โพสต์
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=61215
สรุปงานสังสรรค์วีไอ 2/60
ช่วงท้ายมีมุมมองของ อาจารย์ตี่ เรื่องธรรมะด้วยครับ อยากให้เพื่อนลองอ่านดูครับ
VI หาดใหญ่
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2942
กองทุนเวียดนาม ที่เลือกหุ้นโดยบลจ CIMB Principle ( Seminar knowledge Page )
หลังจากที่บลจ CIMB พูดในงานmoney talk เรื่องการเปิดตัวกองทุนรวมที่ไปลงทุนในเวียดนาม
ผมเลยอยากแชร์มุมมองของผมสำหรับกองทุนรวมของบลจไทยกองแรกที่ลงในตลาดหุ้นเวียดนามทั้ง100%
ก่อนหน้านี้มีบลจ กรุงไทย ไปลงทุนเวียดนามในสัดส่วนแค่40%ของport
กองนี้มีสัดส่วนหุ้นในเวียดนาม ( บลจ CIMB เลือกหุ้น200ตัวที่ไม่ติดเรื่องFOL
และจะมาเลือกหุ้นเข้ามาอยู่ในportอีกที)คิดเป็น 60-70% ของportและ
อีก30-40% ลงทุนในETF ซึ่งผมคิดว่าเป็น VN30 ETF ซึ่งจะมีหุ้นธนาคารอยู่17.1% ซึ่งเป็นsectorที่
PEสูงกว่าธนาคารในไทย และผมเคยฟัง ดร นิเวศน์ว่า ความโปร่งใสในการบริหารสู้ธนาคารในไทยไม่ได้
แต่มีไว้เพราะหุ้นที่ดีๆ ตอนนี้ต้องซื้อในราคาpremium7-30%เช่น Vinamilk
ถ้าซื้อหุ้นเหล่านี้ใส่มาในportต้องmark to market lost ทันที ดังนั้นผมเข้าใจว่าทางแก้ไขคือ
อยากมีหุ้นดีๆมาอยู่ในport โดยใช้วิธีซื้อETF VN30แทน และ มีสภาพคล่องในการซื้อ และ ขายกว่าหุ้นพอสมควร
ผมสรุปข้อดีและข้อเสียของกองทุนนี้ในความคิดเห็นของผม
มาให้สำหรับคนที่สนใจครับ
ข้อดีของกองทุนนี้
1.สำหรับคนที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นที่ราคายังไม่แพง คล้ายไทยเมื่อ20ปีก่อน มีโอกาสเติบโตเหมือนไทย
2.ต่างชาติเข้าไปลงทุนในเวียดนามมากมาย ทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตขึ้น ทำให้การบริโภคในประเทศสูงขึ้น เราสามารถไปแชร์เรื่องการเติบโตกับเวียดนามได้ผ่านกองทุนรวมที่ไปลงทุนบริษัทต่างๆในเวียดนามได้
3.เราสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมนี้ และ ได้ผลตอบแทนอย่างน้อยเท่ากับดัชนีของตลาดหุ้นเวียดนาม
4.ไม่ต้องปวดหัวในการศึกษาหุ้นเวียดนาม เพราะส่วนใหญ่เป็นภาษาเวียดนาม ทำความเข้าใจยาก
5.ลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาทในกองทุนรวม เทียบกับลงทุนหุ้นเอง ต้องใช้เงินมากกว่านี้
6.ถือเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งในportfoiloเพื่อทำให้พอร์ตกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น
7.ถ้าตลาดหุ้นเวียดนามซึ่งเป็นตลาดชายขอบ ได้รับการอัปเกรดเป็นตลาดเกิดใหม่
ทำให้ราคาหุ้นโตได้อีกเยอะจากสถาบันต่างประเทศเข้ามาลงทุนมากขึ้น
ข้อเสีย
1.สำหรับนักลงทุนที่ปกติชอบศึกษาบริษัทเอง อาจไม่ชอบลงทุนผ่านกองทุนรวมเพราะต้องเสีย
ค่าบริหารให้กับกองทุนรวม และ ไม่ได้ใช้ฝีมือตัวเองในการวิเคราะห์บริษัท
2.ส่วนของETF ซึ่งมีหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งอาจไม่ชอบบางบริษัทที่ราคาแพงไป แต่ต้องซื้อไปด้วย
3.เรายังไม่รู้ความสามารถของผู้จัดการกองทุนว่าเก่งขนาดไหน ข้อนี้แก้ไขโดยอาจรอให้ผลประการออกมาแน่ชัดก่อนแล้วค่อยลงทุนก็ได้
4.สำหรับคนที่ลงในระยะสั้น อาจไม่เหมาะเพื่อต้องถือกองทุนมากกว่า1ปีขึ้นไป เพื่อรอให้เวียดนามเติบโต เราจะได้ประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้น
5. ไม่ควรนำเงินที่สามารถลงทุนได้แค่ระยะสั้นเช่น 3-6เดือนมาลงกองทุนนี้เพราะสามารถขายได้ทุกๆ6เดือน
สุดท้ายก็เป็นการตัดสินใจของนักลงทุนเองว่าเหมาะกับเราหรือไม่
หลังจากที่บลจ CIMB พูดในงานmoney talk เรื่องการเปิดตัวกองทุนรวมที่ไปลงทุนในเวียดนาม
ผมเลยอยากแชร์มุมมองของผมสำหรับกองทุนรวมของบลจไทยกองแรกที่ลงในตลาดหุ้นเวียดนามทั้ง100%
ก่อนหน้านี้มีบลจ กรุงไทย ไปลงทุนเวียดนามในสัดส่วนแค่40%ของport
กองนี้มีสัดส่วนหุ้นในเวียดนาม ( บลจ CIMB เลือกหุ้น200ตัวที่ไม่ติดเรื่องFOL
และจะมาเลือกหุ้นเข้ามาอยู่ในportอีกที)คิดเป็น 60-70% ของportและ
อีก30-40% ลงทุนในETF ซึ่งผมคิดว่าเป็น VN30 ETF ซึ่งจะมีหุ้นธนาคารอยู่17.1% ซึ่งเป็นsectorที่
PEสูงกว่าธนาคารในไทย และผมเคยฟัง ดร นิเวศน์ว่า ความโปร่งใสในการบริหารสู้ธนาคารในไทยไม่ได้
แต่มีไว้เพราะหุ้นที่ดีๆ ตอนนี้ต้องซื้อในราคาpremium7-30%เช่น Vinamilk
ถ้าซื้อหุ้นเหล่านี้ใส่มาในportต้องmark to market lost ทันที ดังนั้นผมเข้าใจว่าทางแก้ไขคือ
อยากมีหุ้นดีๆมาอยู่ในport โดยใช้วิธีซื้อETF VN30แทน และ มีสภาพคล่องในการซื้อ และ ขายกว่าหุ้นพอสมควร
ผมสรุปข้อดีและข้อเสียของกองทุนนี้ในความคิดเห็นของผม
มาให้สำหรับคนที่สนใจครับ
ข้อดีของกองทุนนี้
1.สำหรับคนที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นที่ราคายังไม่แพง คล้ายไทยเมื่อ20ปีก่อน มีโอกาสเติบโตเหมือนไทย
2.ต่างชาติเข้าไปลงทุนในเวียดนามมากมาย ทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตขึ้น ทำให้การบริโภคในประเทศสูงขึ้น เราสามารถไปแชร์เรื่องการเติบโตกับเวียดนามได้ผ่านกองทุนรวมที่ไปลงทุนบริษัทต่างๆในเวียดนามได้
3.เราสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมนี้ และ ได้ผลตอบแทนอย่างน้อยเท่ากับดัชนีของตลาดหุ้นเวียดนาม
4.ไม่ต้องปวดหัวในการศึกษาหุ้นเวียดนาม เพราะส่วนใหญ่เป็นภาษาเวียดนาม ทำความเข้าใจยาก
5.ลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาทในกองทุนรวม เทียบกับลงทุนหุ้นเอง ต้องใช้เงินมากกว่านี้
6.ถือเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งในportfoiloเพื่อทำให้พอร์ตกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น
7.ถ้าตลาดหุ้นเวียดนามซึ่งเป็นตลาดชายขอบ ได้รับการอัปเกรดเป็นตลาดเกิดใหม่
ทำให้ราคาหุ้นโตได้อีกเยอะจากสถาบันต่างประเทศเข้ามาลงทุนมากขึ้น
ข้อเสีย
1.สำหรับนักลงทุนที่ปกติชอบศึกษาบริษัทเอง อาจไม่ชอบลงทุนผ่านกองทุนรวมเพราะต้องเสีย
ค่าบริหารให้กับกองทุนรวม และ ไม่ได้ใช้ฝีมือตัวเองในการวิเคราะห์บริษัท
2.ส่วนของETF ซึ่งมีหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งอาจไม่ชอบบางบริษัทที่ราคาแพงไป แต่ต้องซื้อไปด้วย
3.เรายังไม่รู้ความสามารถของผู้จัดการกองทุนว่าเก่งขนาดไหน ข้อนี้แก้ไขโดยอาจรอให้ผลประการออกมาแน่ชัดก่อนแล้วค่อยลงทุนก็ได้
4.สำหรับคนที่ลงในระยะสั้น อาจไม่เหมาะเพื่อต้องถือกองทุนมากกว่า1ปีขึ้นไป เพื่อรอให้เวียดนามเติบโต เราจะได้ประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้น
5. ไม่ควรนำเงินที่สามารถลงทุนได้แค่ระยะสั้นเช่น 3-6เดือนมาลงกองทุนนี้เพราะสามารถขายได้ทุกๆ6เดือน
สุดท้ายก็เป็นการตัดสินใจของนักลงทุนเองว่าเหมาะกับเราหรือไม่
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2943
วันนี้ 19 กย 17 ทางIntuch ได้มาพูดคุยถามตอบที่ บล โนมูระ ผมเลยขอสรุปเฉพาะส่วนถามตอบมาฝากห้องVI หาดใหญ่ครับ
Q: อยากขอทราบความคืบหน้าของAISสนซื้อCS Loxinfo จาก Intuch
A: เรายื่นจดหมาย Letter of content ไปแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงDue diligent น่าจะเสร็จกลางตค
ตอนนี้ Fix broadband รายได้โตขึ้น และ CS มีลูกค้าองค์กรที่แข็งแรงมาก สามารถช่วยให้AISเติบโตได้เร็วขึ้น
รวมทั้งCS มี ทำdata centerอยู่แล้ว จะช่วยลดต้นทุนให้กับAISที่จะทำcloudด้วย
ดังนั้น AIS ถือว่าปลดhidden asset ของ CS loxinfoออกมา
ความเห็นของผม
ดูแล้วโอกาสเป็นไปได้สูงที่ดีลนี้สำเร็จ เป็นการจัดassetท่ีคล้ายกันอยู่ด้วยกัน และ ช่วยเหลือกันได้
ลดต้นทุน และ ทำให้ธุรกิจโตเร็วขึ้นด้วย
Q: ธุรกิจ Invent ถ้าประสบความสำเร็จ จะได้อะไรบ้าง และ เรามีหลักเกณฑ์อย่างไรในการเลือกลงทุน
A: เราเป็นผู้ถือหุ้น ถ้าเข้าตลาดMAI เราก็มีทางเลือก เช่น ขายหุ้นออกไป หรือ รักษาสัดส่วนต่อไป
โดยปกติเราลงทุนไม่เกิน30%ในแต่ละบริษัท ตอนนี้ทั้งหมด 10 บริษัท มี2 บริษัท ที่มีโอกาสเข้าตลาดMai
คือ Oakbee ,Digio
เรามีหลักเกณฑ์ในการเลือก โดยดูจากวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจ ความคิดของผู้บริหาร และสุดท้ายคือ
การประเมินมูลค่าของบริษัทที่จะลงทุน
ผมว่า2บริษัทนี้มีโอกาสเข้าตลาดMAI สูงครับ
Q: การขยายเข้าไปใน Home shopping เรามีแผนกระจายความเสี่ยงอย่างไร
A: สัดส่วนcontributeไม่มากแต่มีแนวโน้มเติบโตดี มีสินค้าหลากหลายแล้วแต่ว่าแต่ละช่วงผู้บริโภคต้องการอะไร
หรือที่อื่นเสนอขายอะไรบ้าง มองว่าจะเติบโตในอนาคตอีกมาก
ผมคิดว่า น่าจะโตได้เยอะเหมือนกับ RSที่ทำคล้ายๆแบบนี้ โดยมีช่องทีวีช่วยโปรโมต
Q: รายได้จากเงินปันผลจะเป็นอย่างไร ถ้าAIS ประมูลคลื่นได้ในปีหน้าอีก
A: เรามีการคำนึงถึงตั้งแต่ต้น เราจึงปรับเปลี่ยนการจ่ายปันผลเป็นอย่างต่ำ 70%ของกำไร เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
ในการทำธุรกิจต่อไป ส่วนปันผลมากน้อยขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทลูก
ดูท่าจะได้ปันผลน้อยลง แต่ถ้าพอใจ ก็ถือต่อได้ครับ
สุดท้ายขอขอบคุณทางบล โนมูระ และ ทางIntuchมากครับ
Q: อยากขอทราบความคืบหน้าของAISสนซื้อCS Loxinfo จาก Intuch
A: เรายื่นจดหมาย Letter of content ไปแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงDue diligent น่าจะเสร็จกลางตค
ตอนนี้ Fix broadband รายได้โตขึ้น และ CS มีลูกค้าองค์กรที่แข็งแรงมาก สามารถช่วยให้AISเติบโตได้เร็วขึ้น
รวมทั้งCS มี ทำdata centerอยู่แล้ว จะช่วยลดต้นทุนให้กับAISที่จะทำcloudด้วย
ดังนั้น AIS ถือว่าปลดhidden asset ของ CS loxinfoออกมา
ความเห็นของผม
ดูแล้วโอกาสเป็นไปได้สูงที่ดีลนี้สำเร็จ เป็นการจัดassetท่ีคล้ายกันอยู่ด้วยกัน และ ช่วยเหลือกันได้
ลดต้นทุน และ ทำให้ธุรกิจโตเร็วขึ้นด้วย
Q: ธุรกิจ Invent ถ้าประสบความสำเร็จ จะได้อะไรบ้าง และ เรามีหลักเกณฑ์อย่างไรในการเลือกลงทุน
A: เราเป็นผู้ถือหุ้น ถ้าเข้าตลาดMAI เราก็มีทางเลือก เช่น ขายหุ้นออกไป หรือ รักษาสัดส่วนต่อไป
โดยปกติเราลงทุนไม่เกิน30%ในแต่ละบริษัท ตอนนี้ทั้งหมด 10 บริษัท มี2 บริษัท ที่มีโอกาสเข้าตลาดMai
คือ Oakbee ,Digio
เรามีหลักเกณฑ์ในการเลือก โดยดูจากวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจ ความคิดของผู้บริหาร และสุดท้ายคือ
การประเมินมูลค่าของบริษัทที่จะลงทุน
ผมว่า2บริษัทนี้มีโอกาสเข้าตลาดMAI สูงครับ
Q: การขยายเข้าไปใน Home shopping เรามีแผนกระจายความเสี่ยงอย่างไร
A: สัดส่วนcontributeไม่มากแต่มีแนวโน้มเติบโตดี มีสินค้าหลากหลายแล้วแต่ว่าแต่ละช่วงผู้บริโภคต้องการอะไร
หรือที่อื่นเสนอขายอะไรบ้าง มองว่าจะเติบโตในอนาคตอีกมาก
ผมคิดว่า น่าจะโตได้เยอะเหมือนกับ RSที่ทำคล้ายๆแบบนี้ โดยมีช่องทีวีช่วยโปรโมต
Q: รายได้จากเงินปันผลจะเป็นอย่างไร ถ้าAIS ประมูลคลื่นได้ในปีหน้าอีก
A: เรามีการคำนึงถึงตั้งแต่ต้น เราจึงปรับเปลี่ยนการจ่ายปันผลเป็นอย่างต่ำ 70%ของกำไร เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
ในการทำธุรกิจต่อไป ส่วนปันผลมากน้อยขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทลูก
ดูท่าจะได้ปันผลน้อยลง แต่ถ้าพอใจ ก็ถือต่อได้ครับ
สุดท้ายขอขอบคุณทางบล โนมูระ และ ทางIntuchมากครับ
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2946
ONLINE 4.0 จากงาน Digital Thailand Big Bang 2017
คุณอิสระ กรรมการผู้จัดการ Line ประเทศไทย
ได้พูดถึงLine มีคนไทยใช้งาน41ล้านคน จากผู้เข้าonline 44 ล้านคน
เป็น1ใน3applicationsที่ทุกคนต้องใช้
ตอนนี้ได้สร้างงานให้กับ sticker creators 120,000 คน บางคนสามารถทำรายได้ต่อวันครึ่งล้านบาทในบางช่วง
Line today ร่วมกับสื่อต่างๆเพื่อdistribute offline mediaให้คนที่อ่านLine
Line TV ร่วมกับผู้ผลิตรายการต่างๆ ในการถ่ายทอดผ่านช่องLine TV
สร้างรายได้ให้กับร้านอาหารกว่า 30,000 ร้านค้า โดยไม่ต้องขยายสาขาโดยใช้ Line Man messenger
มีSME มาร่วมค้าขายผ่านonline โดยใช้ช่องทาง Line@online (marketing tool for SME)
ซึ่งมี SME 1.6 ล้านรายมาร่วมด้วย ตัวอย่าง เช่น ไร่กำนันจุล เมื่อก่อนมียอดขายส้มผ่านonline เดือนละหมื่นกว่าบาท
แต่หลังจากเข้าร่วมกับLine ยอดขายเป็น หลักแสนต่อสัปดาห์ เป็นการเพิ่ม 80เท่า ย้ำไม่ใช่ 80%
ในไตรมาสสี่จะมี Line Taxi 60,000 คนมาร่วมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ปีนี้ได้ซื้อบริษัทstartupในไทย DGM59: developing global services
ซึ่งตอนนี้ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาapplication ระดับglobalด้วย
ปัจจุบันมีพนักงานในไทย เพิ่มจาก 3 คนเป็น 200 คนและจะย้ายสำนักงานไปอยู่ราชประสงค์
เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
คุณอิสระ กรรมการผู้จัดการ Line ประเทศไทย
ได้พูดถึงLine มีคนไทยใช้งาน41ล้านคน จากผู้เข้าonline 44 ล้านคน
เป็น1ใน3applicationsที่ทุกคนต้องใช้
ตอนนี้ได้สร้างงานให้กับ sticker creators 120,000 คน บางคนสามารถทำรายได้ต่อวันครึ่งล้านบาทในบางช่วง
Line today ร่วมกับสื่อต่างๆเพื่อdistribute offline mediaให้คนที่อ่านLine
Line TV ร่วมกับผู้ผลิตรายการต่างๆ ในการถ่ายทอดผ่านช่องLine TV
สร้างรายได้ให้กับร้านอาหารกว่า 30,000 ร้านค้า โดยไม่ต้องขยายสาขาโดยใช้ Line Man messenger
มีSME มาร่วมค้าขายผ่านonline โดยใช้ช่องทาง Line@online (marketing tool for SME)
ซึ่งมี SME 1.6 ล้านรายมาร่วมด้วย ตัวอย่าง เช่น ไร่กำนันจุล เมื่อก่อนมียอดขายส้มผ่านonline เดือนละหมื่นกว่าบาท
แต่หลังจากเข้าร่วมกับLine ยอดขายเป็น หลักแสนต่อสัปดาห์ เป็นการเพิ่ม 80เท่า ย้ำไม่ใช่ 80%
ในไตรมาสสี่จะมี Line Taxi 60,000 คนมาร่วมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ปีนี้ได้ซื้อบริษัทstartupในไทย DGM59: developing global services
ซึ่งตอนนี้ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาapplication ระดับglobalด้วย
ปัจจุบันมีพนักงานในไทย เพิ่มจาก 3 คนเป็น 200 คนและจะย้ายสำนักงานไปอยู่ราชประสงค์
เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
-
AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2947
Smart Farm ครับ
สามารถทำฟาร์มระบบปิดได้ ผลผลิตมีคุณภาพสูงที่ควบคุมได้ตามสูตรครับ
สามารถตั้งระบบการทำงานอัตโนมัติทั้งการควบคุมแดด(ความร้อน) ความชื้น การรดน้ำทั้งด้านบน และหยดน้ำด้านล่าง มีจอนิเตอร์ค่าที่ตั้งไว้ทั้งหมดที่กล่าวมาด้วยครับ และสามารถติดตาม/สั่งการได้ผ่านมือถือ/แท๊ปเล็ตอีกด้วยครับ
นับเป็นการนำภูมิปัญญาทางการเกษตรมาประยุกต์กับเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์การเกษตรให้ดีมากขึ้นครับ
จากงาน Digital Thailand Big Bang เมืองทองธานี 22-24 กันยายน 2560
สามารถทำฟาร์มระบบปิดได้ ผลผลิตมีคุณภาพสูงที่ควบคุมได้ตามสูตรครับ
สามารถตั้งระบบการทำงานอัตโนมัติทั้งการควบคุมแดด(ความร้อน) ความชื้น การรดน้ำทั้งด้านบน และหยดน้ำด้านล่าง มีจอนิเตอร์ค่าที่ตั้งไว้ทั้งหมดที่กล่าวมาด้วยครับ และสามารถติดตาม/สั่งการได้ผ่านมือถือ/แท๊ปเล็ตอีกด้วยครับ
นับเป็นการนำภูมิปัญญาทางการเกษตรมาประยุกต์กับเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์การเกษตรให้ดีมากขึ้นครับ
จากงาน Digital Thailand Big Bang เมืองทองธานี 22-24 กันยายน 2560
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2948
เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมากจนร้านสะดวกซื้อไม่ต้องมีคนเฝ้าร้าน และสามารถเคลื่อนย้ายได้อีกด้วย !!!
http://www.businessinsider.com/china-bi ... eat-2017-7
http://www.businessinsider.com/china-bi ... eat-2017-7
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
dr1
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2949
ท่านINT-INVฮะ
ไอ้ที่จับขาน้องเนี่ย คือจะบอกว่า"น้องจ๋า ขาท่อนซุงของน้องเหยียบลุงที่นอนแน่นิ่งอยู่บนฟลอร์อยู่ ช่วยยกตีน เอ๊ยเท้าออกหน่อยนะจ๊ะ.." ป่าวฮะ
ขอบคุณท่านAnieLee ที่มาอัพเดทเทรนด์เทคโนโลยี่นะฮะ
เรื่องsmart cityเนี่ย ผมติดตามบ้านประหยัดพลังงาน อ.สุนทร ตั้งแต่หลังแรก (ประหยัดแอร์ ใช้ผนังฉนวน) หลังที่สอง(โซล่าร์เซล,กลั่นน้ำจากแอร์ ,ระบายความร้อนแอร์ลงสระน้ำ น้ำเสียรดต้นไม้) ไม่รู้ว่าหลังที่สามจะfully off grid+off tap water+ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ มีอาหารเองด้วยมั้ยนะฮะ
แต่เรื่องsmart cityที่เป็นเทรนด์คนแก่เนี่ย อยากได้
1. อุปกรณ์สวมติดตัว หรือเซนเซอร์ในบ้าน(กูเกิลซื้อบ.thermostatไป คงกะว่าจะให้เป็นศูนย์กลางทุกอย่างของบ้าน) ที่คอยมอร์นิเตอร์คนแก่ที่อยู่ลำพังเวลาหกล้ม ป่วย เตือนให้กินยา
ตรวจวัดไข้ ชีพจร การเคลื่อนไหว อะไรงี้ฮะ ทุกวันนี้ได้แค่เตือนคนแก่ว่า ให้ติดมือถือไว้ตลอด ทั้งในบ้าน เวลาไปสวนหรือไปไหนเอามือถือไปด้วย เกิดไปล้มแล้วจะได้โทรบอกลูกหลานได้(น่าจะมีแอพตรวจจับแรงจี แล้วโทรออกหรือถ่ายกล้องส่งรูปออกอัตโนมัติไปเบอร์ลูกหรือโรงบาลนะฮะ)
2. รถเข็นอัตโนมุติชาร์จไฟเองวิ่งไปที่ต่างๆเองโดยไม่ต้องมีคนเข็น ไปรับ ไปส่ง แล้วกลับที่เก็บเอง อันนี้น่าจะมีประโยชน์ที่โรงบาลมั่กๆ ไม่ต้องหาคนไปเข็นรถพาไปเจาะเลือด เอกซเรย์ รอตรวจ รับยา รอขึ้นรถ คือกดปุ่มไปไหนแล้วมันวิ่งไปเองตามเส้นเอง เหมือนหุ่นยนต์ส่งของในโรงงานน่ะฮะ
ขอบคุณท่านamornkowa สำหรับ"ความเห็นและคอมเมนต์"ประกอบเลคเช่อร์นะฮะ
อยากได้ไอเดีย แนวคิดของท่านamornkowaแบบนี้ มั่กๆฮะ เพราะท่านฟังมาเยอะ
ล่าสุดจะมีรายการVI charityนะฮะ คุณหมอนุ่น(ถ้าจำไม่ผิดlog in nooon รึอะไรราวๆนี้ ถ้าจำผิด ขออภัยด้วยฮะ) เพื่อนอ.leky เค้าจะจัดสัมมนาหาทุนบริจาค รพ.ตจว.ฮะ
ท่านนายมานะเป็นspeakerด้วย(ครั้งที่แล้วประชุมลับ เป็นพิธีกรเลยไม่ได้ฟังไอเดีย แต่ที่แชร์ๆมาลงห้องหาดใหญ่น่าสนใจมั่กๆตั้งแต่เรื่องEVแล้วฮะ)
ท่านนายมานะหรือใครก็ได้ ช่วยกรุณาเอาโปสเตอร์มาลงให้ด้วยนะฮะ ผมลงรูปไม่เป็น
นักลงทุนเก็งกำไรโดยใช้ปัจจัยพื้นฐาน(คำนี้ยืมอ.lekyมา ฮา)ผสมผสานกับการลอกหุ้น รายงาน
ไอ้ที่จับขาน้องเนี่ย คือจะบอกว่า"น้องจ๋า ขาท่อนซุงของน้องเหยียบลุงที่นอนแน่นิ่งอยู่บนฟลอร์อยู่ ช่วยยกตีน เอ๊ยเท้าออกหน่อยนะจ๊ะ.." ป่าวฮะ
ขอบคุณท่านAnieLee ที่มาอัพเดทเทรนด์เทคโนโลยี่นะฮะ
เรื่องsmart cityเนี่ย ผมติดตามบ้านประหยัดพลังงาน อ.สุนทร ตั้งแต่หลังแรก (ประหยัดแอร์ ใช้ผนังฉนวน) หลังที่สอง(โซล่าร์เซล,กลั่นน้ำจากแอร์ ,ระบายความร้อนแอร์ลงสระน้ำ น้ำเสียรดต้นไม้) ไม่รู้ว่าหลังที่สามจะfully off grid+off tap water+ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ มีอาหารเองด้วยมั้ยนะฮะ
แต่เรื่องsmart cityที่เป็นเทรนด์คนแก่เนี่ย อยากได้
1. อุปกรณ์สวมติดตัว หรือเซนเซอร์ในบ้าน(กูเกิลซื้อบ.thermostatไป คงกะว่าจะให้เป็นศูนย์กลางทุกอย่างของบ้าน) ที่คอยมอร์นิเตอร์คนแก่ที่อยู่ลำพังเวลาหกล้ม ป่วย เตือนให้กินยา
ตรวจวัดไข้ ชีพจร การเคลื่อนไหว อะไรงี้ฮะ ทุกวันนี้ได้แค่เตือนคนแก่ว่า ให้ติดมือถือไว้ตลอด ทั้งในบ้าน เวลาไปสวนหรือไปไหนเอามือถือไปด้วย เกิดไปล้มแล้วจะได้โทรบอกลูกหลานได้(น่าจะมีแอพตรวจจับแรงจี แล้วโทรออกหรือถ่ายกล้องส่งรูปออกอัตโนมัติไปเบอร์ลูกหรือโรงบาลนะฮะ)
2. รถเข็นอัตโนมุติชาร์จไฟเองวิ่งไปที่ต่างๆเองโดยไม่ต้องมีคนเข็น ไปรับ ไปส่ง แล้วกลับที่เก็บเอง อันนี้น่าจะมีประโยชน์ที่โรงบาลมั่กๆ ไม่ต้องหาคนไปเข็นรถพาไปเจาะเลือด เอกซเรย์ รอตรวจ รับยา รอขึ้นรถ คือกดปุ่มไปไหนแล้วมันวิ่งไปเองตามเส้นเอง เหมือนหุ่นยนต์ส่งของในโรงงานน่ะฮะ
ขอบคุณท่านamornkowa สำหรับ"ความเห็นและคอมเมนต์"ประกอบเลคเช่อร์นะฮะ
อยากได้ไอเดีย แนวคิดของท่านamornkowaแบบนี้ มั่กๆฮะ เพราะท่านฟังมาเยอะ
ล่าสุดจะมีรายการVI charityนะฮะ คุณหมอนุ่น(ถ้าจำไม่ผิดlog in nooon รึอะไรราวๆนี้ ถ้าจำผิด ขออภัยด้วยฮะ) เพื่อนอ.leky เค้าจะจัดสัมมนาหาทุนบริจาค รพ.ตจว.ฮะ
ท่านนายมานะเป็นspeakerด้วย(ครั้งที่แล้วประชุมลับ เป็นพิธีกรเลยไม่ได้ฟังไอเดีย แต่ที่แชร์ๆมาลงห้องหาดใหญ่น่าสนใจมั่กๆตั้งแต่เรื่องEVแล้วฮะ)
ท่านนายมานะหรือใครก็ได้ ช่วยกรุณาเอาโปสเตอร์มาลงให้ด้วยนะฮะ ผมลงรูปไม่เป็น
นักลงทุนเก็งกำไรโดยใช้ปัจจัยพื้นฐาน(คำนี้ยืมอ.lekyมา ฮา)ผสมผสานกับการลอกหุ้น รายงาน
samatah
-
AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2951
พี่หมอหนึ่งและคุณหมอๆ ทั้งหลาย ขอความเห็นตรงประโยคที่ไฮไลท์ตามภาพหน่อยครับ เรื่อง "การอดอาหาร" ครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2952
อนาคต Call Center ก็มีความเสี่ยงโดน Technology Disruption ด้วย "แชตบอต" ครับ !
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2954
Mr Tran Chi Son จาก บริษัท VinaMilk บินมาร่วมงาน Viet Capital Vietnam Access Day 2 Oct 17
VINAMILK เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีMarket Capใหญ่ที่สุดในตลาดHOSE มีโรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
เป็นmarket leaderในDairy market 58% อยู่ใน Top50 largest dairy producers in the world
ลงทุนทั้งในเวียดนามและต่างประเทศ
- Vietnam สัดส่วนในการถือ 100%
1.Production Plants 13 แห่ง
2.Sales offices 3 แห่ง
3.Logistics enterprises 2 แห่ง
4.Clinic office 1 แห่ง
5.Dairy cow farms 10 แห่ง
- Poland : Vinamilk EU , USA : Driftwood Dairy Holding , Angkor Dairy Product
สัดส่วนในการถือทั้งสามที่ 100%
- New Zealand : Miraka Limited สัดส่วนในการถือ 22.8%
โครงสร้างผู้ถือหุ้น
หลังยกเลิก Foreign Ownership (FOL)ตั้งแต่ July 16 โครงสร้างก็เปลี่ยนไป
ปัจจุบัน State capital Investment (SCIC) ถือ 39.33% และ กลุ่ม F&N ซึ่งเครือคุณเจริญมาถือด้วย มี
สัดส่วนในการถือ Vinamilk 18.74%
คุณTran มองว่า Dairy Market ของเวียดนามมีโอกาสโตขึ้น เพราะยังมีสัดส่วนในการบริโภคน้อยเมื่อเทียบกับ
US ซึ่งบริโภคมากกว่าในเวียดนามถึง 21เท่า
ช่องทางในการจัดจำหน่าย
1.Exclusive Distributor : มีActive Retailers > 240,000 แห่ง
2.Supermarket&Convenient Stores
3.Key accounts
4.Vinamilk Shops มีเปิดร้านที่จำหน่ายแต่สินค้าของVinamilk
5.Export sales
ใช้กลยุทธ์ Vertically Intregrated Business model โดยลงทุนตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
ได้แก่ Dairy Farm , Factories , Shop
กลยุทธ์ในการจัดการ ได้แก่ Collection of Raw milk, Production Lines,Packaging, Inventory Management
มีการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง จากการลงทุนด้าน R&D
เช่น Ice-Cream 3 in 1 ซึ่งเขามีmarket share น้อยในตลาดเวียดนาม แต่ดูเขาภูมิใจมากว่าสามารถออกไอศกรีมที่มี3รสชาติในกล่องเดียว คล้ายเมืองไทยเมื่อ10ปีที่แล้วที่ Wall ออก
รายได้มีการเติบโต โดยมี CAGR 21%
กำไรสุทธิ มีการเติบโต โดยมี CAGR 28%
ถ้าใครสนใจรายละเอียด ลองดูเพิ่มเติมจากslideนะครับ
ขอบคุณ น้องTaoที่เชิญมาฟังด้วยครับ
งานนี้เต็มไปด้วยนักลงทุนวีไอที่ลงทุนในเวียดนามรวมถึง
กรรมการสมาคมวีไอก็มาร่วมด้วย
VINAMILK เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีMarket Capใหญ่ที่สุดในตลาดHOSE มีโรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
เป็นmarket leaderในDairy market 58% อยู่ใน Top50 largest dairy producers in the world
ลงทุนทั้งในเวียดนามและต่างประเทศ
- Vietnam สัดส่วนในการถือ 100%
1.Production Plants 13 แห่ง
2.Sales offices 3 แห่ง
3.Logistics enterprises 2 แห่ง
4.Clinic office 1 แห่ง
5.Dairy cow farms 10 แห่ง
- Poland : Vinamilk EU , USA : Driftwood Dairy Holding , Angkor Dairy Product
สัดส่วนในการถือทั้งสามที่ 100%
- New Zealand : Miraka Limited สัดส่วนในการถือ 22.8%
โครงสร้างผู้ถือหุ้น
หลังยกเลิก Foreign Ownership (FOL)ตั้งแต่ July 16 โครงสร้างก็เปลี่ยนไป
ปัจจุบัน State capital Investment (SCIC) ถือ 39.33% และ กลุ่ม F&N ซึ่งเครือคุณเจริญมาถือด้วย มี
สัดส่วนในการถือ Vinamilk 18.74%
คุณTran มองว่า Dairy Market ของเวียดนามมีโอกาสโตขึ้น เพราะยังมีสัดส่วนในการบริโภคน้อยเมื่อเทียบกับ
US ซึ่งบริโภคมากกว่าในเวียดนามถึง 21เท่า
ช่องทางในการจัดจำหน่าย
1.Exclusive Distributor : มีActive Retailers > 240,000 แห่ง
2.Supermarket&Convenient Stores
3.Key accounts
4.Vinamilk Shops มีเปิดร้านที่จำหน่ายแต่สินค้าของVinamilk
5.Export sales
ใช้กลยุทธ์ Vertically Intregrated Business model โดยลงทุนตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
ได้แก่ Dairy Farm , Factories , Shop
กลยุทธ์ในการจัดการ ได้แก่ Collection of Raw milk, Production Lines,Packaging, Inventory Management
มีการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง จากการลงทุนด้าน R&D
เช่น Ice-Cream 3 in 1 ซึ่งเขามีmarket share น้อยในตลาดเวียดนาม แต่ดูเขาภูมิใจมากว่าสามารถออกไอศกรีมที่มี3รสชาติในกล่องเดียว คล้ายเมืองไทยเมื่อ10ปีที่แล้วที่ Wall ออก
รายได้มีการเติบโต โดยมี CAGR 21%
กำไรสุทธิ มีการเติบโต โดยมี CAGR 28%
ถ้าใครสนใจรายละเอียด ลองดูเพิ่มเติมจากslideนะครับ
ขอบคุณ น้องTaoที่เชิญมาฟังด้วยครับ
งานนี้เต็มไปด้วยนักลงทุนวีไอที่ลงทุนในเวียดนามรวมถึง
กรรมการสมาคมวีไอก็มาร่วมด้วย
-
dr1
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2955
ขอบคุณท่านamornkowaฮะ
อ่านแล้วนึกถึงท่านsomkullเลย วันก่อนลงรูปพรี้ตตี้ประจำปั๊มปีเตอร์(เอารูปมาลงให้เพื่อนๆดูกันหน่อยเร้ว..)
จนผมนึกว่าจะdiversify ธุรกิจnon oil โดยเพิ่มmilk มาอีกไลน์นึง.
เรื่องที่ท่านAnieLeeขอความเห็นเรื่องอดอาหารแล้วอายุยืนมั้ย ลองอ่านนี่ดูฮะ(อ.สันต์เป็นรุ่นพี่ จบ ม.สงขลาฯ)
http://visitdrsant.blogspot.com/2015/02/blog-post.html
ส่วนความเห็นอื่นๆที่ไม่ใช่จากหมอ
คือที่คนโบราณเค้าเชื่อว่า กินน้อยตายยาก กินมากตายเร็ว ,กินจนเกินโควต้าแล้วมันจะล้นออกมาเป็นโรคเบาหวาน (น้ำตาลเกิน)ไขมัน(เกิน) เกาท์(โปรตีนเกิน)ความดัน(เกลือเกิน) อะไรทำนองนี้ ก็น่าจะมีส่วนถูกอยู่บ้าง
ที่อ.ศุภวุฒิ (นักเศรษฐศาสตร์)ว่ามาผมก็ว่าน่าจะมีส่วนถูกอยู่เยอะฮะ อ่านแล้วอิน..
อีกรายคือคุณประทีป(สถาปนิก) สปาลี่ เคยแจกหนังสือให้ลูกบ้าน บทความเกี่ยวกับคนเผ่าต่างๆในโลก พวกที่อายุยืนมักอยู่ตามที่ราบสูง กินอาหารแคลอรี่ต่ำๆพวกเมล็ดธัญญพืช(ราวๆถ้ากินน้อย เผาผลาญน้อย สึกหรอน้อย จำศีลเยอะๆ อยู่เงียบๆ หายใจเบาๆ อายุจะได้ยาวๆ ราวๆนั้น)
ครูบาอาจารย์ท่านก็ย้ำว่า กินน้อย นอนน้อย ปฎิบัติ(ธรรม)ให้มากๆ
ศาสนาต่างๆก็มี ศีลอด กินเจ ศีลอุโบสถ(ไม่กินหลังเที่ยงวัน) ก็คงมาจากธรรมชาติของคนโบราณ
บางช่วงอาหารน้อย หายากเพราะธรรมชาติของฤดูกาล คนก็น่าจะมีช่วง"จำศีล"เหมือนสัตว์ต่างๆอยู่บ้างนะฮะ
เคยดูสารคดีdiscovery เค้าเอาหนูทดลองมาสามกลุ่ม กลุ่มแรกกินอาหารปกติ (control group)
กลุ่มสองกินอาหารปกติร่วมกับอาหารเสริม ยี่ห้อต่างๆที่เชื่อว่ากินแล้วอายุยืน ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงโน่นนี่นั่น กลุ่มสามกินอาหารปกติ แต่ลดปริมาณครึ่งนึง(อดอาหาร) ผลออกมาว่ากลุ่ม1,2อายุไม่ต่างกัน แต่กลุ่มสามอายุยืนกว่า ฯลฯ
แต่ผมมีอีกทฤษฎีนึงฮะ คือถ้าได้กินเด็กแล้วน่าจะอายุยืน(มั้ง)
ดูจากปู่ฮิวจ์ เฮฟเน่อร์ เจ้าของเพลบอย(ไอด้อลของผมและใครๆที่ร่วมสมัยอีกหลายๆคน ที่อยากมีชีวิตแบบนั้น รุ่นใหม่ๆคงถามว่า"ใครอ่ะ?")แกเพิ่งตาย(ไม่รู้คาอกมั้ย ถ้าเป็นงั้นถือว่าตายสมศักด์ศรีเพลย์บอยในหน้าที่ฮะ)
ตอนอายุ91เมื่อกย.ที่ผ่านมานี้ฮะ
วีไอเสเพลบอย ยังแอคถีฟมีกิจกรรมทางเพศได้ตั้งสองอย่าง(เซกซ์โฟนกับแอบดู)ตาหลอดๆ รายงาน
อ่านแล้วนึกถึงท่านsomkullเลย วันก่อนลงรูปพรี้ตตี้ประจำปั๊มปีเตอร์(เอารูปมาลงให้เพื่อนๆดูกันหน่อยเร้ว..)
จนผมนึกว่าจะdiversify ธุรกิจnon oil โดยเพิ่มmilk มาอีกไลน์นึง.
เรื่องที่ท่านAnieLeeขอความเห็นเรื่องอดอาหารแล้วอายุยืนมั้ย ลองอ่านนี่ดูฮะ(อ.สันต์เป็นรุ่นพี่ จบ ม.สงขลาฯ)
http://visitdrsant.blogspot.com/2015/02/blog-post.html
ส่วนความเห็นอื่นๆที่ไม่ใช่จากหมอ
คือที่คนโบราณเค้าเชื่อว่า กินน้อยตายยาก กินมากตายเร็ว ,กินจนเกินโควต้าแล้วมันจะล้นออกมาเป็นโรคเบาหวาน (น้ำตาลเกิน)ไขมัน(เกิน) เกาท์(โปรตีนเกิน)ความดัน(เกลือเกิน) อะไรทำนองนี้ ก็น่าจะมีส่วนถูกอยู่บ้าง
ที่อ.ศุภวุฒิ (นักเศรษฐศาสตร์)ว่ามาผมก็ว่าน่าจะมีส่วนถูกอยู่เยอะฮะ อ่านแล้วอิน..
อีกรายคือคุณประทีป(สถาปนิก) สปาลี่ เคยแจกหนังสือให้ลูกบ้าน บทความเกี่ยวกับคนเผ่าต่างๆในโลก พวกที่อายุยืนมักอยู่ตามที่ราบสูง กินอาหารแคลอรี่ต่ำๆพวกเมล็ดธัญญพืช(ราวๆถ้ากินน้อย เผาผลาญน้อย สึกหรอน้อย จำศีลเยอะๆ อยู่เงียบๆ หายใจเบาๆ อายุจะได้ยาวๆ ราวๆนั้น)
ครูบาอาจารย์ท่านก็ย้ำว่า กินน้อย นอนน้อย ปฎิบัติ(ธรรม)ให้มากๆ
ศาสนาต่างๆก็มี ศีลอด กินเจ ศีลอุโบสถ(ไม่กินหลังเที่ยงวัน) ก็คงมาจากธรรมชาติของคนโบราณ
บางช่วงอาหารน้อย หายากเพราะธรรมชาติของฤดูกาล คนก็น่าจะมีช่วง"จำศีล"เหมือนสัตว์ต่างๆอยู่บ้างนะฮะ
เคยดูสารคดีdiscovery เค้าเอาหนูทดลองมาสามกลุ่ม กลุ่มแรกกินอาหารปกติ (control group)
กลุ่มสองกินอาหารปกติร่วมกับอาหารเสริม ยี่ห้อต่างๆที่เชื่อว่ากินแล้วอายุยืน ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงโน่นนี่นั่น กลุ่มสามกินอาหารปกติ แต่ลดปริมาณครึ่งนึง(อดอาหาร) ผลออกมาว่ากลุ่ม1,2อายุไม่ต่างกัน แต่กลุ่มสามอายุยืนกว่า ฯลฯ
แต่ผมมีอีกทฤษฎีนึงฮะ คือถ้าได้กินเด็กแล้วน่าจะอายุยืน(มั้ง)
ดูจากปู่ฮิวจ์ เฮฟเน่อร์ เจ้าของเพลบอย(ไอด้อลของผมและใครๆที่ร่วมสมัยอีกหลายๆคน ที่อยากมีชีวิตแบบนั้น รุ่นใหม่ๆคงถามว่า"ใครอ่ะ?")แกเพิ่งตาย(ไม่รู้คาอกมั้ย ถ้าเป็นงั้นถือว่าตายสมศักด์ศรีเพลย์บอยในหน้าที่ฮะ)
ตอนอายุ91เมื่อกย.ที่ผ่านมานี้ฮะ
วีไอเสเพลบอย ยังแอคถีฟมีกิจกรรมทางเพศได้ตั้งสองอย่าง(เซกซ์โฟนกับแอบดู)ตาหลอดๆ รายงาน
samatah
-
romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2956
ห๊ะ ถ้าอดอาหารแล้วอายุยืน...dr1 เขียน:เรื่องที่ท่านAnieLeeขอความเห็นเรื่องอดอาหารแล้วอายุยืนมั้ย ลองอ่านนี่ดูฮะ(อ.สันต์เป็นรุ่นพี่ จบ ม.สงขลาฯ)
http://visitdrsant.blogspot.com/2015/02/blog-post.html
งั้นผมขออนุญาตพาภรรเมียไปทานบุฟเฟ่ก่อนนะฮะ
ปล.เมื่อวันอาทิตย์ไปงานแต่งงานน้องตู้ "นายมานะ" (เห็นคนในthaivi, และห้องหาดใหญ่ไปกันเยอะเลยครับ) นานๆจะเห็นคนรุ่นใหม่ ที่อายุน้อยกว่า30แต่งงาน ก็ขอให้มีความสุข ความเจริญ ตามรอยคนเกรงใจเมียแบบพี่ๆVIละกันนะครับ ทั้งพี่ชาย มโนภาส และพี่web พรชัย 2ท่านนี้ก็คอนเฟิร์มละตอนอวยพร บ่าวสาว 55555
ปล.2 ไปงานแต่งงานเด็กๆแล้วรู้สึกตัวเองเป็นนกพิราบแถวสนามหลวงเลยครับ หันหัวมองซ้าย ขวา หน้าหลัง ละลานตาไปหมดเบยยยย
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
You only live once, but if you do it right, once is enough.
-
AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2957
ตาลายจริงๆ ครับ งานแต่งน้องตู้ ......romee เขียน:ห๊ะ ถ้าอดอาหารแล้วอายุยืน...dr1 เขียน:เรื่องที่ท่านAnieLeeขอความเห็นเรื่องอดอาหารแล้วอายุยืนมั้ย ลองอ่านนี่ดูฮะ(อ.สันต์เป็นรุ่นพี่ จบ ม.สงขลาฯ)
http://visitdrsant.blogspot.com/2015/02/blog-post.html
งั้นผมขออนุญาตพาภรรเมียไปทานบุฟเฟ่ก่อนนะฮะ
ปล.เมื่อวันอาทิตย์ไปงานแต่งงานน้องตู้ "นายมานะ" (เห็นคนในthaivi, และห้องหาดใหญ่ไปกันเยอะเลยครับ) นานๆจะเห็นคนรุ่นใหม่ ที่อายุน้อยกว่า30แต่งงาน ก็ขอให้มีความสุข ความเจริญ ตามรอยคนเกรงใจเมียแบบพี่ๆVIละกันนะครับ ทั้งพี่ชาย มโนภาส และพี่web พรชัย 2ท่านนี้ก็คอนเฟิร์มละตอนอวยพร บ่าวสาว 55555
ปล.2 ไปงานแต่งงานเด็กๆแล้วรู้สึกตัวเองเป็นนกพิราบแถวสนามหลวงเลยครับ หันหัวมองซ้าย ขวา หน้าหลัง ละลานตาไปหมดเบยยยย
ส่วนเรื่องอดอาหาร น่าเป็นประเด็นที่นักลวทุนควรให้ความสนใจนะครับ โดยเฉพาะยามตลาดหุ้นไม่ดี หรือติดดอย นั่นคือ เป็นการทำให้อายุยืนขึ้น เนื่องจากไม่มีเงินกินอะไรมาก ฮ่าๆๆๆๆ
ก่อนจบ ใครมีเงินเหลือ และอยากลงทุนตามเทรนโลก AI แต่ไม่อยากลวทุนโดยตรง ก็มีทางเลือกให้แล้วครับ คือ กองทุนที่ลงทุนเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ ตามภาพเลยครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2958
วันก่อนมีโอกาสไปฟังคุณ วีรพันธ์ บริษัท Ticon ที่ บล ภัทร
เรื่องการโอนproperty fund3กอง คือ TFUND , TLOGIS , TGROWTH เข้ากองReit คือ TREIT
โดย บริษัท TiconมีTMANรับบริหารกองreitของ TREIT อยู่แล้ว
ผมสงสัยว่าทำไม TICON ออกกองproperty fund มาหลายกองจัง ทำไมไม่เพิ่มทุนอย่างเช่น CPNRF
ที่ซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมเข้ากอง ทำให้ขนาดของกองทุนใหญ่โตขึ้น สภาพคล่องสูงขึ้น
ก็ได้คำตอบจาก ที่บล เมย์แบงค์กิมเอ็ง ที่คุณสุกิจ สัมภาษณ์คุณวีรพันธ์ว่า
กองแรกที่ออกคือ TFUND จะมีสัดส่วนโรงงานค่อนข้างเยอะแต่มีWarehouseน้อยกว่า
ตอนช่วงวิกฤตเลย์แมน ต่างชาติต้องการทรัพย์สินที่เป็นwarehouse ทำให้ต้องออกกอง TLogis
มาซึ่งมีสัดส่วนของwarehouseค่อนข้างเยอะ ต่อมากลต จะไม่ขยายกองproperty fund
และชักชวนให้บริษัทต่างๆออกเป็นกองREIT ซึ่งทางTICONเองก็เตรียมออกเป็น REIT
ซึ่งก็คือ TGROWTH ปรากฏว่าหน่วยงานราชการไม่รู้จัก REIT ทำให้ทำธุรกรรมไม่ได้
เลยกลายเป็นกองprepertyในที่สุด ท้ายสุด ก็สามารถออกกอง REIT สำเร็จคือ TREIT
สำหรับผู้ถือหน่วยทั้งสามกองทุน น่าจะได้ประโยชน์ดังนี้
1. ราคาตลาดปรับตัวใกล้เคียงกับNAV
2. สภาพคล่องดีขึ้น
3. ลงทุนน้อยลง เพราะ REITสามารถกู้ได้ถึง 60% แต่ property fund กู้ได้แค่10% ทำให้ตอนรวมกองทุน
มีเงินจ่ายคืนประมาณ 1 บาทบวกลบ
แต่ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นจาก การได้กองทุนสามารถกู้ได้มากขึ้น และ ผุ้ถือหน่วยในกองทุนเดิม ซึ่งมีสัดส่วน
Freeholdเยอะ แต่หลังแปลงจะมีสัดส่วนFreehold ลดลง
ลองตัดสินใจดูนะครับว่า จะเห็นด้วยกับการรวมกองproperty fund เป็นREIT หรือไม่
หลังรวมกองทุนทั้งสามกองทุนเข้ากับREIT รายได้ticonเพิ่มขึ้นจากการเข้ารับบริหารกองทุนผ่านทางTMAN
และสามารถขายโรงานหรือ WHเข้าTREITได้อีก
ทำให้บริษัทTiconดูน่าสนใจ
เขามีที่ในเขตEECอยู่เยอะพอสมควร
แต่ไม่ค่อยเห็นใครพูดถึงเลย รวมถึง บล ด้วย
ส่วน บริษัทAMATA และWHA นักวิเคราะห์พูดบ่อยมากจนขึ้นไปแล้ว
ลองศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับ
เรื่องการโอนproperty fund3กอง คือ TFUND , TLOGIS , TGROWTH เข้ากองReit คือ TREIT
โดย บริษัท TiconมีTMANรับบริหารกองreitของ TREIT อยู่แล้ว
ผมสงสัยว่าทำไม TICON ออกกองproperty fund มาหลายกองจัง ทำไมไม่เพิ่มทุนอย่างเช่น CPNRF
ที่ซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมเข้ากอง ทำให้ขนาดของกองทุนใหญ่โตขึ้น สภาพคล่องสูงขึ้น
ก็ได้คำตอบจาก ที่บล เมย์แบงค์กิมเอ็ง ที่คุณสุกิจ สัมภาษณ์คุณวีรพันธ์ว่า
กองแรกที่ออกคือ TFUND จะมีสัดส่วนโรงงานค่อนข้างเยอะแต่มีWarehouseน้อยกว่า
ตอนช่วงวิกฤตเลย์แมน ต่างชาติต้องการทรัพย์สินที่เป็นwarehouse ทำให้ต้องออกกอง TLogis
มาซึ่งมีสัดส่วนของwarehouseค่อนข้างเยอะ ต่อมากลต จะไม่ขยายกองproperty fund
และชักชวนให้บริษัทต่างๆออกเป็นกองREIT ซึ่งทางTICONเองก็เตรียมออกเป็น REIT
ซึ่งก็คือ TGROWTH ปรากฏว่าหน่วยงานราชการไม่รู้จัก REIT ทำให้ทำธุรกรรมไม่ได้
เลยกลายเป็นกองprepertyในที่สุด ท้ายสุด ก็สามารถออกกอง REIT สำเร็จคือ TREIT
สำหรับผู้ถือหน่วยทั้งสามกองทุน น่าจะได้ประโยชน์ดังนี้
1. ราคาตลาดปรับตัวใกล้เคียงกับNAV
2. สภาพคล่องดีขึ้น
3. ลงทุนน้อยลง เพราะ REITสามารถกู้ได้ถึง 60% แต่ property fund กู้ได้แค่10% ทำให้ตอนรวมกองทุน
มีเงินจ่ายคืนประมาณ 1 บาทบวกลบ
แต่ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นจาก การได้กองทุนสามารถกู้ได้มากขึ้น และ ผุ้ถือหน่วยในกองทุนเดิม ซึ่งมีสัดส่วน
Freeholdเยอะ แต่หลังแปลงจะมีสัดส่วนFreehold ลดลง
ลองตัดสินใจดูนะครับว่า จะเห็นด้วยกับการรวมกองproperty fund เป็นREIT หรือไม่
หลังรวมกองทุนทั้งสามกองทุนเข้ากับREIT รายได้ticonเพิ่มขึ้นจากการเข้ารับบริหารกองทุนผ่านทางTMAN
และสามารถขายโรงานหรือ WHเข้าTREITได้อีก
ทำให้บริษัทTiconดูน่าสนใจ
เขามีที่ในเขตEECอยู่เยอะพอสมควร
แต่ไม่ค่อยเห็นใครพูดถึงเลย รวมถึง บล ด้วย
ส่วน บริษัทAMATA และWHA นักวิเคราะห์พูดบ่อยมากจนขึ้นไปแล้ว
ลองศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับ
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2960
บทความนี้อาจไม่เหมาะกับในห้องนี้ ที่มีคนเก่งมากมาย
หลังจากฟังแนวคิดการลงทุนจากช่วงที่2ของMoney Talk ขยายแนวคิดพิชิตหุ้น
ลองมาคิดดูว่าสามารถปรับใช้กับนักลงทุนทั่วไปที่พึ่งลงทุนได้อย่างไร
หุ้นกลุ่มconsumer ที่คุณมาร์ท และ คุณเอพูดถึง เช่น Alibaba หรือ Tencentซึ่งมีโอกาสโตมากๆในอนาคต
แต่ถ้าเป็นมือใหม่ หรือ คนที่ยังทำงานอยู่
ก็อาจจะยากในการติดตามเพราะเป็นหุ้นต่างประเทศ ลองเอาแนวความคิดของคุณเอมาใช้
คือให้คนอื่นมาทำงานแทน เช่น ลองหาดูว่ามีกองทุนต่างประเทศกองไหนบ้างที่ลงทุนหุ้นเหล่านี้บ้างก็ไปลงทุนในกองนั้นเลย
หรือ ถ้าง่ายกว่านั้นก็ไปลงทุนกับบลจในไทย ซึ่งไปลงทุนกองต่างประเทศนั้นอีกต่อ อาจต้องเสียค่าmanagement fee 2 ต่อ แต่ก็ยังคุ้มถ้าเรามองว่าหุ้นเหล่านี้จะโตอีกมาก
ส่วนถ้าต้องการลงทุนในหุ้นเองต้องศึกษาตัวหุ้นค่อนข้างมาก ผมอีกวิธีที่เคยใช้สมัยก่อนตอนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจการลงทุนแบบวีไอ เพราะตำราและกรณีศึกษามีน้อยมาก สัมมนาเรื่องหุ้นก็มีแต่Moneytalk
ท่ีช่อง11แต่ตามชมลำบากเพราะเวลาออกอากาศเลื่อนบ่อย
บางทีเที่ยงคืนยังไม่มาเลย
ช่วงนั้นได้มีโอกาสไปฟังคุณณสุ จันทร์สม ซึ่งเป็น fund manager
อยู่ที่ บลจ อเบอร์ดีน พูดถึงแนวคิดการลงทุน
โดยใช้แนวของฟิลิป ฟิชเชอร์ ไปเยี่ยมชมบริษัทก่อนการลงทุน
เป็นแนวทางการลงทุนแบบหุ้นคุณค่า จึงตัดสินใจลงทุนกองทุนAberdeen small cap และ ดูหุ้นที่กองทุนลงทุน
เช่น Modern trade ในเมืองไทย หรือ ธนาคารขนาดเล็กที่พึ่งซื้อส่วนconsumerของธนาคารStandard charterไป
เราก็สามารถนำหุ้นเหล่านี้มาศึกษาต่อ และ รอคอยจังหวะราคาหุ้นที่อาจเจอวิกฤตชั่วคราว เข้าไปซื้อลงทุน
โดยปกติคนทำงานจะไม่ค่อยเข้าไปดูหุ้นบ่อยๆ ซึ่งเป็นข้อดีเพราะถ้าเราถือยาวพอ จะข้ามช่วงวิกฤตเหล่านี้ไปได้
ส่วนที่ดร นิเวศน์ พูดถึงว่า การใช้ชีวิตประจำวัน จะคอยเปรียบเทียบ2สิ่งว่าอะไรดีกว่ากัน
ผมอาจจะประยุกต์ เช่น ถ้าเห็นหุ้นบางตัวน่าสนใจ แต่ราคาแพงมาก อาจไปหุ้นที่ลักษณะคล้ายกัน หรือ ทำธุรกิจร่วมกัน
เพื่อลงทุนแทน ตัวอย่างเช่น AMATAV ซึ่งตอนIPOราคาแพงมาก ก็ไปลงทุนบริษัทแม่ เช่น AMATA ซึ่งตอนนั้นเมื่อปี2559 ราคายังไม่สูงแทน ก็ถือว่าเป็นอีกวิธีที่เราสามารถลงทุนโดยมีแต้มต่อได้
ส่วนแนวทางการลงทุนของอีก2ท่านคือคุณเจษฎาและคุณเบส เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากขึ้นหน่อย
กลยุทธ์ของคุณเจ๊ด ติดตามบริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนที่มีสาระสำคัญ
เช่นการเปลี่ยนผู้บริหารต้องตามศึกษาว่าบริษัทไหนที่มีการเปลี่ยนผู้บริหาร คนใหม่เข้ามาจะดีกว่าเดิมหรือเปล่า
หรือ กลยุทธ์Post Hunneymoon periodของคุณเบสเป็นการตามบริษัทที่เข้าตลาดมา1ปี และ สนใจเข้าไปศึกษา ทำscuttlebutt กว่าจะลงทุน น่าจะเป็นขั้นต่อไปสำหรับมือใหม่ แต่ถ้าเราอยากลองทำตาม ก็ดีครับ เป็นการเรียนรู้เพิ่มเติมหาประสบการณ์ ถ้าได้ลงทุนจริง เป็นการเล่นจริงเจ็บจริงแต่ก็จะเก่งขึ้นด้วย
คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาก่อนการตัดสินใจทุกครั้งนะครับ
หลังจากฟังแนวคิดการลงทุนจากช่วงที่2ของMoney Talk ขยายแนวคิดพิชิตหุ้น
ลองมาคิดดูว่าสามารถปรับใช้กับนักลงทุนทั่วไปที่พึ่งลงทุนได้อย่างไร
หุ้นกลุ่มconsumer ที่คุณมาร์ท และ คุณเอพูดถึง เช่น Alibaba หรือ Tencentซึ่งมีโอกาสโตมากๆในอนาคต
แต่ถ้าเป็นมือใหม่ หรือ คนที่ยังทำงานอยู่
ก็อาจจะยากในการติดตามเพราะเป็นหุ้นต่างประเทศ ลองเอาแนวความคิดของคุณเอมาใช้
คือให้คนอื่นมาทำงานแทน เช่น ลองหาดูว่ามีกองทุนต่างประเทศกองไหนบ้างที่ลงทุนหุ้นเหล่านี้บ้างก็ไปลงทุนในกองนั้นเลย
หรือ ถ้าง่ายกว่านั้นก็ไปลงทุนกับบลจในไทย ซึ่งไปลงทุนกองต่างประเทศนั้นอีกต่อ อาจต้องเสียค่าmanagement fee 2 ต่อ แต่ก็ยังคุ้มถ้าเรามองว่าหุ้นเหล่านี้จะโตอีกมาก
ส่วนถ้าต้องการลงทุนในหุ้นเองต้องศึกษาตัวหุ้นค่อนข้างมาก ผมอีกวิธีที่เคยใช้สมัยก่อนตอนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจการลงทุนแบบวีไอ เพราะตำราและกรณีศึกษามีน้อยมาก สัมมนาเรื่องหุ้นก็มีแต่Moneytalk
ท่ีช่อง11แต่ตามชมลำบากเพราะเวลาออกอากาศเลื่อนบ่อย
บางทีเที่ยงคืนยังไม่มาเลย
ช่วงนั้นได้มีโอกาสไปฟังคุณณสุ จันทร์สม ซึ่งเป็น fund manager
อยู่ที่ บลจ อเบอร์ดีน พูดถึงแนวคิดการลงทุน
โดยใช้แนวของฟิลิป ฟิชเชอร์ ไปเยี่ยมชมบริษัทก่อนการลงทุน
เป็นแนวทางการลงทุนแบบหุ้นคุณค่า จึงตัดสินใจลงทุนกองทุนAberdeen small cap และ ดูหุ้นที่กองทุนลงทุน
เช่น Modern trade ในเมืองไทย หรือ ธนาคารขนาดเล็กที่พึ่งซื้อส่วนconsumerของธนาคารStandard charterไป
เราก็สามารถนำหุ้นเหล่านี้มาศึกษาต่อ และ รอคอยจังหวะราคาหุ้นที่อาจเจอวิกฤตชั่วคราว เข้าไปซื้อลงทุน
โดยปกติคนทำงานจะไม่ค่อยเข้าไปดูหุ้นบ่อยๆ ซึ่งเป็นข้อดีเพราะถ้าเราถือยาวพอ จะข้ามช่วงวิกฤตเหล่านี้ไปได้
ส่วนที่ดร นิเวศน์ พูดถึงว่า การใช้ชีวิตประจำวัน จะคอยเปรียบเทียบ2สิ่งว่าอะไรดีกว่ากัน
ผมอาจจะประยุกต์ เช่น ถ้าเห็นหุ้นบางตัวน่าสนใจ แต่ราคาแพงมาก อาจไปหุ้นที่ลักษณะคล้ายกัน หรือ ทำธุรกิจร่วมกัน
เพื่อลงทุนแทน ตัวอย่างเช่น AMATAV ซึ่งตอนIPOราคาแพงมาก ก็ไปลงทุนบริษัทแม่ เช่น AMATA ซึ่งตอนนั้นเมื่อปี2559 ราคายังไม่สูงแทน ก็ถือว่าเป็นอีกวิธีที่เราสามารถลงทุนโดยมีแต้มต่อได้
ส่วนแนวทางการลงทุนของอีก2ท่านคือคุณเจษฎาและคุณเบส เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากขึ้นหน่อย
กลยุทธ์ของคุณเจ๊ด ติดตามบริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนที่มีสาระสำคัญ
เช่นการเปลี่ยนผู้บริหารต้องตามศึกษาว่าบริษัทไหนที่มีการเปลี่ยนผู้บริหาร คนใหม่เข้ามาจะดีกว่าเดิมหรือเปล่า
หรือ กลยุทธ์Post Hunneymoon periodของคุณเบสเป็นการตามบริษัทที่เข้าตลาดมา1ปี และ สนใจเข้าไปศึกษา ทำscuttlebutt กว่าจะลงทุน น่าจะเป็นขั้นต่อไปสำหรับมือใหม่ แต่ถ้าเราอยากลองทำตาม ก็ดีครับ เป็นการเรียนรู้เพิ่มเติมหาประสบการณ์ ถ้าได้ลงทุนจริง เป็นการเล่นจริงเจ็บจริงแต่ก็จะเก่งขึ้นด้วย
คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาก่อนการตัดสินใจทุกครั้งนะครับ
-
AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2961
เลือกหุ้นผิด คิดจนตัวตายเลยทีเดียว อิอิ
หุ้นบริษัท Software เหมือนกัน แต่ Business Model แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สุดท้าย ก็สะท้อนมาที่กำไรของกิจการ และมาที่ราคาหุ้นบนกระดาน.........
เหมือนคนละฟากฟ้า Coman vs Netbay
หุ้นบริษัท Software เหมือนกัน แต่ Business Model แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สุดท้าย ก็สะท้อนมาที่กำไรของกิจการ และมาที่ราคาหุ้นบนกระดาน.........
เหมือนคนละฟากฟ้า Coman vs Netbay
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
dr1
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2962
สามสิบปีที่แล้วตอนรับปริญญา (ไม่น่าเล่าเล้ย.. รู้อายุเราหมด )รุ่นผมน่าจะเป็นรุ่นท้ายๆที่ได้รับจากมือท่าน เพราะปีนั้นท่าน60ชันษา หลังจากนั้นท่านคง"เกษียณ"จากงานนี้
รุ่นพี่ๆก็จะบอกว่าคอยดูสิ พอเข้าแถวส่งเสด็จ เสด็จกลับแล้ว ฝนจะตกโครมใหญ่ เป็นแบบนี้ทุกครั้ง
ก็เป็นจริงตามนั้นฮะ ฝนตกหนักเปียกทั้งตัวในชุดบัณฑิต จนนั่งรถเมล์ร้อนของคณะกลับมาจากปัตตานี(ตอนนั้นสลับงานรับปริญญาหาดใหญ่กับปัตตานีกันปีต่อปี)ถึงหาดใหญ่แล้วชุดเพิ่งแห้งหมาดๆ
เห็นข่าวประชาชนตากฝนรอส่งเสด็จ เจอฟ้าร้องไห้ ภาพเก่าๆความหลังก็ผุดขึ้นมาฮะ ท่านคงเสด็จกลับ(สวรรค์)แล้วจริงๆ..
ท่าน AnieLee ฮะ ตกลงว่าท่านไปแทงหุ้นผิดตัวติดดอย จนต้องกิน"ส้ม24ลูก"แทนข้าวป่าวฮะเนี่ย..
และก็ ท่าน roaming romee ผู้กว้างขวาง หลังจากกลับจากโรม(เข้าเฝ้าขอพรพระสันตปะปามา) ก็มากระซิบบอกผม ว่าวันที่ 4ตค. ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดท่านamornkowa (สองคนนี้มีไรกันป่าวเนี่ย ถามถึงกันตลอดๆ)
ผมในฐานะผู้รู้ทุกเรื่อง(เว้นเรื่องหุ้นกับเรื่องตัวเอง) ก็ขออนุญาตเป็นตัวแทนสมาชิกวีไอห้องหาดใหญ่ อวยพรให้ท่านamornkowa (ที่คงเพิ่งผ่านเบญจเพศหมาดๆ) มีสุขภาพผอร์ท,กาย,จิต ดียิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น มีโอกาสคลุกวงในไฮโซโห่ฮิ้ว เลคเชอร์มาฝากพวกเรา(พร้อมความเห็นและคอมเมนท์ล้ำค่า)ต่อไปอีกยาวนานนะฮะ ไช..โย..
จากหนังสือคุณจุฑามาศ ณ สงขลา เล่มเดิม
คนเกิดวันที่ 4
วาจาดี ช่างพูด อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย บางครั้งดูเหมือนโลเลไม่แน่นอน รูปร่างท้วม เตี้ย จมูกโด่ง ผิวสองสีค่อนข้างขาว เข้ากับใครง่าย สติปัญญาเฉียบแหลม ฉับไว เรียบร้อยอ่อนโยน หากินด้วยคำพูดจะเด่นดัง มีมากที่ดวงชะตาเป็นนักปราชญ์ เพราะมีดาวพุธเป็นอิทธิพล
นิสัย
เชื่อมั่นตัวเอง เรียบร้อย เข้มแข็ง เผชิญอุปสรรคอย่างช้าๆและมั่นคง ยิ้มรับความล้มเหลวหรือผิดหวังได้ดี มีอำนาจและใช้วาจาอย่างมีอำนาจเหนือผู้อื่น เป็นผู้นำ เบิกบานมีชีวิตชีวาต่อหน้าผู้พบเห็น สนใจสิ่งแปลกใหม่ โดยเฉพาะด้านจิตวิญญาณ สนใจสิ่งลึกลับบางอย่าง(พกกุมารทองป่าวเนี่ย..)และโหราศาสตร์(ทำงานบ.ไฮเทคเนี่ยนะ..)
ขึ้นกับเลขดาวอื่นๆประกอบด้วยถึงจะแม่นยำว่าจะหันมาสนใจเรื่องศาสตร์เร้นลับและวิญญาณ
ข้อเสียคือบางครั้งค่อนข้างเกียจคร้าน(มิน่า ถึงมาลงทุนหุ้น) และใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมากเกินไป(คงซื้อหุ้นพีอีสูง..)
ไม่ค่อยระวังสุขภาพนัก ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองทางอบายมุข(อ้าว..)
สติปัญญา
ดีื หลักแหลมเฉียบคมว่องไวมาก บางครั้งติดกะล่อนเสียด้วยซ้ำ(ไม่จริ้ง ไม่จริง ไม่เชื่อ...)
รู้จักเอาตัวรอดในทุกสถานการณ์ แม้ช่วงต้นจะถูกขัดจังหวะการศึกษา แต่ก็ลุกขึ้นมาต่อสู้เล่าเรียนได้สำเร็จกว้างไกล คนรอบข้างนิยมยกย่องในความเอาใจใส่ในการเรียนรู้ สนใจรอบรู้สิ่งต่างๆรอบกายอย่างมาก
เป็นคนเรียนรู้สภาพสังคม ชอบวิจัย วิจารณ์ วิเคราะห์หาเหตุผลอยู่ร่ำไป
ถ้ามีตัวเลขเกิด วัน เดือน ปี เป็นเลขเดียวกัน เช่นวันที่4 เดือน4 ปี2504 ,2514,อะไรทำนองนี้ จะเรียนรู้ศาสตร์ลึกลับได้ก้าวหน้า เร็วขึ้น
ชอบอ่านหนังสือรวมไปถึงศาสนา ปรัชญา ธรรมะ สติปัญญาเฉียบแหลม เหมาะสมเป็นนักปราชญ์ ราชบัณฑิต
อาชีพ
เหมาะกับหากินเรื่องพูด เขียน งานเด่นดังถ้าเป็นนักคิดนักเขียน ผู้สื่อข่าว journalist จะก้าวหน้าได้ตลอด
หัวรุนแรง หัวก้าวหน้า ชอบแสดงเหตุผลและความคิดของตัวเอง มีมากที่เป็นงานปฐกถา โต้วาที นักพูด ผู้แทน แม้กระทั่งนักประท้วง
อิทธิพลดาวพุธทำให้ชอบใช้อำนาจและการเป็นผู้นำ อาชีพที่ต้องแสดงให้คนเห็น สร้างชื่อเสียง เรียกร้องความสนใจ
นักวิจารณ์ หาข้อด้อยสิ่งต่างๆมาพูดได้ชัดเจนและแสดงความคิดเฉียบคมของตนไปพร้อมๆกัน
อีกด้านนึงคือการลงทุนเกี่ยวกับการเงินจะเป็นผู้มีอิทธิพลทางนี้พอควร(แม่นแฮะ)
ข้อเสียคือมักไม่ค่อยพอใจตำแหน่ง จึงดิ้นรนไต่เต้าจนถึงที่สุด ชื่นชมกับชื่อเสียงวัตถุรางวัลท่ี่ได้ ทำอะไรที่ได้รับยกย่องชื่นชม เกียรติยศชื่อเสียงตามมาแม้ไม่ได้เงินก็ไม่่เป็นไร(เหมาะสมกับสมาคมนี้แล้วฮะ)
อนาคตแน่นอนว่าจะก้าวหน้าการงานอย่างเด่นชัด แต่เป็นก้าวช้าๆอย่างสง่างามมั่นคงน่าพอใจ
การเงิน
โชคดีทางการเงินจากมรดก สมบัติพัสถานต่างๆ แม้วัยเด็กยากจนแร้นแค้นแต่โตขึ้นจะมั่นคงดี
ถึงเงินน้อย แต่หากได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนใคร ก็สร้างชื่อเสียงเด่นดัง สร้างสถานภาพตัวเองให้ก้าวหน้ายิ่งใหญ่และทำเงินให้การงานนั้นๆเป็นอย่างดี มีผิดและพลาดหวังเรื่องการลงทุนการเงินหลายครั้ง แต่ก็เริ่มต้นใหม่ได้ไม่ยากเย็นอะไร
เป็นนักสู้และวางแผนทางการเงินได้ดีพอควร ไม่น่าห่วงเรื่องเงินมากนัก แต่อาจใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายไม่ระวัง
มีเงินเท่าไรมักไม่ยอมเก็บไว้วันหน้า อาจเดือดร้อนต้องวิ่งเต้นเรื่องเงินหลายครั้ง
ช่วงวัยรุ่นกับวัยทำงานต้นๆไม่ค่อยเก็บออมนัก พอกลางคนจะรู้จักใช้เงินมากขึ้น หาซื้อสมบัติที่ดินไว้เก็งกำไร
เมื่อเงินมากก็เริ่มบริจาคการกุศลซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดี
ครอบครัว
ผูกพันรักใคร่กันระยะยาว เอาใจใส่ครอบครัวต่อเนื่อง ไม่ให้เดือดร้อยนทุกข์ยาก ชอบตั้งกฎข้อแม้กับคนในครอบครัว แต่ตัวเองไม่ทำตาม
ถ้าโตมาแบบห่างครอบครัว ยังใฝ่ฝันจะได้อยู่ร่วมครอบครัวกันอีกในอนาคต มักได้เข้าไปจัดการปัญหาหรือภัยของคนในบ้านเสมอๆ
ผู้หญิงจะรักใคร่สนิมสนมครอบครัวดี อยู่ห่างก็ได้กลับไปดูแลบ่อย ส่งเสียลูกหลานบริวารอย่างเต็มใจ
ผู้ชายเกิดวันที่4 ห่างเหินอยู่บ้าง แต่รับผิดชอบสนิมสนมทุกครั้งที่เจอ ลึกๆแล้วเขารักและอยากมีสัมพันธ์ที่ดีๆ แต่แสดงออกทางความรักความผูกพันไม่เป็นเท่านั้น จริงใจกับทุกคนที่เขารักมากทีเดียว
ความรัก คู่ครอง
มีจุดอ่อนเรื่องเพศตรงข้ามนี่แหละ เป็นได้ทั้งคนรักและศัตรู ชีวิตรัก อาจไม่ราบรื่นนัก พบรักหลายครั้ง แต่งงานหลายหน ความรักจะโลเลเปลี่ยนแปลงง่าย ยังไม่เข้าใจตัวเองว่า ต้องการใคร หรือต้องการรักแบบไหนกันแน่
มีมากที่เลิกรักเสียเอง เปลี่ยนใจเองเพราะเข้ากันไม่ได่เรื่องความคิด ภาวะผู้นำสูง ต้องการคู่ที่ก้มหัวยอมทุกอย่าง ซึ่งเป็นไปได้ยาก
แต่งงานช้า( เช่นหลัง30)จะดีกว่าแต่งงานเร็ว ต่อให้อายุมากก็ยังมีโอกาสแต่งงานได้ ชีวิตมุ่งหวังรักที่สูงส่ง
ซึ่งมักทำให้ท้อแท้ไปพักใหญ่ แต่ก็เริ่มใหม่กับใครๆได้เสมอ
สับสนเข้าใจผิดเรื่องรักหลายครั้ง แม้ไม่อยากทำร้ายใจใคร แต่การสับสนไม่เข้าใจความต้องการตัวเองก็ทำร้ายความรู้สึกคนที่รักได้ง่าย
ซื่อสัตย์ผูกพันต่อความรักเสมอ รักแล้วรักเลย แต่หากเลิกรักเมื่อไรก็จะยากที่จะตามง้อคืนดี บางคนเห็นเป็นเกมส์ที่จะเอาชนะเท่านั้น ทำให้ความรักมีพื้นฐานง่อนแง่น เหมือนมีเส้นบางๆกั้นอยู่
แม้ช่างพูด แต่เรื่องความรักอาจพูดจาไปในทางลบได้เสมอ ไม่ค่อยเอาใจคนรัก เพราะห่วงว่าจะถูกมองว่าหลงไหลเกินไป
ชอบเรียกร้องกับคนรักมากไป จึงมีความรักระยะสั้น ความรักที่แท้ต้องเติมเต็มโดยคน2คนขึ้นไป
ดังนั้นการเป็นผัวเดียวเมียเดียวของหญิงและชาย ที่เกิดวันที่4 จึงเป็นไปได้ยาก
อย่างน้อยถึงไม่มีสถานภาพซ้ำซ้อน มีรักไม่เปิดเผย ก็ยังมีคนรักทางใจ ที่คุยกันเข้าใจ ทดแทนส่วนที่คู่ครองตัวเองไม่มีหรือรู้สึกขาด
สุขภาพ
เกี่ยวกับปาก หรือช่องปาก ปกติแข็งแรงดี แต่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ผู้ชายมักมีโรคกระเพาะลำไส้จากเหล้าเบียร์
มีมากที่ติดสารเสพติดจากไม่ยับยั้งชั่งใจ ผู้หญิงมีปัญหาท้อง มดลูก ปวดศรีษะ(มากและบ่อยด้วย)
ผ่าตัดหนึ่งครั้งหรืออาจมากกว่า อายุเกิน40ระวังสุขภาพจะแย่ ผู้ชายจะหักโหมร่างกายในวัยหนุ่ม
ระวังเรื่องลำไส้ หรืออุบัติเหตุเสียอวัยวะ โยคะ นั่งสมาธิจะช่วยเรื่องจิตใจ และปลงสังขารตัวเอง
เพื่อนมิตร ศัตรู
มิตรเยอะ แบบเพื่อนกินก็มาก ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร เพื่อนรักแท้จริงสักคนก็ใช้ได้แล้ว
มีคนไม่ชอบใจ อิจฉาริษยาความเก่งอยู่มาก แต่ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะความสามารถที่เด่นกว่า
มิตร เพื่อนร่วมงานสนับสนุนให้ก้าวหน้า ลงทุนให้เงินให้โอกาสแสดงความสามารถจนสำเร็จ
คนนิยมยกย่องเยอะ มีเพื่อนสถานะสูงกว่า ส่งเสริมเสมอ สุขภาพถือเป็นศัตรูตัวฉกาจได้
บริวาร
ปกครองลูกน้องบริวารดีเยี่ยม คนรักใคร่นับถือเยอะ หาคนจงรักภักดีได้เสมอ
เพื่อนๆตกเป็นบริวารในดวงชะตา ถ้าพูดดีพูดเพราะ รับรองว่ามีคนมารับใช้ทำงานแทนได้ ได้บริวารเพราะคำพูดจาเนี่ยแหละ
คนในครอบครัวเดิมถือเป็นบริวารด้วย แต่มักให้โทษ ต้องเข้าไปแก้ปัญหา อาจเสียชื่อได้บ้าง
คู่ครองและคนรัก ไม่ตกเป็นบริวาร แต่มักโดนเคี่ยวเข็นทำให้เกิดปัญหามากกว่า ถ้าจะเอามาเป็นบริวาร
โชคลาภ
เป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรีอำนาจชื่อเสียง เป็นโชคดีที่โตช้าๆแต่มั่นคงไม่ผิดหวัง
แต่ถ้าไม่ยับยั้งชั่งใจจะเบียดเบียนผู้อื่น โชคลาภก็จะอยู่ไม่นานต้องดิ้นรนไม่รู้จักพอ และเสียไปอีกทางเสมอ
สติปัญญาที่ได้จากการเรียนรู้ที่จะอยู่เหนือผู้อื่นก็เป็นลาภ เป็นคนรอบรู้จนผู้คนยกย่องกล่าวถึง ควรภูมิใจแบบนี้มากกว่า
การเดินทาง
ไม่โลดโผน แต่จะได้เดินทางบ่อย ยิ่งอายุมากยิ่งบ่อย ไปประเทศตะวันตกจะโชคดีเป็นพิเศษ
แม้จะเสี่ยงภัยหรือกันดาร แต่ก็ได้รับความสะดวกสบายเพราะมีคนเตรียมพร้อมไว้ให้เสมอ
อาจพบเนื้อคู่หรือรักซ้อนจากการเดินทาง อุบัติเหตุหลายครั้งแต่ไม่รุนแรงกับแอลกอฮอล์
เดินทางติดขัดล่าช้าจากพลาดเที่ยวบิน รถไฟได้บ่อยๆ ต้องพัฒนาเรื่องความขี้เกียจ ตื่นให้เช้าเข้าไว้
ความเชื่อมงคล
เป็นคนธาติดิน เหมาะกับเพาะปลูก สถานที่เหมาะคือทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม
สีเขียว เลือดนก ฟ้า เทา เสื้อผ้าสดใส ดำ แดงขาว
วันดีคือ อาทิตย์ จันทร์ เสาร์ ยิ่งมีวันที่มีเลข2,8 รวมด้วยยิ่งดี
คนเกิด 4 ตค.
เป็นคนอ่อนโยน ยืดหยุ่น อลุ่มอล่วย แต่ไม่เด็ดขาด เรื่องการตัดสินใจ
แม้สติปัญญาเฉียบไว เข้าใครๆได้ง่าย งานเหมาะคือนักกฎหมาย นักการเมือง
หรือทำงานองค์กรใหญ่ๆเช่นโทรศัพท์ ไฟฟ้า ไปรษณีย์ นิสัยชอบฟุ้งเฟ้อ
วีไอหมอดู ณ(อ่านว่านะ)จ๊ะ จะบอกให้ รายงาน ณ วันดัชนีพันเจ็ดขึ้นไปเรื่อยๆ
รุ่นพี่ๆก็จะบอกว่าคอยดูสิ พอเข้าแถวส่งเสด็จ เสด็จกลับแล้ว ฝนจะตกโครมใหญ่ เป็นแบบนี้ทุกครั้ง
ก็เป็นจริงตามนั้นฮะ ฝนตกหนักเปียกทั้งตัวในชุดบัณฑิต จนนั่งรถเมล์ร้อนของคณะกลับมาจากปัตตานี(ตอนนั้นสลับงานรับปริญญาหาดใหญ่กับปัตตานีกันปีต่อปี)ถึงหาดใหญ่แล้วชุดเพิ่งแห้งหมาดๆ
เห็นข่าวประชาชนตากฝนรอส่งเสด็จ เจอฟ้าร้องไห้ ภาพเก่าๆความหลังก็ผุดขึ้นมาฮะ ท่านคงเสด็จกลับ(สวรรค์)แล้วจริงๆ..
ท่าน AnieLee ฮะ ตกลงว่าท่านไปแทงหุ้นผิดตัวติดดอย จนต้องกิน"ส้ม24ลูก"แทนข้าวป่าวฮะเนี่ย..
และก็ ท่าน roaming romee ผู้กว้างขวาง หลังจากกลับจากโรม(เข้าเฝ้าขอพรพระสันตปะปามา) ก็มากระซิบบอกผม ว่าวันที่ 4ตค. ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดท่านamornkowa (สองคนนี้มีไรกันป่าวเนี่ย ถามถึงกันตลอดๆ)
ผมในฐานะผู้รู้ทุกเรื่อง(เว้นเรื่องหุ้นกับเรื่องตัวเอง) ก็ขออนุญาตเป็นตัวแทนสมาชิกวีไอห้องหาดใหญ่ อวยพรให้ท่านamornkowa (ที่คงเพิ่งผ่านเบญจเพศหมาดๆ) มีสุขภาพผอร์ท,กาย,จิต ดียิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น มีโอกาสคลุกวงในไฮโซโห่ฮิ้ว เลคเชอร์มาฝากพวกเรา(พร้อมความเห็นและคอมเมนท์ล้ำค่า)ต่อไปอีกยาวนานนะฮะ ไช..โย..
จากหนังสือคุณจุฑามาศ ณ สงขลา เล่มเดิม
คนเกิดวันที่ 4
วาจาดี ช่างพูด อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย บางครั้งดูเหมือนโลเลไม่แน่นอน รูปร่างท้วม เตี้ย จมูกโด่ง ผิวสองสีค่อนข้างขาว เข้ากับใครง่าย สติปัญญาเฉียบแหลม ฉับไว เรียบร้อยอ่อนโยน หากินด้วยคำพูดจะเด่นดัง มีมากที่ดวงชะตาเป็นนักปราชญ์ เพราะมีดาวพุธเป็นอิทธิพล
นิสัย
เชื่อมั่นตัวเอง เรียบร้อย เข้มแข็ง เผชิญอุปสรรคอย่างช้าๆและมั่นคง ยิ้มรับความล้มเหลวหรือผิดหวังได้ดี มีอำนาจและใช้วาจาอย่างมีอำนาจเหนือผู้อื่น เป็นผู้นำ เบิกบานมีชีวิตชีวาต่อหน้าผู้พบเห็น สนใจสิ่งแปลกใหม่ โดยเฉพาะด้านจิตวิญญาณ สนใจสิ่งลึกลับบางอย่าง(พกกุมารทองป่าวเนี่ย..)และโหราศาสตร์(ทำงานบ.ไฮเทคเนี่ยนะ..)
ขึ้นกับเลขดาวอื่นๆประกอบด้วยถึงจะแม่นยำว่าจะหันมาสนใจเรื่องศาสตร์เร้นลับและวิญญาณ
ข้อเสียคือบางครั้งค่อนข้างเกียจคร้าน(มิน่า ถึงมาลงทุนหุ้น) และใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมากเกินไป(คงซื้อหุ้นพีอีสูง..)
ไม่ค่อยระวังสุขภาพนัก ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองทางอบายมุข(อ้าว..)
สติปัญญา
ดีื หลักแหลมเฉียบคมว่องไวมาก บางครั้งติดกะล่อนเสียด้วยซ้ำ(ไม่จริ้ง ไม่จริง ไม่เชื่อ...)
รู้จักเอาตัวรอดในทุกสถานการณ์ แม้ช่วงต้นจะถูกขัดจังหวะการศึกษา แต่ก็ลุกขึ้นมาต่อสู้เล่าเรียนได้สำเร็จกว้างไกล คนรอบข้างนิยมยกย่องในความเอาใจใส่ในการเรียนรู้ สนใจรอบรู้สิ่งต่างๆรอบกายอย่างมาก
เป็นคนเรียนรู้สภาพสังคม ชอบวิจัย วิจารณ์ วิเคราะห์หาเหตุผลอยู่ร่ำไป
ถ้ามีตัวเลขเกิด วัน เดือน ปี เป็นเลขเดียวกัน เช่นวันที่4 เดือน4 ปี2504 ,2514,อะไรทำนองนี้ จะเรียนรู้ศาสตร์ลึกลับได้ก้าวหน้า เร็วขึ้น
ชอบอ่านหนังสือรวมไปถึงศาสนา ปรัชญา ธรรมะ สติปัญญาเฉียบแหลม เหมาะสมเป็นนักปราชญ์ ราชบัณฑิต
อาชีพ
เหมาะกับหากินเรื่องพูด เขียน งานเด่นดังถ้าเป็นนักคิดนักเขียน ผู้สื่อข่าว journalist จะก้าวหน้าได้ตลอด
หัวรุนแรง หัวก้าวหน้า ชอบแสดงเหตุผลและความคิดของตัวเอง มีมากที่เป็นงานปฐกถา โต้วาที นักพูด ผู้แทน แม้กระทั่งนักประท้วง
อิทธิพลดาวพุธทำให้ชอบใช้อำนาจและการเป็นผู้นำ อาชีพที่ต้องแสดงให้คนเห็น สร้างชื่อเสียง เรียกร้องความสนใจ
นักวิจารณ์ หาข้อด้อยสิ่งต่างๆมาพูดได้ชัดเจนและแสดงความคิดเฉียบคมของตนไปพร้อมๆกัน
อีกด้านนึงคือการลงทุนเกี่ยวกับการเงินจะเป็นผู้มีอิทธิพลทางนี้พอควร(แม่นแฮะ)
ข้อเสียคือมักไม่ค่อยพอใจตำแหน่ง จึงดิ้นรนไต่เต้าจนถึงที่สุด ชื่นชมกับชื่อเสียงวัตถุรางวัลท่ี่ได้ ทำอะไรที่ได้รับยกย่องชื่นชม เกียรติยศชื่อเสียงตามมาแม้ไม่ได้เงินก็ไม่่เป็นไร(เหมาะสมกับสมาคมนี้แล้วฮะ)
อนาคตแน่นอนว่าจะก้าวหน้าการงานอย่างเด่นชัด แต่เป็นก้าวช้าๆอย่างสง่างามมั่นคงน่าพอใจ
การเงิน
โชคดีทางการเงินจากมรดก สมบัติพัสถานต่างๆ แม้วัยเด็กยากจนแร้นแค้นแต่โตขึ้นจะมั่นคงดี
ถึงเงินน้อย แต่หากได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนใคร ก็สร้างชื่อเสียงเด่นดัง สร้างสถานภาพตัวเองให้ก้าวหน้ายิ่งใหญ่และทำเงินให้การงานนั้นๆเป็นอย่างดี มีผิดและพลาดหวังเรื่องการลงทุนการเงินหลายครั้ง แต่ก็เริ่มต้นใหม่ได้ไม่ยากเย็นอะไร
เป็นนักสู้และวางแผนทางการเงินได้ดีพอควร ไม่น่าห่วงเรื่องเงินมากนัก แต่อาจใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายไม่ระวัง
มีเงินเท่าไรมักไม่ยอมเก็บไว้วันหน้า อาจเดือดร้อนต้องวิ่งเต้นเรื่องเงินหลายครั้ง
ช่วงวัยรุ่นกับวัยทำงานต้นๆไม่ค่อยเก็บออมนัก พอกลางคนจะรู้จักใช้เงินมากขึ้น หาซื้อสมบัติที่ดินไว้เก็งกำไร
เมื่อเงินมากก็เริ่มบริจาคการกุศลซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดี
ครอบครัว
ผูกพันรักใคร่กันระยะยาว เอาใจใส่ครอบครัวต่อเนื่อง ไม่ให้เดือดร้อยนทุกข์ยาก ชอบตั้งกฎข้อแม้กับคนในครอบครัว แต่ตัวเองไม่ทำตาม
ถ้าโตมาแบบห่างครอบครัว ยังใฝ่ฝันจะได้อยู่ร่วมครอบครัวกันอีกในอนาคต มักได้เข้าไปจัดการปัญหาหรือภัยของคนในบ้านเสมอๆ
ผู้หญิงจะรักใคร่สนิมสนมครอบครัวดี อยู่ห่างก็ได้กลับไปดูแลบ่อย ส่งเสียลูกหลานบริวารอย่างเต็มใจ
ผู้ชายเกิดวันที่4 ห่างเหินอยู่บ้าง แต่รับผิดชอบสนิมสนมทุกครั้งที่เจอ ลึกๆแล้วเขารักและอยากมีสัมพันธ์ที่ดีๆ แต่แสดงออกทางความรักความผูกพันไม่เป็นเท่านั้น จริงใจกับทุกคนที่เขารักมากทีเดียว
ความรัก คู่ครอง
มีจุดอ่อนเรื่องเพศตรงข้ามนี่แหละ เป็นได้ทั้งคนรักและศัตรู ชีวิตรัก อาจไม่ราบรื่นนัก พบรักหลายครั้ง แต่งงานหลายหน ความรักจะโลเลเปลี่ยนแปลงง่าย ยังไม่เข้าใจตัวเองว่า ต้องการใคร หรือต้องการรักแบบไหนกันแน่
มีมากที่เลิกรักเสียเอง เปลี่ยนใจเองเพราะเข้ากันไม่ได่เรื่องความคิด ภาวะผู้นำสูง ต้องการคู่ที่ก้มหัวยอมทุกอย่าง ซึ่งเป็นไปได้ยาก
แต่งงานช้า( เช่นหลัง30)จะดีกว่าแต่งงานเร็ว ต่อให้อายุมากก็ยังมีโอกาสแต่งงานได้ ชีวิตมุ่งหวังรักที่สูงส่ง
ซึ่งมักทำให้ท้อแท้ไปพักใหญ่ แต่ก็เริ่มใหม่กับใครๆได้เสมอ
สับสนเข้าใจผิดเรื่องรักหลายครั้ง แม้ไม่อยากทำร้ายใจใคร แต่การสับสนไม่เข้าใจความต้องการตัวเองก็ทำร้ายความรู้สึกคนที่รักได้ง่าย
ซื่อสัตย์ผูกพันต่อความรักเสมอ รักแล้วรักเลย แต่หากเลิกรักเมื่อไรก็จะยากที่จะตามง้อคืนดี บางคนเห็นเป็นเกมส์ที่จะเอาชนะเท่านั้น ทำให้ความรักมีพื้นฐานง่อนแง่น เหมือนมีเส้นบางๆกั้นอยู่
แม้ช่างพูด แต่เรื่องความรักอาจพูดจาไปในทางลบได้เสมอ ไม่ค่อยเอาใจคนรัก เพราะห่วงว่าจะถูกมองว่าหลงไหลเกินไป
ชอบเรียกร้องกับคนรักมากไป จึงมีความรักระยะสั้น ความรักที่แท้ต้องเติมเต็มโดยคน2คนขึ้นไป
ดังนั้นการเป็นผัวเดียวเมียเดียวของหญิงและชาย ที่เกิดวันที่4 จึงเป็นไปได้ยาก
อย่างน้อยถึงไม่มีสถานภาพซ้ำซ้อน มีรักไม่เปิดเผย ก็ยังมีคนรักทางใจ ที่คุยกันเข้าใจ ทดแทนส่วนที่คู่ครองตัวเองไม่มีหรือรู้สึกขาด
สุขภาพ
เกี่ยวกับปาก หรือช่องปาก ปกติแข็งแรงดี แต่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ผู้ชายมักมีโรคกระเพาะลำไส้จากเหล้าเบียร์
มีมากที่ติดสารเสพติดจากไม่ยับยั้งชั่งใจ ผู้หญิงมีปัญหาท้อง มดลูก ปวดศรีษะ(มากและบ่อยด้วย)
ผ่าตัดหนึ่งครั้งหรืออาจมากกว่า อายุเกิน40ระวังสุขภาพจะแย่ ผู้ชายจะหักโหมร่างกายในวัยหนุ่ม
ระวังเรื่องลำไส้ หรืออุบัติเหตุเสียอวัยวะ โยคะ นั่งสมาธิจะช่วยเรื่องจิตใจ และปลงสังขารตัวเอง
เพื่อนมิตร ศัตรู
มิตรเยอะ แบบเพื่อนกินก็มาก ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร เพื่อนรักแท้จริงสักคนก็ใช้ได้แล้ว
มีคนไม่ชอบใจ อิจฉาริษยาความเก่งอยู่มาก แต่ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะความสามารถที่เด่นกว่า
มิตร เพื่อนร่วมงานสนับสนุนให้ก้าวหน้า ลงทุนให้เงินให้โอกาสแสดงความสามารถจนสำเร็จ
คนนิยมยกย่องเยอะ มีเพื่อนสถานะสูงกว่า ส่งเสริมเสมอ สุขภาพถือเป็นศัตรูตัวฉกาจได้
บริวาร
ปกครองลูกน้องบริวารดีเยี่ยม คนรักใคร่นับถือเยอะ หาคนจงรักภักดีได้เสมอ
เพื่อนๆตกเป็นบริวารในดวงชะตา ถ้าพูดดีพูดเพราะ รับรองว่ามีคนมารับใช้ทำงานแทนได้ ได้บริวารเพราะคำพูดจาเนี่ยแหละ
คนในครอบครัวเดิมถือเป็นบริวารด้วย แต่มักให้โทษ ต้องเข้าไปแก้ปัญหา อาจเสียชื่อได้บ้าง
คู่ครองและคนรัก ไม่ตกเป็นบริวาร แต่มักโดนเคี่ยวเข็นทำให้เกิดปัญหามากกว่า ถ้าจะเอามาเป็นบริวาร
โชคลาภ
เป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรีอำนาจชื่อเสียง เป็นโชคดีที่โตช้าๆแต่มั่นคงไม่ผิดหวัง
แต่ถ้าไม่ยับยั้งชั่งใจจะเบียดเบียนผู้อื่น โชคลาภก็จะอยู่ไม่นานต้องดิ้นรนไม่รู้จักพอ และเสียไปอีกทางเสมอ
สติปัญญาที่ได้จากการเรียนรู้ที่จะอยู่เหนือผู้อื่นก็เป็นลาภ เป็นคนรอบรู้จนผู้คนยกย่องกล่าวถึง ควรภูมิใจแบบนี้มากกว่า
การเดินทาง
ไม่โลดโผน แต่จะได้เดินทางบ่อย ยิ่งอายุมากยิ่งบ่อย ไปประเทศตะวันตกจะโชคดีเป็นพิเศษ
แม้จะเสี่ยงภัยหรือกันดาร แต่ก็ได้รับความสะดวกสบายเพราะมีคนเตรียมพร้อมไว้ให้เสมอ
อาจพบเนื้อคู่หรือรักซ้อนจากการเดินทาง อุบัติเหตุหลายครั้งแต่ไม่รุนแรงกับแอลกอฮอล์
เดินทางติดขัดล่าช้าจากพลาดเที่ยวบิน รถไฟได้บ่อยๆ ต้องพัฒนาเรื่องความขี้เกียจ ตื่นให้เช้าเข้าไว้
ความเชื่อมงคล
เป็นคนธาติดิน เหมาะกับเพาะปลูก สถานที่เหมาะคือทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม
สีเขียว เลือดนก ฟ้า เทา เสื้อผ้าสดใส ดำ แดงขาว
วันดีคือ อาทิตย์ จันทร์ เสาร์ ยิ่งมีวันที่มีเลข2,8 รวมด้วยยิ่งดี
คนเกิด 4 ตค.
เป็นคนอ่อนโยน ยืดหยุ่น อลุ่มอล่วย แต่ไม่เด็ดขาด เรื่องการตัดสินใจ
แม้สติปัญญาเฉียบไว เข้าใครๆได้ง่าย งานเหมาะคือนักกฎหมาย นักการเมือง
หรือทำงานองค์กรใหญ่ๆเช่นโทรศัพท์ ไฟฟ้า ไปรษณีย์ นิสัยชอบฟุ้งเฟ้อ
วีไอหมอดู ณ(อ่านว่านะ)จ๊ะ จะบอกให้ รายงาน ณ วันดัชนีพันเจ็ดขึ้นไปเรื่อยๆ
samatah
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2963
ขอบคุณหมอหนึ่งและเพื่อนๆในห้องครับdr1 เขียน:สามสิบปีที่แล้วตอนรับปริญญา (ไม่น่าเล่าเล้ย.. รู้อายุเราหมด )รุ่นผมน่าจะเป็นรุ่นท้ายๆที่ได้รับจากมือท่าน เพราะปีนั้นท่าน60ชันษา หลังจากนั้นท่านคง"เกษียณ"จากงานนี้
รุ่นพี่ๆก็จะบอกว่าคอยดูสิ พอเข้าแถวส่งเสด็จ เสด็จกลับแล้ว ฝนจะตกโครมใหญ่ เป็นแบบนี้ทุกครั้ง
ก็เป็นจริงตามนั้นฮะ ฝนตกหนักเปียกทั้งตัวในชุดบัณฑิต จนนั่งรถเมล์ร้อนของคณะกลับมาจากปัตตานี(ตอนนั้นสลับงานรับปริญญาหาดใหญ่กับปัตตานีกันปีต่อปี)ถึงหาดใหญ่แล้วชุดเพิ่งแห้งหมาดๆ
เห็นข่าวประชาชนตากฝนรอส่งเสด็จ เจอฟ้าร้องไห้ ภาพเก่าๆความหลังก็ผุดขึ้นมาฮะ ท่านคงเสด็จกลับ(สวรรค์)แล้วจริงๆ..
ท่าน AnieLee ฮะ ตกลงว่าท่านไปแทงหุ้นผิดตัวติดดอย จนต้องกิน"ส้ม24ลูก"แทนข้าวป่าวฮะเนี่ย..
และก็ ท่าน roaming romee ผู้กว้างขวาง หลังจากกลับจากโรม(เข้าเฝ้าขอพรพระสันตปะปามา) ก็มากระซิบบอกผม ว่าวันที่ 4ตค. ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดท่านamornkowa (สองคนนี้มีไรกันป่าวเนี่ย ถามถึงกันตลอดๆ)
ผมในฐานะผู้รู้ทุกเรื่อง(เว้นเรื่องหุ้นกับเรื่องตัวเอง) ก็ขออนุญาตเป็นตัวแทนสมาชิกวีไอห้องหาดใหญ่ อวยพรให้ท่านamornkowa (ที่คงเพิ่งผ่านเบญจเพศหมาดๆ) มีสุขภาพผอร์ท,กาย,จิต ดียิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น มีโอกาสคลุกวงในไฮโซโห่ฮิ้ว เลคเชอร์มาฝากพวกเรา(พร้อมความเห็นและคอมเมนท์ล้ำค่า)ต่อไปอีกยาวนานนะฮะ ไช..โย..
จากหนังสือคุณจุฑามาศ ณ สงขลา เล่มเดิม
คนเกิดวันที่ 4
วาจาดี ช่างพูด อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย บางครั้งดูเหมือนโลเลไม่แน่นอน รูปร่างท้วม เตี้ย จมูกโด่ง ผิวสองสีค่อนข้างขาว เข้ากับใครง่าย สติปัญญาเฉียบแหลม ฉับไว เรียบร้อยอ่อนโยน หากินด้วยคำพูดจะเด่นดัง มีมากที่ดวงชะตาเป็นนักปราชญ์ เพราะมีดาวพุธเป็นอิทธิพล
นิสัย
เชื่อมั่นตัวเอง เรียบร้อย เข้มแข็ง เผชิญอุปสรรคอย่างช้าๆและมั่นคง ยิ้มรับความล้มเหลวหรือผิดหวังได้ดี มีอำนาจและใช้วาจาอย่างมีอำนาจเหนือผู้อื่น เป็นผู้นำ เบิกบานมีชีวิตชีวาต่อหน้าผู้พบเห็น สนใจสิ่งแปลกใหม่ โดยเฉพาะด้านจิตวิญญาณ สนใจสิ่งลึกลับบางอย่าง(พกกุมารทองป่าวเนี่ย..)และโหราศาสตร์(ทำงานบ.ไฮเทคเนี่ยนะ..)
ขึ้นกับเลขดาวอื่นๆประกอบด้วยถึงจะแม่นยำว่าจะหันมาสนใจเรื่องศาสตร์เร้นลับและวิญญาณ
ข้อเสียคือบางครั้งค่อนข้างเกียจคร้าน(มิน่า ถึงมาลงทุนหุ้น) และใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมากเกินไป(คงซื้อหุ้นพีอีสูง..)
ไม่ค่อยระวังสุขภาพนัก ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองทางอบายมุข(อ้าว..)
สติปัญญา
ดีื หลักแหลมเฉียบคมว่องไวมาก บางครั้งติดกะล่อนเสียด้วยซ้ำ(ไม่จริ้ง ไม่จริง ไม่เชื่อ...)
รู้จักเอาตัวรอดในทุกสถานการณ์ แม้ช่วงต้นจะถูกขัดจังหวะการศึกษา แต่ก็ลุกขึ้นมาต่อสู้เล่าเรียนได้สำเร็จกว้างไกล คนรอบข้างนิยมยกย่องในความเอาใจใส่ในการเรียนรู้ สนใจรอบรู้สิ่งต่างๆรอบกายอย่างมาก
เป็นคนเรียนรู้สภาพสังคม ชอบวิจัย วิจารณ์ วิเคราะห์หาเหตุผลอยู่ร่ำไป
ถ้ามีตัวเลขเกิด วัน เดือน ปี เป็นเลขเดียวกัน เช่นวันที่4 เดือน4 ปี2504 ,2514,อะไรทำนองนี้ จะเรียนรู้ศาสตร์ลึกลับได้ก้าวหน้า เร็วขึ้น
ชอบอ่านหนังสือรวมไปถึงศาสนา ปรัชญา ธรรมะ สติปัญญาเฉียบแหลม เหมาะสมเป็นนักปราชญ์ ราชบัณฑิต
อาชีพ
เหมาะกับหากินเรื่องพูด เขียน งานเด่นดังถ้าเป็นนักคิดนักเขียน ผู้สื่อข่าว journalist จะก้าวหน้าได้ตลอด
หัวรุนแรง หัวก้าวหน้า ชอบแสดงเหตุผลและความคิดของตัวเอง มีมากที่เป็นงานปฐกถา โต้วาที นักพูด ผู้แทน แม้กระทั่งนักประท้วง
อิทธิพลดาวพุธทำให้ชอบใช้อำนาจและการเป็นผู้นำ อาชีพที่ต้องแสดงให้คนเห็น สร้างชื่อเสียง เรียกร้องความสนใจ
นักวิจารณ์ หาข้อด้อยสิ่งต่างๆมาพูดได้ชัดเจนและแสดงความคิดเฉียบคมของตนไปพร้อมๆกัน
อีกด้านนึงคือการลงทุนเกี่ยวกับการเงินจะเป็นผู้มีอิทธิพลทางนี้พอควร(แม่นแฮะ)
ข้อเสียคือมักไม่ค่อยพอใจตำแหน่ง จึงดิ้นรนไต่เต้าจนถึงที่สุด ชื่นชมกับชื่อเสียงวัตถุรางวัลท่ี่ได้ ทำอะไรที่ได้รับยกย่องชื่นชม เกียรติยศชื่อเสียงตามมาแม้ไม่ได้เงินก็ไม่่เป็นไร(เหมาะสมกับสมาคมนี้แล้วฮะ)
อนาคตแน่นอนว่าจะก้าวหน้าการงานอย่างเด่นชัด แต่เป็นก้าวช้าๆอย่างสง่างามมั่นคงน่าพอใจ
การเงิน
โชคดีทางการเงินจากมรดก สมบัติพัสถานต่างๆ แม้วัยเด็กยากจนแร้นแค้นแต่โตขึ้นจะมั่นคงดี
ถึงเงินน้อย แต่หากได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนใคร ก็สร้างชื่อเสียงเด่นดัง สร้างสถานภาพตัวเองให้ก้าวหน้ายิ่งใหญ่และทำเงินให้การงานนั้นๆเป็นอย่างดี มีผิดและพลาดหวังเรื่องการลงทุนการเงินหลายครั้ง แต่ก็เริ่มต้นใหม่ได้ไม่ยากเย็นอะไร
เป็นนักสู้และวางแผนทางการเงินได้ดีพอควร ไม่น่าห่วงเรื่องเงินมากนัก แต่อาจใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายไม่ระวัง
มีเงินเท่าไรมักไม่ยอมเก็บไว้วันหน้า อาจเดือดร้อนต้องวิ่งเต้นเรื่องเงินหลายครั้ง
ช่วงวัยรุ่นกับวัยทำงานต้นๆไม่ค่อยเก็บออมนัก พอกลางคนจะรู้จักใช้เงินมากขึ้น หาซื้อสมบัติที่ดินไว้เก็งกำไร
เมื่อเงินมากก็เริ่มบริจาคการกุศลซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดี
ครอบครัว
ผูกพันรักใคร่กันระยะยาว เอาใจใส่ครอบครัวต่อเนื่อง ไม่ให้เดือดร้อยนทุกข์ยาก ชอบตั้งกฎข้อแม้กับคนในครอบครัว แต่ตัวเองไม่ทำตาม
ถ้าโตมาแบบห่างครอบครัว ยังใฝ่ฝันจะได้อยู่ร่วมครอบครัวกันอีกในอนาคต มักได้เข้าไปจัดการปัญหาหรือภัยของคนในบ้านเสมอๆ
ผู้หญิงจะรักใคร่สนิมสนมครอบครัวดี อยู่ห่างก็ได้กลับไปดูแลบ่อย ส่งเสียลูกหลานบริวารอย่างเต็มใจ
ผู้ชายเกิดวันที่4 ห่างเหินอยู่บ้าง แต่รับผิดชอบสนิมสนมทุกครั้งที่เจอ ลึกๆแล้วเขารักและอยากมีสัมพันธ์ที่ดีๆ แต่แสดงออกทางความรักความผูกพันไม่เป็นเท่านั้น จริงใจกับทุกคนที่เขารักมากทีเดียว
ความรัก คู่ครอง
มีจุดอ่อนเรื่องเพศตรงข้ามนี่แหละ เป็นได้ทั้งคนรักและศัตรู ชีวิตรัก อาจไม่ราบรื่นนัก พบรักหลายครั้ง แต่งงานหลายหน ความรักจะโลเลเปลี่ยนแปลงง่าย ยังไม่เข้าใจตัวเองว่า ต้องการใคร หรือต้องการรักแบบไหนกันแน่
มีมากที่เลิกรักเสียเอง เปลี่ยนใจเองเพราะเข้ากันไม่ได่เรื่องความคิด ภาวะผู้นำสูง ต้องการคู่ที่ก้มหัวยอมทุกอย่าง ซึ่งเป็นไปได้ยาก
แต่งงานช้า( เช่นหลัง30)จะดีกว่าแต่งงานเร็ว ต่อให้อายุมากก็ยังมีโอกาสแต่งงานได้ ชีวิตมุ่งหวังรักที่สูงส่ง
ซึ่งมักทำให้ท้อแท้ไปพักใหญ่ แต่ก็เริ่มใหม่กับใครๆได้เสมอ
สับสนเข้าใจผิดเรื่องรักหลายครั้ง แม้ไม่อยากทำร้ายใจใคร แต่การสับสนไม่เข้าใจความต้องการตัวเองก็ทำร้ายความรู้สึกคนที่รักได้ง่าย
ซื่อสัตย์ผูกพันต่อความรักเสมอ รักแล้วรักเลย แต่หากเลิกรักเมื่อไรก็จะยากที่จะตามง้อคืนดี บางคนเห็นเป็นเกมส์ที่จะเอาชนะเท่านั้น ทำให้ความรักมีพื้นฐานง่อนแง่น เหมือนมีเส้นบางๆกั้นอยู่
แม้ช่างพูด แต่เรื่องความรักอาจพูดจาไปในทางลบได้เสมอ ไม่ค่อยเอาใจคนรัก เพราะห่วงว่าจะถูกมองว่าหลงไหลเกินไป
ชอบเรียกร้องกับคนรักมากไป จึงมีความรักระยะสั้น ความรักที่แท้ต้องเติมเต็มโดยคน2คนขึ้นไป
ดังนั้นการเป็นผัวเดียวเมียเดียวของหญิงและชาย ที่เกิดวันที่4 จึงเป็นไปได้ยาก
อย่างน้อยถึงไม่มีสถานภาพซ้ำซ้อน มีรักไม่เปิดเผย ก็ยังมีคนรักทางใจ ที่คุยกันเข้าใจ ทดแทนส่วนที่คู่ครองตัวเองไม่มีหรือรู้สึกขาด
สุขภาพ
เกี่ยวกับปาก หรือช่องปาก ปกติแข็งแรงดี แต่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ผู้ชายมักมีโรคกระเพาะลำไส้จากเหล้าเบียร์
มีมากที่ติดสารเสพติดจากไม่ยับยั้งชั่งใจ ผู้หญิงมีปัญหาท้อง มดลูก ปวดศรีษะ(มากและบ่อยด้วย)
ผ่าตัดหนึ่งครั้งหรืออาจมากกว่า อายุเกิน40ระวังสุขภาพจะแย่ ผู้ชายจะหักโหมร่างกายในวัยหนุ่ม
ระวังเรื่องลำไส้ หรืออุบัติเหตุเสียอวัยวะ โยคะ นั่งสมาธิจะช่วยเรื่องจิตใจ และปลงสังขารตัวเอง
เพื่อนมิตร ศัตรู
มิตรเยอะ แบบเพื่อนกินก็มาก ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร เพื่อนรักแท้จริงสักคนก็ใช้ได้แล้ว
มีคนไม่ชอบใจ อิจฉาริษยาความเก่งอยู่มาก แต่ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะความสามารถที่เด่นกว่า
มิตร เพื่อนร่วมงานสนับสนุนให้ก้าวหน้า ลงทุนให้เงินให้โอกาสแสดงความสามารถจนสำเร็จ
คนนิยมยกย่องเยอะ มีเพื่อนสถานะสูงกว่า ส่งเสริมเสมอ สุขภาพถือเป็นศัตรูตัวฉกาจได้
บริวาร
ปกครองลูกน้องบริวารดีเยี่ยม คนรักใคร่นับถือเยอะ หาคนจงรักภักดีได้เสมอ
เพื่อนๆตกเป็นบริวารในดวงชะตา ถ้าพูดดีพูดเพราะ รับรองว่ามีคนมารับใช้ทำงานแทนได้ ได้บริวารเพราะคำพูดจาเนี่ยแหละ
คนในครอบครัวเดิมถือเป็นบริวารด้วย แต่มักให้โทษ ต้องเข้าไปแก้ปัญหา อาจเสียชื่อได้บ้าง
คู่ครองและคนรัก ไม่ตกเป็นบริวาร แต่มักโดนเคี่ยวเข็นทำให้เกิดปัญหามากกว่า ถ้าจะเอามาเป็นบริวาร
โชคลาภ
เป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรีอำนาจชื่อเสียง เป็นโชคดีที่โตช้าๆแต่มั่นคงไม่ผิดหวัง
แต่ถ้าไม่ยับยั้งชั่งใจจะเบียดเบียนผู้อื่น โชคลาภก็จะอยู่ไม่นานต้องดิ้นรนไม่รู้จักพอ และเสียไปอีกทางเสมอ
สติปัญญาที่ได้จากการเรียนรู้ที่จะอยู่เหนือผู้อื่นก็เป็นลาภ เป็นคนรอบรู้จนผู้คนยกย่องกล่าวถึง ควรภูมิใจแบบนี้มากกว่า
การเดินทาง
ไม่โลดโผน แต่จะได้เดินทางบ่อย ยิ่งอายุมากยิ่งบ่อย ไปประเทศตะวันตกจะโชคดีเป็นพิเศษ
แม้จะเสี่ยงภัยหรือกันดาร แต่ก็ได้รับความสะดวกสบายเพราะมีคนเตรียมพร้อมไว้ให้เสมอ
อาจพบเนื้อคู่หรือรักซ้อนจากการเดินทาง อุบัติเหตุหลายครั้งแต่ไม่รุนแรงกับแอลกอฮอล์
เดินทางติดขัดล่าช้าจากพลาดเที่ยวบิน รถไฟได้บ่อยๆ ต้องพัฒนาเรื่องความขี้เกียจ ตื่นให้เช้าเข้าไว้
ความเชื่อมงคล
เป็นคนธาติดิน เหมาะกับเพาะปลูก สถานที่เหมาะคือทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม
สีเขียว เลือดนก ฟ้า เทา เสื้อผ้าสดใส ดำ แดงขาว
วันดีคือ อาทิตย์ จันทร์ เสาร์ ยิ่งมีวันที่มีเลข2,8 รวมด้วยยิ่งดี
คนเกิด 4 ตค.
เป็นคนอ่อนโยน ยืดหยุ่น อลุ่มอล่วย แต่ไม่เด็ดขาด เรื่องการตัดสินใจ
แม้สติปัญญาเฉียบไว เข้าใครๆได้ง่าย งานเหมาะคือนักกฎหมาย นักการเมือง
หรือทำงานองค์กรใหญ่ๆเช่นโทรศัพท์ ไฟฟ้า ไปรษณีย์ นิสัยชอบฟุ้งเฟ้อ
วีไอหมอดู ณ(อ่านว่านะ)จ๊ะ จะบอกให้ รายงาน ณ วันดัชนีพันเจ็ดขึ้นไปเรื่อยๆ
งานที่เหมาะคือไปรษณีย์ ส่งข้อมูล ความรู้ มาให้เพื่อนๆ
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2964
นักวิชาการชี้ตลาดท่องเที่ยวจีนยังโตได้อีกไกล แนะผู้ประกอบการปรับตัวคว้าโอกาสจากความได้เปรียบ
Source: IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ | 11 Oct 2017 18:58
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 60)--ตลาดนักท่องเที่ยวจีนยังคงได้รับความสนใจจากธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุที่จีนเป็นประเทศใหญ่ มีประชากรจำนวนมาก และมีกำลังซื้อสูง ขณะที่ประเทศไทยเองก็เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยในปีนี้มีการคาดการณ์กันว่าประเทศไทยจะมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศมากถึง 30 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนั้นคาดว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากจีนประมาณ 9 ล้านคน และมีแนวโน้มว่าจะทะลุ 11 ล้านคน ในปี 2561 อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อุปสรรคก็ยังคงปรากฎให้เห็นอยู่ ทั้งในแง่ของจำนวนและคุณภาพของนักท่องเที่ยว ตลอดจนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมารยาทและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลและองค์กรของทั้ง 2 ประเทศร่วมมือกันแก้ไขมาโดยตลอด สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ในฐานะตัวแทนส่งเสริมความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงจัดเสวนาโต๊ะกลมในหัวข้อ "ท่องเที่ยวไทย-จีน โอกาสโตอย่างยั่งยืน" เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมถึงทิศทางการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ
คุณชาติ จันทนประยูร ประธานสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวถึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยว่า ไทยเริ่มหันมาสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือเมื่อราวๆ 60 ปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเล็งเห็นถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทั้งทางด้านวัฒนธรรมและทรัพยากรอันหลากหลายของไทย ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ประเทศอื่นๆรอบด้านเพิ่งได้รับเอกราชจากเจ้าอาณานิคม ในตอนนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สงบสุขเหมาะสมกับการท่องเที่ยวมากที่สุด จึงมีการก่อตั้งหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวขึ้นมาดูแลรับผิดชอบในด้านดังกล่าวอย่างจริงจัง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากทางฝั่งอเมริกานิยมเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยนั้นก็เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากชาวจีนมีทัศนคติที่ดีต่อคนไทย พวกเขามองเห็นว่าคนไทยมีความเข้าใจ พยาพยามปรับตัว และเป็นมิตร ซึ่งเหตุผลเหล่านี้เป็นปัจจัยทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน
คุณนริศ สถาผลเดช เจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจธนาคารทหารไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจของไทยเติบโตขึ้นได้เพราะการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวไทยก็โตขึ้นได้เพราะนักท่องเที่ยวจีน" พร้อมกับเสริมว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ และนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยนั้นก็เติบโตขึ้นในระดับเลข 2 หลักทุก ๆ ปี เพราะฉะนั้นทั้งไทยและจีนต้องปรับตัวเข้าหากัน ทั้งในด้านวัฒธรรมและเทคโนโลยี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเข้ามาในประเทศมากขึ้น ซึ่งคุณภาพในแง่ของการธนาคารก็คือความสามารถในการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเหล่านั้น ในตอนนี้เราอาจจะพบว่าจำนวนเงินที่นักท่องเที่ยวจีนนำเข้ามาใช้จ่ายในไทยนั้นยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเงินที่นักท่องเที่ยวจากยุโรปหรืออเมริกาใช้จ่าย นี่เป็นโจทย์ที่เราต้องมองหา
สำหรับประเด็นในเรื่องกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวนั้น รศ.ดร.เลิศพร ภาระสกุล นักวิชาการด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต อธิบายเสริมว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเองก็เคยมีนโยบายเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง แต่พบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวมักนิยมเดินทางไปยุโรปหรืออเมริกา เพื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมมากกว่าที่จะมาซื้อในไทย และจุดอ่อนอีกเรื่องหนึ่งของไทยก็คือเรายังคงต้องพึ่งพาสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งทำให้เกิดการรั่วไหลของรายได้ เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องโปรโมทสินค้าท้องถิ่นขึ้นมาเป็นจุดขาย ตลอดจนโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ นอกจากเมืองใหญ่ๆที่นักท่องเที่ยวกระจุกตัวกันอยู่ เพื่อเป็นการกระจายรายไปสู่ชุมชนมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เขายังแสดงมุมมองด้านการท่องเที่ยวในแง่ของความยั่งยืนว่า หากมองไปถึงจำนวนของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่สิ่งที่ควรตระหนักมากไปกว่านั้นก็คือผลกระทบจากการท่องเที่ยวซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีทั้งด้านลบและด้านบวก ทั้งในแง่ของรายได้ที่เกิดขึ้นกับชุมชน ผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลกระทบทางสังคมและวัฒนธรรม
รศ.ดร.เลิศพร เสริมอีกว่า เม็ดเงินที่ไทยได้รับจากนักท่องเที่ยวจีน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนที่ทำการวิจัยออกมาได้อย่างแน่นอนว่าเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวจีนเหล่านั้นเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ เพราะหากโรงแรมที่นักท่องเที่ยวเหล่านั้นเข้าพักเป็นของนักธุรกิจจีน สินค้าที่พวกเขามาซื้อเป็นสินค้าแบรนด์ต่างชาติ เงินก็จะรั่วไหลออกจากประเทศของเราอย่างแน่นอน
ขณะที่ประธานสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า สิ่งที่ไทยควรจะมองไม่ใช่แค่เพียงรายได้ แต่ต้องมองถึงรายจ่ายที่เราต้องแบกรับ ทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแล บูรณะสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเข้าชมเป็นจำนวนมากย่อมทำให้เกิดความเสื่อมโทรมขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งเรื่องความมีเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เริ่มจะหายไป เมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเยอะขึ้น ส่งผลให้บรรยากาศของการท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากเดิม รวมถึงเรื่องความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวซึ่งบางสถานที่อาจมีขนาดเล็กและคับแคบเกินไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยควรตระหนักมากกว่าเม็ดเงินที่เราได้รับจากนักท่องเที่ยวเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่มักจะเดินทางมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ แต่ในวันนี้พวกเขาชอบที่จะเดินทางด้วยตนเองมากกว่า ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมาก เพระฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำได้ก็คือการนำเสนอสินค้าที่มีความเหมาะสมกับพวกเขา ซึ่งอาจจะไม่ใช่สินค้าที่มีราคาสูงมากเกินไป
นอกจากพฤติกรรมการเดินทางที่เปลี่ยนไปแล้ว คุณนริศยังกล่าวถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของชาวจีนในปัจจุบัน โดยเขาระบุว่า ปัจจุบันประเทศจีนนับเป็นประเทศที่มีการพัฒนามากที่สุดในเรื่องการชำระเงินในโลกดิจิทัล ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องเข้าใจว่าพฤติกรรมการซื้อสินค้าของนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่เหมือนกับนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ โดยนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่นิยมชำระเงินด้วยบาร์โค้ดผ่านระบบอาลีเพย์หรือวีแชทเพย์ ผู้ประกอบการไทยเองจำเป็นต้องหาบริการให้รองรับระบบเหล่านี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายให้กับนักท่องเที่ยวเหล่านั้น
ด้านคุณจาง ซิน หง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (CNTA) ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักงานยี่สิบสองแห่งทั่วโลกของกรมการท่องเที่ยวจีน กรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีนเป็นองค์กรของรบ.สังกัดสำนักงานนายกรัฐมนตรีจีนโดยตรง ที่ทำหน้าที่ประสานงานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวในมุมมองของทางฝั่งจีนว่า รัฐบาลจีนเองเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและพยายามหาทางแก้ไข เพื่อให้ความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยและจีนเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มเติมกฎระเบียบว่าด้วยการบริหารบริษัทท่องเที่ยวโดยห้ามไม่ให้บริษัทท่องเที่ยวขายทัวร์ในราคาต่ำหรือราคาที่ไม่สมเหตุสมผล และร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ อีกทั้งกำหนดให้บริษัทท่องเที่ยวต่างๆให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางออกนอกประเทศ รวมถึงการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมารยาทในการท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ
ผอ. CNTA ทิ้งท้ายว่า ชาวจีนในปัจจุบันนิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันเป็นจำนวนมาก โดยมีการจัดทัวร์ไปเที่ยวถึง 123 ประเทศทั่วโลก และประเทศไทยก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยทัศนคติที่ดีทำให้ไทยมีความได้เปรียบในแง่ของการแข่งขัน หากรัฐบาล สมาคม องค์กรต่างๆ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้น จะทำให้การท่องเที่ยวระหว่างทั้ง 2 ประเทศเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนแน่นอน
--อินโฟเควสท์ โดย พัทธนันท์ เอกนิพิตรพงศ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: [email protected]--
All rights reserved. INFORMATION DISCLAIMER applies (http://goo.gl/4mfKZ3).
Source: IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ | 11 Oct 2017 18:58
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 60)--ตลาดนักท่องเที่ยวจีนยังคงได้รับความสนใจจากธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุที่จีนเป็นประเทศใหญ่ มีประชากรจำนวนมาก และมีกำลังซื้อสูง ขณะที่ประเทศไทยเองก็เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยในปีนี้มีการคาดการณ์กันว่าประเทศไทยจะมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศมากถึง 30 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนั้นคาดว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากจีนประมาณ 9 ล้านคน และมีแนวโน้มว่าจะทะลุ 11 ล้านคน ในปี 2561 อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อุปสรรคก็ยังคงปรากฎให้เห็นอยู่ ทั้งในแง่ของจำนวนและคุณภาพของนักท่องเที่ยว ตลอดจนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมารยาทและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลและองค์กรของทั้ง 2 ประเทศร่วมมือกันแก้ไขมาโดยตลอด สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ในฐานะตัวแทนส่งเสริมความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงจัดเสวนาโต๊ะกลมในหัวข้อ "ท่องเที่ยวไทย-จีน โอกาสโตอย่างยั่งยืน" เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมถึงทิศทางการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ
คุณชาติ จันทนประยูร ประธานสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวถึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยว่า ไทยเริ่มหันมาสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือเมื่อราวๆ 60 ปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเล็งเห็นถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทั้งทางด้านวัฒนธรรมและทรัพยากรอันหลากหลายของไทย ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ประเทศอื่นๆรอบด้านเพิ่งได้รับเอกราชจากเจ้าอาณานิคม ในตอนนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สงบสุขเหมาะสมกับการท่องเที่ยวมากที่สุด จึงมีการก่อตั้งหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวขึ้นมาดูแลรับผิดชอบในด้านดังกล่าวอย่างจริงจัง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากทางฝั่งอเมริกานิยมเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยนั้นก็เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากชาวจีนมีทัศนคติที่ดีต่อคนไทย พวกเขามองเห็นว่าคนไทยมีความเข้าใจ พยาพยามปรับตัว และเป็นมิตร ซึ่งเหตุผลเหล่านี้เป็นปัจจัยทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน
คุณนริศ สถาผลเดช เจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจธนาคารทหารไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจของไทยเติบโตขึ้นได้เพราะการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวไทยก็โตขึ้นได้เพราะนักท่องเที่ยวจีน" พร้อมกับเสริมว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ และนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยนั้นก็เติบโตขึ้นในระดับเลข 2 หลักทุก ๆ ปี เพราะฉะนั้นทั้งไทยและจีนต้องปรับตัวเข้าหากัน ทั้งในด้านวัฒธรรมและเทคโนโลยี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเข้ามาในประเทศมากขึ้น ซึ่งคุณภาพในแง่ของการธนาคารก็คือความสามารถในการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเหล่านั้น ในตอนนี้เราอาจจะพบว่าจำนวนเงินที่นักท่องเที่ยวจีนนำเข้ามาใช้จ่ายในไทยนั้นยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเงินที่นักท่องเที่ยวจากยุโรปหรืออเมริกาใช้จ่าย นี่เป็นโจทย์ที่เราต้องมองหา
สำหรับประเด็นในเรื่องกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวนั้น รศ.ดร.เลิศพร ภาระสกุล นักวิชาการด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต อธิบายเสริมว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเองก็เคยมีนโยบายเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง แต่พบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวมักนิยมเดินทางไปยุโรปหรืออเมริกา เพื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมมากกว่าที่จะมาซื้อในไทย และจุดอ่อนอีกเรื่องหนึ่งของไทยก็คือเรายังคงต้องพึ่งพาสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งทำให้เกิดการรั่วไหลของรายได้ เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องโปรโมทสินค้าท้องถิ่นขึ้นมาเป็นจุดขาย ตลอดจนโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ นอกจากเมืองใหญ่ๆที่นักท่องเที่ยวกระจุกตัวกันอยู่ เพื่อเป็นการกระจายรายไปสู่ชุมชนมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เขายังแสดงมุมมองด้านการท่องเที่ยวในแง่ของความยั่งยืนว่า หากมองไปถึงจำนวนของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่สิ่งที่ควรตระหนักมากไปกว่านั้นก็คือผลกระทบจากการท่องเที่ยวซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีทั้งด้านลบและด้านบวก ทั้งในแง่ของรายได้ที่เกิดขึ้นกับชุมชน ผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลกระทบทางสังคมและวัฒนธรรม
รศ.ดร.เลิศพร เสริมอีกว่า เม็ดเงินที่ไทยได้รับจากนักท่องเที่ยวจีน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนที่ทำการวิจัยออกมาได้อย่างแน่นอนว่าเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวจีนเหล่านั้นเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ เพราะหากโรงแรมที่นักท่องเที่ยวเหล่านั้นเข้าพักเป็นของนักธุรกิจจีน สินค้าที่พวกเขามาซื้อเป็นสินค้าแบรนด์ต่างชาติ เงินก็จะรั่วไหลออกจากประเทศของเราอย่างแน่นอน
ขณะที่ประธานสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า สิ่งที่ไทยควรจะมองไม่ใช่แค่เพียงรายได้ แต่ต้องมองถึงรายจ่ายที่เราต้องแบกรับ ทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแล บูรณะสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเข้าชมเป็นจำนวนมากย่อมทำให้เกิดความเสื่อมโทรมขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งเรื่องความมีเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เริ่มจะหายไป เมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเยอะขึ้น ส่งผลให้บรรยากาศของการท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากเดิม รวมถึงเรื่องความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวซึ่งบางสถานที่อาจมีขนาดเล็กและคับแคบเกินไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยควรตระหนักมากกว่าเม็ดเงินที่เราได้รับจากนักท่องเที่ยวเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่มักจะเดินทางมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ แต่ในวันนี้พวกเขาชอบที่จะเดินทางด้วยตนเองมากกว่า ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมาก เพระฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำได้ก็คือการนำเสนอสินค้าที่มีความเหมาะสมกับพวกเขา ซึ่งอาจจะไม่ใช่สินค้าที่มีราคาสูงมากเกินไป
นอกจากพฤติกรรมการเดินทางที่เปลี่ยนไปแล้ว คุณนริศยังกล่าวถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของชาวจีนในปัจจุบัน โดยเขาระบุว่า ปัจจุบันประเทศจีนนับเป็นประเทศที่มีการพัฒนามากที่สุดในเรื่องการชำระเงินในโลกดิจิทัล ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องเข้าใจว่าพฤติกรรมการซื้อสินค้าของนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่เหมือนกับนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ โดยนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่นิยมชำระเงินด้วยบาร์โค้ดผ่านระบบอาลีเพย์หรือวีแชทเพย์ ผู้ประกอบการไทยเองจำเป็นต้องหาบริการให้รองรับระบบเหล่านี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายให้กับนักท่องเที่ยวเหล่านั้น
ด้านคุณจาง ซิน หง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (CNTA) ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักงานยี่สิบสองแห่งทั่วโลกของกรมการท่องเที่ยวจีน กรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีนเป็นองค์กรของรบ.สังกัดสำนักงานนายกรัฐมนตรีจีนโดยตรง ที่ทำหน้าที่ประสานงานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวในมุมมองของทางฝั่งจีนว่า รัฐบาลจีนเองเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและพยายามหาทางแก้ไข เพื่อให้ความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยและจีนเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มเติมกฎระเบียบว่าด้วยการบริหารบริษัทท่องเที่ยวโดยห้ามไม่ให้บริษัทท่องเที่ยวขายทัวร์ในราคาต่ำหรือราคาที่ไม่สมเหตุสมผล และร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ อีกทั้งกำหนดให้บริษัทท่องเที่ยวต่างๆให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางออกนอกประเทศ รวมถึงการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมารยาทในการท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ
ผอ. CNTA ทิ้งท้ายว่า ชาวจีนในปัจจุบันนิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันเป็นจำนวนมาก โดยมีการจัดทัวร์ไปเที่ยวถึง 123 ประเทศทั่วโลก และประเทศไทยก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยทัศนคติที่ดีทำให้ไทยมีความได้เปรียบในแง่ของการแข่งขัน หากรัฐบาล สมาคม องค์กรต่างๆ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้น จะทำให้การท่องเที่ยวระหว่างทั้ง 2 ประเทศเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนแน่นอน
--อินโฟเควสท์ โดย พัทธนันท์ เอกนิพิตรพงศ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: [email protected]--
All rights reserved. INFORMATION DISCLAIMER applies (http://goo.gl/4mfKZ3).
-
AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2965
ส้ม 24 ลูก ลดไปบ้างแล้วครับ พี่หมอหนึ่ง เพราะสถานการณ์ไม่เป็นใจ เลยว่า รอปีหน้า หรือรอราคาย่อมาต่ำๆ อีกที ค่อยพิจารณาใหม่ครับ เปลี่ยนไปเป็นหุ้น บัตร ครับ ^ ^
ส่วน coman น่าแย่อีกหลายไตรมาสนะครับ ดูธุรกิจแล้ว ท่าทางย่ำแย่พอสมควรครับ ไว้มีแนวโน้มฟื้นตัว ค่อยคบกันใหม่ครับ เราเข้าใจกิจการมันแล้ว ติดตามง่ายครับ
ส่วน coman น่าแย่อีกหลายไตรมาสนะครับ ดูธุรกิจแล้ว ท่าทางย่ำแย่พอสมควรครับ ไว้มีแนวโน้มฟื้นตัว ค่อยคบกันใหม่ครับ เราเข้าใจกิจการมันแล้ว ติดตามง่ายครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2966
Property Fund & REITs & Infrafund Series
EP1 BKKCP
บทความนี้เป็นบทความเป็นตอนๆ ซึ่งจะเขียนถึง property fund, REITs, Infrafund ที่ยังมีอยู่ในตลาด
เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับนักลงทุน ซึ่งเหมาะกับช่วงนี้ที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดไทยยังไม่ขึ้น
ทำให้กองทุนรวมกลุ่มนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์(Property fund)
BKKCP จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์อันดับที่2 ในวันที่ 19 พย 2546
ส่วนProperty fund อันดับแรก บริหารจัดการโดย บลจ ยูโอบี คือ UOBAPF
เป็น apartment lease hold แถวหลังสวน ซึ่งเช่าพื้นที่เป็นเวลา 30 ปี ปัจจุบันกองนี้ได้ขายให้กับผู้สนใจไปแล้ว
ดังนั้นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จะพูดเป็นกองแรก คือ BKKCP
กองนี้จริงๆน่าจะเข้าได้เป็นกองแรก แต่ต้องใช้เวลานานจึงจดทะเบียนเข้าเป็นอันดับสอง
ซึ่งคนที่ริเริ่มกองทุนนี้คือ คุณ วิวรรณ ซึ่งขณะนั้นเป็นเป็น ผู้บริหารอยู่ที่บลจ วรรณ
แต่ถือว่าเป็น property fund free hold กองแรกของเมืองไทย
กองนี้ลงทุนในofficeให้เช่าบางส่วนของตึกชาญอิสระ1,2 ซึ่งมี occupancy rate อยู่ที่ 90%ขึ้นไป
ถึงแม้ว่าบางบริษัทที่เคยเช่าอยู่ที่ชาญอิสระ2ซึ่งเช่าหลายชั้น ได้ย้ายออกไป ทำให้สูญเสียรายได้ไป
แต่ท้ายสุดก็สามารถสร้างรายได้กลับมา ปีที่ผ่านมาได้มีการrenovate และปรับปรุงตึกหลายส่วน
เนื่องจากเป็นอาคารสำนักงานที่ใช้มานาน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ปีนี้เริ่มมีรายได้กลับเข้ามา
ประกอบผู้ประเมินราคาของสินทรัพย์กองนี้ได้ประเมินราคาสูงกว่าครั้งที่แล้ว (รายละเอียดดูจากรูปที่โชว์)
ทำให้มีส่วนกำไรในไตรมาสสองเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสสองปีที่แล้ว จาก 0.1697 บาทต่อหน่วย เป็น
0.2966 บาท ต่อหน่วย ทำให้กองทุนนี้ดูน่าสนใจขึ้นในสายตานักลงทุนสังเกตจาก
ราคาตลาดขยับขึ้นมาบ้าง แต่กองทุนนี้มีสภาพคล่องน้อย อาจซื้อยากสักหน่อยในตลาดหลักทรัพย์
สัดส่วนผู้ถือหุ้น
1. ชาญอิสระซึ่งเป็นเจ้าของและยังถืออยู่ในสัดส่วน 33%ซึ่งเท่ากับตอนจัดตั้งปี2546
2. ที่เหลือหลักๆจะเป็น ประกันชีวิต เช่น ไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันภัย เมืองไทยประกันชีวิต ไทยสมุทรประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ
อัตราปันผลย้อนหลัง1ปีประมาณ 6% โดยสังเกตจาก อัตราปันผลเริ่มขยับขึ้นจาก 0.16 บาทต่อไตรมาส เป็น 0.175 บาท
ซึ่งเหมาะกับผู้มีเงินเย็นเก็บไว้ สามารถลงทุนได้ อาจรอช่วงที่ราคาลดลงมาเข้าไปถือ กองนี้ยังมีdiscount เพราะราคาNAV ปัจจุบัน ประมาณ 12.4511 บาทต่อหน่วยในตอบประเมินราคาสินทรัพย์ครั้งล่าสุด
ซึ่งหาได้ยาก เพราะ กองทุนที่ฮิต ลงทุนกันเยอะส่วนใหญ่เป็น lease hold และ ราคาpremium คือซื้อ ขายสูงกว่าราคาNAV
กองproperty fund กองนี้เหมาะกับนักลงทุนทั่วไป เพราะสภาพคล่องน้อย เจ้าของคือชาญอิสระไม่ได้ขายออกมาเลย
ที่เหลือก็เป็นสถาบันการเงิน ก็ไม่ขายเช่นกัน ซื้อขายเฉพาะรายย่อยเท่านั้น ไม่เหมาะกับนักลงทุน แบบ Ultra wealth
ถือเป็นทางเลือกอีกทางสำหรับลงทุนในภาวะดอกเบี้ยต่ำมากในช่วงนี้
คอยติดตามตอนต่อไปว่าจะเป็นกองทุนกองต่อไปว่าจะเป็นกองใดนะครับ
EP1 BKKCP
บทความนี้เป็นบทความเป็นตอนๆ ซึ่งจะเขียนถึง property fund, REITs, Infrafund ที่ยังมีอยู่ในตลาด
เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับนักลงทุน ซึ่งเหมาะกับช่วงนี้ที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดไทยยังไม่ขึ้น
ทำให้กองทุนรวมกลุ่มนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์(Property fund)
BKKCP จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์อันดับที่2 ในวันที่ 19 พย 2546
ส่วนProperty fund อันดับแรก บริหารจัดการโดย บลจ ยูโอบี คือ UOBAPF
เป็น apartment lease hold แถวหลังสวน ซึ่งเช่าพื้นที่เป็นเวลา 30 ปี ปัจจุบันกองนี้ได้ขายให้กับผู้สนใจไปแล้ว
ดังนั้นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จะพูดเป็นกองแรก คือ BKKCP
กองนี้จริงๆน่าจะเข้าได้เป็นกองแรก แต่ต้องใช้เวลานานจึงจดทะเบียนเข้าเป็นอันดับสอง
ซึ่งคนที่ริเริ่มกองทุนนี้คือ คุณ วิวรรณ ซึ่งขณะนั้นเป็นเป็น ผู้บริหารอยู่ที่บลจ วรรณ
แต่ถือว่าเป็น property fund free hold กองแรกของเมืองไทย
กองนี้ลงทุนในofficeให้เช่าบางส่วนของตึกชาญอิสระ1,2 ซึ่งมี occupancy rate อยู่ที่ 90%ขึ้นไป
ถึงแม้ว่าบางบริษัทที่เคยเช่าอยู่ที่ชาญอิสระ2ซึ่งเช่าหลายชั้น ได้ย้ายออกไป ทำให้สูญเสียรายได้ไป
แต่ท้ายสุดก็สามารถสร้างรายได้กลับมา ปีที่ผ่านมาได้มีการrenovate และปรับปรุงตึกหลายส่วน
เนื่องจากเป็นอาคารสำนักงานที่ใช้มานาน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ปีนี้เริ่มมีรายได้กลับเข้ามา
ประกอบผู้ประเมินราคาของสินทรัพย์กองนี้ได้ประเมินราคาสูงกว่าครั้งที่แล้ว (รายละเอียดดูจากรูปที่โชว์)
ทำให้มีส่วนกำไรในไตรมาสสองเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสสองปีที่แล้ว จาก 0.1697 บาทต่อหน่วย เป็น
0.2966 บาท ต่อหน่วย ทำให้กองทุนนี้ดูน่าสนใจขึ้นในสายตานักลงทุนสังเกตจาก
ราคาตลาดขยับขึ้นมาบ้าง แต่กองทุนนี้มีสภาพคล่องน้อย อาจซื้อยากสักหน่อยในตลาดหลักทรัพย์
สัดส่วนผู้ถือหุ้น
1. ชาญอิสระซึ่งเป็นเจ้าของและยังถืออยู่ในสัดส่วน 33%ซึ่งเท่ากับตอนจัดตั้งปี2546
2. ที่เหลือหลักๆจะเป็น ประกันชีวิต เช่น ไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันภัย เมืองไทยประกันชีวิต ไทยสมุทรประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ
อัตราปันผลย้อนหลัง1ปีประมาณ 6% โดยสังเกตจาก อัตราปันผลเริ่มขยับขึ้นจาก 0.16 บาทต่อไตรมาส เป็น 0.175 บาท
ซึ่งเหมาะกับผู้มีเงินเย็นเก็บไว้ สามารถลงทุนได้ อาจรอช่วงที่ราคาลดลงมาเข้าไปถือ กองนี้ยังมีdiscount เพราะราคาNAV ปัจจุบัน ประมาณ 12.4511 บาทต่อหน่วยในตอบประเมินราคาสินทรัพย์ครั้งล่าสุด
ซึ่งหาได้ยาก เพราะ กองทุนที่ฮิต ลงทุนกันเยอะส่วนใหญ่เป็น lease hold และ ราคาpremium คือซื้อ ขายสูงกว่าราคาNAV
กองproperty fund กองนี้เหมาะกับนักลงทุนทั่วไป เพราะสภาพคล่องน้อย เจ้าของคือชาญอิสระไม่ได้ขายออกมาเลย
ที่เหลือก็เป็นสถาบันการเงิน ก็ไม่ขายเช่นกัน ซื้อขายเฉพาะรายย่อยเท่านั้น ไม่เหมาะกับนักลงทุน แบบ Ultra wealth
ถือเป็นทางเลือกอีกทางสำหรับลงทุนในภาวะดอกเบี้ยต่ำมากในช่วงนี้
คอยติดตามตอนต่อไปว่าจะเป็นกองทุนกองต่อไปว่าจะเป็นกองใดนะครับ
-
amornkowa
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2967
-
syj
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2968
ผมเคยถือ BKKCP อยู่นานพอสมควร
เห็นว่ามันเป็นแบบซื้อขาด (Free Hold)
ได้แต่ปันผลมา ราคาไม่ค่อยไปไหน
สุดท้ายก็เลย ลาจาก ครับ
กองทุนอสังหาฯ ดีๆ มีน้อยตัวมาก
ส่วนมาก เข้ามา เพื่อ "cash out"
บางกองฯ นี่ผมว่าผู้ถือหน่วยซื้อ IPO คงต้อง
น้ำตาเช็ดหัวเข่าอีกยาวนานและอาจจะ
เข็ดไปอีกนาน
การลงทุนในกองอสังหาฯ (และต่อไป
ที่จะแปลงร่างและออกใหม่เป็น REIT
ซึ่งผมคิดว่า จะอาจจะกลายเป็นฝันร้าย
ยิ่งกว่าเดิิมๆ ก็ได้ เพราะกู้ได้มากขึ้น
แล้วผมก็ไม่เคยไว้ใจผู้จััดการกองทุนฯ
พวกนี้เลย ต้องขออภัยที่มีอคติ) ก็ไม่ได้
แตกต่างจากการลงทุนในอสังหาฯ เพื่อ
ให้เช่าเท่าไร คือนอกจากได้ส่วนแบ่ง
ค่าเช่า (หรือส่วนแบ่งกำไร) แล้วสิ่งที่
ต้องคำนึงถึง กำลังต่อรองระหว่าง
ผู้ให้เช่ากับผู้เช่าด้วย อย่างพวกศูนย์การค้า
ดีๆ นี่กำลังต่อรองสูง ผู้เช่ามากรายหน่อย
ขึ้นราคาหรืืออีกนัยหนึ่งขูดรีดเลือดปู ได้เยอะ
่ใครออกก็มักจะมีเหยื่อรายใหม่มารอคิวเช่า
พวก Service Apartment ผมว่าถ้าเลี่ยงได้
อยู่ให้ไกลๆ เลยครับ อย่าไปมองมัน เว้นเสีย
แต่มีเหตุพิเศษๆ ที่เราอาจจะได้กำไรแบบ
One time เพราะเก่าๆ คนก็ย้ายออกไปที่ใหม่ๆ
สนามบิน หนึ่งเดียวบนเกาะ อันนี้ก็รีดเลือดปู
ได้ไม่แตกต่างจาก AOT สักเท่าไร โหดจัดยิ่ง
กว่ารัสเซีย เสียดายเป็น Lease Hold ถ้าเป็น
free อาจจะไปไกลๆ น้องๆ AOT ก็ได้
โรงแรม ส่วนมากมีปัญหาเกือบทุกกองฯ
อย่าไปยุ่งมัน เว้นเสียแต่มีเหตุการณ์พิเศษ
หรือราคาต่ำมากๆ จนน่าสนใจ
เห็นว่ามันเป็นแบบซื้อขาด (Free Hold)
ได้แต่ปันผลมา ราคาไม่ค่อยไปไหน
สุดท้ายก็เลย ลาจาก ครับ
กองทุนอสังหาฯ ดีๆ มีน้อยตัวมาก
ส่วนมาก เข้ามา เพื่อ "cash out"
บางกองฯ นี่ผมว่าผู้ถือหน่วยซื้อ IPO คงต้อง
น้ำตาเช็ดหัวเข่าอีกยาวนานและอาจจะ
เข็ดไปอีกนาน
การลงทุนในกองอสังหาฯ (และต่อไป
ที่จะแปลงร่างและออกใหม่เป็น REIT
ซึ่งผมคิดว่า จะอาจจะกลายเป็นฝันร้าย
ยิ่งกว่าเดิิมๆ ก็ได้ เพราะกู้ได้มากขึ้น
แล้วผมก็ไม่เคยไว้ใจผู้จััดการกองทุนฯ
พวกนี้เลย ต้องขออภัยที่มีอคติ) ก็ไม่ได้
แตกต่างจากการลงทุนในอสังหาฯ เพื่อ
ให้เช่าเท่าไร คือนอกจากได้ส่วนแบ่ง
ค่าเช่า (หรือส่วนแบ่งกำไร) แล้วสิ่งที่
ต้องคำนึงถึง กำลังต่อรองระหว่าง
ผู้ให้เช่ากับผู้เช่าด้วย อย่างพวกศูนย์การค้า
ดีๆ นี่กำลังต่อรองสูง ผู้เช่ามากรายหน่อย
ขึ้นราคาหรืืออีกนัยหนึ่งขูดรีดเลือดปู ได้เยอะ
่ใครออกก็มักจะมีเหยื่อรายใหม่มารอคิวเช่า
พวก Service Apartment ผมว่าถ้าเลี่ยงได้
อยู่ให้ไกลๆ เลยครับ อย่าไปมองมัน เว้นเสีย
แต่มีเหตุพิเศษๆ ที่เราอาจจะได้กำไรแบบ
One time เพราะเก่าๆ คนก็ย้ายออกไปที่ใหม่ๆ
สนามบิน หนึ่งเดียวบนเกาะ อันนี้ก็รีดเลือดปู
ได้ไม่แตกต่างจาก AOT สักเท่าไร โหดจัดยิ่ง
กว่ารัสเซีย เสียดายเป็น Lease Hold ถ้าเป็น
free อาจจะไปไกลๆ น้องๆ AOT ก็ได้
โรงแรม ส่วนมากมีปัญหาเกือบทุกกองฯ
อย่าไปยุ่งมัน เว้นเสียแต่มีเหตุการณ์พิเศษ
หรือราคาต่ำมากๆ จนน่าสนใจ
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2969
มาโพสฉลองห้อง VI หาดใหญ่ ครบ99หน้า และ100หน้าครับ
กระทู้วิ่งเร็วมากๆ ตั้งแต่หน้าที่11 (ช่วงปี2014)หลังจากพี่ๆหมอ leky, nevercry boy(ผู้ให้ฉายาห้องนี้ว่าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อในโรงเจ 5555), chaitorn, ลูกหิน, ดำ, syj, saichon, kongkiti และอีกหลายท่าน ถกกันเรื่องแนวคิดการหาหุ้น, วิธีคิดของรายใหญ่ เจ้ามือคิดยังไง เวลาจะเก็บหุ้น(แนวคิดแบบนี้ ไม่ค่อยมีคนมาพูดให้ฟังหรอก), การเล่นwarrant แบบvi, ถกกันเรื่องดราม่าของหุ้นในเวบ (ดูครื้นเครงกันทุกครั้งที่มีดราม่าในเวบ)
หลังจากนั้น พอพี่ amorn, พี่anielee มา กระทู้ก็วิ่งหนักเข้าไปอีก
และคาดว่ามีพี่โจ และพี่ๆบิ๊กเนมอีกหลายคน ที่เข้ามาอ่านเรื่อยๆ และคงคันมือ อยากโพสด้วย แต่ติดที่อาจจะเปลืองตัว
ไงก็ขอบคุณมากๆกับพี่ทุกคนครับ ที่เข้ามาให้ทั้งความรู้ บางคนหวังดีโพสในห้องหุ้น ให้ระวังๆไว้ แต่ก็โดนด่ากลับมา...มาโพสห้องนี้ก็ได้ฮะ มีแต่คนชอบฟ้งเรื่องให้ระวังตัวไว้
พี่ๆหลายท่านก็โพสสร้างความบันเทิง (ช่วงใบ้หุ้น จากงานหาดใหญ่ อันนี้ดีงามมมม)
*** ช่วงเม้ามอย ***
ตอนกินข้าวเที่ยงงานmeeting thaivi เมื่อครั้งล่าสุด...ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่ท่านนึง เขาเป็น1ในบุคคลที่ยื่นฟ้องผบห.หุ้นตัวนึง เรื่องการเพิ่มทุนPP แบบไม่ยุติธรรม ตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา แล้วมั้งครับ
สาเหตุและแรงจูงใจที่ผบห.เพิ่มทุน อันนี้ผมไม่ขอเอ่ย แต่จะมาเล่าในส่วนของการยื่นฟ้อง พี่ท่านนั้นบอกว่าสมาคมที่ช่วยได้มากคือ
"สมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย"
สมาคมที่ชอบไปประชุม แล้วยกมือถามว่า บริษัทคุณมีมาตรการไงเรื่องคอรัปชั่น จะเข้าร่วมมั้ย...แล้วทุกบริษัทก็ตอบเหมือนๆกันหมด ว่ากำลังคอรัป เอ้ย....กำลังเข้าร่วมนะจ๊ะ ไม่ต้องห่วง
ส่วนหน่วยงานอื่น ก็ช่วยเหลือนะ เพียงแต่ พี่ท่านนี้รู้สึกว่าสำหรับรายย่อยแล้ว สมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย ช่วยเหลือได้ดี ว่าควรจะดำเนินการยังไง, ติดต่อหน่วยงานไหน
เอามาเล่าให้ฟังครับ เผอิญเห็นข่าวหุ้นลีซซิ่งสัญชาติญี่ปุ่น แล้วก็นึกถึงเคสนี้ได้ เผื่อว่าพี่ๆรายย่อยท่านไหน เกิดทนไม่ไหว อยากจะฟ้องร้องผบห.ในตลาดครับ
ปล.1ดูรูปนี้แล้ว...อยากจะขายน้องซูบี้ ไปถอยฟอร์ดซะเด๋วนี้เลย
กระทู้วิ่งเร็วมากๆ ตั้งแต่หน้าที่11 (ช่วงปี2014)หลังจากพี่ๆหมอ leky, nevercry boy(ผู้ให้ฉายาห้องนี้ว่าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อในโรงเจ 5555), chaitorn, ลูกหิน, ดำ, syj, saichon, kongkiti และอีกหลายท่าน ถกกันเรื่องแนวคิดการหาหุ้น, วิธีคิดของรายใหญ่ เจ้ามือคิดยังไง เวลาจะเก็บหุ้น(แนวคิดแบบนี้ ไม่ค่อยมีคนมาพูดให้ฟังหรอก), การเล่นwarrant แบบvi, ถกกันเรื่องดราม่าของหุ้นในเวบ (ดูครื้นเครงกันทุกครั้งที่มีดราม่าในเวบ)
หลังจากนั้น พอพี่ amorn, พี่anielee มา กระทู้ก็วิ่งหนักเข้าไปอีก
และคาดว่ามีพี่โจ และพี่ๆบิ๊กเนมอีกหลายคน ที่เข้ามาอ่านเรื่อยๆ และคงคันมือ อยากโพสด้วย แต่ติดที่อาจจะเปลืองตัว
ไงก็ขอบคุณมากๆกับพี่ทุกคนครับ ที่เข้ามาให้ทั้งความรู้ บางคนหวังดีโพสในห้องหุ้น ให้ระวังๆไว้ แต่ก็โดนด่ากลับมา...มาโพสห้องนี้ก็ได้ฮะ มีแต่คนชอบฟ้งเรื่องให้ระวังตัวไว้
พี่ๆหลายท่านก็โพสสร้างความบันเทิง (ช่วงใบ้หุ้น จากงานหาดใหญ่ อันนี้ดีงามมมม)
*** ช่วงเม้ามอย ***
ตอนกินข้าวเที่ยงงานmeeting thaivi เมื่อครั้งล่าสุด...ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่ท่านนึง เขาเป็น1ในบุคคลที่ยื่นฟ้องผบห.หุ้นตัวนึง เรื่องการเพิ่มทุนPP แบบไม่ยุติธรรม ตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา แล้วมั้งครับ
สาเหตุและแรงจูงใจที่ผบห.เพิ่มทุน อันนี้ผมไม่ขอเอ่ย แต่จะมาเล่าในส่วนของการยื่นฟ้อง พี่ท่านนั้นบอกว่าสมาคมที่ช่วยได้มากคือ
"สมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย"
สมาคมที่ชอบไปประชุม แล้วยกมือถามว่า บริษัทคุณมีมาตรการไงเรื่องคอรัปชั่น จะเข้าร่วมมั้ย...แล้วทุกบริษัทก็ตอบเหมือนๆกันหมด ว่ากำลังคอรัป เอ้ย....กำลังเข้าร่วมนะจ๊ะ ไม่ต้องห่วง
ส่วนหน่วยงานอื่น ก็ช่วยเหลือนะ เพียงแต่ พี่ท่านนี้รู้สึกว่าสำหรับรายย่อยแล้ว สมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย ช่วยเหลือได้ดี ว่าควรจะดำเนินการยังไง, ติดต่อหน่วยงานไหน
เอามาเล่าให้ฟังครับ เผอิญเห็นข่าวหุ้นลีซซิ่งสัญชาติญี่ปุ่น แล้วก็นึกถึงเคสนี้ได้ เผื่อว่าพี่ๆรายย่อยท่านไหน เกิดทนไม่ไหว อยากจะฟ้องร้องผบห.ในตลาดครับ
ปล.1ดูรูปนี้แล้ว...อยากจะขายน้องซูบี้ ไปถอยฟอร์ดซะเด๋วนี้เลย
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
You only live once, but if you do it right, once is enough.
-
AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2970
หวังว่า น่าถึงหน้าที่ 100 ในปี 2017 นะครับ ขณะที่ SET ก็ทำไฮไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะทะลุยอดเดิม 1789.16 จุด ที่เคยทำไว้ในปี 2537 หรือไม่ และ DowJone ก็ทำนิวไฮไปทะลุ 23,000 จุดไปได้แล้ว แต่ก็นะ SET Index ก็อาจเป็นดัชนีกวนใจได้ เพราะหุ้นบางตัว ก็ไม่ขึ้นกับ SET Index เพราะมันเป็นหุ้นที่มีความเป็น Indy สูงเกินนนน บางตัว ก็ไม่สน PE เช่น ควายแดง ขนมหวาน เป็นต้น หรือแม้แต่หุ้นนิสัยไม่ดี เช่น Great Loss, อาจาดอย, A-Kill ที่มาทำความหายนะล้วนๆ ต่อ นลท
หุ้นบางตัว ก็อดคิดไม่ได้ว่า พลังเงินมีผลมากจริงๆ ที่มาช่วยกันผลักดันราคาหุ้น โดยเฉพาะพลังเงินของกลุ่ม นลท ก๊วนใดก๊วนหนึ่ง เห็นหุ้นบางตัวที่ราคาขึ้นเอาขึ้นเอา ก็เข้าใจนะว่า มันโต แต่ราคาหุ้นมันโตเกินพื้นฐานที่มันโตไปมากไปไหม แต่ก็นะ วงการนี้ มันมีอะไรที่เราไม่รู้เยอะเลย มีอะไรที่ต้องระวัง และเสี่ยงภัยเสมอ สุดท้าย ก็ต้องยอมลุยไป เพราะ ไม่เข้าถ้ำเสือ ไหนเลยจะได้ลูกเสือ ถึงจะมีบาดแผลเต็มตัว ขอเพียงไม่สิ้นชีพก่อน สักวัน มันต้องใช่วันของเราแน่ๆ นักรบย่อมมีบาดแผลรอบตัว ฮ่าๆๆๆๆ
ถึงแม้ตลาดจะเขียวสดใสก็ตาม ก็ยังมีหุ้นที่แดงตลอดเช่นกัน อย่างหุ้นที่ผมเคยถือมา ถ้าไม่ขายมันไป เราก็คงไม่มีโอกาสไปหาตัวใหม่ที่ดีกว่า บางที เราต้องรู้จักยอมแพ้ เพื่อที่จะชนะ ไม่มีทางที่จะชนะทุกครั้งไป เหมือนการเดินทาง ถ้าเราเดินไปข้างหน้าตลอดไม่มีถอย เวลาไปเจอคลองหรืออะไรที่อันตราย ก็ย่อมต้องถอยมาตั้งหลัก ตั้งสติ หาทางอื่นไปบ้าง อย่าไปลุยเพื่อชนะ ทั้งๆ ที่อาจจะชนะหรืออาจจะไม่ชนะก็ได้ ก็เลือกทางที่มันปลอดภัยหน่อย เสียเวลาหน่อย ดีกว่าเสียชีวิต เทียบกับการลงทุน เงินหมด คือ จบเกมส์ แต่ถ้าเงินยังไม่หมด ก็ต่ออายุได้ ตราบใดที่ความรู้เรายังไม่หมดและต้องคอยพัฒนความรู้ต่อไป ก็ต้องอาศัยความรู้จากพี่ๆ น้องๆ ในห้องหาดใหญ่นี่ละครับ รวมไปถึง การดูดความรู้จากอาจารย์ทั้งหลาย อ.โจ อ.กานต์ อ.ตี้ และอีกหลายๆ ท่าน
ว่าแล้ว คิดถึงมีทติ้งหาดใหญ่รอบหน้านะว่า จะจองได้ไหมนะ แต่ก็ต้องพยายามจอง และอีกอย่างคือ หวังว่า อ.โจ จะเพิ่มจำนวนคนในมีทติ้งตามที่พี่วรรณได้เสนอไปในมีทติ้งรอบล่าสุดที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มยอดเงินบริจาคให้มากขึ้น ในขณะที่ อ.โจ และทีมงาน ก็เหนื่อยอยู่แล้ว ก็เหนื่อยต่อไปครับ แถมได้เงินบริจาคช่วยคนได้เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนผมและเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ห้องนี้ คอยให้กำลังใจครับ และจะคอยลอกหุ้นต่อไป ฮ่าๆๆๆๆๆ
รอครบหน้าที่ 100 อยู่ครับ.....
หุ้นบางตัว ก็อดคิดไม่ได้ว่า พลังเงินมีผลมากจริงๆ ที่มาช่วยกันผลักดันราคาหุ้น โดยเฉพาะพลังเงินของกลุ่ม นลท ก๊วนใดก๊วนหนึ่ง เห็นหุ้นบางตัวที่ราคาขึ้นเอาขึ้นเอา ก็เข้าใจนะว่า มันโต แต่ราคาหุ้นมันโตเกินพื้นฐานที่มันโตไปมากไปไหม แต่ก็นะ วงการนี้ มันมีอะไรที่เราไม่รู้เยอะเลย มีอะไรที่ต้องระวัง และเสี่ยงภัยเสมอ สุดท้าย ก็ต้องยอมลุยไป เพราะ ไม่เข้าถ้ำเสือ ไหนเลยจะได้ลูกเสือ ถึงจะมีบาดแผลเต็มตัว ขอเพียงไม่สิ้นชีพก่อน สักวัน มันต้องใช่วันของเราแน่ๆ นักรบย่อมมีบาดแผลรอบตัว ฮ่าๆๆๆๆ
ถึงแม้ตลาดจะเขียวสดใสก็ตาม ก็ยังมีหุ้นที่แดงตลอดเช่นกัน อย่างหุ้นที่ผมเคยถือมา ถ้าไม่ขายมันไป เราก็คงไม่มีโอกาสไปหาตัวใหม่ที่ดีกว่า บางที เราต้องรู้จักยอมแพ้ เพื่อที่จะชนะ ไม่มีทางที่จะชนะทุกครั้งไป เหมือนการเดินทาง ถ้าเราเดินไปข้างหน้าตลอดไม่มีถอย เวลาไปเจอคลองหรืออะไรที่อันตราย ก็ย่อมต้องถอยมาตั้งหลัก ตั้งสติ หาทางอื่นไปบ้าง อย่าไปลุยเพื่อชนะ ทั้งๆ ที่อาจจะชนะหรืออาจจะไม่ชนะก็ได้ ก็เลือกทางที่มันปลอดภัยหน่อย เสียเวลาหน่อย ดีกว่าเสียชีวิต เทียบกับการลงทุน เงินหมด คือ จบเกมส์ แต่ถ้าเงินยังไม่หมด ก็ต่ออายุได้ ตราบใดที่ความรู้เรายังไม่หมดและต้องคอยพัฒนความรู้ต่อไป ก็ต้องอาศัยความรู้จากพี่ๆ น้องๆ ในห้องหาดใหญ่นี่ละครับ รวมไปถึง การดูดความรู้จากอาจารย์ทั้งหลาย อ.โจ อ.กานต์ อ.ตี้ และอีกหลายๆ ท่าน
ว่าแล้ว คิดถึงมีทติ้งหาดใหญ่รอบหน้านะว่า จะจองได้ไหมนะ แต่ก็ต้องพยายามจอง และอีกอย่างคือ หวังว่า อ.โจ จะเพิ่มจำนวนคนในมีทติ้งตามที่พี่วรรณได้เสนอไปในมีทติ้งรอบล่าสุดที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มยอดเงินบริจาคให้มากขึ้น ในขณะที่ อ.โจ และทีมงาน ก็เหนื่อยอยู่แล้ว ก็เหนื่อยต่อไปครับ แถมได้เงินบริจาคช่วยคนได้เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนผมและเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ห้องนี้ คอยให้กำลังใจครับ และจะคอยลอกหุ้นต่อไป ฮ่าๆๆๆๆๆ
รอครบหน้าที่ 100 อยู่ครับ.....
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
บันทึกไม่สำเร็จ