เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
โพสต์ที่ 3
หวังว่า LIV คงไม่ทำให้ผมช้ำใจเหมือน STPI
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4244
- ผู้ติดตาม: 0
เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
โพสต์ที่ 5
เอาซิสโซโก้ไปไล่เตะsinghanad เขียน:เบนิเตซ จะวางแผนการเล่นโดยไม่ให้เจ้าโด้กระดิกเหมือนกับไม่ให้เจ้าเหยินของบาร์ซ่ากระดิกเมื่อวันก่อน ลิเวอร์พูลจะชนะ 2-1 ครับ :lol:
ถ้ารอดอีกก็เอามาสเคราโน่ไปเสียบ
ยังไม่หยุดก็เอาเจอร์ราดไปดับเครื่องชน
โอ๊ะ โหดไปป่าวเนี่ย
_________
-
- Verified User
- โพสต์: 442
- ผู้ติดตาม: 0
Re: gonzalez
โพสต์ที่ 7
กลัวจะโดนสองเหลืองนี่แหล่ะครับ -__-"gonzalez เขียน:ซิซโซโก้ คนเดียวน่าจะพอนะครับ ลงไปไม่แคล้วโดนใบเหลือง
ผมว่าเซ่อร์แกคงวางแผนรับมือมาเต็มที่ อาจให้เกมส์หนัก+กดดันกรรมการ ให้โด้กะกิ๊กเลี้ยงลุยๆหน่อยคอยเรียกฟาล์ว+ใบเหลือง เผลอๆอาจได้จุดโทษ :shock:
อยากได้ตัวเลี้ยงลุยๆไว้ประดับทีมบ้างจัง :oops:
ผมว่าจุดเปลี่ยนของเกมส์นี้ก็คือเบลลามี่จะควบคุมอารมณ์ได้หรือเปล่า ถ้าโดนยุขึ้นก้อตัวใครตัวมันล่ะครับ
ปล. ผมว่านัดนี้ เดิร์ก เคาท์ น่าจะยิงได้นะ 8)
- ภรรโยโฟเบีย
- Verified User
- โพสต์: 253
- ผู้ติดตาม: 0
เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
โพสต์ที่ 13
ผมล่ะกลัวใจราฟาจริงๆ
กลัวว่าเย็นนี้เปิดโผ11ตัวออกมา
จะร้องจ๊ากหงายหลังกันเป็นแถบๆ
เผลอๆ กองหน้าอาจเป็นฟาวเล่อร์คู่เคร้าซ์
มิดฟิลด์มีพี่เจิดกับเซนเด้นยืนประคองเพนแน้นท์
อะไรทำนองนี้
ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า
เก็บตัวหลักไว้อัดกับบาซ่าวันอังคาร
ขออย่าให้เป็นงั้นนะ
กลัวปีนี้ผีจะได้แชมป์ง่ายปาย....
กลัวว่าเย็นนี้เปิดโผ11ตัวออกมา
จะร้องจ๊ากหงายหลังกันเป็นแถบๆ
เผลอๆ กองหน้าอาจเป็นฟาวเล่อร์คู่เคร้าซ์
มิดฟิลด์มีพี่เจิดกับเซนเด้นยืนประคองเพนแน้นท์
อะไรทำนองนี้
ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า
เก็บตัวหลักไว้อัดกับบาซ่าวันอังคาร
ขออย่าให้เป็นงั้นนะ
กลัวปีนี้ผีจะได้แชมป์ง่ายปาย....
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
โพสต์ที่ 15
นัดนี้ ผีแดงเสร็จแน่นอนครับ :lol:
วันนี้ฤกษ์ดีครับ ผีซ่าไม่ออกแน่
ไม่ใช่เพราะว่าลิเวอร์พูลกำลังมั่นใจ
ไม่ใช่เพราะว่าลิเวอร์พูลยังไม่แพ้ใครในบ้าน
แต่เพราะว่า วันนี้เป็นวันมาฆบูชา :lol: :lol: :lol:
เย็นนี้จะไปเวียนเทียน เอาฤกษ์ เอาชัยซะหน่อย
วันนี้ฤกษ์ดีครับ ผีซ่าไม่ออกแน่
ไม่ใช่เพราะว่าลิเวอร์พูลกำลังมั่นใจ
ไม่ใช่เพราะว่าลิเวอร์พูลยังไม่แพ้ใครในบ้าน
แต่เพราะว่า วันนี้เป็นวันมาฆบูชา :lol: :lol: :lol:
เย็นนี้จะไปเวียนเทียน เอาฤกษ์ เอาชัยซะหน่อย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 442
- ผู้ติดตาม: 0
เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
โพสต์ที่ 23
:'O :'O :'O :'O :'O :'O :'O
ชั่วโมงนี้เป็นของผีครับ ต้องยกให้เค้า
เอาไว้ค่อยล้างแค้นในบอลถ้วยละกัน :twisted:
เดือดร้อนต้องไปนั่งลุ้นเรดดิ้งอีก (-__-")
ปล.
ชั่วโมงนี้เป็นของผีครับ ต้องยกให้เค้า
เอาไว้ค่อยล้างแค้นในบอลถ้วยละกัน :twisted:
เดือดร้อนต้องไปนั่งลุ้นเรดดิ้งอีก (-__-")
ปล.
มุกนี้แฟนหงส์ขำทั้งน้ำตาเลยแฮะก้อนหิน เขียน:เข้ามาเฉลิมฉลอง ชัยชนะวันแดงเดือดครับ
ปีศาจแดงคงเป็นผีคริสต์ครับ ชนะได้ในวันมาฆบูชา
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
โพสต์ที่ 24
ไปฉลองกลับมาดึกไปหน่อย..
ป๋มขอโทษ..
ป๋มขอโทษ..
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
โพสต์ที่ 26
เกมส์เมื่อคืน ไม่ได้ดูเลยครับ
พาครอบครัวเข้าวัด ไหว้พระ สวดมนต์ และเดินเวียนเทียน กลับมาแพ้ซะแล้ว
รูปเกมส์เป็นอย่างไรบ้างครับ สู้ผีได้ไหม
แต่เกมส์บาร์ซ่าที่ลงเตะเมื่อคืน สงสัยจะดุเดือดมากเลยนะ
บาร์ซ่ายิงนำก่อน ต่อมายิงจุดโทษพลาด โดนไล่ออก 2 คน สุดท้ายแพ้ 2 - 1
พาครอบครัวเข้าวัด ไหว้พระ สวดมนต์ และเดินเวียนเทียน กลับมาแพ้ซะแล้ว
รูปเกมส์เป็นอย่างไรบ้างครับ สู้ผีได้ไหม
แต่เกมส์บาร์ซ่าที่ลงเตะเมื่อคืน สงสัยจะดุเดือดมากเลยนะ
บาร์ซ่ายิงนำก่อน ต่อมายิงจุดโทษพลาด โดนไล่ออก 2 คน สุดท้ายแพ้ 2 - 1
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- ภรรโยโฟเบีย
- Verified User
- โพสต์: 253
- ผู้ติดตาม: 0
เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
โพสต์ที่ 28
:drink: :drink:
เซ็งเป็ด
เซ็งเป็ด
-
- Verified User
- โพสต์: 442
- ผู้ติดตาม: 0
เสาร์นี้แดงเดือด!!!!!
โพสต์ที่ 30
ขออนุญาตก๊อปข่าวมาเล่าให้พี่ฉัตรชัยฟังครับchatchai เขียน:เกมส์เมื่อคืน ไม่ได้ดูเลยครับ
พาครอบครัวเข้าวัด ไหว้พระ สวดมนต์ และเดินเวียนเทียน กลับมาแพ้ซะแล้ว
รูปเกมส์เป็นอย่างไรบ้างครับ สู้ผีได้ไหม
แต่เกมส์บาร์ซ่าที่ลงเตะเมื่อคืน สงสัยจะดุเดือดมากเลยนะ
บาร์ซ่ายิงนำก่อน ต่อมายิงจุดโทษพลาด โดนไล่ออก 2 คน สุดท้ายแพ้ 2 - 1
หงส์น้ำตาตก!โดนโอเชียยิงทดเจ็บแพ้ช็อก
"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลแทบไม่อยากเชื่อเมื่อกำลังได้เปรียบจากตัวผู้เล่นหลังพอล สโคลส์โดนไล่ออกช่วงท้ายเกมและจากโอกาสที่จบสกอร์กันไม่ได้เองส่งผลทำให้"ปิศาจแดง"แมนฯยูไนเต็ดมาซัดประตูชัยช่วงทดเจ็บจากจอห์น โอเชียในช่วงทดเจ็บขโมยสามแต้มออกจากแอนฟิลด์อย่างไม่น่าเชื่อและเป็นความพ่ายแพ้นัดแรกในบ้านของลูกทีมราฟาอีกด้วย
ลิเวอร์พูล 0-1 แมนฯยูฯ
ประตู : 0-1 จอห์น โอเชีย น.91
ผู้ชม : 44,403 คน
ราฟาเอล เบนิเตซจัดทัพลงครบครันแต่เปลี่ยนแปลงตำแหน่งตรงให้สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดเล่นปีกขวาและจับเอาซิสโซโก้คู่กับอลอนโซ่ด้าน"ปิศาจแดง"ส่งลาร์สสันลงเล่นนัดสุดท้ายก่อนกลับบ้านเกิดโดยไรอัน กิกส์ลงเล่นนัดที่ 700 และโรนัลโด้ปักหลักปีกขวาตามเดิม
ต้นเกมทั้งคู่ทำสงครามแย่งบอลกันตรงแดนกลางและยังไม่มีจังหวะสวยให้เห็นเท่าไหร่โดยที่เจ้าถิ่นเสียบอลแดนกลางค่อนข้างบ่อยเลยต้องมาวิ่งไล่กันเหนื่อย
เกมอึดอัดเอามากๆเพราะทั้งคู่ยังเล่นเหมือนที่เคยๆเจอกันมาคือกลัวแพ้และถ้าไม่ชัวร์จะสาดทิ้งไว้ก่อนทำให้ตอนนี้คู่หน้าของทั้งสองทีมยังไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมซักเท่าไหร่
นาที 11 ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกกลางสนามเป็นแอกเกอร์ที่ได้บอลจากอลอนโซ่ก่อนลากมาสับไก 35 หลาบอลพุ่งเฉี่ยวคานออกหลังไปและเป็นโอกาสครั้งแรกของเกมนี้
นาทีเดียวถัดมาผีแดงได้เสียวบ้างเมื่อต่อบอลกันมาสวยเป็นเอวร่าที่หลุดสไลด์ตวัดจากเส้นหลังและเป็นโรนัลโด้ที่หมุนตัวยิงบอลไม่แรงหลุดเสาออกไปชนิดมีเสียวเล็กน้อย
นาที 14 ฟินแนนครอสบอลจากปีกขวาเป็นเบลลามี่ได้ชิงโขกในกรอบแต่ไม่แรงมากเลยเข้ามือฟานเดอร์ซาร์ที่ล้มตัวตระครุบไว้ได้ทัน
แดนกลางของยูไนเต็ดต่อบอลได้เนียนกว่าส่วนลิเวอร์พูลติดๆขัดๆแถมลูกบอมบ์ให้กองหน้าก็ไร้ประสิทธิผลเพราะกองหน้าอย่างเบลลามี่ไม่ทันกินริโอกับวิดิช
นาที 21 ผีแดงควักบอลที่ไม่มีอะไรจากริมเส้นที่มีนักเตะรุมกันหลายคนได้สวยเริ่มจากกิกส์ปาดเข้ากลางให้เอวร่าหลุดไปถึงระยะอันตรายหน้ากรอบโทษก่อนกดด้วยอีซ้ายแต่ติดบล็อกคาร์ราเกอร์อย่างน่าหวาดเสียว
อีกแค่นาทีเดียวแนวรับเจ้าถิ่นเกือบพังอีกเมื่อเนวิลล์แทงทะลุให้ลาร์สสันหน้ากรอบก่อนไขว้ให้โรนัลโด้ที่สอดมาจากด้านหลังได้กดเต็มข้อบอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
เกมเริ่มแลกกันมันส์ขึ้นเรื่อยๆและลิเวอร์พูลได้ลุ้นบ้างจากลูกดีดของซิสโซโก้ให้เบลลามี่หลุดไปยิงในกรอบแต่ติดบล็อกวิดิชนิดเดียว
นาที 26 หงส์แดงได้ฟรีคิก 20 หลาจากจัวงหวะที่คอยท์โดนวิดิชเตะและเป็นริเซ่ที่วิ่งซัดเต็มแรงสไตล์ตีนผีบอลพุ่งตรงเป็นท่อแป๊บพีวีซีกำลังจะเข้าแต่สุดท้ายเฉี่ยวเสาแค่ไม่กี่มิลอย่างไม่น่าเชื่อ
เข้าสู่ช่วงนาที 30 เกมมันส์ยกร่องเมื่อเจอร์ราร์ดยื้อแย่งบอลกับวิดิชจนทะลุเข้าถึงเส้นหลังในกรอบและปาดต่อให้คอยท์ระยะเผาขนแต่ดันแรงเลยหอกผมยุ่งท่ามกลางความเสียดายของแฟนบอลเจ้าถิ่น
อีก 6 นาทีหลังผีแดงต่อบอลกันขึ้นมาสวยเริ่มจากโรนัลโด้ไปช่วยเกมรับจนลากขึ้นมาก่อนทำชิ่งกับเพื่อนและวิ่งควบไปเอาที่ริมเส้ยอย่างน่าทึ่งแถมตวัดจากกลางสนามย้อยไกลให้ลาร์สันวิ่งไปเก็บตกก่อนครอสเข้าเขตโทษแต่เป็นเรน่าที่ออกมาตัดไว้ได้ก่อน
ในจังหวะถัดมาเจ้าถิ่นตั้งเกมมาใหม่และเป็นซิสโซโก้ที่ฝากบอลให้มาร์ค กอนซาเลซที่เห็นโล่งๆเลยขอลองส่องไกล 25 หลาและแม้ว่าจะแรงได้ใจแต่ฟาน เดอร์ซาร์เห็นทิศทางนิ่มๆเลยล้มตัวตระครุบไว้ได้ทัน
ก่อนหมดเวลา 5 นาทีคอยท์ทำฟาว์ลโรนัลโด้จนหอกทีมชาติฮอลแลนด์ตะโกนด่าว่าพุ่งแต่อลอนโซ่หวดบอลทิ้งเลยโดนใบเหลืองและฟรีคิกลูกนี้โยนมาวัดดวงบอลแฉลบเข้ามือเรน่า
ช่วงนี้แฟนบอลทั้งสองทีมนั่งไม่ติดโดยเฉพาะเดอะค็อปหลังโรนัลโด้แตะลอดขาริเซ่ทะลุหลุดขึ้นมาเต็มสตีมแอกเกอร์ก็เอาไม่อยู่ยังดีที่คาร์ราเกอร์สไลด์ทั้งตัวหยุดยั้งโด้คะนองนาเอาไว้ได้อย่างฉิวเฉียดและหมดครึ่งแรกที่สกอร์ 0- แต่เขย่าหัวใจทั้งสองทีมสุดๆ
ครึ่งหลังยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวและเริ่มมานาทีเศษลิเวอร์พูลต่อบอลกันขึนมาถึงกรอบโทษและเป็นคอยท์ที่เก็บตกบอลจากซิสโซโก้ถึงเส้นหลังแต่ลูกครอสถูกเคลียร์และเป็นเจอร์ราร์ดที่อัดเต็มข้อบอลข้ามคานออกไปแบบไม่มีลุ้น
แต่อีกแค่นาทีเดียวเจ้าถิ่นมาอีกชุดจากลูกที่คอยท์พาบอลมาถึงหน้ากรอบโทษและไหลให้เบลลามี่แตะหนีตัวประกบแต่แรงไปทำให้จังหวะยิงแค่ 10 หลาเบาไปจนฟาน เดอร์ซาร์พุ่งปัดปลายมือได้ทัน
นาที 50 ลิเวอร์พูลได้เตะมุมเป็นลูกสูตรที่เจอร์ราร์ดโยนออกโด่งออกมานอกเขตให้ริเซ่ทั้งท่าหล่อมาแต่ไกลแต่ยิงแป๊กบนหล่นลงพื้นแต่กลายเป็นดีเมื่อเข้าทางเบลลามี่ที่ยืนกางมุ้งแปเข้าไปง่ายๆแต่ไลน์แมนยกล้ำหน้าก่อน
อีกสองนาทีเจ้าถิ่นบุกเป็นระลอกเจอร์ราร์ดได้หลุดเข้ามาล่อเป้าเผาขนแต่ติดบล็อกก่อนที่จะทะลักมาถึงอลอนโซ่ที่ยืนเก็บอยู่หน้ากรอบโทษแต่โชว์เหนือเมื่อมุนจ่ายให้ริเซ่วิ่งมายิ่งด้วยอีซ้ายข้างถนัดบอลเหินข้ามคานมีเสียว
เกมมาผ่อนและมาสู้กันแดงกลางอีกยกและข้างสนามราฟากำลังติวออเรลิโอและถูกส่งมาแทนกอนซาเลซที่วันนี้เล่นไร้ประโยชน์เอามากๆจากนั้นนาทีต่อมาเซอร์ส่งซิลแวตร์มาแทนเอวร่าที่วันนี้โดนเจาะค่อนข้างบ่อย
ช่วงนี้เป็นการแลกกันของกุนซือนอกสนามหลังเปลี่ยนตัวกันอุตลุตหลังรูปเกมชักตื้อๆแต่ที่แน่ๆคือเดอะค็อปร้องระงมหลังราฟาเปลี่ยนเอาเบลลามี่ออกแล้วส่งเพนแนนท์มาแทน
นาที 73 คาร์ราเกอร์โดนใบเหลืองหลังไปเปิดปุ่มยันใส่น่องเวย์น รูนี่ย์จนเลือดสาดและต้องเดินเขยกออกจากสนามก่อนที่โอเชียจะลงมาแทนอย่างน่าเสียดาย
เกมตอนนี้เดือดเพราะแดนกลางต้องการเอาชนะให้ได้จนเสียบกันตัวลอยแต่กรรมการให้เล่นต่อท่ามกลางความมันของแฟนบอลที่นั่งดูอยู่ทางจอทีวี
นาที 74 ลิเวอร์พูลรอดพ้นต่อการเสียจุดโทษเมื่อหลุยส์ ซาฮาหนึ่งในจตุรเทพกระชากน่ากลัวเข้าถึงเขตโทษนิดนึงแต่แอกเกอร์ซึ่งตัวถลำเตะข้อเท้าจนตัวคว่ำแต่กรรมการมือใหม่โบกมือให้เล่นต่อเฉยและภาพช้าก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าน่าจะเป็นจุดโทษ
ก่อนหมดเวลาสิบนาทีเดอะค็อปหัวใจหล่นไปถึงตาตุ่มเมื่อไรอัน กิกส์เตะมุมบอลโรนัลโด้โผนโหม่งท่ามกลางฝูงนักเตะที่กระโดดแย่งกันบอลเเด้งเบียดเสาแต่เรน่าตระครุบเอาไว้สองจังหวะสุดเสียว
นาที 86 จังหวะลิเวอร์พูลกำลังควักบอลจากหน้าประตูตัวเองเป็นอลอนโซ่ที่ยื้อยุดฉุดกระชากก่อนสโคลส์ก่อนที่หมามุ่ยอารมณ์ค้างฮึดอัดกว้านขาเตะใส่คุณชายจนผู้ตัดสินไม่รอช้าชูใบแดงให้ทันที
หงส์แดงเหมือนได้ใจบุกหนักและคอยท์ตักย้อยจากเส้นหลังให้เคราช์ซึ่งยืนอยู่เสาสองพักอกก่อนวอลเลย์เผาขนแค่ 6 หลาแต่ติดเซฟน้าเอ็ดดี้อย่างเหลือเชื่อ
เรื่องช็อกเกิดขึ้นจนได้เมื่อลูกฟรีคิกตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายเป็นโรนัลโด้ที่ปาดพุ่งแรงสุดคมและเป็นซาฮาที่พุ่งเข้าชาร์จเผาขนซึ่งเรน่าล้มตัวบล็อกไว้ทันแต่โชคร้ายที่บอลดันมาเข้าทางโอเชียแปเน้นๆไม่มีเหลือ ทีมเยือนนำช่วงเวลาสุดคัญจนได้ ช็อตนี้เล่นเอาเซอร์กระโดดโลดเต้นดีใจเหมือนกลับไปสมัยอายุ 14 ส่วนแกรี่ เนวิลล์วิ่งไปดีใจกับน้าเอ็ดดี้ที่หน้าแฟนบอลตัวเอง
ช่วงเวลาที่เหลือแข้งเจ้าถิ่นอยู่ในอารมณ์ช็อกตั้งเกมไม่ได้และแม้จะทดเจ็บสี่นาทีแต่ก็สายเกินไปสุดท้ายหมดเวลาพ่ายแมนฯยูไนเต็ดคาบ้านเสียสถิติและทำให้อันดับที่สี่ต้องสั่นคลองอย่างช่วยไม่ได้
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า 6,สตีฟ ฟินแนน 7,เจมี่ คาร์ราเกอร์ 8,ดาเนียล แอกเกอร์ 7,ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ 7,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 7,ชาบี้ อลอนโซ่ 7,โมโม่ ซิสโซโก้ 7(ปีเตอร์ เคราช์ น.79),มาร์ค กอนซาเลซ 5(ฟาบิโอ ออเรลิโอ น.61,5),เดิร์ก คอยท์ 7,เคร็ก เบลลามี่ 6(เจอร์เมน เพแนนท์ น.69,6)
สำรองไม่ได้ใช้ : เยอร์ซี่ ดูเด็ค,ซามี่ ฮูเปีย
แมนฯยูฯ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ 7,แกรี่ เนวิลล์ 6,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7,เนมันย่า วิดิช 5,พาทริซ เอวร่า 6(มิกาเอล ซิลแวสตร์ น.64,6),คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 7,ไมเคิ่ล คาร์ริค 6,พอล สโคลส์ 7,ไรอัน กิกส์ 7,เวย์น รูนี่ย์ 6(จอห์น โอเชีย น.74,7),เฮนริค ลาร์สสัน 6(หลุยส์ ซาฮา น.67,7)
สำรองไม่ได้ใช้ : โธมัส คูสแซ็ค,เวส บราว์น
ผู้ตัดสิน : มาร์ค แอตกินสัน
จาก http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=36533