VI หาดใหญ่

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
jverakul
Verified User
โพสต์: 1959
ผู้ติดตาม: 1

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1081

โพสต์

วันนี้ผมแวะเข้า Se-ed เพื่อห่อปกพลาสติกหนังสือ

ระหว่างรอ เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มนี้เข้า ต้องรีบหยิบแล้วจ่ายเงินทันที :D

ไม่คิดว่าจะมีคนแปลหนังสือเล่มนี้ครับ

คนแปลใช่พี่ NB หรือเปล่าครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
" สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1082

โพสต์

jverakul เขียน:วันนี้ผมแวะเข้า Se-ed เพื่อห่อปกพลาสติกหนังสือ

ระหว่างรอ เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มนี้เข้า ต้องรีบหยิบแล้วจ่ายเงินทันที :D

ไม่คิดว่าจะมีคนแปลหนังสือเล่มนี้ครับ

คนแปลใช่พี่ NB หรือเปล่าครับ
เป็นหนังสือที่ผมไม่พลาดแน่นอนครับ รอมานานแล้ว บางข้อใน CANSLIM ผมว่ามันปรับมาใช้กับกลยุทธปัจจัยพื้นฐานได้ครับ

เอ แต่ตกลงคุณ NB แปลเองจริงหรือเปล่าครับ ยิ่งไม่ออกมาตอบข้อสงสัยนี่ ผมชักยิ่งสงสัยซะแล้วครับ ถ้าใช่ผมจะได้รีบไปอุดหนุนครับ เล่มเดียวคงไม่พอ :D
"Become a risk taker, not a risk maker"
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1083

โพสต์

หนังสือที่ท่านjverakul เป็นแนวเถคนีคและแนวเถรดหุ้นเหมือนที่ท่านaricaแนะนำไว้วันก่อนฮะ ผู้แปลคนเดียวกันด้วย ว่าจะไปหามาเก็บไว้ก่อนด้วยฮะ
ผมเพิ่งอ่าน snowball จบฮะ ได้ไอเดียเพิ่มราวๆ
1. เสียเงินเท่าไรไม่ว่า อย่าเสียชื่อ(เสียง)เด็ดขาด
2. กฎอ.บัฟเฟต์จริงๆแล้วมีสามข้อ 1,2 ห้ามขาดทุน 3.ห้ามยืมเงิน
3. อ.มีสุภาพสตรีสี่ห้าคนคอยดูแล ทั้งเป็นแม่ของลูก เข้าสังคมชั้นสูง ดูแลชีวิตส่วนตัว เล่นไพ่ ตรวจงานเขียน

ฟังอ.lekyสนทนากับท่านดำแล้ว เห็นภาพอ.นั่งจิบน้ำชาบนม้าหินอ่อนใต้ต้นหลิวริมน้ำแดดอ่อนลมพัดเอื่อยๆ
ฉากหลังเป็นเขาเลียงซานแบบในหนังอวาตาร มีผมนอนท้าวคางตั้งใจฟังอยู่บนเสื่อข้างๆฮะ
โพสต์ในห้องนี้อ่านแต่ละครั้งให้ไอเดียต่างกันออกไปตลอดฮะ ขอบคุณอ.และทุกท่านนะฮะที่ช่วยกันโพสต์
ท่ายากผมคือท่าแกล้งตายเหมือนเดิมฮะ จะ"พลิ้วได้ทุกท่วงท่า ราคาประหยัด"(แบบสโลแกนผ้าอ้อมเด็ก)
ก็เห็นจะไม่เข้ากะหน้าตาอายุฮะ พยามเป็นอธิการบดีกรมเจ้าท่า(มาก)ก็ไม่น่าจะเวิร์ค

ชีวิตช่วงนี้วิ่งพล่านจนสงสัยตัวเองว่าต้องกินลี่เธี่ยมมั้ยเนี่ย
หุ้นแพงทุกตัว จนแทบจะเป็นวีไอทมิฬกันทั้งสมาคมอยู่แล้วมั้ง อาหารสัตว์น้ำเพิ่มกำลังผลิต เงินทุนกอดสมบัติ
ขนส่งชื่อคล้ายแบ็งค์ ถังแกส ยางมะตอย โลกเขียวกว่า ฯลฯ

ผ่านราคะบูชาวาเลนไทน์มาแบบเงียบๆ ไม่มีสาวตรงspec(ulum)แบบท่านpaulvi,ท่านcrazyrisk
ไม่ได้เลี้ยงเด็กเอ๊าะๆ(33-36weeks)แบบอ.leky มีแต่สาวเอ๊าะเอ๊าะ(เอ๊าะละสามสี่สิบ สองเอ๊าะหกเจ็ดสิบ)
แต่ก็ไปต่อปากต่อคำกับน้องหน้าเค้าน์เตอร์ที่พยามให้ผมทำบัตรเครดิต(หลังจากขายประกันผมไม่สำเร็จ)ว่า
ป๋า เอ๊ย ลุงไม่อยากเป็นหนี้แล้วนะจ๊ะ หนี้รักที่มีก็ชดใช้ให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายไม่ทันแล้วจร้า..
(ภาพประกอบน้าค่อมยิ้มตาเยิ้มน้ำลายยืดใส่น้องอั้ม อธิชาติ เอ๊ย พัชราภา)

ผ่านตรุษจีน มาฆะบูชาด้วยการพาแม่กะน้องสาวไปงานลุงที่ปากน้ำโพฮะ
เริ่มด้วยพาไปหาอาม่าอากงที่เนินเต่าดำไชน่าทาวน์หลังเขากบ แล้วไปหาอี๊(ป้า)
กลับมาเข้างานลุงที่เฮียลูกคนสุดท้อง เจ้าของบ.ออแกไนเซ่อร์ตลาดใหม่จัดให้แบบมืออาชีพ
มีอ.เฉลิมชัย(เพิ่งรู้ว่าแซ่โค้วเหมือนทางแม่)กับภริยามาเป็นประธานร่วม
อ.มาพร้อมผมทรงสกินเฮ้ด คงเตรียมลุยซ่อมโบสถ์(เห็นวาดรูปเล็กเตรียมไว้แล้ว) กับลุยนักท่องเที่ยวเจ๊ก
ที่มาโดดเตะเสาบันไดหักกะถล่มส้วมติดแอร์วัด อยากถ่ายรูปด้วยก็เกรงใจ ไม่อยากให้อ.รู้สึกเหมือนเป็นมิกกี้เม้าส์ในดีสนี่แลนด์ฮะ
คุยกะป้าสะใภ้ที่ผมเรียกแม่ปากน้ำโพ (กิ๋มเลี้ยงผมกะน้องชายเหมือนลูกตอนเตี่ยแม่ไป"นาฬิกา"(อเมริกา)หลายปีฮะ)ก่อนกลับ

กลับหาดใหญ่มาเข้าประชุม เจอเจ้าของบูทโกโก้เบรค(ผมไม่ดื่มกาแฟ)ทักผมด้วย
บอกว่าแฟนเรียนฟู้ดไซน์รุ่นเดียวกับอ.ลูกอิสาน (คนละคนกับเพื่อนคนที่เจ๊งหุ้นด้วยกันฮะ ฮ่า..)

เสร็จประชุมไปงานบ้านที่ดิน
คอนโดส. เหลือ20%(200ห้อง)คอนโดศ.เหลือ40% เจ้าท้องถิ่นท่าทางจะเหนื่อย
แวะไปดูกล้องวงจรปิดตามออเด้อร์น้องสาว ได้ไอเดียว่า
พ่อแม่ไม่ใช่หมีแพนด้า ไอพีคาเมร่าไม่ต้องหามาติดหรอก..

เท่านี้ก่อนนะฮะ เด๋วมันนี่เอกซโปร์ กะมี้ตติ้งไทยวีไอใต้คิวสองสัปดาห์หน้าจะมารายงานอีกฮะ
samatah
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1084

โพสต์

ไม่ใช่ข้าพเจ้าครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1085

โพสต์

dr1 เขียน: ชีวิตช่วงนี้วิ่งพล่านจนสงสัยตัวเองว่าต้องกินลี่เธี่ยมมั้ยเนี่ย
หุ้นแพงทุกตัว จนแทบจะเป็นวีไอทมิฬกันทั้งสมาคมอยู่แล้วมั้ง อาหารสัตว์น้ำเพิ่มกำลังผลิต เงินทุนกอดสมบัติ
ขนส่งชื่อคล้ายแบ็งค์ ถังแกส ยางมะตอย โลกเขียวกว่า ฯลฯ
หุ้นยางมะตอยที่ผมเคยบอกว่ามัน "ถูกเรื้อรัง" หลังจากมีบทวิเคราะห์จากโบรกใหญ่เชียร์ตามที่อ.บอก ดูเหมือนมันจะปลดล็อคตัวเองได้แล้วนะครับ

อ.หนึ่งครับ หุ้นถูกผมยืนยันว่ายังมีครับ เพียงแต่ซื้อไปแล้วมันจะไปในทิศทางไหนเท่านั้น เพราะมันมีปัจจัยอะไรบางอย่างที่ผมเองก็ยังขอแค่ดูห่าง ๆ เช่น หุ้นกลุ่มสิ่งทอผสมคอมโม ที่เจ้าของเป็นแขก PB 0.3 อ.ว่ายังถูกพอไหมครับ อีกตัวก็หุ้นคอมโมญาติ ๆ กับตัวแรกที่ชื่อคล้ายอาหารกระป๋อง PB 0.65 อ.ว่าถูกไหมครับ เพียงแต่พอเป็นเจ้าของตัวจริงเค้ายิ้มแล้วเห็นฟัน ผมเลยกลัว ๆ กล้า ๆ น่ะครับ เออ มีอีกตัวหนึ่งครับ ที่ผมเองก็เคยถืออยู่แต่ทนความ "ถูกเรื้อรัง" ของมันไม่ไหว เลยขายทิ้งไปไม่ให้รกพอร์ต เป็นหุ้นแบตเตอรี่ที่ชอบเป็นสปอนเซอร์มวยน่ะครับ แปลกไหมครับ กำไรดีแต่ราคาไม่ไปไหน แต่อีกตัวขาดทุนกลับวิ่งเอา ๆ
"Become a risk taker, not a risk maker"
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1086

โพสต์

ว่าแต่อ.หนึ่งครับ ช่วงนี้เราต้องอดทนกันมาก ๆ นะครับ ถ้ารู้สึกว่าของมันแพง ก็อย่าไปคันไม้คันมือ ไม่งั้นเราอาจจะต้องเสียมือเราไปครับ ผมเองตอนนี้ซื้อหุ้นใหม่ก็ไม่ค่อยกล้า ขายหุ้นทิ้งก็ไม่ค่อยกล้า เพราะขายไปก็ต้องถือเงินสดเอาไว้ ผมว่าหุ้นผมมันก็ยังไม่ถึงขนาดราคาโอเวอร์ บางตัวขึ้นมามาก แต่ PE ก็ยังแค่ 10 กว่า ๆ เทียบกับหุ้นใน MAI แล้ว คิดว่ายังห่างไกลครับ ยิ่งถือเงินสดเดี๋ยวก็อดไม่ไหวอีก ได้แต่ปล่อยให้กำไรมันวิ่งไปเรื่อย ๆ ถ้ามันจะลงมาบ้างผมก็ไม่ว่าครับ

ที่สำคัญตอนนี้แนวคิดเกี่ยวกับตลาดหุ้น ตอนนี้ชักไม่ค่อยตรงไปตรงมา ซึ่งจริง ๆ แล้วตอนนี้บอกอะไรไปมันก็มีโอกาสจะถูกครับ เพราะหุ้นมันขึ้นกันเป็นส่วนใหญ่ รอวันที่มันลงเท่านั้นแหละครับ ถึงจะเห็นว่าอะไรคือของจริงอะไรคือของปลอม ยังไงผมก็ยังคงยึดถือกับ "วิชามาตรฐาน" อยู่ครับ พวกท่ายาก ถ้าไม่จำเป็นผมก็เลี่ยง ๆ ครับ

ว่าแต่ถ้าอ.คิดว่าหุ้นของอ.แพง จะขายทิ้งมาเข้าหุ้นของผม ๆ ก็ยินดีนะครับ :D
"Become a risk taker, not a risk maker"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1087

โพสต์

leky เขียน:ว่าแต่ถ้าอ.คิดว่าหุ้นของอ.แพง จะขายทิ้งมาเข้าหุ้นของผม ๆ ก็ยินดีนะครับ :D
แหม... อ่านเจอตรงนี้ก็ขออนุญาตปาดล่ะครับ ไล่รายชื่อมาเลยครับ อ. :mrgreen:
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1088

โพสต์

ท่านดำปาดหน้าเค้กไปซะแระ ช่วยกันมาขุดหุ้นอ.lekyมาศึกษากันหน่อยนะฮะ
ท่านromeeด้วย ตะเองมาเตรียมเฉลยหุ้นให้เค้าด้วยนะฮ้า โดนยึดlogin จะได้ไปเบิกค่าสมัครใหม่ที่อ.Leky ฮ่า...
ทบทวนหลักการอ.leky กันก่อน
1. ตัวเร่ง สำคัญสุด ตลาดยังไม่รู้ยิ่งดี
2,3. อัพไซด์ กะดาวไซด์ อัพไซด์เยอะยิ่งดี ถ้าหุ้นขึ้นจนอัพไซด์น้อยแล้วอาจเปลี่ยนตัวไปเหลืออัพไซด์เยอะๆ
ดาวไซด์กะว่าไม่เกิน10-20% ก็พอใช้ได้
4. จังหวะเวลา อันนี้น่าจะเป็น"ศิลปะ"ส่วนตัว เดาว่าน่าจะขึ้นกับว่ารู้จักหุ้น,เจ้ามือ,มิสเตอร์มาร์เกต แค่ไหน

หุ้นในscopeที่อ.leky เปรยๆไว้ในห้องนี้
สิ่งทอผสมคอมโม เจ้าเป็นแขกยิงฟัน pb0.3
คอมโมชื่อคล้ายอาหารกระป๋องpb0.65 (แขกญาติกับเจ้าแรก)
หุ้นเจ๊กไต้หวัน(ไม่รุชื่อ"หวังฟันเจ้า"มั้ย)มีเครื่องพิมพ์สามมิติ
แบตเตอรี่สปอนเซ่อร์มวย(ขายไปแล้ว)
เอ็นผัก(ผมตะหงิดๆไงไม่รู้ว่าอ.น่าจะมีตัวนี้อยู่เยอะ(เกินล้านหุ้นแน่นอน..ฮ่า..))
ถังแกส
แม่สี
รากพืช
ข้าวถุงคาเซ็ต
สิ่งพิมพ์บ.ลูกขายไอที
ยางมะตอย
อสังหาผสมโรงแรมชื่อใหญ่
คลื่น
นักร้อง
ไอ้อีซี้
เตาปูน
บางตัวเป็นปัจจุบัน บางตัวเป็นอดีตไปแล้ว บางตัวอยู่ในแผนอนาคต ห้ามมาแต่งตั้งอ.เป็นวีไอทมิฬนะยะ
ส่วนราคาไปตัดสินใจกันเองนะจ๊ะ (แต่ถ้าอ.บอกไกด์ให้คร่าวๆก็แหล่มเลย แฮ่ม..)
ส่วนไอเดียทางหาดใหญ่ ให้ลองดูโชว์สวยเจ้าสัวฮะ สงสัยราคาตกจากขายเอาเงินไปทำรถไฟความเล..เอ๊ย เร็วสูง

วีไอวัยทอง รายงานจากยุคทองวีไอ(มั้ง)
samatah
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1089

โพสต์

สิ่งทอผสมคอมโม เจ้าเป็นแขกยิงฟัน pb0.3 =TR
คอมโมชื่อคล้ายอาหารกระป๋องpb0.65 (แขกญาติกับเจ้าแรก) = ???
หุ้นเจ๊กไต้หวัน(ไม่รุชื่อ"หวังฟันเจ้า"มั้ย)มีเครื่องพิมพ์สามมิติ = CCET
แบตเตอรี่สปอนเซ่อร์มวย(ขายไปแล้ว) = 3K
เอ็นผัก = npark
ถังแกส = SMPC
แม่สี = PDI
รากพืช = TWS
ข้าวถุงคาเซ็ต = KASET
สิ่งพิมพ์บ.ลูกขายไอที = TKS
ยางมะตอย = TASCO
อสังหาผสมโรงแรมชื่อใหญ่ = ???
คลื่น = WAVE
นักร้อง = SINGER
ไอ้อีซี้ = IEC
เตาปูน = บ่อน, SET :B

โชว์สวยเจ้าสัว = 7-11

พี่หมอ1 มาโพสตอนตี2ครึ่ง รักษาสุขภาพด้วยนะครับ นอนซะดึกเลย

ปล.อยากรู้เรื่อง money management กับการเทรดหุ้นแบบVI มันควรมีหลักคิดยังไงบ้างอ่ะครับ ฝากพี่หมอ1ถาม พระอาจารย์ที่หาดใหญ่ให้ทีครับ, หรือพี่หมอleky และท่านอื่นๆ มีความเห็นไงบ้างครับ
You only live once, but if you do it right, once is enough.
ภาพประจำตัวสมาชิก
theerasak24
Verified User
โพสต์: 614
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1090

โพสต์

ตัวนี้น่าจะเป็น คอมโมชื่อคล้ายอาหารกระป๋องpb0.65 (แขกญาติกับเจ้าแรก) = TCB หรือป่าวครับ
"เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะยังคงทำสิ่งต่างๆ ต่อไปตราบใดที่มันยังให้ความรื่นรมย์และคุณก็ทำมันได้ดี"
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1091

โพสต์

dr1 เขียน:ท่านดำปาดหน้าเค้กไปซะแระ ช่วยกันมาขุดหุ้นอ.lekyมาศึกษากันหน่อยนะฮะ
ท่านromeeด้วย ตะเองมาเตรียมเฉลยหุ้นให้เค้าด้วยนะฮ้า โดนยึดlogin จะได้ไปเบิกค่าสมัครใหม่ที่อ.Leky ฮ่า...
ทบทวนหลักการอ.leky กันก่อน
1. ตัวเร่ง สำคัญสุด ตลาดยังไม่รู้ยิ่งดี
2,3. อัพไซด์ กะดาวไซด์ อัพไซด์เยอะยิ่งดี ถ้าหุ้นขึ้นจนอัพไซด์น้อยแล้วอาจเปลี่ยนตัวไปเหลืออัพไซด์เยอะๆ
ดาวไซด์กะว่าไม่เกิน10-20% ก็พอใช้ได้
4. จังหวะเวลา อันนี้น่าจะเป็น"ศิลปะ"ส่วนตัว เดาว่าน่าจะขึ้นกับว่ารู้จักหุ้น,เจ้ามือ,มิสเตอร์มาร์เกต แค่ไหน

หุ้นในscopeที่อ.leky เปรยๆไว้ในห้องนี้
สิ่งทอผสมคอมโม เจ้าเป็นแขกยิงฟัน pb0.3
คอมโมชื่อคล้ายอาหารกระป๋องpb0.65 (แขกญาติกับเจ้าแรก)
หุ้นเจ๊กไต้หวัน(ไม่รุชื่อ"หวังฟันเจ้า"มั้ย)มีเครื่องพิมพ์สามมิติ
แบตเตอรี่สปอนเซ่อร์มวย(ขายไปแล้ว)
เอ็นผัก(ผมตะหงิดๆไงไม่รู้ว่าอ.น่าจะมีตัวนี้อยู่เยอะ(เกินล้านหุ้นแน่นอน..ฮ่า..))
ถังแกส
แม่สี
รากพืช
ข้าวถุงคาเซ็ต
สิ่งพิมพ์บ.ลูกขายไอที
ยางมะตอย
อสังหาผสมโรงแรมชื่อใหญ่
คลื่น
นักร้อง
ไอ้อีซี้
เตาปูน
บางตัวเป็นปัจจุบัน บางตัวเป็นอดีตไปแล้ว บางตัวอยู่ในแผนอนาคต ห้ามมาแต่งตั้งอ.เป็นวีไอทมิฬนะยะ
ส่วนราคาไปตัดสินใจกันเองนะจ๊ะ (แต่ถ้าอ.บอกไกด์ให้คร่าวๆก็แหล่มเลย แฮ่ม..)
ส่วนไอเดียทางหาดใหญ่ ให้ลองดูโชว์สวยเจ้าสัวฮะ สงสัยราคาตกจากขายเอาเงินไปทำรถไฟความเล..เอ๊ย เร็วสูง

วีไอวัยทอง รายงานจากยุคทองวีไอ(มั้ง)
อ.ครับ ที่ผมเชิญอ.มาซื้อหุ้นผม เพราะผมเล็งเห็นแล้วครับ ว่าถ้าอ.เคาะซื้อ หุ้นคงต้องติด top gainer แน่ครับ แต่อ.อย่าเล่นถึงซิลลิ่งนะครับ เดี๋ยวผมหัวใจวายน่ะครับ :D

เรื่องขุดหุ้นที่ผมเคยบอกไป เท่าที่ผมดูในรายชื่อ บางตัวผมไม่มีนานแล้ว บางตัวไม่เคยมีแค่พูดขึ้นมาเฉย ๆ บางตัวก็ซื้อมานานแล้ว ราคาขึ้นมามากแล้ว คิดว่าคงไม่มีใครกล้าตามมั๊งครับ :D ฉะนั้นเรื่อง ทะมึน ทมิฬ ไวตามิน ไวตามิ้ล อ.ไม่ต้องกลัวครับ ผมไม่กลัวครับ

ขนาดเพื่อนสมัยเรียนมาถามว่ามีหุ้นอะไรเด็ด ผมยังไม่พูด แต่กลับไปเสียเวลาพูดเรื่องหลักการ หนังสือแนะนำ โน่นครับ สุดท้ายเค้าเลยเลิกถามไปเลย ผมเคยลองถามว่าทำไมใจร้อน ไม่ศึกษาหาความรู้ให้เก่งเสียก่อน เค้าก็บอกผมว่ามัวแต่เสียเวลาเดี๋ยวหุ้นที่ขึ้นมันลงพอดี ผมก็เลยบอกไปว่าก็ดีแล้วไง ศึกษาจนความรู้สุกงอม หุ้นก็ลงมาให้ซื้อพอดี 555

สรุปที่ไม่ค่อยอยากพูดเพราะมองแล้วในระยะยาวมันไม่มีประโยชน์กับใครทั้งนั้นครับ คนพูดก็ไม่มีคนคอยแย้ง คนฟังก็ไม่อยากจะคิดเอาตัวรอดเอง ถ้าเราพูด คนมาซื้อหุ้น หุ้นขึ้น จริง ๆ เราได้ประโยชน์ แต่สุดท้ายเราก็จะเสพติด เอาคนอื่นมาเป็นประโยชน์ บางคนก็ผิดใจกันก็เห็นมามากครับ ประเภทจะซื้อไม่ยอมบอกตรูก่อน จะขายไม่ยอมบอกตรูก่อน ผมเลยถือคติว่าดีหรือไม่ดีไม่ต้องให้เพื่อนช่วยให้นายตลาดเป็นตัวตัดสินดีกว่าครับ :D บางทีถึงจะอยากเล่า แต่ก็ต้องข่มใจไว้ครับ

แต่ยังไงสำหรับรายชื่อหุ้นข้างบน มีหุ้นอยู่ตัวหนึ่งนี่ ขอแก้ข่าวหน่อยนะครับ สำหรับ ไออีซี้ นี่ ไม่เคยคิดจะซื้อนะครับ แค่เล่าให้ฟังเฉย ๆ ครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1092

โพสต์

dr1 เขียน: 1. ตัวเร่ง สำคัญสุด ตลาดยังไม่รู้ยิ่งดี
2,3. อัพไซด์ กะดาวไซด์ อัพไซด์เยอะยิ่งดี ถ้าหุ้นขึ้นจนอัพไซด์น้อยแล้วอาจเปลี่ยนตัวไปเหลืออัพไซด์เยอะๆ
ดาวไซด์กะว่าไม่เกิน10-20% ก็พอใช้ได้
4. จังหวะเวลา อันนี้น่าจะเป็น"ศิลปะ"ส่วนตัว เดาว่าน่าจะขึ้นกับว่ารู้จักหุ้น,เจ้ามือ,มิสเตอร์มาร์เกต แค่ไหน
ทำไปทำมาผมว่าข้อที่น่าจะยากที่สุดและคนมักจะ "การ์ดตก" คือ downside ครับ ยิ่งถ้าใครเล่นกับหุ้น PE สูง นี่ ยิ่งยาก ยากว่าจุดปลอดภัยของมัน "คือตรงไหน" จะใช้ตัวเลขอะไร กราฟ??? สิ่งแวดล้อม จิตใต้สำนึก

ผมอ่านในหนังสือแก่นแท้ ฯ ผ่านมากว่าครึ่งเล่ม หนังสือก็ยังไม่ตอบว่า เราจะเอาอะไรมาอ้างอิงครับ ทั้ง ๆ ที่เค้าเน้นเรื่องนี้มาก
"Become a risk taker, not a risk maker"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1093

โพสต์

leky เขียน:ทำไปทำมาผมว่าข้อที่น่าจะยากที่สุดและคนมักจะ "การ์ดตก" คือ downside ครับ ยิ่งถ้าใครเล่นกับหุ้น PE สูง นี่ ยิ่งยาก ยากว่าจุดปลอดภัยของมัน "คือตรงไหน" จะใช้ตัวเลขอะไร กราฟ??? สิ่งแวดล้อม จิตใต้สำนึก

ผมอ่านในหนังสือแก่นแท้ ฯ ผ่านมากว่าครึ่งเล่ม หนังสือก็ยังไม่ตอบว่า เราจะเอาอะไรมาอ้างอิงครับ ทั้ง ๆ ที่เค้าเน้นเรื่องนี้มาก
อ.ครับ เท่าที่ผมจำได้จากในหนังสือที่ว่านั้น downside น่าจะรวมทั้งปัจจัยด้านพื้นฐาน และด้านปัจจัยทางจิตวิทยาด้วยครับ ดังนั้นการตีออกมาเป็นสูตรหรือตัวเลขคงเป็นไปได้ยากหรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย ผมคิดว่ามันมีความเป็นศิลป์มากกว่าศาสตร์ครับ

ผมเห็นด้วยกับอ. ว่า downside ยากที่สุด ดูจากตัวผมเอง สาเหตุหลักที่ทำให้การลงทุนผิดพลาดก็เพราะละเลยเรื่องนี้แหละครับ เมื่อตลาดกระทิงดำรงอยู่นานถึงจุดๆ หนึ่ง เราจะเริ่มรู้สึกว่าโล่ห์มันหนัก มันเป็นภาระ ไม่รู้จะเสียเวลาแบกไว้ทำไม และในที่สุดเมื่อเราตัดสินใจปล่อยโล่ห์หลุดจากมือเมื่อไหร่ เมื่อนั้นลูกธนูก็จะลอยมาครับ :'O
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1094

โพสต์

ดำ เขียน:
leky เขียน:ทำไปทำมาผมว่าข้อที่น่าจะยากที่สุดและคนมักจะ "การ์ดตก" คือ downside ครับ ยิ่งถ้าใครเล่นกับหุ้น PE สูง นี่ ยิ่งยาก ยากว่าจุดปลอดภัยของมัน "คือตรงไหน" จะใช้ตัวเลขอะไร กราฟ??? สิ่งแวดล้อม จิตใต้สำนึก

ผมอ่านในหนังสือแก่นแท้ ฯ ผ่านมากว่าครึ่งเล่ม หนังสือก็ยังไม่ตอบว่า เราจะเอาอะไรมาอ้างอิงครับ ทั้ง ๆ ที่เค้าเน้นเรื่องนี้มาก
อ.ครับ เท่าที่ผมจำได้จากในหนังสือที่ว่านั้น downside น่าจะรวมทั้งปัจจัยด้านพื้นฐาน และด้านปัจจัยทางจิตวิทยาด้วยครับ ดังนั้นการตีออกมาเป็นสูตรหรือตัวเลขคงเป็นไปได้ยากหรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย ผมคิดว่ามันมีความเป็นศิลป์มากกว่าศาสตร์ครับ

ผมเห็นด้วยกับอ. ว่า downside ยากที่สุด ดูจากตัวผมเอง สาเหตุหลักที่ทำให้การลงทุนผิดพลาดก็เพราะละเลยเรื่องนี้แหละครับ เมื่อตลาดกระทิงดำรงอยู่นานถึงจุดๆ หนึ่ง เราจะเริ่มรู้สึกว่าโล่ห์มันหนัก มันเป็นภาระ ไม่รู้จะเสียเวลาแบกไว้ทำไม และในที่สุดเมื่อเราตัดสินใจปล่อยโล่ห์หลุดจากมือเมื่อไหร่ เมื่อนั้นลูกธนูก็จะลอยมาครับ :'O
เท่าที่ผมลองย้อนดูตัวเองนะครับ ผมว่าถ้าเราเริ่มต้นลงทุน มันจะเสียเวลาหลายเรื่องที่เราต้องลองผิดลองถูก วิธีหลักในการลงทุน ทั้งการเลือกหุ้น ฯลฯ

แต่การดู downside risk นี่ ถ้าไม่โดนกับตัวเองบ่อย ๆ ผมว่ามันอาจจะเข้าใจและเรียนรู้ได้ยากมาก ในสายเทคนิคเค้าอาจจะกำหนด downside โดยการคัทลอสให้เร็ว ส่วนในสายพื้นฐานการคัทลอสอาจจะเป็นวิธีหนึ่ง โดยดูจากหุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยน แต่นั่นก็คือเราได้ซื้อหุ้นตัวนั้นเข้าไปแล้ว แต่ถ้ายังไม่ซื้อนี่ ผมยังไม่เคยเห็นใครอธิบายได้เคลียร์นะ

ส่วนตัวผมเองใช้วิธีไหน ก็อธิบายได้ยากเหมือนกัน เลยเข้าใจว่าทำไมเราถึงไม่เคยเจอใครที่อธิบายได้เคลียร์ชัดเจน เพราะเราเองบางครั้งก็อธิบายให้เป็นรูปธรรมชัดเจนไม่ได้ บางทีก็ดูจากตัวเลขหลาย ๆ ตัว บางทีก็ดูการเคลื่อนไหว วอลุมของหุ้น บางทีก็กะ ๆ เอา ผมเลยเข้าใจแล้วว่ากว่าที่มือใหม่ซักคนจะเข้าใจตรงนี้ได้ คงต้องมีการบาดเจ็บกันมาไม่มากก็น้อย

แต่ downside นี่จะเห็นประโยชน์มาก ถ้าตลาดไม่ดี แต่ยามตลาดดีบางครั้งจะทำให้เรา conservative มากเกินไป คล้าย ถังดับเพลิง บันไดหนีไฟ อุปกรณ์ป้องกันอันตราย จะเห็นประโยชน์ก็ต่อเมื่อเกิดเหตุร้าย

ปี 55 ที่ตลาดเหวี่ยงรุนแรง ลบทีกันเป็นร้อยจุด ผมเข้าใจประเด็นเรื่องนี้ เพราะว่าหุ้นตัวหนึ่งที่มีสัดส่วนค่อนข้างเยอะ กลับไม่ค่อยลง ทำให้ปีนั้นตลาดติดลบ แต่ตัวเองบวกขึ้นมาได้พอสมควร เลยทำให้เข้าใจว่า การป้องกันความเสียหาย บางครั้งถึงจะไม่ใช่การทำกำไรในเชิงรุก แต่มันก็มีความจำเป็นมาก เหมือน "ในการรับก็คือการรุก" เพราะถ้าเราไม่เสียทรัพยากรตรงนี้ไป ยามตลาดคืนกลับมา เราย่อมมีภาษีดีกว่าคนที่เสียหายมากกว่า พอปี 56 ตลาดกลับมาฟื้น พอร์ตก็บวกมากกว่าตลาดมาก

ตั้งแต่นั้นมา ใน "ปรัชญา" การลงทุนของตัวเอง จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่า upside ด้วยซ้ำ บางครั้งหุ้นบางตัว ถ้าเสียจังหวะ ซื้อไม่ได้ราคาขึ้นไป ผมก็จะไม่เสียวินัย ปล่อยเลยตามเลย เน้นการทำกำไรสูงสุดในความเสี่ยงที่ต่ำที่สุด
"Become a risk taker, not a risk maker"
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1095

โพสต์

romee เขียน: แต่มาโดนไปสองตัวครับ TR, DRACO แล้วก็เข้าช่วงซัพไพร์ม พอร์ตหายไปครึ่งนึง :|
ถ้าเวลามีคนมาบอก หรือจะลอกหุ้นอีก ผมก็จะกลับมาคิดเองด้วยว่าควรซื้อ หรือไม่ซื้อ
เห็นน้อง romee โพสต์ไว้ ผมนึกถึงรุ่นน้องสายเทคนิคผมทันที เค้าเคยเล่าให้ฟังว่า เดิมทีเข้ามาลอกหุ้นในเว็บ ได้ TR DRACO ช่วงซับไพร์มเหมือนกัน เจอเต็ม ๆ สงสัยช่วงนั้นหุ้นสองตัวนี้น่าจะ hot น่าดู
"Become a risk taker, not a risk maker"
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1096

โพสต์

romee เขียน: อสังหาผสมโรงแรมชื่อใหญ่ = ???
เฉลยก็ได้ครับ เดี๋ยวจะคาใจ เค้าคือ GRAND ครับ ตัวนี้เคยมี ซื้อไว้ต่ำมาก ประมาณแถว ๆ สูงกว่าราคาพาร์นิดหน่อยน่ะครับ ตอนนั้นตลาดหุ้นลง หุ้นมันลงไปแล้วนิ่ง ๆ แต่ตอนนั้นผมเองไม่คิดอะไรมากนะ ก็ราคาแถว ๆ สูงกว่าพาร์หน่อย แล้วเหมือนผถห.ที่เป็นทนายแต่ไม่แสดงตัว เค้าต้นทุนจะสูงกว่าผม แต่ผมจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ อีกอย่าง อีกไม่นานก็จะเริ่มโอนโครงการคอนโดใหญ่ กำไรจะเข้า หุ้นคงไม่อยู่ตรงแถวพาร์มั๊ง ตัวนี้ยอมรับว่าไม่ได้คิดอะไรมากจริง ๆ พอเค้าเริ่มโอนคอนโดกัน ราคามันก็วิ่งขึ้นมา จนผมคิดว่ามันคงจะไม่ไปต่อแล้ว เกือบจะปล่อยมะรอมมะร่อแถว ๆ 1.8 เพราะดูแล้วหลังโอนคอนโดหมดรายได้คงลดลงไปมาก แต่เหมือนดันมีตัวช่วย มีคนมาวิแคะหุ้นแล้วบอกว่าจะไปที่ 4 บาทโน่น หุ้นวิ่งสนั่น พอมาแถว ๆ 2.7-2.8 ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรโลภมากขนาดนั้นที่จะขายหุ้นตัวนี้ที่ 4 บาท พร้อมกับเสียงกระซิบจากเจ้าของเสียงเจ้าเก่า "โกยเถอะโยม" ผมขายหุ้นทิ้งหมดแบบทีเดียวจบ แล้วก็ไม่กลับไปดูมันอีกเลย ไม่สนด้วยว่ามันจะไปที่ 4 บาทจริงหรือไม่ :D

อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่า อยู่ในโหมดวีไอหรือกำลังเก็งกำไรอยู่ จริง ๆ ผมว่าตอนที่ผมซื้อหุ้นตัวนี้ราคามันก็ under value นะ เพียงแต่มีธงอยู่ในใจแล้วว่า หุ้นตัวนี้ไม่ควรถือนาน เพราะหลังโอนคอนโดหมด คงต้องรอรายได้จากโรงแรมอีกเป็นปี กว่าจะฟื้นขึ้นมาได้อีก เจ้าของก็พยายามจะบอกว่าเค้าเป็นหุ้นโรงแรม ตลาดควรให้พรีเมี่ยมมากกว่านี้ อันนี้ก็แล้วแต่ใครจะคิดครับ :D
"Become a risk taker, not a risk maker"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1097

โพสต์

leky เขียน:แต่การดู downside risk นี่ ถ้าไม่โดนกับตัวเองบ่อย ๆ ผมว่ามันอาจจะเข้าใจและเรียนรู้ได้ยากมาก ในสายเทคนิคเค้าอาจจะกำหนด downside โดยการคัทลอสให้เร็ว ส่วนในสายพื้นฐานการคัทลอสอาจจะเป็นวิธีหนึ่ง โดยดูจากหุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยน แต่นั่นก็คือเราได้ซื้อหุ้นตัวนั้นเข้าไปแล้ว แต่ถ้ายังไม่ซื้อนี่ ผมยังไม่เคยเห็นใครอธิบายได้เคลียร์นะ

ส่วนตัวผมเองใช้วิธีไหน ก็อธิบายได้ยากเหมือนกัน เลยเข้าใจว่าทำไมเราถึงไม่เคยเจอใครที่อธิบายได้เคลียร์ชัดเจน เพราะเราเองบางครั้งก็อธิบายให้เป็นรูปธรรมชัดเจนไม่ได้ บางทีก็ดูจากตัวเลขหลาย ๆ ตัว บางทีก็ดูการเคลื่อนไหว วอลุมของหุ้น บางทีก็กะ ๆ เอา ผมเลยเข้าใจแล้วว่ากว่าที่มือใหม่ซักคนจะเข้าใจตรงนี้ได้ คงต้องมีการบาดเจ็บกันมาไม่มากก็น้อย
วิธีการดูราคาหุ้นทำ Stress test ของ อ. ก็น่าจะเป็นวิธีหนึ่งในการดู downside risk ที่ใช้ได้ดีนะครับ

leky เขียน:แต่ downside นี่จะเห็นประโยชน์มาก ถ้าตลาดไม่ดี แต่ยามตลาดดีบางครั้งจะทำให้เรา conservative มากเกินไป คล้าย ถังดับเพลิง บันไดหนีไฟ อุปกรณ์ป้องกันอันตราย จะเห็นประโยชน์ก็ต่อเมื่อเกิดเหตุร้าย

ปี 55 ที่ตลาดเหวี่ยงรุนแรง ลบทีกันเป็นร้อยจุด ผมเข้าใจประเด็นเรื่องนี้ เพราะว่าหุ้นตัวหนึ่งที่มีสัดส่วนค่อนข้างเยอะ กลับไม่ค่อยลง ทำให้ปีนั้นตลาดติดลบ แต่ตัวเองบวกขึ้นมาได้พอสมควร เลยทำให้เข้าใจว่า การป้องกันความเสียหาย บางครั้งถึงจะไม่ใช่การทำกำไรในเชิงรุก แต่มันก็มีความจำเป็นมาก เหมือน "ในการรับก็คือการรุก" เพราะถ้าเราไม่เสียทรัพยากรตรงนี้ไป ยามตลาดคืนกลับมา เราย่อมมีภาษีดีกว่าคนที่เสียหายมากกว่า พอปี 56 ตลาดกลับมาฟื้น พอร์ตก็บวกมากกว่าตลาดมาก

ตั้งแต่นั้นมา ใน "ปรัชญา" การลงทุนของตัวเอง จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่า upside ด้วยซ้ำ บางครั้งหุ้นบางตัว ถ้าเสียจังหวะ ซื้อไม่ได้ราคาขึ้นไป ผมก็จะไม่เสียวินัย ปล่อยเลยตามเลย เน้นการทำกำไรสูงสุดในความเสี่ยงที่ต่ำที่สุด
ก่อนหน้านี้ผมเองไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้ครับ เลยติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ของการได้กำไรมาแล้วก็เสียขาดทุนคืนกลับไปอยู่เป็นเวลานานมากๆ จนในที่สุดเมื่อลองพิจารณาดูอย่างจริงจังก็ยอมรับได้ว่า "การที่ประมาทกับความเสี่ยง" นี่แหละ ที่ทำให้เราเดินหน้าไปไม่ได้สักที

มันก็ควรจะถูกต้องอยู่แล้วล่ะครับ เรื่องที่ทั้งบัฟเฟตต์ ทั้งโซรอส ยกให้ตรงกันว่ามีความสำคัญเป็นอันดับแรกในการลงทุน
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1098

โพสต์

ผมว่ามันต้องดูหลาย ๆ วิธีครับ อย่างน้อยมันก็มีอะไรมายืนยันให้เรารู้สึกว่ามันมีความเสี่ยงน้อย ส่วนความรู้สึกพยายามใช้ให้น้อยที่สุดหรือแค่เป็นตัวเสริม

หุ้นหลายตัวเท่าที่ผมลองย้อนดู บางตัวก็หาข้อมูลยากมาก ในห้องร้อยคนบางตัวก็ไม่มีค่อยมีคนโพสต์ หุ้นพวกนั้น แรก ๆ ที่เราจะซื้อ บางทีมันก็ โหวง ๆ ชอบกล เหมือนเราดูมันอยู่คนเดียว บางครั้งเหมือนมันก็จะเกิดคำถามขึ้นว่า ถ้ามันดีจริงแล้วทำไมคนอื่นเค้าไม่เห็น นลท.มีเป็นแสนคนนะ ข้อมูลหายาก ข้อคิดเห็นหายาก บางทีเราก็ต้องมโนเอาบ้าง ว่าอาจจะเป็น "เพชรในตม" :D แต่ถ้าเรากล้าที่จะมองหุ้นพวกนั้น ผมเชื่อว่าบางครั้งผลตอบแทนมันก็คุ้มครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1099

โพสต์

leky เขียน:ผมว่ามันต้องดูหลาย ๆ วิธีครับ อย่างน้อยมันก็มีอะไรมายืนยันให้เรารู้สึกว่ามันมีความเสี่ยงน้อย ส่วนความรู้สึกพยายามใช้ให้น้อยที่สุดหรือแค่เป็นตัวเสริม

หุ้นหลายตัวเท่าที่ผมลองย้อนดู บางตัวก็หาข้อมูลยากมาก ในห้องร้อยคนบางตัวก็ไม่มีค่อยมีคนโพสต์ หุ้นพวกนั้น แรก ๆ ที่เราจะซื้อ บางทีมันก็ โหวง ๆ ชอบกล เหมือนเราดูมันอยู่คนเดียว บางครั้งเหมือนมันก็จะเกิดคำถามขึ้นว่า ถ้ามันดีจริงแล้วทำไมคนอื่นเค้าไม่เห็น นลท.มีเป็นแสนคนนะ ข้อมูลหายาก ข้อคิดเห็นหายาก บางทีเราก็ต้องมโนเอาบ้าง ว่าอาจจะเป็น "เพชรในตม" :D แต่ถ้าเรากล้าที่จะมองหุ้นพวกนั้น ผมเชื่อว่าบางครั้งผลตอบแทนมันก็คุ้มครับ
เจอแล้วกระซิบผมได้ครับ อ.
เดี๋ยวผมช่วยยืนยันให้ครับว่าดีจริงรึเปล่า :8)
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1100

โพสต์

ดำ เขียน: วิธีการดูราคาหุ้นทำ Stress test ของ อ. ก็น่าจะเป็นวิธีหนึ่งในการดู downside risk ที่ใช้ได้ดีนะครับ
stress test เหมือนเป็นการดูแบบอ้อม ๆ ใช้ได้ค่อนข้างดี แต่ก็มีข้อจำกัดครับ เพราะถ้าเป็นหุ้นยอดนิยม อาจจะไม่ค่อยเห็นลักษณะดังกล่าว เนื่องจากวอลุมของหุ้นมักจะมาก มีการซื้อขายกันตลอด ยกเว้นว่าตลาดจะแย่อย่างสาหัสจริง ๆ

ปกติ stress test มันจะมีจุดที่เป็นราคาอ้างอิงของมัน แต่ต่ำหรือสูงกว่านั้นประมาณ 10% คือกรอบที่มันอาจจะเคลื่อนไหวได้ เช่น เวลาหุ้นแย่หนัก ๆ บางครั้งอาจจะมีคนทิ้งหุ้นลงไปเล็กน้อย แต่ติดลบได้มาก ๆ คล้าย ๆ กับคนขี้ตกใจทิ้งหุ้นออกมา หรือช่วง 10% ด้านบนนั้น ถ้าหุ้นเริ่มจะกลับขึ้นไป บางทีราคาบริเวณนั้นมันก็มักจะไม่มีหุ้นตั้ง offer ขวางไว้ เรียกได้ว่าเคาะไม่กี่ทีก็บวกได้มาเช่นกัน ฉะนั้นตรงจุดอ้างอิงถ้ามันจะลงไปบ้างหรือบวกไปบ้างบางทีมันก็เป็นจุดที่รับได้

หุ้นที่โดน stress test เหมือนหุ้นที่โดนบีบจน "หน้าเขียว" แย่จนไม่รู้จะแย่ยังไง ลงจนไม่รู้จะลงยังไง พอเจอตลาดแย่หนัก หรือข่าวร้ายของหุ้นที่แย่ เช่นงบออกมายังขาดทุน หุ้นก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เหมือนหมดความหวัง

ลักษณะที่เห็นได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ วอลุมที่ตั้งไว้ไม่ว่าจะ bid หรือ offer มักจะบางผิดปกติ ถ้าหนัก ๆ ก็จะเห็นว่า bid offer ราคาห่างกันเป็นช่อง ๆ

หุ้นหลายตัวที่เคยเล่ามา ก็เคยมีลักษณะแบบที่ว่ามาแล้ว เช่น

หุ้นถังแก๊สกับ stress test ตรงแถว ๆ 20 บาท หุ้นรากพืชบริเวณ 20 บาท หุ้นสิ่งพิมพ์แบบพิเศษตรงแถว ๆ 5 บาทปลาย ๆ
"Become a risk taker, not a risk maker"
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1101

โพสต์

ดำ เขียน: ก่อนหน้านี้ผมเองไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้ครับ เลยติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ของการได้กำไรมาแล้วก็เสียขาดทุนคืนกลับไปอยู่เป็นเวลานานมากๆ จนในที่สุดเมื่อลองพิจารณาดูอย่างจริงจังก็ยอมรับได้ว่า "การที่ประมาทกับความเสี่ยง" นี่แหละ ที่ทำให้เราเดินหน้าไปไม่ได้สักที

มันก็ควรจะถูกต้องอยู่แล้วล่ะครับ เรื่องที่ทั้งบัฟเฟตต์ ทั้งโซรอส ยกให้ตรงกันว่ามีความสำคัญเป็นอันดับแรกในการลงทุน
จะว่าไปถ้าดู "ตรรกะ" การเล่นกับ upside นั้น บางครั้งมันก็ดูเหมือนมีเหตุผลที่เราจะทำ และบางครั้งมันก็ทำได้จริง ๆ

ลองมาดูหุ้นสองตัวที่มีลักษณะคล้าย ๆ กัน แต่ผลของคนที่เข้าไปเล่น ต่างกัน

เรื่องราคา ผมจำได้คร่าว ๆ นะครับ

ตัวแรก SCP ตอนที่วิ่งขึ้นมาจากต่ำกว่า 20 บาท จะว่าไปโดยพื้นฐานของหุ้น ลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาตลอด แต่ตัวธุรกิจดีขึ้น กำไรต่อหุ้นดีมาก หุ้นวิ่งไม่หยุดขึ้นมาถึง 80 บาท ที่ 80 บาท ยังมีคนซื้อหุ้น เพราะมองว่า ถ้าดูจาก EPS ราย Q แล้ว ถ้าธุรกิจดีขึ้น EPS ทั้งปี น่าจะดีขึ้นมาก ขนาดที่ว่าตี forward PE แล้ว ราคาอาจจะไปได้ถึง 120 บาท หลังจากนั้นหุ้นแตกพาร์ ราคาขยับขึ้นไปตามเป้าได้จริงยืนแถว 11-12 บาท

ตัวที่สอง TMW เดิมหุ้นเทรดกันที่แถว ๆ 15 บาท วันดีคืนดีกำไรดีขึ้นมาก พร้อมกับคำชี้แจงว่าจากสินค้าตัวใหม่ของบ.คือ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแมกนีเซียม หุ้นขึ้นไปสองซิลลิ่งไปเทรดกันแถว ๆ 50-60 บาท เช่นกันที่ราคาตรงนี้ ยังมีคนเข้าไปซื้อหุ้น เพราะตรรกะคล้าย ๆ กันคือว่าถ้าหุ้นสามารถทำกำไรทั้งปีได้ในอัตราที่ใกล้เคียงกัน ราคาหุ้น น่าจะไปได้อีก สิ่งที่ปรากฎหลังจากนั้นคือ กำไรใน Q ต่อ ๆ มาลดลงอย่างมาก หุ้นเปิดมาเกือบฟลอร์ แล้วก็ไหลลงมาเรื่อย ๆ เหลือ 30 กว่าบาท

ตัวอย่างข้างบน ในความเห็นของผมคือ การเล่นกับมุมของ upside โดยการมองกว่า ถ้าหุ้นทำกำไรแบบเดิมได้ มันจะต้องไปต่อ ซึ่งดูแล้วมันก็สมเหตุสมผลที่จะคิดแบบนั้น แต่ถ้ามองในแง่ว่า "แล้วถ้ามันทำไม่ได้ล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น" ซึ่งถ้าหุ้นตัวนั้นทำได้จริง ก็คงจะมีผลลัพธ์แบบ SCP แต่ถ้ามันเกิดสะดุดมันก็จะเป็นแบบ TMW ครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1102

โพสต์

มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งที่ผมอยากแนะนำให้อ่านคือ "นักลงทุนดันโด" แปลโดยคุณพรชัยครับ เล่มนี้อาจจะไม่ค่อยเห็นบนแผงแล้ว ผมเคยอ่านเมื่อหลายปีก่อน จำเนื้อหาไม่ค่อยได้ละ แต่สิ่งที่ได้มาเรื่องหนึ่งคือ หนังสือพยายามสอนให้ลงทุนในลักษณะที่ถ้าเราผิดพลาด เราจะเสียหายไม่มาก แต่ถ้ามันใช่ เราจะได้กำไรก้อนใหญ่ ในหนังสือจะมีประโยคทองที่ติดหูว่า "ออกหัวผมได้เงิน ออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย"
"Become a risk taker, not a risk maker"
maymekung
Verified User
โพสต์: 217
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1103

โพสต์

อ่านตามมาทั้งหมดได้ความรู้มากมายจาก post ของ พี่ๆครับ
สิ่งที่รู้สึกเป็นกับดัก ที่โดนบ่อยมากช่วงนี้ คือ การกลัวหุ้นจะขึ้นไปก่อนที่เราจะได้ซื้อ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ่อยครั้ง เราอ่่านๆอยู่ วิ่งไป สิบเปอร์เซ็น
จุดนี้ทำให้การวิเคราะห์ ของเรายังไม่ละเอียดเต็มที่ แต่เราก็ทำการซื้อไปเสียก่อน ซึ่งเป็นความเสี่ยงหลักที่ผมคิดว่าทำร้ายผมมาหลายครั้ง ได้ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา :wall: :'O
Freedom
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1104

โพสต์

maymekung เขียน:อ่านตามมาทั้งหมดได้ความรู้มากมายจาก post ของ พี่ๆครับ
สิ่งที่รู้สึกเป็นกับดัก ที่โดนบ่อยมากช่วงนี้ คือ การกลัวหุ้นจะขึ้นไปก่อนที่เราจะได้ซื้อ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ่อยครั้ง เราอ่่านๆอยู่ วิ่งไป สิบเปอร์เซ็น
จุดนี้ทำให้การวิเคราะห์ ของเรายังไม่ละเอียดเต็มที่ แต่เราก็ทำการซื้อไปเสียก่อน ซึ่งเป็นความเสี่ยงหลักที่ผมคิดว่าทำร้ายผมมาหลายครั้ง ได้ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา :wall: :'O
แก้ไขไม่ยากครับ ฝึกใจให้นิ่ง แล้วนิ่งเฉยกับมันครับ แนะนำว่าให้มีหุ้นในลิสต์หลาย ๆ ตัว ถ้าตัวไหนมันวิ่งขึ้นไปก็ช่างมันครับ เพราะเรายังมีตัวอื่นสำรองไว้อีก ช่วงนี้หุ้นแค่มีข่าวก็พร้อมจะออกวิ่งแล้ว ผมเคยทันในช่วงที่เป็นตลาดหมีในช่วงหลังปี 40 ซึ่งมันซึมยาวมากกว่าตอนซับไพร์มมากครับ ถ้าเราไม่เคยผ่านความรู้สึกตรงนั้น เราจะชินอยู่กับสภาพตลาดในปัจจุบันที่มันพร้อมจะวิ่ง ซึ่งถ้าวันหนึ่ง ตลาดเกิดซึมยาวเราอาจจะอยู่อย่างลำบากครับ

หุ้นนี่ ไม่มีตัวไหน perfect หรอกครับ แต่ละตัวมันมีข้อดีข้อเสียต่างกันครับ บางตัวเสี่ยงน้อยแต่ upside ไม่สูง บางตัวจุดเสี่ยงหลายจุด upside สูงกว่า บางตัวธุรกิจเข้าใจง่าย บางตัวเข้าใจยากหลุมพลางเยอะหน่อย

จากประสบการณ์ส่วนตัว หุ้นที่ทำผลตอบแทนให้ดีมาก มักไม่ใข่ตัวที่เราหมายมั่นปั้นมือว่ามันจะเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งครับ :D
"Become a risk taker, not a risk maker"
somkull
Verified User
โพสต์: 343
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1105

โพสต์

leky เขียน:มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งที่ผมอยากแนะนำให้อ่านคือ "นักลงทุนดันโด" แปลโดยคุณพรชัยครับ เล่มนี้อาจจะไม่ค่อยเห็นบนแผงแล้ว ผมเคยอ่านเมื่อหลายปีก่อน จำเนื้อหาไม่ค่อยได้ละ แต่สิ่งที่ได้มาเรื่องหนึ่งคือ หนังสือพยายามสอนให้ลงทุนในลักษณะที่ถ้าเราผิดพลาด เราจะเสียหายไม่มาก แต่ถ้ามันใช่ เราจะได้กำไรก้อนใหญ่ ในหนังสือจะมีประโยคทองที่ติดหูว่า "ออกหัวผมได้เงิน ออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย"


ผมอ่านประเด็นแล้วนึกถึงเล่มนี้เหมือนกันครับ
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1106

โพสต์

ผู้แส่ข่าว ขออนุญาตรายงานสดจากงาน ลูกหนี้เอ๊กซตรีม@หาดใหญ่นะครับ
เกือบทั้งหมดเป็นมหกรรมลูกหนี้
ธกส.ขายหวย เอ๊ยสลาก ซื้อครบแสนหรือล้าน จะถูกเลขท้ายทุกเดือน ได้ราว2+% ต่อปี
แล้วค่อยลุ้นรางวัลใหญ่ สิบล้านทุกเดือน ผมเปิดบัญชีเงินฝาก1000 ดอก0.25% ลุ้นทองทุกเดือน12ครั้งฮะ
มีของสมน้ำหน้าคุณให้เป็น กระปุกออมสินตุ๊กตาแตงลายเป็นที่ระทึก เอ๊ยระลึก
พริตตี้บอกลุง เอ๊ยพี่หยอดตังค์แล้วเอาไว้ให้สาวๆนะคะ ผมสวนกลับทันทีว่า ให้สาวอย่างคุณจะเอามั้ยครับ..
นางสตั๊นน์ไปสามวิ ไม่ตอบ แต่ผมได้ยินในใจว่า ไม่เอาทั้งกระปุกทั้งคนย่ะ

คุณหยง เกิดมาเถรด มาพูดเรื่องการเก็งกำไรด้วยฮะ
ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียว ว่าหุ้นแพงมาก ดังนั้นตอนนี้เหลือหุ้นเก็งกำไรเท่านั้น ถ้าไม่"เล่น"หุ้นเก็งกำไร ให้อยู่เฉยๆ
เถรดเด้อร์ คือผู้"หากำไรจากสวนต่างราคา" ทั้งค่าเงิน(ตอนนี้น่าสน) หุ้น คอมโม
หุ้นเก็งกำไร คือหุ้นที่ราคา"ขึ้นกับความคาดหวัง"ผู้เล่น ไม่ขึ้นกับพื้นฐานทางการเงินอะไรทั้งนั้น
ผู้เล่นรายใหญ่(เจ้ามือ) จะคาดหวังกำไรเป็นเด้งๆ รอได้เป็นเวลานาน เพื่อจะ"กิน"ส่วนต่าง
ผู้เล่นรายย่อย อาจคาดหวังน้อย รอไม่ได้ ตกเป็นเหยื่อของข่าว เจ้ามือ เซียน(ซึ่งมักปล่อยหุ้นที่มี โดยแนะนำว่า
"ก็พอรับได้ถ้าราคาย่อตัว")
ให้เชื่อเพียงบางส่วน ศึกษาด้วยตัวเองจากเวป หนังสืออาจมีตัดแปะเยอะจนอ่านแล้วงง
ลักษณะหุ้นเก็งกำไร
อาจมีพื้นฐานหรือไม่ก็ได้ ส่วนใหญ่ไม่มี ดูจากกร๊าฟจะ"นิ่งเงียบ""นาน แล้วซื้อขายรุนแรงเป็นพักๆ
ราคาจะกระชากตามโวลุ่ม แล้วนิ่งต่อที่ราคาสูงกว่าเดิม หรือไกล้เดิม
จังหวะซื้อ
เมื่อทุกคนที่ต้องการขาย ขายหมดแล้ว รายใหญ่ขายจะโวลุ่มเยอะ รายเล็กขายจะค่อยๆไหลลงโดยไม่มีโวลุ่ม
ควรซื้อเป็นไม้แรกๆ(แล้วแห้งตายไปเลย เอ๊ย ไม่ใช่)
จังหวะขาย
เมื่อทุกคนที่อยากซื้อ ได้ซื้อกันครบแล้ว(ดังนั้นจะไม่มีใครมาซื้อต่อที่แพงกว่าอีกแล้ว)
เมื่อโวลุ่มและราคามา เทียบตอนนิ่งแล้ว รายเล็กอาจพอใจไม่กี่% แต่ถ้าจะวัดใจรายใหญ่ที่ขายกำไรเป็นเด้ง
ก็อาจรอรอบต่อไป ซึ่งอาจหมดรอบ หรือมีรอบอีก บอกไม่ได้
ไทม์มิ่ง
เมื่อไรซื้อแล้วขึ้น เดาไม่ได้ (ผมเดาได้ว่าไม่เกินเจ็ดวัน คือภายในห้าวัน จันทร์ถึงศุกร์ที่ตลาดเปิดฮะ ฟันธง..)
ขึ้นกับเจ้ามือ เอ๊ย นายตลาด ว่าจะแห่กันเข้ามาเล่นเมื่อไร
คือดูกราฟนิ่งๆมานาน ปั่น เอ๊ยโวลุ่มมา แล้วนิ่งต่อครั้งสองครั้ง ก็น่าสนใจสำหรับเถรดเด้อร์แล้ว ต้องตามดูต่อ
ช่วงคำถาม เฮียร้านไดนาโม ถามหุ้น"เกรียน"ที่อ.lekyเปรยไว้ คุณหยงเปิดกร๊าฟ บอก"น่าสนใจ"ต้องตามดูต่อ
เพราะวิแคะกร๊าฟแล้ว เป็นหุ้นเก็งกำไรชัดเจน เงียบแล้วกระชาก แล้วลงมาไกล้เดิม (ฝีมืออ.มั้ยเนี่ย..)
เดาใจจ้าวมือว่ายังไม่ได้ราคาปล่อยของ ถ้าขึ้นมีโวลุ่มแล้วทะลุเท่าไรจำไม่ได้ อาจตาม(ตามซื้อรึขายรึดูเฉยๆก็ไม่รุ)
ช่วงหลังเป็นสอนโปรแกรมคอมพิวเต้อร์ ดูกร๊าฟกะโวลุ่ม ผมหนีออกมาก่อน เพราะคงไม่ได้ความรู้เรื่องคอมพิวเต้อร์เพิ่มแระ
(ความรู้ผมคือ คอมพิวเต้อร์จะเอาsoftware ใส่เข้าไปในhardware ส่วนมนุษย์จะทำสลับกันฮะ)

แหยะ เกิดมาถุย รายงาน
samatah
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1107

โพสต์

dr1 เขียน: ช่วงคำถาม เฮียร้านไดนาโม ถามหุ้น"เกรียน"ที่อ.lekyเปรยไว้ คุณหยงเปิดกร๊าฟ บอก"น่าสนใจ"ต้องตามดูต่อ
เพราะวิแคะกร๊าฟแล้ว เป็นหุ้นเก็งกำไรชัดเจน เงียบแล้วกระชาก แล้วลงมาไกล้เดิม (ฝีมืออ.มั้ยเนี่ย..)
อ.ครับ ช่วยเฉลยหน่อยครับ พอดีพ่นไว้เยอะ เลยนึกไม่ออกจริง ๆ ครับว่าเป็นหุ้นตัวไหนครับ :D
"Become a risk taker, not a risk maker"
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1108

โพสต์

หุ้นเกรียน=GR(E)AND ฮะ แหะๆ แปลกดี พอคุณหยงเปิดให้ถาม เฮียแกถามเป็นตัวแรกเลย
ผมเคยไปเดินสายไฟแตรรถกะแกเกือบยี่สิบปีก่อน
สองปีที่แล้วกลับไปอีก เห็นแกกำลังเปิดจอคอมพ์ดูกราฟหุ้น แล้วบอกว่า"ไม่ว่าง"
แต่วันนี้วันอาทิตย์ซึ่งปกติร้านปิด ขับรถผ่านจะไปมี้ตติ้งวีไอ เห็นแกกำลังเติมน้ำกลั่นแบตหน้าร้านเหยงๆแต่เช้า
เลยไม่รู้ว่าแกเล่นหุ้นแล้วรวยจนว่างมาก ต้องมาเปิดร้านวันอาทิตย์แก้เบื่อป่าว

วันเสาร์ที่งาน ก็มีสามเซียนมาสัมมนาหุ้นเด็ด พร้อมแจกของ
คนแรกมาจากโบรคชาวนา ไม่ใช่คุณกวีดีถูกยาว เป็นเคเอ๊กซ์(เตลิด)เปิด(เปิง) แจกตุ๊กตาหมี(ไมไม่แจกกระทิงฟระ)
คนที่สองและสามมาจากโบรค ซออบ. ฟนซซร. แจกโดนัทที่ทำมาเองจากบ้าน กับหนังสือที่ออกมาสองสามเล่มแล้ว
(เอิ่ม..เวลาเซียนหุ้นนักวิแคะเค้าพยามไดเวอร์สิฟายอาชีพมาเป็นนักทำขนมกะนักเขียนเนี่ย ตีความไงดีหว่า..)

หุ้นแจกก็ราวๆเอาชัวร์ ไม่โดนด่าแน่นอน
คนแรกจะขายกองทุนลูกเดียว กองทุนเมกา ยุโรป จีน(มันต้องถูกซักอันล่ะวะ)
คนที่สอง ชอบหุ้นเหนียวที่ไม่ลงตามตลาด บริการทางเพ..เอ๊ยแพทย์จากสวรรค์ชั้นเจ็ด กะโรงกลั่นตัวย่อคอมพิวเต้อร์ลูกค้าสัมพันธ์ รึโรงกลั่น"สุดยอด"หว่า
คนที่สาม หุ้นลี้สซิ่งชื่อเหมือนประกันชีวิตที่โบรคเค้าไอพีโอ กะโฮลดิ้งโทสับดาวเทียม

วีไอbiting(ไฮบริดboxing+fighting แปลว่าจิกกัดแทะโลม)รายงานส่งเดช
samatah
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1109

โพสต์

ทั้ง แหยะ เกิดมาถุย
ทั้ง วีไอ biting

ไม่รู้สรรหามาจากไหนเลยครับ แต่ละมุข
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1110

โพสต์

อ.หนึ่งครับ ตอนแรกผมก็เดาว่า "หุ้นใหญ่" แต่ที่ไม่แน่ใจเพราะนึกไม่ออกว่ามันจะไป "เกรียน" ได้ไง

แต่จริงอย่างที่เค้าบอกครับ ว่าต้องตามดู ผมเองก็ตามดูหุ้นในตลาดนี้อยู่ราว ๆ 500-600 ตัวครับ อยู่ที่ว่าจะทำอะไรหรือเปล่าเท่านั้นเอง :D

วันนี้ SET ลงมาให้ stress test แบบเล็ก ๆ ลองดูแล้วกันครับว่าหุ้นที่มีหรือคิดจะมี มีอาการเป็นไงบ้าง
"Become a risk taker, not a risk maker"