รอด้วยคนค่ะ ^__^Nevercry.boy เขียน:ได้สิครับ ยินดีมาก
แต่ขอเวลาพี่หน่อยนะ จะทะยอย ทะยอย
ส่วนใหญ่ก็เขียนอยู่แถวนี้แหล่ะครับ
VI บ้าน ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 842
ผมคิดอยู่นาน ..
ว่าจะมาเล่าอะไรให้เพื่อนชาว VI ฟังและได้ประโยชน์ รึหรือเป็นวิทยาทานได้น้อ
กลับจากไปเที่ยว ทำบุญ ทอดกฐินจว น่าน พะเยา แพร่ แล้วกลัวติดค้างคุณ Nevercry.boy เลยขอเล่า
ชีวิตผมก็เรียบง่าย บ้านๆ อยู่ตจว จบมัธยมแล้ว ก็มาเรียนเตรียมที่กท 2 ปี
สอบติดที่เชียงใหม่ สาขาธรณีวิทยา งานการก็เลยวนเวียอยู่กับ การสำรวจ เหมืองแร่
งานแรกเหมือนกับรับน้องไปอยู่เหมืองแร่ได้แค่ 3 เดือน ต้องรีบออกมาเพราะโดนติดเงินเดือน..
มาเป็นลูกจ้างงานราชการ 5 ปี ก่อนบรรจุตำแหน่งเป็นข้าราชการสตาร์ทเงินเดือน 2750บ
ผมอยู่รับราชการได้ 4-5 ปี ท่าจะไม่รุ่งและทนกรอบไม่ไหวเลยขอลาออกไปทำงานเอกชน
บริษัทนี้ระดับโลก ทำให้ผมได้ท่องโลกจากไทย ไปอยู่ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ที่ละปี-2 ปี
แต่ไปที่ไหน โปรเจคที่ผมไปร่วมด้วย ปิดหมด จนสุดท้ายไปอยู่ส่วนกลางที่ อเมริกาอยู่ 3ปี
ทำงานที่บริษัทนี้อยู่ 9 ปี เค้าถึงปล่อยผมกลับมา..
กลับมาเมืองไทย 3 ปีแรก ผมรับเป็นที่ปรึกษาบริษัท หน่วยวิจัย โครงการต่างๆนาๆ เล็กๆ น้อยๆ
ก่อนที่จะมาเป็นพนักงานบริษัท สุดท้ายนี้อีก 11 ปี จะรับโครงการเกษียญเดือนหน้านี้
เส้นทางการทำงานผมคร่าวๆก็เป็นอย่างนี้
ผมคิดว่า
การทำงานข้าราชการ ก็มั่นคง มีเกียรติ ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ แต่ต้องทำใจเรื่องรายได้
ผมรับเงินเดือนแรก 2750บ ส่งทาวเฮ้า 2000 ร่วมกับแฟน ตอนนั้น เรียกว่า กัดก้อนเกลือกิน
..ผมเห็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ตอนนี้ผมก็ยังนับถือว่า
พวกเค้าอยู่ได้นี่.. เพราะเค้าพอเพียงเท่านั้น
แต่ผมก็โชคดีที่มีงานออกต่างจังหวัด ทำให้ได้มีเบี้ยเลี้ยงมาช่วยประทัง.. ให้อยู่ได้บ้าง
ดีกว่านั้น หน่วยงานของผมมีงานต่างประเทศ เจ้านายผมก็กรุณาให้ผมได้ไปทำงานต่างประเทศด้วย
พอมีทุนเรียนต่อผมก็สอบไปเรียนต่อได้ เงินเหลือจากค่าใช้จ่าย ก็เหลือกลับมาโป๊ะ ทาวเฮ้าหมดอย่างรวดเร็ว
ทำให้ผมมีต้นทุนทรัพย์สินก้อนแรก
ส่วนการทำงานเอกชน ชีวิตก็แตกต่างออกไป
คุณต้องทำงานให้ได้ ..ทุกลมหายใจเหมือนเค้าซื้อไปหมด
กายและใจเราต้องทุมเทคิดและทำงานให้เค้า
เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งค่าตอบแทน มันก็สมน้ำสมเนื้อกัน
เปรียบเหมือนเราไปรพ รัฐ กับเอกชน
ขอจบก่อน เพื่อให้ชาววีไอซักถามถ้าสนใจ
ว่าจะมาเล่าอะไรให้เพื่อนชาว VI ฟังและได้ประโยชน์ รึหรือเป็นวิทยาทานได้น้อ
กลับจากไปเที่ยว ทำบุญ ทอดกฐินจว น่าน พะเยา แพร่ แล้วกลัวติดค้างคุณ Nevercry.boy เลยขอเล่า
ชีวิตผมก็เรียบง่าย บ้านๆ อยู่ตจว จบมัธยมแล้ว ก็มาเรียนเตรียมที่กท 2 ปี
สอบติดที่เชียงใหม่ สาขาธรณีวิทยา งานการก็เลยวนเวียอยู่กับ การสำรวจ เหมืองแร่
งานแรกเหมือนกับรับน้องไปอยู่เหมืองแร่ได้แค่ 3 เดือน ต้องรีบออกมาเพราะโดนติดเงินเดือน..
มาเป็นลูกจ้างงานราชการ 5 ปี ก่อนบรรจุตำแหน่งเป็นข้าราชการสตาร์ทเงินเดือน 2750บ
ผมอยู่รับราชการได้ 4-5 ปี ท่าจะไม่รุ่งและทนกรอบไม่ไหวเลยขอลาออกไปทำงานเอกชน
บริษัทนี้ระดับโลก ทำให้ผมได้ท่องโลกจากไทย ไปอยู่ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ที่ละปี-2 ปี
แต่ไปที่ไหน โปรเจคที่ผมไปร่วมด้วย ปิดหมด จนสุดท้ายไปอยู่ส่วนกลางที่ อเมริกาอยู่ 3ปี
ทำงานที่บริษัทนี้อยู่ 9 ปี เค้าถึงปล่อยผมกลับมา..
กลับมาเมืองไทย 3 ปีแรก ผมรับเป็นที่ปรึกษาบริษัท หน่วยวิจัย โครงการต่างๆนาๆ เล็กๆ น้อยๆ
ก่อนที่จะมาเป็นพนักงานบริษัท สุดท้ายนี้อีก 11 ปี จะรับโครงการเกษียญเดือนหน้านี้
เส้นทางการทำงานผมคร่าวๆก็เป็นอย่างนี้
ผมคิดว่า
การทำงานข้าราชการ ก็มั่นคง มีเกียรติ ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ แต่ต้องทำใจเรื่องรายได้
ผมรับเงินเดือนแรก 2750บ ส่งทาวเฮ้า 2000 ร่วมกับแฟน ตอนนั้น เรียกว่า กัดก้อนเกลือกิน
..ผมเห็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ตอนนี้ผมก็ยังนับถือว่า
พวกเค้าอยู่ได้นี่.. เพราะเค้าพอเพียงเท่านั้น
แต่ผมก็โชคดีที่มีงานออกต่างจังหวัด ทำให้ได้มีเบี้ยเลี้ยงมาช่วยประทัง.. ให้อยู่ได้บ้าง
ดีกว่านั้น หน่วยงานของผมมีงานต่างประเทศ เจ้านายผมก็กรุณาให้ผมได้ไปทำงานต่างประเทศด้วย
พอมีทุนเรียนต่อผมก็สอบไปเรียนต่อได้ เงินเหลือจากค่าใช้จ่าย ก็เหลือกลับมาโป๊ะ ทาวเฮ้าหมดอย่างรวดเร็ว
ทำให้ผมมีต้นทุนทรัพย์สินก้อนแรก
ส่วนการทำงานเอกชน ชีวิตก็แตกต่างออกไป
คุณต้องทำงานให้ได้ ..ทุกลมหายใจเหมือนเค้าซื้อไปหมด
กายและใจเราต้องทุมเทคิดและทำงานให้เค้า
เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งค่าตอบแทน มันก็สมน้ำสมเนื้อกัน
เปรียบเหมือนเราไปรพ รัฐ กับเอกชน
ขอจบก่อน เพื่อให้ชาววีไอซักถามถ้าสนใจ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 843
ผมมาอ่านคนแรกเลยครับพี่ พี่ไม่ต้องกังวลเรื่องติดค้างไม่ติดค้างนะครับ เอาที่เวลาที่พี่มีครับddoo7 เขียน:ผมคิดอยู่นาน ..
ว่าจะมาเล่าอะไรให้เพื่อนชาว VI ฟังและได้ประโยชน์ รึหรือเป็นวิทยาทานได้น้อ
กลับจากไปเที่ยว ทำบุญ ทอดกฐินจว น่าน พะเยา แพร่ แล้วกลัวติดค้างคุณ Nevercry.boy เลยขอเล่า
ชีวิตผมก็เรียบง่าย บ้านๆ อยู่ตจว จบมัธยมแล้ว ก็มาเรียนเตรียมที่กท 2 ปี
สอบติดที่เชียงใหม่ สาขาธรณีวิทยา งานการก็เลยวนเวียอยู่กับ การสำรวจ เหมืองแร่
งานแรกเหมือนกับรับน้องไปอยู่เหมืองแร่ได้แค่ 3 เดือน ต้องรีบออกมาเพราะโดนติดเงินเดือน..
มาเป็นลูกจ้างงานราชการ 5 ปี ก่อนบรรจุตำแหน่งเป็นข้าราชการสตาร์ทเงินเดือน 2750บ
ผมอยู่รับราชการได้ 4-5 ปี ท่าจะไม่รุ่งและทนกรอบไม่ไหวเลยขอลาออกไปทำงานเอกชน
บริษัทนี้ระดับโลก ทำให้ผมได้ท่องโลกจากไทย ไปอยู่ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ที่ละปี-2 ปี
แต่ไปที่ไหน โปรเจคที่ผมไปร่วมด้วย ปิดหมด จนสุดท้ายไปอยู่ส่วนกลางที่ อเมริกาอยู่ 3ปี
ทำงานที่บริษัทนี้อยู่ 9 ปี เค้าถึงปล่อยผมกลับมา..
กลับมาเมืองไทย 3 ปีแรก ผมรับเป็นที่ปรึกษาบริษัท หน่วยวิจัย โครงการต่างๆนาๆ เล็กๆ น้อยๆ
ก่อนที่จะมาเป็นพนักงานบริษัท สุดท้ายนี้อีก 11 ปี จะรับโครงการเกษียญเดือนหน้านี้
เส้นทางการทำงานผมคร่าวๆก็เป็นอย่างนี้
ผมคิดว่า
การทำงานข้าราชการ ก็มั่นคง มีเกียรติ ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ แต่ต้องทำใจเรื่องรายได้
ผมรับเงินเดือนแรก 2750บ ส่งทาวเฮ้า 2000 ร่วมกับแฟน ตอนนั้น เรียกว่า กัดก้อนเกลือกิน
..ผมเห็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ตอนนี้ผมก็ยังนับถือว่า
พวกเค้าอยู่ได้นี่.. เพราะเค้าพอเพียงเท่านั้น
แต่ผมก็โชคดีที่มีงานออกต่างจังหวัด ทำให้ได้มีเบี้ยเลี้ยงมาช่วยประทัง.. ให้อยู่ได้บ้าง
ดีกว่านั้น หน่วยงานของผมมีงานต่างประเทศ เจ้านายผมก็กรุณาให้ผมได้ไปทำงานต่างประเทศด้วย
พอมีทุนเรียนต่อผมก็สอบไปเรียนต่อได้ เงินเหลือจากค่าใช้จ่าย ก็เหลือกลับมาโป๊ะ ทาวเฮ้าหมดอย่างรวดเร็ว
ทำให้ผมมีต้นทุนทรัพย์สินก้อนแรก
ส่วนการทำงานเอกชน ชีวิตก็แตกต่างออกไป
คุณต้องทำงานให้ได้ ..ทุกลมหายใจเหมือนเค้าซื้อไปหมด
กายและใจเราต้องทุมเทคิดและทำงานให้เค้า
เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งค่าตอบแทน มันก็สมน้ำสมเนื้อกัน
เปรียบเหมือนเราไปรพ รัฐ กับเอกชน
ขอจบก่อน เพื่อให้ชาววีไอซักถามถ้าสนใจ
ประโยคนี้
"ส่วนการทำงานเอกชน ชีวิตก็แตกต่างออกไป
คุณต้องทำงานให้ได้ ..ทุกลมหายใจเหมือนเค้าซื้อไปหมด"
กระแทกกลางใจผมมากครับพี่
.............
คราวนี้คำถามนะพี่
"พี่เริ่มเข้าสู่แวดวงลงทุนเมื่อไรครับ กำไรขาดทุนยังไง? ถึงมาเป็นวีไอ"
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1959
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 844
ขอคารวะพี่ ddoo7 ครับ
ทีได้ทำงานทั้งราชการ และเอกชน
ทีได้ทำงานทั้งราชการ และเอกชน
ผมยังเห็นใจเพื่อนๆ ผมที่ส่วนใหญ่เขาทำงานราชการครับ ช่างอดทนกันจริงๆ (คล้ายๆ ทฤษฎี มาร์ชเมลโล หรือเปล่า)ddoo7 เขียน:
ผมคิดว่า
การทำงานข้าราชการ ก็มั่นคง มีเกียรติ ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ แต่ต้องทำใจเรื่องรายได้
ผมรับเงินเดือนแรก 2750บ ส่งทาวเฮ้า 2000 ร่วมกับแฟน ตอนนั้น เรียกว่า กัดก้อนเกลือกิน
..ผมเห็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ตอนนี้ผมก็ยังนับถือว่า
พวกเค้าอยู่ได้นี่.. เพราะเค้าพอเพียงเท่านั้น
" สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 845
เส้นทางชีวิตพี่น่าสนใจมากค่ะddoo7 เขียน:ผมคิดอยู่นาน ..
ว่าจะมาเล่าอะไรให้เพื่อนชาว VI ฟังและได้ประโยชน์ รึหรือเป็นวิทยาทานได้น้อ
กลับจากไปเที่ยว ทำบุญ ทอดกฐินจว น่าน พะเยา แพร่ แล้วกลัวติดค้างคุณ Nevercry.boy เลยขอเล่า
ชีวิตผมก็เรียบง่าย บ้านๆ อยู่ตจว จบมัธยมแล้ว ก็มาเรียนเตรียมที่กท 2 ปี
สอบติดที่เชียงใหม่ สาขาธรณีวิทยา งานการก็เลยวนเวียอยู่กับ การสำรวจ เหมืองแร่
งานแรกเหมือนกับรับน้องไปอยู่เหมืองแร่ได้แค่ 3 เดือน ต้องรีบออกมาเพราะโดนติดเงินเดือน..
มาเป็นลูกจ้างงานราชการ 5 ปี ก่อนบรรจุตำแหน่งเป็นข้าราชการสตาร์ทเงินเดือน 2750บ
ผมอยู่รับราชการได้ 4-5 ปี ท่าจะไม่รุ่งและทนกรอบไม่ไหวเลยขอลาออกไปทำงานเอกชน
บริษัทนี้ระดับโลก ทำให้ผมได้ท่องโลกจากไทย ไปอยู่ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ที่ละปี-2 ปี
แต่ไปที่ไหน โปรเจคที่ผมไปร่วมด้วย ปิดหมด จนสุดท้ายไปอยู่ส่วนกลางที่ อเมริกาอยู่ 3ปี
ทำงานที่บริษัทนี้อยู่ 9 ปี เค้าถึงปล่อยผมกลับมา..
กลับมาเมืองไทย 3 ปีแรก ผมรับเป็นที่ปรึกษาบริษัท หน่วยวิจัย โครงการต่างๆนาๆ เล็กๆ น้อยๆ
ก่อนที่จะมาเป็นพนักงานบริษัท สุดท้ายนี้อีก 11 ปี จะรับโครงการเกษียญเดือนหน้านี้
เส้นทางการทำงานผมคร่าวๆก็เป็นอย่างนี้
ผมคิดว่า
การทำงานข้าราชการ ก็มั่นคง มีเกียรติ ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ แต่ต้องทำใจเรื่องรายได้
ผมรับเงินเดือนแรก 2750บ ส่งทาวเฮ้า 2000 ร่วมกับแฟน ตอนนั้น เรียกว่า กัดก้อนเกลือกิน
..ผมเห็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ตอนนี้ผมก็ยังนับถือว่า
พวกเค้าอยู่ได้นี่.. เพราะเค้าพอเพียงเท่านั้น
แต่ผมก็โชคดีที่มีงานออกต่างจังหวัด ทำให้ได้มีเบี้ยเลี้ยงมาช่วยประทัง.. ให้อยู่ได้บ้าง
ดีกว่านั้น หน่วยงานของผมมีงานต่างประเทศ เจ้านายผมก็กรุณาให้ผมได้ไปทำงานต่างประเทศด้วย
พอมีทุนเรียนต่อผมก็สอบไปเรียนต่อได้ เงินเหลือจากค่าใช้จ่าย ก็เหลือกลับมาโป๊ะ ทาวเฮ้าหมดอย่างรวดเร็ว
ทำให้ผมมีต้นทุนทรัพย์สินก้อนแรก
ส่วนการทำงานเอกชน ชีวิตก็แตกต่างออกไป
คุณต้องทำงานให้ได้ ..ทุกลมหายใจเหมือนเค้าซื้อไปหมด
กายและใจเราต้องทุมเทคิดและทำงานให้เค้า
เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งค่าตอบแทน มันก็สมน้ำสมเนื้อกัน
เปรียบเหมือนเราไปรพ รัฐ กับเอกชน
ขอจบก่อน เพื่อให้ชาววีไอซักถามถ้าสนใจ
ไม่คิดว่าว่าจะได้รู้จักกับ "นักธรณีวิทยา" น่าสนใจมาก
คิดว่ามีคนจบสาขานี้ไม่มากใช่มั้ยคะ
เงินเดือนตอนเริ่มรับราชการพอๆ กันเลยค่ะ
ตอนเริ่มทำงาน start 2,880 บาท (จำแม่นเลย)
ตอนตัดสินใจลาออกจากราชการไปทำเอกชน
ตัดสินใจนานมั้ยคะ?...เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ๆ ครั้งนึงเลย
กระแทกใจด้วยคนค่ะ...เพราะแฟนทำงานเอกชนNevercry.boy เขียน:
ประโยคนี้
"ส่วนการทำงานเอกชน ชีวิตก็แตกต่างออกไป
คุณต้องทำงานให้ได้ ..ทุกลมหายใจเหมือนเค้าซื้อไปหมด"
กระแทกกลางใจผมมากครับพี่
ทุกลมหายใจเค้าซื้อไปหมดจริงๆ ค่ะ
ยังไม่รวมความหวั่นไหวที่เกิดในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีอีก
บริษัทเค้าได้รับผลกระทบเหมือนกัน
ต้องมานั่งกังวลว่า..หัวหน้าครอบครัว (รายได้หลัก) เราจะตกงานหรือเปล่า
ก็เป็นความรู้สึกที่ดี..ที่ทำให้เราอยากลงทุนให้มี passive income ให้มากพอ
ไม่อยากรอแต่เงินเดือน...ไม่ว่าจะของใครในบ้าน
และเห็นด้วยกับน้อง jverakul เยี่ยมเลยค่ะพี่ ddoo7jverakul เขียน:ขอคารวะพี่ ddoo7 ครับ
ทีได้ทำงานทั้งราชการ และเอกชน
ผมยังเห็นใจเพื่อนๆ ผมที่ส่วนใหญ่เขาทำงานราชการครับ
ช่างอดทนกันจริงๆ (คล้ายๆ ทฤษฎี มาร์ชเมลโล หรือเปล่า)
ได้ทำงานทั้งราชการและเอกชน
ความรู้สึกเหมือนเลย ทฤษฎี มาร์ชเมลโล อยู่ให้ครบ 25 ปี
เพื่อจะได้รับบำนาญอันน้อยนิด
แต่ชดเชยกับค่ารักษาพยาบาลที่จะเบิกได้ไปตลอดชีวิตก็พอได้
.............
การทำงานราชการสำหรับเรา...เป็นตัวกระตุ้นชั้นดี
ที่ทำให้ชีวิตอีกด้านสำเร็จ...เพราะเราไม่อยากมีชีวิตแบบนั้นไปจนเกษียณ
เราไม่อยากถูกกลืนไปวัฒนธรรมบางอย่างที่รู้ๆ กันอยู่
เงินเดือนน้อย ผ่อนของ กู้หนี้ยืมสิน ผลัดกันกู้ผลัดกันค้ำ
และหลายๆ คนใช้เวลาที่เหลือของชีวิต (เวลาเหลือมากกว่าเอกชนแน่)
สูญเปล่าไปอย่างน่าเสียดายมาก
เราต้องอยู่ในวงการราชการแบบ "กล้าแตกต่าง" จากคนรอบตัวมากๆ
ไม่เช่นนั้นเราจะถูกกลืน...และคงไม่มีวันนี้
.............
เห็นด้วยกับพี่ ddoo7 เรื่องความพอเพียงค่ะ
และไม่ว่าจะมีรายรับจากอะไร
(ของที่บ้านมีทั้งราชการ และเอกชน)
ถ้าเราไม่ได้รวยมาแต่อ้อนแต่ออก
ยังไงๆ ก็ต้องใช้ชีวิตแบบพอเพียง
หากเราต้องการมีชีวิตที่ดีกว่าในระยะยาว
(ดีใจที่ไม่เคยเผลอๆ เพลินๆ ไป...
ลำบากก่อนแล้วสบายทีหลังดีกว่าจริงๆ...ขอบอก)
พอถึงวันนี้...เลยติดการมีชีวิตที่พอเพียงไปเลย
(หรือที่จริงมันคือวิถีของเราแต่ต้น...ก็เป็นได้)
...............
รอฟังการลงทุนของพี่ ddoo7 ต่อด้วยคน
แต่สบายๆ นะคะพี่...ว่างๆ ค่อยมาเล่าค่ะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 846
อย่าเยอะ! (Theenuch_Team Money Talk 4)
............... "เยอะ"...หมายถึง “เกินไป” หรือ “เกินพอดี”
ไม่เฉพาะ “คู่รัก”...ความสัมพันธ์ ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
ต้องคำนึงถึงเรื่อง “อย่าเยอะ” ทั้งสิ้นค่ะ
...............
ปัญหาจะเกิดถ้า “ความเยอะ” ไม่เท่ากัน เช่น
พูดเยอะ chat เยอะ สังคมยอะ กิจกรรมเยอะ
งอนเยอะ รายละเอียดเยอะ “ใช้เงินเยอะ” ฯลฯ
.
ถ้าเงื่อนไขแบบนี้_ความสัมพันธ์จะยังไง?
เยอะ & เยอะ_ลงตัว (ในความสัมพันธ์...แต่..?)
เยอะ & ปกติ _เริ่มละ (ชักไม่ OK)
เยอะ & น้อย_ดูไม่จืดเลยค่ะ
.
(หลายคนแอบคิด "หัวหน้า_เยอะ" ทำไง? ทำใจ เลยค่ะ ^_*)
................
ดังนั้น (ที่บ้านสอนลูกด้วยว่า) การเลือกคู่ เลือกเพื่อน
ต้องคำนึงถึง “ความสมดุล” ของการใช้ชีวิตด้วย
เลือกที่เหมาะกับตัวเอง ถ้าเราไม่เยอะ
ไปเลือกอะไรที่เยอะมา..ระยะยาวแย่แน่
.................
ยกตัวอย่าง "ความเยอะไม่สมดุลกัน" เช่น
.
โทรเยอะ...งอนเพิ่มตามจำนวน missed call
(ครึ่งชั่วโมง / 10 missed..หรือทุกๆ 3 นาที...โห!)
.
(ไม่น่าเชื่อ..ยุคนี้)..โกรธกันเพราะ..อ่าน /ตอบ line / fb ช้า
.
post / share เยอะ (เกิ๊น) คน like น้อย..เสีย self อีก
ต้องมาขึ้นสถานะ..ใครไม่ like ไม่ comment กันเลย
คงต้อง unfriend กันซะบ้าง (มีจริงๆ ค่ะ..เคยเห็น)
.............
อันที่จริง "self" หรือ "ตัวตน" ถ้าเยอะจะมีปัญหา
เพราะเป็นเหตุของ "ความเยอะ" ในเรื่องอื่นๆ
อย่าไปมีมันเสียแต่แรก ก็ไม่ต้องมานั่งเสียค่ะ
.
ใครเสีย self บ่อยๆ ควรกลับมาทบทวนตัวเอง
ไม่ใช่โทษคนอื่น **ไม่ตอบสนองเท่าที่ฉันต้องการ**
(ก็บางคนต้องการเยอะเกิ๊น...ตอบสนองไม่ไหว)
………….
อีกปัจจัยที่ทำให้ "เยอะ" หรือ "น้อย" ไม่เท่ากัน
คือ "การเห็นคุณค่าของเวลา" ไม่เท่ากัน
คนที่เห็นคุณค่าของเวลาจะ “ให้เวลากับตัวเอง"
เพื่อลงมือทำสิ่งที่สัมพันธ์กับเป้าหมายสู่ความสำเร็จ
ดังนั้น..ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของเขา
.
แทนที่จะไปเรียกร้องจากเขา...ลองให้เวลาตัวเอง
เพื่อลงมือทำ...สิ่งที่จะพัฒนาชีวิตเราเองบ้าง
.
ความสุข..จากการตอบสนองของผู้อื่น..ไม่ยั่งยืนหรอกค่ะ
สร้างสมดุลในตัวเอง..ตั้งเป้าหมายเอง ลงมือทำเอง
สำเร็จเอง พอใจเอง..เบ็ดเสร็จในตัวเอง..ง่ายกว่าเยอะ
.
ไม่มีใครตอบสนองความต้องการกันได้ 100% แม้แต่
พี่น้องหรือคนในครอบครัว..อย่าคาดหวังเกินจริง
................
วกกลับมาเรื่อง “เงินๆ ทอง” กันดีกว่า
คู่รักระหว่างคบหาดูใจ...ควรดูประเด็นนี้ให้ดีๆ
คนที่ "ให้ค่าความโก้หรูเยอะ” มักจะใช้เงินเยอะ
ครอบครัวจะมั่งคั่งช้า เว้นแต่ว่า...ต่างคนต่างรวย
มีกระแสเงินสดไหลเข้าไม่ขาด (ก็ไม่ว่ากันค่ะ)
.
การคบเพื่อนก็เช่นกัน ถ้าชวนกันทำแต่กิจกรรม
ที่เปลืองเงิน เปลืองเวลาเยอะๆ..คงไม่ค่อยดี
เว้นแต่ว่า..เราก็ชอบแบบนั้น...ก็ไปโทษเพื่อนไม่ได้
(อย่าลืมว่า...สิ่งที่เราทำวันนี้...ส่งผลต่อชีวิตในวันหน้า)
.
ถ้าไม่ได้ชอบ...ควรยึดเป้าหมายของเราเป็นตัวตั้ง
แล้ว "ปฎิเสธ" กิจกรรมที่ "เปลืองเงินและเวลา" เสียบ้าง
เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในระยะยาว (ย้ำเสมอค่ะ..อยากให้มองไกลๆ)
...................
มีเพลงสนุกๆ มาฝาก (ท่านใดไม่ชอบเพลงเร็วๆ...ข้ามเลยนะคะ)
http://www.youtube.com/watch?v=ObuksO2S ... O2SzSE#t=6
.
............... "เยอะ"...หมายถึง “เกินไป” หรือ “เกินพอดี”
ไม่เฉพาะ “คู่รัก”...ความสัมพันธ์ ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
ต้องคำนึงถึงเรื่อง “อย่าเยอะ” ทั้งสิ้นค่ะ
...............
ปัญหาจะเกิดถ้า “ความเยอะ” ไม่เท่ากัน เช่น
พูดเยอะ chat เยอะ สังคมยอะ กิจกรรมเยอะ
งอนเยอะ รายละเอียดเยอะ “ใช้เงินเยอะ” ฯลฯ
.
ถ้าเงื่อนไขแบบนี้_ความสัมพันธ์จะยังไง?
เยอะ & เยอะ_ลงตัว (ในความสัมพันธ์...แต่..?)
เยอะ & ปกติ _เริ่มละ (ชักไม่ OK)
เยอะ & น้อย_ดูไม่จืดเลยค่ะ
.
(หลายคนแอบคิด "หัวหน้า_เยอะ" ทำไง? ทำใจ เลยค่ะ ^_*)
................
ดังนั้น (ที่บ้านสอนลูกด้วยว่า) การเลือกคู่ เลือกเพื่อน
ต้องคำนึงถึง “ความสมดุล” ของการใช้ชีวิตด้วย
เลือกที่เหมาะกับตัวเอง ถ้าเราไม่เยอะ
ไปเลือกอะไรที่เยอะมา..ระยะยาวแย่แน่
.................
ยกตัวอย่าง "ความเยอะไม่สมดุลกัน" เช่น
.
โทรเยอะ...งอนเพิ่มตามจำนวน missed call
(ครึ่งชั่วโมง / 10 missed..หรือทุกๆ 3 นาที...โห!)
.
(ไม่น่าเชื่อ..ยุคนี้)..โกรธกันเพราะ..อ่าน /ตอบ line / fb ช้า
.
post / share เยอะ (เกิ๊น) คน like น้อย..เสีย self อีก
ต้องมาขึ้นสถานะ..ใครไม่ like ไม่ comment กันเลย
คงต้อง unfriend กันซะบ้าง (มีจริงๆ ค่ะ..เคยเห็น)
.............
อันที่จริง "self" หรือ "ตัวตน" ถ้าเยอะจะมีปัญหา
เพราะเป็นเหตุของ "ความเยอะ" ในเรื่องอื่นๆ
อย่าไปมีมันเสียแต่แรก ก็ไม่ต้องมานั่งเสียค่ะ
.
ใครเสีย self บ่อยๆ ควรกลับมาทบทวนตัวเอง
ไม่ใช่โทษคนอื่น **ไม่ตอบสนองเท่าที่ฉันต้องการ**
(ก็บางคนต้องการเยอะเกิ๊น...ตอบสนองไม่ไหว)
………….
อีกปัจจัยที่ทำให้ "เยอะ" หรือ "น้อย" ไม่เท่ากัน
คือ "การเห็นคุณค่าของเวลา" ไม่เท่ากัน
คนที่เห็นคุณค่าของเวลาจะ “ให้เวลากับตัวเอง"
เพื่อลงมือทำสิ่งที่สัมพันธ์กับเป้าหมายสู่ความสำเร็จ
ดังนั้น..ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของเขา
.
แทนที่จะไปเรียกร้องจากเขา...ลองให้เวลาตัวเอง
เพื่อลงมือทำ...สิ่งที่จะพัฒนาชีวิตเราเองบ้าง
.
ความสุข..จากการตอบสนองของผู้อื่น..ไม่ยั่งยืนหรอกค่ะ
สร้างสมดุลในตัวเอง..ตั้งเป้าหมายเอง ลงมือทำเอง
สำเร็จเอง พอใจเอง..เบ็ดเสร็จในตัวเอง..ง่ายกว่าเยอะ
.
ไม่มีใครตอบสนองความต้องการกันได้ 100% แม้แต่
พี่น้องหรือคนในครอบครัว..อย่าคาดหวังเกินจริง
................
วกกลับมาเรื่อง “เงินๆ ทอง” กันดีกว่า
คู่รักระหว่างคบหาดูใจ...ควรดูประเด็นนี้ให้ดีๆ
คนที่ "ให้ค่าความโก้หรูเยอะ” มักจะใช้เงินเยอะ
ครอบครัวจะมั่งคั่งช้า เว้นแต่ว่า...ต่างคนต่างรวย
มีกระแสเงินสดไหลเข้าไม่ขาด (ก็ไม่ว่ากันค่ะ)
.
การคบเพื่อนก็เช่นกัน ถ้าชวนกันทำแต่กิจกรรม
ที่เปลืองเงิน เปลืองเวลาเยอะๆ..คงไม่ค่อยดี
เว้นแต่ว่า..เราก็ชอบแบบนั้น...ก็ไปโทษเพื่อนไม่ได้
(อย่าลืมว่า...สิ่งที่เราทำวันนี้...ส่งผลต่อชีวิตในวันหน้า)
.
ถ้าไม่ได้ชอบ...ควรยึดเป้าหมายของเราเป็นตัวตั้ง
แล้ว "ปฎิเสธ" กิจกรรมที่ "เปลืองเงินและเวลา" เสียบ้าง
เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในระยะยาว (ย้ำเสมอค่ะ..อยากให้มองไกลๆ)
...................
มีเพลงสนุกๆ มาฝาก (ท่านใดไม่ชอบเพลงเร็วๆ...ข้ามเลยนะคะ)
http://www.youtube.com/watch?v=ObuksO2S ... O2SzSE#t=6
.
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 847
ข้อคิดจากป่า 1_"บ่มเพาะจิตใจที่อ่อนโยน”
(Theenuch_Team Money Talk 4)
..................
ไปเดินป่าที่ “สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช” มาค่ะ
อาจารย์ท่านแนะนำให้ภาพมาลงใน fb Money Talk ด้วย
จึงนำทั้งการเดินป่าล่าสุด และตั้งแต่ลูกเล็กๆ มาให้ชมค่ะ
(มี 5 ภาพใหญ่...บรรยายใต้ภาพไว้พอสมควร ^___^
ใครที่กำลังวางแผนท่องเที่ยว...share ไว้เป็นข้อมูลได้ค่ะ)
..................
ชอบหาความรู้ก่อนไป และมีหนังสือติดไปด้วย
ทำให้ลูกรักธรรมชาติและรักการอ่านด้วยค่ะ
..................
การเดินป่าสอนเราได้หลายเรื่อง ได้เข้าใจ
ประโยคที่ว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว”
สอนเรื่องป่าต้นน้ำ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์
รากช่วยดูดซับน้ำป้องกันดินถล่ม ฯลฯ
.
สัตว์เล็ก สัตว์น้อย ที่กินอยู่น้อย...แค่พอยังชีพ
เพื่อทำหน้าที่..ที่ดูเหมือนเล็กๆ ของตนไป
แต่ประกอบกันออกมาแล้ว...ให้ผลที่ยิ่งใหญ่มาก
ถ้าไม่มีป่า..ชีวิตพวกเราจะเป็นอย่างไร?
.
เตือนให้เราไม่ลืมว่า...ตัวเรานี้เล็กเหลือเกิน
เป็นแค่จุดเล็กๆของสิ่งแวดล้อมรอบตัว
แต่เราบริโภค และใช้ทรัพยากรมากเหลือเกิน
บริโภคและใช้สอยให้น้อยลงได้บ้างมั้ยนะ?
(ถ้าทำได้..ประหยัด "ให้โลก" และ "ตัวเราเอง" ด้วยค่ะ ^_* )
....................
ได้ฝึกสติ...ระวังไม่เหยียบสัตว์ หรือพืชเล็กๆ
ระวังความปลอดภัยของตัวเอง เช่น ลื่นล้ม เตะหิน
สะดุดขอนไม้ หรือเหยียบสัตว์มีพิษที่พรางตัวอยู่
.................... ในภาพน้ำตกเกริงกระเวีย_กาญจนบุรี
.
เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
มีคนเตะมูลดินที่ตัวอ่อนจักจั่นก่อกันน้ำเข้ารูพัง
ตัวอ่อนจักจั่นกระเด็นออกมาอยู่ข้างนอก
ลูกชาย (ตอนนั้นอายุ 9 ขวบ)
ทะยานไปเตือนคนที่เดินอยู่ว่า “อย่าเหยียบ”
แล้วค่อยๆ นำจักจั่นน้อยไปปล่อยคืนรูค่ะ
...................
ข้อความจากชมรมศิลปะและวัฒนธรรมอิสาน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย...ตรงใจที่อยากจะสื่อ
.
“เด็ก ๆ นั้น วิญญาณของพวกเขายังบริสุทธิ์ ยังคุยกับโลกใบนี้ได้
ทุกชีวิตในโลก ล้วนเชื่อมโยงกัน ทำให้เด็ก ๆ เหล่านั้น "สนใจชีวิต"
ในฐานะสิ่งมีชีวิตด้วยกัน นั่นคือ "ฟังก์ชั่นของชีวิตมนุษย์ "
.
เมื่อเวลาผ่านไปเราเติบใหญ่ หลาย ๆ คน สูญเสีย "ฟังก์ชั่น" นี้ไป
จึงเปลี่ยนบทบาทมาเป็น "ไวรัส ล้างโลก" ทำร้ายทุกอย่าง
ที่ห่างกายา วาเดียว ป่าไม้เอย สัตว์อื่นเอย วัฒนธรรมเอย
คนที่ไม่เชื่อเหมือนตนเอย..โลกเอย ฯลฯ
...................
เห็นด้วยกับข้อความที่ยกมามากค่ะ
ขอปลูกฝังจิตใจที่อ่อนโยน รักสิ่งแวดล้อมให้ลูกก่อน
"ความเก่ง" เอาไว้ทีหลังได้...หรืออาจไม่จำเป็น
เลี้ยงดูให้เขาได้พัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ
ของตัวเขาเองก็พอ..ไม่ต้องแข่งขันกับใคร
(ไม่เที่ยวป่าก็สอนได้...แต่ป่าช่วยให้สอนง่ายค่ะ)
....................
ข้อคิดจากป่ายังมีอีกมากค่ะ..จะทยอยมาเล่าค่ะ
มีวิธีสอนลูกให้ว่ายน้ำเก่งเร็วๆ ด้วย...รอติดตามนะคะ
. สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
http://www.tistr.or.th/sakaerat/
.............
งูเขียวหางไหม้ชอบพรางตัวอยู่ตามพุ่มไม้เตี้ยๆ
เพื่อดักจับเหยื่อกิน...ที่นี่มีนักวิจัยงูมาทำวิจัยเยอะค่ะ
.
มีกระรอกหลายสี (หางเหมือนแปรงล้างขวด)
.
(ล่างขวา) มดขนขยะออกมาทิ้งนอกรัง
(ล่างสุด_กลาง)
เห็ด ร่างแห หรือ เห็ดเยื่อไผ่ค่ะ เอามาทำ "เยื่อไผ่"
ที่อยู่ในแกงจืดและอาหารที่เราทานกันค่ะ
แต่ต้องเป็นแบบกระโปรงสีขาวนะคะ
ในภาพนี้กระโปรงสีส้ม ทานไม่ได้ค่ะ
.
นำความรู้จาก "วิศวกรเห็ด" มาฝากด้วยค่ะ ^__^
https://www.facebook.com/MushroomEngine ... 1663866236
ได้รับความกรุณาจาก ผอ.ทักษิณ อาชวาคม
ผอ.สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
ให้ร่วมกิจกรรมค่ายและเดินป่า
พร้อมๆ กับนักเรียนโครงการ gifted วิทย์
โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย
.
อยากชมเชยคุณครูและเด็กนักเรียนทั้งหมดด้วยค่ะ
คุณครูไม่ได้สอนแต่วิชาการ ยังสอดแทรกคุณธรรมด้วย
เด็กๆ เรียบร้อย ใสๆ ซนนิดๆ ตามวัย.โดยรวมน่าชื่นชมมากค่ะ
.
วิทยากรของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชทุกท่าน
ก็เช่นกัน ที่นอกจากให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เชิงลึกแล้ว
ยังสอนเรื่องคุณธรรม หัวใจของการอนุรักษ์
และแทรกธรรมะเป็นช่วงๆ ด้วยค่ะ
(กลางบน) กระสุนพระอินทร์ (Pill millipede)
จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับกิ้งกือ (millipede)
เวลาเดินป่าอย่าไปเหยียบเข้า
ไม่มีอันตรายต่อเราหรอกค่ะ แต่น่าสงสาร
ชีวิตเล็กๆ แต่มีประโยชน์มากช่วยย่อยใบไม้
(เช่นเดียวกับกิ้งกือค่ะ)
.
(ซ้ายล่าง) "ทากดูดเลือด" (leech)
http://www.youtube.com/watch?v=AuHD9CVFH9g
ไทยเราเรียกว่า "ทาก" ทั้งหมดค่ะแต่ที่จริงแล้ว
หอยทากแบบที่มีเปลือกบนหลัง คือ snail
http://www.snail-world.com/snail-pictures/
ยังมีทากอีกชนิดที่ไม่มีเปลือกแต่ไม่ดูดเลือดคือ slug ค่ะ
เวลาพบเจอจะได้ไม่ตกใจ และไม่ต้องไปทำร้ายเขานะคะ
http://www.slugwatch.co.uk/?page_id=21
พะเนินทุ่ง_อช.แก่งกระจาน เพชรบุรี
จุดเด่นมีผีเสื้อ และนกเยอะค่ะ มีค่างแว่น 5 สี
และมีทะเลหมอกหน้าร้อนค่ะ เมษายน - พฤษภาคม
เปิดให้เที่ยวไม่ทั้งปีค่ะ
.
ก่อนไปควรสอบถามจาก "อช.แก่งกระจาน" ก่อนค่ะ
http://www.thaiforestbooking.com/np_hom ... 1&npid=113
.............
"เจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า" จ.สระบุรี
ไม่น่าเชื่อค่ะใกล้กรุงเทพมากๆ แต่สภาพป่า
ยังสมบูรณ์มากๆ
"น้ำตกโกรกอีดก" เดินป่าสนุกทีเดียวค่ะ
ต้องดูลูกศรบอกทางดีๆ และเกาะสายน้ำตกเข้าไว้
เดินไปเดินมา..ทางเดินหายไป
บางช่วงก็ต้องลงไปลุยน้ำตกกันเลยทีเดียวค่ะ
ควรรักการปีนป่ายและทนเปียกชื้นได้
แต่สวยน่าประทับใจมากค่ะ
ต้องเตรียมเสบียงเข้าไปเอง
(อย่าลืมเก็บขยะออกมาด้วยนะคะ)
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... 1&gblog=68
............
"ด้วง" ที่นำมาเทียบกับหนังสือในภาพ
พบตอนไปเที่ยว "น้ำตกปางสีดา" จ.สระแก้ว
จุดเด่นของปางสีดาคือ "ผีเสื้อ" ค่ะ
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/to ... 75341.html
...............
เขาใหญ่ (ในภาพคือเหวนรกค่ะ)_นครราชสีมา
อช.น้ำหนาว_เพชบูรณ์
และน้ำตกเอราวัณ_กาญจนบุรี
.
คิดว่าแฟนๆ รายการ Money Talk
คงไปเที่ยวกันประจำอยู่แล้วค่ะ
ที่กาญจนบุรีแนะนำ "นำ้ตกห้วยแม่ขมิ้น"
สวยและสมบูรณ์มากเดินทางยากแต่สวยมากค่ะ
(Theenuch_Team Money Talk 4)
..................
ไปเดินป่าที่ “สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช” มาค่ะ
อาจารย์ท่านแนะนำให้ภาพมาลงใน fb Money Talk ด้วย
จึงนำทั้งการเดินป่าล่าสุด และตั้งแต่ลูกเล็กๆ มาให้ชมค่ะ
(มี 5 ภาพใหญ่...บรรยายใต้ภาพไว้พอสมควร ^___^
ใครที่กำลังวางแผนท่องเที่ยว...share ไว้เป็นข้อมูลได้ค่ะ)
..................
ชอบหาความรู้ก่อนไป และมีหนังสือติดไปด้วย
ทำให้ลูกรักธรรมชาติและรักการอ่านด้วยค่ะ
..................
การเดินป่าสอนเราได้หลายเรื่อง ได้เข้าใจ
ประโยคที่ว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว”
สอนเรื่องป่าต้นน้ำ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์
รากช่วยดูดซับน้ำป้องกันดินถล่ม ฯลฯ
.
สัตว์เล็ก สัตว์น้อย ที่กินอยู่น้อย...แค่พอยังชีพ
เพื่อทำหน้าที่..ที่ดูเหมือนเล็กๆ ของตนไป
แต่ประกอบกันออกมาแล้ว...ให้ผลที่ยิ่งใหญ่มาก
ถ้าไม่มีป่า..ชีวิตพวกเราจะเป็นอย่างไร?
.
เตือนให้เราไม่ลืมว่า...ตัวเรานี้เล็กเหลือเกิน
เป็นแค่จุดเล็กๆของสิ่งแวดล้อมรอบตัว
แต่เราบริโภค และใช้ทรัพยากรมากเหลือเกิน
บริโภคและใช้สอยให้น้อยลงได้บ้างมั้ยนะ?
(ถ้าทำได้..ประหยัด "ให้โลก" และ "ตัวเราเอง" ด้วยค่ะ ^_* )
....................
ได้ฝึกสติ...ระวังไม่เหยียบสัตว์ หรือพืชเล็กๆ
ระวังความปลอดภัยของตัวเอง เช่น ลื่นล้ม เตะหิน
สะดุดขอนไม้ หรือเหยียบสัตว์มีพิษที่พรางตัวอยู่
.................... ในภาพน้ำตกเกริงกระเวีย_กาญจนบุรี
.
เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
มีคนเตะมูลดินที่ตัวอ่อนจักจั่นก่อกันน้ำเข้ารูพัง
ตัวอ่อนจักจั่นกระเด็นออกมาอยู่ข้างนอก
ลูกชาย (ตอนนั้นอายุ 9 ขวบ)
ทะยานไปเตือนคนที่เดินอยู่ว่า “อย่าเหยียบ”
แล้วค่อยๆ นำจักจั่นน้อยไปปล่อยคืนรูค่ะ
...................
ข้อความจากชมรมศิลปะและวัฒนธรรมอิสาน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย...ตรงใจที่อยากจะสื่อ
.
“เด็ก ๆ นั้น วิญญาณของพวกเขายังบริสุทธิ์ ยังคุยกับโลกใบนี้ได้
ทุกชีวิตในโลก ล้วนเชื่อมโยงกัน ทำให้เด็ก ๆ เหล่านั้น "สนใจชีวิต"
ในฐานะสิ่งมีชีวิตด้วยกัน นั่นคือ "ฟังก์ชั่นของชีวิตมนุษย์ "
.
เมื่อเวลาผ่านไปเราเติบใหญ่ หลาย ๆ คน สูญเสีย "ฟังก์ชั่น" นี้ไป
จึงเปลี่ยนบทบาทมาเป็น "ไวรัส ล้างโลก" ทำร้ายทุกอย่าง
ที่ห่างกายา วาเดียว ป่าไม้เอย สัตว์อื่นเอย วัฒนธรรมเอย
คนที่ไม่เชื่อเหมือนตนเอย..โลกเอย ฯลฯ
...................
เห็นด้วยกับข้อความที่ยกมามากค่ะ
ขอปลูกฝังจิตใจที่อ่อนโยน รักสิ่งแวดล้อมให้ลูกก่อน
"ความเก่ง" เอาไว้ทีหลังได้...หรืออาจไม่จำเป็น
เลี้ยงดูให้เขาได้พัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ
ของตัวเขาเองก็พอ..ไม่ต้องแข่งขันกับใคร
(ไม่เที่ยวป่าก็สอนได้...แต่ป่าช่วยให้สอนง่ายค่ะ)
....................
ข้อคิดจากป่ายังมีอีกมากค่ะ..จะทยอยมาเล่าค่ะ
มีวิธีสอนลูกให้ว่ายน้ำเก่งเร็วๆ ด้วย...รอติดตามนะคะ
. สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
http://www.tistr.or.th/sakaerat/
.............
งูเขียวหางไหม้ชอบพรางตัวอยู่ตามพุ่มไม้เตี้ยๆ
เพื่อดักจับเหยื่อกิน...ที่นี่มีนักวิจัยงูมาทำวิจัยเยอะค่ะ
.
มีกระรอกหลายสี (หางเหมือนแปรงล้างขวด)
.
(ล่างขวา) มดขนขยะออกมาทิ้งนอกรัง
(ล่างสุด_กลาง)
เห็ด ร่างแห หรือ เห็ดเยื่อไผ่ค่ะ เอามาทำ "เยื่อไผ่"
ที่อยู่ในแกงจืดและอาหารที่เราทานกันค่ะ
แต่ต้องเป็นแบบกระโปรงสีขาวนะคะ
ในภาพนี้กระโปรงสีส้ม ทานไม่ได้ค่ะ
.
นำความรู้จาก "วิศวกรเห็ด" มาฝากด้วยค่ะ ^__^
https://www.facebook.com/MushroomEngine ... 1663866236
ได้รับความกรุณาจาก ผอ.ทักษิณ อาชวาคม
ผอ.สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
ให้ร่วมกิจกรรมค่ายและเดินป่า
พร้อมๆ กับนักเรียนโครงการ gifted วิทย์
โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย
.
อยากชมเชยคุณครูและเด็กนักเรียนทั้งหมดด้วยค่ะ
คุณครูไม่ได้สอนแต่วิชาการ ยังสอดแทรกคุณธรรมด้วย
เด็กๆ เรียบร้อย ใสๆ ซนนิดๆ ตามวัย.โดยรวมน่าชื่นชมมากค่ะ
.
วิทยากรของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชทุกท่าน
ก็เช่นกัน ที่นอกจากให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เชิงลึกแล้ว
ยังสอนเรื่องคุณธรรม หัวใจของการอนุรักษ์
และแทรกธรรมะเป็นช่วงๆ ด้วยค่ะ
(กลางบน) กระสุนพระอินทร์ (Pill millipede)
จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับกิ้งกือ (millipede)
เวลาเดินป่าอย่าไปเหยียบเข้า
ไม่มีอันตรายต่อเราหรอกค่ะ แต่น่าสงสาร
ชีวิตเล็กๆ แต่มีประโยชน์มากช่วยย่อยใบไม้
(เช่นเดียวกับกิ้งกือค่ะ)
.
(ซ้ายล่าง) "ทากดูดเลือด" (leech)
http://www.youtube.com/watch?v=AuHD9CVFH9g
ไทยเราเรียกว่า "ทาก" ทั้งหมดค่ะแต่ที่จริงแล้ว
หอยทากแบบที่มีเปลือกบนหลัง คือ snail
http://www.snail-world.com/snail-pictures/
ยังมีทากอีกชนิดที่ไม่มีเปลือกแต่ไม่ดูดเลือดคือ slug ค่ะ
เวลาพบเจอจะได้ไม่ตกใจ และไม่ต้องไปทำร้ายเขานะคะ
http://www.slugwatch.co.uk/?page_id=21
พะเนินทุ่ง_อช.แก่งกระจาน เพชรบุรี
จุดเด่นมีผีเสื้อ และนกเยอะค่ะ มีค่างแว่น 5 สี
และมีทะเลหมอกหน้าร้อนค่ะ เมษายน - พฤษภาคม
เปิดให้เที่ยวไม่ทั้งปีค่ะ
.
ก่อนไปควรสอบถามจาก "อช.แก่งกระจาน" ก่อนค่ะ
http://www.thaiforestbooking.com/np_hom ... 1&npid=113
.............
"เจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า" จ.สระบุรี
ไม่น่าเชื่อค่ะใกล้กรุงเทพมากๆ แต่สภาพป่า
ยังสมบูรณ์มากๆ
"น้ำตกโกรกอีดก" เดินป่าสนุกทีเดียวค่ะ
ต้องดูลูกศรบอกทางดีๆ และเกาะสายน้ำตกเข้าไว้
เดินไปเดินมา..ทางเดินหายไป
บางช่วงก็ต้องลงไปลุยน้ำตกกันเลยทีเดียวค่ะ
ควรรักการปีนป่ายและทนเปียกชื้นได้
แต่สวยน่าประทับใจมากค่ะ
ต้องเตรียมเสบียงเข้าไปเอง
(อย่าลืมเก็บขยะออกมาด้วยนะคะ)
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... 1&gblog=68
............
"ด้วง" ที่นำมาเทียบกับหนังสือในภาพ
พบตอนไปเที่ยว "น้ำตกปางสีดา" จ.สระแก้ว
จุดเด่นของปางสีดาคือ "ผีเสื้อ" ค่ะ
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/to ... 75341.html
...............
เขาใหญ่ (ในภาพคือเหวนรกค่ะ)_นครราชสีมา
อช.น้ำหนาว_เพชบูรณ์
และน้ำตกเอราวัณ_กาญจนบุรี
.
คิดว่าแฟนๆ รายการ Money Talk
คงไปเที่ยวกันประจำอยู่แล้วค่ะ
ที่กาญจนบุรีแนะนำ "นำ้ตกห้วยแม่ขมิ้น"
สวยและสมบูรณ์มากเดินทางยากแต่สวยมากค่ะ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 848
ขอมาตอบคำถามว่า..ทำไมถึงมาเป็นสาวกวีไอ
แต่ผมขอออกตัวว่า....ยังทำตัวเป็นวีไออย่างที่อยากเป็นไม่ได้
...ยังไม่ประสบความสำเร็จ...บรรลุเป้าหมายหรืออิสระภาพทางการเงินเลย
เพียงแต่สนใจพยายามเรียนรู้..และก็ค่อยเดินทางไป สะสมเก็บออมไปเรื่อยๆ
ผมเริ่มมาลงทุนเมื่อ 6-7 ปีก่อน ก่อนซับไพร์มจากการชักชวนของมาร์เกตติ้งที่รู้จักกัน
แรกๆก็ซื้อมาขายไปตามคำแนะนำเธอ แรกๆก็กำไรดี แต่สุดท้ายก็ติดดอย ตอนตลาดขาลง
ทำให้จำเป็นต้องถือยาวเพราะคัดลอสไม่เป็น ในภาวะวิกฤตตอนนั้นทำให้ต้องแก้ไข ด้วยการอ่าน หาความรุ้มากขึ้น
เลยมาได้แนวทางความรู้จากหนังสือของอาจารย์ นิเวศน์ มันนี่ทอล์คและเวปไทยวีไอ
ผมว่าอาจเป็นโชคชะตา มีกัลยาณมิตรชักจูงไปในแนวทางที่ดี ..ถึงจะไม่เจอตัวไปเคยไปอบรม
ผมก็อ่าน หนังสือ บทความซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูคลิปแล้วดูอีก ค่อยๆปรับไป
จึงทำให้เข้าใจว่าการซื้อหุ้นเป็นการซื้อกิจการ เป็นการลงทุน ซื้อในราคาที่ถูกคุ้มค่าและ อย่าขาดทุน
ปัจจัยอีกอย่างคงเป็นเพราะผมค่อยๆลงทุน ขณะที่ความรู้น้อย ค่อยๆสะสมเงินต้น และสะสมความรู้ ถ้าลงเงินมากมายตั้งแต่แรกคงหมดตัว
จริงๆผมก็ไม่ได้มีเงินมากมายให้ลงทุนหรอกครับ ผมไม่ได้เอาเงินเก็บก่อนหน้านี้มาลงทุนเลย
เงินเดือนผมแบ่งให้ภรรยาฝากประจำ เสียครึ่งนึง ที่เหลือผมก็จ่ายค่าประกันชีวิต+บัตรเครดิตของผม+ภรรยา+ส่งค่าเล่าเรียนลูก
เหลือให้ผมบริหารจริงๆก็ราว 20% ของเงินเดือนเท่านั้น
ผมก็แบ่งส่วนนึงซื้อกองทุนรวม LTF-RMF ให้มืออาชีพช่วยลงทุน อีกครึ่งผมก็เอามาซื้อหุ้นลงทุนเอง
แรกก็ตั้งใจเพื่อสะสมให้มีผลตอบแทน มากกว่าฝากประจำสัก 10%
และแข่งกันว่ามืออาชีพกับผมแบบไหนจะให้ผลตอบแทนดีกว่ากัน และผมก็จะได้เรียนรู้การลงทุนไปด้วยไปด้วย
การค่อยๆลงทุนต่อเนื่องกันหลายปีก็ทำให้ผมเห็นพลังมหัศจรรย์ของการทบต้น ..เงินออมเพิ่มพูนครับ
ผลลัพท์ที่ได้มากอาจเป็นโชคหรืออะไรก็ตาม...เกินคาดเพราะได้มากกว่าที่คิดและเร็วกว่าคาดฝันไว้
แต่ผมขอออกตัวว่า....ยังทำตัวเป็นวีไออย่างที่อยากเป็นไม่ได้
...ยังไม่ประสบความสำเร็จ...บรรลุเป้าหมายหรืออิสระภาพทางการเงินเลย
เพียงแต่สนใจพยายามเรียนรู้..และก็ค่อยเดินทางไป สะสมเก็บออมไปเรื่อยๆ
ผมเริ่มมาลงทุนเมื่อ 6-7 ปีก่อน ก่อนซับไพร์มจากการชักชวนของมาร์เกตติ้งที่รู้จักกัน
แรกๆก็ซื้อมาขายไปตามคำแนะนำเธอ แรกๆก็กำไรดี แต่สุดท้ายก็ติดดอย ตอนตลาดขาลง
ทำให้จำเป็นต้องถือยาวเพราะคัดลอสไม่เป็น ในภาวะวิกฤตตอนนั้นทำให้ต้องแก้ไข ด้วยการอ่าน หาความรุ้มากขึ้น
เลยมาได้แนวทางความรู้จากหนังสือของอาจารย์ นิเวศน์ มันนี่ทอล์คและเวปไทยวีไอ
ผมว่าอาจเป็นโชคชะตา มีกัลยาณมิตรชักจูงไปในแนวทางที่ดี ..ถึงจะไม่เจอตัวไปเคยไปอบรม
ผมก็อ่าน หนังสือ บทความซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูคลิปแล้วดูอีก ค่อยๆปรับไป
จึงทำให้เข้าใจว่าการซื้อหุ้นเป็นการซื้อกิจการ เป็นการลงทุน ซื้อในราคาที่ถูกคุ้มค่าและ อย่าขาดทุน
ปัจจัยอีกอย่างคงเป็นเพราะผมค่อยๆลงทุน ขณะที่ความรู้น้อย ค่อยๆสะสมเงินต้น และสะสมความรู้ ถ้าลงเงินมากมายตั้งแต่แรกคงหมดตัว
จริงๆผมก็ไม่ได้มีเงินมากมายให้ลงทุนหรอกครับ ผมไม่ได้เอาเงินเก็บก่อนหน้านี้มาลงทุนเลย
เงินเดือนผมแบ่งให้ภรรยาฝากประจำ เสียครึ่งนึง ที่เหลือผมก็จ่ายค่าประกันชีวิต+บัตรเครดิตของผม+ภรรยา+ส่งค่าเล่าเรียนลูก
เหลือให้ผมบริหารจริงๆก็ราว 20% ของเงินเดือนเท่านั้น
ผมก็แบ่งส่วนนึงซื้อกองทุนรวม LTF-RMF ให้มืออาชีพช่วยลงทุน อีกครึ่งผมก็เอามาซื้อหุ้นลงทุนเอง
แรกก็ตั้งใจเพื่อสะสมให้มีผลตอบแทน มากกว่าฝากประจำสัก 10%
และแข่งกันว่ามืออาชีพกับผมแบบไหนจะให้ผลตอบแทนดีกว่ากัน และผมก็จะได้เรียนรู้การลงทุนไปด้วยไปด้วย
การค่อยๆลงทุนต่อเนื่องกันหลายปีก็ทำให้ผมเห็นพลังมหัศจรรย์ของการทบต้น ..เงินออมเพิ่มพูนครับ
ผลลัพท์ที่ได้มากอาจเป็นโชคหรืออะไรก็ตาม...เกินคาดเพราะได้มากกว่าที่คิดและเร็วกว่าคาดฝันไว้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 849
ยินดีด้วยค่ะพี่ ddoo7...น่าจะเป็นกำลังใจให้คนที่เริ่มลงทุนด้วยเงินไม่มากได้ค่ะddoo7 เขียน:ขอมาตอบคำถามว่า..ทำไมถึงมาเป็นสาวกวีไอ
แต่ผมขอออกตัวว่า....ยังทำตัวเป็นวีไออย่างที่อยากเป็นไม่ได้
...ยังไม่ประสบความสำเร็จ...บรรลุเป้าหมายหรืออิสระภาพทางการเงินเลย
เพียงแต่สนใจพยายามเรียนรู้..และก็ค่อยเดินทางไป สะสมเก็บออมไปเรื่อยๆ
ผมเริ่มมาลงทุนเมื่อ 6-7 ปีก่อน ก่อนซับไพร์มจากการชักชวนของมาร์เกตติ้งที่รู้จักกัน
แรกๆก็ซื้อมาขายไปตามคำแนะนำเธอ แรกๆก็กำไรดี แต่สุดท้ายก็ติดดอย ตอนตลาดขาลง
ทำให้จำเป็นต้องถือยาวเพราะคัดลอสไม่เป็น ในภาวะวิกฤตตอนนั้นทำให้ต้องแก้ไข ด้วยการอ่าน หาความรุ้มากขึ้น
เลยมาได้แนวทางความรู้จากหนังสือของอาจารย์ นิเวศน์ มันนี่ทอล์คและเวปไทยวีไอ
ผมว่าอาจเป็นโชคชะตา มีกัลยาณมิตรชักจูงไปในแนวทางที่ดี ..ถึงจะไม่เจอตัวไปเคยไปอบรม
ผมก็อ่าน หนังสือ บทความซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูคลิปแล้วดูอีก ค่อยๆปรับไป
จึงทำให้เข้าใจว่าการซื้อหุ้นเป็นการซื้อกิจการ เป็นการลงทุน ซื้อในราคาที่ถูกคุ้มค่าและ อย่าขาดทุน
ปัจจัยอีกอย่างคงเป็นเพราะผมค่อยๆลงทุน ขณะที่ความรู้น้อย ค่อยๆสะสมเงินต้น และสะสมความรู้ ถ้าลงเงินมากมายตั้งแต่แรกคงหมดตัว
จริงๆผมก็ไม่ได้มีเงินมากมายให้ลงทุนหรอกครับ ผมไม่ได้เอาเงินเก็บก่อนหน้านี้มาลงทุนเลย
เงินเดือนผมแบ่งให้ภรรยาฝากประจำ เสียครึ่งนึง ที่เหลือผมก็จ่ายค่าประกันชีวิต+บัตรเครดิตของผม+ภรรยา+ส่งค่าเล่าเรียนลูก
เหลือให้ผมบริหารจริงๆก็ราว 20% ของเงินเดือนเท่านั้น
ผมก็แบ่งส่วนนึงซื้อกองทุนรวม LTF-RMF ให้มืออาชีพช่วยลงทุน อีกครึ่งผมก็เอามาซื้อหุ้นลงทุนเอง
แรกก็ตั้งใจเพื่อสะสมให้มีผลตอบแทน มากกว่าฝากประจำสัก 10%
และแข่งกันว่ามืออาชีพกับผมแบบไหนจะให้ผลตอบแทนดีกว่ากัน และผมก็จะได้เรียนรู้การลงทุนไปด้วยไปด้วย
การค่อยๆลงทุนต่อเนื่องกันหลายปีก็ทำให้ผมเห็นพลังมหัศจรรย์ของการทบต้น ..เงินออมเพิ่มพูนครับ
ผลลัพท์ที่ได้มากอาจเป็นโชคหรืออะไรก็ตาม...เกินคาดเพราะได้มากกว่าที่คิดและเร็วกว่าคาดฝันไว้
ที่จริง "ผลตอบแทนเกินกว่าที่เราคาด" ถือว่าดีมากแล้วค่ะ
ไม่ต้องเทียบกับใคร ณ จุดนี้เราพอใจ ชีวิตครอบครัวของเราอยู่ได้อย่างลงตัวก็ถือว่าสำเร็จแล้วค่ะ
.
ถ้าเมื่อใดที่หันไปเห็นของคนอื่นมากกว่าแล้วทุกข์...แม้จะได้ผลตอบแทนมากกว่านี้ก็คงไม่ถือว่าดีใช่มั้ยคะ
จิตใจเราควรสบายๆ และมีความสุข สงบ....จึงจะถือว่าลงตัว
...............
ช่วงนี้นุชออกกำลังกายทุกวัน แดดร่มๆ ก็ออกไปวิ่ง
ได้คุยกับเพื่อนบ้านที่เพิ่งเกษียณจาก บ.เอกชนขนาดใหญ่
แต่เขาไม่เคยรู้จักการลงทุน รู้จักแต่การฝากประจำและการซื้อ LTF ไว้ลดภาษี
.
เขาเล่าว่าเงินก้อนสุดท้ายที่ได้มาจากการทำงานทั้งชีวิต
ต้องใช้อย่างระมัดระวัง....และแม้จะคุยกันว่าการลงทุนดีอย่างไร
เขาก็ไม่สามารถนำเงินก้อนสุดท้ายที่ต้องใช้กินอยู่นั้นมาลงทุนได้
.
และได้แต่....เห็นภาพตัวเองกับเงินก้อนนั้นต้องค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ ค่ะ
(แต่เงินก็เยอะอยู่ ไม่มีภาระหนี้สิน เหลือแต่ลูกยังเรียนไม่จบ (อยู่ ม.ปลาย))
ประกันที่ซื้อไว้ก็ครบไม่ต้องจ่ายเบี้ยหลักแล้ว...ก็ถือว่าดีแล้วมากค่ะ
.
เค้าเสียดายใหญ่เลยที่เค้าไม่รู้จักการลงทุนในหุ้นค่ะ...แต่อาจจะดีก็ได้นะคะ
บางคนรู้จักการลงทุน...แต่ถ้าไม่ใช่แนวที่ถูกต้อง ก็อาจจะแย่ในบั้นปลายได้
................
โชคดีที่พวกเรารู้จักการลงทุนแนว VI นะคะพี่ ddoo7
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 851
ยินดีค่ะคุณลูกหิน...วันก่อนดีใจได้เจอคถุณลูกหินที่งาน VI สายดำ charityลูกหิน เขียน:ขอบคุณคุณนุชมากนะครับที่แชร์กิจกรรมที่เคยทำมาครับ เดี๋ยวไว้ไปตามแบบบ้างนะครับ
ดีใจที่มาทักทายกันนะคะ...ได้ดูรูปครอบครัวที่น่ารักด้วย
น้องๆ ที่เคยมาทักทายกัน ที่งานสัมมนา Money Talk@SET
เช่นน้องนัท น้องบอย ใครอีกนะ...เยอะค่ะ (ลืมกล่าวถึงใครต้องขออภัย)
ขอบคุณทุกๆ คนที่มาทักทายกันนะคะ ^__^
-
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 852
แวะมาทักทายและขอบคุณครับ พี่นุชสำหรับแนวคิดดีๆ ครับ
......................................
อ่านมาถึงเส้นทางชีวิตพี่ ddoo7 ก่อนอื่นขอขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ
แล้วผมก็มาสะดุดตรงประโยคที่ว่า
"ส่วนการทำงานเอกชน ชีวิตก็แตกต่างออกไป
คุณต้องทำงานให้ได้ ..ทุกลมหายใจเหมือนเค้าซื้อไปหมด
กายและใจเราต้องทุมเทคิดและทำงานให้เค้า
เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"
พลอยทำให้นึกถึงเรื่องตลกเสียดสีที่สะท้อนสังคมเรื่องนี้จากหนังสือ: ลาออกซะถ้าอยากรวย, เมษ พิชญผล
พ่อ: ถ้ามีคนจะขอซื้อแขนลูกสักข้างหนึ่ง ลูกคิดว่าจะขายเท่าไหร่
ลูก: วุ้ยย ใครจะบ้าขายแขนตัวเองเล่าพ่อ
พ่อ: ง้นถ้าเขาเสนอให้หนึ่งล้าน สนไหม
ลูก: สิบล้านก็ไม่ขายครับพ่อ พ่อถามอะไรแปลกๆ นะ
พ่อ: ถ้าวันนี้ลูกไม่ยอมขายแขนข้างหนึ่งเพื่อแลกเงินสิบล้าน ลูกต้องคิดให้ดีๆ วันที่ลูกยกเอาทั้งตัว ทั้งหัวสมอง ให้คนอื่น โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนเพียงหลักหมื่นบาท ลูกคิดว่ามันจะคุ้มไหม
ลูก: !!!
สำหรับผมเองก็ยังทำงานประจำอยู่ครับ ^^
......................................
อ่านมาถึงเส้นทางชีวิตพี่ ddoo7 ก่อนอื่นขอขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ
แล้วผมก็มาสะดุดตรงประโยคที่ว่า
"ส่วนการทำงานเอกชน ชีวิตก็แตกต่างออกไป
คุณต้องทำงานให้ได้ ..ทุกลมหายใจเหมือนเค้าซื้อไปหมด
กายและใจเราต้องทุมเทคิดและทำงานให้เค้า
เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"
พลอยทำให้นึกถึงเรื่องตลกเสียดสีที่สะท้อนสังคมเรื่องนี้จากหนังสือ: ลาออกซะถ้าอยากรวย, เมษ พิชญผล
พ่อ: ถ้ามีคนจะขอซื้อแขนลูกสักข้างหนึ่ง ลูกคิดว่าจะขายเท่าไหร่
ลูก: วุ้ยย ใครจะบ้าขายแขนตัวเองเล่าพ่อ
พ่อ: ง้นถ้าเขาเสนอให้หนึ่งล้าน สนไหม
ลูก: สิบล้านก็ไม่ขายครับพ่อ พ่อถามอะไรแปลกๆ นะ
พ่อ: ถ้าวันนี้ลูกไม่ยอมขายแขนข้างหนึ่งเพื่อแลกเงินสิบล้าน ลูกต้องคิดให้ดีๆ วันที่ลูกยกเอาทั้งตัว ทั้งหัวสมอง ให้คนอื่น โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนเพียงหลักหมื่นบาท ลูกคิดว่ามันจะคุ้มไหม
ลูก: !!!
สำหรับผมเองก็ยังทำงานประจำอยู่ครับ ^^
ปลูกหุ้นกินผล
http://www.facebook.com/PookHoonKinPhol
http://www.facebook.com/PookHoonKinPhol
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 853
น้องๆ ที่เคยมาทักทายกัน ที่งานสัมมนา Money Talk@SET
เช่นน้องนัท น้องบอย ใครอีกนะ...เยอะค่ะ (ลืมกล่าวถึงใครต้องขออภัย)
ขอบคุณทุกๆ คนที่มาทักทายกันนะคะ ^__^[/quote]
ขอบคุณครับพี่ เป็นเพราะพี่ใจดีมากกว่าครับ ดึงดูดน้องๆ ให้อยากเข้าไปทักทาย
พี่เป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตด้วยครับ
เช่นน้องนัท น้องบอย ใครอีกนะ...เยอะค่ะ (ลืมกล่าวถึงใครต้องขออภัย)
ขอบคุณทุกๆ คนที่มาทักทายกันนะคะ ^__^[/quote]
ขอบคุณครับพี่ เป็นเพราะพี่ใจดีมากกว่าครับ ดึงดูดน้องๆ ให้อยากเข้าไปทักทาย
พี่เป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 854
แอบซ่อนตัวแต่ตามอ่านทุกโพสครับบบบบtheenuch เขียน:ยินดีค่ะคุณลูกหิน...วันก่อนดีใจได้เจอคถุณลูกหินที่งาน VI สายดำ charityลูกหิน เขียน:ขอบคุณคุณนุชมากนะครับที่แชร์กิจกรรมที่เคยทำมาครับ เดี๋ยวไว้ไปตามแบบบ้างนะครับ
ดีใจที่มาทักทายกันนะคะ...ได้ดูรูปครอบครัวที่น่ารักด้วย
น้องๆ ที่เคยมาทักทายกัน ที่งานสัมมนา Money Talk@SET
เช่นน้องนัท น้องบอย ใครอีกนะ...เยอะค่ะ (ลืมกล่าวถึงใครต้องขออภัย)
ขอบคุณทุกๆ คนที่มาทักทายกันนะคะ ^__^
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 855
ขอบคุณนิทานข้อคิดดีๆ จ้า ^__^ปลูกหุ้นกินผล เขียน:แวะมาทักทายและขอบคุณครับ พี่นุชสำหรับแนวคิดดีๆ ครับ
......................................
อ่านมาถึงเส้นทางชีวิตพี่ ddoo7 ก่อนอื่นขอขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ
แล้วผมก็มาสะดุดตรงประโยคที่ว่า
"ส่วนการทำงานเอกชน ชีวิตก็แตกต่างออกไป
คุณต้องทำงานให้ได้ ..ทุกลมหายใจเหมือนเค้าซื้อไปหมด
กายและใจเราต้องทุมเทคิดและทำงานให้เค้า
เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"
พลอยทำให้นึกถึงเรื่องตลกเสียดสีที่สะท้อนสังคมเรื่องนี้จากหนังสือ: ลาออกซะถ้าอยากรวย, เมษ พิชญผล
พ่อ: ถ้ามีคนจะขอซื้อแขนลูกสักข้างหนึ่ง ลูกคิดว่าจะขายเท่าไหร่
ลูก: วุ้ยย ใครจะบ้าขายแขนตัวเองเล่าพ่อ
พ่อ: ง้นถ้าเขาเสนอให้หนึ่งล้าน สนไหม
ลูก: สิบล้านก็ไม่ขายครับพ่อ พ่อถามอะไรแปลกๆ นะ
พ่อ: ถ้าวันนี้ลูกไม่ยอมขายแขนข้างหนึ่งเพื่อแลกเงินสิบล้าน ลูกต้องคิดให้ดีๆ วันที่ลูกยกเอาทั้งตัว ทั้งหัวสมอง ให้คนอื่น โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนเพียงหลักหมื่นบาท ลูกคิดว่ามันจะคุ้มไหม
ลูก: !!!สำหรับผมเองก็ยังทำงานประจำอยู่ครับ ^^
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 856
แอบบอกว่า..เวลาน้องๆ มาทัก...พี่ก็ตื่นเต้นด้วย 555+CONNICHIWA เขียน: ขอบคุณครับพี่ เป็นเพราะพี่ใจดีมากกว่าครับ ดึงดูดน้องๆ ให้อยากเข้าไปทักทาย
พี่เป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตด้วยครับ
แต่อยากบอกว่า นักลงทุนแนววีไอ
ที่เป็นไปดอลของพวกเราทุกท่านน่ารักใจดีหมดเลยนะ
เมื่อก่อนพี่เองก็เกรงๆ ไม่กล้าทัก...แค่เห็นไกลๆ ก็ตื่นเต้น มือไม้เย็น
พอมีโอกาสได้รู้จักหลายท่าน พบว่าน่ารักทุกท่านเลยค่ะ
และมีนิสัยใจคออ่อนโยน ใจดี สบายๆ และไม่ถือตัวกันเลย
(เราเกรงๆ ไปเอง..เข้าใจเคยเป็น....ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ 55+
แค่น้อยลงนิดหน่อย....คือ "ตื่นเต้นทุกครั้งที่เจอไอดอล" ของเรา
คาดว่าจะไม่หาย...เพียงแต่น้อยลงบ้างค่ะ )
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 858
วันนี้ผมขออนุญาติแนะนำเว็บไซท์ความรู้หนึ่งที่นะครับ ชือ khanacademy.org
เป็นเว็บที่คุณเจ้าของจะอัดวิดีโอสอนเราเรื่องต่างๆที่เขารู้ ผมพึ่งมาทราบว่า เจ้าของเป็นคนอินเดีย(แต่น่าจะเติบโตที่อเมริกา) เป็นนักการเงินที่ฉลาดมาก และเขามาถึงจุดหนึ่งที่ฐานะการเงินเพียงพอต่อความต้องการ เขาเลยใช้เวลาที่เหลือเลิกหาเงินแต่เอาเวลามาแบ่งปันความรู้ให้กับคนอื่นๆ ( ฟรี )
ลองดูนะครับ
เป็นเว็บที่คุณเจ้าของจะอัดวิดีโอสอนเราเรื่องต่างๆที่เขารู้ ผมพึ่งมาทราบว่า เจ้าของเป็นคนอินเดีย(แต่น่าจะเติบโตที่อเมริกา) เป็นนักการเงินที่ฉลาดมาก และเขามาถึงจุดหนึ่งที่ฐานะการเงินเพียงพอต่อความต้องการ เขาเลยใช้เวลาที่เหลือเลิกหาเงินแต่เอาเวลามาแบ่งปันความรู้ให้กับคนอื่นๆ ( ฟรี )
ลองดูนะครับ
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 859
พี่แวะเข้าไปตามที่แนะนำแล้วค่ะ...มีประโยชน์มากเลยNutth147 เขียน:วันนี้ผมขออนุญาติแนะนำเว็บไซท์ความรู้หนึ่งที่นะครับ ชือ khanacademy.org
เป็นเว็บที่คุณเจ้าของจะอัดวิดีโอสอนเราเรื่องต่างๆที่เขารู้ ผมพึ่งมาทราบว่า เจ้าของเป็นคนอินเดีย(แต่น่าจะเติบโตที่อเมริกา) เป็นนักการเงินที่ฉลาดมาก และเขามาถึงจุดหนึ่งที่ฐานะการเงินเพียงพอต่อความต้องการ เขาเลยใช้เวลาที่เหลือเลิกหาเงินแต่เอาเวลามาแบ่งปันความรู้ให้กับคนอื่นๆ ( ฟรี )
ลองดูนะครับ
เดี๋ยวจะให้ลูกสมัครด้วย account ของเค้าเองด้วยค่ะ
ขอบคุณมากเลยค่ะน้องนัท ^__^
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 860
เส้นทางธรรมกับการลงทุน
สุดท้ายในชีวิต เราอยากจะไปอยู่ตรงไหน
. .
ผมมีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง
อยู่ในวงการหุ้นมานาน
นานขนาดว่าอยู่มาก่อนผมอีก
น่าจะตั้งแต่เริ่มต้นมีตลาดหลักทรัพย์ไทยเลยครับ
.
เพื่อนคนนี้ ทำงานในวงการโบรคเกอร์
เป็นเจ้าหน้าที่และผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถสูง
เรียนจบปริญญาโทบริหารธุรกิจสำหรับนักบริหาร รุ่นแรกๆของธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นการรวมเอาสุดยอดของนักธุรกิจไทยไว้ด้วยกัน
เป็นนักลงทุนในระดับที่ทำให้มีอิสรภาพทางการเงินได้ รวมทั้งลงทุนในหุ้นปูนซีเมนต์ไทยตั้งแต่เริ่มต้น จะนำเอาใบหุ้นมาให้ดูกันบ่อยๆ
ผมได้เชิญมาเป็นวิทยากรในรายการ moneytalk ยุคแรกๆอยู่เป็นประจำ
.
ต่อมาเพื่อนคนนี้ก็มีชื่อเสียงในการให้ความรู้ทางการลงทุน
เป็นวิทยากรเรื่องหุ้น เขียนหนังสือลงทุนแบบมีหลักการเหตุผลมีความรู้
เป็นผู้เชี่ยวชาญของตลาดหลักทรัพย์
และลงทุนไปเรียนปริญญาเอกทางธรรมาภิบาลที่เปิดสอนในเมืองไทย
.
ภายหลังผมทราบข่าวว่าเพื่อนคนนี้ประสบปัญหาทางสุขภาพ
และเมื่อฟื้นฟูร่างกายได้ระดับหนึ่ง ก็ปลีกวิเวกไปบวชที่วัดป่าแห่งหนึ่ง
ถือศีลปฏิบัติธรรม ไม่ข้องแวะกับทางโลกอีก
................................
เส้นทางเดินของแต่ละคนไม่แน่นอนนัก
บางคนอาจจะเหลือทางเดินสั้นๆ บางคนยาวๆ
บางคนอาจจะไม่เหลือแล้วก็เป็นได้
.
ในขณะที่เรามัวเมากับกิเลสในโลกการเงิน โลกของหุ้น
บางคนเดินอย่างระมัดระวัง บางคนเอาจริงลงทุนวิ่งอย่างเร็ว
ขณะที่บางคนกระโดดกระโจน เพื่อให้เข้าสู่เป้าหมายอย่างเมามัน
.
แต่อิสรภาพทางการเงินที่คาดหวัง เมื่อได้แล้ว
อาจจะไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเส้นทางเดินของชีวิตนะครับ
.
และจะเหมือนกันทุกคนครับ ไม่ว่าใคร รวมทั้งตัวผมเองด้วย
.
สุดท้ายในชีวิต เราอยากจะไปอยู่ตรงไหน
. .
ผมมีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง
อยู่ในวงการหุ้นมานาน
นานขนาดว่าอยู่มาก่อนผมอีก
น่าจะตั้งแต่เริ่มต้นมีตลาดหลักทรัพย์ไทยเลยครับ
.
เพื่อนคนนี้ ทำงานในวงการโบรคเกอร์
เป็นเจ้าหน้าที่และผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถสูง
เรียนจบปริญญาโทบริหารธุรกิจสำหรับนักบริหาร รุ่นแรกๆของธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นการรวมเอาสุดยอดของนักธุรกิจไทยไว้ด้วยกัน
เป็นนักลงทุนในระดับที่ทำให้มีอิสรภาพทางการเงินได้ รวมทั้งลงทุนในหุ้นปูนซีเมนต์ไทยตั้งแต่เริ่มต้น จะนำเอาใบหุ้นมาให้ดูกันบ่อยๆ
ผมได้เชิญมาเป็นวิทยากรในรายการ moneytalk ยุคแรกๆอยู่เป็นประจำ
.
ต่อมาเพื่อนคนนี้ก็มีชื่อเสียงในการให้ความรู้ทางการลงทุน
เป็นวิทยากรเรื่องหุ้น เขียนหนังสือลงทุนแบบมีหลักการเหตุผลมีความรู้
เป็นผู้เชี่ยวชาญของตลาดหลักทรัพย์
และลงทุนไปเรียนปริญญาเอกทางธรรมาภิบาลที่เปิดสอนในเมืองไทย
.
ภายหลังผมทราบข่าวว่าเพื่อนคนนี้ประสบปัญหาทางสุขภาพ
และเมื่อฟื้นฟูร่างกายได้ระดับหนึ่ง ก็ปลีกวิเวกไปบวชที่วัดป่าแห่งหนึ่ง
ถือศีลปฏิบัติธรรม ไม่ข้องแวะกับทางโลกอีก
................................
เส้นทางเดินของแต่ละคนไม่แน่นอนนัก
บางคนอาจจะเหลือทางเดินสั้นๆ บางคนยาวๆ
บางคนอาจจะไม่เหลือแล้วก็เป็นได้
.
ในขณะที่เรามัวเมากับกิเลสในโลกการเงิน โลกของหุ้น
บางคนเดินอย่างระมัดระวัง บางคนเอาจริงลงทุนวิ่งอย่างเร็ว
ขณะที่บางคนกระโดดกระโจน เพื่อให้เข้าสู่เป้าหมายอย่างเมามัน
.
แต่อิสรภาพทางการเงินที่คาดหวัง เมื่อได้แล้ว
อาจจะไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเส้นทางเดินของชีวิตนะครับ
.
และจะเหมือนกันทุกคนครับ ไม่ว่าใคร รวมทั้งตัวผมเองด้วย
.
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 861
จะให้ดีควร “มีก๊อกสอง” (สาม สี่ ห้า...)
(Theenuch_Team Money Talk 4)
………….... แทบทุกเรื่องในชีวิต...จะให้ดีควร “มีก๊อกสอง” เช่น
...................
“การเรียน” สาขาไหนตรงกับ life style (ของเรา / ลูก)
เตรียมตัวให้เหมาะกับการจะเข้าเรียนสาขานั้นๆ
ถ้าไม่ได้ตามที่หวัง..เอาไงต่อดี? **คิดรอไว้เลย**
..................
"การทำงาน" ตรวจสอบ trend ของสายอาชีพ
และภาวะเศรษฐกิจเสมอ..จะกระทบกับเราไหม?
เพื่อไม่ถูกคัดออกเป็นคนแรกๆ หากเกิดวิกฤติ
หรือเพื่อเพิ่มโอกาสก้าวหน้า..เพิ่มทักษะใดให้ตัวเองดี?
เรียนต่อดีไหม? สาขาเดิมๆ หรือจะเปลี่ยนสาขา
พัฒนาความสามารถหลากหลาย **ให้พร้อมทุกสภาวะ**
..................
"ยามเจ็บป่วย" มีสวัสดิการใดรองรับบ้าง?
ต้องซื้อประกันสุขภาพเพิ่มหรือไม่?
สวัสดิการที่มี...ใช้ได้ถึงอายุเท่าไหร่?
ถ้าถึงแค่เกษียณ หลังจากนั้นล่ะ? **เตรียมไว้แต่เนิ่นๆ**
.................
“การดูแลคนที่เรารัก” มีหรือไม่?...ถ้ามี
พวกเขาจะ..เติบโตขึ้น_ต้องเล่าเรียนแพงขึ้น
หรือจะ..เกษียณหมดรายรับ สุขภาพแย่ลงตามวัย
การดูแลคนที่เรารักให้ดี...ต้องใช้เงินเท่าไหร่?
ต้องประหยัดขี้น หรือหาเพิ่มไหม? **ทำทันที**
.................
"หลังเกษียณ" ตัวเราเองต้องใช้เงินเท่าไหร่?
ต้องออมและสร้างผลตอบแทนเท่าใด?
จึงจะมี Passive Income พอเลี้ยงตัวได้
ออม หรือลงทุนอย่างไร?...จึงจะตอบโจทย์?
หาความรู้เพิ่ม **ลงทุนระยะยาวควบคู่กับงานประจำ**
.
ฯลฯ....มองไปไกลๆ ค่ะ
.................
คนไม่ชอบวางแผนมักบอกว่า
การวางแผนล่วงหน้าคือ “ไม่ยืดหยุ่น”
บ้างก็ว่า “ตึง” หรือ “เข้มงวด” กับชีวิตเกิน
ชีวิตต้องง่ายๆ สบายๆ เจอปัญหาก็ค่อยแก้กันไป
.
ก็ต้องทำใจยอมรับผลแค่ "งั้นๆ" "พอผ่าน"
หรือ "เอาตัวรอด" ไปเป็นครั้งๆ เท่านั้น
ผลลัพท์แบบที่สามารถเปลี่ยนหรือพลิกชีวิตได้
มักไม่ค่อยเกิดจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าค่ะ
.................
"ความยืดหยุ่น" เป็นสิ่งดี สำคัญ และจำเป็น
สำหรับใช้เพื่อปรับ “แผนสำรอง" ที่มีอยู่
ให้เข้ากับสถานการณ์เฉพาะหน้า
จึงถือว่า “ยืดหยุ่นแบบมีคุณภาพ"
.
การมีก๊อกสอง ( สาม สี่ ห้า.. ) คือ
มี “ทางเลือก_ที่ผ่านการไตร่ตรองแล้ว” รอไว้
ถ้าวางแผนดีจะเหลือปัญหาเฉพาะหน้าให้แก้น้อย
เราจะมุ่งไปข้างหน้าได้ดี และก้าวหน้าเร็วค่ะ
.................
ชีวิต "ง่ายๆ" ที่พึงประสงค์
คือ "มีแผนสำรอง...ไว้ให้หยิบใช้ได้ง่ายๆ"
ไม่ใช่ "ใช้ชีวิตง่ายๆ..ไม่ต้องคิดหรือวางแผนอะไรมาก"
.
สองแบบนี้ต่างกันมาก...เลือกแบบไหนดี?
"สบายช่วงแรก" หรือ "สบายทีหลัง..แต่สบายตลอดไป"
.................
อ่านถึงตรงนี้...อยากถามว่า
แฟนๆ Money Talk มีก๊อกสอง..หรือยัง?
(คิดแล้ว...ต้องลงมือทำด้วยนะคะ)
.
(Theenuch_Team Money Talk 4)
………….... แทบทุกเรื่องในชีวิต...จะให้ดีควร “มีก๊อกสอง” เช่น
...................
“การเรียน” สาขาไหนตรงกับ life style (ของเรา / ลูก)
เตรียมตัวให้เหมาะกับการจะเข้าเรียนสาขานั้นๆ
ถ้าไม่ได้ตามที่หวัง..เอาไงต่อดี? **คิดรอไว้เลย**
..................
"การทำงาน" ตรวจสอบ trend ของสายอาชีพ
และภาวะเศรษฐกิจเสมอ..จะกระทบกับเราไหม?
เพื่อไม่ถูกคัดออกเป็นคนแรกๆ หากเกิดวิกฤติ
หรือเพื่อเพิ่มโอกาสก้าวหน้า..เพิ่มทักษะใดให้ตัวเองดี?
เรียนต่อดีไหม? สาขาเดิมๆ หรือจะเปลี่ยนสาขา
พัฒนาความสามารถหลากหลาย **ให้พร้อมทุกสภาวะ**
..................
"ยามเจ็บป่วย" มีสวัสดิการใดรองรับบ้าง?
ต้องซื้อประกันสุขภาพเพิ่มหรือไม่?
สวัสดิการที่มี...ใช้ได้ถึงอายุเท่าไหร่?
ถ้าถึงแค่เกษียณ หลังจากนั้นล่ะ? **เตรียมไว้แต่เนิ่นๆ**
.................
“การดูแลคนที่เรารัก” มีหรือไม่?...ถ้ามี
พวกเขาจะ..เติบโตขึ้น_ต้องเล่าเรียนแพงขึ้น
หรือจะ..เกษียณหมดรายรับ สุขภาพแย่ลงตามวัย
การดูแลคนที่เรารักให้ดี...ต้องใช้เงินเท่าไหร่?
ต้องประหยัดขี้น หรือหาเพิ่มไหม? **ทำทันที**
.................
"หลังเกษียณ" ตัวเราเองต้องใช้เงินเท่าไหร่?
ต้องออมและสร้างผลตอบแทนเท่าใด?
จึงจะมี Passive Income พอเลี้ยงตัวได้
ออม หรือลงทุนอย่างไร?...จึงจะตอบโจทย์?
หาความรู้เพิ่ม **ลงทุนระยะยาวควบคู่กับงานประจำ**
.
ฯลฯ....มองไปไกลๆ ค่ะ
.................
คนไม่ชอบวางแผนมักบอกว่า
การวางแผนล่วงหน้าคือ “ไม่ยืดหยุ่น”
บ้างก็ว่า “ตึง” หรือ “เข้มงวด” กับชีวิตเกิน
ชีวิตต้องง่ายๆ สบายๆ เจอปัญหาก็ค่อยแก้กันไป
.
ก็ต้องทำใจยอมรับผลแค่ "งั้นๆ" "พอผ่าน"
หรือ "เอาตัวรอด" ไปเป็นครั้งๆ เท่านั้น
ผลลัพท์แบบที่สามารถเปลี่ยนหรือพลิกชีวิตได้
มักไม่ค่อยเกิดจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าค่ะ
.................
"ความยืดหยุ่น" เป็นสิ่งดี สำคัญ และจำเป็น
สำหรับใช้เพื่อปรับ “แผนสำรอง" ที่มีอยู่
ให้เข้ากับสถานการณ์เฉพาะหน้า
จึงถือว่า “ยืดหยุ่นแบบมีคุณภาพ"
.
การมีก๊อกสอง ( สาม สี่ ห้า.. ) คือ
มี “ทางเลือก_ที่ผ่านการไตร่ตรองแล้ว” รอไว้
ถ้าวางแผนดีจะเหลือปัญหาเฉพาะหน้าให้แก้น้อย
เราจะมุ่งไปข้างหน้าได้ดี และก้าวหน้าเร็วค่ะ
.................
ชีวิต "ง่ายๆ" ที่พึงประสงค์
คือ "มีแผนสำรอง...ไว้ให้หยิบใช้ได้ง่ายๆ"
ไม่ใช่ "ใช้ชีวิตง่ายๆ..ไม่ต้องคิดหรือวางแผนอะไรมาก"
.
สองแบบนี้ต่างกันมาก...เลือกแบบไหนดี?
"สบายช่วงแรก" หรือ "สบายทีหลัง..แต่สบายตลอดไป"
.................
อ่านถึงตรงนี้...อยากถามว่า
แฟนๆ Money Talk มีก๊อกสอง..หรือยัง?
(คิดแล้ว...ต้องลงมือทำด้วยนะคะ)
.
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 862
ขออนุญาตช่วย ตลท.มาส่งข่าวให้พี่น้องชาว VI ครับ ผ่านกระทู้ของคุณนุชนะครับ
งาน Set in the city 2014 Royal paragon hall 20-23/11/2014
ของผมพูด section 16.30 -18 วันที่ 20/11/2014 ครับ
http://www.set.or.th/setinthecity/2014/index.html
งาน Set in the city 2014 Royal paragon hall 20-23/11/2014
ของผมพูด section 16.30 -18 วันที่ 20/11/2014 ครับ
http://www.set.or.th/setinthecity/2014/index.html
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 863
ยินดีเลยค่ะพี่หมอมุข...หัวข้อน่าสนใจและมีประโยชน์มากค่ะPaul VI เขียน:ขออนุญาตช่วย ตลท.มาส่งข่าวให้พี่น้องชาว VI ครับ ผ่านกระทู้ของคุณนุชนะครับ
งาน Set in the city 2014 Royal paragon hall 20-23/11/2014
ของผมพูด section 16.30 -18 วันที่ 20/11/2014 ครับ
http://www.set.or.th/setinthecity/2014/index.html
"เปิดแนวคิด จากรุ่นใหม่ สู่รุ่นใหญ่ เพื่ออิสรภาพทางการเงิน" ใช่มั้ยคะ
เสียดายเป้นวันธรรมดาเย็นๆ นุชไปรับลูกที่โรงเรียนค่ะ...เวลาเดินทางกลับพอดีเลย
.
พี่หมอมุขมีอะไรดีๆ ก็นำมาฝากกระทู้ " VI บ้านๆ" เสมอเลย...ขอบคุณมากนะคะ ^__^
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 864
“ด้อยโอกาส” หรือ “ละทิ้งโอกาส”
(Theenuch_Team Money Talk 4)
...................
เด็กน้อยจาก “สานรักคนเก่งหัวใจแกร่ง”
มีชีวิตที่สะท้อนความ “ด้อยโอกาส” อยู่มาก
.
เธอเปรียบว่า ชีวิตของเธอเคยเป็นสีดำ
หากมีโอกาสได้เรียนจนจบได้ทำงานที่ดี
ชีวิตจะค่อยๆ กลายเป็นสีขาวได้
.
แม้จะรู้สึกท้อ แต่เธอก็สู้สุดใจ (ดูแล้วน้ำตาซึม)
เด็กคนนี้มีทัศนคติที่ดี...น่าชื่นชมมากเลยค่ะ
** บ้านที่มีลูกหลาน น่าเปิดให้ดูด้วยค่ะ **
.
ตัด clip ให้สั้นลง..มาให้ชมค่ะ
[youtube]xZcv0CgmC5c[/youtube]
.
ถ้ามีเวลาอยากให้ชมแบบเต็มๆ ได้จาก link นี้ค่ะ
[youtube]eZXzYu3E5yU[/youtube]
><><><><
ถ้าวันนี้เรามีงานทำ มีรายได้สม่ำเสมอ
ถือว่ามีโอกาสดีกว่าใครหลายคน
.
ถ้ามองสั้นๆ..คนที่มีรายรับมาก
มีโอกาสใช้ชีวิตสบายกว่าได้ทันที
.
แต่อยากชวนมองยาวๆ...ถ้าเราถือโอกาส
ออมเพิ่มนำเงินไปลงทุนให้งอกเงยก่อน
ค่อยใช้ดอกผลที่ได้..ทำให้ชีวิตสบายขึ้นภายหลัง
ก็ยังทัน...และจะสบายแบบยั่งยืนกว่าค่ะ
..................
เหมือนปลูกไม้ผลยืนต้น
แค่อดใจรอ...ก็จะได้ผลกินไปตลอด
ต้นโตขึ้นเรื่อยๆ แยกต้นไปปลูกอีกยังได้
(มี passive income ตลอดไป)
.
อย่าใช้ชีวิตเหมือนปลูกผัก...ได้กินเร็วกว่า
แต่ต้องปลูกใหม่เรื่อยๆ...ไม่ปลูกไม่มีกิน
(ถ้าไม่ไป active ก็ไม่มี income เข้า)
ต้องทำงาน (ปลูกผัก) ไปเรื่อย...ถึงจะมีกิน
เป็นไปไม่ได้ค่ะ..เพราะเราต้องเกษียณ..ในที่สุด
.............
ถ้าเราอดเปรี้ยวไว้กินหวานได้
วันข้างหน้า นอกจากครอบครัวของเรา
จะมีชีวิตที่ดีแล้ว ยังมีโอกาสช่วยเหลือ
ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าเราได้มากด้วยค่ะ
.
น่าเสียดายที่คนจำนวนไม่น้อย
เลือกใช้เงินหาความสุขเฉพาะหน้าไปก่อน
"ละทิ้งโอกาส" มีชีวิตที่ดีกว่าในระยะยาว
><><><>< ทำตารางมาฝากค่ะ...เปรียบเทียบ
หลายระดับเงินเดือน / หลายสัดส่วนการออม
และอยากให้ทบทวนว่า..การใช้จ่ายของเราเป็นแบบใด
.
1. ใช้จ่ายมากกว่ารายได้_เป็นหนี้ เป็นสิน
2. ใช้จ่ายพอดีกัยรายได้_ไม่มีหนี้ ไม่เหลือเก็บ
3. ใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้_เหลือเก็บเสมอ...มีโอกาสมั่งคั่ง (สู้ สู้ ค่ะ)
.
ถ้ารายรับมาก..แต่ใช้จ่ายแบบ 1 และ 2 ก็รวยยาก
แต่ถ้าใช้จ่ายแบบ 3 แม้เงินเดือนน้อยก็ยังเหลือ
ยิ่งเงินเดือนมาก..ใช้จ่ายแบบที่ 3 ยิ่งมั่นคงเร็วค่ะ
(ประหยัด+ออม ไม่พอค่ะ..ควรลงทุนให้งอกเงยด้วย)
..................
อยากให้ผู้อ่านถามและตอบตัวเอง..ดังนี้ค่ะ
1. เราจะออมในสัดส่วนเพิ่มขึ้นได้หรือไม่?
2. เรากำลัง “ละทิ้งโอกาส” อยู่หรือเปล่านะ?
3. เราจะ "ปลูกผัก" หรือ "ปลูกไม้ผลยืนต้น" ดี?
.
(Theenuch_Team Money Talk 4)
...................
เด็กน้อยจาก “สานรักคนเก่งหัวใจแกร่ง”
มีชีวิตที่สะท้อนความ “ด้อยโอกาส” อยู่มาก
.
เธอเปรียบว่า ชีวิตของเธอเคยเป็นสีดำ
หากมีโอกาสได้เรียนจนจบได้ทำงานที่ดี
ชีวิตจะค่อยๆ กลายเป็นสีขาวได้
.
แม้จะรู้สึกท้อ แต่เธอก็สู้สุดใจ (ดูแล้วน้ำตาซึม)
เด็กคนนี้มีทัศนคติที่ดี...น่าชื่นชมมากเลยค่ะ
** บ้านที่มีลูกหลาน น่าเปิดให้ดูด้วยค่ะ **
.
ตัด clip ให้สั้นลง..มาให้ชมค่ะ
[youtube]xZcv0CgmC5c[/youtube]
.
ถ้ามีเวลาอยากให้ชมแบบเต็มๆ ได้จาก link นี้ค่ะ
[youtube]eZXzYu3E5yU[/youtube]
><><><><
ถ้าวันนี้เรามีงานทำ มีรายได้สม่ำเสมอ
ถือว่ามีโอกาสดีกว่าใครหลายคน
.
ถ้ามองสั้นๆ..คนที่มีรายรับมาก
มีโอกาสใช้ชีวิตสบายกว่าได้ทันที
.
แต่อยากชวนมองยาวๆ...ถ้าเราถือโอกาส
ออมเพิ่มนำเงินไปลงทุนให้งอกเงยก่อน
ค่อยใช้ดอกผลที่ได้..ทำให้ชีวิตสบายขึ้นภายหลัง
ก็ยังทัน...และจะสบายแบบยั่งยืนกว่าค่ะ
..................
เหมือนปลูกไม้ผลยืนต้น
แค่อดใจรอ...ก็จะได้ผลกินไปตลอด
ต้นโตขึ้นเรื่อยๆ แยกต้นไปปลูกอีกยังได้
(มี passive income ตลอดไป)
.
อย่าใช้ชีวิตเหมือนปลูกผัก...ได้กินเร็วกว่า
แต่ต้องปลูกใหม่เรื่อยๆ...ไม่ปลูกไม่มีกิน
(ถ้าไม่ไป active ก็ไม่มี income เข้า)
ต้องทำงาน (ปลูกผัก) ไปเรื่อย...ถึงจะมีกิน
เป็นไปไม่ได้ค่ะ..เพราะเราต้องเกษียณ..ในที่สุด
.............
ถ้าเราอดเปรี้ยวไว้กินหวานได้
วันข้างหน้า นอกจากครอบครัวของเรา
จะมีชีวิตที่ดีแล้ว ยังมีโอกาสช่วยเหลือ
ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าเราได้มากด้วยค่ะ
.
น่าเสียดายที่คนจำนวนไม่น้อย
เลือกใช้เงินหาความสุขเฉพาะหน้าไปก่อน
"ละทิ้งโอกาส" มีชีวิตที่ดีกว่าในระยะยาว
><><><>< ทำตารางมาฝากค่ะ...เปรียบเทียบ
หลายระดับเงินเดือน / หลายสัดส่วนการออม
และอยากให้ทบทวนว่า..การใช้จ่ายของเราเป็นแบบใด
.
1. ใช้จ่ายมากกว่ารายได้_เป็นหนี้ เป็นสิน
2. ใช้จ่ายพอดีกัยรายได้_ไม่มีหนี้ ไม่เหลือเก็บ
3. ใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้_เหลือเก็บเสมอ...มีโอกาสมั่งคั่ง (สู้ สู้ ค่ะ)
.
ถ้ารายรับมาก..แต่ใช้จ่ายแบบ 1 และ 2 ก็รวยยาก
แต่ถ้าใช้จ่ายแบบ 3 แม้เงินเดือนน้อยก็ยังเหลือ
ยิ่งเงินเดือนมาก..ใช้จ่ายแบบที่ 3 ยิ่งมั่นคงเร็วค่ะ
(ประหยัด+ออม ไม่พอค่ะ..ควรลงทุนให้งอกเงยด้วย)
..................
อยากให้ผู้อ่านถามและตอบตัวเอง..ดังนี้ค่ะ
1. เราจะออมในสัดส่วนเพิ่มขึ้นได้หรือไม่?
2. เรากำลัง “ละทิ้งโอกาส” อยู่หรือเปล่านะ?
3. เราจะ "ปลูกผัก" หรือ "ปลูกไม้ผลยืนต้น" ดี?
.
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 865
วันสบายๆ...โรงเรียนดนตรีในหมู่บ้าน
จัดเวทีเล็กๆ ให้นักเรียนได้แสดง
นักเรียนกีตาร์ 2 คน (น้องธีร์...คนขวา)
และนักร้องน่ารัก คือ นักเรียนเปียโน..ที่มาช่วยร้องเพลง
คุณครูเปียโน ช่วยเล่นเปียโน...ข้างๆ น้องธีร์ คือ คุณครูสอนกีตาร์
ช่วยกันทำมาหากินน่าดู...บรรยากาศงานน่ารักมากๆ ^__^
................
ขอบคุณบ้านดนตรีหลังเล็กนี้...ซึ่งเป็นที่รวมของเด็กๆ หลายรุ่น
เด็กๆ แวะไปเรียน ไปเล่น ไปซ้อม ไปทำกิจกรรมร่วมกันได้ตลอดเวลา
เจ้าของบ้านคือพ่อแม่ของคุณครูเอง...ที่รักเด็กๆ เหมือนลูกหลาน
ที่สำคัญสอนคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัย ด้วยเท่าที่จะมีโอกาส
[youtube]4-ilGoHN7s0[/youtube]
จัดเวทีเล็กๆ ให้นักเรียนได้แสดง
นักเรียนกีตาร์ 2 คน (น้องธีร์...คนขวา)
และนักร้องน่ารัก คือ นักเรียนเปียโน..ที่มาช่วยร้องเพลง
คุณครูเปียโน ช่วยเล่นเปียโน...ข้างๆ น้องธีร์ คือ คุณครูสอนกีตาร์
ช่วยกันทำมาหากินน่าดู...บรรยากาศงานน่ารักมากๆ ^__^
................
ขอบคุณบ้านดนตรีหลังเล็กนี้...ซึ่งเป็นที่รวมของเด็กๆ หลายรุ่น
เด็กๆ แวะไปเรียน ไปเล่น ไปซ้อม ไปทำกิจกรรมร่วมกันได้ตลอดเวลา
เจ้าของบ้านคือพ่อแม่ของคุณครูเอง...ที่รักเด็กๆ เหมือนลูกหลาน
ที่สำคัญสอนคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัย ด้วยเท่าที่จะมีโอกาส
[youtube]4-ilGoHN7s0[/youtube]
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 866
ฝีมือเกินตัวฮะ..
สงสัยเป็นศิษย์โปรด เลยได้เล่นทาคามิเนะตัวใหญ่ ไม่คาดคาโป้ด้วย
ท่าจะเมื่อยมือเจ็บนิ้วกว่าเพื่อนตัวใหญ่ที่ได้เล่นกีต้าร์ตัวเล็กคาดคาโป้นะฮะ
ไม่ลองเบบี้เทเล่อร์ตัวเล็กก่อนหรือฮะ หรือยามาฮ่ารุ่นเอพีเอ็กซ์สายเอ็นก็ได้
เกรงว่าเล่นตัวใหญ่ๆจะหนักมือหมดสนุกไปซะก่อน..
สงสัยเป็นศิษย์โปรด เลยได้เล่นทาคามิเนะตัวใหญ่ ไม่คาดคาโป้ด้วย
ท่าจะเมื่อยมือเจ็บนิ้วกว่าเพื่อนตัวใหญ่ที่ได้เล่นกีต้าร์ตัวเล็กคาดคาโป้นะฮะ
ไม่ลองเบบี้เทเล่อร์ตัวเล็กก่อนหรือฮะ หรือยามาฮ่ารุ่นเอพีเอ็กซ์สายเอ็นก็ได้
เกรงว่าเล่นตัวใหญ่ๆจะหนักมือหมดสนุกไปซะก่อน..
samatah
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 867
ขอบคุณมากเลยค่ะพี่หมอหนึ่งdr1 เขียน:ฝีมือเกินตัวฮะ..
สงสัยเป็นศิษย์โปรด เลยได้เล่นทาคามิเนะตัวใหญ่ ไม่คาดคาโป้ด้วย
ท่าจะเมื่อยมือเจ็บนิ้วกว่าเพื่อนตัวใหญ่ที่ได้เล่นกีต้าร์ตัวเล็กคาดคาโป้นะฮะ
ไม่ลองเบบี้เทเล่อร์ตัวเล็กก่อนหรือฮะ หรือยามาฮ่ารุ่นเอพีเอ็กซ์สายเอ็นก็ได้
เกรงว่าเล่นตัวใหญ่ๆจะหนักมือหมดสนุกไปซะก่อน..
พอดีน้องเพิ่งเรียนไม่นานค่ะ
เรียนกับคุณครูเต้นท์ ใน clip ยังไม่ถึง 20 ครั้ง เลยค่ะ
คุณแม่เลยให้ใช้กีตาร์พื้นๆ YAMAHA C40
ที่เขาใช้เรียนในชั่วโมงดนตรีที่โรงเรียนไปก่อนค่ะ
แต่อาศัยว่ามีพื้นเปียโนมาก่อน
เรื่อง "อ่านโน๊ต" และ "การฟัง" จึงดีพอสมควรค่ะ
ยังไม่รู้ว่าเขาจะชอบแบบไหน หรือควรจะพัฒนาด้านไหนแน่
ระหว่าง classic flok หรือ acoustic
หรือ มีแนวไหนอีกหนอ (ตัวเองและคุณพ่อเขาเล่นดนตรีไม่เป็นกันเลยค่ะ)
เลยว่าจะให้คุณครูและตัวเขาช่วยกันเลือกอีกครั้ง
ค่อยซื้อกีตาร์ที่เหมาะสมให้ค่ะ
พอบอกลูกว่าคุณลุงบอกว่าใช้กีตาร์ "ทาคามิเนะตัวใหญ่ ไม่คาดคาโป้ด้วย"
เขาดีใจใหญ่และบอกว่าคุณลุงเล่นกีตาร์เก่งแน่ๆ
ฝากให้มาถามว่าคุณลุงหมอหนึ่งมีคำแนะนำบ้างไหม
ทั้งเรื่องการเลือกซื้อกีตาร์ แนวการเล่น และอื่นๆ ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะพี่หมอหนึ่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 868
กีต้าร์มันก็แค่อุปกรณ์ตัวนึงฮะ
อีตอนเล่นใหม่ๆเนี่ย เราก็อยากได้ตามไอด้อลลที่เค้าเล่นกัน
เห็นจอห์น เดนเวอร์เลล่นกิลด์จัมโบ้สิบสองสาย
เห็นเกลน แคมเบลเล่นโอเวชั่น
เห็นทอมมี่ เอมมานูเอลเล่นเมตั้น
เห็นอีริค แคลปตั้น เล่นมาร์ตินทริปเปิ้ลโอ
เห็นอีเกิ้ลเล่นทาคามีเนะ ๆลๆ สารพัดกิเลส
เอาเข้าจริิง กีต้าร์ที่"เหมาะสม เป็นเนื้อคู่"กับเรามากที่สุด
มักเป็นมือสองธรรมดาถุกๆนี่แหละฮะ ตัวแพงๆที่อยากได้มานาน พอมีตังค์ซื้อ ก็มักเก็บไว้ เสียดาย
ลองพาน้องธีร์ไปตามร้านมือสองดูฮะ พวกจากญี่ปุ่น หรือหน้าซื้อขายในเวปก็ได้
ลองไปเรื่อยๆ สักวันจะเจอเอง หยิบขึ้นมา เข้ามือปิ๊ง..เสียงกังวาลทัชชิ่งนิ่มตลอดคอ ไม่ต้องดูยี่ห้อรึรุ่นรึสเปคไรทั้งนั้น
มักเป็นทรงคลาสสิก สานไนล่อนธรรมดาเนี่ยแหละ
กะทรงเล็กที่ไม่ใช่เดรดนอท ไม่ใช่จัมโบ้(เล่นเแล้วดูเท่ห์ แต่เหนื่อย เหมือนขับรถโฟร์วีลรึบิคไบค์คันใหญ่ๆในถนนเล็กๆรถติดไรเงียะ)
คือทรงที่มาร์ตินเค้าเรียกทริิปเปิ้ลโอ เทเล่อร์เรียกออดิทอเรี่ยมอะไรราวนี้
นึกไม่ออกดูกีต้าร์ของสแตมป์ กะทอมมี่ เอมมานูเอลดูฮะ กากๆพังๆผ่านศึกมาแล้วแบบนั้นแหละ
ค่อยๆดูไป เด๋วเจอเนื้อคู่เองฮะ (เลือกกีต้าร์แบบวีไอ อิอิ)
อีตอนเล่นใหม่ๆเนี่ย เราก็อยากได้ตามไอด้อลลที่เค้าเล่นกัน
เห็นจอห์น เดนเวอร์เลล่นกิลด์จัมโบ้สิบสองสาย
เห็นเกลน แคมเบลเล่นโอเวชั่น
เห็นทอมมี่ เอมมานูเอลเล่นเมตั้น
เห็นอีริค แคลปตั้น เล่นมาร์ตินทริปเปิ้ลโอ
เห็นอีเกิ้ลเล่นทาคามีเนะ ๆลๆ สารพัดกิเลส
เอาเข้าจริิง กีต้าร์ที่"เหมาะสม เป็นเนื้อคู่"กับเรามากที่สุด
มักเป็นมือสองธรรมดาถุกๆนี่แหละฮะ ตัวแพงๆที่อยากได้มานาน พอมีตังค์ซื้อ ก็มักเก็บไว้ เสียดาย
ลองพาน้องธีร์ไปตามร้านมือสองดูฮะ พวกจากญี่ปุ่น หรือหน้าซื้อขายในเวปก็ได้
ลองไปเรื่อยๆ สักวันจะเจอเอง หยิบขึ้นมา เข้ามือปิ๊ง..เสียงกังวาลทัชชิ่งนิ่มตลอดคอ ไม่ต้องดูยี่ห้อรึรุ่นรึสเปคไรทั้งนั้น
มักเป็นทรงคลาสสิก สานไนล่อนธรรมดาเนี่ยแหละ
กะทรงเล็กที่ไม่ใช่เดรดนอท ไม่ใช่จัมโบ้(เล่นเแล้วดูเท่ห์ แต่เหนื่อย เหมือนขับรถโฟร์วีลรึบิคไบค์คันใหญ่ๆในถนนเล็กๆรถติดไรเงียะ)
คือทรงที่มาร์ตินเค้าเรียกทริิปเปิ้ลโอ เทเล่อร์เรียกออดิทอเรี่ยมอะไรราวนี้
นึกไม่ออกดูกีต้าร์ของสแตมป์ กะทอมมี่ เอมมานูเอลดูฮะ กากๆพังๆผ่านศึกมาแล้วแบบนั้นแหละ
ค่อยๆดูไป เด๋วเจอเนื้อคู่เองฮะ (เลือกกีต้าร์แบบวีไอ อิอิ)
samatah
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 869
เป็นคำแนะนำที่สุดยอดจริงๆ ค่ะพี่หมอหนึ่ง....ขอบคุณมากๆdr1 เขียน:กีต้าร์มันก็แค่อุปกรณ์ตัวนึงฮะ
อีตอนเล่นใหม่ๆเนี่ย เราก็อยากได้ตามไอด้อลลที่เค้าเล่นกัน
เห็นจอห์น เดนเวอร์เลล่นกิลด์จัมโบ้สิบสองสาย
เห็นเกลน แคมเบลเล่นโอเวชั่น
เห็นทอมมี่ เอมมานูเอลเล่นเมตั้น
เห็นอีริค แคลปตั้น เล่นมาร์ตินทริปเปิ้ลโอ
เห็นอีเกิ้ลเล่นทาคามีเนะ ๆลๆ สารพัดกิเลส
เอาเข้าจริิง กีต้าร์ที่"เหมาะสม เป็นเนื้อคู่"กับเรามากที่สุด
มักเป็นมือสองธรรมดาถุกๆนี่แหละฮะ ตัวแพงๆที่อยากได้มานาน พอมีตังค์ซื้อ ก็มักเก็บไว้ เสียดาย
ลองพาน้องธีร์ไปตามร้านมือสองดูฮะ พวกจากญี่ปุ่น หรือหน้าซื้อขายในเวปก็ได้
ลองไปเรื่อยๆ สักวันจะเจอเอง หยิบขึ้นมา เข้ามือปิ๊ง..เสียงกังวาลทัชชิ่งนิ่มตลอดคอ ไม่ต้องดูยี่ห้อรึรุ่นรึสเปคไรทั้งนั้น
มักเป็นทรงคลาสสิก สานไนล่อนธรรมดาเนี่ยแหละ
กะทรงเล็กที่ไม่ใช่เดรดนอท ไม่ใช่จัมโบ้(เล่นเแล้วดูเท่ห์ แต่เหนื่อย เหมือนขับรถโฟร์วีลรึบิคไบค์คันใหญ่ๆในถนนเล็กๆรถติดไรเงียะ)
คือทรงที่มาร์ตินเค้าเรียกทริิปเปิ้ลโอ เทเล่อร์เรียกออดิทอเรี่ยมอะไรราวนี้
นึกไม่ออกดูกีต้าร์ของสแตมป์ กะทอมมี่ เอมมานูเอลดูฮะ กากๆพังๆผ่านศึกมาแล้วแบบนั้นแหละ
ค่อยๆดูไป เด๋วเจอเนื้อคู่เองฮะ (เลือกกีต้าร์แบบวีไอ อิอิ)
ชอบ (เลือกกีต้าร์แบบวีไอ) มากๆ เลยค่ะ ^___^