VI หาดใหญ่

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
Verified User
โพสต์: 1436
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2881

โพสต์

นายมานะ เขียน:
นายมานะ เขียน:http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 2#p1768662

อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ ห้องนี้ไปช่วยแชร์ไอเดียกันครับ ^^
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=61097

โทษครับข้างบนผิดลงค์ ขออภัยครับ
ไปแชร์แล้วครับ น้องตู้
ปล อยากได้ระบบ search ครับ ฮ่าๆๆ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2882

โพสต์

สัมมนา ของ เอเชียเวลท์ หัวข้อ กลยุทธ์การลงทุนโดยดูธุรกิจของบริษัท[/u][/u]
วิทยากร
คุณ ฮง สถาพร งามเรืองพงศ์
คุณ ชิณณ์ กิติภานุวัฒน์[/b]

คุณชิณณ์เกริ่นนำเรื่องการลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐาน
คำถามแรก การลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานแท้จริงเป็นอย่างไร ทำให้ประสบความสำเร็จหรือไม่

คุณชิณณ์เฉลยว่า การลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐาน ประกอบไปด้วย
1.การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค
2.การวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม
3.การวิเคราะห์ตัวบริษัท

และ การลงทุนที่ถูกต้อง ต้องดูปัจจัยพื้นฐานของตัวเองก่อน
ถ้าปัจจัยภายในไม่พร้อม ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน

สิ่งแรก คือ Financial statusของผู้ลงทุน
เช่น ตอนทำงาน ได้เงินเดือนบวกค่าคอม ถ้าเอาไปใช้จ่ายก่อนออม
หรือลงทุน ดอกผลก็ออกได้ช้า
ผมค่อนข้างสบายระดับนึง ไม่มีภาระ
ถ้าเราไปถึง Financial freedomแล้วหมดไฟจะทำอย่างไร
ถ้าไฟน้อยลงในการหาหุ้น วิธีแก้คือ ไปก่อหนี้ที่ดีเสียก่อน
จะได้มีไฟในการหุ้นเพิ่มเติม

2. ความรู้ นักลงทุนบางท่านอาจได้ทรัพย์สมบัติมามากจากทางบ้าน
แต่ขาดความรู้ในการลงทุน สามารถหาจากยูทูป และ เข้าใจได้ไม่ยาก
แต่webpage & youtube ใช่เป็นเรื่องการลงทุนหรือไม่
เวลาส่วนใหญ่ของชีวิต ไปลงทุนกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวการลงทุน สุดท้ายก็ไม่ได้ความรู้
ผมออกกำลังกายก็ฟังความรู้เช่นเรื่อง value chain เป็นต้น เพื่อสร้างความรู้
ผู้สรุป ขอเสริม เห็นคุณหมอพงษ์ศักดิ์ ก็ใช้วิธีในการฟังopp day


3 จิตใจนักลงทุน
ถ้าเราเข้าจิตใจการลงทุน โดยใช้หลักของโอวาทปาติโมกข์

3.1การทำความเลวความชั่วทั้งปวงเราไม่ทำ
เปรียบกับ นักลงทุนส่วนใหญ่ตอนแรก จะใช้สติปัญญาในการลงทุน
หลังจากลงทุนสักระยะจะหลง เริ่มฟังคนอื่นไม่ได้ใช้สติปัญญาของตนเอง
บาปกรรมที่ไปเล่นหุ้นปั่น เก็งกำไร ความคิดเหล่านี้ทำให้เกิดผิดพลาดได้

3.2 การทำกุศลให้ถึงพร้อม
การทำบุญทำทาน มาจากส่วนที่มีเรามีเกินก็มาทำบุญ แค่ได้กำไรระดับพอเพียง
ก็พออยู่ได้
ตัวอย่างของนักลงทุนบางคน
นักลงทุนบางคนถามเราว่าหุ้นตัวนี้น่าลงทุนหรือไม่
เราทำหน้าที่คือ สอบถามนักลงทุนว่าหุ้น ต่อไปจะเป็นอย่างไร
เขาตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้เข้าใจ ทำหน้าที่ไม่เพียงพอ
นักลงทุนต้องเข้าใจกิจการเหมือนเป็นเจ้าของ

3.3 สุดท้าย ต้องไม่มีโทสะ ไม่อยากขาดทุน
เวลาผมลงทุน ผมตีไว้ว่าจะขาดทุนเท่าไหร่จะไม่เดือดร้อน เราเตรียมพร้อมแล้ว
โลภะ เราอยากกำไรเยอะ เจอหุ้นที่จะกำไรในสองปีแต่เพื่อนทักให้ซื้อหุ้นตัวอื่น
ถ้าเราเข้าใจหุ้นที่เพื่อนแนะนำ เราย้าย เราก็มีเหตุผล
แต่ถ้าไม่เข้าใจ แล้วย้ายไปลงทุน เราก็มีโลภะ
เราเป็นของๆเรา แสดงว่าเรามีโลภะ และ โทสะ
คนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน คือ ควบคุมจิตใจไม่ได้

หลังจากเกริ่นนำเสร็จ คุณชิณณ์ก็เข้าหัวข้อสัมมนา
ธุรกิจเดินด้วยผู้บริหาร หรือ เจ้าของกิจการ เป็นสัดส่วนที่ใหญ่
ล่าสุดลงทุนแล้วขาดทุนมาก มาจากเจ้าของหยุดทำโครงการใหม่
และหันไปแก้ไขธุรกิจเดิมที่ถืออยู่มากแทน
จะไม่มีรายได้ใหม่เข้ามา ทำให้กำไรลดลง ราคาหุ้นก็เลยลดลง
แต่ขาดทุนไม่มาก

สิ่งที่เราดูจากเพื่อนที่ชวนลงทุน เรามีกฏเกณฑ์คือ
1.เราดูผู้บริหารของบริษัทที่จะลงทุนอายุไม่มาก
2.ไม่มีประวัติว่าทำอะไรที่ไม่มีเหตุผล
3.ผู้บริหารเก่งหรือไม่ ความคิดทันสมัยหรือไป
ยุคนี้ผู้บริหารต้องสร้างS-curveให้กับบริษัทอยู่เสมอ

สิ่งที่สำคัญต่อมาคือดูที่ธุรกิจ
1.เศรษฐกิจในอนาคตในพื้นที่หากิน ดีหรือไม่
2.แข่งขันสูงหรือไม่
3.Marginสูงหรือต่ำ

เราต้องลึกซึ้งกับบริษัทให้ใกล้เคียงกับเจ้าของ
แต่ถ้าทำไม่ได้ เราต้องมีส่วนเผื่อเหลือเผื่อขาด(MOS)

บางครั้งนักลงทุน forcast งบการเงิน แต่ไม่สามารถตอบคำถาม
ทางการเงินง่ายได้ แสดงว่าไม่เข้าใจธุรกิจดีพอ

สุดท้ายการที่เราลงทุนในกิจการหนึ่ง เราน่าจะเห็นงบการเงิน
ผ่านสมมติฐานที่มีเหตุมีผล
สมมติธุรกิจถ่านหิน
1.ผู้บริหารหรือ นสพ บอกมาบอกว่าโต20%
เราต้องพิจารณาแล้วว่าเป็นไปได้หรือไม่
2. เพื่อนถามว่าน่าลงทุนไหม เลยมาถามผม จริงๆคนถาม
ต้องศึกษาก่อน เขาคาดหวังอะไร
การลงทุนที่ดี คือ กิจการที่พอประมาณรายได้ และ มีจำลอง
สถานการณ์ต่างๆ เราจะรู้ว่าเราพอลงทุนได้ไหม
หรือ PE Band ทำให้เรารู้ราคาในจริงว่าอยู่ในช่วงไหน

สุดท้ายหุ้นที่ผมชอบ อยากเป็นหุ้นส่วนคือ B-C (Business to Consumer)
มีความต่าง หรือ ความห่างระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค
บางช่วงยอดขายเพิ่ม แต่ SG&A ไม่เพิ่ม ทำให้กำไรลงไปที่บรรทัดล่าง

และ ต้องรู้บริษัทที่เราลงทุนอยู่ในช่วงไหนของการเติบโต
ถ้าเราลงทุนในช่วงหุ้นstable ซึ่งไม่matchกับความคาดหวังเรื่องเติบโต
เราต้องลงทุนในช่วงที่กำลังเติบโต

คุณฮงเสริมคุณชิณณ์เรื่องลงทุนในตัวเอง มีโอกาสพูดกับรุ่นน้อง
เขาถามคุณฮงละเอียดมากเลย
ตอนลงทุนต้องทำอย่างไร ผมตอบไปว่า อ่านหนังสือวันละ8-9 ชม
เขาทำไม่ได้ แต่เขาสามารถทำงานได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์
จริงๆเขาทำหนักหนากว่าผมมาก แต่กลับทำเรื่องลงทุนไม่ไหว

มียกตัวอย่างหุ้นเพื่อเป็นบทเรียน
หุ้นตัวแรกมีการวางมัดจำค่าที่ดินเมื่อปี58 350ลบ
แต่ปรากฏว่าไม่สามารถหาเงินมาทยอยแบ่งจ่ายเพื่อไม่ให้โดนยึดเงินมัดจำ
เลยโดยยึดเงินมัดจำ และ ต้องตั้งสำรองหนี้ทั้งจำนวน

บริษัทที่มีหนี้เยอะ แต่สามารถหาเงินมาได้ ก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าหาเงินมาคืนไม่ได้ จะมีปัญหา

คุณชิณณ์เสริม เราลองคิดแบบง่ายๆว่า ถ้าเป็นกระแสเงินภายในบ้าน
มีชำระหนี้ และ ลงทุนใหม่
ที่บ้านมีหนี้ต้องจ่าย และ มีเงินเข้าเท่าไหร่ จะรู้ว่ามันอาจขาดเงิน ขาดสภาพคล่องได้
มีแนวโน้มถูกยึดทรัพย์สินได้
เราต้องทำความเข้าใจธุรกิจ รู้จักงบกระแสเงินสด

กลับมาที่คุณฮง แนะนำการลงทุนไว้ว่า
ไม่เล่นหุ้นปั่น หุ้นเน่า ลงทุนแต่หุ้นที่มีพื้นฐานดี
หุ้นปั่นไม่มีพื้นฐาน ลากราคากันแรงๆ

วีไอชอบแบบไหน
เช่น รายได้โตสูงๆ กำไรโตสูงๆ
อัตราส่วนทางการเงิน gpm ,npm สูง d/e ต่ำ และ ปันผลสูง

เราดูแค่นี้จะประสบความสำเร็จไหม
ยกเคส บริษัทเมื่อ10ปีก่อน
บริษัทที่สอง ขายถ่านหิน กำไรโตมาเยอะเพราะตอนนั้นราคาน้ำมันสูง
โรงงานเลยใช้ถ่านหินซึ่งต้นทุนถูกกว่า หาลูกค้าเพิ่มได้จาก170 to 330 เจ้าในหนึ่งปี
ปี2005-2008 การบริโภคน้ำมันเตาลดลงเรื่อยๆ
เมื่อราคาน้ำมันขึ้น ก็ขายถ่านหินได้เยอะขึ้นจากปี2008
ราคาวิ่งจาก5ไปที่40กว่าบาท ทำกำไร700%ในสองปี
จ่ายปันผลสูงเป็นอันดับสามของกลุ่ม MAI
แต่ปี59 กลับมาขาดทุน

เวลาเราเล่นหุ้นพื้นฐาน รายได้โต กำไรโต แสดงว่าเรามาถูกทาง
แต่จริงๆกำไรเป็นปกติ หรือ กำไรมาจากเหตุการณ์พิเศษ
ถ้าเราเอาช่วงพิเศษเข้ามาคำนวณเกี่ยวกับกำไร เราอาจหลงทางได้ เพราะเป็นสถาพผิดปกติ
ถ้าอนาคตกลับลงไป สภาพที่ดีมากๆหรือเกินจริง อาจจะกลายเป็นการติดหุ้น

คุณต้องเข้าใจnatureของธุรกิจที่ลงทุน
บริษัทนี้ไม่มีbarrier to entry ใครก็นำเข้าถ่านหินจากอินโดก็ได้

ปีเตอร์ ลินซ์เคยพูดไว้ว่า หุ้นcommodityตอนที่เราซื้อตอนที่บริษัทดีมากๆ อาจขาดทุน50%ใน1เดือน
ค่าเงินที่อ่อนมากๆ มันจะอ่อนแบบนี้ตลอดหรือไม่
ตอนที่marginดี ก็มีคู่แข่งก็เข้ามาเยอะ
ตอนน้ำมันแพง พอเปลี่ยนหม้อต้มไอน้ำ ก็สามารถคืนทุนได้เร็ว

ตัวอย่าง ขนมโรตีบอย. มีการต่อคิวซื้อที่สยามยาวมาก ค่าเปิดสาขา 3ล้านบาท
แต่ขายช่วงดีหลายหมื่นชิ้นต่อวัน เราเอาเหตุการณ์ที่ดีมากๆแบบนี้มาคำนวณ
ก็คุ้มค่าในการลงทุน แต่เป็นตัวเลขที่ไม่เป็นความจริงในอนาคต
คนไทยอยากอวด ช่วงนั้นเลยขายดี

เวลาลงทุนหุ้น ลองคิดว่า เราเหมือนลงทุนในโรตีบอยหรือเปล่า
บางธุรกิจในตลาดหุ้น ไปซื้อช่วงพีทเหมือนโรตีบอย เราจะติดสนิท ทนนาน

เหตุผลที่เลือกหุ้นเมื่อสิบปีก่อน จะเห็นว่าบางบริษัทไม่ฟื้นเลย

หุ้นอีกตัว ผลิตชิ้นส่วนelectronic
กำไรโตตลอด
แต่กำไรหายไป80-90%
เพราะลูกค้ารายใหญ่ไม่กี่เจ้าซึ่งคิดเป็น 90%ของรายได้ทั้งหมด
พอยกเลิกorderกระทบกำไรทันที
ถึงไม่ได้เล่นหุ้นปั่น ลงทุนหุ้นพื้นฐาน แต่ไม่เข้าใจดีพอก็ขาดทุนได้

ถาม คุณชิณณ์ วิธีสังเกตลักษณะผู้บริหาร
ตอบ มีหลายวิธีในการเจอผู้บริหาร เช่น
Opportunity day
การประชุมผู้ถือหุ้น
สินค้าและบริการที่เข้าถึงง่าย อาจเจอผู้บริหาร

ส่วนเรื่องเก่งหรือไม่ ต้องสังเกตจากความคิดของผู้บริหารว่าตามทันเหตุการณ์หรือไม่
บางครั้งพูดคุยกันก็รู้แล้วว่าทันสมัยหรือไม่

อายุผู้บริหารก็มีส่วน ส่วนใหญ่อายุเกิน50ปี อาจไม่ทันสมัย
ควรเลือกผู้บริหารที่อายุน้อย

ถาม จะถ่วงค่าเฉลี่ยของธุรกิจหลายอย่างของบริษัท บางบริษัทอยู่นอกตลาด
ตอบ ต้องดูในแต่ละธุรกิจ เพราะมีmarginไม่เท่ากัน
เราต้องมองธุรกิจอย่างลึกซึ้ง ต้องลงไปในรายละเอียด



คุณชิณณ์พูดถึง ทางเเก้ของการลงทุนในหุ้น

บาปกรรมเราไม่ทำ การใช้เงินแทบไม่มี
กุศลที่ทำมา เป็นกำลังใจให้
อโหสุโข อโหสุขัง เรามีความสุข ถึงแม้พอร์ตลดลงในช่วงบวช ก็มาแก้คืนได้
คนส่วนใหญ่เป็นทุกข์เพราะความคิด คิดว่าเราเสียมันไป
จมอยู่กับความคิด ไม่ได้หาทางแก้
เราอยากได้กลับคืนมา อยากเป็นเหมือนเดิม
ความสุขทางโลก จริงๆความสุขอยู่ตรงไหน
ถ้าเราแก้ไขปัญหา หาพื้นดินที่ยืนให้เจอก่อน
หมายถึงให้ใส่ใจสถานทางการเงินก่อน ยังไงถ้าไม่แย่กว่านั้นถือเป็นจุดต่ำสุด
และจะไต่ขึ้นไปใหม่ได้

หรือ เวลาลงทุน มีทางเลือกสามทางเลือก คิดแล้วว่า
ไม่ว่าทางไหนก็กำไร
สุดท้ายออกทางเลือกสี่ คือ ไม่ได้โครงการเลย
ดังนั้น เราควรลงทุนในหุ้นแต่ละตัวโดยไม่ได้มีนัยยะต่อพอร์ตมากเกินไป
ผู้สรุปคิดว่าไม่ควรลงแค่ตัวเดียว

คุณฮงพูดถึงบริษัทสุดท้ายแถมให้
บริษัทขายพัดลมไอน้ำ ขายดีเมื่อปีที่แล้ว
หลังบริษัทที่ผลิตพัดลมที่มีชื่อเสียงเข้ามาในปีนี้ก็เป็นที่หนึ่งได้เลย
เมื่อปี2016 เขาบริษัทที่ขายพัดลมไอน้ำยังไม่ได้จ่ายค่าแรกเข้าให้กับโลตัส
กำไรเลยดี และได้ทุ่มทุนโฆษณาในmodern trade เพื่อหวังให้ขายดีในปีนี้
ปีนี้จ่ายเยอะ แบรนด์ไม่แข็ง ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่รายได้ขายเข้า
modern tradeไม่โต แถมยังลดลงด้วย สุดท้ายก็ขาดทุน
แสดงว่า บริษัทไม่มีความเข้มแข็งของแบรนด์


สุดท้ายขอขอบคุณ บล เอเชียเวลท์ และวิทยากรครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
Verified User
โพสต์: 1436
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2883

โพสต์

ที่มาของนามแฝง พี่โจ ลูกอีสาน
IMG_0150.JPG
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
Verified User
โพสต์: 1436
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2884

โพสต์

ยุคสงคราม 7 แคว้น ก่อนที่จะรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง ฝ่ายแคว้นฉิน (ยามที่อยู่ในสถานะอ่อนแอ) ยอมตัดแบ่งแผ่นดิน ยกให้ แคว้นเว่ย ที่มีความเข้มแข็งกว่า เพื่อที่จะรักษาแคว้นฉินไว้ ไม่ให้ถูกโจมตียึดดินแดนจากแคว้นเว่ยในการเจรจาสงบศึก จากนั้น ก็ทำการฟื้นฟูบ้านเมือง จนในที่สุด แคว้นฉินก็สามารถรวบรวมแคว้นทั้ง 6 ได้ รวมแคว้นเป็นหนึ่งเดียว #ฉินซีฮ่องเต้

เปรียบเหมือนพอร์ตหุ้นที่อ่อนแอ ยากที่จะฟื้นหากไม่มีการจัดการใหม่ ก็จำเป็นต้องทำการขายหุ้นที่หมดอนาคต ถึงแม้ว่า พอร์ตจะหดตัวไปมาก แต่ก็เพื่อรักษาพอร์ตให้อยู่รอด และสามารถต่อสู้ในตลาดฯ ได้ต่อไปอย่างยาวนาน จนกว่าจะประสบความสำเร็จ

#เม่าปลอบใจตัวเอง
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2885

โพสต์

AnieLee เขียน:เปรียบเหมือนพอร์ตหุ้นที่อ่อนแอ ยากที่จะฟื้นหากไม่มีการจัดการใหม่ ก็จำเป็นต้องทำการขายหุ้นที่หมดอนาคต ถึงแม้ว่า พอร์ตจะหดตัวไปมาก แต่ก็เพื่อรักษาพอร์ตให้อยู่รอด และสามารถต่อสู้ในตลาดฯ ได้ต่อไปอย่างยาวนาน จนกว่าจะประสบความสำเร็จ
#เม่าปลอบใจตัวเอง
ขอเปิดประเด็นชวนคุยเรื่องนี้นะพี่
คือผมคิดว่า หุ้นที่อ่อนแอแบบถาวร ส่วนใหญ่มันก็มาจาก ผบห. หรือธุรกิจที่แย่มาก มันไม่น่าซื้อแต่แรกแล้วละ
ส่วนหุ้นที่อ่อนแอ แดงแบบชั่วคราว เพราะราคา-เพราะผลประกอบการแย่บางไตรมาส....ถ้าเราเผื่อราคาตอนเข้าซื้อแต่แรก เราอาจจะไม่เจ็บหนัก (แต่ก็เสี่ยงกับการตกรถ) อันนี้ผมเป็นบ่อยมาก(ปัจจุบันก็มีตัวแดงเยอะอยู่) ซื้อไวเกินไป เพราะเคยตัวจากตลาดขาขึ้นหลังsubprime และมันได้กำไรมาตลอด

เรื่องนี้พี่ๆในห้องนี้ พูดบ่อยๆว่า ถ้าเข้าซื้อดีๆก็กำไรตั้งเข้าซื้อแล้ว

อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงมุมมองเรื่อง ประเภทหุ้นที่เข้าซื้อนะครับ (หุ้นวัฎจักร, หุ้นเติบโตขยายกำลังผลิต, หุ้นเทิน, หุ้นแย่ชั่วคราว) พวกนี้มันก็มีdetail ในการตัดสินใจในการเข้าซื้อ หรือถ้าซื้อแล้วจะถัว หรือจะขายออกไปก่อน (cut loss)

แต่ผมรู้สึกว่า...ห้องนี้แปลกตรงเอาเรื่องขาดทุนมาเล่า แล้วจะมีคนมารอซ้ำ เอ้ย มารอdiscussกันว่า ควรแก้ยังไงฮะ :mrgreen:
เม่า.PNG
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
You only live once, but if you do it right, once is enough.
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
Verified User
โพสต์: 1436
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2886

โพสต์

romee เขียน:
เรื่องนี้พี่ๆในห้องนี้ พูดบ่อยๆว่า ถ้าเข้าซื้อดีๆก็กำไรตั้งเข้าซื้อแล้ว

อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงมุมมองเรื่อง ประเภทหุ้นที่เข้าซื้อนะครับ (หุ้นวัฎจักร, หุ้นเติบโตขยายกำลังผลิต, หุ้นเทิน, หุ้นแย่ชั่วคราว) พวกนี้มันก็มีdetail ในการตัดสินใจในการเข้าซื้อ หรือถ้าซื้อแล้วจะถัว หรือจะขายออกไปก่อน (cut loss)

แต่ผมรู้สึกว่า...ห้องนี้แปลกตรงเอาเรื่องขาดทุนมาเล่า แล้วจะมีคนมารอซ้ำ เอ้ย มารอdiscussกันว่า ควรแก้ยังไงฮะ :mrgreen:
เม่า.PNG
ขอลอกหุ้นพี่ Romee เลยดีกว่า ง่ายกว่าเยอะครับ
ปูเสื่อรอฟังหุ้นพี่ Romee ครับ หุหุ
:8)
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2887

โพสต์

Investment Fest2017 ตอน แอบดูกูรู

คุณป้อม ปิยพันธ์ มาพูดแทนเซียนป๋องที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ขอให้หายไวๆนะครับ

หัวข้อที่จะพูดในเวลา 15 นาท คือ เริ่มจาก start up จบที่ตลาดหุ้น

คุณป้อม เริ่มด้วยคำพูด

เราสามารถเลือกได้ว่าเป็นผู้เล่น หรือ ผู้ลงทุน
การเป็นstartup เราเป็นได้ทั้งสองฝั่ง


คุณป้อมพูดถึงคำฮิตยุคนี้เริ่มจาก

1. EDM คือ concertใหญ่ที่สุด ที่คนไปรอฟังดีเจเปิดเพลง
คนพร้อมจะไปกับกระแสเทคโนโลยี คนเก่งก็เป็นเศรษฐีได้
ยุคนี้คนพร้อมไปฟังจากดีเจเก่งๆ
2. 4G มาอย่างรวดเร็วจากเมื่อเริ่มlaunchเมื่อสองปีก่อน
3. Wifi เป็นของฟรีไปแล้ว กลายเป็นserviceที่จำเป็นต้องให้ไปแล้ว
4. AI อัปเกรดตัวเองได้ ต่อไปจะคุยกันเอง ซึ่งน่ากลัวมาก
5. Startup ผมลงทุนมาหกปีแล้ว ตอนนี้กระแสมาแรง

ก่อนนี้เป็นพนักงานประจำ อยากเกษียณเลยลงทุนในตลาดหุ้น
สักพักเริ่มมีแนวทางลงทุนที่ชัดเจน คือ ลงทุนในหุ้น
ที่ไม่มีคนสนใจคือ แบบ penny stock

ต่อมามีPain pointว่าคนหลายคนมีความรู้ด้านการลงทุนแต่ขาดทุน
เลยสร้างแพลตฟอร์ม stock2morrow มี angel investor คือตัวเอง
เป็นผู้ลงทุน หกปีต่อมา คนไทยเริ่มมีstartup
ผมตัดสินใจลงทุนในstartupเพราะมีประสบการณ์

ช่วงปี2008 ถ้าควบคุมความเสี่ยงได้เพียงพอ ใช้โอกาสนั้นเอาassetแปลงเป็นเงิน
และเข้าไปลงทุนจนประสบความสำเร็จ และ retireจากงานมา
ตอนนี้ลงทุนstart up 7 บริษัท
คนที่ลงทุนstart up 99%จะขาดทุน
ถ้าเป็นnew player ต้องมีความพร้อม อดทน
เพื่อให้ investorเข้ามาลงทุน
ยังต้องมีskill ในการpitchให้กับVC
ถ้าผ่านไม่ได้ก็จบ

จุดclimax คือ เติบโตแบบก้าวกระโดด อย่างน้อย 100-300% ต่อปี
และต้อง fund raisingให้เป็น มีเงินมาอัดให้นักธุรกิจ
เงินที่ได้นำมาดำเนินธุรกิจ
แต่ต้องไม่นำเงินออกมาใช้เพื่อตัวเอง

เมื่อก่อนเจ้าของบริษัทลงทุนด้วยตัวเอง เอาเงินใส่ค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนstartupมีคนมั่นใจในการใส่เงินเข้าบริษัท และต้องburnให้หมดใน6เดือน
สามารถสู้กับธุรกิจที่ดำเนินงานมาเป็นสิบปีได้

เกมนี้ท้าทาย คนที่ลงเงินก็จะได้หุ้นส่วนนึงกลับมา
เราraise fund จากคนรอบข้าง จนกระทั่งทำIPOได้ ก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
มูลค่าจะกลายเป็น1,000เท่าของมูลค่าเริ่มขึ้น
Startupมีไม่เกิน5%จะผ่านได้
นักลงทุนในstartup ต้องหาบริษัทที่อยู่ใน5%ให้ได้
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2888

โพสต์

romee เขียน: ขอเปิดประเด็นชวนคุยเรื่องนี้นะพี่
คือผมคิดว่า หุ้นที่อ่อนแอแบบถาวร ส่วนใหญ่มันก็มาจาก ผบห. หรือธุรกิจที่แย่มาก มันไม่น่าซื้อแต่แรกแล้วละ
ส่วนหุ้นที่อ่อนแอ แดงแบบชั่วคราว เพราะราคา-เพราะผลประกอบการแย่บางไตรมาส....ถ้าเราเผื่อราคาตอนเข้าซื้อแต่แรก เราอาจจะไม่เจ็บหนัก (แต่ก็เสี่ยงกับการตกรถ) อันนี้ผมเป็นบ่อยมาก(ปัจจุบันก็มีตัวแดงเยอะอยู่) ซื้อไวเกินไป เพราะเคยตัวจากตลาดขาขึ้นหลังsubprime และมันได้กำไรมาตลอด

เรื่องนี้พี่ๆในห้องนี้ พูดบ่อยๆว่า ถ้าเข้าซื้อดีๆก็กำไรตั้งเข้าซื้อแล้ว

อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงมุมมองเรื่อง ประเภทหุ้นที่เข้าซื้อนะครับ (หุ้นวัฎจักร, หุ้นเติบโตขยายกำลังผลิต, หุ้นเทิน, หุ้นแย่ชั่วคราว) พวกนี้มันก็มีdetail ในการตัดสินใจในการเข้าซื้อ หรือถ้าซื้อแล้วจะถัว หรือจะขายออกไปก่อน (cut loss)

แต่ผมรู้สึกว่า...ห้องนี้แปลกตรงเอาเรื่องขาดทุนมาเล่า แล้วจะมีคนมารอซ้ำ เอ้ย มารอdiscussกันว่า ควรแก้ยังไงฮะ :mrgreen:

มันก็พูดยากนะครับ ผมว่าเอาที่เราถนัดและสบายใจดีกว่าครับ การซื้อหุ้นราคาต่ำ ๆ ถ้าดูดี ๆ มันก็ดีในแง่มี MOS สูง แต่มันก็มีข้อเสียคือ กว่าหุ้นจะฟื้นอาจจะโดนแช่แข็งนานหรือหุ้นอาจจะลงต่อได้อีก

ในทางกลับกัน การซื้อหุ้นที่เริ่มฟื้น มันก็ต้องเข้าใจว่าราคามันคงต้องแพงขึ้น ซึ่งถ้าหุ้นฟื้นจริงมันก็คงไม่เสียหายเพราะถือว่าไม่ต้องถือนาน แต่ก็ต้องเข้าใจอย่างนึงว่า หุ้นส่วนหนึ่งคือฟื้นหลอก คือดีแค่ 1-2Q แล้วหลังจากนั้นงบก็กลับมาแย่อีก

ยกตัวอย่างวันนี้ หุ้นอิเลคฯ "ไม่เดียวดาย" แค่พลิกมีกำไรนิดหน่อย หุ้นที่ย้ำต่ำ ๆ มานาน ออกอาการ "ลิ่ง" ซะงั้น ดีไม่ดีราคาที่ขึ้นมานี่ผสมเรื่องอารมณ์เข้าไปด้วย
"Become a risk taker, not a risk maker"
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2889

โพสต์

ในทางกลับกัน "หุ้นสินเชื่อแขก" ที่งบ Q ก่อนดูดีทำท่าจะเทิร์น ดูแล้วถ้าฟื้นจริงราคาอาจจะไปได้อีกไกล วันนี้งบกลับออกมาแบบ "หน้ามือเป็นหลังเท้า" ก็ต้องมาดูกันว่าพรุ่งนี้จะออกอาการ "โรงหนังไฟไหม้" หรือเปล่า ถ้าคิดจะเล่นกับหุ้นพวกนี้แบบว่าไม่ดูเรื่อง MOS ให้ดีก็ต้องเตรียมตัวแบบคลิปนี้ครับ :D

"Become a risk taker, not a risk maker"
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2890

โพสต์

ระหว่างรองบออก ผมว่าถ้าบริษัทนี้เข้าตลาดหุ้น คงคึกคักน่าดูฮะ ช่างเป็นการdiversifyธุรกิจได้สุดยอดมากๆ
Attach (778).jpg
จากหนังสือหุ้น ไปถึงธุรกิจเทรนนิ่งพัฒนาตัวเอง

ได้ข่าวว่าเทรนเนอร์คนนี้สอนถึงระดับ Karma sutra พร้อมวิธี นกป. ด้วยนะฮ :B
(ของเขาดีจริง จัดมาแล้ว4รอบในปีนี้ :8) )

ห๊ะ พี่ๆอยากลงเรียนเหรอครับ งั้นก็ จิ้มเบาๆ :oops:
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
You only live once, but if you do it right, once is enough.
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2891

โพสต์

Investment Fest17
เทคนิคการหาหุ้นฝากชีวิต

คุณต้าร์ กวิน วรรณตระกูล แห่ง Aom money
คุณนิ้วโป้ง อธิป กีรติพิชญ์ นักลงทุนแนววีไอ และนักเขียน
ปัจจุบัน เป็นวิทยากร stock2morrow

เริ่มที่คุณต้าร์ กวิน นักเขียน Aom money ซึ่งเป็น idolการลงทุนหุ้นแบบDCA
Q: ขอรายละเอียดที่มาของหุ้นที่ฝากชีวิตได้
A: มีคนมาขอหุ้นได้ 100% ในช่วงเวลาสั้นๆ
ผมว่าเจอกันทุกคน
นั่งคิดว่า สามวันเกษียณเลย ฝากชีวิตกับหุ้นที่เด้งเลย
มันเสี่ยง และ อาจไม่เป็นอย่างที่คิด
หุ้นที่ฝากชีวิต ต้องเติบโตอย่างสม่ำเสมอ มีความปลอดภัย
เช่น หุ้นท่าอากาศยาน เราจะต้องหาcharacterให้เจอ

คุณนิ้วโป้ง
คน 100 คนที่ลงทุน ส่วนใหญ่เสีย นี่คือความจริง
นักลงทุนสี่ประเภทได้แก่
1.รายย่อย ( II ) individual investor
2.Prop trade
3.นักลงทุนสถาบัน
4.นักลงทุนต่างประเทศ
นักลงทุนจากต่างประเทศเงินเยอะกว่าเรา เวลาเข้าสมัยก่อน จะเข้าหุ้นใหญ่พร้อมกันหลายตัว
หลังบาดเจ็บครั้งแรก เราไม่มีสิทธิ์พิเศษในการซื้อหุ้น
Average investor buy good price & good stock

เรื่องที่1 รูปแบบการลงทุน
วิธีการลงทุนแบบนี้ 3ปีย้อนหลัง
Set+21%ในปีที่แล้ว เวลาแพ้ อย่าแพ้เยอะ เพื่อจะกลับมาได้ง่าย
ปี2015 หุ้นราคาถูกมาก
หุ้นน้ำมันที่มีบริษัทลูกขายกาแฟนกแก้ว ราคาแค่ 240 บาทเอง
หุ้นค้าปลีกหน้าปากซอยบ้าน 38 บาท
ตัวอย่างPort จัดสัดส่วนการลงทุนใน
1. Equity 41% (active port&passive port) ,
2. Fund 37% ( LTF,RMF,Mutual fund),
3. Non listed equity 2% ,
4. Cash 19%
การจัดพอร์ตโดยเอา 100- อายุ เช่น อายุ40ปี ก็คำนวณ โดย เอา100-40 หมายถึง ซื้อหุ้นได้ 60%
ส่วนอีก 40% เป็น Non risk asset

คุณ ต้าร์ มองว่าทรัพย์สินความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ
ควรลงทุนในหุ้น ซึ่งฝากชีวิตได้ แต่ถ้าอายุเยอะก็ถือหุ้นน้อยลง

เรื่องที่2 หุ้นแบบไหนคือหุ้นที่ดี
หุ้นที่ฝากชีวิตได้ เช่น รพ สื่อสาร ค้าปลีก เราเห็นว่ายังเติบโตได้ เราอาจมองอนาคตยาว
แต่ก็ต้องระวังDisruptive ด้วย
อะไรที่ทำให้เติบโตในระยะยาว ก็คือผลกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง
แต่ระยะสั้นมีความผันผวน คนจะแพ้ก็ตรงระยะสั้น ขายไปก่อน แทนที่สะสมเพิ่มขึ้นถ้าดีในระยะยาว
ถ้าเราลงทุนหุ้นระยะยาว ในอนาคตมีเงินแบบ passive income จากหุ้น
เวลาใช้เงินก็ขายได้ ปีต่อไปก็ขายเพิ่ม5%เหมือนได้รายได้สูงขึ้น
บริษัทที่ยังมีคนใช้บริการอยู่ถึงตอนนี้ และ ยังมีกำไรอยู่
เราดูบริษัทจากชีวิตประจำวันว่าบริษัทไหนยังทำธุรกิจอยู่ได้
สิ่งที่มากระทบ เช่น พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลง
บริษัทถ้าไม่ได้ปรับตัว เราก็ขาย
เราควรรู้ผู้บริหารคือใคร

คุณโป้ง พูดต่อจากคุณต้าร์ถึงหุ้นฝากชีวิตเป็นแบบไหน
สูตรในการลงทุนที่ใช้ได้ตลอด
Good price & good stock
หุ้นฝากชีวิตในอีก 10 ปีข้างหน้า
1. ต้องไม่เจ๊ง
2. ต้องผูกขาดทางใดทางหนึ่ง
3. ต้องมีMarket shareเพิ่ม
4. ต้องรายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม
พูดในเชิงความเข้มแข็ง
ไทยจะมีหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน หุ้นโรงไฟฟ้า หุ้นเกี่ยวกับสนามบิน
หลายปีค้าปลีกไม่โตขึ้น แต่ย้ายจากโชวห่วยเป็น Convenient store
ถ้าเราถือหุ้นฝากชีวิต10ตัว
เมื่อไหร่ที่หุ้นบางตัวลง20-30% โดยไม่มีเหตุผลที่เพียงพอก็กระทบต่อportไม่มาก
หุ้นไทย ส่วนใหญ่เป็นหุ้นพลังงาน
แต่หุ้นต่างประเทศ จะเป็นหุ้นไฮเทค
การลงในต่างประเทศนอกจากดูที่ผลตอบแทนต้องระวังforexด้วย

คุณต้าร์ ถือหุ้น5ตัว รับความเสี่ยง ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับหุ้นน้อยตัว
แต่เพื่อนถือ 50ตัว เช่นกระจายความเสี่ยง ผลตอบแทนฉุดกันไปมา
ผมศึกษาแล้วรู้ว่าหุ้นแบบไหนที่ชอบ ก็เลือกหุ้นที่ชอบเข้าพอร์ต
หุ้นมีทั้ง defensive stock , growth stock

ส่วนคุณโป้ง จำไม่ได้ว่าถือกี่ตัว เต็มที่ไม่เกิน 15 ตัว แนะนำไม่ควรเกิน10ตัว
ถ้าเงินเยอะ ก็ไม่เกิน 20 ตัว
หุ้นบางตัวกระจุก เช่น หุ้นรับเหมาก่อสร้างทุกตัว
หุ้นบางตัวทับซ้อน เช่น หุ้นพี่แอด กับ หุ้นชิน
ในยุคดิจิตอล พิจารณาว่าแต่ละกลุ่มมีแนวทางเปลี่ยนไปจากอดีตหรือไม่
Retail
Telecom
Energy
Media
Logistic ex BTS ,
Industrial
Tourism เป็นหนึ่งในsectorที่แข็งแรง
เลือกหุ้นในกลุ่มที่เปลี่ยนแปลงช้าสุด

เรื่องที่5 วิธีคัดหุ้นดี
วิธีการเลือกหุ้นดีต้องดูอะไรบ้าง
1 หาความรู้ให้กับตัวเรา หรือ สร้าง Eco systemก่อน
2. คุณไซมอนมาพูด why for what
ดังนั้นการหาvalue position
เอาวิธีการคิดของต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จมาใช้ในไทยก็น่าประสบความสำเร็จด้วย

คุณ โป้ง
คนคาดหวังผลตอบแทนสูงเกินไป สมัยนี้ผลตอบแทนตราสารหนี้ลดลงมาก
บางกองทุนก็เพิ่มสัดส่วนหุ้นมากขึ้น
เช่นที่มาเลเซีย กองprovident fund จะลากออกจากกองทุนก่อนกำหนดไม่ได้ และ ออม 20%
ประเทศไทย ตลาดหุ้นมีรายย่อยเยอะ

เรื่องที่4.หุ้นที่อยู่ในหมวดหุ้นดี และ น่าถือยาว
1. หุ้นที่ดูแลท่าอากาศยาน มีปัญหาอย่างเดียว คือ แพงเกินไป ผมก็พลาดขายครึ่งนึง
หุ้นเบญจภาคีมีน้อยลง
2. Tourism โรงแรม ร้านอาหาร ระยะยาวน่าจะดี
ตอนนี้จนถึงสามปี Airbnb เหมาะสำหรับวัยรุ่น ต้องบริการตัวเองระดับนึง
แต่ผู้ใหญ่ยังต้องการที่พักแน่นอนมากกว่า รวมถึงต้องการเรื่องการบริการ
โรงแรมในไทย มีแบรนด์ตัวเองแล้ว น่าจะตอบสนองความต้องการของผู้ใหญ่ได้ดีกว่า
3. Medical
เราไม่มีหุ้นยา มีแต่หุ้นโรงพยาบาล
ระยะยาวควรกี่ปี
ตอนนี้ ตลาดหุ้นsideway กรอบการแกว่งน้อยมาก แต่volumeไม่บางเลย
ถ้ามีgood stock ให้ถือไว้ รับเงินปันผล

เรื่องที่7.จุดระวัง
คุณ ต้าร์ แนะเรื่องความเสี่ยง ไม่รู้ว่ามาเมื่อไหร่
จะมากระทบทำให้ตกใจ แต่ไม่กระทบพื้นฐาน แต่บางครั้งกระทบพื้นฐาน ทำให้หุ้นแย่ลง
ถ้าพฤติกรรมผุ้บริโภคเปลี่ยน เงินจะจ่ายให้กับคนตอบโจทย์ได้
ปัจจัยภายในก็เปลี่ยนแปลงได้
1.ผู้บริหารเปลี่ยนนโยบาย
2.แนวทางการทำธุรกิจเปลี่ยน
3.อาจจะเกิดความเสี่ยงหรือเกิดแง่ดีหรือไม่

คุณโป้งพูดถึงจุดระวัง
จากการวิจัยเรื่องปัจจัยอะไรมีผลต่อผลตอบแทนในระยะยาว
ปรากฏว่า ระยะยาวผลตอบแทนมาจากการจัดพอร์ตมากที่สุด
GPIF (Government Pension Investment Fund) เพิ่มสัดส่วนหุ้นจาก 26% ในปี14
มาเป็น 43% ในปี 16
จุดระวังคือ
Digital transformation ถ้าเจอบริษัทไหนที่รายได้ลด กำไรลด รู้เมื่อไหร่ขายเมื่อนั้นเลย

เรื่องที่8.กับดัก
การลงทุนทางสายกลาง จัดพอร์ตให้เหมาะสม คนพึ่งทำงานไม่ควรถือตราสารหนี้100%
คนอายุมากขึ้น ก็ลดสัดส่วนหุ้นลง เพิ่มตราสารหนี้มากขึ้น

สุดท้ายขอขอบคุณวิทยากรทั้งสองท่าน
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
Verified User
โพสต์: 1436
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2892

โพสต์

เทคโนโลยี่เปลี่ยนโลกจริงๆ ครับ แล้วก็มีเรื่องการเอาชิปฝังไว้ในตัวคนเกิดขึ้น เหมือนกับที่เคยมีจินตนาการเกี่ยวกับเรื่องนี้ในอดีตเลยครับ

คิดต่อว่า หากอนาคต มีการใช้ชิปฝังในตัวคน แทนการพกบัตรต่างๆ เช่น บัตรประขาชน บัตรประกันสังคม บัตรต่างๆ พี่ๆ จะยอมโดนฝังชิปกันไหมครับ อิอิ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2893

โพสต์

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=61147

Money talk เมื่อวาน สรุปให้อ่านครับ
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2894

โพสต์

สัมมนา มหกรรมการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งในอนาคต
หัวข้อ เซียนหุ้นรุ่นใหม่
โดย ภก กิตติศักดิ์ โภคา หรือ น้องเบส เจ้าของเพจ ลงทุนศาสตร์

น้องเบสวันนี้มีกิจกรรมตลอดช่วงบ่าย เริ่มจากช่วงเที่ยงช่วยงานสมาคมนักลงทุนหุ้นคุณค่า ประเทศไทย
และร่วมงานสัมมนาตลอดช่วงบ่าย ส่วนช่วงเย็นก็มาพูดในงานนี้
น้องเบสพูดถึงแนวการลงทุนของ คุณ วอร์เรน บัฟเฟต
ช่วงแรก คุณบัฟเฟตได้เรียนการลงทุนจาก เบนจามิน เกรแฮม ซึ่งมีกลยุทธ์ในการเลือกหุ้นแบบvalue
โดยเลือกหุ้นที่ราคาถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง มีการกระจายความเสี่ยง และ จะขายเมื่อราคาเกินมูลค่าที่แท้จริง
ต่อมาได้ศึกษาการลงทุนของ ฟิลิป ฟิสเชอร์ ซึ่งเน้นการลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth stock)
ประเด็นสำคัญที่สุดที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของฟิชเชอร์ก็คือ เขาให้ความสำคัญกับ “ปัจจัยเชิงคุณภาพ” สูงมาก ซึ่งหมายถึงการวิเคราะห์คุณลักษณะของบริษัทในแง่ที่ไม่เกี่ยวกับตัวเลข เช่น การตลาด การขาย ความสามารถและจริยธรรมของผู้บริหาร ความได้เปรียบในการแข่งขัน การวิจัยและพัฒนา (R&D) หรือแม้แต่แบรนด์และเฟรนไชส์ของบริษัท ฯลฯ

ฟิชเชอร์มองว่า บริษัทที่น่าลงทุน ต้องไม่เพียงผลิตสินค้าที่ดีมีคุณภาพ แต่ต้องเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค และการจะทำเช่นนั้นได้ ก็ต้องมี “การตลาด” ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตัวฟิชเชอร์เองก็อาจถือได้ว่าเป็น “นักการตลาด” ที่ยอดเยี่ยมและมีสายตาอันเฉียบคมคนหนึ่ง

วิธีค้นคว้าหาข้อมูลของธุรกิจที่ฟิชเชอร์ใช้และเป็นที่รู้จักกันดีก็คือ เทคนิค “การล้วงลึก” (Scuttlebutt) โดยใช้การสัมภาษณ์แบบเชิงลึกเป็นหลัก อาทิ ไปสัมภาษณ์ผู้บริหาร สัมภาษณ์อดีตพนักงานของบริษัท ตลอดจนสัมภาษณ์พนักงานของบริษัทคู่แข่ง ฯลฯ แล้วเอาข้อมูลมาประมวลผลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

ที่สำคัญก็คือ ฟิชเชอร์แนะให้ “มุ่งเน้น” (Focus) คือให้ลงทุนในบริษัทที่ “ดีที่สุด” จำนวน “น้อยบริษัท” แทนที่จะลงทุนในบริษัทที่ “ดีปานกลาง” จำนวนมากมายหลายบริษัท

เขาเชื่อว่ายิ่งกระจายการลงทุนมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เรามีเวลาสำหรับบริษัทแต่ละบริษัทที่เข้าไปลงทุนน้อยลงเท่านั้น อีกทั้งยังทำให้ผลตอบแทนโดยรวมลดลง เพราะถูกถัวเฉลี่ยไปในหุ้นหลายตัว

การมุ่งเน้น ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฟิชเชอร์ที่แตกต่างจาก เบนจาบิน เกรแฮม โดยสิ้นเชิง
ส่วนการขายต่อเมื่อหุ้นที่ถือไม่เติบโต หรือ เติบโตน้อย
คุณ วอร์เรน บัฟเฟต บอกว่า การลงทุนของเขาเป็นการผสมผสานระหว่าง กลยุทธ์ของเกรแฮม 85% และ ฟิชเชอร์ 15%
แต่ดูจากหุ้นที่ลงทุนในช่วงหลัง น่าจะใช้กลยุทธ์จากฟิชเชอร์ เช่น ซื้อบริษัทแคสดี้ นั้นPE ตอนที่ซื้อ 20เท่าซึ่งไม่ถูกเลย
คุณวอร์เรน นับถือคุณเกรแฮมมาก เลยบอกว่าใช้วิธีลงทุนจากเกรแฮม 85%
สรุป ถ้าคุณลงทุนด้วยกลยุทธ์ไหน เวลาจะขายต่อเมื่อถึงเป้าหมายที่กำหนด
ถ้าลงทุนแบบเกรแฮม เน้นหุ้นคุณค่า ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง จะขายต่อเมื่อราคาเกินมูลค่าที่แท้จริง
ถ้าลงทุนแบบฟิชเชอร์ เน้นหุ้นเติบโต การขายต่อเมื่อหุ้นที่ถือไม่เติบโต หรือ เติบโตน้อย
ขอบคุณน้องเบสที่มาให้ความรู้กับนักลงทุนนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2895

โพสต์

คารวะพี่หมอหนึ่งและพี่อมรครับ
ขอบคุณกับการสนทนามากครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
Verified User
โพสต์: 1436
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2896

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:คารวะพี่หมอหนึ่งและพี่อมรครับ
ขอบคุณกับการสนทนามากครับ
คาราวะและขอบคุณพี่ Nevercry.boy ด้วยครับ ^ ^
คงมีโอกาสพบกันใหม่ครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2897

โพสต์

อ้าว พี่NB ได้เจอกับพี่หมอ1 พี่อมร พี่Anielee กันแล้วเหรอครับ...น่าหนุก คงเหมือนพบปะจอมยุทธ์นั่งจิบน้ำชา (หรือใบบัวบก :la: ) คุยกันประมาณนี้นะครับ

สำหรับน้องเบส เจ้าของเวบลงทุนศาสตร์ ที่พี่อมรไปฟังสัมนามานั้น
อันนี้ถือว่าเป็นคนหนุ่มเท่าที่อ่านบทความและเคยคุยกัน...ดูยึดมั่นหลักการลงทุนดีครับ
และเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการVI ยิ่งกว่าผีผุ่งใต้ แน่นอนฮะ เอาพอร์ตผมเป็นเดิมพันได้เลย (แผล่บๆๆ :B )

เอาข่าวเรื่องโรบอทช่วยเทรดแบบแนะนำการลงทุน มาเล่าให้ฟังครับ ว่าตอนนี้มันเข้ามาตลาดการลงทุนที่ฮ่องกง แบบเด่นชัดก็
https://www.8securities.com

มันคืออะไร ก็ตามอ่านในนี้เอาฮะ
http://www.fintech.co.th/robo-advisor-chloe/
https://brandinside.asia/robo-advisor-c ... nvestment/

ส่วนจะเหมาะกับใครนั้น อันนี้ผมจนด้วยเกล้าครับ :|

ไม่รู้ว่าของไทยตอนนี้เขายอมให้โปรแกรมแบบนี้ (JITTA?) ปลั๊กอินเข้าระบบซื้อขายได้เลยหรือยังนะครับ
.
.
.
.
สำหรับคำถามของพี่ Anielee ผมบอกได้เลยว่า...แค่แต่งงานปุ๊บ ก็เหมือนโดนฝังชิปแล้วละฮะ :rofl:
AnieLee เขียน: หากอนาคต มีการใช้ชิปฝังในตัวคน แทนการพกบัตรต่างๆ เช่น บัตรประขาชน บัตรประกันสังคม บัตรต่างๆ พี่ๆ จะยอมโดนฝังชิปกันไหมครับ อิอิ
001.jpg
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
You only live once, but if you do it right, once is enough.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2898

โพสต์

AnieLee เขียน:
Nevercry.boy เขียน:คารวะพี่หมอหนึ่งและพี่อมรครับ
ขอบคุณกับการสนทนามากครับ
คาราวะและขอบคุณพี่ Nevercry.boy ด้วยครับ ^ ^
คงมีโอกาสพบกันใหม่ครับ
ขอบคุณมากครับ ใครมาสายซอฟต์แวร์คุยกันได้นะ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
Verified User
โพสต์: 1436
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2899

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:
AnieLee เขียน:
Nevercry.boy เขียน:คารวะพี่หมอหนึ่งและพี่อมรครับ
ขอบคุณกับการสนทนามากครับ
คาราวะและขอบคุณพี่ Nevercry.boy ด้วยครับ ^ ^
คงมีโอกาสพบกันใหม่ครับ
ขอบคุณมากครับ ใครมาสายซอฟต์แวร์คุยกันได้นะ
อ้าว พี่ NeverCry.boy จบมาทางไอทีหรือครับ
ผมเรียนจบสายไอทีตรงครับ ^ ^
สมัยนี้ คนไอทีขาดแคลนมากครับ หุหุ

พอดีเมื่อวาน อ.ชาย กล่าวถึงเทรนระดับ global เป็นกลุ่มเทคโนโลยี อเมริกา อ่านเจอข่าวนี้ กล่าวว่า fb ใช้คนน้อยกว่า walmart ถึง 150 เท่าเลยทีเดียว / เท่าที่ทราบ กำไร fb ก็มากมายจริงๆ ครับ / ส่วนหุ้นในตลาดไทย แนวเทคโนโลยี หายากมาก และก็คงไม่ใช่แนวที่จะมีนวัตกรรมออกมาขายได้ในระดัยทั่วโลกอย่าง fb amazon microsoft .... เป็นต้น

ส่วนพี่ romee ติด "chip เมีย" เรียบร้อยแล้ว ถ้าอนาคตมี chip จริงๆ ฝังลงไป ก็คงไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะปรับตัวได้ง่าย ขินกับ chip ในปัจจุบันแล้วนั่นเอง ฮ่าๆๆๆ // ว่าจะแซวต่อถึง เจ้าสำนักหาดใหญ่ แต่ขอหยุดไว้ดีกว่า 55555 แซว อาจารย์ จะไม่งามครับ อิอิ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2900

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:
AnieLee เขียน:
Nevercry.boy เขียน:คารวะพี่หมอหนึ่งและพี่อมรครับ
ขอบคุณกับการสนทนามากครับ
คาราวะและขอบคุณพี่ Nevercry.boy ด้วยครับ ^ ^
คงมีโอกาสพบกันใหม่ครับ
ขอบคุณมากครับ ใครมาสายซอฟต์แวร์คุยกันได้นะ
ตอนปี1 เรียนวิศวคอม แต่ไม่ค่อยชอบเขียนโปรแกรม เลยย้ายไปสายelectronic
แต่ก็เขียนโปรแกรมเหมือนกัน นานแล้ว
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2901

โพสต์

B.A.T Talk ตอน Alibaba

คุณ March แนะนำ buffettcode page ซึ่งรวบรวมหัวข้อเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจให้ติดตามตลอดเวลา
หุ้น Fang ย่อมาจาก
F: Facebook
A: Amazon
N: Netflix
G: Google
มีอีกประเทศที่เป็นผู้นำ แต่ในอดีตเป็นผู้ตามมาก่อน
สมัยก่อน ญี่ปุ่น สินค้าไม่ดี ก็ปรับปรุงจนดีตาม ต่อมาเป็นเกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน
อีก6-7 ปี จีนเป็นมหาอำนาจแทนอเมริกา เพราะGDP เกินสหรัฐ
ปี1820 GDP จีน มากสุด แต่เกิด industry evolution ที่ยุโรปเสียก่อน
จีนไม่ได้พัฒนาและปิดประเทศ คนจีนติดฝิ่นที่ชาวต่างชาตินำมาขายให้
จีนอยู่อย่างนี้อีก150ปี ติดกับดัก จนสุดท้ายเหมาเจ๋อตุงปรับเศรษฐกิจให้กลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง
GDP เติบโต49เด้ง คนจีนหายจน
หลังจากนั้นเศรษฐกิจในปัจจุบันก็เติบโตเหลือ 6%กว่า
สัดส่วนserviceสูงขึ้นเรื่อยๆ
คนจีนขายของถูก ควรซื้อของถูก
แต่จากresearch mckency ชีวิตเกิดมาเพื่อความสุข ในปี2001-2015
คนจีนจะซื้อของที่มีคุณภาพดีขึ้น ถ้ามีความสามารถซื้อได้
คนใช้internet 790 ล้านคน จากประชากร 1,300 ล้านคน คิดเป็นrate50%
เทียบกับประชากรโลก facebookคนใช้ 1.59ล้านคน
สมัยก่อน จีนไม่มีห้างเลยมีบริการสั่งซื้อของทางonline
เรามองว่าการทำไข่ปลอมต้นทุนแพง แต่ถ้าทำให้คนจีนทั้งประเทศ
ทาน ซึ่งต้นทุนจะถูกลงจาก Economy of scales
ตัวอย่าง บริการOfO share จักรยานให้ยืม มีmarket cap 1,300 ล้านเหรียญ
หรือตัวอย่างที่ล้มเหลว เช่น มีบริษัทแชร์ร่ม ใครเป็นสมาชิกแชร์ใช้ร่มได้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
เนื่องจากค่าสมาชิกแพงกว่าค่าร่ม3เท่า คนไม่นิยม และ สำหรับบริษัท คนยืมร่มแล้วไม่มาคืน

60%ของคนกลางเมืองเคยใช้food delivery ไทยไม่น่าถึง 20%
จีนมี cast rate society ใช้payment online 500 ล้านเหรียญมูลค่าเกือบ50%GDP
โตมาจากการใช้ smartphone
ทุกวันนี้คนคิดถึงจีน จะคิดถึงแจ็คหม่าเป็นตัวแทนจีน ไม่ใช่หมีแพนด้าแล้ว
เพราะแจ๊ค รวย เก่ง แล้ว market cap ของAlibaba ใกล้เคียงBerkshire
แต่Buffet ใช้เวลาสร้างwealth อย่างน้อย 50-60 ปี แต่ alibaba ใช้เวลาแค่ 20ปี
สร้างwealthได้เท่ากัน
ส่วน cpall, ptt นั้นเป็นบริษัทในไทยแต่ถ้าเทียบกับAlibaba แล้วเล็กมาก

คำถามว่า ใหญ่แล้วดีอย่างไร
Jack ma อยู่อันดับ 23 ของ Forbes Net worth 28.3 Billion
มีคำพูดติดในหัว อเมริกาเป็นคนสร้างinternet แต่คนที่ได้ประโยชน์คือจีน
เมื่อก่อน Alibaba เหมือน amazon, ebay
กลยุทธ์ของAlibaba คือ ทำธุรกิจsupportคนที่ไปที่ต่างๆ หมายถึง
คนจีนไปอยู่ในประเทศไหน ก็ไปให้บริการคนจีนด้วยproduct ของ Alibaba
รายได้ 4,000 ล้านหยวน ถึง 50,000 ล้านหยวนต่อไตรมาส
แต่ตอนนี้ดูเหมือนไม่ค่อยโต
GMV (มูลค่าสินค้าขาย บอกอำนาจของบริษัทนั้นๆ)
Alibaba เป็นบริษัท E-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นส่วนทำให้เศรษฐกิจจีนโตด้วย
ปฏิวัติอุตสาหกรรมในจีน
เริ่มจากซื้อ ขาย ผ่าน Alibaba.com , AliExpress , Taobao ซึ่งบริษัทในเครือที่อยู่วงใน
บริษัท Juhuasuan ทำหน้าที่คล้าย Lazada
รอบนอกขององค์กร Alibaba ได้แก่ DeDe คล้าย Uber,
Youku คล้าย Youtube
Ecosystem นอกจากข้อมูลการขายสินค้า ต่อไปได้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของคนเช่น
คนชอบดูอะไร ทานข้าวกับอะไรที่ไหน เขาเข้าใจตัวเรามากกว่าเราเสียอีก
บริษัทที่มีmarket cap 300,000 ล้านเหรียญ growth 60% ในโลกนี้มีแค่ที่นี่ที่เดียวในจีน
Core commerce growth 47% , Cloud computing
การโตจากการออกนอกประเทศ และ take lazada ทำให้โต 312% แต่ถ้าไม่นับ
การtake lazadaจะโต100กว่า%
สัดส่วนของบริษัทในเครือ
Core คือ taoboa81%
CAGR GMV growth 37% from 2013 to 2017
แต่รายได้โตมากกว่าจากการเก็บค่าโฆษณามากขึ้น
Alibaba มี market share 11% ของ china retail sales
ซึ่งถือว่าเล็กมาก ยังโตต่อไปได้อีกเท่าตัว
MAU ( monthly active user ) เริ่มเติบโตสูงขึ้นด้วย
สิ่งที่ทำให้รายได้โตมากกว่า
คือ Take rate เก็บค่าการใช้เพิ่มขึ้น
เมื่อก่อนขายบน PC ต่อมาชักชวนให้มาใช้ในมือถือเพิ่มขึ้น โดยให้ส่วนลดเพื่อชักจูงช่วงแรก
และลดsupportลง เมื่อใช้มือถือมากขึ้น
Take rate 3.04% เมื่อเทียบกับ amazon 13%, ebay 11.6%
EBITDA มีแต่amortizeตกต่ำลงหลังจากtake Lazada
ต่อไปจะเป็น social commerce
Smart data 40% หมายถึงเข้าทุก2วัน
เหตุผลที่คนเข้ามาในระบบและใช้บริการเพราะว่า มีคนมาreviewของ
ตัวอย่าง คุณหวางหง ถือเป็นเน็ตไอดอล มีคนเข้ามาดูมากมาย ทำให้เธอมีรายได้ดีมาก
Taopao สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าผู้หญิง
ตอนนี้มีเน็ตไอดอลเป็นล้านคน คิดเป็นรายได้ 270 ล้านเหรียญ
Tmall B2C มีแบรนด์ชิเชโด้ ไม่ขายในToapoa แต่ไปขายในTmall
วิธีเจาะตลาดจีนต้องเข้าไปใน Tmall เพื่อขายสินค้า
จีนจะเติบโตในแบบ B2C 55% , C2C 45%
Market share tmall e-commerce เป็น b2c คิดเป็น 56.6%
ส่วน JD.com 24.7%
ยิ่งคนอยู่ในpatchformนานขึ้นจะซื้อมากขึ้น
จะแยก consumer segment 500 อย่าง และสามารถเชื่อมโยงเข้ากับลูกค้า
เวลาคนมาขายของจะได้ข้อมูลความต้องการของลูกค้าตรงกับสินค้าที่ขาย
ทำให้Baiduไม่โต เพราะลูกค้าไปโฆษณาในalibaba ได้ผลดีกว่า
ตลาด Grocery war ยังเป็นตลาดที่ alibaba , Jd.com ยังไม่ได้เข้าไปทำ
แต่JD ส่งของได้ดีกว่าAlibabaซึ่งใช้sub contractorไปให้บริการต่อ
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2902

โพสต์

romee เขียน:อ้าว พี่NB ได้เจอกับพี่หมอ1 พี่อมร พี่Anielee กันแล้วเหรอครับ...น่าหนุก คงเหมือนพบปะจอมยุทธ์นั่งจิบน้ำชา (หรือใบบัวบก :la: ) คุยกันประมาณนี้นะครับ

สำหรับน้องเบส เจ้าของเวบลงทุนศาสตร์ ที่พี่อมรไปฟังสัมนามานั้น
อันนี้ถือว่าเป็นคนหนุ่มเท่าที่อ่านบทความและเคยคุยกัน...ดูยึดมั่นหลักการลงทุนดีครับ
และเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการVI ยิ่งกว่าผีผุ่งใต้ แน่นอนฮะ เอาพอร์ตผมเป็นเดิมพันได้เลย (แผล่บๆๆ :B )

เอาข่าวเรื่องโรบอทช่วยเทรดแบบแนะนำการลงทุน มาเล่าให้ฟังครับ ว่าตอนนี้มันเข้ามาตลาดการลงทุนที่ฮ่องกง แบบเด่นชัดก็
https://www.8securities.com

มันคืออะไร ก็ตามอ่านในนี้เอาฮะ
http://www.fintech.co.th/robo-advisor-chloe/
https://brandinside.asia/robo-advisor-c ... nvestment/

ส่วนจะเหมาะกับใครนั้น อันนี้ผมจนด้วยเกล้าครับ :|

ไม่รู้ว่าของไทยตอนนี้เขายอมให้โปรแกรมแบบนี้ (JITTA?) ปลั๊กอินเข้าระบบซื้อขายได้เลยหรือยังนะครับ
.
.
.
.
สำหรับคำถามของพี่ Anielee ผมบอกได้เลยว่า...แค่แต่งงานปุ๊บ ก็เหมือนโดนฝังชิปแล้วละฮะ :rofl:
AnieLee เขียน: หากอนาคต มีการใช้ชิปฝังในตัวคน แทนการพกบัตรต่างๆ เช่น บัตรประขาชน บัตรประกันสังคม บัตรต่างๆ พี่ๆ จะยอมโดนฝังชิปกันไหมครับ อิอิ
001.jpg
เสียดายRomee ติดธุระมาไม่ได้ แล้วเจอกันงานสังสรรค์นะ
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2903

โพสต์

ท่านamornkowaฮะ ท่านromeeแกติดภารกิจปรนนิบัติเมีย(คำนี้ยืมอ.picatosมา)อยู่
ผมขอบคุณท่านI-salmonที่เดินมาสมทบไม่ทัน(คุยกระหนุงกระหนิงกับอ.NBอยู่)
ฝากสวัสดีและขอบคุณแทนด้วยนะฮะ ได้สองท่านนี้ก็ครบเครื่องเรื่องเลคเชอร์ล่ฮะ

ท่านAnieLeeฮะ แซวอาจารย์ไม่งามก็จริง แต่ถ้าแซวแล้วฮา อาจารย์คงไม่ว่าอะไรฮะ เอาซะหน่อยก็ได้ฮะ ฮา
เรื่องแซวอ.เนี่ย ผมยกมือไหว้พร้อมๆกับเบี่ยงหัวหลบมะเหงก ขอโหสิที่ผ่านมา กับที่จะทำต่อไปตามนิสัยถาวร(สันดาน)ประจำตัวแล้วฮะ
ทั้งอ.WEB อ.ลูกอิสาน อ.นายกคนขายของ อ.linzhi อ.picatos อ.Sai ท่านเลขาว่าที่นายกmario ฯลฯ
เนื้อหาในงานเข้มข้นฮะ เสียดายว่าสมาชิกเจอกันครั้งแรก ยังเกร็งๆครั้งหน้าน่าจะได้ปล่อยมุกปล่อยของกันให้ทั่วๆถึงๆนะฮะ

เนื่องจากผมเป็นVI สายลอก คือจาก ล่าหุ้น(1.0) ผ่าน เลือกหุ้น(2.0) มาเป็นลอกหุ้น(3.0) ยังไม่ไปถึง4.0(ล่อหุ้นให้mr.market) ถูกใจไอเดียอ.picatosมากฮะ อ.ให้แนะนำหุ้นคนละตัว จะได้รู้ว่าใครสนใจตัวไหน แล้วค่อยคุยกันทีหลัง(ผมลอกหุ้นท่านyokoเรียบร้อย แฮ่..)

งานวีไอหาดใหญ่ที่จะถึงจึงขอเสนอว่า เวลาแนะนำตัวให้บอกชื่อหุ้นที่ถือเยอะที่สุดในผอร์ท ว่าเป็นหุ้นอะไร ถือกี่% กำไรขาดทุนกี่% พร้อมเหตุผลสั้นๆ(ถ้ามี)
แล้วตามด้วยอ.ลูกอิสานวิจารณ์ข้อดี(อัพไซด์)ข้อเสีย(ดาวน์ไซด์)หุ้นตัวนั้นๆ ถ้าได้ราคาเป้าหมายด้วยก็แหล่มเลย
แค่นี้ก็พอฮะ ผมจะได้ตามไปลอก เอ๊ยคุยศึกษาวิธีลงทุนในแต่ละท่านต่อไปฮะ

มาส่งการบ้านนะฮะ
การบ้านอ.WEBคือ การลงทุนเกี่ยวกับดวงหรือไม่ มีใครรู้วันเกิดเดือนเกิดอ.WEBมั่งฮะ (ปีไม่ต้อง อ.อายุเพิ่งผ่าน29มาหมาดๆ) จะได้ดูดวงส่งการบ้านให้
การบ้านท่านนายมานะ กับสมาคมคือ ทำยังไงจะให้สมาชิกช่วยกันโพสต์เยอะๆ เข้ามามุงกันแน่นๆแบบ1000tip
เรื่องรูปแบบเวบ ส่วนที่เป็นสมาชิกโพสท์น่ะ

ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
น่าจะทำคล้ายเวปที่เราbenchmarkนะฮะ คนเริ่มโพสต์ก็โพสต์ส่วนที่เป็น"ข้อมูล" "ข้อเท็จจริง"กันไป
แล้วก็มีความเห็นย่อย1-1,1-2 เป็นส่วน"ความเห็น"
ส่วนที่เป็นความเห็นน่ะ

1.สำหรับบุคคล
1.1 สมาชิกที่จะแสดงความเห็น
เพื่อให้กล้าโพสต์เห็นต่างกันมากขึ้นโดยไม่รู้สึกเปลืองตัวรึสร้างศัตรู
น่าจะเป็นความเห็นที่ไม่บอกชื่อได้นะฮะ รึให้สมาชิกแต่ละท่านมีlog inได้คนละสองสามชื่อไปเลย
แบบพวกนักเขียนเค้าทำกัน บางชื่อมีชื่อเสียงแล้วเอาไว้โพสต์อะไรหล่อๆชัวร์ๆ บางชื่อเอาไว่โพสต์เกรียนๆแย้งให้สมาชิกคิดต่างinvertความคิดบ้าง บางชื่อเอาไว้ไฝว้(fight,debate,โต้วาที)กันแบบแตกหักกับความคิดสุดโต่งที่อาจเป็นอันตรายได้ คือถ้าจะแฟร์ๆแบบประชาธิปไตยก็ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็นฮะ
1.2 สมาชิกที่อ่านอย่างเดียว
แล้วเดินส่ายหัวจากไปเงียบๆ,รึโพสต์ตอบว่าไม่น่าเข้ามาอ่านเล้ย,รึเอาโควต้าเจ็ดบรรทัดกรูคืนมา..
แล้วต้องการโวตรึแสดงความรู้สึก เอาเป็นภาษามือก็ได้ฮะ
หัวแม่มือขึ้น(thumb up)หัวแม่มือลง(thumb down)หัวแม่มือ+นิ้วชี้+นิ้วก้อย(loveๆ)นิ้วชี้+นิ้วกลาง(สู้ๆให้กำลังใจ)หัวแม่มือ+นิ้วก้อย(คาราบาว(ฟาย)เอ๊ย..)นิ้วก้อย(ดีกันนะ)นิ้วกลาง(เป็นกลาง.. เอ๊ะใช่ป่าวหว่า..)

2.สำหรับเวที
ถ้าเป็นเรื่องร้อนๆตามระดับความรุนแรง บางเวปเค้าจะมีgreen ,yellow, redzone ตามระดับความดุเดือดฮะ
ถ้าเป็นเรื่องวิชาการก็อาจจะเป็น?(question mark)ตามระดับความสงสัยฮะ หุ้นที่พฤติกรรมน่าสงสัยก็อาจย้ายเวทีกันไปถกกันให้เต็มที่ ถ้ากลัวจะมีหลักฐานก็กำหนดเวลาทำลายตัวเอง เถียงกันให้แหลกโดยไม่ต้องบอกชื่อ รึบอกชื่อเพื่อแสดงความจริงใจก็ได้ ครบอาทิตย์แล้วลบกระทู้ไปเลย(กระทู้ถังขยะ)

คือสรุปว่า ส่วนวิชาการก็ปรับปรุงระะบบsearchและอื่นๆกันไป
ส่วนออกความเห็น,นั่งเล่นก็ให้มีระบบด่าถูกตัวแต่หลบทันตีน สมาชิกที่คันปากอยากประสงค์จะออกความเห็น(ต่าง)แต่ไม่ประสงค์จะออกนามและออกเงิน จะได้กล้าแสดงออกมากขึ้นฮะ
samatah
Moopama
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 108
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2904

โพสต์

ขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆห้องหาดใหญ่ทุกคนด้วยครับหลังแอบอ่านมานาน meeting คราวนี้ผมลงชื่อทัน(ดีใจมาก :mrgreen: ) หวังว่าจะได้เจอพี่ๆห้องนี้ด้วยครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวอีกทีครับ แหะๆ
:D
- Catchphrase! -
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2905

โพสต์

เรียน อาจารย์หมอหนึ่ง ครั้งหน้า จารย์หมอหนึ่งพาผมไปเลี้ยงข้าวต้มนายยาวนะ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2906

โพสต์

ได้เลยฮะ อ.NB
โทรหาผมก่อนเดินทางนะฮะ ถ้าผมอยู่หาดใหญ่(คืนพุธถึงเช้าจันทร์)จะพาไปตอบแทนปีกไก่กับไอติมกล้วยตากร้านเกร์ฮานด์ที่อ.กรุณาเลี้ยงผมฮะ

รีวิวข้าวต้ม
1. ข้าวต้มนายยาว เตี่ยเล่าให้ฟังว่าตอนแรกๆ แกไปมีอาชีพไปซื้อรถอเมริกันจากมาเลย์มาซ่อมขายแทกซี่
รุ่นนั้นจะมีเชฟวี่อิมพาล่า จี๊พ อะไรพวกนั้น เอามาใส่เครื่องดีเซล วิ่งแทกซี่หาดใหญ่ เกนติ้ง ปีนัง สิงค์โปร์ตามแต่จะเหมาไป ปัจจุบันยังมีสาขาเดียว ลูกๆช่วยกันทำ เอกลักษณ์คือคิดเงินเป็นสตางค์ กินทีนึงเสียเป็นหมื่นเป็นแสน
2. ข้าวต้มเจ้าเก่าอีกเจ้าคือเซาะฮึ้ง เดิมอยู่เชิงสะพานลอย (จริงๆเดิมไม่มีสะพานลอย ชาวบ้านเดินข้ามทางรถไฟไปมาเอง)เจ้านี้ใช้วิธีแยกสาขาให้ลูกๆไปทำแต่ละเจ้า บางเจ้าไปภูเก็ต บางเจ้าจะอยู่กระจายกันไปในหาดใหญ่ รสชาดจะแตกต่างกันไปตามสาขา
3. ข้าวต้มอีกเจ้ามาแรงแต่คนไม่รู้จัก คืออั่งม้อ ย้ายมาจากนราธิวาส รสชาดราคาโอเคแบบคนรุ่นใหม่เลยฮะ แตกต่างจากสองเจ้าบน ซึ่งออกแนวคลาสสิก

ข้าวแกง
ที่ตระเวณกินมาถ้าพอจะเป็นตัวแทนข้าวแกงใต้ได้ น่าจะเป็นร้านคูเต่า(เป็นชื่อตำบลออกไปนอกเมือง)
มีสามสาขา แต่สาขาที่ถูกปากที่สุดคือสาขาหาดใหญ่ใน ปรับปรุงเป็นสมัยใหม่ทั้งเมนูและรายละเอียดอื่นๆ

อาหารจีน (เรียงตามราคาต่ำไปสูง)
1.ตามสั่งร้านดั้งเดิมหาดใหญ่ น่าจะเป็นร้านกันเอง(คนละกันเองกับที่ภูเก็ต)สะดวก รวดเร็ว ไม่แพง รสชาดโอเค
ไปทีไรมีแต่มาเลย์นั่งเต็มร้าน
2. ร้าน"อ้า"(ชื่อภาษาจีนนะจ๊ะ เตี่ยบอกอักษรจีนประกอบด้วย"รัก"และ"ปาก"(กิน)ไม่ใช่อ้าซ่าภาษาไทย)
มาเลย์เต็มร้าน
3. ต้าเหยินและไต้ซีฮี้ ทั้งสองร้านเป็นร้านดั้งเดิมที่ย้ายมาจากเบตง ต้องการกินร้านอาหารสไตล์จีนเบตงไม่ต้องไปไกลที่ไหน หาดใหญ่มีบริการ
4. นิยมรส
5. เวียงจันทร์และเจ็งง้วนสองร้านนี่ญาติกัน ราคาค่อนข้างสูง แต่มีผู้หลักผู้ใหญ่ไปกินกันเยอะ

อาหารไทย
1. เจ๊เล็ก ดั้งเดิมขายมานาน
2. นัดพบยูงทอง ย้ายมาจากตากใบ นราธิวาส ร้านนี้เป็นอาหารไทยโบราณผสมมลายู(มั้ง)เคยเสริฟตำหนักทักษิณ

อาหารมุสลิม
1. ไทยมาเลย์ ดั้งเดิมหาดใหญ่
2.เจ๊ะการ์ ย้ายมาจากยี่งอ นราธิวาส เป็นสไตล์ร่วมสมัย

อาหารฝรั่ง
1. GAB เจ้าของเป็นเยอรมัน ทีโบนที่นี่สุดยอด
2. ฟูไท(ชื่อจีนรึไทยไม่ได้ถาม)รสชาดราคาคุ้มค่าแบบวีไอ
3. Basil เด่นเรื่องพาสต้ากับพิซซ่า
4. De van ซุปฟักทองอร่อยที่สุด

อาหารเช้า เดิมหาดใหญ่ไม่ค่อยมีอาหารเช้ากิน ปัจจุบันนักท่องเที่ยวแห่กันมาโดยเฉพาะจีนมาเลย์
1. ตือฮวนเจ๊เชง คิวยาวมาก เคยพาท่านcobian_viไปกินแล้ว ถูกปากแน่ๆ(ก็กินก็ต้องโดนปาก..)
แต่ของเด็ดร้านนี้คือข้าวขาหมู เด็ดที่พริกน้ำส้ม ความเปื่อยนิ่ม พะโล้รสกลมกล่อมเข้าเนื้อ และผักดอกไม่เปรี้ยวแหลมเกินไป แบบที่ขาหมูตรอกซุงในปัจจุบัน(ซึ่งไม่เหมือนเดิมแล้ว ท่านดำแนะนำขาหมูบางรักอีกเจ้านึง ยังไม่ได้ไปลอง)
2. โชคดีติมซำ สไตล์สิงค์โปร์รึมาเลย์ไม่แน่ใจ เพราะมีบักกุตเต๋(ซี่โครงหมูต้มยาจีนกินกับข้าวแกล้มน้ำชายามเช้า)
ตัวฤทธ์(tourist)แห่กันไปกินแน่นร้าน แม้ไม่เทพขนาดติ่นไท่ฟงรึอื่นๆในฮ่องกง แต่ราคาวีไอฮะ

หรือได้ยินเสียงเล่าอ้างร้านใดมา ผมจะไปสืบข่าวให้ก่อนนะฮะ
samatah
syj
Verified User
โพสต์: 4241
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2907

โพสต์

ในฐานะคนหาดใหญ่ แต่กำเนิด
พอพูดถึงร้านข้าวต้มชื่อดัง คิดตังค์เป็น
หลักสตางค์ พอทานได้ แต่อาหารก็คล้ายๆ
ร้านข้าวแกง แต่ราคาอาหารเกือบถึงเหลา
(สายวีไอไวไวมาม่า แบบผมเลยมองว่าไม่คุ้มค่า
แห่งการกิน) อีกร้านที่ พี่หมอ 1 บอกก็คล้ายๆ กัน
แต่ผมว่าอาจจะอร่อยกว่าหน่อย

ส่วนข้าวแกงใต้ เจ้าดัง รสชาตพอใช้ได้
แต่ราคาอืม ไปกินอย่างอื่นคุ้มกว่าอร่อยกว่าไหม??

วิถีวีไอไวไวมาม่า ... อาหารราคาไม่แพงแต่อร่อย
คนกรุงฯ หรือที่อื่นๆ อาจไม่รู้จักเพราะไม่ดัง
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
syj
Verified User
โพสต์: 4241
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2908

โพสต์

ร้านอาหารจีน ขั้นเหลา ตอนนี้ที่ยังเหลืออยู่
ก็ต้อง 1.ต่อฮวด (ที่ผมอยากแนะนำ อ.โจ ว่า
ให้จัดมีตติ้งที่นี่ เพราะที่จอดรถพร้อมมากๆ
แถม ศักยภาพ คล้ายๆ กับ BKD, HPT,
COMAN เป็นต้น) 2. Washington สาย1

ร้านกันเอง น่าจะได้ทั้งไทยและจีน
อาหารเร็วมาก ราคายุติธรรม หลังๆ
ไม่ได้ไปกินนานมากแล้ว ไปกินอีกร้าน
อร่อยกว่าและราคาดีกว่า ครับ (วิถีวีไอไวไวมาม่า)

ร้านอาหารไทย ผมว่า ร้านสะบันงา ที่เมื่อก่อน
อยู่แถว มอ. ตอนนี้ย้ายมาทางไปสนามบิน
น่าจะอันดับต้นๆ ของหาดใหญ่ อีกร้านจำชื่อไม่ได้
แต่อยู่ถนนเดียวกับเซียงตึ้ง ติดคลองเตยด้านขาเข้า
ที่จริงร้านที่พวกเรามิตติ้งทุกครั้งก็อร่อยมากๆ
แต่เสียดายปิดซะแล้ว คือที่ตรงนั้นฮวงจุ้ย
ไม่เหมาะกับร้านอาหาร แน่แค่ไหนก็ไม่รอดสักราย

ร้านอาหารฝรั่งผมไม่ค่อยถนัด
แต่ยังไม่ค่อยชอบสักร้าน ร้านที่
เจ้าของเป็นฝรั่ง ที่พี่หมอ1 บอก
น่าจะดีที่สุดหล่ะครับ
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
syj
Verified User
โพสต์: 4241
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2909

โพสต์

ต่อ...

ร้านอาหารญี่ปุ่น Eco แต่รสชาต
(บางเมนู) ยอดเยี่ยม แนะนำร้าน
มะลิจังครับ (เจ้าของเป็นญี่ปุ่นแต่งงาน
กับคนไทย) ให้สั่งเมนูแบบมินิ คือจานเล็กๆ
แต่ได้หลายอย่าง คุ่มค่าและอร่อย
(ตามแบบวิถีวีไอไวไวมาม่า)

นอกนั้นผมก็มีหาดใหญซาซิมิ
พอใช้ได้ แต่ผมเฉยๆ มาก หลังๆ
ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบคุณภาพ
และความอร่อย

อีกร้าน เป็นร้านโปรด ของ อ.โจ
ซะด้วย หรูหรามาก คุณภาพดีมากๆ
ร้านฮาชิ ครับ แต่ราคาก็สูงหน่อยครับ

สรุปผมบ่นทุกครั้ง บินไปกินที่โตเกียว
น่าจะคุ้มกว่าเยอะ ถ้าไม่คิดค่าตั๋วกับโรงแรม
ราคาถูกกว่าไทย แถมคุณภาพดีกว่า(มาก)
อร่อยกว่า ขนาดร้านแบบข้างทาง
ที่ไม่ค่อยดัง (อาศัยเห็นคนญี่ปุ่นกินเยอะ)
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
Verified User
โพสต์: 1436
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 2910

โพสต์

แต่ละร้านที่หมอหนึ่งและพี่สุบรรณ กล่าวมา ไม่เคยไปเลยครับ (อ้อ ยกเว้นโชคดีติ๋มซำครับ)
ถ้ามีโอกาส จะพยายามแวะไปร้านที่พี่ทั้งสองแนะนำนะครับ

ร้านข้าวต้ม - มีทติ้งหาดใหญ่รอบที่แล้ว มีไปกินร้านข้าวต้ม โกเซี้ยะ ครับ ก็อร่อยครับ
ร้านติ๋มซำ ผมว่า กุ๊กชัยติ๋มซำ น่าอร่อยกว่าร้านอื่นครับ (เคยไปกินมาทั้งโชคดีติ๋มซำ อาม่าติ๋มซำ) ครับ

ส่วนร้านอาหารไทย เคยไป 2 ครั้ง เพื่อนพาไป "ร้านปราณี" น่าเป็นร้านเปืดใหม่ แต่รสชาติจัดจ้านดีครับ (เพื่อนคนหาดใหญ่คนละกลุ่ม พาไปคนละครั้ง ก็งงๆ นะ ทำไมพามาร้านเดียวกันซะงั้น)
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก