มีใครดูรายการถึงลูกถึงคนตอนการสอบ Admission บ้าง

[chillkun]

ผมดูเมื่อคืน (10 เม.ย.) แล้วนอนไม่หลับเลยอ่ะครับ

รู้สึกสงสารเด็กที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยปีนี้มาก และรู้สึกเป็นห่วงอนาคตของพวกเค้าอ่ะ หัวหน้าศูนย์สอบตอบคำถามแบบปัดความรับผิดชอบมากๆๆๆ

[MarginofSafety]

วันนี้มีต่อครับ (11 เม.ย.)

[por_jai]

8) ไอ้หนุ่มคนเล็กของผมเอ็นปีนี้เหมือนกัน
     เขาเล่าให้ฟังตั้งกะสอบโอเน็ทวันแรกแล้ว
     ว่าต้องมีปัญหาแน่นอนเลย
     เพราะวิธีกรอกเลขที่นั่งสอบและเลขที่บัตรปชช.
     ค่อนข้างซับซ้อน และชวนให้กรอกผิดเป็นอย่างยิ่ง
     วิธีการดังกล่าวก็ไม่มีการซักซ้อมความเข้าใจไว้ล่วงหน้าตะหาก
     ที่แย่สุดคือเวลาผิดจะแก้ไข ห้ามใช้ลิควิด
     ต้องใช้ยางลบดินสอ
     ปรากฏว่ากระดาษห่วยมาก
     ลบเบาๆก็ขาดเสียแหล่ว
     คนไหนที่เจอปัญหานี้ก็ศูนย์ในวิชานั้นแน่นอน

     ไอ้หนุ่มผมไม่เจอปัญหาดังกล่าว
     ดูคะแนนแล้วคงได้เรียนคณะเดียวกันกะผม
     พ่อกับลูกต้องมาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องเสียแล้ว
     คิดแล้วก็ขำ ขำดีนะครับ
     ผมรุ่น35 มันน่าจะรุ่น67
     ถ้าตอนนี้ไม่เชื่อฟังพ่อ ก็ต้องเชื่อฟังพี่มั่งละ....

[CK]

[quote="por_jai"]8) ไอ้หนุ่มคนเล็กของผมเอ็นปีนี้เหมือนกัน

[snip]

[MarginofSafety]

ดูแล้วรายการเมื่อคืนแล้วอยากจะขอวิพากษ์วิจารณ์
(หวังว่าจะเป็นการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์)

พูดได้เลยว่าระบบครั้งนี้ไม่มีความพร้อมเลยสักนิด

• ไม่ว่าจะเป็นช่องทางในการเข้าถึงนักเรียน โดยผ่านทาง Internet เท่านั้น
  อยากถามว่า infrastructure ของบ้านเรามันพร้อมแล้วหรือ... ทำไมไม่มีทางเลือก
  สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการเข้าถึง Internet บ้าง
• ความไม่มีเสถียรภาพของระบบ และไม่สามารถควบคุมได้
  การที่ต้องไปเช่า server และมีรูปโป๊ปนมากลับ website การที่ website ล่ม ขณะที่มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก
  ผมสงสัยว่าทำไมถึงไม่ไปขอความร่วมมือ กับมืออาชีพ อย่าง
  ศูนย์คอมพิวเตอร์ ม.เกษตรศาสตร์ หรือสถาบันที่มีองค์ความรู้อื่นๆ
• ความผิดพลาดของระบบ (bug)
  เช่นน้องนักเรียนคนนึงบอกว่า ไม่มีชื่อในวิชาคณิตศาสตร์
  กรรมการเลยให้ไปสอบห้องพิเศษ แต่ผลการประกาศรอบสอง
  ออกมาเป็นขาดสอบหมดทุกวิชา
  แค่การ mark ขาดสอบวิชาเดียวก็ถือว่าผิดพลาดแล้ว
  (แต่ให้อภัยได้ เนื่องจาก logic ในการ check อาจจะไม่ครอบคลุม)
  แต่ระบบนี้เล่นไล่ mark ทุกวิชาเป็นขาดสอบหมด
• ความผิดพลาดหนึ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยก็คือ
  คะแนน T-Score กับคะแนนดิบ ไม่สอดคล้องกัน
  หากจะอ้าง T-Score ถูกต้องหมายถึงการประกาศคะแนนดิบต้องมีข้อผิดพลาด
  หากจะอ้างให้ยืนยันตามคะแนนดิบ แสดงว่าการประกาศ T-Score รอบแรกผิดพลาด
  และนักเรียนจะมีความมั่นใจได้อย่างไรว่าคะแนนดิบที่บอกว่าเชื่อถือได้นั้น
  จะไม่ผิดพลาดเหมือนคราวประกาศ T-Score
  อยากจะถามว่า ก่อนจะเอามาใช้งานจริงมีการทดลองระบบ
  และมีการตรวจสอบแค่ไหน ทำไมถึงปล่อยให้มีความผิดพลาดที่เห็นได้ชัดเจน
  เช่นนี้เกิดขึ้น
• ขาดการประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับนักเรียน
  ยังมีนักเรียนเป็นจำนวนมาก ที่ยังไม่เข้าใจการประกาศผล T-Score กับคะแนนดิบ
  จาก SMS ที่ส่งขึ้นจอบ่นว่าคะแนนรอบสองลดลงเป็นจำนวนมาก
  ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะเป็นไปได้ เนื่องจากการประกาศครั้งแรก
  เป็นการใช้ระบบ T-Score แต่รอบสองเป็นการประกาศคะแนนดิบ
• ไม่มีระบบรองรับหรือช่วยเหลือนักเรียนที่พลาด ที่ดีพอ
  การที่มีนักเรียนได้คะแนน 0 เป็นจำนวนมาก ความผิดพลาดแบบนี้อาจจะเกิดขึ้นได้
  เนื่องจาก Input ก่อนการ scan เข้าระบบตรวจสอบ เป็นกระดาษ
  การระบายช่องรหัสผิด สามารถเกิดขึ้นได้
  หรือระบบการ scan อาจจะเกิดข้อผิดพลาดได้ หากความเข้มไม่มากพอ
  แต่เมื่อเกิดข้อผิดพลาดแล้ว ระบบน่าจะ list รายชื่อนักเรียนที่มีข้อผิดพลาด
  ขึ้นมาเพื่อทำการตรวจสอบซ้ำ แล้วแจ้งไปยังนักเรียนเหล่านั้น
  (บนหัวกระดาษอย่างน้อยก็มีชื่อ ซึ่งสามารถ identify นักเรียนได้อยู่แล้ว)

ถึงแม้ว่าระบบนี้จะถูกใช้เป็นครั้งแรก
แต่ความผิดพลาดมากมายขนาดนี้
แล้วต้องมาเดิมพันกันอนาคตเยาวชนของชาติแบบนี้
น่าเศร้าใจ จริงๆครับ
หากระบบยังไม่พร้อม ก็ไม่เห็นที่จะต้องรีบร้อนใช้
หากนำมาใช้ ก็ไม่ควรที่จะมีข้อผิดพลาดมากมายขนาดนี้

และจะยิ่งน่าเศร้าใจมากขึ้น หากส่วนหนึ่งส่วนใด
ของการผิดพลาดครั้งนี้เป็นการจงใจ หรือมีการทุจริตเกิดขึ้น
ผมคิดว่าควรที่จะต้องมีผู้ที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ

[ก้อนหิน]

น่าสงสารน้องๆรุ่นนี้มากครับ

ผมสอนพิเศษเด็กอยู่ครับ เคยถามน้องเค้าเรื่อง O-net A-net นี่เหมือนกันครับ
ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะเข้าใจ แล้วก็ มักเลือกที่จะสอบตรงครับ เพื่อให้ได้ที่เรียนชัวร์ไว้ก่อน ตอนยื่นจะสมัครเอ็นท์ ก็น่าสงสารนะครับ เพราะว่าคะแนนที่ได้มาตอนนี้ก็ไม่รู้จะเอาไปเทียบกับของเก่ายังไง เลยเลือกไม่ถูกว่าจะเอาคณะอะไรดี

แล้ว เหตุผลการเปลี่ยนระบบ เหมือนจะต้องการให้คนตั้งใจเรียนพิเศษ น้อยลงตั้งใจเรียนในห้องเพิ่มขึ้น

แต่ผลลัพธ์เหมือนจะตรงข้าม คือ เด็กต้องเริ่มเรียนพิเศษเยอะขึ้นตั้งแต่เข้า ม 4 เหมือนว่า เค้าแก้ปัญหากันไม่ถูกจุดยังไงไม่รู้ครับ

ใครเรียนเก่งก็เครียดน้อยหน่อย เรียนไม่เก่งก็จะมึนไปเลยครับ เอ็นท์ไม่ติดเอาง่ายๆ

[MarginofSafety]

เห็นว่าจะต้องมีการตรวจข้อสอบปรนัยใหม่กันหมด 4 ล้านกว่าชุด
ต้องมีการเลื่อนการรับสมัครและกระทบการเปิดเทอมใหม่เลยครับ
ปัญหาใหญ่แล้ว ...

[chillkun]

ผมว่าที่แย่ที่สุดคือ คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบการจัดสอบไม่เคยยอมรับว่าระบบผิดพลาดเลย (อ้างอิงถึงวันที่ 11 เม.ย.) หรือเรียกง่ายๆว่าตัวเองไม่ผิดเลย

สุดท้ายคือ ในรายการถึงลูกถึงคนวันที่ 10-11 เม.ย. ผมไม่ได้ยินคำว่า ขอโทษ หรือ แสดงความเสียใจ ของผู้จัดสอบเลย ตอบคำถามโดยขาดความรับผิดชอบตลอดเลย

[MarginofSafety]

ผู้บริหาร 2 ท่านแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกแล้วครับ
เป็นตัวอย่างที่ดีครับ ขอชื่นชมในความรับผิดชอบ

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจาก
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ไปจ้างเอกชนเขียนให้
(ระบบเก่าได้รับความร่วมมือจากคณะวิศวะ จุฬา)

สรุปต้องตรวจกันใหม่หมด ทั้งปรนัยและอัตนัย ของนักเรียนทุกคน

[MarginofSafety]

เลื่อนการประกาศผลครั้งที่ 3
ขอไว้อาลัยให้กับระบบ O-Net, A-Net

[por_jai]

8) ผมอ่านข่าวเมื่อเช้า
    สกอ.บอกว่า สทศ.เพิ่งส่งข้อสอบมาอีก19000ชุด
    เมื่อ29เมษายนนี้เอง
    ครายจะไปตรวจเพิ่มทันว่ะ

    ลองอ่านดูนะ ทฤษฎีคอนสปีราซี่ ของผมเอง
    ผมตามข่าวตลอดเพราะไอ้หนูผมสอบด้วย
    เป็นหนึ่งในหนูทดลอง
    ผมดูแล้ว วางยากันแหงมเลย
    คู่นี้สทศ.พลาดก่อน (ตัวเองพลาดเองนะ)
    ออกสัมภาษณ์ทางทีวี ผศ.ประทีป (สทศ.)จ๋อยตลอด
    สกอ.มารับเรื่องต่อ
    ออกทีวีบอกเรื่องที่สทศ.ทำไม่ได้ โปรแกรมผิด
    คนไม่พอ คอมไม่พอ หรือปัญหาอื่นๆ
    สกอ.จะทำเอง
    ศ.(พิเศษ)ภาวิช(สกอ.)  ออกมาว่ารับได้หมด
    ทำได้ทุกอย่าง
    ออกมาพูดทางทีวี ทีไรบอกจัดการได้หมดแล้ว
    รับรองแล้วรับรองอีก
    พอใกล้วันประกาศเจอดีเลย
    เก่งนักเหรอ
    จะได้ดีไปคนเดียวหรือ  
    ฮุ..ฮุ...ไม่มีทางหรอกเอ็ง
    เอาข้อสอบมาจากไหนไม่รู้มาอีก19000ชุด
    มาถมลงไป
    เอาให้ตายกันไปข้างนึง
    แต่ลึกๆผมคิดนะว่าถ้า อาจารย์ภาวิช
    ลงลึกหน่อย คุมเกมหน้างานละเอียดๆ
    ไม่ใช่ไว้ใจลูกน้องอย่างเดียวนะ
    ปัญหาพวกนี้ไม่น่าเกิดเลยจริงๆ

    คนเราเนี่ยพอมันโกรธหรือ ไม่ชอบหน้ากันแล้ว
    มันไม่ยอมแยกเลยนะ
    ส่วนตัวกับส่วนรวมเนี่ย....

    หรือผมคิดไปเองคนเดียวนะ
    ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร
    คิดไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไร
    อ่านดู ขำ ขำ ก็ได้
    คอนสปีราซี่เทียวรี่ ล้วนๆ
    แต่การเมืองในสำนักงาน
    ผมก็เจอมามิใช่น้อยๆแล้ว...

[Boring Stock Lover]

นอกเหนือจากทั้งหมด

อีกมุมหนึ่งที่เห็นแล้วเศร้าก็คือเรื่ง เด็กกาผิด กรอกผิด เลยทำให้ไม่มีคะแนน ไม่รู้ว่าคิดออกมาเป็นกี่ % แต่เห็นในทีวีที่เอารูปมาแสดงแล้วเศร้าจัง

การอ่านกติกาการกรอกเบอร์บัตรต่างๆ ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับน้องๆที่จบม.ปลาย

[MarginofSafety]

หาก Conspiracy Theory ของพี่พอใจเป็นจริง คงแย่น่าดู
ลองคิดดู หากผู้มีอำนาจตัดสินอนาคตทางการศึกษาของเยาวชน คิดได้แค่นี้...
แทนที่จะร่วมมือกันแก้ปัญหา กลับมาวางยากันเพราะการเมืองในองค์กร

ขอให้ไอ้หนูของพี่พอใจปลอดภัยจาก "ระบบยอดแย่แห่งปี"  ด้วยดีนะครับ

[jaychou]

เชื่อว่าน้องๆรุ่นนี้จะเป็นคลื่นหนุ่มสาวที่มีบทบาทในการพัฒนาประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ

เพราะได้เรียนรู้กับผู้ใหญ่ไร้สาระไปแล้วอย่างมาก แม้จะเจ็บปวดไปบ้างก็ตาม

เชื่อว่าเมื่อน้องโตเป็นผู้ใหญ่ จะไม่ไร้สาระเหมือนพวกนี้เป็นแน่

เอาใจช่วยครับ

[por_jai]

การอ่านกติกาการกรอกเบอร์บัตรต่างๆ ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับน้องๆที่จบม.ปลาย

8) ไอ้หนูของผมก็กรอกผิดครับ
     แต่อุปกรณ์ในการแก้ไข มันเตรียมไปพร้อม
     สอบเสร็จเค้ามาเล่าให้ผมฟัง
     ว่ากระดาษมันจะบางมาก
     ห้ามใช้ลิ-ควิด ด้วย ให้ใช้ยางลบอย่างเดียว
     ถ้าลบแรงๆแล้วขาดก็ตัวใครตัวมัน ไม่มีให้เปลี่ยน
     ไปแก้เอาข้างหน้าตอนผลออกแล้วอย่างเดียว
     แล้วผลมันก็ออกมาอย่างที่เห็นนี่แหละ
     
     ผมจำได้ว่าคุณเพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า
     เวลารับงานโปรเจ็กท์ใหญ่ๆ
     พวกงานตกแต่ง
     ต้องมาจำลองที่ mock-up room สักจำนวนนึงก่อน
     ดูว่าการทำงานมันมีปัญหาตรงส่วนไหนบ้าง
     มันติดตรงไหน น้ำหรือไฟ หรือเรื่องอื่นๆ
     พอลงมือทำจริง ปัญหามันก็จะน้อย

    เรื่องกรอกรหัสสอบหรือบัตรปชช.ผิดนี่
    เราแค่มีที่ให้ครอสเช็คว่าเป็นใครกันแน่
    บนกระดาษคำตอบ
    หลายๆจุดหน่อย
    ปัญหาพวกนี้ก็ไม่เกิดแล้วละครับ
     
   

ขอให้ไอ้หนูของพี่พอใจปลอดภัยจาก "ระบบยอดแย่แห่งปี"  ด้วยดีนะครับ

8) รอบแรกมีคะแนนออกมาทุกตัว
    ถามไอ้หนุ่ม มันก็ว่า"เทียบกะเพื่อนๆที่ห้องก็ราวๆนี้ละมั๊งพ่อ"
    รอบนี้ได้แต่หวังว่าคงไม่มีปัญหา
    ขอบคุณที่อวยพรให้นะ
   

เชื่อว่าเมื่อน้องโตเป็นผู้ใหญ่ จะไม่ไร้สาระเหมือนพวกนี้เป็นแน่

8) อันนี้ไม่แน่นะ

    แต่ผมว่ารุ่นนี้ก็ยังดีที่เป็นมาตรฐานใหม่
    คะแนนที่สอบได้ ก็เก็บไว้ใช้ได้
    ต้องใช้ไปอีกสักพัก ค่อยปรับเปลี่ยน
    เด็กซิ่ว ปีสองปีที่แล้วสิครับแย่เลย
    ต้องไปวิ่งปรับเกรด ให้เข้ากับระบบใหม่
    วุ่นวายมั่กๆ

[MarginofSafety]

เพิ่งดูรายการถึงลูกถึงคนจบ

คะแนนรอบ 3 ของ "เจ้าหนู" พี่พอใจเป็นยังไงบ้างครับ
เด็กบางคนรอบหนึ่ง รอบสอง ไม่มีปัญหา แต่รอบ 3 ได้ศูนย์
เป็นเด็กต่างจังหวัด ที่ต้องลำบากเดินทางมาติดต่อด้วย

บางคนเต็มร้อย ได้เจ็ดร้อยกว่า เอาเข้าไปครับท่าน

ประกาศรอบ 3 แล้ว ปัญหายังมีอยู่เช่นเดิม
จะน้อยลงจริงอย่างที่ออกมาพูดหรือเปล่า เด็กๆคงไม่เชื่อกันแล้วครับ

งานนี้ต้องมีรอบ 4 หรือเปล่า
เด็กเขาเครียดกันทั่วประเทศ
ออกมาพูดเสียงสั่น เสียงเครือ กันแล้วครับท่าน
แค่ตรวจข้อสอบให้มันถูก ไม่มีความสามารถทำให้มันสำเร็จหรือไงครับ
หรือทำเป็นแต่โกหกเอาตัวรอดไปวันๆ

ขอบ่นดังๆหน่อยเถอะ เซ็งกับระบบนี้เต็มที
พูดแล้วความดันขึ้นครับ

[por_jai]

คะแนนรอบ 3 ของ "เจ้าหนู" พี่พอใจเป็นยังไงบ้างครับ
เด็กบางคนรอบหนึ่ง รอบสอง ไม่มีปัญหา แต่รอบ 3 ได้ศูนย์
เป็นเด็กต่างจังหวัด ที่ต้องลำบากเดินทางมาติดต่อด้วย


ขอบ่นดังๆหน่อยเถอะ เซ็งกับระบบนี้เต็มที
พูดแล้วความดันขึ้นครับ

8) ไอ้หนูของผมรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้
     คะแนนรอบ2กับรอบ3ได้เท่าเดิม
     ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
     แต่เห็นบอกว่าเพื่อนที่ห้องบางคนมีปัญหา
     ดังที่ท่านHVI ว่า
     ผมถามเปอเซนเทจเขาๆว่ามีคนเดียวในห้องที่ซวย...
     เด็กที่โดนเนี่ยอย่าเพิ่งไปเครียดนะครับ
     เพราะเขายอมให้เราดู/ตรวจ ข้อสอบ ด้วยตัวเอง อยู่แล้ว

     ทางที่ประชุมอธิการบดี ว่า ถ้าตรวจออกมาแล้ว
     คะแนนไม่น้อยกว่าคะแนนคนน้อยสุดที่แอดมิชชั่นติด
     ท่านว่าจะรับให้หมดเลย
     ดีซะอีก ค่อยไปเลือกคณะ/มหาลัย เอา
     หลังๆจากรู้คะแนนของคนอื่นเรียบร้อยแล้ว
     เลือกทีเดียวติดเลย ไม่ต้องลุ้น
     ก็ดีไปอีกแบบ
 
     ตอนนี้ปัญหาของไอ้หนูผมก็เปลี่ยนไปเป็น
     จะเลือกคณะอะไรดี
     ถ้าเลือกแต่พวกยอดนิยมทั้ง4อันดับ
     ก็ต้องระวังซิ่ว บ้างล่ะครับ....

[tpig]

การเอาเกรดสมัยเรียนมาคิดด้วยทำให้เด็กเครียดในระยะยาว แทนที่จะเครียดแค่ตอนเอ็นท์ไม่กี่วัน ที่สำคัญ ยังทำให้มีครูอาจารย์หลายคนฉวยโอกาสหาผลประโยชน์กับเด็กด้วย แถมพอมาสอบเสร็จผลยังออกมามั่วสุดๆ

ผมแทบจะไม่ติดตามเรื่อง OAnet นี่เลย เพราะตั้งแต่ได้ยิน ก้อคิดว่ามันไม่น่าจะ work อยู่แล้ว ถ้าเป็นหุ้นก้อคงขาย short ตั้งแต่วันแรกนั่นแหละ

[ก้อนหิน]

ได้อ่านที่เจ้าของ program เค้าออกมาแก้ข่าวกันบ้างยังครับ

http://webboard.mthai.com/5/2006-04-19/224576.html

[MarginofSafety]

ตัดมาจาก link คุณก้อนหินครับ

เปิดใจ หัวหน้าทีมวิจัยซอฟต์แวร์ตรวจข้อสอบ แฉต้นตอผล"O-NET"-"A-NET"ผิดพลาด!!

*หมายเหตุ*...กรณีที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ต้องยกเลิกประกาศผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ O-NET และผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ A-NET ถึง 2 ครั้ง เนื่องจากมีปัญหาในขั้นตอนการตรวจกระดาษคำตอบ และการประมวลผล โดยมีการชี้แจงว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากผู้เข้าสอบกากบาทเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักผิดพลาด และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากโปรแกรมตรวจกระดาษคำตอบมีปัญหา เพราะจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการ "มติชน" จึงได้สัมภาษณ์ รศ.ดร.บัณฑิต ถิ่นคำรพ หัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ผู้ควบคุมการพัฒนาระบบตรวจข้อสอบ


เป็นผู้พัฒนาโปรแกรมตรวจข้อสอบได้อย่างไร
"ผมได้รับการติดต่อจาก สทศ.ให้เป็นผู้ออกแบบระบบตรวจข้อสอบ O-NET และ A-NET ที่มีปริมาณกระดาษคำตอบเกือบ 5 ล้านหน้า ซึ่งมีทั้งข้อสอบที่เป็นปรนัย และอัตนัย ระบบตรวจข้อสอบที่ควรจะเป็นคือ สามารถอ่านเครื่องหมาย (Optical marked recognition หรือ OMR) โดยอ่านได้แม้เครื่องหมายกากบาท สามารถอ่านลายมือที่เขียนเป็นตัวเลขได้ และตรวจข้อสอบอัตนัยด้วยระบบเรียกดูภาพคำตอบที่เขียนด้วยลายมือเป็นรายข้อได้ ซึ่งทำงานในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อกระจายผู้ตรวจได้มาก และควบคุมคุณภาพได้ โดยทีมงานได้พัฒนาโปรแกรมสำหรับตรวจข้อสอบขึ้นมา เรียกว่าซอฟต์แวร์ ScanXM"

ที่บอกว่าโปรแกรมมีปัญหา ทำให้การประกาศผลผิดพลาด
"ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ผมได้นำทีมงานจาก มข.17 คน พร้อมขนอุปกรณ์ทุกอย่างไปติดตั้งสำหรับตรวจข้อสอบ O-NET และ A-NET ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งทีมงานทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญ เคยทำงานวิจัยระดับชาติมาแล้ว 3-4 โครงการ คนเหล่านี้ฝีมือเนี้ยบมาก แต่วันที่ไปถึง นายประทีป จันทร์คง ผู้อำนวยการ สทศ.และรองผู้อำนวยการ สทศ.อีกคน เชิญผมเข้าไปพบ และแจ้งว่า ผมและทีมงานไม่ได้รับอนุญาตให้ควบคุมดูแลการตรวจกระดาษคำตอบได้ เพื่อป้องกันการทุจริต และให้ผมส่งมอบโปรแกรมตรวจข้อสอบให้กับอาจารย์จาก มศก.คนหนึ่งที่จะมารับงานต่อ และให้พวกผมเพียง 2 คนให้ย้ายไปสแตนบายอีกตึกหนึ่ง ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้น

ผมได้บอกกับผู้บริหาร สทศ.ไปว่า งานนี้เป็นงานแรกของ สทศ.ถ้าไม่คุ้นเคยจะพลาด เพราะเมื่อเป็นของใหม่ จึงต้องการคนมีฝีมือ แต่ได้รับการตอบปฏิเสธทั้งหมด และบอกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น หรือผิดพลาด เขาจะไม่โทษโปรแกรม ผมจึงต้องยอมจำนน จากนั้น ผมก็ไปบอกพรรคพวกว่า ทาง สทศ.ไม่ให้พวกเราทำแล้ว พวกเราจึงต้องยกเลิก และขนของกลับ มข.

เท่าที่ผมทราบ มีอาจารย์จาก มศก.คนหนึ่งที่เคยดูแลเกี่ยวกับการสอบเอ็นทรานซ์ บอกผู้บริหาร สทศ.ว่า อย่าให้โปรแกรมเมอร์เข้ามาโดยเด็ดขาด เขาบอกว่าทำงานนี้มา 20 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นเขารู้เรื่องพวกนี้ดี"

ยืนยันว่าโปรแกรมตรวจข้อสอบไม่มีปัญหา
"ที่ผ่านมา ทีมงานผมทำงานวิจัยระดับชาติมาแล้ว 3 โครงการใหญ่ๆ คือโครงการวิจัยระยะยาวในเด็กไทย โครงการสุขภาพคนไทย และดัชนีชี้วัดคุณภาพคนไทย แต่ไม่เคยมีปัญหา ทั้งๆ ที่งานวิจัยมีความซับซ้อนมากกว่างานตรวจข้อสอบมาก ส่วนงานตรวจข้อสอบถือว่าหมูมากสำหรับพวกผม

ก่อนหน้าที่จะพัฒนาโปรแกรมสำหรับตรวจข้อสอบ O-NET และ A-NET ครั้งนี้ ทีมงานผมได้พัฒนาโปรแกรมสำหรับตรวจข้อสอบในการสอบคัดเลือกของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ ก็ไม่มีปัญหา ซึ่งฟังก์ชั่นที่ใช้ก็ฟังก์ชั่นเดียวกัน เพียงแต่โปรแกรมถูกประยุกต์ให้เข้ากับงานระดับชาติ และการจัดสอบของ สทศ.

แต่เมื่อ สทศ.ยืนยันว่าจะควบคุมดูแลเอง พวกผมจึงได้ปรับโปรแกรมให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ถ้ากระดาษคำตอบแผ่นไหนมีปัญหา ก็ดึงขึ้นมาโมดิฟาย (Modify) เพราะต้องยอมรับว่าคงไม่มีโปรแกรมใดที่สามารถอ่านลายมือได้ 100% แต่เมื่อไม่มีการโมดิฟาย จึงเกิดปัญหาขึ้น"



ปัญหาเกิดขึ้นจากขั้นตอนใด
"มาจาก 2 ขั้นตอน คือ 1.ขั้นตอนการสแกนกระดาษคำตอบ ซึ่งต้องทำเป็นระบบ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ กระดาษคำตอบบางชุดถูกสแกนซ้ำ แต่บางชุดไม่ได้สแกนเลย ทำให้คะแนนที่ออกมาเป็นศูนย์อย่างที่เห็น และ 2.เมื่อล้มการประกาศผล O-NET และ A-NET รอบแรก ในรอบ 2 กระดาษคำตอบก็ยังไม่ถูกสแกนเข้าเครื่องจริงๆ ฉะนั้น เมื่อการสแกนไม่เป็นระบบ และไม่มีการโมดิฟาย บวกกับความชะล่าใจว่าโปรแกรมใช้ง่าย ผู้ดูแลก็เลยไม่สนใจ จึงเกิดปัญหาอีก

ความจริงพวกผมเซ็ตเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ให้ 130 เครื่อง สำหรับสแกนกระดาษคำตอบ 30 เครื่อง และ 100 เครื่องสำหรับโมดิฟาย แต่พอคนที่ดูแลมองว่าทำง่ายๆ เลยไม่สนใจ ไม่มีการป้อนกระดาษคำตอบเข้าเครื่องสแกนในช่วงแรกๆ เจ้าหน้าที่ที่มารอป้อนกระดาษก็มารอเก้อ เพิ่งจะมาเร่งสแกนในช่วงหลังๆ เมื่อผมบอกไปก็ไม่ได้รับการตอบรับ ก็เลยถอยออกมาอยู่ห่างๆ เพราะรู้ว่าเข้าไปก็เปลืองตัว"



หลังเกิดปัญหา สทศ.ได้ติดต่อมาบ้างหรือไม่
"หลังเกิดปัญหาในการประกาศผลทั้ง 2 รอบ ผมไม่ได้รับการติดต่อเลย แต่จะมีทีมโปรแกรมเมอร์ที่คอยให้คำปรึกษา และเขียนโปรแกรมกันสดๆ เลย เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างวิชาภาษาอังกฤษ ในส่วนที่มีคำสั่งให้กากบาทที่เลข 1 ถ้าใช่ และกากบาทที่เลข 4 ถ้าไม่ใช่ แต่ผู้เข้าสอบไปเขียนเลข 1 หรือเลข 4 แทน ทางทีมงานก็แก้ปัญหาโดยเขียนโปรแกรมขึ้นมาสดๆ เพื่อตรวจข้อสอบส่วนนี้เลย

การใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆ ต่อให้ใช้ซอฟต์แวร์ที่ไหนก็ตาม คงไม่สามารถครอบคลุมการเออเร่อ (ERROR) จากคนได้ทั้งหมด แต่ถ้ารู้ และแก้ทันก็ดี เหมือนกับเราไปซื้อโปรแกรมของ บิล เกตต์ มาใช้ ถ้าคนใช้ใช้ไม่เป็นแล้วไปโทษ บิล เกตต์ ก็คงไม่ได้ ซึ่งเดิมพอเกิดปัญหาก็โยนความผิดให้เด็ก ต่อมาก็โยนให้โปรแกรม แต่ไม่พูดถึงผู้ใช้ (USER) โปรแกรมเลย"



สรุปปัญหาเกิดจากผู้ใช้โปรแกรมไม่ชำนาญ
"เรื่องการตรวจข้อสอบต้องบรรจงทำ อย่างผมได้คุยกับผู้บริหาร สทศ.ซึ่งยอมรับว่าปัญหาไม่ได้เกิดที่ระบบ หรือตัวโปรแกรมตรวจข้อสอบ แต่เกิดจากตัวผู้ใช้โปรแกรม ข้อมูลที่ได้จึงใช้ไม่ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

นอกจากนี้ ตัวโปรแกรมจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องจากกระดาษคำตอบ เมื่อเทียบกับกระดาษคำตอบของจริง แต่การคำนวณคะแนนจะเป็นอีกส่วนหนึ่ง ไม่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมตรวจข้อสอบ แต่ที่ไม่สามารถบอกได้ว่ากระดาษคำตอบนี้เป็นของใครเพราะกระดาษคำตอบบางชุดไม่ถูกสแกนเข้าในฐานข้อมูล"



มีข่าวว่าจ้างบริษัทเอกชนสร้างโปรแกรม และเป็นบริษัทเครือญาติของนักการเมืองใหญ่
"ไม่จริง โปรแกรมตัวนี้อยู่ในโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของ มข.โดยผลงานวิจัยจะตกอยู่กับผู้ให้ทุนคือ สทศ.ผมเป็นผู้รับจ้างในนาม มข.โดยรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มข.มอบอำนาจเต็มให้ผมในเรื่องนี้ และเมื่อเป็นงานตรวจข้อสอบระดับชาติ ผมเองก็ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ที่เชี่ยวชาญ จึงได้หาทีมงานซึ่งเป็นฟรีแลนซ์ (Freelance) จริงๆ ไม่มีสังกัด โดยผมเป็นคนรับผิดชอบเต็มๆ ซึ่งตัวโปรแกรมเมอร์ยินดีที่จะชี้แจงทุกเรื่อง

ส่วนที่บอกว่ามีเครือญาติของนักการเมืองใหญ่เป็นเจ้าของบริษัท ยิ่งไม่เกี่ยวข้อง ผมรับประกันได้ มีเอกสารหลักฐานทุกอย่างพร้อมจะให้ดู"  



ที่มาที่ไป.. ซอฟต์แวร์ตรวจ"O-NET"-"A-NET"

โปรแกรมตรวจข้อสอบ O-NET และ A-NET ของ สทศ.ที่เรียกว่าซอฟต์แวร์ "ScanXM" พัฒนามาจากโปรแกรมการตรวจโพยหวยใต้ดิน เนื่องจากลายมือของเด็กเดินโพยหวยอ่านยากมาก ทำให้เจ้ามือหวยใต้ดินได้ว่าจ้างโปรแกรมเมอร์พัฒนาโปรแกรมสำหรับอ่านลายมือเด็กเดินโพยหวยใต้ดิน

ต่อมา รศ.ดร.บัณฑิต ถิ่นคำรพ หัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ผู้ควบคุมการพัฒนาระบบตรวจข้อสอบ ไปพบโปรแกรมนี้เข้า เห็นว่าถ้านำมาประยุกต์ใช้กับงานวิจัย น่าจะได้ผลดี เนื่องจากงานวิจัยเป็นงานที่ต้องเก็บข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้โปรแกรมของเมืองนอก แต่เมื่อเขียนผิดเพียงเล็กน้อยโปรแกรมก็อ่านไม่ออก เลยนำโปรแกรมตรวจโพยหวยมาประยุกต์ ปรากฏว่างานวิจัยที่ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือน กลับทำได้เสร็จภายในเวลา 3 เดือน

โปรแกรมดังกล่าวจึงถูกประยุกต์ไปใช้กับการตรวจข้อสอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ซึ่งก็ใช้ได้ผลดี และขณะนี้ สพท.ทั่วประเทศก็ได้หันมาใช้โปรแกรมตัวนี้ในการตรวจข้อสอบ

เมื่อ สทศ.มอบให้ มข.ออกแบบระบบตรวจข้อสอบ O-NET และ A-NET จึงได้นำโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจข้อสอบของ สพท.มาประยุกต์ให้เข้ากับการใช้งานระดับชาติ และการจัดสอบของ สทศ.ที่มีผู้เข้าสอบหลายแสนคน และมีกระดาษคำตอบที่ต้องตรวจเกือบ 5 ล้านหน้า ซึ่งมีทั้งข้อสอบปรนัย และอัตนัย

จึงเป็นที่มาของซอฟต์แวร์ ScanXM

ที่มาจากหนังสือพิมพ์

[chillkun]

ขอบคุณ คุณ HVI สำหรับข้อมูลที่สำคัญครับ

[por_jai]

8) เรื่องซอฟแวร์เนี่ยก็ต้องฟังหูไว้หูนะครับ
    เผือกเผาร้อนๆลูกนี้
    โยนกันอุตลุดครับ
    ทุกคนบอกตัวเองเก่งตัวเองถูกตลอด
    ความผิดอยู่ที่คนอื่นทั้งนั้น
    ถ้าผิดที่ตัวเองมันก็วายวอด
    ถ้าคนอื่นผิดไม่เป็นไร
    ฮุ...ฮุ...
    ตดคนอื่นเหม็นเบื่อเราเหลือทน
    ตดของตนถึงเหม็นไม่เป็นไร...