ถ้าหากใครจำเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ในปี 2527 ได้ มีเหตุการณ์อันหนึ่งที่เกิดขึ้นในปีนั้น
คือคดีความแม่ชม้อย เป็นคดีที่ใหญ่โตมากในช่วงเวลานั้น เพราะว่า กฏหมายในประเทศไทย
ไม่สามารถดำเนินการอะไรกับแม่ชม้อยในคดีแชร์ลูกโซ่ได้เลย เรียกได้ว่า เครื่องมือที่มีอยู่ในสมัยนั้น
ไม่สามารถจัดการแชร์ลูกโซ่ได้
โดยแชร์แม่ชม้อย ขนาดของความเสียหายคือระดับพันล้านบาท ในปี 2527 ไม่ใช่ว่าเกิดในเวลาอันสั้นแต่ทว่า
เกิดมาในระยะเวลาหนึ่ง พร้อมทั้ง เศรษฐกิจของประเทศไทย ในช่วงเวลานั้นมีปัญหา คือเราต้องลดค่าเงินบาท
อีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลานั้น ก่อนที่เศรษฐกิจกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเวลาต่อมาจนเราเป็น เสือตัวห้าแห่งเอเชียได้
คดีแชร์แม่ชม้อยนั้น ศาลตัดสินมีความผิด และติดคุกเป็นแสนปี แต่ทว่า ตามกฏหมายสามารถลงโทษได่แต่ 20 ปีเป็นโทษที่สูงที่สุด ตามกฏหมายที่มีอยู่ในเวลานั้น แต่ทว่าการติดคุกจริงๆประมาณ7-8 ปี เท่านั้น เนื่องจากได้รับอภัยโทษจากการพฤติดี ในระว่างการได้รับโทศในเรือนจำ
ในปัจจุบันก็ยังคงมีเรื่องราวของแชร์ลูกโซ่เล่าขานกันอยู่ในสังคมตลอดระเวลาที่ผ่านมาหลังจากแชร์แม่ชม้อยแล้ว
ก็ยังคงมีเรื่อยๆ แต่ทว่า รูปแบบนั้นอยู่ในรูปแบบใหม่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ผู้ที่ลงทุนในแชร์ มีความโลภเหมือนกันทั้งหมดคือต้องการผลตอบแทนที่สูงผิดปกติ แต่ทำไม บุคคลเหล่านั้นถึงกล้าที่ลงทุนแหละนั้น
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เราเองก็โดนชวนไปลงทุน ผลตอบแทนเรียกได้ว่า 2 หลักต้นๆ ในสมันช่วงปี 2548-49 เลยทีเดียว
เรียกได้ว่า ผลตอบแทนเวอร์เกินไป เป็นผลตอบแทนจากการเข้าพักอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในเขตภาคตะวันออก
ซึ่งดูแล้วไม่ make sense ในความคิด เพราะ ผลตอบแทนมันสูงเวอร์และเงื่อนไข มันแปลกๆ ว่าเราต้องเข้าพัก แต่ถ้าไม่พักแล้วขายสิทธิ ให้คนอื่นได้ผลตอบแทนด้วย เรียกได้ว่า คนที่ลงทุนนั้นเห็นเรื่องเงินเป็นหลัก
แล้วเรื่องพวกนี้มันขึ้นอยู่กับปัจจัยคือ ความเชื่อถือ ในตัวของผู้ชักชวน เป็นสำคัญเลย
Profile ดูดีอย่างยิ่งมีหลักฐานต่างๆยกมา ให้เราเห็นได้ว่า มีโอกาสที่ได้ผลตอบแทนนั้นเอง
เรื่องนี้ต้องบอกว่า เงินของเรา เราต้องเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ความโลภทั้งให้เรานั้นตัดสินใจผิด
คุ้นๆในวงการการเงินไหมละ มันก็คล้ายๆ แต่ทว่า วงการเงินนั้น มันมีข้อพิสูจน์ได้ อยู่ เวลาผ่านไป
ถ้าหากหลอกลวง เดี๋ยวระเบิดเวลาที่ตั้งเวลาไว้ก็แตกออกมาเอง โดยตัวของมันเอง
แต่ทว่า แชร์ลูกโซ่มันไม่ใช่แบบนั้นซิ มันคือความเชื่อ และสิ่งที่ทำว่า เราได้ผลตอบแทนดังที่บอกไว้
ยิ่งวงใหญ่เท่าไร มันก็ยิ่งล้มดัง ยิ่งคนรู้จักมาก ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นบุคคลมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเวลาแชร์ล้มก็ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ ในภาครวมของประเทศ
อันนั้น ควรศึกษาอดีต เพื่อที่ให้เรา รู้ว่า ความโลภมันเป็นเช่นไรในอดีต และเราก็เตรียมตัวรับมือในรูปแบบใหม่ๆ
ที่มีขึ้นในอนาคตต่อไปนั้นเอง
