ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
-
- Verified User
- โพสต์: 375
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 1
กำลังต้องซื้อรถครับ ไม่เคยซื้อมาก่อนเลย ที่ผ่านมาใช้รถบริษัท
เลยมาขอคำปรึกษาครับว่าระหว่างซื้อกับเช่าแบบไหนดีกว่ากัน
คือตอนนี้เข้าใจว่าข้อดีของการเช่าคือเงินเช่ารถธนาคารจะไม่นำมาคิดเป็นภาระในแต่ละเดือนใช่มั๊ยครับ ถ้าซื้อนี่คิดแน่นอน ผมจะกู้ซื้อคอนโดช่วงปลายปี 2559 ด้วยครับ
แบบนี้เข้าใจถูกมั๊ยครับ
ใครมีประสบการณ์หรือทราบข้อดีข้อเสีย ช่วยแนะนำผมหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
เลยมาขอคำปรึกษาครับว่าระหว่างซื้อกับเช่าแบบไหนดีกว่ากัน
คือตอนนี้เข้าใจว่าข้อดีของการเช่าคือเงินเช่ารถธนาคารจะไม่นำมาคิดเป็นภาระในแต่ละเดือนใช่มั๊ยครับ ถ้าซื้อนี่คิดแน่นอน ผมจะกู้ซื้อคอนโดช่วงปลายปี 2559 ด้วยครับ
แบบนี้เข้าใจถูกมั๊ยครับ
ใครมีประสบการณ์หรือทราบข้อดีข้อเสีย ช่วยแนะนำผมหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 2
คำถาม
1. ซื้อรถมือหนึ่งหรือมือสอง
2. ซื้อแบบเงินสดหรือเช่าซื้อ (วางเงินดาว์นแล้วผ่อนรายเดือนกับสถาบันการเงินเช่นธนาคาร,ลิสซ่ิง)
3. ตรวจสอบประวัติการกู้ยืม จากเครดิตบูโร(ทัง) หรือยัง
4. สำรวจภาระหนี้ของตัวเองว่า มีเท่าไร
5. วางแผนทางการเงินในเรื่องค่าซ่อมบำรุงรถ ,ค่าน้ำมัน ,ค่าประกันภัย(ถ้ารถมือหนึ่งแถมประกันภัยชั้น 1 มาให้ 1 ปีแล้ว)
6. ดูรายละเอียดการซ่อมบำรุง ว่ามีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเมื่อไร
มีเบื้องต้นตอบคำถามพวกนี้ก่อน จากนั้นดูเรื่อง
1. ถ้าเช่าซื้อ ดูเรื่องดอกเบี้ย ว่าได้ rate เท่าไร
2. ของแถมจากศูนย์ มีเพิ่มอะไรไหม (บางครั้ง เซลส์เอาของที่มีอยู่อ้างเป็นของแถมต้องระวัง)
3. ศูนย์ที่ซื้อมาอยู่ไกลไหม เวลามีปัญหา Service ดีไหม (พอดีมีประสบการณ์ รถยี่ห้อหนึ่ง ซื้อจากอีกศูนย์ไปเช็ดระยะอีกแห่ง ทำได้ห่วยแตก ไม่ลงในเอกสารให้ ไม่มีประวัติการซ่อมบำรุงในระบบเลย ที่เข้าเพราะถึงระยะและต้องซ่อมสีเลยทำทีเดียว)
1. ซื้อรถมือหนึ่งหรือมือสอง
2. ซื้อแบบเงินสดหรือเช่าซื้อ (วางเงินดาว์นแล้วผ่อนรายเดือนกับสถาบันการเงินเช่นธนาคาร,ลิสซ่ิง)
3. ตรวจสอบประวัติการกู้ยืม จากเครดิตบูโร(ทัง) หรือยัง
4. สำรวจภาระหนี้ของตัวเองว่า มีเท่าไร
5. วางแผนทางการเงินในเรื่องค่าซ่อมบำรุงรถ ,ค่าน้ำมัน ,ค่าประกันภัย(ถ้ารถมือหนึ่งแถมประกันภัยชั้น 1 มาให้ 1 ปีแล้ว)
6. ดูรายละเอียดการซ่อมบำรุง ว่ามีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเมื่อไร
มีเบื้องต้นตอบคำถามพวกนี้ก่อน จากนั้นดูเรื่อง
1. ถ้าเช่าซื้อ ดูเรื่องดอกเบี้ย ว่าได้ rate เท่าไร
2. ของแถมจากศูนย์ มีเพิ่มอะไรไหม (บางครั้ง เซลส์เอาของที่มีอยู่อ้างเป็นของแถมต้องระวัง)
3. ศูนย์ที่ซื้อมาอยู่ไกลไหม เวลามีปัญหา Service ดีไหม (พอดีมีประสบการณ์ รถยี่ห้อหนึ่ง ซื้อจากอีกศูนย์ไปเช็ดระยะอีกแห่ง ทำได้ห่วยแตก ไม่ลงในเอกสารให้ ไม่มีประวัติการซ่อมบำรุงในระบบเลย ที่เข้าเพราะถึงระยะและต้องซ่อมสีเลยทำทีเดียว)
- vim
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2748
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 3
กำลังตกอยู่ในวังวนเดียวกันครับ ไม่รู้ว่าคุณ Neverland หมายถึงเช่าแบบไหน โดยปกติเวลาเชื่อหรือซื้อรถจะมีสี่ทางเลือก
1. จ่ายเงินสด
ข้อดีคือมักจะได้ราคาที่ต่ำ และไม่ต้องปวดหัวกับการชำระเงินจุกจิก
2. เช่าซื้อ (Hire Purchase)
หรือเรียกว่าการผ่อน โดยปกติแล้วบุคคลธรรมดาและพันกงานเงินเดือนจะไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไร ยังไงธนาคารก็ถือเป็นภาระทางการเงินอยู่ดี ที่นิยมทำกันคือให้เช่าซื้อในรูปของนิติบุคคล จะสามารถหักค่าเสื่อมไปหักเป็นค่าใช้จ่ายได้จำนวนหนึ่ง แต่ข้อด้อยคือจะไปบันทึกในงบดุล ปวดหัวกับบัญชี
3. เช่าทางการเงิน (Leasing)
หรือลีซซิ่ง ทางเลือกนี้สำหรับนิติบุคคลเท่านั้น สามารถนำไปหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุดเดือนละ 36,000 บาท (สูงกว่าเช่าซื้อ) ปกติสัญญาเช่าอยู่ที่ราวๆ 4 ปี หลังจากนั้นจะมีออพชันให้ซื้อเป็นทรัพย์สินหรือคืนรถ หรือคืนแล้วเช่าคันใหม่ ข้อควรระวังคือหากพ้นสัญญาเช่าแล้วราคาประเมินรถต่ำกว่าที่ประเมินได้ ผู้เช่าต้องเป็นคนจ่ายส่วนต่างหรือไม่ก็ต้องซื้อซากไป
4. เช่ารถระยะยาว (Operating Lease)
หรือเช่ากับบริษัทที่ให้บริการรถเช่าต่างๆ ตรงนี้ไม่ถือเป็นเงินกู้ก็จริง เท่าที่ดู EcoCar ยังให้เช่ากันที่ราคาไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน (รวมค่าประกัน) ผมคิดว่ายังไม่ค่อยคุ้มครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องย้ายไปทำงานไกลๆไม่มีเวลาดูแลรถเสียมากกว่า
ช่วงนี้มีรถมือสองราคาถูกคุณภาพดีค่อนข้างเยอะ ถ้าเป็นรถคันแรกที่ซื้อ ซื้อในนามบุคคล และไม่ถือรถมือสอง ผมว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มที่สุด เอาไปขายต่อตอนหลังราคาก็ไม่ตกมากครับ
1. จ่ายเงินสด
ข้อดีคือมักจะได้ราคาที่ต่ำ และไม่ต้องปวดหัวกับการชำระเงินจุกจิก
2. เช่าซื้อ (Hire Purchase)
หรือเรียกว่าการผ่อน โดยปกติแล้วบุคคลธรรมดาและพันกงานเงินเดือนจะไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไร ยังไงธนาคารก็ถือเป็นภาระทางการเงินอยู่ดี ที่นิยมทำกันคือให้เช่าซื้อในรูปของนิติบุคคล จะสามารถหักค่าเสื่อมไปหักเป็นค่าใช้จ่ายได้จำนวนหนึ่ง แต่ข้อด้อยคือจะไปบันทึกในงบดุล ปวดหัวกับบัญชี
3. เช่าทางการเงิน (Leasing)
หรือลีซซิ่ง ทางเลือกนี้สำหรับนิติบุคคลเท่านั้น สามารถนำไปหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุดเดือนละ 36,000 บาท (สูงกว่าเช่าซื้อ) ปกติสัญญาเช่าอยู่ที่ราวๆ 4 ปี หลังจากนั้นจะมีออพชันให้ซื้อเป็นทรัพย์สินหรือคืนรถ หรือคืนแล้วเช่าคันใหม่ ข้อควรระวังคือหากพ้นสัญญาเช่าแล้วราคาประเมินรถต่ำกว่าที่ประเมินได้ ผู้เช่าต้องเป็นคนจ่ายส่วนต่างหรือไม่ก็ต้องซื้อซากไป
4. เช่ารถระยะยาว (Operating Lease)
หรือเช่ากับบริษัทที่ให้บริการรถเช่าต่างๆ ตรงนี้ไม่ถือเป็นเงินกู้ก็จริง เท่าที่ดู EcoCar ยังให้เช่ากันที่ราคาไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน (รวมค่าประกัน) ผมคิดว่ายังไม่ค่อยคุ้มครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องย้ายไปทำงานไกลๆไม่มีเวลาดูแลรถเสียมากกว่า
ช่วงนี้มีรถมือสองราคาถูกคุณภาพดีค่อนข้างเยอะ ถ้าเป็นรถคันแรกที่ซื้อ ซื้อในนามบุคคล และไม่ถือรถมือสอง ผมว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มที่สุด เอาไปขายต่อตอนหลังราคาก็ไม่ตกมากครับ
Vi IMrovised
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 4
เพิ่มเติมครับ ถ้าจะนึกถึงเรื่องขายต่อ ก็อาจจะต้องดูยี่ห้อดูรุ่นด้วยนะครับ ส่วนใหญ่แล้วค่ายโตโยต้าจะขายต่อได้ราคาดี แล้วก็มีเรื่องที่ว่า ระหว่างซื้อสด กับ ดาวน์น้อยผ่อนเยอะ กับ ดาวน์เยอะผ่อนน้อย ก็จะมีผลเรื่องขายต่อด้วยนะครับ ผมเคยซื้อบิ๊กไบค์เงินสดแล้วขายต่อยากเพราะคนส่วนใหญ่ซื้อผ่อนกัน ทำให้ราคาตกเยอะ และพนักงานขายก็เคยแนะนำว่า ดาวน์น้อยผ่อนเยอะ ขายต่อง่ายสุด ส่วน ดาวน์เยอะผ่อนน้อย ขายต่อยากที่สุด ครับ (คิดว่ารถยนต์ก็คงไม่ต่างกัน)vim เขียน:
ช่วงนี้มีรถมือสองราคาถูกคุณภาพดีค่อนข้างเยอะ ถ้าเป็นรถคันแรกที่ซื้อ ซื้อในนามบุคคล และไม่ถือรถมือสอง ผมว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มที่สุด เอาไปขายต่อตอนหลังราคาก็ไม่ตกมากครับ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 5
เค้าบอกรึเปล่าครับ ว่าทำไม ดาวน์น้อยผ่อนเยอะ ถึงขายต่อง่ายสุดsakkaphan เขียน:เพิ่มเติมครับ ถ้าจะนึกถึงเรื่องขายต่อ ก็อาจจะต้องดูยี่ห้อดูรุ่นด้วยนะครับ ส่วนใหญ่แล้วค่ายโตโยต้าจะขายต่อได้ราคาดี แล้วก็มีเรื่องที่ว่า ระหว่างซื้อสด กับ ดาวน์น้อยผ่อนเยอะ กับ ดาวน์เยอะผ่อนน้อย ก็จะมีผลเรื่องขายต่อด้วยนะครับ ผมเคยซื้อบิ๊กไบค์เงินสดแล้วขายต่อยากเพราะคนส่วนใหญ่ซื้อผ่อนกัน ทำให้ราคาตกเยอะ และพนักงานขายก็เคยแนะนำว่า ดาวน์น้อยผ่อนเยอะ ขายต่อง่ายสุด ส่วน ดาวน์เยอะผ่อนน้อย ขายต่อยากที่สุด ครับ (คิดว่ารถยนต์ก็คงไม่ต่างกัน)vim เขียน:
ช่วงนี้มีรถมือสองราคาถูกคุณภาพดีค่อนข้างเยอะ ถ้าเป็นรถคันแรกที่ซื้อ ซื้อในนามบุคคล และไม่ถือรถมือสอง ผมว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มที่สุด เอาไปขายต่อตอนหลังราคาก็ไม่ตกมากครับ
แล้วดาวน์เยอะผ่อนน้อย ขายต่อยากสุด
อยากทราบเหตุผลครับ ไม่ค่อยเข้าใจ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 6
เค้าไม่ได้อธิบาย แต่ผมคิดส่วนตัวเอาเอง คือออพชั่นดาวน์เยอะผ่อนน้อย เป็นออพชั่นสำหรับคนมีเงินก้อน แต่คนที่มีเงินก้อนเยอะๆถ้าจะซื้อทั้งที ก็น่าจะเลือกซื้อเงินสดไปเลย เหมือนที่ผมซื้อตอนนั้น กลายเป็นว่าออพชั่นดาวน์เยอะผ่อนน้อยมันครึ่งๆกลางๆ สำหรับคนมีเงินน้อยก็ไม่ใช่ สำหรับคนมีตังก็ไม่ใช่dojii เขียน:เค้าบอกรึเปล่าครับ ว่าทำไม ดาวน์น้อยผ่อนเยอะ ถึงขายต่อง่ายสุดsakkaphan เขียน:เพิ่มเติมครับ ถ้าจะนึกถึงเรื่องขายต่อ ก็อาจจะต้องดูยี่ห้อดูรุ่นด้วยนะครับ ส่วนใหญ่แล้วค่ายโตโยต้าจะขายต่อได้ราคาดี แล้วก็มีเรื่องที่ว่า ระหว่างซื้อสด กับ ดาวน์น้อยผ่อนเยอะ กับ ดาวน์เยอะผ่อนน้อย ก็จะมีผลเรื่องขายต่อด้วยนะครับ ผมเคยซื้อบิ๊กไบค์เงินสดแล้วขายต่อยากเพราะคนส่วนใหญ่ซื้อผ่อนกัน ทำให้ราคาตกเยอะ และพนักงานขายก็เคยแนะนำว่า ดาวน์น้อยผ่อนเยอะ ขายต่อง่ายสุด ส่วน ดาวน์เยอะผ่อนน้อย ขายต่อยากที่สุด ครับ (คิดว่ารถยนต์ก็คงไม่ต่างกัน)vim เขียน:
ช่วงนี้มีรถมือสองราคาถูกคุณภาพดีค่อนข้างเยอะ ถ้าเป็นรถคันแรกที่ซื้อ ซื้อในนามบุคคล และไม่ถือรถมือสอง ผมว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มที่สุด เอาไปขายต่อตอนหลังราคาก็ไม่ตกมากครับ
แล้วดาวน์เยอะผ่อนน้อย ขายต่อยากสุด
อยากทราบเหตุผลครับ ไม่ค่อยเข้าใจ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 9
ขอลองตอบเรื่องรถมือสองนะฮะ
รถมือสองที่มีค่าคู่ควรวีไอในความคิดผม
1. ค่าบำรุงรักษาต่ำ อะหลั่ยหาง่าย ซ่อมง่าย ทนทาน กินน้ำมันน้อยยิ่งดี ภาษีต่ำ เบี้ยประกันต่ำ
2. ราคาขายต่อไปเป็นมือสาม ไม่ตกกว่าเดิมนัก เนื่องมาจากข้อ1.
ที่ผมสังเกตมามักเป็นรุ่นเก่าเกินสิบปีทั้งนั้น คงจะหาสภาพดียาก เว้นแต่จะได้รถเก่าเก็บ ใช้น้อย
เพราะมักเป็นรุ่นท้ายๆที่ไม่มีอิเล็คทรอนิคส์มากนัก(ระบบไฟฟ้ามักมีอายุไม่เกินสิบปี) วัสดุพลาสติกไม่ย่อยสลายเองแบบรุ่นใหม่(กฎหมายใหม่บังคับให้มีชิ้นส่วนรีไซเคิลได้ พลาสติกจากธรรมชาติ สีใช้น้ำทำละลาย ไม่มีทินเน่อร์ไรงี้)
ทางเลือกที่หนึ่ง ถ้าใช้รถหนัก นาน ต่างจังหวัด
มอร์ไซค์
ฮอนด้าดรีมฝาขาวคุรุสภา รึรุ่นก่อนหัวฉีด มอร์ไซค์สองจังหวะ(ไม่รักโลกเลย)รถครอบครัว ยามาฮ่า ซูซูกิ
ส่วนรถสกูตเตอร์เกียร์ออโตทุกยี่ห้อ ไม่น่าจะทนทานแบบที่วีไอต้องการนะฮะ
รถยนต์เก๋ง
เลือกรุ่นที่เป็นแท็กซี่ ดูเครื่องและเกียร์เป็นหลัก เพราะสองอย่างนี่พังแล้วไม่มีอะหลั่ยก็จบกัน
โตโยต้าโคโรลล่าสามห่วง ไฮทอร์ค โซลูน่า วีออสรุ่นแรก รุ่นเห็บหมา ยาริสรุ่นแรก โคโรน่า แคมรี่รุ่นไฟท้ายไม้บรรทัด
ฮอนด้าซีวิคตาโต
รถพีพีวี กึ่งเอสยูวี
อีสุคามีโอ โตต้าสปอร์ทไรเดอร์รุ่นเครื่อง5แอลก่อนคอมม่อนเรล มิตซูจีแวกอนรุ่นก่อนคอมมอนเรล
ฮอนด้าซีอาร์วีรุ่นแรก(ก่อนรุ่นโชว์ทุบรถ)
รถกระบะ แคป หรือสี่ประตู
อีสุ เครื่อง4ja1(+-t) โตต้าเครื่อง2L3L5L มิตซูเครื่อง4d56 นิสสันเครื่องbdiฝาแดง
ที่พูดมาทั้งหมด คนรุ่นใหม่จะยี้ เก่ามาก บางรุ่นขับไม่สบาย(แต่ทน) ราวๆใช้โทรศัพท์โนเกีย3310ฮะ
ถูก แต่มีอะหลั่ยซ่อมได้ ส่วนใหญ่ราคาราวๆไม่เกินสองแสน ใช้ได้อีกเป็นสิบปีก็น่าจะยังมีอะหลั่ย เกิดอุบัติเหตุทิ้งไปเลยหรือแยกขายอะหลั่ยก็ยังได้
ทางเลือกที่สองคือ ขอซื้อรถบริษัทที่เราใช้มาแล้วเขาขายต่อให้พนักงานฮะ
ทางเลือกที่สามคือ ซื้อรถมือสองอายุ1-3ปีที่วิ่งน้อย ไม่มีอุบัติเหตุ แล้วใช้ต่อแค่สองสามปี แล้วเปลี่ยนใหม่
โตโยต้าชัวร์ก็น่าจะดีนะฮะ แต่ถ้าซื้อผ่อนจะพบว่าราคาไกล้รถมือ1 เลย
ท่านneverlandเป็นวีไอมานานกว่าผม ใช้รถบริษัทมาก็นานละ น่าจะมีคำตอบในใจอยู่แล้วมั้งฮะ
รถมือสองที่มีค่าคู่ควรวีไอในความคิดผม
1. ค่าบำรุงรักษาต่ำ อะหลั่ยหาง่าย ซ่อมง่าย ทนทาน กินน้ำมันน้อยยิ่งดี ภาษีต่ำ เบี้ยประกันต่ำ
2. ราคาขายต่อไปเป็นมือสาม ไม่ตกกว่าเดิมนัก เนื่องมาจากข้อ1.
ที่ผมสังเกตมามักเป็นรุ่นเก่าเกินสิบปีทั้งนั้น คงจะหาสภาพดียาก เว้นแต่จะได้รถเก่าเก็บ ใช้น้อย
เพราะมักเป็นรุ่นท้ายๆที่ไม่มีอิเล็คทรอนิคส์มากนัก(ระบบไฟฟ้ามักมีอายุไม่เกินสิบปี) วัสดุพลาสติกไม่ย่อยสลายเองแบบรุ่นใหม่(กฎหมายใหม่บังคับให้มีชิ้นส่วนรีไซเคิลได้ พลาสติกจากธรรมชาติ สีใช้น้ำทำละลาย ไม่มีทินเน่อร์ไรงี้)
ทางเลือกที่หนึ่ง ถ้าใช้รถหนัก นาน ต่างจังหวัด
มอร์ไซค์
ฮอนด้าดรีมฝาขาวคุรุสภา รึรุ่นก่อนหัวฉีด มอร์ไซค์สองจังหวะ(ไม่รักโลกเลย)รถครอบครัว ยามาฮ่า ซูซูกิ
ส่วนรถสกูตเตอร์เกียร์ออโตทุกยี่ห้อ ไม่น่าจะทนทานแบบที่วีไอต้องการนะฮะ
รถยนต์เก๋ง
เลือกรุ่นที่เป็นแท็กซี่ ดูเครื่องและเกียร์เป็นหลัก เพราะสองอย่างนี่พังแล้วไม่มีอะหลั่ยก็จบกัน
โตโยต้าโคโรลล่าสามห่วง ไฮทอร์ค โซลูน่า วีออสรุ่นแรก รุ่นเห็บหมา ยาริสรุ่นแรก โคโรน่า แคมรี่รุ่นไฟท้ายไม้บรรทัด
ฮอนด้าซีวิคตาโต
รถพีพีวี กึ่งเอสยูวี
อีสุคามีโอ โตต้าสปอร์ทไรเดอร์รุ่นเครื่อง5แอลก่อนคอมม่อนเรล มิตซูจีแวกอนรุ่นก่อนคอมมอนเรล
ฮอนด้าซีอาร์วีรุ่นแรก(ก่อนรุ่นโชว์ทุบรถ)
รถกระบะ แคป หรือสี่ประตู
อีสุ เครื่อง4ja1(+-t) โตต้าเครื่อง2L3L5L มิตซูเครื่อง4d56 นิสสันเครื่องbdiฝาแดง
ที่พูดมาทั้งหมด คนรุ่นใหม่จะยี้ เก่ามาก บางรุ่นขับไม่สบาย(แต่ทน) ราวๆใช้โทรศัพท์โนเกีย3310ฮะ
ถูก แต่มีอะหลั่ยซ่อมได้ ส่วนใหญ่ราคาราวๆไม่เกินสองแสน ใช้ได้อีกเป็นสิบปีก็น่าจะยังมีอะหลั่ย เกิดอุบัติเหตุทิ้งไปเลยหรือแยกขายอะหลั่ยก็ยังได้
ทางเลือกที่สองคือ ขอซื้อรถบริษัทที่เราใช้มาแล้วเขาขายต่อให้พนักงานฮะ
ทางเลือกที่สามคือ ซื้อรถมือสองอายุ1-3ปีที่วิ่งน้อย ไม่มีอุบัติเหตุ แล้วใช้ต่อแค่สองสามปี แล้วเปลี่ยนใหม่
โตโยต้าชัวร์ก็น่าจะดีนะฮะ แต่ถ้าซื้อผ่อนจะพบว่าราคาไกล้รถมือ1 เลย
ท่านneverlandเป็นวีไอมานานกว่าผม ใช้รถบริษัทมาก็นานละ น่าจะมีคำตอบในใจอยู่แล้วมั้งฮะ
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 375
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 10
รถบริษัทคันเดิมผมก็ซื้อครับ ได้มาราคาถูกเชียวครับ แต่ก็มีประวัติเชี่ยวชน 2-3 ครั้งนะครับ ส่วนใหญ่ผมขับแล้วถูกคนอื่นมาชน แต่สุดท้ายก็ซื้อครับ สภาพมันถือว่าโอเค ตอนนี้เอาไว้ให้ใช้กันที่บ้านต่างจังหวัด
ตอนนี้บริษัทเค้าเช่ารถให้พนักงานครับ จากที่เมื่อก่อนบริษัทซื้อให้พนักงานใช้ ต่อจากนี้ไปพอหมดอายุเช่า พนักงานก็ซื้อต่อแบบเดิมไม่ได้แล้ว แต่ถ้ายังทำงานกับเค้าอยู่ ก็มีรถฟรีน้ำมันฟรีใช้ไปเรื่อยๆ ถือว่าเป็นบริษัทที่ดีบริษัทนึงเลย
แต่ว่าผมก็ตัดสินใจย้ายที่ทำงานครับ เลยต้องซื้อรถใหม่ครับ แล้วก็คิดว่าเอาของใหม่เลยดีกว่า เนื่องจากความรู้เรื่องรถของผมเป็นศูนย์เลยครับ คือที่ผ่านมาขับอย่างเดียว
ขอบคุณครับ
ตอนนี้บริษัทเค้าเช่ารถให้พนักงานครับ จากที่เมื่อก่อนบริษัทซื้อให้พนักงานใช้ ต่อจากนี้ไปพอหมดอายุเช่า พนักงานก็ซื้อต่อแบบเดิมไม่ได้แล้ว แต่ถ้ายังทำงานกับเค้าอยู่ ก็มีรถฟรีน้ำมันฟรีใช้ไปเรื่อยๆ ถือว่าเป็นบริษัทที่ดีบริษัทนึงเลย
แต่ว่าผมก็ตัดสินใจย้ายที่ทำงานครับ เลยต้องซื้อรถใหม่ครับ แล้วก็คิดว่าเอาของใหม่เลยดีกว่า เนื่องจากความรู้เรื่องรถของผมเป็นศูนย์เลยครับ คือที่ผ่านมาขับอย่างเดียว
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1217
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 11
ผมแนะนำให้ซื้อรถ demo ที่เอาไว้โชตามห้างครับ ของ toyota sure show มาสัก 2-3 ปี วิ่งไม่กี่พันโล ราคาถูกลงเป็นเท่าครับ มีประกันต่อและใหม่สุดๆครับ ถ้าเลือกรถมือ 2 ไม่ค่อยเป็น ผมแนะนำวิธีนี้ครับ แพงกว่านิดหน่อย แต่ชัวกว่าครับ เช็คประวัติได้ด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 375
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 12
เยี่ยมเลยครับลูกหิน เขียน:ผมแนะนำให้ซื้อรถ demo ที่เอาไว้โชตามห้างครับ ของ toyota sure show มาสัก 2-3 ปี วิ่งไม่กี่พันโล ราคาถูกลงเป็นเท่าครับ มีประกันต่อและใหม่สุดๆครับ ถ้าเลือกรถมือ 2 ไม่ค่อยเป็น ผมแนะนำวิธีนี้ครับ แพงกว่านิดหน่อย แต่ชัวกว่าครับ เช็คประวัติได้ด้วย
ถ้ามีคันต่อไปจะลองวิธีนี้ดูครับ
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปรึกษาเรื่องซื้อรถครับ ระหว่างซื้อกับเช่า
โพสต์ที่ 13
ลองเข้าคลับ ของรถรุ่นที่เราอยากได้อ่ะครับ
เพื่อดูอู่ข้างนอก ที่เขานิยมใช้, เพราะถ้าเข้าศูนย์ ราคาก็อาจจะแพงกว่า (นิดหน่อย)
ส่วนtoyota sure เขาจะมีรถรับประกัน บางรุ่นก็โอเคเลยนะครับ แพงกว่าเต้น10% แต่สบายใจว่าไม่มียำ ไม่มีมั่ว แถมบางรุ่นมีรับประกันด้วย (toyota hybrid บางตัวรับประกันแบตให้10ปี)
อีกเรื่องคือ ยี่ห้ออื่นๆ เขาก็มีขายพวกรถเทิร์น เกือบทุกยี่ห้อนะครับ ลองเข้าไปศูนย์ยี่ห้อรถที่เราอยากได้ แล้วถามเซลล์ก็ได้ครับ
เพื่อดูอู่ข้างนอก ที่เขานิยมใช้, เพราะถ้าเข้าศูนย์ ราคาก็อาจจะแพงกว่า (นิดหน่อย)
ส่วนtoyota sure เขาจะมีรถรับประกัน บางรุ่นก็โอเคเลยนะครับ แพงกว่าเต้น10% แต่สบายใจว่าไม่มียำ ไม่มีมั่ว แถมบางรุ่นมีรับประกันด้วย (toyota hybrid บางตัวรับประกันแบตให้10ปี)
อีกเรื่องคือ ยี่ห้ออื่นๆ เขาก็มีขายพวกรถเทิร์น เกือบทุกยี่ห้อนะครับ ลองเข้าไปศูนย์ยี่ห้อรถที่เราอยากได้ แล้วถามเซลล์ก็ได้ครับ
You only live once, but if you do it right, once is enough.