แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 391
กฎกระทรวงการพิจารณาและประกาศกำหนดราคาขายปลีกแนะนำ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /095/7.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสถานแสดงรถยนต์เพื่อขาย พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/11.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/14.PDF
กฎกระทรวงกำหนดการใช้แสตมป์สรรพสามิตและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีเพื่อให้ปรากฏว่าได้เสียภาษีแล้ว พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/17.PDF
กฎกระทรวงกำหนดชนิดและลักษณะของแสตมป์สรรพสามิตและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/20.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตผลิตเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/28.PDF
กฎกระทรวงการยกเว้นหรือคืนภาษีสำหรับสินค้าที่ส่งออกนอกราชอาณาจักรหรือนำเข้าไปในเขตปลอดอากรและสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้ามีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/32.PDF
กฎกระทรวงกำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสิทธิขอลดหย่อนภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/40.PDF
กฎกระทรวงการยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบในการผลิตสินค้า พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/42.PDF
กฎกระทรวงการคืนหรือยกเว้นภาษีสำหรับผู้ประกอบกิจการสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/46.PDF
กฎกระทรวงกำหนดสินค้าที่มีสิทธิขอคืนภาษีและการพิสูจน์ลักษณะความเสียหายหรือเสื่อมคุณภาพของสินค้าจนใช้การไม่ได้ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/49.PDF
กฎกระทรวงการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษี พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/52.PDF
กฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/54.PDF
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การงดหรือลดเบี้ยปรับ และการลดเงินเพิ่ม พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/56.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/59.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตนำสุราเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/65.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตขายสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/70.PDF
กฎกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสุราเพื่อการค้า พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/74.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตผลิตยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/76.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตนำใบยา ยาอัด หรือยาสูบเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/80.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตขายยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/87.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตผลิตไพ่ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/92.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตนำไพ่เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/95.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตขายไพ่ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/99.PDF
กฎกระทรวงกำหนดประเภทสินค้าตามพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 95/103.PDF
กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 95/105.PDF
กฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 95/111.PDF
กฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 95/113.PDF
กฎกระทรวงกำหนดแบบเอกสารตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และวิธีการขอหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีก และการขอกลับเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามเดิม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /095/1.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /095/7.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสถานแสดงรถยนต์เพื่อขาย พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/11.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/14.PDF
กฎกระทรวงกำหนดการใช้แสตมป์สรรพสามิตและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีเพื่อให้ปรากฏว่าได้เสียภาษีแล้ว พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/17.PDF
กฎกระทรวงกำหนดชนิดและลักษณะของแสตมป์สรรพสามิตและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/20.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตผลิตเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/28.PDF
กฎกระทรวงการยกเว้นหรือคืนภาษีสำหรับสินค้าที่ส่งออกนอกราชอาณาจักรหรือนำเข้าไปในเขตปลอดอากรและสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้ามีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/32.PDF
กฎกระทรวงกำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสิทธิขอลดหย่อนภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/40.PDF
กฎกระทรวงการยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบในการผลิตสินค้า พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/42.PDF
กฎกระทรวงการคืนหรือยกเว้นภาษีสำหรับผู้ประกอบกิจการสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/46.PDF
กฎกระทรวงกำหนดสินค้าที่มีสิทธิขอคืนภาษีและการพิสูจน์ลักษณะความเสียหายหรือเสื่อมคุณภาพของสินค้าจนใช้การไม่ได้ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/49.PDF
กฎกระทรวงการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษี พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/52.PDF
กฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/54.PDF
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การงดหรือลดเบี้ยปรับ และการลดเงินเพิ่ม พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/56.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/59.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตนำสุราเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/65.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตขายสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/70.PDF
กฎกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสุราเพื่อการค้า พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/74.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตผลิตยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/76.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตนำใบยา ยาอัด หรือยาสูบเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/80.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตขายยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/87.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตผลิตไพ่ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/92.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตนำไพ่เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/95.PDF
กฎกระทรวงการอนุญาตขายไพ่ พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 095/99.PDF
กฎกระทรวงกำหนดประเภทสินค้าตามพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 95/103.PDF
กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 95/105.PDF
กฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 95/111.PDF
กฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 95/113.PDF
กฎกระทรวงกำหนดแบบเอกสารตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และวิธีการขอหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีก และการขอกลับเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามเดิม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /095/1.PDF
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 392
การขึ้นราคาสินค้าหรือไม่ขึ้นราคาสินค้า กับกรณีภาษีสรรพสามิต
ตอนนี้ประกาศการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต และให้ประกาศราคาแนะนำไว้นั้น
มันมีผลต่อการค้าขายและการผลิต ต้องวัดใจว่า สินค้าจะขึ้นราคา หรือตรึงราคา หรือลดปริมาณลดลงแต่ขายเท่าเดิม
เพราะสินค้าที่ขึ้นภาษีสรรพสามิตไม่ใช่สินค้าควบคุม ของกรมการค้าภายใน แถมเป็นสินค้าที่สายตาของประชาชนคือเป็นการขึ้นภาษีบาป
ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ทว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว เหมือนต้องบริโภคต่อไปเรื่อยๆ (จนกว่าเข้าขั้นตอนการบำบัด หรือ เลิกได้หรือตายไปนั้นเอง)
ตัวที่วัดว่ามีผลอย่างไร คือ ร้านที่ขายพวกโชว์ห่วยหรือร้านสะดวกซื้อ หรือ ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ที่ขายนั้นเอง
ยอดขายตกหรือไม่ตกก็ดูกันต่อไปแต่สิ่งหนึ่งคือ หากต้องซื้อเท่าเดิม ก็ต้องมีภาวะจ่ายเงินเพิ่มขึ้น นั้นคือการเกิดภาวะเงินเฟ้อได้ จากสินค้าที่ขึ้นราคา
แต่หากตรึงราคาสินค้าในราคาเท่าเดิม ส่วนของภาษีก็เป็นภาระของเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นเอง
แล้วงานนี้ก็ต้องวัดใจว่า ผู้ควบคุมกฏออกมาขู่ไว้ว่าห้ามกักตุนสินค้า สามารถเขียนเสือให้วัวกลัวหรือเปล่า
อาจจะเจอะเจอกลว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้า ทำให้ต้องมีสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมขายหรือเปล่า
ก็ต้องดูกันต่อไป และติดตามกันต่อไปว่า ยอดขาย และกำลังการผลิต นั้น ตกลงหรือเปล่า
ตอนนี้ประกาศการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต และให้ประกาศราคาแนะนำไว้นั้น
มันมีผลต่อการค้าขายและการผลิต ต้องวัดใจว่า สินค้าจะขึ้นราคา หรือตรึงราคา หรือลดปริมาณลดลงแต่ขายเท่าเดิม
เพราะสินค้าที่ขึ้นภาษีสรรพสามิตไม่ใช่สินค้าควบคุม ของกรมการค้าภายใน แถมเป็นสินค้าที่สายตาของประชาชนคือเป็นการขึ้นภาษีบาป
ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ทว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว เหมือนต้องบริโภคต่อไปเรื่อยๆ (จนกว่าเข้าขั้นตอนการบำบัด หรือ เลิกได้หรือตายไปนั้นเอง)
ตัวที่วัดว่ามีผลอย่างไร คือ ร้านที่ขายพวกโชว์ห่วยหรือร้านสะดวกซื้อ หรือ ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ที่ขายนั้นเอง
ยอดขายตกหรือไม่ตกก็ดูกันต่อไปแต่สิ่งหนึ่งคือ หากต้องซื้อเท่าเดิม ก็ต้องมีภาวะจ่ายเงินเพิ่มขึ้น นั้นคือการเกิดภาวะเงินเฟ้อได้ จากสินค้าที่ขึ้นราคา
แต่หากตรึงราคาสินค้าในราคาเท่าเดิม ส่วนของภาษีก็เป็นภาระของเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นเอง
แล้วงานนี้ก็ต้องวัดใจว่า ผู้ควบคุมกฏออกมาขู่ไว้ว่าห้ามกักตุนสินค้า สามารถเขียนเสือให้วัวกลัวหรือเปล่า
อาจจะเจอะเจอกลว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้า ทำให้ต้องมีสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมขายหรือเปล่า
ก็ต้องดูกันต่อไป และติดตามกันต่อไปว่า ยอดขาย และกำลังการผลิต นั้น ตกลงหรือเปล่า
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 393
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ยกเว้นภาษีสรรพสามิต
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/2.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การตีความประเภทสินค้า และบริการ ตามบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/4.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเลื่อนหรือขยายกำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/6.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเรียกเก็บและการคืนภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าที่นำเข้า
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/7.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมอาจขอชำระภาษีภายในวันที่สิบห้าของเดือนถัดจากเดือนที่นำสินค้าออกจากโรงอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าทัณฑ์บนโดยมีหลักประกัน
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/8.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทสินค้าที่เสียภาษีโดยใช้แสตมป์สรรพสามิตหรือเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/9.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาประกาศกำหนดเป็นองค์การสาธารณกุศลตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/10.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กาหนดองค์การสาธารณกุศล ตามมาตรา ๑๐๗ (๑) (๒) และมาตรา ๑๐๘ (๑) (๒) แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/12.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหน่วยตามปริมาณสำหรับน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/13.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/2.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การตีความประเภทสินค้า และบริการ ตามบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/4.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเลื่อนหรือขยายกำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/6.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเรียกเก็บและการคืนภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าที่นำเข้า
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/7.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมอาจขอชำระภาษีภายในวันที่สิบห้าของเดือนถัดจากเดือนที่นำสินค้าออกจากโรงอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าทัณฑ์บนโดยมีหลักประกัน
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/8.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทสินค้าที่เสียภาษีโดยใช้แสตมป์สรรพสามิตหรือเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/9.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาประกาศกำหนดเป็นองค์การสาธารณกุศลตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/10.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กาหนดองค์การสาธารณกุศล ตามมาตรา ๑๐๗ (๑) (๒) และมาตรา ๑๐๘ (๑) (๒) แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/12.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหน่วยตามปริมาณสำหรับน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/13.PDF
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 394
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ยกเว้นภาษีสรรพสามิต
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/2.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การตีความประเภทสินค้า และบริการ ตามบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/4.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเลื่อนหรือขยายกำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/6.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเรียกเก็บและการคืนภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าที่นำเข้า
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/7.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมอาจขอชำระภาษีภายในวันที่สิบห้าของเดือนถัดจากเดือนที่นำสินค้าออกจากโรงอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าทัณฑ์บนโดยมีหลักประกัน
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/8.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทสินค้าที่เสียภาษีโดยใช้แสตมป์สรรพสามิตหรือเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/9.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาประกาศกำหนดเป็นองค์การสาธารณกุศลตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/10.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กาหนดองค์การสาธารณกุศล ตามมาตรา ๑๐๗ (๑) (๒) และมาตรา ๑๐๘ (๑) (๒) แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/12.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหน่วยตามปริมาณสำหรับน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/13.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/2.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การตีความประเภทสินค้า และบริการ ตามบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/4.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเลื่อนหรือขยายกำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/6.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเรียกเก็บและการคืนภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าที่นำเข้า
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/7.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมอาจขอชำระภาษีภายในวันที่สิบห้าของเดือนถัดจากเดือนที่นำสินค้าออกจากโรงอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าทัณฑ์บนโดยมีหลักประกัน
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/8.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทสินค้าที่เสียภาษีโดยใช้แสตมป์สรรพสามิตหรือเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... /227/9.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาประกาศกำหนดเป็นองค์การสาธารณกุศลตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/10.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กาหนดองค์การสาธารณกุศล ตามมาตรา ๑๐๗ (๑) (๒) และมาตรา ๑๐๘ (๑) (๒) แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/12.PDF
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดหน่วยตามปริมาณสำหรับน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 227/13.PDF
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 395
ตารางมรณะปี 2560
ตารางมรณะปี 2560 อันนี้ได้ยินมาตั้งแต่ปี 2557 แล้วว่าต้องมีการปรับปรุงตารางมรณะซักที ให้เป็นไปตามยุคสมัย ทีประชาชนนั้นเสียชีวิตช้าลง ทำให้อายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น โดยมีการแพทย์ที่เจริญก้าวหนึ่งขึ้นนั้นเอง
ผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนคือ
1. เบี้ยประกันชีวิตที่ลดลง สำหรับในส่วนในการคุ้มครองชีวิตนั้นเอง แต่ทว่า เมื่ออายุนานขึ้นผลตอบแทนก็ต้องลดลงหรือตามภาวะตลาดตราสารหนี้และตราสารทุน ประกอบกันไปด้วย
2. บริษัทต่างๆ ได้ส่วนลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการตั้งสำรองพนักงาน ซึ่งการลดค่าใช้จ่ายนี้ เข้าทั้งงบกำไรขาดทุน(ส่วนแรก) และงบกำไรขาดทุนส่วนที่สอง เพราะว่าตัวนี้คิดมาจากตารางมรณะเป็นปัจจัยหนึ่งในนั้น นั้นเอง
3. ในตัวตารางมรณะตัวหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ อายุแรกเกิด คือ ต่ำกว่า 1 ปีนั้นมีการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น จากการประกาศครั้งก่อนๆ จุดนี้แหละที่เป็นที่น่าสังเกตว่า เกิดอะไรขึ้นกับ อายุต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งเมื่อสองปีที่แล้ว รุ่นพี่ที่เรียนปริญญาโทด้วยกันก็เคยบอกไว้เหมือนกัน บริษัทประกันชีวิตไม่ทำประกันเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 1 ปี แต่เมื่อเห็นตารางมรณะแล้ว ถึงได้เห็นความแปลกใจเลยว่า จากคน 1,000 คน นั้นเสียชีวิตในช่วงนั้นเกือบ 2 คนทีเดียว มันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ประชาชนของไทยเข้าสู่ภาวะเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่หรือเปล่า
4. ตัวตารางมรณะนี้ ทำให้รู้ว่า โดยทั่วไปนั้น ถ้าอยู่ถึง 100 ปีขึ้นไป ถือว่ากำไรอย่างมากมาย เพราะในตารางมรณะกำหนดไว้ว่า อายุสูงสุดคือ 100 ปีเท่านั้นเอง (ดูดีๆๆ ว่า 100 ปี มีค่าเท่ากับ 1000 พอดี)
โปรดอ่าน
อันนี้เขียนตามความคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่ได้เชียร์หุ้น หรือ ไม่ได้บอกว่า อุตสาหกรรมไหนดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้อ่าน ผู้เขียนไม่ได้เขียนนำอะไรทั้งสิ้น
ตารางมรณะปี 2560 อันนี้ได้ยินมาตั้งแต่ปี 2557 แล้วว่าต้องมีการปรับปรุงตารางมรณะซักที ให้เป็นไปตามยุคสมัย ทีประชาชนนั้นเสียชีวิตช้าลง ทำให้อายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น โดยมีการแพทย์ที่เจริญก้าวหนึ่งขึ้นนั้นเอง
ผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนคือ
1. เบี้ยประกันชีวิตที่ลดลง สำหรับในส่วนในการคุ้มครองชีวิตนั้นเอง แต่ทว่า เมื่ออายุนานขึ้นผลตอบแทนก็ต้องลดลงหรือตามภาวะตลาดตราสารหนี้และตราสารทุน ประกอบกันไปด้วย
2. บริษัทต่างๆ ได้ส่วนลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการตั้งสำรองพนักงาน ซึ่งการลดค่าใช้จ่ายนี้ เข้าทั้งงบกำไรขาดทุน(ส่วนแรก) และงบกำไรขาดทุนส่วนที่สอง เพราะว่าตัวนี้คิดมาจากตารางมรณะเป็นปัจจัยหนึ่งในนั้น นั้นเอง
3. ในตัวตารางมรณะตัวหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ อายุแรกเกิด คือ ต่ำกว่า 1 ปีนั้นมีการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น จากการประกาศครั้งก่อนๆ จุดนี้แหละที่เป็นที่น่าสังเกตว่า เกิดอะไรขึ้นกับ อายุต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งเมื่อสองปีที่แล้ว รุ่นพี่ที่เรียนปริญญาโทด้วยกันก็เคยบอกไว้เหมือนกัน บริษัทประกันชีวิตไม่ทำประกันเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 1 ปี แต่เมื่อเห็นตารางมรณะแล้ว ถึงได้เห็นความแปลกใจเลยว่า จากคน 1,000 คน นั้นเสียชีวิตในช่วงนั้นเกือบ 2 คนทีเดียว มันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ประชาชนของไทยเข้าสู่ภาวะเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่หรือเปล่า
4. ตัวตารางมรณะนี้ ทำให้รู้ว่า โดยทั่วไปนั้น ถ้าอยู่ถึง 100 ปีขึ้นไป ถือว่ากำไรอย่างมากมาย เพราะในตารางมรณะกำหนดไว้ว่า อายุสูงสุดคือ 100 ปีเท่านั้นเอง (ดูดีๆๆ ว่า 100 ปี มีค่าเท่ากับ 1000 พอดี)
โปรดอ่าน
อันนี้เขียนตามความคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่ได้เชียร์หุ้น หรือ ไม่ได้บอกว่า อุตสาหกรรมไหนดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้อ่าน ผู้เขียนไม่ได้เขียนนำอะไรทั้งสิ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 396
ใครเป็นบางที่ดูยูทูปแล้วโฆษณาเสียงดังกว่ารายการที่ดู
ขึ้นคำถามนี้ไม่ใช่ว่าเชียร์หุ้นตัวไหน หรือ เชียร์อะไร แต่ทว่า ผมเล่าประสบการณ์ในการใช้ยูทูปนอกบ้าน
โดยที่ใช้เครือข่ายของผู้ให้บริการแบบไม่จำกัดการใช้งานอินเตอร์เน็ต ถามว่ามีบางไหมที่กระตุกหรือหลุด
จากความเร็วระดับสูงสุดของเครือข่าย ต้องบอกว่ามีทุกเครือข่ายในกรุงเทพ แต่ทว่าผู้ให้บริการนั้นลงทุนความคุ้มค่าหรือติดตั้งเสาให้บริการหรือเปล่า เพราะว่า บางเจ้านี้ก็แทงกักมากในเรื่องเช่าเสา บางเจ้าก็ใจดีต้องแลก 1 ต่อ 3
บางเจ้าขอ 1 ต่อ 2 ก็แล้วแต่ ละกันในเรื่องนั้นๆ
แต่ทว่า สิ่งที่ผมเจอะเจอบน ยูทูปเสมอๆ ทั้งที่ใช้งานบน Web application หรือ โปรแกรมบนมือถือนั้นคือ
เจ้าโฆษณา ที่มาคั่นรายการที่รับชมเสมอๆ จุดนี้แหละที่ทำให้เป็นหัวข้อในวันนี้ เพราะว่า โฆษณาธรรมดาก็ไม่น่าลำคาญอะไรหรอก แต่โฆษณาเจ้ากรรมชิ้นนี้ มาที่ไรหูแทบระเบิด ต้องย้อนไปที่พฤติกรรมว่า กิจกรรมนอกบ้านของคนไทย ในการเดินทางนั้น ความเป็นส่วนตัวสูงมาก คือ เงียบ เปิดเพลงก็อย่าไปแบ่งปันให้คนข้างๆให้หงุดหงิด ไม่ก่อกรรมทำเข็ญกันระหว่างทาง ยืนก็อย่าไปชิดจนคนข้างหน้าหรือคนข้างหลังแบนละ ยืนแต่พอดีๆ ไม่ต้องเรียกค่าไถ่กัน
เวลาฟังก็ต้องหาหูฟังมาเสียบ ทีทั้งที่เป็นสวมหัว ใส่เข้ารูหูตรงหรือเข้าข้างๆหู ก็แล้วแต่ใครถัด ผมมีทั้งที่เป็นสวมหัวและเสียบเข้ารูหูพกไปเสมอๆ เอาแหละกำลังมาที่เปิดรายการชม และเจอะเจอสิ่งที่น่าสนใจ (โฆษณา) บางครั้ง มีแค่ 1 เท่านั้น ก็รอดไป แล้วแต่ความยาวละในเรื่องนี้ แต่โฆษณาเจ้ากรรมชิ้นนี้ คนทำอีกท่าไหนก็ไม่รู้ ดังเร่งเสียงกว่าเจ้าอื่นๆที่เค้าทำกัน เหมือนเป็น 2 เท่าของเจ้าอื่นๆที่โฆษณาลงยูทูป สินค้าก็ไม่ใช่ถูกๆๆ แต่ท่านมาลงโฆษณาในรายการบนยูทูปที่เป็นรายการที่ใช่ แต่กระผมว่า ไม่ซื้อเพราะ ท่านไม่คำนึงถึงผู้รับชม นั้นคือสินค้าของท่านต้องมีความปลอดภัยในการใช้งานอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของความเงียบ แต่ท่านทำให้ผู้ที่รับสารนั้นหูจะแตก เจ้าของโฆษณาบอกว่าสินค้านั้นดีทึกทน ใช้งานอะไรต่อได้ แต่ท่านไม่ได้นึกหรือว่า มันนับถอยหลัง 5 วินาที แค่ 5 วินาที คำว่าทึกคำว่าทนของท่าน กับสิ่งที่ท่านสื่อนั้น มันควรหรือเปล่า หูแทบแตก กดลดเสียงแทบไม่ทัน แล้วก็ต้องกด Skip ไปเมื่อครบระยะเวลา 5 วินาทีเพื่อดูต่อ แล้วก็ต้องกดเพิ่มเสียงเหมือนเดิม เสียความรู้สึก เสียเวลาในการกด Skip เสียความสามารถการได้ยินที่ลดลงชั่วคราวทำให้อรรถรสการรับชมรายการบนยูทูปลดลง การสึกหรอของปุ่มที่กดของมือถือสุดที่รักที่ใช้งานอยู่ ซื้อมาราคาแพง แล้วก็ถ้าหากใครที่ใช้หูฟัง คุณหรือเธอรู้ดีกว่า ราคาหูฟังดีๆมันไม่ถูก แต่ท่านได้ทำร้ายหูฟังที่แสนหาได้ยาก แสนแพง เสียเวลานั่ง Burn หูฟังเพื่อมาใช้งานอีก
นั้นคือ เจ้าของโฆษณาได้โดนผู้ใช้งานกากบาททิ้งไปว่า ถึงแม้นสินค้าของคุณดีแค่ไหน ก็ไม่มีใครซื้อแล้วละ
และคุณทำให้รายการที่รับชมเสียคุณค่าของมันไปอย่างมากๆมาย คนทำรายการเค้าต้องการให้เกิดกระแส แต่โฆษณาที่เหมือนเป็นแหล่งเงินแต่กลับทำลายล้างรายการ ตัวโฆณษาไม่ได้เป็นแหล่งรายได้ของรายการบนยูทูป คิดให้ดีแหละกัน ว่าถ้าหากคุณเจ้าของโฆษณาบน ยูทูป ชิ้นนี้ต้องคิดให้ดี ว่าภาพลักษณ์มันเสียหายแค่ไหน ถ้าคุณดูระดับ 100k ถึง 1,000k คุณเสียหายต่อยอดการขายสินค้าเท่าไร
ขึ้นคำถามนี้ไม่ใช่ว่าเชียร์หุ้นตัวไหน หรือ เชียร์อะไร แต่ทว่า ผมเล่าประสบการณ์ในการใช้ยูทูปนอกบ้าน
โดยที่ใช้เครือข่ายของผู้ให้บริการแบบไม่จำกัดการใช้งานอินเตอร์เน็ต ถามว่ามีบางไหมที่กระตุกหรือหลุด
จากความเร็วระดับสูงสุดของเครือข่าย ต้องบอกว่ามีทุกเครือข่ายในกรุงเทพ แต่ทว่าผู้ให้บริการนั้นลงทุนความคุ้มค่าหรือติดตั้งเสาให้บริการหรือเปล่า เพราะว่า บางเจ้านี้ก็แทงกักมากในเรื่องเช่าเสา บางเจ้าก็ใจดีต้องแลก 1 ต่อ 3
บางเจ้าขอ 1 ต่อ 2 ก็แล้วแต่ ละกันในเรื่องนั้นๆ
แต่ทว่า สิ่งที่ผมเจอะเจอบน ยูทูปเสมอๆ ทั้งที่ใช้งานบน Web application หรือ โปรแกรมบนมือถือนั้นคือ
เจ้าโฆษณา ที่มาคั่นรายการที่รับชมเสมอๆ จุดนี้แหละที่ทำให้เป็นหัวข้อในวันนี้ เพราะว่า โฆษณาธรรมดาก็ไม่น่าลำคาญอะไรหรอก แต่โฆษณาเจ้ากรรมชิ้นนี้ มาที่ไรหูแทบระเบิด ต้องย้อนไปที่พฤติกรรมว่า กิจกรรมนอกบ้านของคนไทย ในการเดินทางนั้น ความเป็นส่วนตัวสูงมาก คือ เงียบ เปิดเพลงก็อย่าไปแบ่งปันให้คนข้างๆให้หงุดหงิด ไม่ก่อกรรมทำเข็ญกันระหว่างทาง ยืนก็อย่าไปชิดจนคนข้างหน้าหรือคนข้างหลังแบนละ ยืนแต่พอดีๆ ไม่ต้องเรียกค่าไถ่กัน
เวลาฟังก็ต้องหาหูฟังมาเสียบ ทีทั้งที่เป็นสวมหัว ใส่เข้ารูหูตรงหรือเข้าข้างๆหู ก็แล้วแต่ใครถัด ผมมีทั้งที่เป็นสวมหัวและเสียบเข้ารูหูพกไปเสมอๆ เอาแหละกำลังมาที่เปิดรายการชม และเจอะเจอสิ่งที่น่าสนใจ (โฆษณา) บางครั้ง มีแค่ 1 เท่านั้น ก็รอดไป แล้วแต่ความยาวละในเรื่องนี้ แต่โฆษณาเจ้ากรรมชิ้นนี้ คนทำอีกท่าไหนก็ไม่รู้ ดังเร่งเสียงกว่าเจ้าอื่นๆที่เค้าทำกัน เหมือนเป็น 2 เท่าของเจ้าอื่นๆที่โฆษณาลงยูทูป สินค้าก็ไม่ใช่ถูกๆๆ แต่ท่านมาลงโฆษณาในรายการบนยูทูปที่เป็นรายการที่ใช่ แต่กระผมว่า ไม่ซื้อเพราะ ท่านไม่คำนึงถึงผู้รับชม นั้นคือสินค้าของท่านต้องมีความปลอดภัยในการใช้งานอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของความเงียบ แต่ท่านทำให้ผู้ที่รับสารนั้นหูจะแตก เจ้าของโฆษณาบอกว่าสินค้านั้นดีทึกทน ใช้งานอะไรต่อได้ แต่ท่านไม่ได้นึกหรือว่า มันนับถอยหลัง 5 วินาที แค่ 5 วินาที คำว่าทึกคำว่าทนของท่าน กับสิ่งที่ท่านสื่อนั้น มันควรหรือเปล่า หูแทบแตก กดลดเสียงแทบไม่ทัน แล้วก็ต้องกด Skip ไปเมื่อครบระยะเวลา 5 วินาทีเพื่อดูต่อ แล้วก็ต้องกดเพิ่มเสียงเหมือนเดิม เสียความรู้สึก เสียเวลาในการกด Skip เสียความสามารถการได้ยินที่ลดลงชั่วคราวทำให้อรรถรสการรับชมรายการบนยูทูปลดลง การสึกหรอของปุ่มที่กดของมือถือสุดที่รักที่ใช้งานอยู่ ซื้อมาราคาแพง แล้วก็ถ้าหากใครที่ใช้หูฟัง คุณหรือเธอรู้ดีกว่า ราคาหูฟังดีๆมันไม่ถูก แต่ท่านได้ทำร้ายหูฟังที่แสนหาได้ยาก แสนแพง เสียเวลานั่ง Burn หูฟังเพื่อมาใช้งานอีก
นั้นคือ เจ้าของโฆษณาได้โดนผู้ใช้งานกากบาททิ้งไปว่า ถึงแม้นสินค้าของคุณดีแค่ไหน ก็ไม่มีใครซื้อแล้วละ
และคุณทำให้รายการที่รับชมเสียคุณค่าของมันไปอย่างมากๆมาย คนทำรายการเค้าต้องการให้เกิดกระแส แต่โฆษณาที่เหมือนเป็นแหล่งเงินแต่กลับทำลายล้างรายการ ตัวโฆณษาไม่ได้เป็นแหล่งรายได้ของรายการบนยูทูป คิดให้ดีแหละกัน ว่าถ้าหากคุณเจ้าของโฆษณาบน ยูทูป ชิ้นนี้ต้องคิดให้ดี ว่าภาพลักษณ์มันเสียหายแค่ไหน ถ้าคุณดูระดับ 100k ถึง 1,000k คุณเสียหายต่อยอดการขายสินค้าเท่าไร
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 397
ขอใช้พื้นที่นิดหน่อยละกัน
พอดี คอร์สอบกรมของอจ สรรพงศ์ เปิดเรียนในเรื่องประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
ใครที่ต้องการเรียนเชิญติดต่อ อจ สรรพงศ์ ได้เลยครับ
ค่าอบรม 4,500 บาท
อันนี้เป็นการเพิ่มเขี้ยวเล็บให้แก่นักลงทุน
ขออภัยทีมงานด้วยครับ
พอดี คอร์สอบกรมของอจ สรรพงศ์ เปิดเรียนในเรื่องประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
ใครที่ต้องการเรียนเชิญติดต่อ อจ สรรพงศ์ ได้เลยครับ
ค่าอบรม 4,500 บาท
อันนี้เป็นการเพิ่มเขี้ยวเล็บให้แก่นักลงทุน
ขออภัยทีมงานด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 398
ขอบคุณ Youtube ที่ปรับความดังของโฆษณาให้ ตอนนี้ฟังสบายหูมากขึ้น ไม่ต้องพะวงว่าลำโพงแตกหรือเปล่า ไม่ต้องค่อยปรับเสียงขึ้นลงแล้ว
เมื่อสองอาทิตย์ก่อน มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีการกล่าวถึง คือการลดเครดิตเรตติ้งของ จีน จาก AA- เหลือ A+
และของฮ่องกงจากระดับ AAA (ระดับสูงสุด) ลงเหลือ AA+ นั้น
ผลกระทบจากการลดเครดิตเรตติ้งครั้งนี้ ก็ทำให้
สิ่งแรกคือการกู้ยืมเงินมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นนั้นเอง
สิ่งที่สองคือ อัตราแลกเปลี่ยนก็กระทบไปด้วย คือเงินกลับไปอยู่ที่ดอลล่าร์มากขึ้น
สิ่งที่สามคือตลาดทองคำ ที่ขึ้นก็เริ่มลดลง
ถ้ามองจากเวลาแล้ว ซ้อนทับกับปัญหาของคาบสมุทรเกาหลีที่มีปัญหาอยู่หรือเปล่าหนอ
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกว่า ช่วงนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ที่ทำ New High ของระดับ 16xx จุด
ถ้าหากมองย้อนกลับไปก็ 25 ปีแล้ว ซึ่ง นักลงทุนที่มีการลงทุนตลอด 25 ปีนั้น
คำถามเดียวในใจ ถ้าหากถือหุ้นเมื่อ 25 ปีจนถึงปัจจุบันได้อยู่ ผลตอบแทนของหุ้นเหล่านั้นเหลือเท่าไร
คิดเป็นรายบริษัท อาจจะมีบางส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ,บางส่วนก็สูญหายไปจากตลาด,บางส่วนก็ราคาลดลงจนเหลือหน่วยสตางค์จากเมื่อก่อนเป็นร้อยๆบาท มันก็น่าจะแบ่งปัน ว่า 25 ปีที่ผ่านไปนั้น บริษัทฯในตลาดหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหนอ
สิ่งสุดท้ายคือที่จะบอกคือ ทำตามฝัน อย่าหยุดฝัน ก็เท่านั้นเอง
เมื่อสองอาทิตย์ก่อน มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีการกล่าวถึง คือการลดเครดิตเรตติ้งของ จีน จาก AA- เหลือ A+
และของฮ่องกงจากระดับ AAA (ระดับสูงสุด) ลงเหลือ AA+ นั้น
ผลกระทบจากการลดเครดิตเรตติ้งครั้งนี้ ก็ทำให้
สิ่งแรกคือการกู้ยืมเงินมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นนั้นเอง
สิ่งที่สองคือ อัตราแลกเปลี่ยนก็กระทบไปด้วย คือเงินกลับไปอยู่ที่ดอลล่าร์มากขึ้น
สิ่งที่สามคือตลาดทองคำ ที่ขึ้นก็เริ่มลดลง
ถ้ามองจากเวลาแล้ว ซ้อนทับกับปัญหาของคาบสมุทรเกาหลีที่มีปัญหาอยู่หรือเปล่าหนอ
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกว่า ช่วงนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ที่ทำ New High ของระดับ 16xx จุด
ถ้าหากมองย้อนกลับไปก็ 25 ปีแล้ว ซึ่ง นักลงทุนที่มีการลงทุนตลอด 25 ปีนั้น
คำถามเดียวในใจ ถ้าหากถือหุ้นเมื่อ 25 ปีจนถึงปัจจุบันได้อยู่ ผลตอบแทนของหุ้นเหล่านั้นเหลือเท่าไร
คิดเป็นรายบริษัท อาจจะมีบางส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ,บางส่วนก็สูญหายไปจากตลาด,บางส่วนก็ราคาลดลงจนเหลือหน่วยสตางค์จากเมื่อก่อนเป็นร้อยๆบาท มันก็น่าจะแบ่งปัน ว่า 25 ปีที่ผ่านไปนั้น บริษัทฯในตลาดหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหนอ
สิ่งสุดท้ายคือที่จะบอกคือ ทำตามฝัน อย่าหยุดฝัน ก็เท่านั้นเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 399
เปิดอุโมงค์ยักษ์ย่านรัชดาฯมีตัวช่วยน้ำไม่ท่วม... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/bangkok/594860
ข่าวนี้เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560 เป็นอุโมงค์ยักษ์ล่าสุดของกรุงเทพมหานคร เพื่อระบาย เขตดุสิต บางซื่อ พญาไท จตุจักร ดินแดง และห้วยขวาง
ซึ่งคำถามเกิดเมื่อ ถนนวิภาวดีรังสิต ท่วมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2560 ว่าการทำงานของอุโมงค์ระบายน้ำแห่งนี้
มีประสิทธิภาพตามที่งบประมาณที่ลงไปหรือไม่ เหมือนครั้นที่ อุโมงค์ยักษ์พระรามเก้าใช้งานเมื่อปี 2554 นั้นเอง
แต่ที่สังเกตคือ ถนนวิภาวดีรังสิต ในอดีตนั้น มีคลองสองข้างถนน ที่กว้าง แต่ทว่า มีการก่อสร้างถนนที่เข้าสู่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครหลังใหม่ ที่แถวดินแดงทำให้ คลองที่ใช้ระบายน้ำได้หายไป สิ่งที่เป็นอีกสิ่งที่ไม่ช่วงให้น้ำระบายได้อย่างรวดเร็วหรือเปล่า
มีหลายเสียงที่บอกว่า ทำทางแล้วคุ้มค่าหรือเปล่า แลกกับน้ำท่วม เนี่ยก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่คุ้มค่า
น้ำท่วมกรุงเทพเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2560 ทำให้หลายต่อหายคนคิดว่า น่าจะสร้างอะไรต่อมิอะไรเพิ่มเติมเช่น
ทางด่วนที่เชื่อม tollway กับ ทางลงดินแดง การเชื่อมทางด่วนฉลองรัช ขนานไปกับถนนเกษตร-นวมินทร์ต่อเชื่อมไปยังเกษตร จนถึงทางด่วนศรีรัช นั้นเอง หรือแม้นกระทั่ง
รอดูละกัน ว่าเป็นเช่นไรต่อไป แต่น้องน้ำมาเยือนกรุงเทพรอบนี้ ดีที่ตกในวันหยุดคือคืนวันศุกร์ต่อเช้าวันเสาร์
ถ้าหากเป็นวันทำงาน คือ ทำงานที่บ้านได้ไหม ก็น่าคิด (Work at home)
สิ่งสุดท้ายที่น่าคิดไว้ คือ ตัวชี้วัด หรือ KPI ของการระบายน้ำ ว่า Miss the target แล้วใครต้องโดนเด้ง หรือไม่
และอีกสิ่งหนึ่งคือ เมืองไทย นั้น เป็นเมืองมีน้ำใจ จะเห็นภาพของรถยกช่วงรถแมงกะไซด์ ฝ่าน้ำท่วมสูงแถวรัชดา
การแบ่งปันรูป เส้นทางที่น้ำสูง หรือแม้นแต่น้ำใจของแท็กซี่ที่ยอมฝ่าน้ำท่วมไปส่งผู้โดยสาร
ข่าวนี้เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560 เป็นอุโมงค์ยักษ์ล่าสุดของกรุงเทพมหานคร เพื่อระบาย เขตดุสิต บางซื่อ พญาไท จตุจักร ดินแดง และห้วยขวาง
ซึ่งคำถามเกิดเมื่อ ถนนวิภาวดีรังสิต ท่วมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2560 ว่าการทำงานของอุโมงค์ระบายน้ำแห่งนี้
มีประสิทธิภาพตามที่งบประมาณที่ลงไปหรือไม่ เหมือนครั้นที่ อุโมงค์ยักษ์พระรามเก้าใช้งานเมื่อปี 2554 นั้นเอง
แต่ที่สังเกตคือ ถนนวิภาวดีรังสิต ในอดีตนั้น มีคลองสองข้างถนน ที่กว้าง แต่ทว่า มีการก่อสร้างถนนที่เข้าสู่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครหลังใหม่ ที่แถวดินแดงทำให้ คลองที่ใช้ระบายน้ำได้หายไป สิ่งที่เป็นอีกสิ่งที่ไม่ช่วงให้น้ำระบายได้อย่างรวดเร็วหรือเปล่า
มีหลายเสียงที่บอกว่า ทำทางแล้วคุ้มค่าหรือเปล่า แลกกับน้ำท่วม เนี่ยก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่คุ้มค่า
น้ำท่วมกรุงเทพเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2560 ทำให้หลายต่อหายคนคิดว่า น่าจะสร้างอะไรต่อมิอะไรเพิ่มเติมเช่น
ทางด่วนที่เชื่อม tollway กับ ทางลงดินแดง การเชื่อมทางด่วนฉลองรัช ขนานไปกับถนนเกษตร-นวมินทร์ต่อเชื่อมไปยังเกษตร จนถึงทางด่วนศรีรัช นั้นเอง หรือแม้นกระทั่ง
รอดูละกัน ว่าเป็นเช่นไรต่อไป แต่น้องน้ำมาเยือนกรุงเทพรอบนี้ ดีที่ตกในวันหยุดคือคืนวันศุกร์ต่อเช้าวันเสาร์
ถ้าหากเป็นวันทำงาน คือ ทำงานที่บ้านได้ไหม ก็น่าคิด (Work at home)
สิ่งสุดท้ายที่น่าคิดไว้ คือ ตัวชี้วัด หรือ KPI ของการระบายน้ำ ว่า Miss the target แล้วใครต้องโดนเด้ง หรือไม่
และอีกสิ่งหนึ่งคือ เมืองไทย นั้น เป็นเมืองมีน้ำใจ จะเห็นภาพของรถยกช่วงรถแมงกะไซด์ ฝ่าน้ำท่วมสูงแถวรัชดา
การแบ่งปันรูป เส้นทางที่น้ำสูง หรือแม้นแต่น้ำใจของแท็กซี่ที่ยอมฝ่าน้ำท่วมไปส่งผู้โดยสาร
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 400
ขอเขียนอะไรนิดหน่อยเกี่ยวกับกลุ่มประกันภัย/ประกันชีวิต
อันนี้เขียนไว้ให้เตือนสติกัน ว่าการลงทุนนั้น ถ้าหากลงทุนระยะยาว นั้นมองเป็นเช่นไร
เพราะมีกรณีศึกษาในเรื่องของการลงทุนระยะ 5-6 ปีในกลุ่มประกันภัย มีอยู่สองเคสเล่าสู่กันฟัง
อันแรกคือ กรณีที่ลงทุนในหุ้นประกันภัย อันนี้เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมใหญ่ 2554
มหาอุทกภัยนั้นเอง ถ้าหากใครที่ลงทุนหลังจากกรณีนั้นเกิดประมาณต้นปี 2555 ถึงปลายปี 2555
แล้วถือมาถึงปัจจุบัน นั้นได้ capital gain ประมาณ 100% จากราคาที่ลงทุน คือลงทุน 1 บาทได้ ส่วนต่าง 1 บาท
ไม่รวมปันผล ที่จ่ายในรายปี สำหรับตัวที่ลงทุนที่ถูกต้อง ทำไมต้องบอกว่าตัวที่ถูกต้องเพราะว่า บริษัท
ในกลุ่มนี้ ราคาหลักทรัพย์ไม่ไปไหนแถมเพิ่มทุนหลายต่อหลายรอบ นั้นเอง (ไม่รวมพวกที่ฟื้นตัวช้าเพราะโดนของหนักไป กว่าแก้ไข 3-4 ปี เริ่มฟื้นเมื่อ 1-2 ปีมานี้เอง แต่ยังฟื้นไม่เต็มที่ เหมือนคนไข้ที่ออกจากห้อง CCU มาอยู่ที่ห้องพิเศษ หรือห้องธรรมดา)
แต่หากนักลงทุนมองสั้นๆ ไม่ได้ลงทุนระยะยาว ก็ทำให้ภาพที่เห็นเหมือน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ไปไหน ในระยะ 1-2 ปีหลังมานี้ นั้นเอง
เคสที่สองที่เล่าคือ ประกันชีวิต นั้น เป็นการลงทุนที่ระยะยาว ไม่ใช่การลงทุนระยะสั้น เหมือนประกันวินาศภัย
ลูกค้านั้น ส่งเบี้ยประกันชีวิตแล้วก็ต้องคุ้มครองกันยาวๆคือ 10 ปีขึ้นไปจนถึง 99 ปีแล้วแต่แบบประกัน ให้เลือกส่งเบี้ย 1 ปี หรือมากกว่านั้น (เบี้ยส่งปีเดียว เลิกคือ Singer Premium ที่นิยมขายให้แก่รายใหญ่ในช่วงหลังๆๆ เบี้ยส่งทีหลักแสนขึ้นไป ถึง กว่า 10 ล้านบาท เอาเงินไปลงทุน ได้ผลตอบแทนที่เร้าใจในระดับหนึ่ง)
ดังนั้น มองไม่ใช่การมองสั้นๆ ปีนี้แล้วจบ แต่มันต้องมองว่า ปีนี้ ผู้ทำกรมธรรม์นั้น ส่งเบี้ยต่อเนื่องเท่าไร แล้วหากรมธรรม์มาใหม่ได้เท่าไร แล้วจ่ายคืนกรมธรรม์เดิมเท่าไร จ่ายค่าเครมประกันเท่าไร (ผู้ทำกรมธรรม์เสียชีวิตเท่าไร)
ดังนั้นให้ข้อคิดในกลุ่มนี้ไว้ละกัน คือ
1. อดทน
2. เลือกให้ถูกตัว ยิ่งตัวใหญ่ยิ่งได้เปรียบ
3. ดูให้ออกว่าทำอะไร ประกันวินาศภัยหรือประกันชีวิต
4. ซื้อที่ราคาที่เหมาะสม
5. ซื้อแล้ว ถอนใบหุ้นได้ก็ได้ ในหุ้นที่ถูกเลือกคิดว่า ใช่แน่นอน
สิ่งที่ต้องดูกันต่อไปในอนาคต คือ พรบ ประกันชีวิตละ พรบ ประกันวินาศภัย ตัวใหม่ เท่านั้นเอง
อันนี้เขียนไว้ให้เตือนสติกัน ว่าการลงทุนนั้น ถ้าหากลงทุนระยะยาว นั้นมองเป็นเช่นไร
เพราะมีกรณีศึกษาในเรื่องของการลงทุนระยะ 5-6 ปีในกลุ่มประกันภัย มีอยู่สองเคสเล่าสู่กันฟัง
อันแรกคือ กรณีที่ลงทุนในหุ้นประกันภัย อันนี้เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมใหญ่ 2554
มหาอุทกภัยนั้นเอง ถ้าหากใครที่ลงทุนหลังจากกรณีนั้นเกิดประมาณต้นปี 2555 ถึงปลายปี 2555
แล้วถือมาถึงปัจจุบัน นั้นได้ capital gain ประมาณ 100% จากราคาที่ลงทุน คือลงทุน 1 บาทได้ ส่วนต่าง 1 บาท
ไม่รวมปันผล ที่จ่ายในรายปี สำหรับตัวที่ลงทุนที่ถูกต้อง ทำไมต้องบอกว่าตัวที่ถูกต้องเพราะว่า บริษัท
ในกลุ่มนี้ ราคาหลักทรัพย์ไม่ไปไหนแถมเพิ่มทุนหลายต่อหลายรอบ นั้นเอง (ไม่รวมพวกที่ฟื้นตัวช้าเพราะโดนของหนักไป กว่าแก้ไข 3-4 ปี เริ่มฟื้นเมื่อ 1-2 ปีมานี้เอง แต่ยังฟื้นไม่เต็มที่ เหมือนคนไข้ที่ออกจากห้อง CCU มาอยู่ที่ห้องพิเศษ หรือห้องธรรมดา)
แต่หากนักลงทุนมองสั้นๆ ไม่ได้ลงทุนระยะยาว ก็ทำให้ภาพที่เห็นเหมือน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ไปไหน ในระยะ 1-2 ปีหลังมานี้ นั้นเอง
เคสที่สองที่เล่าคือ ประกันชีวิต นั้น เป็นการลงทุนที่ระยะยาว ไม่ใช่การลงทุนระยะสั้น เหมือนประกันวินาศภัย
ลูกค้านั้น ส่งเบี้ยประกันชีวิตแล้วก็ต้องคุ้มครองกันยาวๆคือ 10 ปีขึ้นไปจนถึง 99 ปีแล้วแต่แบบประกัน ให้เลือกส่งเบี้ย 1 ปี หรือมากกว่านั้น (เบี้ยส่งปีเดียว เลิกคือ Singer Premium ที่นิยมขายให้แก่รายใหญ่ในช่วงหลังๆๆ เบี้ยส่งทีหลักแสนขึ้นไป ถึง กว่า 10 ล้านบาท เอาเงินไปลงทุน ได้ผลตอบแทนที่เร้าใจในระดับหนึ่ง)
ดังนั้น มองไม่ใช่การมองสั้นๆ ปีนี้แล้วจบ แต่มันต้องมองว่า ปีนี้ ผู้ทำกรมธรรม์นั้น ส่งเบี้ยต่อเนื่องเท่าไร แล้วหากรมธรรม์มาใหม่ได้เท่าไร แล้วจ่ายคืนกรมธรรม์เดิมเท่าไร จ่ายค่าเครมประกันเท่าไร (ผู้ทำกรมธรรม์เสียชีวิตเท่าไร)
ดังนั้นให้ข้อคิดในกลุ่มนี้ไว้ละกัน คือ
1. อดทน
2. เลือกให้ถูกตัว ยิ่งตัวใหญ่ยิ่งได้เปรียบ
3. ดูให้ออกว่าทำอะไร ประกันวินาศภัยหรือประกันชีวิต
4. ซื้อที่ราคาที่เหมาะสม
5. ซื้อแล้ว ถอนใบหุ้นได้ก็ได้ ในหุ้นที่ถูกเลือกคิดว่า ใช่แน่นอน
สิ่งที่ต้องดูกันต่อไปในอนาคต คือ พรบ ประกันชีวิตละ พรบ ประกันวินาศภัย ตัวใหม่ เท่านั้นเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 401
ไม่ใช่ดวง กะคง วิสัยทัศน์ยาจก
thani ขาย เพราะ ไม่โอเค กับที่ธนชาติ เพิ่มทุน
วันนี้ เศษหุ้นที่มี ทำให้รู้ว่า 10 เด้ง
bla มองเป็น long term investment
วันนี้ แทบไม่ได้อะไร นอกจากปันผล
ซึ่งทั้งสอง ตัว ซื้อ ในเวลาไม่ห่างกันมาก
หุ้นม้ันมีอะไร ที่คาดเดาไม่ได้ เยอะเหลือเกิน
แต่ไม่เท่าเจ็บใจตระกูล บางตระกูล จริงๆ
thani ขาย เพราะ ไม่โอเค กับที่ธนชาติ เพิ่มทุน
วันนี้ เศษหุ้นที่มี ทำให้รู้ว่า 10 เด้ง
bla มองเป็น long term investment
วันนี้ แทบไม่ได้อะไร นอกจากปันผล
ซึ่งทั้งสอง ตัว ซื้อ ในเวลาไม่ห่างกันมาก
หุ้นม้ันมีอะไร ที่คาดเดาไม่ได้ เยอะเหลือเกิน
แต่ไม่เท่าเจ็บใจตระกูล บางตระกูล จริงๆ
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 402
ขอบคุณที่เล่าให้ฟังครับnut776 เขียน:ไม่ใช่ดวง กะคง วิสัยทัศน์ยาจก
thani ขาย เพราะ ไม่โอเค กับที่ธนชาติ เพิ่มทุน
วันนี้ เศษหุ้นที่มี ทำให้รู้ว่า 10 เด้ง
bla มองเป็น long term investment
วันนี้ แทบไม่ได้อะไร นอกจากปันผล
ซึ่งทั้งสอง ตัว ซื้อ ในเวลาไม่ห่างกันมาก
หุ้นม้ันมีอะไร ที่คาดเดาไม่ได้ เยอะเหลือเกิน
แต่ไม่เท่าเจ็บใจตระกูล บางตระกูล จริงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 403
พอดีไปงานสัปดาห์หนังสือมา พบว่าหนังสือการ์ตูนเรื่องเก่า ได้มีการโล๊ะขายราคาถูกมากๆmiracle เขียน:วงการหนังสือการ์ตูนกับการลอยแพ
ระยะหลังมีการลอยแพหนังสือการ์ตูนโดยค่ายการ์ตูนลิขสิทธิ์ เนื่องจากยอดขายที่ลดลงสำหรับหนังสือเล่ม
ซึ่งได้รับผลกระทบจากการอ่านหนังสือการ์ตูนบน Web site ที่แบ่งปันกัน โดยไม่มีลิขสิทธิ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
อำนาจการกฏหมายไม่สามารถจัดการได้ (แต่ทีเรื่อง OTT จัดการได้ งง ไหมละ)
เมื่อมีการลอยแพเกิดขึ้น หนังสือการ์ตูนบางเล่ม ออกมาปีละ 1-2 เล่มหรือ สองปี เล่มก็มี บางเรื่องนิติดตามกันมาตั้งแต่สมัยประถม จนปัจจุบันทำงานแล้ว อายุเท่านี้ยังไม่จบ (ไม่มีภาคต่อรันยาวเลย) เรียกได้ว่า อ่านกันจนลืม
ไปเลยว่าเล่มก่อนหน้าถึงไหนแล้ว
เมื่อเป็นแบบนี้ มันก็เกิดช่องว่าง การลอยแพเกิดขึ้น ก็ทำให้เกิดการพิมพ์ ออนดีมาน (Print on demand) จากสำนักพิมพ์ที่ไม่ได้รับลิขสิทธิ์เกิดขึ้นมา หรือมีการย้ายค่ายพิมพ์ได้รับช่วงลิขสิทธิ์ต่อก็มี ซึ่งถ้าหากใครติดตามของเดิมแล้วรู้ว่ามีแบบนี้ก็ติดตามกันต่อไป แต่การ์ตูนที่พิมพ์ย้อนของในเล่มที่สำนักพิมพ์เดิมเคยพิมพ์จะมียอดการซื้อน้อยกว่า เล่มที่ต่อเนื่องจากของเดิม
การพิมพ์ออนดิมาน คือ การสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า โอนเงินก่อน จัดพิมพ์ตามจำนวนที่ได้รบการสั่งซื้อ เมื่อก่อนนี้ส่วนใหญ่ที่ดำเนินการทำคือ พิมพ์พวกนิตยสารต่างประเทศ จัดส่งในเมืองไทย นั้นเอง โดยที่ผู้อ่านไม่รู้ว่าพิมพ์ที่ไหน กระดาษเหมือนของนอกใช้งาน ทุกอยา่างต้องได้มาตรฐานเดียวกับนิตยสารที่จัดจำหน่ายในเมืองนอกนั้นเอง
เมื่อเกิดการกลายร่างจากเดิมพิมพ์เฉพาะนิตยสารต่างประเทศ การ์ตูนก็ดำเนินการเลียนแบบ แบบบ้าง และคราวนี้เมื่อเกิดการพิมพ์ออนดีมาน ทำให้รู้ว่า การ์ตูนเรื่องไหนที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้อ่านในเมืองไทย
บางเรื่องมาเงียบๆ แต่กระแสดี ซึ่งจริงๆแล้ว ถ้าหากเป็น Gen X ปลายๆ หรือ Gen Y นั้นรู้ว่าตัวเองชอบการ์ตูนอะไรบ้าง นั้นเอง
ที่บ้านเรียกได้ว่า คลังย่อยของร้านหนังสือการ์ตูนเลยทีเดียว มีหลายต่อหลายเรื่องที่เก็บไว้อ่าน ถ้ามีเวลาก็อ่านซ้ำ เนื่องจากความสนุกของเนื้อหาเรื่อง สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากการอ่านบน Kindle คือ มันได้ขยับนิ้ว สามารถอ่านที่ไหนก็ได้ถ้าหากเราพกพาไป ถ้าหาไม่ได้พกพาไป ก็ต้องอดใจว่า กลับมาบ้านอ่านต่อในเล่มถัดไป (แต่ถ้าเป็น Kindle คือเปิดอ่านต่อได้เลย จนกว่าไม่มีให้อ่านนั้นเอง)
คำถามที่น่าจะถามในเรื่องนี้ ลอยแพจากปริมาณการขายลดลง นั้นถ้าหากลงไปในสาเหตุคือ ร้านเช่าการ์ตูนเป็นลูกค้าหลักๆ ในการขายการ์ตูนนั้นเอง หากจำนวนร้านเช่าการ์ตูนยังอยู่ในปริมาณเท่าเดิม ผู้จัดจำหน่ายการ์ตูนก็ยังคงอยู่ได้น้้นเอง ร้านพวกนี้มีร้านที่เกิดแข่งขันในละแวกเดียวกัน แต่ทว่าเมื่อเปิดมานานก็มีการสะสมหนังสือไว้จำนวนมาก แต่เมื่อคนไม่เข้ามาเช่าการ์ตูน ไม่ใช่เกิดแค่ร้านเดียวแต่เกิดเป็นลูกโซ่เลย คือ ไม่มีพร้อมๆกันหรือเวลาใกล้เคียงกัน จนกระทั่งต้องปิดตัวลงนั้นเอง มันจึงสะท้อนกลับไปยัง สำนักพิมพ์ และกระทบต่อผู้อ่านที่ต้องการเก็บสะสมหนังสือการ์ตูนไว้นั้นเอง
อันนี้ได้เคยเขียนไว้ตั้งนานแล้ว แต่ทว่า ต้องเขียนซ้ำเพราะมีอะไรบ้างอย่างที่ทำให้สะกิดใจ เพราะการลอยแพเรื่องที่ไม่ค่อยได้อ่านไม่เป็นไร แต่ทว่าเรื่องที่อ่านมากนานตั้งหน้าตั้งตารอคอย แบบนี้เสียความรู้สึกจริงๆ แล้วต้องลุ้นว่าการ์ตูนที่อ่านในปัจจุบันจะเหลือรอดอ่านจนจบซักกี่เรื่องในตอนนี้ เมื่อก่อนนี้พิมพ์จบหรือไม่จบ ขึ้นกับว่าสำนักพิมพ์ล้มหายตายจากหรือไม่ ลิขสิทธิ์หมดอายุหรือไม่ ผู้แต่ง/ผู้วาดเสียชีวิตหรือเลิกเขียนไปก่อนหน้าไม่ ....
แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นต้องลุ้นว่า สำนักงานพิมพ์อย่าลอยแพเข้าไปด้วย
เรื่องนี้สอนให้รุ้ว่า ความเสี่ยงมันไม่ใช่ว่า มีเฉพาะตอนที่เราดู ตอนที่เรามองเข้าไปในกิจการเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนแปลงไป ความเสี่ยงอาจจะมีการปรับลดหรือเพิ่มก็ต้องต้องประเมินความเสี่ยงอยู่เสมอ
ทำให้นึกย้อนไปถึงวัยเด็กที่หนังการ์ตูนมีน้อย รอชมจากช่อง9ที่มีน้าต๋อยพากย์
ก็ได้หนังสือการ์ตูนเป็นที่ผ่อนคลายในยามว่าง
ได้ซื้อการ์ตูนที่สนใจมาอ่าน เพราะหลังจากอ่านผ่านipadไปสักพักนึง รู้สึกว่าอยากสัมผัสหนังสือ
เป็นเล่มจริงๆ แต่อาจไม่สะดวกเพราะต้องพกพาไปหลายเล่ม ถ้าอยากอ่านต่อเนื่อง
ผมว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนของหนังสือการ์ตูน เพราะคนสามารถดูonlineหรือดูเป็นหนังได้เลยจากYoutube
สังเกตจากลูกๆไม่สนใจอ่านการ์ตูน แต่ชอบดูจากYoutubeมากกว่า
สุดท้ายจะเหลือหนังสือการ์ตูนในตลาดมากน้อยแค่ไหน
รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
แล้วเด็กไทยจะอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นได้อย่างไร เพราะเอาแต่ดูแทนการอ่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 404
การเพิ่มเงินส่งประกันสังคม
ตอนนี้เริ่มมีกระแสสังคมในด้านของผู้ที่มีเงินเดือนประจำหรือลูกจ้างรายวันหรือลูกจ้างรายเดือน ที่เป็นของฝั่งเอกชน ที่ส่งเงินให้ประกันสังคม ในเรื่องของการเพิ่มเงินที่ส่งให้ประกันสังคม จากเดิมสูงสุดคือ 750 บาทต่อเดือน (นายจ้างก็ต้องจ่ายในอัตราเดียวกับลูกจ้างด้วยคือ 750 บาทด้วย) เมื่อเพิ่มเป็น 1,000 บาทสำหรับลูกจ้างที่มีรายได้ 20,000 บาท ต่อเดือน เพิ่ม 250 บาทต่อเดือน แค่ 1 คน แต่ทว่า มีเป็นผู้ประกอบการ มีลูกจ้าง 10 คนที่เงินเดือนเท่ากับหรือมากกว่า 20,000 บาท ก็ต้องจ่ายเพิ่มเติม 2,500 บาทต่อเดือนสำหรับลูกจ้าง 10 คนที่เงินเดือนที่เกิน
ปัจจุบันรัฐก็ส่งเสริมให้ ประชาชนทำธุรกิจ แต่ทว่า ต้นทุนแฝง คือ ค่าประกันสังคม ที่นายจ้างต้องจ่ายให้ลูกจ้างตัวนี้แฝงอยู่ ทำให้บ้างครั้ง การขยับการเพิ่มอะไรทีก็ลำบาก ถึงแม้นว่ารัฐลดภาษีให้/เพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆให้แก่เอกชนร่วมไปถึงการ ส่งเสริมเรื่องการลงทุนจากเอกชน ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายก็ตามที่ แต่เมื่อนักลงทุนพิจาณาในส่วนอื่นประกอบ เช่นต้นทุนแฝงต่างๆมันก็น่าคิดว่า นักลงทุนมาไหม ถ้าเจอะเจอแบบนี้ ต้องใช้แม่เหล็กตัวไหนดึงดูด ละเนี่ย
ตอนนี้เริ่มมีกระแสสังคมในด้านของผู้ที่มีเงินเดือนประจำหรือลูกจ้างรายวันหรือลูกจ้างรายเดือน ที่เป็นของฝั่งเอกชน ที่ส่งเงินให้ประกันสังคม ในเรื่องของการเพิ่มเงินที่ส่งให้ประกันสังคม จากเดิมสูงสุดคือ 750 บาทต่อเดือน (นายจ้างก็ต้องจ่ายในอัตราเดียวกับลูกจ้างด้วยคือ 750 บาทด้วย) เมื่อเพิ่มเป็น 1,000 บาทสำหรับลูกจ้างที่มีรายได้ 20,000 บาท ต่อเดือน เพิ่ม 250 บาทต่อเดือน แค่ 1 คน แต่ทว่า มีเป็นผู้ประกอบการ มีลูกจ้าง 10 คนที่เงินเดือนเท่ากับหรือมากกว่า 20,000 บาท ก็ต้องจ่ายเพิ่มเติม 2,500 บาทต่อเดือนสำหรับลูกจ้าง 10 คนที่เงินเดือนที่เกิน
ปัจจุบันรัฐก็ส่งเสริมให้ ประชาชนทำธุรกิจ แต่ทว่า ต้นทุนแฝง คือ ค่าประกันสังคม ที่นายจ้างต้องจ่ายให้ลูกจ้างตัวนี้แฝงอยู่ ทำให้บ้างครั้ง การขยับการเพิ่มอะไรทีก็ลำบาก ถึงแม้นว่ารัฐลดภาษีให้/เพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆให้แก่เอกชนร่วมไปถึงการ ส่งเสริมเรื่องการลงทุนจากเอกชน ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายก็ตามที่ แต่เมื่อนักลงทุนพิจาณาในส่วนอื่นประกอบ เช่นต้นทุนแฝงต่างๆมันก็น่าคิดว่า นักลงทุนมาไหม ถ้าเจอะเจอแบบนี้ ต้องใช้แม่เหล็กตัวไหนดึงดูด ละเนี่ย
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 405
มีโอกาสไปดูบ้านพักฟื้นคนชรา (Trend สังคมผู้สูงวัย)
พอดีได้มีโอกาสไปดูบ้านพักฟื้นคนชรา เพราะว่า ญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้เข้าโรงพยาบาล จากอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้อ่อนแรงลง ซึ่งพวกเราเองก็ไม่รู้ว่าอาการอ่อนแรงเป็นเช่นไร แต่ถือว่ารู้ตัวเร็วเหมือนกัน
คือ ญาติผู้ใหญ่คนนี้ไม่สามารถพยุงตัวได้ (นั่งไม่ได้เลย) ทิ้งตัวบนที่นอนอย่างเดียว จึงต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาล
จากอาการดังกล่าว ทำให้ต้องทานอาหารทางสายยางที่สอดไปทางรูจมูก และต้องกายภาพบำบัด
ทั้งเรื่องการกลืนอาหาร การกระตุ้นการออกกำลังกาย (หรือภาษาง่ายๆคือ ผู้ป่วยนอนติดเตียงนั้นเอง)
ดังนั้นจึงได้ไปดูสถานที่พักฟื้นคนชรา หรือ ผู้ป่วย ซึ่งมีหลากหลายเกรดมากๆ (มีสมาคมที่รวมตัวของผู้ประกอบการด้านนี้โดยเฉพาะ) แต่ทว่ามาตราฐานก็ยังไม่ค่อยเป็นมาตรฐานเท่าไร แต่ทว่าที่ไปดูนั้นมี แบบว่า เกรด 5 ดาวไปยัง แบบทำเอง ดูแลเอง โดยเจ้าของส่วนใหญ่เป็น แพทย์หรือพยาบาล แต่ทว่ามีเป็นในรูปแบบห้างหรือบริษัทด้วยก็มี
ราคาก็แล้วแต่พื้นที่ แล้วก็สถานที่เลยทีเดียว
สิ่งที่ได้รับรู้ การเตรียมการสำหรับสังคมผู้สูงวัยว่าเป็นเช่นไร เรานั้นได้ดูหนังมาจากหนังฝรั่ง มีการถ่ายทำบ้านพักคนชราไว้ในเรื่องดังกล่าวนั้นเอง แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจอย่างจริงจังว่า อนาคตของตัวเราๆๆนั้นอยู่แบบไหนในอนาคต
ผู้ดูแลเราตอนแก่เป็นเช่นไร นั้นเอง
เข้าเรื่องต่อ บางที่ที่ไปดูนั้นมีบริการรถพยาบาลไปส่งให้ปลายทางฟรี หรือ คิดตามระยะทาง มีผู้ช่วยพยาบาลไปส่งและรอรับกลับด้วย เวลาฉุกเฉินก็สามารถส่งไปตามรายชื่อโรงพยาบาลที่แจ้งไว้เลย
Survey รอบนี้ทำให้เริ่มเข้าใจว่า ทำไมธุรกิจต่อไปของโรงพยาบาลควรที่จะขยายไปในแนวทางนี้ด้วย
พอดีได้มีโอกาสไปดูบ้านพักฟื้นคนชรา เพราะว่า ญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้เข้าโรงพยาบาล จากอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้อ่อนแรงลง ซึ่งพวกเราเองก็ไม่รู้ว่าอาการอ่อนแรงเป็นเช่นไร แต่ถือว่ารู้ตัวเร็วเหมือนกัน
คือ ญาติผู้ใหญ่คนนี้ไม่สามารถพยุงตัวได้ (นั่งไม่ได้เลย) ทิ้งตัวบนที่นอนอย่างเดียว จึงต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาล
จากอาการดังกล่าว ทำให้ต้องทานอาหารทางสายยางที่สอดไปทางรูจมูก และต้องกายภาพบำบัด
ทั้งเรื่องการกลืนอาหาร การกระตุ้นการออกกำลังกาย (หรือภาษาง่ายๆคือ ผู้ป่วยนอนติดเตียงนั้นเอง)
ดังนั้นจึงได้ไปดูสถานที่พักฟื้นคนชรา หรือ ผู้ป่วย ซึ่งมีหลากหลายเกรดมากๆ (มีสมาคมที่รวมตัวของผู้ประกอบการด้านนี้โดยเฉพาะ) แต่ทว่ามาตราฐานก็ยังไม่ค่อยเป็นมาตรฐานเท่าไร แต่ทว่าที่ไปดูนั้นมี แบบว่า เกรด 5 ดาวไปยัง แบบทำเอง ดูแลเอง โดยเจ้าของส่วนใหญ่เป็น แพทย์หรือพยาบาล แต่ทว่ามีเป็นในรูปแบบห้างหรือบริษัทด้วยก็มี
ราคาก็แล้วแต่พื้นที่ แล้วก็สถานที่เลยทีเดียว
สิ่งที่ได้รับรู้ การเตรียมการสำหรับสังคมผู้สูงวัยว่าเป็นเช่นไร เรานั้นได้ดูหนังมาจากหนังฝรั่ง มีการถ่ายทำบ้านพักคนชราไว้ในเรื่องดังกล่าวนั้นเอง แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจอย่างจริงจังว่า อนาคตของตัวเราๆๆนั้นอยู่แบบไหนในอนาคต
ผู้ดูแลเราตอนแก่เป็นเช่นไร นั้นเอง
เข้าเรื่องต่อ บางที่ที่ไปดูนั้นมีบริการรถพยาบาลไปส่งให้ปลายทางฟรี หรือ คิดตามระยะทาง มีผู้ช่วยพยาบาลไปส่งและรอรับกลับด้วย เวลาฉุกเฉินก็สามารถส่งไปตามรายชื่อโรงพยาบาลที่แจ้งไว้เลย
Survey รอบนี้ทำให้เริ่มเข้าใจว่า ทำไมธุรกิจต่อไปของโรงพยาบาลควรที่จะขยายไปในแนวทางนี้ด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 406
หลังจากโยนหินถามทางเรื่องการเก็บภาษีจากการลงทุนตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวมก็ออกมาให้ประชาวิจารณ์แล้ว
ร่าง พ.ร.บ. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม 2 - 23 พฤศจิกายน 2560
http://www.rd.go.th/publish/27683.0.html
ในร่างมีแค่ 6 มาตราเท่านั้นแต่มาตราที่สำคัญคือมาตราที่ 3 ที่แก้ไขประมวลกฏหมายรัฏษากร และมาตรา 4 และ 5
ขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขข
มาตรา ๓ ใหเพิ่มความตอไปนี้เปน (ซ) ของมาตรา 40 (4) แหงประมวลรัษฎากร
“(ซ) ดอกเบี้ยหรือผลตางระหวางราคาไถถอนกับราคาจําหนายตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กองทุนรวม
ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยไดรับจากผูออกตราสารแสดงสิทธิในหนี้
เพื่อประโยชนในการจัดเก็บภาษี เงินไดตามวรรคหนึ่งใหถือเปนเงินไดของผูถือหนวยลงทุน
ในกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพย”
มาตรา 4 ใหเพิ่มความตอไปนี้เปน (..) ของมาตรา 50 แหงประมวลรัษฎากร
“(..) ในกรณีเงินไดพึงประเมินตามมาตรา 40 (4) (ซ) ใหถือวา กองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
วาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยเปนผูจายเงินได และใหหักภาษีตามเกณฑที่กําหนดในมาตรา 3 เตรส”
มาตรา 5 บทบัญญัติตามมาตรา 3 ใหใชบังคับสําหรับเงินไดพึงประเมินประจําป พ.ศ. 2561
ที่จะตองยื่นรายการใน พ.ศ. 2562 เปนตนไป ซึ่งเกิดจากการซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้น
ตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยตั้งแตวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 เปนตนไป
ขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขข
งานนี้ประเด็นที่ชี้คือ มาตราที่ 3
ในเรื่องของดอกเบี้ย ไม่มีปัญหาอะไรคือดอกผลที่ประชาชนทั่วไปได้รับ หากกองทุนรวมทั้งปันผลออกมา
แต่ทว่าสิ่งที่เป็นประเด็นคือ "ผลตางระหวางราคาไถถอนกับราคาจําหนายตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กองทุนรวม"
ในการลงทุนนั้นมีเหรียญสองด้านคือ กำไรและขาดทุน หากเก็บภาษีจากกำไร แล้วขาดทุนนั้นทางออกของกรมสรรพากรคือ ให้เงินคืน หรือ ให้เพิ่มเครดิตภาษี แก่นักลงทุนที่ลงทุนแล้วขาดทุนหรือเปล่า ในเมื่อกำไรเก็บทุกกรณี
ดังนั้นเป็นใหญ่เลย เพราะกรมสรรพากร เก็บอย่างเดียว ไม่จ่ายออกให้ใครง่ายๆ อยู่แล้ว
ส่วนประเด็นต่อไปคือ ในมาตรา 4 น้น
"กองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยเปนผูจายเงินได้"
ทำให้เกิดประเด็นว่า กองทุน RMF ที่ลงทุนในตราสารหนี้ นั้นโดนหางเลขไปด้วย ไม่ใช่กองทุนตราสารหนี้ธรรมดา
ซึ่งมันไปขัดแย้งกับ นโยบายหลักของรัฐ ที่ส่งเสริมให้เกษียณอายุอย่างมีสุข มีเงินใช้ในยามแก่ชรา ดังนั้น ต้องชัดเจน
ไม่เพียงแต่ RMF เท่านั้น พวก MASTER FUND ที่มี Sub Fund เป็นกองทุนตราสารหนี้ นั้นโดนไปด้วยหรือเปล่า อันนี้ไม่ชัดเจน
แล้วนับรวมกับ กบข หรือเปล่า ถ้าไม่นับรวม กบข กลับกลายเป็นถ้าหากนับ RMF แล้วไม่เกิดความเสมอภาคของการบังคับใช้กฏหมายอีก ซึ่งไปเกี่ยวข้องกับ รัฐธรรมปี 2560 ที่ให้ความเสมอภาคแก่ประชาชน กลับกลายเป็น กบขไม่จัดตั้งขึ้นตามกฏหมานว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก็รอดไม่โดนบังคับใช้ไปในตัว เป็นการไม่เท่าเทียมกัน อันนี้ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ส่วนประเด็นสุดท้ายคือ มาตรา5 ทำไมต้องไปบังคับใช้ในปี 2561 แสดงว่า กฏหมายฉบับนี้ ใช้เวลาอีกอย่างน้อยซักพักใหญ่ๆ ถ้าหากรัฐออกมาในปี 2561 นั้นคือ อำนาจการต่อรองชั้นดี สำหรับปี 2561 ที่ประตูเปิดไปสู่การเลือกตั้ง
อันนี้เป็นประเด็นในความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น อาจจะมีคนเห็นเป็นอย่างอื่นๆได้
อีกอย่างวิจารณ์ในที่นี้คือ ติเพื่อก่อ ชี้ให้เห็นภาพ ไม่ใช่คัดค้านหรืออะไร แต่บอกกล่าวเพื่อกระตุ้นความสนใจในตัวบทกฏหมายด้วยความปรารถนาดี
ร่าง พ.ร.บ. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม 2 - 23 พฤศจิกายน 2560
http://www.rd.go.th/publish/27683.0.html
ในร่างมีแค่ 6 มาตราเท่านั้นแต่มาตราที่สำคัญคือมาตราที่ 3 ที่แก้ไขประมวลกฏหมายรัฏษากร และมาตรา 4 และ 5
ขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขข
มาตรา ๓ ใหเพิ่มความตอไปนี้เปน (ซ) ของมาตรา 40 (4) แหงประมวลรัษฎากร
“(ซ) ดอกเบี้ยหรือผลตางระหวางราคาไถถอนกับราคาจําหนายตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กองทุนรวม
ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยไดรับจากผูออกตราสารแสดงสิทธิในหนี้
เพื่อประโยชนในการจัดเก็บภาษี เงินไดตามวรรคหนึ่งใหถือเปนเงินไดของผูถือหนวยลงทุน
ในกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพย”
มาตรา 4 ใหเพิ่มความตอไปนี้เปน (..) ของมาตรา 50 แหงประมวลรัษฎากร
“(..) ในกรณีเงินไดพึงประเมินตามมาตรา 40 (4) (ซ) ใหถือวา กองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
วาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยเปนผูจายเงินได และใหหักภาษีตามเกณฑที่กําหนดในมาตรา 3 เตรส”
มาตรา 5 บทบัญญัติตามมาตรา 3 ใหใชบังคับสําหรับเงินไดพึงประเมินประจําป พ.ศ. 2561
ที่จะตองยื่นรายการใน พ.ศ. 2562 เปนตนไป ซึ่งเกิดจากการซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้น
ตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยตั้งแตวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 เปนตนไป
ขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขข
งานนี้ประเด็นที่ชี้คือ มาตราที่ 3
ในเรื่องของดอกเบี้ย ไม่มีปัญหาอะไรคือดอกผลที่ประชาชนทั่วไปได้รับ หากกองทุนรวมทั้งปันผลออกมา
แต่ทว่าสิ่งที่เป็นประเด็นคือ "ผลตางระหวางราคาไถถอนกับราคาจําหนายตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กองทุนรวม"
ในการลงทุนนั้นมีเหรียญสองด้านคือ กำไรและขาดทุน หากเก็บภาษีจากกำไร แล้วขาดทุนนั้นทางออกของกรมสรรพากรคือ ให้เงินคืน หรือ ให้เพิ่มเครดิตภาษี แก่นักลงทุนที่ลงทุนแล้วขาดทุนหรือเปล่า ในเมื่อกำไรเก็บทุกกรณี
ดังนั้นเป็นใหญ่เลย เพราะกรมสรรพากร เก็บอย่างเดียว ไม่จ่ายออกให้ใครง่ายๆ อยู่แล้ว
ส่วนประเด็นต่อไปคือ ในมาตรา 4 น้น
"กองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยเปนผูจายเงินได้"
ทำให้เกิดประเด็นว่า กองทุน RMF ที่ลงทุนในตราสารหนี้ นั้นโดนหางเลขไปด้วย ไม่ใช่กองทุนตราสารหนี้ธรรมดา
ซึ่งมันไปขัดแย้งกับ นโยบายหลักของรัฐ ที่ส่งเสริมให้เกษียณอายุอย่างมีสุข มีเงินใช้ในยามแก่ชรา ดังนั้น ต้องชัดเจน
ไม่เพียงแต่ RMF เท่านั้น พวก MASTER FUND ที่มี Sub Fund เป็นกองทุนตราสารหนี้ นั้นโดนไปด้วยหรือเปล่า อันนี้ไม่ชัดเจน
แล้วนับรวมกับ กบข หรือเปล่า ถ้าไม่นับรวม กบข กลับกลายเป็นถ้าหากนับ RMF แล้วไม่เกิดความเสมอภาคของการบังคับใช้กฏหมายอีก ซึ่งไปเกี่ยวข้องกับ รัฐธรรมปี 2560 ที่ให้ความเสมอภาคแก่ประชาชน กลับกลายเป็น กบขไม่จัดตั้งขึ้นตามกฏหมานว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก็รอดไม่โดนบังคับใช้ไปในตัว เป็นการไม่เท่าเทียมกัน อันนี้ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ส่วนประเด็นสุดท้ายคือ มาตรา5 ทำไมต้องไปบังคับใช้ในปี 2561 แสดงว่า กฏหมายฉบับนี้ ใช้เวลาอีกอย่างน้อยซักพักใหญ่ๆ ถ้าหากรัฐออกมาในปี 2561 นั้นคือ อำนาจการต่อรองชั้นดี สำหรับปี 2561 ที่ประตูเปิดไปสู่การเลือกตั้ง
อันนี้เป็นประเด็นในความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น อาจจะมีคนเห็นเป็นอย่างอื่นๆได้
อีกอย่างวิจารณ์ในที่นี้คือ ติเพื่อก่อ ชี้ให้เห็นภาพ ไม่ใช่คัดค้านหรืออะไร แต่บอกกล่าวเพื่อกระตุ้นความสนใจในตัวบทกฏหมายด้วยความปรารถนาดี
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 407
ถนนวิภาวดีรังสิต
ถนนวิภาวดีรังสิต นั้นเป็น ถนน Super highway ของประเทศไทย เป็นถนนที่วัดการจราจรภายในกรุงเทพเส้นหนึ่ง
ว่ามีความเร็วของยวดยานที่ใช้ถนนเป็นเช่นไร ได้ผ่านยุคสมัยที่เป็นถนนที่เป็นทางด่วน (ช่องทางด่วนนั้นคือ เส้นทางที่เก็บค่าผ่านทางในอดีตนั้นเอง โดยกรมทางหลวงแล้วมายกเลิกในภายหลัง) และทางธรรมดา (ช่องทางขนาน นั้นเอง)
ต่อมาก็ให้ประชาชนทั่วไปท้องถนนได้ทั้ง ทางด่วนและทางขนาน แล้วก็ก่อสร้าง ทางด่วนยกระดับคือดอนเมืองโทลล์เวย์ ข้างบนที่สูงมากๆ และได้สร้างถนนคู่ขายคือ Local Road เพิ่มเติม ขึ้นในช่วงที่ประเทศไทย จัดมหกรรมเอเชียนเกมส์ ช่วงปี 2540 นั้นเอง
ถนนนี้มีถนนที่เรียกได้ว่ามีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการเมืองหลายต่อหลายเหตุการณ์ด้วยกัน แต่ไม่กล่าวถึงละกัน
แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องกล่าวคือ เมื่อก่อนนี้มีสี่แยกด้วย แล้วมีสะพานข้ามแยก คือ แยกเกษตรและแยกหลักสี่ ยกระดับ แต่ในปัจจุบันไม่มีวิ่งทางราบอย่างเดียว โดยสะดานนั้นอยู่ช่องทางด่วนนั้นเอง เวลาที่ขับในช่องทางด่วน จะมีเนินนั้นคือตอม่อเดิม
ในปัจจุบันนี้ถนนวิภาวดีรังสิต นั้นเป็นถนนที่หลีกเลี่ยงการจราจรคับคั่ง สำหรับถนนพหลโยธินที่ก่อสร้าง เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่เพียงแค่นั้น ก็ยังการก่อสร้างสายสีแดงในเส้นทางถนน Local Road อีกต่างหาก
ไม่เพียงเท่านั้น ยังก่อสร้างแก้ไขปัญญาบริเวณสะพานกลับรถเข้าสนามบินดอนเมืองอีกต่างหาก
ดังนั้น น่าจะเป็นช่วงที่ ปริมาณรถยนต์ที่ใช้ ดอนเมืองโทลล์เวย์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลานี้
ซึ่งหากจริงแล้ว ถ้าหากการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่มีหลายเจ้ารับผิดชอบแล้วไม่มีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุชิ้นส่วนการก่อสร้างหลุดร่วงลงมา ก็เป็นอีกทางเลือกที่ใช้เป็นทางหนีที่ไล่ได้
ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีเส้นทางที่กำลังก่อสร้างทางทะลุจากศูนย์ราชการไปทะลุยังถนนเส้นนี้อยู่ เพื่อรองรับการก่อสร้าง ทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู่ในอนาคต ที่ก่อสร้างตามถนนแจ้งวัฒนะ นั้นเอง
ดังนั้น หากจริงแล้ว การก่อสร้างมันค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่าที่ มากระจุกตัว ทีเดียวกันแบบนี้นั้นเอง
ในอนาคตเหตุการณ์เช่นนี้ก็จะเกิดที่ฝั่งถนนคือ
ก่อสร้างสายสีน้ำเงิน สายสีทองและสายสีม่วง ในเวลาใกล้เคียงกันนั้นเอง ไม่เพียงแค่นั้น
ก่อสร้างเพื่อขยายสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน และขยายสะพานตากสิน ซึ่งจริงๆ แล้ว ในเรื่องของของรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสินนั้น ควรที่ไม่ทำทางเบียด ออกเท่านั้นควรทำเป็นทางตลอดช่วงเสร็จมากกว่า คือเพิ่มช่องทางจากบริเวณตีนสะพานไปเลย เป็นช่องทางที่ 4 เมื่อเสร็จแล้วค่อยทำการปิดช่องทางริมที่ติดกับตัวสถานี แล้วค่อยก่อสร้าง ทำให้ช่องทางบนสะพานตากสินยังคงเป็น 3 ช่องทาง มิใช่ ทำเป็นทางเบียดด้านบน ซึ่งพฤติกรรมคือ เกิดทางเบียดขึ้น ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะผู้ขับขี่อาจจะลืมหักเข้าช่อง เพราะความเคยชิน
ยอมเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้ชีวิตของผู้ขับขี่ปลอดภัยขึ้นดีกว่าไหมหนอ (เป็นการบ้านที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาไว้ละกัน คือ กรมทางหลวงชนบท,กรุงเทพมหานคร ,BTSC เป็นหลัก)
ชีวิตคนนั้นสำคัญกว่าอะไรๆ นั้นเอง
ส่วนสายสีทองนัั้นกว่าจะเริ่มก็ปี 2562 แต่จริงแล้วทำไมไม่ทำให้มันเป็นสายราชบูรณะทีเดียวไปเลย ไม่ใช่ว่า 4 สถานีเพียงพอแล้ว ต้องทำทีทั้งสายเลยดีกว่า ยาวไปเลย ขนานไปกับถนนสมเด็จเจ้าพระยาและเจริญนคร แล้วเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงิน + สายสีม่วง และสายสีลมไปเลยทีเดียว น่าจะดีกว่าไหมละ
ถนนวิภาวดีรังสิต นั้นเป็น ถนน Super highway ของประเทศไทย เป็นถนนที่วัดการจราจรภายในกรุงเทพเส้นหนึ่ง
ว่ามีความเร็วของยวดยานที่ใช้ถนนเป็นเช่นไร ได้ผ่านยุคสมัยที่เป็นถนนที่เป็นทางด่วน (ช่องทางด่วนนั้นคือ เส้นทางที่เก็บค่าผ่านทางในอดีตนั้นเอง โดยกรมทางหลวงแล้วมายกเลิกในภายหลัง) และทางธรรมดา (ช่องทางขนาน นั้นเอง)
ต่อมาก็ให้ประชาชนทั่วไปท้องถนนได้ทั้ง ทางด่วนและทางขนาน แล้วก็ก่อสร้าง ทางด่วนยกระดับคือดอนเมืองโทลล์เวย์ ข้างบนที่สูงมากๆ และได้สร้างถนนคู่ขายคือ Local Road เพิ่มเติม ขึ้นในช่วงที่ประเทศไทย จัดมหกรรมเอเชียนเกมส์ ช่วงปี 2540 นั้นเอง
ถนนนี้มีถนนที่เรียกได้ว่ามีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการเมืองหลายต่อหลายเหตุการณ์ด้วยกัน แต่ไม่กล่าวถึงละกัน
แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องกล่าวคือ เมื่อก่อนนี้มีสี่แยกด้วย แล้วมีสะพานข้ามแยก คือ แยกเกษตรและแยกหลักสี่ ยกระดับ แต่ในปัจจุบันไม่มีวิ่งทางราบอย่างเดียว โดยสะดานนั้นอยู่ช่องทางด่วนนั้นเอง เวลาที่ขับในช่องทางด่วน จะมีเนินนั้นคือตอม่อเดิม
ในปัจจุบันนี้ถนนวิภาวดีรังสิต นั้นเป็นถนนที่หลีกเลี่ยงการจราจรคับคั่ง สำหรับถนนพหลโยธินที่ก่อสร้าง เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่เพียงแค่นั้น ก็ยังการก่อสร้างสายสีแดงในเส้นทางถนน Local Road อีกต่างหาก
ไม่เพียงเท่านั้น ยังก่อสร้างแก้ไขปัญญาบริเวณสะพานกลับรถเข้าสนามบินดอนเมืองอีกต่างหาก
ดังนั้น น่าจะเป็นช่วงที่ ปริมาณรถยนต์ที่ใช้ ดอนเมืองโทลล์เวย์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลานี้
ซึ่งหากจริงแล้ว ถ้าหากการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่มีหลายเจ้ารับผิดชอบแล้วไม่มีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุชิ้นส่วนการก่อสร้างหลุดร่วงลงมา ก็เป็นอีกทางเลือกที่ใช้เป็นทางหนีที่ไล่ได้
ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีเส้นทางที่กำลังก่อสร้างทางทะลุจากศูนย์ราชการไปทะลุยังถนนเส้นนี้อยู่ เพื่อรองรับการก่อสร้าง ทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู่ในอนาคต ที่ก่อสร้างตามถนนแจ้งวัฒนะ นั้นเอง
ดังนั้น หากจริงแล้ว การก่อสร้างมันค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่าที่ มากระจุกตัว ทีเดียวกันแบบนี้นั้นเอง
ในอนาคตเหตุการณ์เช่นนี้ก็จะเกิดที่ฝั่งถนนคือ
ก่อสร้างสายสีน้ำเงิน สายสีทองและสายสีม่วง ในเวลาใกล้เคียงกันนั้นเอง ไม่เพียงแค่นั้น
ก่อสร้างเพื่อขยายสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน และขยายสะพานตากสิน ซึ่งจริงๆ แล้ว ในเรื่องของของรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสินนั้น ควรที่ไม่ทำทางเบียด ออกเท่านั้นควรทำเป็นทางตลอดช่วงเสร็จมากกว่า คือเพิ่มช่องทางจากบริเวณตีนสะพานไปเลย เป็นช่องทางที่ 4 เมื่อเสร็จแล้วค่อยทำการปิดช่องทางริมที่ติดกับตัวสถานี แล้วค่อยก่อสร้าง ทำให้ช่องทางบนสะพานตากสินยังคงเป็น 3 ช่องทาง มิใช่ ทำเป็นทางเบียดด้านบน ซึ่งพฤติกรรมคือ เกิดทางเบียดขึ้น ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะผู้ขับขี่อาจจะลืมหักเข้าช่อง เพราะความเคยชิน
ยอมเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้ชีวิตของผู้ขับขี่ปลอดภัยขึ้นดีกว่าไหมหนอ (เป็นการบ้านที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาไว้ละกัน คือ กรมทางหลวงชนบท,กรุงเทพมหานคร ,BTSC เป็นหลัก)
ชีวิตคนนั้นสำคัญกว่าอะไรๆ นั้นเอง
ส่วนสายสีทองนัั้นกว่าจะเริ่มก็ปี 2562 แต่จริงแล้วทำไมไม่ทำให้มันเป็นสายราชบูรณะทีเดียวไปเลย ไม่ใช่ว่า 4 สถานีเพียงพอแล้ว ต้องทำทีทั้งสายเลยดีกว่า ยาวไปเลย ขนานไปกับถนนสมเด็จเจ้าพระยาและเจริญนคร แล้วเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงิน + สายสีม่วง และสายสีลมไปเลยทีเดียว น่าจะดีกว่าไหมละ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 408
ถึงเวลาเดินหน้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย
ตอนนี้มีประกาศจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัย์ที่เกี่ยวข้องกับ
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ลงในราชกิจจานุเษกษา
แสดงว่าปีหน้าน่าจะได้เห็นกองทุนนี้เป็นจริงเป็นจังซักที่
ตอนนี้การซื้อขายของตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น
เพียงพอรองรับการเข้ามากองทุนรวมดังกล่าวแล้ว
นั้นคือ ฐานเงินเริ่มขยายเพื่อรองรับ กองทุนมูลค่าที่เกิน 30,000 ล้านบาทขึ้นไป นั้นเอง
เมื่อกองทุนนี้เข้าระดมทุน ก็น่าสนใจว่า step ต่อไป คือ ประมูลคลื่น 900 MHz และ 1800MHz นั้นใช้เวลา
เท่าไรในการสร้างเม็ดเงินในระบบอีกละเนี่ย
ชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. ๔๔/๒๕๖๐ เรื่อง รายละเอียดของโครงการจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ฉบับที่ ๒)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/26.PDF
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. ๔๕/๒๕๖๐ เรื่อง หนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/27.PDF
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สม. ๔๖/๒๕๖๐ เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ ๔๖)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/28.PDF
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กน. ๒๔/๒๕๖๐ เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการกู้ยืมเงินในนามของกองทุนรวมและการก่อภาระผูกพันแก่ทรัพย์สินของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (ฉบับที่ ๕)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 30.PDF[url]
[/url]ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. ๕๒/๒๕๖๐ เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ฉบับที่ ๒)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/31.PDF
ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. ๕๓/๒๕๖๐ เรื่อง การเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยต่อประชาชนและการจัดการกองทุนรวม
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/33.PDF
ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. ๕๔/๒๕๖๐ เรื่อง ข้อผูกพันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยกับบริษัทจัดการกองทุนรวม (ฉบับที่ ๒)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/40.PDF
ตอนนี้มีประกาศจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัย์ที่เกี่ยวข้องกับ
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ลงในราชกิจจานุเษกษา
แสดงว่าปีหน้าน่าจะได้เห็นกองทุนนี้เป็นจริงเป็นจังซักที่
ตอนนี้การซื้อขายของตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น
เพียงพอรองรับการเข้ามากองทุนรวมดังกล่าวแล้ว
นั้นคือ ฐานเงินเริ่มขยายเพื่อรองรับ กองทุนมูลค่าที่เกิน 30,000 ล้านบาทขึ้นไป นั้นเอง
เมื่อกองทุนนี้เข้าระดมทุน ก็น่าสนใจว่า step ต่อไป คือ ประมูลคลื่น 900 MHz และ 1800MHz นั้นใช้เวลา
เท่าไรในการสร้างเม็ดเงินในระบบอีกละเนี่ย
ชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. ๔๔/๒๕๖๐ เรื่อง รายละเอียดของโครงการจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ฉบับที่ ๒)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/26.PDF
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. ๔๕/๒๕๖๐ เรื่อง หนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/27.PDF
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สม. ๔๖/๒๕๖๐ เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ ๔๖)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/28.PDF
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กน. ๒๔/๒๕๖๐ เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการกู้ยืมเงินในนามของกองทุนรวมและการก่อภาระผูกพันแก่ทรัพย์สินของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (ฉบับที่ ๕)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 30.PDF[url]
[/url]ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. ๕๒/๒๕๖๐ เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ฉบับที่ ๒)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/31.PDF
ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. ๕๓/๒๕๖๐ เรื่อง การเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยต่อประชาชนและการจัดการกองทุนรวม
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/33.PDF
ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. ๕๔/๒๕๖๐ เรื่อง ข้อผูกพันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยกับบริษัทจัดการกองทุนรวม (ฉบับที่ ๒)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 280/40.PDF
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 409
การเปลี่ยนแปลงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐปี 2560
เขียนไว้ให้อ่านกันลืมว่า การเปลี่ยนแปลงการจัดซื้อจัดจ้้างภาครัฐ ปี 2560 นั้น
ผลมันมีตั้งแต่ปลายเดือน สิงหาคม 2560 แล้ว ซึ่งเป็นปลายปีงบประมาณ 2560 ต่อช่วง ปีงบประมาณ 2561
ปีงบประมาณของภาครัฐเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี และหมดปีงบประมาณ คือวันที่ 30 กันยายน ของทุกปีเหมือนกัน
ตอนนี้การจัดซื้อจัดจ้าง ล่าช้าประมาณ 2 เดือน สำหรับโครงการทุกระดับ (ตอนนี้มีสองอย่างใหญ่ๆคือ
E-bidding และ เฉพาะเจาะจง ) แยกกันที่งบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง คือ เส้นมันแบ่งที่ 500,000 บาท
E-bidding นั้นคือมากกว่า 500,000 บาท ส่วนเฉพาะเจาะจง ต่ำกว่า 500,000 บาท
E-bidding ยื่นที่ web site ส่วนเฉพาะเจาะจง ยื่นที่หน่วยงานที่จัดซื้อจัดจ้างโดยตรงเลย
ทำไมเกิดการล่าช้าในช่วงระยะเวลา สิงหาคม ถึงตุลาคม 2560 เพราะทุกคน เกิด ????? ว่าทำตัวเช่นไร
โครงการเดิมก็โดยระงับการจัดซื้อจัดจ้างหากยังไม่ประมูล หรือ ขึ้นประกาศ ก่อนปลายเดือน สิงหาคม 2560
เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็รอความชัดเจน และการอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างของแต่ละหน่วยงาน
(ย้ำว่าอบรมแต่ข้าราชการ แต่ เอกชน หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ไม่ได้อบรมด้วย) มันเล่นเกิดความล่าช้า
ว่ากว่าทำความเข้าใจ กว่าจะระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างออกมา และเริ่มเดินเครื่องได้ ก็ผ่านกลางเดือนพฤศจิกายน 2560 ไปแล้วนั้นเอง
คราวนี้แหละ ถ้าหาก เดินเครื่องได้แป๊บเดียวก็ติดวันหยุดปลายปี อีกครั้งหนึ่ง ต้องดูว่า เรื่องที่คาราคาซังอยู่ นั้นเร่งรัดได้แค่ไหน
มีข่าวเล่าอ้างกันว่า Web site ของ การจัดซื้อจัดจ้างกลาง ของภาครัฐนั้นชอบล้มบ่อยๆ ในการยื่นการประกวดราคา E-bidding แถมกฏของการยื่น E-bidding คือ ยื่นราคาได้เพียงครั้งเดียว ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น
ซึ่งไม่เหมือน E-auction ที่ต้องเดินทางไปสถานที่เคาะราคา ซึ่งเป็นสถานที่กลาง เห็นหน้าผู้ที่เคาะราคา ว่ามีใครบ้าง และ เห็นว่า ใครชนะหรือแพ้หลังจากออกจากห้อง หรือ ไม่ก็ไม่มีการประกาศ แล้วแต่หน่วยงาน หรือสถานที่เคาะ E-auction ครั้งนั้นๆ
งานนี้ต้องวัดกันว่า การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ตัวใหม่นี้ ลดราคาได้แค่ไหน แล้วขจัดการฮั้ว หรือ การคอรัปชั่นได้แค่ไหน ต้องมาดูกันต่อไป (ดูกันยาวๆ)
เขียนไว้ให้อ่านกันลืมว่า การเปลี่ยนแปลงการจัดซื้อจัดจ้้างภาครัฐ ปี 2560 นั้น
ผลมันมีตั้งแต่ปลายเดือน สิงหาคม 2560 แล้ว ซึ่งเป็นปลายปีงบประมาณ 2560 ต่อช่วง ปีงบประมาณ 2561
ปีงบประมาณของภาครัฐเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี และหมดปีงบประมาณ คือวันที่ 30 กันยายน ของทุกปีเหมือนกัน
ตอนนี้การจัดซื้อจัดจ้าง ล่าช้าประมาณ 2 เดือน สำหรับโครงการทุกระดับ (ตอนนี้มีสองอย่างใหญ่ๆคือ
E-bidding และ เฉพาะเจาะจง ) แยกกันที่งบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง คือ เส้นมันแบ่งที่ 500,000 บาท
E-bidding นั้นคือมากกว่า 500,000 บาท ส่วนเฉพาะเจาะจง ต่ำกว่า 500,000 บาท
E-bidding ยื่นที่ web site ส่วนเฉพาะเจาะจง ยื่นที่หน่วยงานที่จัดซื้อจัดจ้างโดยตรงเลย
ทำไมเกิดการล่าช้าในช่วงระยะเวลา สิงหาคม ถึงตุลาคม 2560 เพราะทุกคน เกิด ????? ว่าทำตัวเช่นไร
โครงการเดิมก็โดยระงับการจัดซื้อจัดจ้างหากยังไม่ประมูล หรือ ขึ้นประกาศ ก่อนปลายเดือน สิงหาคม 2560
เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็รอความชัดเจน และการอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างของแต่ละหน่วยงาน
(ย้ำว่าอบรมแต่ข้าราชการ แต่ เอกชน หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ไม่ได้อบรมด้วย) มันเล่นเกิดความล่าช้า
ว่ากว่าทำความเข้าใจ กว่าจะระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างออกมา และเริ่มเดินเครื่องได้ ก็ผ่านกลางเดือนพฤศจิกายน 2560 ไปแล้วนั้นเอง
คราวนี้แหละ ถ้าหาก เดินเครื่องได้แป๊บเดียวก็ติดวันหยุดปลายปี อีกครั้งหนึ่ง ต้องดูว่า เรื่องที่คาราคาซังอยู่ นั้นเร่งรัดได้แค่ไหน
มีข่าวเล่าอ้างกันว่า Web site ของ การจัดซื้อจัดจ้างกลาง ของภาครัฐนั้นชอบล้มบ่อยๆ ในการยื่นการประกวดราคา E-bidding แถมกฏของการยื่น E-bidding คือ ยื่นราคาได้เพียงครั้งเดียว ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น
ซึ่งไม่เหมือน E-auction ที่ต้องเดินทางไปสถานที่เคาะราคา ซึ่งเป็นสถานที่กลาง เห็นหน้าผู้ที่เคาะราคา ว่ามีใครบ้าง และ เห็นว่า ใครชนะหรือแพ้หลังจากออกจากห้อง หรือ ไม่ก็ไม่มีการประกาศ แล้วแต่หน่วยงาน หรือสถานที่เคาะ E-auction ครั้งนั้นๆ
งานนี้ต้องวัดกันว่า การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ตัวใหม่นี้ ลดราคาได้แค่ไหน แล้วขจัดการฮั้ว หรือ การคอรัปชั่นได้แค่ไหน ต้องมาดูกันต่อไป (ดูกันยาวๆ)
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 410
รถโดยสารร่วมประจำทาง (รถร่วมบริการขสมก)
ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการรถประจำทางสายแปดอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่เริ่มทำงานที่แรก จนกระทั่งตอนที่ย้ายบ้านจากฝั่งพระนครไปอยู่ฝั่งธน
รถประจำทางที่ได้ใช้บริการประจำคือ รถประจำทางสายแปดที่เป็นสายที่เรียกได้ว่า โทรเข้าแจ้งปัญหากับ สายด่วน ขสมก ติดอันดับทุกวัน ไม่ว่าจะแซง/เบียด/แย่งลูกค้า/ปาดหน้า/ไม่เหยียบเบรกเมื่อขึ้นหรือลงสะพาน .....
แต่สิ่งที่สังเกตได้ว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้พฤติกรรมของรถร่วมบริการนั้น เป็นเช่นนั้น เพราะว่า คนขับ และกระเป๋ากินส่วนแบ่งจากการขายตั๋ว หรือ ก็ต้องเช่ารถประจำทางขับ ถ้าหากไม่มีประชาชนขึ้นรถของเค้ามากก็ทำไปทำไมหนอ เรียกได้ว่าหาเช้ากินค่ำ ไม่เพียงแค่ แข่งกันเท่านั้น สภาพของรถ ก็เรียกได้ว่า สู้รถประจำทางไม่ได้ โดยเฉพาะที่นั่ง
ที่นั่งบนรถร่วมประจำทาง ขสมก นั้นมี ทั้ง แคบ และ โดนถอดออกให้ประชาชนยืนให้มากที่สุด ส่วนที่เก้าอี้หายไปมาที่สุดคือ คือแถวสุดท้ายก่อนเบาะหลังรถ เป็นพื้นที่กว้างที่สุดของรถร่วมบริการเพื่อให้ประชาชนขึ้นมาได้มากที่สุดนั้นเอง
สิ่งที่เพิ่มรายได้ของคนขับและกระเป๋าคือ จำนวนเที่ยวที่สามารถขับได้ /จำนวนประชาชนที่โดยสาร นั้นเอง ดังนั้น คนขับและกระเป๋า อาศัยความจำว่า เวลาเท่าไร ต้องขับถึงที่ไหน จำนวนผู้โดยสารนั้นขึ้นมาใช้บริการมากแค่ไหน เรียกได้ว่ารู้ว่า ควรขับมาแต่ละตำแหน่งเมื่อไร จุดไหนมีผู้โดยสารขึ้นหรือลงเท่าไร นั้นเอง เรียกได้ว่า ใช้ความจำล้วนๆเลยทีเดียว
ความปลอดภัย ก็ต้องมาด้วย ยิ่งเมื่อก่อนนี้ เบียดกันเป็นปลากระป๋องนั้น ผู้หญิงก็ต้องทนเพราะว่ารอรถประจำทางนาน ก็ต้องมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แล้วสมัยนี้มีอะไรป้องกันเรียกพวกนี้ได้หนอ
การให้ผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นในระบบขนส่งนั้น ไม่จำเป็นต้องทำจนถึงระดับที่เรียกว่า ถอดเอาเก้าอี้ออก เพิ่มอย่างอื่นๆแทนก็สามารถทำได้ ความถี่หรือความจุ แต่เปลี่ยนแปลงแค่เก้าอี้นั้น แสดงว่าไม่ค่อยมีเงินในการเพิ่มเติมอย่างอื่น นักลงทุนก็ควรที่เข้าไปดูหน่อยว่า เอ๋!? ทำไมทำเช่นนั้นแหละ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการรถประจำทางสายแปดอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่เริ่มทำงานที่แรก จนกระทั่งตอนที่ย้ายบ้านจากฝั่งพระนครไปอยู่ฝั่งธน
รถประจำทางที่ได้ใช้บริการประจำคือ รถประจำทางสายแปดที่เป็นสายที่เรียกได้ว่า โทรเข้าแจ้งปัญหากับ สายด่วน ขสมก ติดอันดับทุกวัน ไม่ว่าจะแซง/เบียด/แย่งลูกค้า/ปาดหน้า/ไม่เหยียบเบรกเมื่อขึ้นหรือลงสะพาน .....
แต่สิ่งที่สังเกตได้ว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้พฤติกรรมของรถร่วมบริการนั้น เป็นเช่นนั้น เพราะว่า คนขับ และกระเป๋ากินส่วนแบ่งจากการขายตั๋ว หรือ ก็ต้องเช่ารถประจำทางขับ ถ้าหากไม่มีประชาชนขึ้นรถของเค้ามากก็ทำไปทำไมหนอ เรียกได้ว่าหาเช้ากินค่ำ ไม่เพียงแค่ แข่งกันเท่านั้น สภาพของรถ ก็เรียกได้ว่า สู้รถประจำทางไม่ได้ โดยเฉพาะที่นั่ง
ที่นั่งบนรถร่วมประจำทาง ขสมก นั้นมี ทั้ง แคบ และ โดนถอดออกให้ประชาชนยืนให้มากที่สุด ส่วนที่เก้าอี้หายไปมาที่สุดคือ คือแถวสุดท้ายก่อนเบาะหลังรถ เป็นพื้นที่กว้างที่สุดของรถร่วมบริการเพื่อให้ประชาชนขึ้นมาได้มากที่สุดนั้นเอง
สิ่งที่เพิ่มรายได้ของคนขับและกระเป๋าคือ จำนวนเที่ยวที่สามารถขับได้ /จำนวนประชาชนที่โดยสาร นั้นเอง ดังนั้น คนขับและกระเป๋า อาศัยความจำว่า เวลาเท่าไร ต้องขับถึงที่ไหน จำนวนผู้โดยสารนั้นขึ้นมาใช้บริการมากแค่ไหน เรียกได้ว่ารู้ว่า ควรขับมาแต่ละตำแหน่งเมื่อไร จุดไหนมีผู้โดยสารขึ้นหรือลงเท่าไร นั้นเอง เรียกได้ว่า ใช้ความจำล้วนๆเลยทีเดียว
ความปลอดภัย ก็ต้องมาด้วย ยิ่งเมื่อก่อนนี้ เบียดกันเป็นปลากระป๋องนั้น ผู้หญิงก็ต้องทนเพราะว่ารอรถประจำทางนาน ก็ต้องมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แล้วสมัยนี้มีอะไรป้องกันเรียกพวกนี้ได้หนอ
การให้ผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นในระบบขนส่งนั้น ไม่จำเป็นต้องทำจนถึงระดับที่เรียกว่า ถอดเอาเก้าอี้ออก เพิ่มอย่างอื่นๆแทนก็สามารถทำได้ ความถี่หรือความจุ แต่เปลี่ยนแปลงแค่เก้าอี้นั้น แสดงว่าไม่ค่อยมีเงินในการเพิ่มเติมอย่างอื่น นักลงทุนก็ควรที่เข้าไปดูหน่อยว่า เอ๋!? ทำไมทำเช่นนั้นแหละ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 411
ควอนตัม ในหน่วยประมวลผลกลาง มันมาแล้ว
ตอนนี้ ได้มีคำมาใหม่ล่าสุดในวงการประมวลผลกลาง (CPU) คือ qubit
อันนี้ต้องบอกว่า พื้นฐานของหน่วยประมวลผลในปัจจุบันให้ Bit มีค่ 0 กับ 1 คือเปิดและปิดเท่านั้น
ที่ใช้ในการประมวลผล แต่ เมื่อเป็น qubit คือ มันเป็นได้ทั้ง สี่ฐานะเลยทีเดียวที่เป็นไปได้
งง ละซิเนี่ย แต่มันประมวลผลปัญหาซับซ้อนได้ดีกว่า หน่วยประมวลผลกลาง ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมากมาย
แก้ไขปัญหาโจทย์ยากได้ลดลงมากมาย (วัดกันที่หน่วย Big O ซึ่งเป็นหน่วยวัดในวิชา Algorithm)
ถ้าหากเร็วสุดคือ เส้นตรง แต่ปัญหาเจอะเจอที่เป็น exponential (เลขกำลัง) หรือ factorial (1! คือ 1 ,2! คือ 1x2 ,3! คือ 1x2x3) นั้นเอง
มันต้องเกิดการลดรูปของปัญหาลงเพื่อให้สามารถแก้ไขสมการได้ง่ายขึ้น ลดเวลาได้มากขึ้น นั้นเอง
สิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้ qubit ทำงานนั้นคือ อุณหภูมิที่ทำงานนั้นคือ เกือบศูนย์องศาสมบูรณ์อยู่ที่ -273 องศาเซลเซียส (ขาดไปอีก 0.15 เอง)
และตอนนี้มีอยู่ยี่ห้อที่ผลิตคือ D-WAVE กับ IBM ตอนนี้พัฒนากันได้ 2048 qubits งานนี้ super computer มีหนาวเพราะ ว่า เร็วและประหยัดพลังงานด้วย แต่ เวลา ต้องใช้เวลาพัฒนาอีกซักพักหนึ่งกว่าจะไปถึง ระดับนั้น แต่เริ่มแล้วแหละ
ปล. จริงๆ ตอนนี้ หน่วยประมวลผลกลางที่เราใช้กันมากที่สุดคือ ARM ลองไปหาดู เป็นบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษ
ไม่ได้ผลิตหน่วยประมวลผล แต่ เป็นคนออกแบบหน่วยประมวลผล ซึ่งแตกต่างกับ Intel และ AMD ที่ทั้งออกแบบผลิตนั้นเอง เน้นไปที่การประหยัดพลังงงานเป็นหลัก
อุปกรณ์ที่ใช้ มีตั้งแต่ มือถือ,tablet ,รถยนต์,healthcare,IoT,Infrastruture (เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ก็มีออกมาแล้ว ทำให้ Intel ยื่นฟ้อง MS เรื่องการเอาตัวแปลงภาษา X86 เป็นภาษาที่ ARM ทำงานได้)
ARM ไม่โดยกฏหมายเรื่องผูกขาดสินค้า เพราะว่า เค้าไม่ใช่ผู้ผลิตแต่เป็นผู้ออกแบบเท่านั้น แปลกไหมแหละ
ที่ Intel ,MS เคยโดยสอบสวนในเรื่องนี้
ลองไปดูกันละกัน ตอนนี้สนุกแหละ โลกกำลังเปลี่ยนไป จาก ยุค X86 เป็น ARM หรือ QUBit กันแน่
ตอนนี้ ได้มีคำมาใหม่ล่าสุดในวงการประมวลผลกลาง (CPU) คือ qubit
อันนี้ต้องบอกว่า พื้นฐานของหน่วยประมวลผลในปัจจุบันให้ Bit มีค่ 0 กับ 1 คือเปิดและปิดเท่านั้น
ที่ใช้ในการประมวลผล แต่ เมื่อเป็น qubit คือ มันเป็นได้ทั้ง สี่ฐานะเลยทีเดียวที่เป็นไปได้
งง ละซิเนี่ย แต่มันประมวลผลปัญหาซับซ้อนได้ดีกว่า หน่วยประมวลผลกลาง ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมากมาย
แก้ไขปัญหาโจทย์ยากได้ลดลงมากมาย (วัดกันที่หน่วย Big O ซึ่งเป็นหน่วยวัดในวิชา Algorithm)
ถ้าหากเร็วสุดคือ เส้นตรง แต่ปัญหาเจอะเจอที่เป็น exponential (เลขกำลัง) หรือ factorial (1! คือ 1 ,2! คือ 1x2 ,3! คือ 1x2x3) นั้นเอง
มันต้องเกิดการลดรูปของปัญหาลงเพื่อให้สามารถแก้ไขสมการได้ง่ายขึ้น ลดเวลาได้มากขึ้น นั้นเอง
สิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้ qubit ทำงานนั้นคือ อุณหภูมิที่ทำงานนั้นคือ เกือบศูนย์องศาสมบูรณ์อยู่ที่ -273 องศาเซลเซียส (ขาดไปอีก 0.15 เอง)
และตอนนี้มีอยู่ยี่ห้อที่ผลิตคือ D-WAVE กับ IBM ตอนนี้พัฒนากันได้ 2048 qubits งานนี้ super computer มีหนาวเพราะ ว่า เร็วและประหยัดพลังงานด้วย แต่ เวลา ต้องใช้เวลาพัฒนาอีกซักพักหนึ่งกว่าจะไปถึง ระดับนั้น แต่เริ่มแล้วแหละ
ปล. จริงๆ ตอนนี้ หน่วยประมวลผลกลางที่เราใช้กันมากที่สุดคือ ARM ลองไปหาดู เป็นบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษ
ไม่ได้ผลิตหน่วยประมวลผล แต่ เป็นคนออกแบบหน่วยประมวลผล ซึ่งแตกต่างกับ Intel และ AMD ที่ทั้งออกแบบผลิตนั้นเอง เน้นไปที่การประหยัดพลังงงานเป็นหลัก
อุปกรณ์ที่ใช้ มีตั้งแต่ มือถือ,tablet ,รถยนต์,healthcare,IoT,Infrastruture (เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ก็มีออกมาแล้ว ทำให้ Intel ยื่นฟ้อง MS เรื่องการเอาตัวแปลงภาษา X86 เป็นภาษาที่ ARM ทำงานได้)
ARM ไม่โดยกฏหมายเรื่องผูกขาดสินค้า เพราะว่า เค้าไม่ใช่ผู้ผลิตแต่เป็นผู้ออกแบบเท่านั้น แปลกไหมแหละ
ที่ Intel ,MS เคยโดยสอบสวนในเรื่องนี้
ลองไปดูกันละกัน ตอนนี้สนุกแหละ โลกกำลังเปลี่ยนไป จาก ยุค X86 เป็น ARM หรือ QUBit กันแน่
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 412
ทำไมตอนนี้ มหาวิทยาลัยปิดหลักสูตรกัน
มีคำถามที่กำลังจะเกิดขึ้นในวงการศึกษาของไทยในยุคหลังจากปี 2560 เป็นต้นไปคือ
การปิดหลักสูตรของสถานบันการศึกษา โดยก่อนหน้านี้แข่งกันเปิดหลักสูตร แต่ทว่า ในปัจจุบันเริ่มมีให้เห็นว่าปิดหลักสูตรกันแล้ว ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นแหละ
สิ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญอันดับแรกคือ จำนวนการเกิดของประชากร ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
หลังจาก 2535 ที่มีจำนวนการเกิดสูง เป็นรุ่น Generation ที่ตอนนี้คือจบปริญญาไปแล้วนั้นเอง
จุดนี้ทำให้หลักสูตรต้องเริ่มปรับตัวกัน
อันดับที่สองคือ การมาถึงการเปิดฟรีของหลักสูตรเรียนที่ส่งมาจากต่างประเทศ อันนี้ค่อยๆคืบคลานออกมา จากแรงกดดัน ของ US เป็นสำคัญ ที่คุณสามารถหาวิชาที่เปิดสอนในไอวีก ได้เลย แถมเป็นของ ฟรีอีกต่างหาก
หรือ บางหลักสูตรเสียเงินโดยที่คุณไม่ต้องบินไปนั่งเรียนที่ห้องเรียนอีกต่อไป
อย่างที่สามที่เกิดขึ้นคือ ปัจจุบันความรู้มันไม่ใช่อยู่ในห้องเรียนอีกต่อไปแล้ว ความรู้อยู่ที่โลกภายนอกห้องเรียน
ถ้ามองย้อนกลับไป นั้นคือ การเรียนรู้มันเกิดจากภายนอกห้องเรียนมากกว่าภายในห้องเรียน ชีวิตต้องเรียนรู้ตลอดเวลานั้นเอง
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วงการศึกษาของไทยก็ใกล้จะได้เวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว
มีคำถามที่กำลังจะเกิดขึ้นในวงการศึกษาของไทยในยุคหลังจากปี 2560 เป็นต้นไปคือ
การปิดหลักสูตรของสถานบันการศึกษา โดยก่อนหน้านี้แข่งกันเปิดหลักสูตร แต่ทว่า ในปัจจุบันเริ่มมีให้เห็นว่าปิดหลักสูตรกันแล้ว ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นแหละ
สิ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญอันดับแรกคือ จำนวนการเกิดของประชากร ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
หลังจาก 2535 ที่มีจำนวนการเกิดสูง เป็นรุ่น Generation ที่ตอนนี้คือจบปริญญาไปแล้วนั้นเอง
จุดนี้ทำให้หลักสูตรต้องเริ่มปรับตัวกัน
อันดับที่สองคือ การมาถึงการเปิดฟรีของหลักสูตรเรียนที่ส่งมาจากต่างประเทศ อันนี้ค่อยๆคืบคลานออกมา จากแรงกดดัน ของ US เป็นสำคัญ ที่คุณสามารถหาวิชาที่เปิดสอนในไอวีก ได้เลย แถมเป็นของ ฟรีอีกต่างหาก
หรือ บางหลักสูตรเสียเงินโดยที่คุณไม่ต้องบินไปนั่งเรียนที่ห้องเรียนอีกต่อไป
อย่างที่สามที่เกิดขึ้นคือ ปัจจุบันความรู้มันไม่ใช่อยู่ในห้องเรียนอีกต่อไปแล้ว ความรู้อยู่ที่โลกภายนอกห้องเรียน
ถ้ามองย้อนกลับไป นั้นคือ การเรียนรู้มันเกิดจากภายนอกห้องเรียนมากกว่าภายในห้องเรียน ชีวิตต้องเรียนรู้ตลอดเวลานั้นเอง
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วงการศึกษาของไทยก็ใกล้จะได้เวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 413
ทำในสิ่งที่เราเชื่อว่ามันทำได้
หลายต่อหลายครั้ง นักลงทุน ไม่กล้าที่ลงทุนในเวลาที่นั่งมองบริษัทที่ดีนั้นมีปัญหา เพราะความกลัวว่าปัญหานั้นเป็นปัญหาระยะยาวหรือปัญหาระยะสั้น สิ่งหนึ่งที่เจอะเจอประจำตลอดการลงทุน เลยทีเดียว
ถ้าหากตัดสินใจพลาดนั้นคือ ขาดทุนยับ กับกิจการใดกิจการหนึ่ง แต่ถ้าหากพลิกฟื้นคืนชีพกลับมาได้ ก็ได้ผลตอบแทนหลายเด้ง ขอเพียงแค่ คุณทำให้มันเกิดแค่ 3 ใน 10 ครั้งคุณก็สามารถร่ำรวยได้
แล้วทำไมสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะว่า คุณเชื่อมั่นว่า สิ่งนั้น สามารถทำได้ หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ Buy idea ที่นำเสนอว่า มันสามารถทำได้ ในอนาคต
แต่บ้างครั้ง มันก็ขายฝันเกินไป ก็มี แล้วอะไรที่ตัดสินใจว่า ใส่เงินลงไปในบริษัทที่คิดว่า ดูดี ขายฝันในอนาคต
อันนี้เป็นคำถามที่ตอบได้ยากมากๆ เพราะว่า ทุกวันนี้ ธุรกิจมันเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมากๆ เกิด disruption ขึ้นมา บริษัทขนาดใหญ่ล้มข้ามคืนได้ ถ้าหากเลิกใช้ หรือ ไม่มีวัตถุดิบส่งมาเป็นเชื้อในการทำผลิตภัณฑ์ออกมา
แต่อย่างไรก็ตาม บางคนคิดว่า บ้าไปแล้ว ที่จะส่วนกระแส คือลงทุนในธุรกิจที่ขาลงหรือ Sun set แต่ทว่ามันก็มีดีอยู่เหมือนกัน ถ้าหากคุณมองไปยังตลาดอเมริกา (ไม่เอาตลาดไทย เพราะอายุน้อยมากๆ คือประมาณ 43 ปีเท่านั้น) ที่นั้น บริษัทที่จดทะเบียนที่มีอายุเกิน 100 ปี แล้วยังทำธุรกิจเดิมอยู่ได้ มีไม่ถึง 10 บริษัท มันแปลกไหมละ
ดังนั้น หากการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จงเชื่อในสิ่งเราควรเชื่อ ว่ามันทำได้ สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ลองถามคนใกล้ตัวว่ามันดีหรือเปล่า ก็แค่นั้น ลองฟังเสียงคนรอบข้างดูว่าตอบสนองอย่างไร เป็นการคัดค้านเราไปในตัวนั้นเอง
บ้างครั้งเข้าถ้ำเสือ ได้ลูกเสือกลับบ้าน แต่บ้างครั้งก็โดยเสือขย้ำเป็นเรื่องของธรรมชาติ
มุมมองเดียวกันแต่คนมองในคนละบริบท
หลายต่อหลายครั้ง นักลงทุน ไม่กล้าที่ลงทุนในเวลาที่นั่งมองบริษัทที่ดีนั้นมีปัญหา เพราะความกลัวว่าปัญหานั้นเป็นปัญหาระยะยาวหรือปัญหาระยะสั้น สิ่งหนึ่งที่เจอะเจอประจำตลอดการลงทุน เลยทีเดียว
ถ้าหากตัดสินใจพลาดนั้นคือ ขาดทุนยับ กับกิจการใดกิจการหนึ่ง แต่ถ้าหากพลิกฟื้นคืนชีพกลับมาได้ ก็ได้ผลตอบแทนหลายเด้ง ขอเพียงแค่ คุณทำให้มันเกิดแค่ 3 ใน 10 ครั้งคุณก็สามารถร่ำรวยได้
แล้วทำไมสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะว่า คุณเชื่อมั่นว่า สิ่งนั้น สามารถทำได้ หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ Buy idea ที่นำเสนอว่า มันสามารถทำได้ ในอนาคต
แต่บ้างครั้ง มันก็ขายฝันเกินไป ก็มี แล้วอะไรที่ตัดสินใจว่า ใส่เงินลงไปในบริษัทที่คิดว่า ดูดี ขายฝันในอนาคต
อันนี้เป็นคำถามที่ตอบได้ยากมากๆ เพราะว่า ทุกวันนี้ ธุรกิจมันเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมากๆ เกิด disruption ขึ้นมา บริษัทขนาดใหญ่ล้มข้ามคืนได้ ถ้าหากเลิกใช้ หรือ ไม่มีวัตถุดิบส่งมาเป็นเชื้อในการทำผลิตภัณฑ์ออกมา
แต่อย่างไรก็ตาม บางคนคิดว่า บ้าไปแล้ว ที่จะส่วนกระแส คือลงทุนในธุรกิจที่ขาลงหรือ Sun set แต่ทว่ามันก็มีดีอยู่เหมือนกัน ถ้าหากคุณมองไปยังตลาดอเมริกา (ไม่เอาตลาดไทย เพราะอายุน้อยมากๆ คือประมาณ 43 ปีเท่านั้น) ที่นั้น บริษัทที่จดทะเบียนที่มีอายุเกิน 100 ปี แล้วยังทำธุรกิจเดิมอยู่ได้ มีไม่ถึง 10 บริษัท มันแปลกไหมละ
ดังนั้น หากการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จงเชื่อในสิ่งเราควรเชื่อ ว่ามันทำได้ สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ลองถามคนใกล้ตัวว่ามันดีหรือเปล่า ก็แค่นั้น ลองฟังเสียงคนรอบข้างดูว่าตอบสนองอย่างไร เป็นการคัดค้านเราไปในตัวนั้นเอง
บ้างครั้งเข้าถ้ำเสือ ได้ลูกเสือกลับบ้าน แต่บ้างครั้งก็โดยเสือขย้ำเป็นเรื่องของธรรมชาติ
มุมมองเดียวกันแต่คนมองในคนละบริบท
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 414
เรื่องของ Yield Curve ที่ไม่ควรมองข้ามไป
ณ ปัจจุบัน ผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ของไทยและ สหรัฐ นั้นเท่ากัน คือ 1.5%
แต่ทว่า สิ่งที่มองข้ามไปคือ ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระ ที่ไทยยังอยู่ที่ระดับ BBB อยู่
แต่ของ สหรัฐ นั้นอยู่ระดับ AA อยู่
ถ้าหากมองในด้านความเสี่ยงต่อผลตอบแทนแล้ว นั้นคือ นักลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ควรที่ไปลงทุนที่ US
มากกว่าลงทุนที่ประเทศไทย เพราะผลตอบแทนเท่ากัน แต่ความเสี่ยงนั้นน้อยกว่าที่ไทย
ดังนั้น ที่บอกว่า เงินไม่ไหลออกจากตลาดพันธบัตร นั้น ตามทฤษฏีด้านการเงิน เงินไหลออกจากไทยไป US นั้นเอง
แต่ทว่า เหตุการณ์กลับตาลปัตรกลายเป็น อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยนั้นลดลงด้วย
มันก็น่าแปลกใจอยู่ว่า เป็นเช่นนี้เพราะมองว่า ประเทศไทยเติบโตต่อในอนาคต หรือว่า
เงินมันไม่มีที่ไป ต้องการพักรออะไรซักอย่างในอนาคตหรือเปล่า น่าสงสัยละกัน
ณ ปัจจุบัน ผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ของไทยและ สหรัฐ นั้นเท่ากัน คือ 1.5%
แต่ทว่า สิ่งที่มองข้ามไปคือ ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระ ที่ไทยยังอยู่ที่ระดับ BBB อยู่
แต่ของ สหรัฐ นั้นอยู่ระดับ AA อยู่
ถ้าหากมองในด้านความเสี่ยงต่อผลตอบแทนแล้ว นั้นคือ นักลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ควรที่ไปลงทุนที่ US
มากกว่าลงทุนที่ประเทศไทย เพราะผลตอบแทนเท่ากัน แต่ความเสี่ยงนั้นน้อยกว่าที่ไทย
ดังนั้น ที่บอกว่า เงินไม่ไหลออกจากตลาดพันธบัตร นั้น ตามทฤษฏีด้านการเงิน เงินไหลออกจากไทยไป US นั้นเอง
แต่ทว่า เหตุการณ์กลับตาลปัตรกลายเป็น อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยนั้นลดลงด้วย
มันก็น่าแปลกใจอยู่ว่า เป็นเช่นนี้เพราะมองว่า ประเทศไทยเติบโตต่อในอนาคต หรือว่า
เงินมันไม่มีที่ไป ต้องการพักรออะไรซักอย่างในอนาคตหรือเปล่า น่าสงสัยละกัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 108
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 415
พี่ miracle ดูข้อมูลต่างๆของตลาดพันธบัตรของแต่ละประเทศที่ไหนหรอครับmiracle เขียน:เรื่องของ Yield Curve ที่ไม่ควรมองข้ามไป
ณ ปัจจุบัน ผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ของไทยและ สหรัฐ นั้นเท่ากัน คือ 1.5%
แต่ทว่า สิ่งที่มองข้ามไปคือ ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระ ที่ไทยยังอยู่ที่ระดับ BBB อยู่
แต่ของ สหรัฐ นั้นอยู่ระดับ AA อยู่
ถ้าหากมองในด้านความเสี่ยงต่อผลตอบแทนแล้ว นั้นคือ นักลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ควรที่ไปลงทุนที่ US
มากกว่าลงทุนที่ประเทศไทย เพราะผลตอบแทนเท่ากัน แต่ความเสี่ยงนั้นน้อยกว่าที่ไทย
ดังนั้น ที่บอกว่า เงินไม่ไหลออกจากตลาดพันธบัตร นั้น ตามทฤษฏีด้านการเงิน เงินไหลออกจากไทยไป US นั้นเอง
แต่ทว่า เหตุการณ์กลับตาลปัตรกลายเป็น อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยนั้นลดลงด้วย
มันก็น่าแปลกใจอยู่ว่า เป็นเช่นนี้เพราะมองว่า ประเทศไทยเติบโตต่อในอนาคต หรือว่า
เงินมันไม่มีที่ไป ต้องการพักรออะไรซักอย่างในอนาคตหรือเปล่า น่าสงสัยละกัน
ขอบคุณครับ
- Catchphrase! -
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 416
https://tradingeconomics.com/ แนะนำเว็บนี้ครับข้อมูลหลากหลายและค่อนข้างครบ สำหรับหุ้นที่อิงดัชนีระดับ global เว็บนี้น่าจะมีข้อมูลที่จำเป็นเกือบทั้งหมดครับMoopama เขียน:พี่ miracle ดูข้อมูลต่างๆของตลาดพันธบัตรของแต่ละประเทศที่ไหนหรอครับmiracle เขียน:เรื่องของ Yield Curve ที่ไม่ควรมองข้ามไป
ณ ปัจจุบัน ผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ของไทยและ สหรัฐ นั้นเท่ากัน คือ 1.5%
แต่ทว่า สิ่งที่มองข้ามไปคือ ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระ ที่ไทยยังอยู่ที่ระดับ BBB อยู่
แต่ของ สหรัฐ นั้นอยู่ระดับ AA อยู่
ถ้าหากมองในด้านความเสี่ยงต่อผลตอบแทนแล้ว นั้นคือ นักลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ควรที่ไปลงทุนที่ US
มากกว่าลงทุนที่ประเทศไทย เพราะผลตอบแทนเท่ากัน แต่ความเสี่ยงนั้นน้อยกว่าที่ไทย
ดังนั้น ที่บอกว่า เงินไม่ไหลออกจากตลาดพันธบัตร นั้น ตามทฤษฏีด้านการเงิน เงินไหลออกจากไทยไป US นั้นเอง
แต่ทว่า เหตุการณ์กลับตาลปัตรกลายเป็น อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยนั้นลดลงด้วย
มันก็น่าแปลกใจอยู่ว่า เป็นเช่นนี้เพราะมองว่า ประเทศไทยเติบโตต่อในอนาคต หรือว่า
เงินมันไม่มีที่ไป ต้องการพักรออะไรซักอย่างในอนาคตหรือเปล่า น่าสงสัยละกัน
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 417
ดูจากหลายๆๆแหล่งครับMoopama เขียน:
พี่ miracle ดูข้อมูลต่างๆของตลาดพันธบัตรของแต่ละประเทศที่ไหนหรอครับ
ขอบคุณครับ
ประกอบกัน มีตั้งแต่ Boomberg ,Wiki ในบางเรื่องหน้าหากต้องการข้อมูล ,https://tradingeconomics.com/ ที่คุณtawatkub แนะนำ บางที่ไปคุ้ยที่ Worldbank หรือ IMF ก็มี ในบ้างโอกาส
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 419
All time new High
ตั้งแต่ตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดตั้งมา นั้น ดัชนี ไม่เคยทะลุจุดสูงสุดก่อนต้มยำกุ้งปี 2540 คือ
1,789.16 จุด เมื่อเดือนมกราคม 2537 นั้นเอง แต่มาวันนี้ (4 มกราคม 2561) เป็นวันทำการที่สองของปี 2561
ดัชนีตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งมา คือ 1,791.02 จุด เป็นเวลานาน
47 ปีกว่าๆเกือบ 48 ปีที่จัดตั้ง ตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้นมา (ไม่นับก่อนหน้านั้นที่มีละกัน)
ตลาดเพื่อนบ้านหรือตลาดอื่นๆ นั้นได้ทำลายดัชนีสูงสุด ตั้งแต่ยุคต้มยำกุ้งหรือยุคแฮมเบอร์เกอร์ ไปนานแล้ว
แต่ดัชนีของประเทศไทย เพิ่งสามารถทำลายล้างกำแพงดังกล่าวได้ แต่ดีกว่าไม่ได้ทำลายล้างจุดสูงสุดเดิมไปได้นั้นเอง
ตอนนี้ได้แต่หวังว่า สิ่งนี้ที่ทำให้นักลงทุน ชื่นใจหายไปเร็วเกินไป ล่ะกัน
ตอนนี้บรรยายกาศในการลงทุนถือว่าเหมาะสม ในการระดมทุนเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนเริ่มมองโลกในแง่ดี
นักลงทุนแนวพื้นฐานหรือแนวเน้นคุณค่า ก็ทำงานกันหนักหน่วงมากขึ้นในการหาบริษัทที่ต่ำกว่ามูลค่าซื้อขายให้ได้นั้นเอง ดังนั้น ปีนี้ก็เป็นอีกปีที่หาบริษัทแบบที่ต้องการยากเป็นอย่างยิ่ง ก็ต้องดูกันเรื่อยๆ โอกาสใน 1 ปีที่ซื้อบริษัทที่เหมาะสมนั้น มันมีน้อยมากๆ ดังนั้นต้องใจเย็นๆในการลงทุน แต่หากใครที่ต้องการลงทุนตามกระแสช่วงนี้เป็นช่วงของท่านจริงๆ
ตั้งแต่ตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดตั้งมา นั้น ดัชนี ไม่เคยทะลุจุดสูงสุดก่อนต้มยำกุ้งปี 2540 คือ
1,789.16 จุด เมื่อเดือนมกราคม 2537 นั้นเอง แต่มาวันนี้ (4 มกราคม 2561) เป็นวันทำการที่สองของปี 2561
ดัชนีตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งมา คือ 1,791.02 จุด เป็นเวลานาน
47 ปีกว่าๆเกือบ 48 ปีที่จัดตั้ง ตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้นมา (ไม่นับก่อนหน้านั้นที่มีละกัน)
ตลาดเพื่อนบ้านหรือตลาดอื่นๆ นั้นได้ทำลายดัชนีสูงสุด ตั้งแต่ยุคต้มยำกุ้งหรือยุคแฮมเบอร์เกอร์ ไปนานแล้ว
แต่ดัชนีของประเทศไทย เพิ่งสามารถทำลายล้างกำแพงดังกล่าวได้ แต่ดีกว่าไม่ได้ทำลายล้างจุดสูงสุดเดิมไปได้นั้นเอง
ตอนนี้ได้แต่หวังว่า สิ่งนี้ที่ทำให้นักลงทุน ชื่นใจหายไปเร็วเกินไป ล่ะกัน
ตอนนี้บรรยายกาศในการลงทุนถือว่าเหมาะสม ในการระดมทุนเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนเริ่มมองโลกในแง่ดี
นักลงทุนแนวพื้นฐานหรือแนวเน้นคุณค่า ก็ทำงานกันหนักหน่วงมากขึ้นในการหาบริษัทที่ต่ำกว่ามูลค่าซื้อขายให้ได้นั้นเอง ดังนั้น ปีนี้ก็เป็นอีกปีที่หาบริษัทแบบที่ต้องการยากเป็นอย่างยิ่ง ก็ต้องดูกันเรื่อยๆ โอกาสใน 1 ปีที่ซื้อบริษัทที่เหมาะสมนั้น มันมีน้อยมากๆ ดังนั้นต้องใจเย็นๆในการลงทุน แต่หากใครที่ต้องการลงทุนตามกระแสช่วงนี้เป็นช่วงของท่านจริงๆ
- Renne
- Verified User
- โพสต์: 322
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่
โพสต์ที่ 420
กลับกลายเป็นว่าตลาดดอู้ฟู่แบบนี้ สำหรับผมดันเป็นสภาพตลาดที่ลงทุนยากซะอย่างงั้น
คือบางครั้งมันไม่ใช่เรื่องการวิเคราะห์งบการเงิินหรือแค่เฟ้นหาหุ้นนะครับ แต่เป็นเรื่อง
ของจิตใจ ที่บางทีเห็นตลาดไปไว หุ้นบางตัวพุ่งแรงแล้วใจมันหวิว บางตัว holding ไว้
ก็ต้องมีระบายปล่อยของออกเร็วกว่าที่คาด จนต้องกลับมานั่งนึกนั่งท่อง ทบทวนว่า
หุ้นตัวนั้นที่เราซื้อไป เราซื้อด้วยเหตุผลอะไร
เลยกลายเป็นว่า ตลาดคึกคักแบบนี้ วัดใจผมมากกว่าสภาพตลาดที่ซบเซาเสียอีก
จากปรกติิเป็นคนนิ่งมากๆ กลายเป็นไม่นิ่งซะงั้น ฮะๆ
คือบางครั้งมันไม่ใช่เรื่องการวิเคราะห์งบการเงิินหรือแค่เฟ้นหาหุ้นนะครับ แต่เป็นเรื่อง
ของจิตใจ ที่บางทีเห็นตลาดไปไว หุ้นบางตัวพุ่งแรงแล้วใจมันหวิว บางตัว holding ไว้
ก็ต้องมีระบายปล่อยของออกเร็วกว่าที่คาด จนต้องกลับมานั่งนึกนั่งท่อง ทบทวนว่า
หุ้นตัวนั้นที่เราซื้อไป เราซื้อด้วยเหตุผลอะไร
เลยกลายเป็นว่า ตลาดคึกคักแบบนี้ วัดใจผมมากกว่าสภาพตลาดที่ซบเซาเสียอีก
จากปรกติิเป็นคนนิ่งมากๆ กลายเป็นไม่นิ่งซะงั้น ฮะๆ
"มีสติ คิดก่อนทำ และอย่าดูถูกตลาดมากเกินไป"
"เป็นเรื่องง่ายที่จะถือหุ้นเอาไว้ให้นานและี่ยากที่จะรอซื้อในราคาที่เหมาะสม"
"เป็นเรื่องง่ายที่จะถือหุ้นเอาไว้ให้นานและี่ยากที่จะรอซื้อในราคาที่เหมาะสม"