัญ จะไปเล่าต่อให้ญาติโยมฟัง เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ ว่า โลกหลังความตายมีจริง และ ท้ายสุดแล้ว คนเราทุกคนก็จะต้องตาย

หลวงพ่อก็แสดงธรรมมะให้แกฟัง ให้แกคลายจากกลัว
แกบรรเทาความกลัวลง หลังจากฟังธรรมมะ จากหลวงพ่อ

แล้วในคืนที่ 90  นั้นเอง อาการป่วยของแกก็ทรุดหนัก และแกก็ตายไปในคืนนั้นเอง


ผมว่า เรื่องนี้ น่าจะเอาไปทำเป็นเค้าโครงภาพยนตร์นะครับ

คำถาม อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกอย่างไรครับ

[triathlon]

ขอบคุณมากคะ
อ่านแล้วนึกถึงคำสอนพระศาสดาว่า
จงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท

[birdflu]

คล้ายหลายๆเรื่องที่เคยได้ยินมาครับ

หลายๆคนน่าจะรู้สึกเหมือนผมนะ......ว่า
อยากพิสูจน์แต่ไม่กล้า กึ๊ย กึ๊ย


ปล. ไม่เชื่อแต่ไม่ลบลู่นะค้าบ

[frog]

เรื่องชีวิตหลังความตายมีจริงแน่นอน

โดยผมได้ข้อมูลเหล่านี้มา

1.เนื่องจากผมได้ไปอ่านวิทยานิพนธ์ ของพวกฝรั่ง

เขาทำวิจัยไว้ว่า บุคคลที่หัวใจหยุดเต้นแล้วถูกทำ

ให้ฟื้นโดยการปั๊มหัวใจ

จะเห็นภาพความฝันเหมือนกัน

ทุกคน โดยจะเป็นภาพทางให้คุณเดินไปตามทาง

เรื่อย ๆ แต่บุคคลเหล่านี้ยังเดินไม่สุดทางก็กลับมา

สู่ร่างได้

2. รายการกล่องดำ ของคุณปัญญา ได้เอาวิจัยของ

ฝรั่งว่า วิญญาณหนัก 0.3 กรัม (ไม่แน่ใจดูนานแล้ว)

โดยเขานำคนป่วยที่ใกล้ตายนอนบนเตียงที่มี

เครื่องชั่ง  เมื่อเขาหัวใจหยุดเต้น เครื่องชั่งดังกล่าว

จะมีน้ำหนักหายไปทันที 0.3 กรัม

3. ปู่ ของผม หัวใจหยุดเต้นแล้วหมอปั๊มหัวใจกลับมา

แกเล่าให้ฝังว่า อยู่ ๆ ก็น่ามืด แล้วก็เห็นภาพเป็นทางเดิน

ไปข้างหน้า ด้านข้างมีป่า 2 ข้างทาง อากาศดีมาก

กำลังเดินไปเพลิน ๆ ได้ยินเสียงคนเรียกเลยหันกลับมา

ด้านหลัง ก็มาสะดุ้งตื่น อยู่บนเตียงที่โรงพยาบาล โดยมี

ลูก ๆ เฝ้าตะโกนเรียกแกอยู่ข้าง ๆ

*********************************

ใครไม่เชื่อ ก็แล้วแต่ แต่ผมเชื่อ

ดังนั้น จงทำดีเข้าไว้

[chatchai]

ชาติหน้าพระพุทธศาสนาบอกว่ามี
แต่ชาตินี้สำคัญที่สุด

จากหนังสือ  ตามแล้วเกิดใหม่ ตามนัยพระพุทธศาสนา ของ ท่านพระมหาวุฒิชัย  วชิรเมธี



ผู้ที่สนใจเรื่องเหล่านี้  ลองหาอ่านจากหนังสือ 2 เล่ม

1. นรก-สวรรค์ สำหรับคนรุ่นใหม่ ของ ท่านพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต)
2. เรื่องเหนือสามัญวิสัย  อิทธิปาฏิหาริย์ เทวดา   ของ ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)

[Dech]

ชาติหน้ามีแน่ๆครับ เมื่อยังไม่หลุดพ้น นิพพานไป
ยังไงก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดแน่ๆครับ

จะอยู่ ภพภูมิไหน เสวยทุกข์ สุข มีอายุกี่หมื่นกี่แสนปี
สุดท้ายก็มีสิ้นสุดเสมอครับ

เมื่อตายแล้วจะไปที่ไหน สำคัญอยู่ที่ขณะจิตก่อนตายครับ

ลุงคนนั้นได้ฟังธรรมก่อนตาย และจิตคล้อยตาม
ตายไปคงอยู่ในภพที่สุขกว่ามนุษย์

แต่ฟังมาว่าเป็นมนุษย์ นี้แหละครับ ดีที่สุดแล้ว
สำหรับการที่จะหลุดพ้น เพราะมีทั้งทุกข์และสุข

การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และได้พบพุทธศาสนา
นี่ยากมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะครับ

ถ้าคิดในแง่หลักการลงทุนแล้ว ตามหลักกลยุทธแล้ว
ควรจะได้ลองศึกษา ลงทุนทางนี้ไว้บ้างก็ดีนะครับ
จะเชื่อว่าภพหน้ามีจริงหรือไม่จริง ลองไว้ไม่เสียหาย

เพราะถ้าปฏิบัติดี เราก็ได้สำเร็จผลดี ในปัจจุบันอยู่แล้ว
ยังไงก็คุ้ม คืนทุนตั้งแต่ปฏิบัติเสร็จแล้ว ไม่ต้องรอชาติหน้า

ถ้าชาติหน้ามีจริง ผลที่ได้ลงทุนไปในตอนนี้ ยิ่งทวีคูณผลลัพธ์
ได้กลับคืนมานับลิ่งไม่ทันเลยครับ... :lol:  :lol:  :lol:

[chatchai]

แต่ฟังมาว่าเป็นมนุษย์ นี้แหละครับ ดีที่สุดแล้ว
สำหรับการที่จะหลุดพ้น เพราะมีทั้งทุกข์และสุข

การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และได้พบพุทธศาสนา
นี่ยากมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะครับ

เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์  และมีโอกาสที่จะศึกษาพระธรรมแล้ว

ถ้าปล่อยเวลาผ่านพ้นไป  โดยไม่ได้ศึกษา  และปฎิบัติธรรม  ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากที่สุด  มากกว่าเรื่องใดๆ

[MO101]

ถ้าตายแล้วมียมทูตมา 4 ละก็ได้ขึ้นสวรรค์นะครับ
สังเกตุได้จาหน้าผู้ตาย จะยิ้มๆ  :D
แต่ถ้าตายแล้วลงนรก จะมีเจ้ากรรมนายเวรมารอ
ตายแล้วจะตาโตๆ หรือไม่ก็กลัวๆ