VI บ้าน ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 781
ขอแสดงความยินดีกับคุณนุชอย่างยิ่ง
ที่บรรลุเป้าหมายอิสระภาพทางการเงินและเกษียณอายุราชการได้แล้ว
ผมเองคงได้แต่คิดฝันตอนหลับ ตื่นมาคิดถึงเรื่องเลิกทำงานก็หนาวหัวใจ
เสียดายรายได้ส่วนหนึ่ง เป็นคนขี้งก.. กลัวว่างเกินอย่างนึงเพราะตัวเองขาดวินัย
และยังคาดหวังค่ายาค่าหมอจากบริษัทอยู่
ขอรอเค้าเกษียณให้อยู่ คงได้ตามแนวทางคุณนุชปีสองปีหน้านี้ครับ
ที่บรรลุเป้าหมายอิสระภาพทางการเงินและเกษียณอายุราชการได้แล้ว
ผมเองคงได้แต่คิดฝันตอนหลับ ตื่นมาคิดถึงเรื่องเลิกทำงานก็หนาวหัวใจ
เสียดายรายได้ส่วนหนึ่ง เป็นคนขี้งก.. กลัวว่างเกินอย่างนึงเพราะตัวเองขาดวินัย
และยังคาดหวังค่ายาค่าหมอจากบริษัทอยู่
ขอรอเค้าเกษียณให้อยู่ คงได้ตามแนวทางคุณนุชปีสองปีหน้านี้ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 782
อยู่กับปัจจุบัน..กันจริงหรือ? (2)
(Theenuch_Team Money Talk 4)
.................. ครั้งหนึ่งที่ทำงานส่งไปอบรม ถึงก่อนเวลานาน
ไปนั่งร้านโจ๊กเล็กๆ มีโต๊ะน้อย..จึงมีผู้หญิงคนนึงมานั่งด้วย
คุยเก่งมากๆ ชีวิต สังคม ปรัชญา ธรรมะ ดูตกผลึกสุดๆ
และไม่พลาดคำที่ "ผู้ (คล้ายจะ) บรรลุ" เขานิยมพูดกัน
.
"ชีวิตคนเราต้องอยู่กับปัจจุบัน” ใช้ชีวิตในปัจจุบันให้เต็มที่
เงินมีต้องใช้ มัวแต่เก็บ ตายเร็วขึ้นมาอดใช้ เอาติดตัวไปก็ไม่ได้
เก็บไว้อมในปากตอนตาย เหรียญเดียวก็พอ ฟังปุ๊บ รู้ปั๊บเลย
เจอกระแสปล่อยวาง กระแสอยู่กับปัจจุบัน (แบบผิดๆ) แน่แล้ว
(ได้ยินทีไร..ก็อยากถามว่า..ถ้าเงินหมดแล้วไม่ตาย..ทำไง?)
.
สายตาที่มุ่งมั่นมองข้ามไหล่เรา..ไกลออกไป_นิ่งและเนิ่นนาน
.
ขอตัวแป๊บ! มองตามไป..ที่แท้ ปลายสายตา คือ
คนขายล๊อตเตอรี่! "เลขดัง..มัวรอ เดี๋ยวเหลือไม่เต็มชุด"
ยิ้มกว้าง "เนี่ย ลุ้นโชคกับชา.ABC ด้วย" กินไปเยอะ
.
"อยู่กับปัจจุบัน"..แต่แอบหวังไปในอนาคต...หวังเยอะซะด้วย!
(บอกว่า_ไว้อมเหรียญเดียวพอ แล้วจะถูกหวย ถูกรางวัลไปไหน?)
..................
สังเกตว่า “ใช้ชีวิตให้เต็มที่” ที่ติดปากผู้คน..มักจะออกแนว
กิน เที่ยว ช้อป (สุขนิยม) ให้เต็มที่...ไม่ค่อยเห็นชวนให้
"มุ่งมั่น พยายามออม หรือ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” ให้เต็มที่
คงเพราะ..กว่าจะเห็นผลหลายปี...เลยจินตนาการไม่ถึง
ออม /ลงทุน 10 ปี มี passive income หลังเกษียณ (ไม่ get!)
.
แต่ถ้า buy 1 get 1 free_0% 10 เดือน..(get!..ทันใด)
..................
เชื่อว่า ผู้อ่านคงเคยเจอ (กระแส) “อยู่กับปัจจุบัน” มาบ้าง
ดูดีๆ ค่ะ..คนพูด "อยู่กับปัจจุบัน (ในบริบทที่ถูกต้อง) จริงหรือ?"
.
เจอชวนคิดแบบนี้เยอะ..แต่เรายังคงประหยัด ออม และลงทุน
อย่างมุ่งมั่น...จนถึงวันนี้...เรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว
แต่คนที่ใช้เงินสร้างความสุขในปัจจุบันเต็มที่...หลายคนยังอยู่ที่เดิม
เขายังไม่เดือดร้อนหรอก..จนกว่าจะถึงวันที่ไม่มีรายรับแล้ว
แต่รายจ่ายดันเพิ่ม..เพราะยิ่งสูงวัยปัญหาสุขภาพมักเพิ่มขึ้น
ถ้าถึงวันนั้น จึงค่อยเริ่มรู้สึกกัน..อาจจะสายไปนะคะ
..................
ทางที่ดี...เราควรนำตนเองได้..พิจารณาดีๆ อย่าเชื่อใครง่าย
ถ้าต้องหาแนวทางเพื่อเดินตาม ก็เลือกดีๆ นะคะ...เอาของจริง
ติดตาม Money Talk นี่แหละค่ะ อาจารย์ทุกท่านคือของจริง
.
และต้องไม่ลืมที่ว่า "ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ"
ถ้าอยากให้ผลในอนาคตดี..ก็ "ทำเหตุในปัจจุบันให้ดี"
จึงจะเรียกได้ว่า "อยู่กับปัจจุบัน" อย่างมีเหตุผลค่ะ
....................
หลายเรื่องในชีวิต...ถ้าจะทำปัจจุบันให้ดีจนส่งผลให้อนาคตดีได้นั้น
ต้องผ่านการตั้งเป้าหมายและการวางแผนที่ดี เช่นเรื่องการเงิน
เงินเท่าใดจึงจะพอในวัยเกษียณ เงินนั้นต้องสร้างผลตอบแทนเท่าใด
จึงจะหนีเงินเฟ้อพ้น จะนำเงินไปไว้ที่ใดจึงจะตอบโจทย์
หรือ การศึกษา เรียนสาขาไหนขาดแคลน สาขาไหนล้นตลาด ฯลฯ
และในความเป็นจริง แผนเดียวยังไม่พอ อาจต้องมีแผนสอง สาม สี่ รอไว้เลย
เผื่อไม่เป้นไปตามนั้น จะได้ไม่รวน.. มีทางเลือกอื่นที่ผ่านกระบวนการคิดที่ดีแล้วรออยู่
ถ้าเรามีแผนดังกล่าวเรียบร้อย ก็แค่ทำปัจจุบันให้ดี เหมือนที่บอกไว้ใน
"อยู่กับปัจจุบัน...กันจริงหรือ? (1) และที่อาจารย์ท่านกล่าวถึงใน vdo clip
"เส้นทางการเงินของมุนษเงินเดือน" 1 และ 2 ค่ะ
**เส้นทางการเงินของมุนษเงินเดือน (1) **
https://www.facebook.com/MoneyTalkTV/po ... tif_t=like
**เส้นทางการเงินของมุนษเงินเดือน (2) **
https://www.facebook.com/MoneyTalkTV/po ... tif_t=like
ก่อนชีวิตในปัจจุบันจะ "ง่ายๆ" ได้
ควรวางแผนอย่างเข้มงวดมาก่อน เพื่อเอาไว้เดินตามอย่างง่ายๆ ค่ะ
.
ถ้าหวังจะง่ายๆ แต่ต้น...อาจไปยากตอนท้ายๆ ค่ะ ^__^
(Theenuch_Team Money Talk 4)
.................. ครั้งหนึ่งที่ทำงานส่งไปอบรม ถึงก่อนเวลานาน
ไปนั่งร้านโจ๊กเล็กๆ มีโต๊ะน้อย..จึงมีผู้หญิงคนนึงมานั่งด้วย
คุยเก่งมากๆ ชีวิต สังคม ปรัชญา ธรรมะ ดูตกผลึกสุดๆ
และไม่พลาดคำที่ "ผู้ (คล้ายจะ) บรรลุ" เขานิยมพูดกัน
.
"ชีวิตคนเราต้องอยู่กับปัจจุบัน” ใช้ชีวิตในปัจจุบันให้เต็มที่
เงินมีต้องใช้ มัวแต่เก็บ ตายเร็วขึ้นมาอดใช้ เอาติดตัวไปก็ไม่ได้
เก็บไว้อมในปากตอนตาย เหรียญเดียวก็พอ ฟังปุ๊บ รู้ปั๊บเลย
เจอกระแสปล่อยวาง กระแสอยู่กับปัจจุบัน (แบบผิดๆ) แน่แล้ว
(ได้ยินทีไร..ก็อยากถามว่า..ถ้าเงินหมดแล้วไม่ตาย..ทำไง?)
.
สายตาที่มุ่งมั่นมองข้ามไหล่เรา..ไกลออกไป_นิ่งและเนิ่นนาน
.
ขอตัวแป๊บ! มองตามไป..ที่แท้ ปลายสายตา คือ
คนขายล๊อตเตอรี่! "เลขดัง..มัวรอ เดี๋ยวเหลือไม่เต็มชุด"
ยิ้มกว้าง "เนี่ย ลุ้นโชคกับชา.ABC ด้วย" กินไปเยอะ
.
"อยู่กับปัจจุบัน"..แต่แอบหวังไปในอนาคต...หวังเยอะซะด้วย!
(บอกว่า_ไว้อมเหรียญเดียวพอ แล้วจะถูกหวย ถูกรางวัลไปไหน?)
..................
สังเกตว่า “ใช้ชีวิตให้เต็มที่” ที่ติดปากผู้คน..มักจะออกแนว
กิน เที่ยว ช้อป (สุขนิยม) ให้เต็มที่...ไม่ค่อยเห็นชวนให้
"มุ่งมั่น พยายามออม หรือ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” ให้เต็มที่
คงเพราะ..กว่าจะเห็นผลหลายปี...เลยจินตนาการไม่ถึง
ออม /ลงทุน 10 ปี มี passive income หลังเกษียณ (ไม่ get!)
.
แต่ถ้า buy 1 get 1 free_0% 10 เดือน..(get!..ทันใด)
..................
เชื่อว่า ผู้อ่านคงเคยเจอ (กระแส) “อยู่กับปัจจุบัน” มาบ้าง
ดูดีๆ ค่ะ..คนพูด "อยู่กับปัจจุบัน (ในบริบทที่ถูกต้อง) จริงหรือ?"
.
เจอชวนคิดแบบนี้เยอะ..แต่เรายังคงประหยัด ออม และลงทุน
อย่างมุ่งมั่น...จนถึงวันนี้...เรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว
แต่คนที่ใช้เงินสร้างความสุขในปัจจุบันเต็มที่...หลายคนยังอยู่ที่เดิม
เขายังไม่เดือดร้อนหรอก..จนกว่าจะถึงวันที่ไม่มีรายรับแล้ว
แต่รายจ่ายดันเพิ่ม..เพราะยิ่งสูงวัยปัญหาสุขภาพมักเพิ่มขึ้น
ถ้าถึงวันนั้น จึงค่อยเริ่มรู้สึกกัน..อาจจะสายไปนะคะ
..................
ทางที่ดี...เราควรนำตนเองได้..พิจารณาดีๆ อย่าเชื่อใครง่าย
ถ้าต้องหาแนวทางเพื่อเดินตาม ก็เลือกดีๆ นะคะ...เอาของจริง
ติดตาม Money Talk นี่แหละค่ะ อาจารย์ทุกท่านคือของจริง
.
และต้องไม่ลืมที่ว่า "ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ"
ถ้าอยากให้ผลในอนาคตดี..ก็ "ทำเหตุในปัจจุบันให้ดี"
จึงจะเรียกได้ว่า "อยู่กับปัจจุบัน" อย่างมีเหตุผลค่ะ
....................
หลายเรื่องในชีวิต...ถ้าจะทำปัจจุบันให้ดีจนส่งผลให้อนาคตดีได้นั้น
ต้องผ่านการตั้งเป้าหมายและการวางแผนที่ดี เช่นเรื่องการเงิน
เงินเท่าใดจึงจะพอในวัยเกษียณ เงินนั้นต้องสร้างผลตอบแทนเท่าใด
จึงจะหนีเงินเฟ้อพ้น จะนำเงินไปไว้ที่ใดจึงจะตอบโจทย์
หรือ การศึกษา เรียนสาขาไหนขาดแคลน สาขาไหนล้นตลาด ฯลฯ
และในความเป็นจริง แผนเดียวยังไม่พอ อาจต้องมีแผนสอง สาม สี่ รอไว้เลย
เผื่อไม่เป้นไปตามนั้น จะได้ไม่รวน.. มีทางเลือกอื่นที่ผ่านกระบวนการคิดที่ดีแล้วรออยู่
ถ้าเรามีแผนดังกล่าวเรียบร้อย ก็แค่ทำปัจจุบันให้ดี เหมือนที่บอกไว้ใน
"อยู่กับปัจจุบัน...กันจริงหรือ? (1) และที่อาจารย์ท่านกล่าวถึงใน vdo clip
"เส้นทางการเงินของมุนษเงินเดือน" 1 และ 2 ค่ะ
**เส้นทางการเงินของมุนษเงินเดือน (1) **
https://www.facebook.com/MoneyTalkTV/po ... tif_t=like
**เส้นทางการเงินของมุนษเงินเดือน (2) **
https://www.facebook.com/MoneyTalkTV/po ... tif_t=like
ก่อนชีวิตในปัจจุบันจะ "ง่ายๆ" ได้
ควรวางแผนอย่างเข้มงวดมาก่อน เพื่อเอาไว้เดินตามอย่างง่ายๆ ค่ะ
.
ถ้าหวังจะง่ายๆ แต่ต้น...อาจไปยากตอนท้ายๆ ค่ะ ^__^
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 783
ขอบคุณมากค่ะพี่...หายไปนานเลยddoo7 เขียน:ขอแสดงความยินดีกับคุณนุชอย่างยิ่ง
ที่บรรลุเป้าหมายอิสระภาพทางการเงินและเกษียณอายุราชการได้แล้ว
ผมเองคงได้แต่คิดฝันตอนหลับ ตื่นมาคิดถึงเรื่องเลิกทำงานก็หนาวหัวใจ
เสียดายรายได้ส่วนหนึ่ง เป็นคนขี้งก.. กลัวว่างเกินอย่างนึงเพราะตัวเองขาดวินัย
และยังคาดหวังค่ายาค่าหมอจากบริษัทอยู่
ขอรอเค้าเกษียณให้อยู่ คงได้ตามแนวทางคุณนุชปีสองปีหน้านี้ครับ
...............
อยากให้อ่านบทความของพี่วิบูลย์ ครั้งถัดไป
เรื่อง "ลาออกมาเล่นหุ้น" ดีมากเลยค่ะ
ตอบโจทย์พี่ ddoo7 แน่นอนค่ะ
แต่ต้องรอให้ลงหนังสือพิมพ์ก่อน...จึงจะเผยแพร่ได้ค่ะ
..............
วันนี้ก็มีพี่คนนึงทำงานการบินไทย
มาบอกในหลังไมล์ fb ว่าจะลาออกมาลงทุนเต็มตัวบ้าง
แต่เท่าที่ถามเขายังมี passive income ไม่มากพอ
เลยบอกให้รออ่านบทความพี่วิบูลย์เหมือนกันค่ะ
..............
จะลงใน fb money talk วันพุธหน้า...เดี๋ยวจะนำมาฝากนะคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 784
ขอบคุณครับtheenuch เขียน:ขอบคุณมากค่ะพี่...หายไปนานเลยddoo7 เขียน:ขอแสดงความยินดีกับคุณนุชอย่างยิ่ง
ที่บรรลุเป้าหมายอิสระภาพทางการเงินและเกษียณอายุราชการได้แล้ว
ผมเองคงได้แต่คิดฝันตอนหลับ ตื่นมาคิดถึงเรื่องเลิกทำงานก็หนาวหัวใจ
เสียดายรายได้ส่วนหนึ่ง เป็นคนขี้งก.. กลัวว่างเกินอย่างนึงเพราะตัวเองขาดวินัย
และยังคาดหวังค่ายาค่าหมอจากบริษัทอยู่
ขอรอเค้าเกษียณให้อยู่ คงได้ตามแนวทางคุณนุชปีสองปีหน้านี้ครับ
...............
อยากให้อ่านบทความของพี่วิบูลย์ ครั้งถัดไป
เรื่อง "ลาออกมาเล่นหุ้น" ดีมากเลยค่ะ
ตอบโจทย์พี่ ddoo7 แน่นอนค่ะ
แต่ต้องรอให้ลงหนังสือพิมพ์ก่อน...จึงจะเผยแพร่ได้ค่ะ
..............
วันนี้ก็มีพี่คนนึงทำงานการบินไทย
มาบอกในหลังไมล์ fb ว่าจะลาออกมาลงทุนเต็มตัวบ้าง
แต่เท่าที่ถามเขายังมี passive income ไม่มากพอ
เลยบอกให้รออ่านบทความพี่วิบูลย์เหมือนกันค่ะ
..............
จะลงใน fb money talk วันพุธหน้า...เดี๋ยวจะนำมาฝากนะคะ
ผมก็ยังติดตามอ่านบทความดีๆ และฟังคุณนุชออกรายการบ่อยๆ
แต่ไม่ได้เขียนทักทาย
สำหรับการลาออกมาลงทุน ผมคงต้องคิดให้หนัก..ไม่ได้กลัวแม่บ้านหักคอ
หรือเสียดายเงินเดือน หรือรายได้จากเงินลงทุนไม่พอ
แต่เป็นว่าออกมาแล้วจะทำอะไร หรือให้เป็นสาระมากกว่า
ผมยังมีความคิด ..ติดใจอยู่ว่าการทำงานทำประโยชน์ให้ชีวิต ให้สังคมมากกว่า
ลาออกมาลงทุนอย่างเดียว... เหมือนท่านอาจารย์ไพบูลย์เคยพูดไว้
อันนี้ไม่ตั้งใจขัดอะไรนะครับ ผมยังขอศึกษาดูก่อน แต่ สักวันคงมีคนจัดให้เองแหละ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 785
ขอบคุณที่ยังติดตาม (ผลงานเล็กๆ น้อยๆ ) ค่ะddoo7 เขียน: ขอบคุณครับ
ผมก็ยังติดตามอ่านบทความดีๆ และฟังคุณนุชออกรายการบ่อยๆ
แต่ไม่ได้เขียนทักทาย
สำหรับการลาออกมาลงทุน ผมคงต้องคิดให้หนัก..ไม่ได้กลัวแม่บ้านหักคอ
หรือเสียดายเงินเดือน หรือรายได้จากเงินลงทุนไม่พอ
แต่เป็นว่าออกมาแล้วจะทำอะไร หรือให้เป็นสาระมากกว่า
ผมยังมีความคิด ..ติดใจอยู่ว่าการทำงานทำประโยชน์ให้ชีวิต ให้สังคมมากกว่า
ลาออกมาลงทุนอย่างเดียว... เหมือนท่านอาจารย์ไพบูลย์เคยพูดไว้
อันนี้ไม่ตั้งใจขัดอะไรนะครับ ผมยังขอศึกษาดูก่อน แต่ สักวันคงมีคนจัดให้เองแหละ
ตอนจะลาออกเองก็คิดประเด็นนี้มากๆ เลยค่ะ (เพราะสี้น้ำเงินนั่นแหละค่ะ)
ก็เรียนปรึกษาอาจารย์ด้วยว่าเราเกรงใจจังที่จะลาออก
(กลัวใครหาว่าลูกศิษย์อาจารย์ทำซะเอง..หรือเปล่านะ..คิดเยอะเลยค่ะ)
แต่อาจารย์ท่านบอกว่านุชทำประโยชน์แก่สังคมนะ
การช่วยเขียนบทความ และช่วยงาน fb money talk
และช่วยงานสมาคมก็ถือว่าทำประโยชน์ให้สังคม...ไม่ได้ออกมาเล่นหุ้นไปวันๆ....โล่ง เลยค่ะ
(และนุชก็ทำงานมานานแล้ว ตั้ง 25 ปี ใช้ทุนที่เรียนมาหมดแล้วหละ
ถ้าเป็นคนอื่น 25 ปี แก่มากไปแล้ว
นุชเริ่มทำงานเร็วเลยยังไม่แก่เท่าไหร่ (และหน้าเด็กด้วย 555+))
สีชมพูอาจารย์ท่านไม่ได้บอก...นุชบอกเองค่ะพี่
ขอให้พี่พบทางที่ลงตัวสำหรับพี่ที่สุดนะคะ
รอชมบ้านไม้เล็กๆ ในสวนของพี่อยู่ด้วยค่ะ (จำผิดคนหรือเปล่าเรา )
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 786
ผมอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ จะเลือกเงินหรือว่าชีวิต " your money or your life "
เป็นหนังสือการเงินที่แปลมา แต่หน้าสนใจเพราะคนที่เขียนคำนำ คือ พระ อ ไพศาล วิสาโร
เป็นหนังสือการเงินที่พระแนะนำให้อ่าน
โดยเนื้อหารวมๆเน้นปรับทัศนคติมากกว่า เกี่ยวกับการเอาเวลาแลกเงิน มีข้อหนึ่งซึ่งผมคิดว่าจริง
"งานที่แท้จริง(ที่เราควรใช้เวลาในชีวิตไปทำ) คือ งานที่ถึงแม้จะไม่ได้เงิน เราก็ยังทำเพราะงานนั้นเพิ้มความอิ่มเอิบใจให้กับเรา"
ขอให้สนุกกับชีวิตครับพี่นุชและพี่ๆท่านอื่น
เป็นหนังสือการเงินที่แปลมา แต่หน้าสนใจเพราะคนที่เขียนคำนำ คือ พระ อ ไพศาล วิสาโร
เป็นหนังสือการเงินที่พระแนะนำให้อ่าน
โดยเนื้อหารวมๆเน้นปรับทัศนคติมากกว่า เกี่ยวกับการเอาเวลาแลกเงิน มีข้อหนึ่งซึ่งผมคิดว่าจริง
"งานที่แท้จริง(ที่เราควรใช้เวลาในชีวิตไปทำ) คือ งานที่ถึงแม้จะไม่ได้เงิน เราก็ยังทำเพราะงานนั้นเพิ้มความอิ่มเอิบใจให้กับเรา"
ขอให้สนุกกับชีวิตครับพี่นุชและพี่ๆท่านอื่น
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 787
ขอบคุณครับพี่ เป็นข้อคิดที่ดีมากครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 788
เสียดายเห็นข้อความช้า เมื่อวานไปห้างมาNutth147 เขียน:ผมอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ จะเลือกเงินหรือว่าชีวิต " your money or your life "
เป็นหนังสือการเงินที่แปลมา แต่หน้าสนใจเพราะคนที่เขียนคำนำ คือ พระ อ ไพศาล วิสาโร
เป็นหนังสือการเงินที่พระแนะนำให้อ่าน
โดยเนื้อหารวมๆเน้นปรับทัศนคติมากกว่า เกี่ยวกับการเอาเวลาแลกเงิน มีข้อหนึ่งซึ่งผมคิดว่าจริง
"งานที่แท้จริง(ที่เราควรใช้เวลาในชีวิตไปทำ) คือ งานที่ถึงแม้จะไม่ได้เงิน เราก็ยังทำเพราะงานนั้นเพิ้มความอิ่มเอิบใจให้กับเรา"
ขอให้สนุกกับชีวิตครับพี่นุชและพี่ๆท่านอื่น
ถ้าเห็นก่อน คงได้ซื้อมาอ่านแล้ว
ไม่เป็นไรไว้ครั้งหน้า...ขอบคุณมากๆ เลยค่ะน้องนัท
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 789
แถวบริษัทบอยเป็นยังไงกันบ้างแล้วเอ่ย?CONNICHIWA เขียน:ขอบคุณครับพี่ เป็นข้อคิดที่ดีมากครับ
น้องที่ท้องคลอดหรือยังคะ
วันนั้นน้องผู้หญิงที่เข้ามาทีหลังนั้นดูเขาตั้งใจฟังมากนะพี่ว่า
น้องผู้ชายคนที่บอกว่าไม่เคยมีหนี้บัตรเครดิตนั่นก็เยี่ยม
ยังต้องขอบคุณพี่สองคนนั้น ที่เปิดใจเล่าเรื่องบัตรเครดิตด้วย
และขอชมว่าเขาเก่งมากที่เกือบจะปลดหนี้บัตรเครดิตได้แล้ว
แม้จะมีการโต้แย้งเเรื่องความประหยัดจากพี่คนนึง
แต่พี่เชื่อว่า...วันว่างๆ เขาอาจเก็บไปคิด
เพราะเขาตั้งใจฟังมากๆ แม้ยังไม่เห็นด้วยในทันทีแต่พี่ว่าเขาจำได้
ภาพต้นไม้ที่ออกดอกออกผลเป็นเงิน และยังค่อยๆ โตขึ้นด้วย
ภาพก๊อกน้ำที่เปิดออกมาเป็นเงิน
ซึ่งหมายถึง passive income ที่พี่พยายามบอกนั่นเอง
............
วันนั้น...เป็นวันที่พี่ชอบมากวันนึงเลยหละ
ได้ความรู้เรื่องการเจรจาหนี้บัตรเครดิตกลับมาอีกด้วย
เป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ตั้งใจมาก ชวนกันคุย ช่วยกันคิด active กันมาก
ขอบคุณบอย และฝากขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ ^__^
-
- Verified User
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 790
ยินดีกับคุณนุชด้วยครับที่ได้อิสรภาพทางการเงินตั้งแตยังอายุน้อย
เป็นเรื่องบังเอิญที่ผมก็เพิ่งearly retireมาเมื่อเดือนเมษายนนี้เอง
แต่ผมอาย50กว่าแล้ว แก่กว่าคุณนุชเยอะ
ผมเป็นกุมารแพทย์โรงพยาบาลเอกชน
ภรรยายังบ่นอยู่ทุกวันนี้ เสียดายเงินเดิอนที่ค่อนข้างสูง
แต่สําหรับตัวผมเองแล้ว
รู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงทีมีความสุขที่สุดในชีวิต
ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีความกังวลอะไรเลย
ทําแต่ในสิ่งที่อยากทํา ไม่ต้องทนฝืนใจทําในสิ่งต่างๆ
สุดท้ายอยากบอกว่า
ขอต้อนรับสู่ "มหัศจรรย์ความสุขแห่งอิสรภาพทางการงิน"
เป็นเรื่องบังเอิญที่ผมก็เพิ่งearly retireมาเมื่อเดือนเมษายนนี้เอง
แต่ผมอาย50กว่าแล้ว แก่กว่าคุณนุชเยอะ
ผมเป็นกุมารแพทย์โรงพยาบาลเอกชน
ภรรยายังบ่นอยู่ทุกวันนี้ เสียดายเงินเดิอนที่ค่อนข้างสูง
แต่สําหรับตัวผมเองแล้ว
รู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงทีมีความสุขที่สุดในชีวิต
ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีความกังวลอะไรเลย
ทําแต่ในสิ่งที่อยากทํา ไม่ต้องทนฝืนใจทําในสิ่งต่างๆ
สุดท้ายอยากบอกว่า
ขอต้อนรับสู่ "มหัศจรรย์ความสุขแห่งอิสรภาพทางการงิน"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 791
ขอบคุณครับพี่theenuch เขียน:แถวบริษัทบอยเป็นยังไงกันบ้างแล้วเอ่ย?CONNICHIWA เขียน:ขอบคุณครับพี่ เป็นข้อคิดที่ดีมากครับ
น้องที่ท้องคลอดหรือยังคะ
วันนั้นน้องผู้หญิงที่เข้ามาทีหลังนั้นดูเขาตั้งใจฟังมากนะพี่ว่า
น้องผู้ชายคนที่บอกว่าไม่เคยมีหนี้บัตรเครดิตนั่นก็เยี่ยม
ยังต้องขอบคุณพี่สองคนนั้น ที่เปิดใจเล่าเรื่องบัตรเครดิตด้วย
และขอชมว่าเขาเก่งมากที่เกือบจะปลดหนี้บัตรเครดิตได้แล้ว
แม้จะมีการโต้แย้งเเรื่องความประหยัดจากพี่คนนึง
แต่พี่เชื่อว่า...วันว่างๆ เขาอาจเก็บไปคิด
เพราะเขาตั้งใจฟังมากๆ แม้ยังไม่เห็นด้วยในทันทีแต่พี่ว่าเขาจำได้
ภาพต้นไม้ที่ออกดอกออกผลเป็นเงิน และยังค่อยๆ โตขึ้นด้วย
ภาพก๊อกน้ำที่เปิดออกมาเป็นเงิน
ซึ่งหมายถึง passive income ที่พี่พยายามบอกนั่นเอง
............
วันนั้น...เป็นวันที่พี่ชอบมากวันนึงเลยหละ
ได้ความรู้เรื่องการเจรจาหนี้บัตรเครดิตกลับมาอีกด้วย
เป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ตั้งใจมาก ชวนกันคุย ช่วยกันคิด active กันมาก
ขอบคุณบอย และฝากขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ ^__^
พี่ดาคลอดแล้วครับ ตอนนี้ลาคลอด
วันนั้นทุกคนอยากจะฟังเป็นอย่างมาก แม้บางคนต้องการทางลัด
คนที่แย้งพี่ หัวหน้างานผมเองครับ
หลังจากวันนั้น ก็มาถามผมหลายครั้งว่า ถ้าจะลงทุนซื้อหุ้นตัวไหนดี 555 ผมไม่บอก
ผมบอกว่ากลัวบอกไปแล้วพี่ขาดทุน จะกลับมาด่าผม
หลังจากวันนั้นมีกลับมาถามผมหลายคนเกี่ยวกับการลงทุน ผมบอกให้สมัครเป็นสมาชิก T้haivi.org
ผมบอกชื่อหนังสือไปหลายเล่มให้ไปซื้ออ่าน อย่าพึ่งลงทุน
พอหลังๆ ก็เงียบไปไม่ค่อยมีใครถามแล้ว
ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าจะลงทุนเพื่อชีวิตแล้วละก็ ต้องทุ่มเท ไม่มีทางลัด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 792
ดีแล้วหละบอย ไม่มีทางลัดหรอกCONNICHIWA เขียน:ขอบคุณครับพี่theenuch เขียน:แถวบริษัทบอยเป็นยังไงกันบ้างแล้วเอ่ย?CONNICHIWA เขียน:ขอบคุณครับพี่ เป็นข้อคิดที่ดีมากครับ
น้องที่ท้องคลอดหรือยังคะ
วันนั้นน้องผู้หญิงที่เข้ามาทีหลังนั้นดูเขาตั้งใจฟังมากนะพี่ว่า
น้องผู้ชายคนที่บอกว่าไม่เคยมีหนี้บัตรเครดิตนั่นก็เยี่ยม
ยังต้องขอบคุณพี่สองคนนั้น ที่เปิดใจเล่าเรื่องบัตรเครดิตด้วย
และขอชมว่าเขาเก่งมากที่เกือบจะปลดหนี้บัตรเครดิตได้แล้ว
แม้จะมีการโต้แย้งเเรื่องความประหยัดจากพี่คนนึง
แต่พี่เชื่อว่า...วันว่างๆ เขาอาจเก็บไปคิด
เพราะเขาตั้งใจฟังมากๆ แม้ยังไม่เห็นด้วยในทันทีแต่พี่ว่าเขาจำได้
ภาพต้นไม้ที่ออกดอกออกผลเป็นเงิน และยังค่อยๆ โตขึ้นด้วย
ภาพก๊อกน้ำที่เปิดออกมาเป็นเงิน
ซึ่งหมายถึง passive income ที่พี่พยายามบอกนั่นเอง
............
วันนั้น...เป็นวันที่พี่ชอบมากวันนึงเลยหละ
ได้ความรู้เรื่องการเจรจาหนี้บัตรเครดิตกลับมาอีกด้วย
เป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ตั้งใจมาก ชวนกันคุย ช่วยกันคิด active กันมาก
ขอบคุณบอย และฝากขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ ^__^
พี่ดาคลอดแล้วครับ ตอนนี้ลาคลอด
วันนั้นทุกคนอยากจะฟังเป็นอย่างมาก แม้บางคนต้องการทางลัด
คนที่แย้งพี่ หัวหน้างานผมเองครับ
หลังจากวันนั้น ก็มาถามผมหลายครั้งว่า ถ้าจะลงทุนซื้อหุ้นตัวไหนดี 555 ผมไม่บอก
ผมบอกว่ากลัวบอกไปแล้วพี่ขาดทุน จะกลับมาด่าผม
หลังจากวันนั้นมีกลับมาถามผมหลายคนเกี่ยวกับการลงทุน ผมบอกให้สมัครเป็นสมาชิก T้haivi.org
ผมบอกชื่อหนังสือไปหลายเล่มให้ไปซื้ออ่าน อย่าพึ่งลงทุน
พอหลังๆ ก็เงียบไปไม่ค่อยมีใครถามแล้ว
ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าจะลงทุนเพื่อชีวิตแล้วละก็ ต้องทุ่มเท ไม่มีทางลัด
พี่ว่าเราชวนเขาสมัครสมาชิก thaivi ตั้งแต่วันก่อนแล้วเนอะ...ยังไม่สมัครกันหรอ
แต่บางทีหลายๆ คนเขาอาจยังอยู่ที่เรื่องการวางแผนการเงินก่อน...
ยังไปไม่ถึงการลงทุน และบางคนก็ไม่อยากรู้จักการลงทุน
พี่หัวหน้าบอยเขาบอกว่าเขากลังเงินสูญ เขามั่นใจที่จะฝากแบงค์มากกว่า พี่จำได้
ถ้าเขามาถามอีกก็แนะนำลงทุนพวกกองทุนรวมไปเลยก็ได้
Money Talk มีตอนที่อาจารย์ ดร.สมจินต์ อธิบายเรื่องกองทุนรวมหลายตอนเลย
แนะนำให้เขาดูก็ได้...ถือว่าเป็นการช่วยอย่างหนึ่งเหมือนกันค่ะ ^__^
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 793
ขอบคุณมากเลยค่ะพี่หมอ drspdrsp เขียน:ยินดีกับคุณนุชด้วยครับที่ได้อิสรภาพทางการเงินตั้งแตยังอายุน้อย
เป็นเรื่องบังเอิญที่ผมก็เพิ่งearly retireมาเมื่อเดือนเมษายนนี้เอง
แต่ผมอาย50กว่าแล้ว แก่กว่าคุณนุชเยอะ
ผมเป็นกุมารแพทย์โรงพยาบาลเอกชน
ภรรยายังบ่นอยู่ทุกวันนี้ เสียดายเงินเดิอนที่ค่อนข้างสูง
แต่สําหรับตัวผมเองแล้ว
รู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงทีมีความสุขที่สุดในชีวิต
ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีความกังวลอะไรเลย
ทําแต่ในสิ่งที่อยากทํา ไม่ต้องทนฝืนใจทําในสิ่งต่างๆ
สุดท้ายอยากบอกว่า
ขอต้อนรับสู่ "มหัศจรรย์ความสุขแห่งอิสรภาพทางการงิน"
จำได้ว่าเคยฝากตัวเป็นน้องพี่...ในกระทู้ธรรมะนานมากแล้วค่ะ
ยินดีกับพี่ด้วยเช่นกันค่ะ...สบายใจจริงๆ รู้สึกเหมือนกันเลยค่ะพี่ (สีน้ำเงิน)
ที่บ้านไม่มีคนทำงานบ้าน เมื่อก่อนนี้เราต้องรอทำเสาร์-อาทิตย์
บางอย่างก็แบ่งมาทำกลางคืนวันธรรมดาได้บ้าง เช่น รีดผ้า ขัดห้องน้ำ
แต่งานอื่นๆ เช่นซักผ้าถูกบ้านควรทำกลางวันเพราะต้องอาศัยแดดช่วย
ของที่บ้านเลยกลายเป็น หยุดเสาร์-อาทิตย์ หยุดเพื่อทำงานบ้านค่ะ
ตอนนี้สบายแล้ว วันนี้ทำงานบ้านเพลินเลยค่ะ
ซักผ้า ระหว่างผ้ารุ่นที่ 1 ไปปั่นหมาด ก็เอามุ้งลวดมาล้าง
สุดท้ายเอาน้ำที่เหลือทั้งหมดไปล้างโรงรถต่อค่ะ...เพลินเลย
พรุ่งนี้ก็ว่าจะล้างพัดลม และมุ้งลวดที่เหลือ ทยอยๆ ได้
ไม่ต้องไปอัดแน่นอยู่วันเสาร์-อาทิตย์ วันเสาร์-อาทิตย์ ตอนนี้ว่างๆ มีเวลาฟังลูกซ้อมกีตาร์
และมีเวลานั่งอ่านหนังสือข้างๆ กัน
และเวลาไปธุระ เช่น พาแม่ไปหาหมอ ก็ไม่ต้องลางานแล้วทีนี้ไปได้สบายๆ
(ต้องไปรับจากอ่างทอง มาหาหมอที่ รพ.ธรรมศาสตร์ แล้วพากลับไปส่ง
เพราะแม่เป็น อัลไซเมอร์ ไม่ชอบเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมค่ะ...มาค้างไม่ได้)
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราก็ต้องกังวลหลายอย่างมันไม่โล่งสบายเท่าตอนนี้ค่ะ
แม้จะลางานได้แต่ความรับผิดชอบในงานเหมือนๆ ตามเรามาด้วย
บางทีวันหยุดใจก็คิดเรื่องงาน วางแผนว่าวันจันทร์ เปิดไปจะทำอะไร
ความรู้สึกต่างจากตอนนี้มากๆๆๆ เลย...พี่หมอ drsp รู้ดีใช่มั้ยคะ
นุชว่าพี่มีอิสรภาพทางการเงินนานแล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่แน่ใจตัวเองมากกว่า
อาจเพราะงานของพี่รายได้สูงด้วย หยุดปุ๊บจะหายไปเยอะ
ถึงแม้ว่าลาออกแล้วจะมีเงินพอใช้แล้ว แต่ก็ย่อมใจหายมาก
แบบที่ภรรยาพี่เสียดายน่ะค่ะ....เดาว่าอย่างนี้ค่ะ
ขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะพี่ ^__^
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 794
มาแล้วค่ะบทความพี่วิบูลย์ที่บอกไว้...ขออนุญาตพี่วิบูลย์แล้วว่าจะนำมาลงในกระทูู้theenuch เขียน:ขอบคุณที่ยังติดตาม (ผลงานเล็กๆ น้อยๆ ) ค่ะddoo7 เขียน: ขอบคุณครับ
ผมก็ยังติดตามอ่านบทความดีๆ และฟังคุณนุชออกรายการบ่อยๆ
แต่ไม่ได้เขียนทักทาย
สำหรับการลาออกมาลงทุน ผมคงต้องคิดให้หนัก..ไม่ได้กลัวแม่บ้านหักคอ
หรือเสียดายเงินเดือน หรือรายได้จากเงินลงทุนไม่พอ
แต่เป็นว่าออกมาแล้วจะทำอะไร หรือให้เป็นสาระมากกว่า
ผมยังมีความคิด ..ติดใจอยู่ว่าการทำงานทำประโยชน์ให้ชีวิต ให้สังคมมากกว่า
ลาออกมาลงทุนอย่างเดียว... เหมือนท่านอาจารย์ไพบูลย์เคยพูดไว้
อันนี้ไม่ตั้งใจขัดอะไรนะครับ ผมยังขอศึกษาดูก่อน แต่ สักวันคงมีคนจัดให้เองแหละ
ตอนจะลาออกเองก็คิดประเด็นนี้มากๆ เลยค่ะ (เพราะสี้น้ำเงินนั่นแหละค่ะ)
ก็เรียนปรึกษาอาจารย์ด้วยว่าเราเกรงใจจังที่จะลาออก
(กลัวใครหาว่าลูกศิษย์อาจารย์ทำซะเอง..หรือเปล่านะ..คิดเยอะเลยค่ะ)
แต่อาจารย์ท่านบอกว่านุชทำประโยชน์แก่สังคมนะ
การช่วยเขียนบทความ และช่วยงาน fb money talk
และช่วยงานสมาคมก็ถือว่าทำประโยชน์ให้สังคม...ไม่ได้ออกมาเล่นหุ้นไปวันๆ....โล่ง เลยค่ะ
(และนุชก็ทำงานมานานแล้ว ตั้ง 25 ปี ใช้ทุนที่เรียนมาหมดแล้วหละ
ถ้าเป็นคนอื่น 25 ปี แก่มากไปแล้ว
นุชเริ่มทำงานเร็วเลยยังไม่แก่เท่าไหร่ (และหน้าเด็กด้วย 555+))
สีชมพูอาจารย์ท่านไม่ได้บอก...นุชบอกเองค่ะพี่
ขอให้พี่พบทางที่ลงตัวสำหรับพี่ที่สุดนะคะ
รอชมบ้านไม้เล็กๆ ในสวนของพี่อยู่ด้วยค่ะ (จำผิดคนหรือเปล่าเรา )
.............
บทความ Value Way ฉบับวันที่ 25 สิงหาคม 2557 ลาออกมาเล่นหุ้น
August 25, 2014 at 11:16am
บทความ Value Way ฉบับวันที่ 25 สิงหาคม 2557
โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ
ลาออกมาเล่นหุ้น
สำหรับคนหนุ่มสาวรุ่นเจนวายการได้ทำงานอิสระเป็นเจ้านายของตัวเอง
นับได้ว่าเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ของเจนวายสมัยปัจจุบัน จะเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่จำนวนมาก
เปิดกิจการของตนเองอย่างร้านกาแฟ ร้านเบอเกอรี่หรือธุรกิจของตนเอง
แทนที่จะไปสมัครงานเป็นลูกจ้างบริษัทใหญ่ๆที่มั่นคงเหมือนกับรุ่นพ่อแม่
ยิ่งใครสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานหรือเรียกกันตามสมัยนิยมว่า
มี ”อิสรภาพทางการเงิน” ตั้งแต่อายุยังน้อยถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐเลิศล้ำเลยทีเดียว
ส่วนคนรุ่นใหม่ที่ยังทำงานอยู่มักได้รับการติเตียนจากคนรุ่นเก่าๆว่าไม่มีความอดทน
อยากรวยเร็วๆมากกว่าที่จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อความก้าวหน้าในองค์กร
คำถามหนึ่งที่ได้ยินกันมากของวัยรุ่นคนหนุ่มสาวยุคปัจจุบันคือ”อยากลาออกมาเล่นหุ้น”
หลายคนเห็นนักลงทุนจำนวนมากร่ำรวยจากตลาดหุ้นและคิดว่าถ้ามีเวลามากๆ ในการลงทุน
คงจะทำเงินจากตลาดหุ้นได้มาก ถ้ายังทำงานประจำอยู่จะไม่มีเวลามากพอที่จะลงทุนหรือซื้อขายหุ้น
ยิ่งเป็นการซื้อขายหุ้นแบบเทรดหุ้น ยิ่งต้องใช้เวลาในการเฝ้าดูหน้าจออยู่แทบตลอดเวลา
บางครั้งติดประชุมหรือพูดคุยกับลูกค้าอยู่ อาจทำให้ขาดทุนจากการซื้อขายหุ้นในวันนั้นได้
ถ้าลาออกมาเป็น”เทรดเดอร์”เต็มตัวนั้น ความจำเป็นในการเฝ้าหน้าจอตามติดตลาดหุ้นเป็นเรื่องสำคัญ
การทำงานไปและเทรดหุ้นไปด้วยในตัวนั้นอาจทำให้เสียหายทั้งสองทางนั่นคือขาดทุนหุ้น
และงานประจำที่ทำอยู่ก็เสียไปด้วยเพราะจิตใจมัวแต่พะวงกับหุ้นที่ซื้อขายอยู่
แต่ถ้าเป็นนักลงทุนระยะยาวแล้ว การลาออกมา”เล่นหุ้น”แทบจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเลย
การลงทุนระยะยาวอย่างการลงทุนแบบเน้นคุณค่าหรือวีไอนั้นไม่จำเป็นต้องมานั่งเฝ้าหน้ากระดานหุ้น
ยิ่งอยู่ใกล้ตลาดหุ้นมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะทำให้จิตใจไขว้เขวอาจจะมีมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
การลงทุนแบบวีไอคือการลงทุนในกิจการที่มีผลการดำเนินงานที่ดีในระยะยาว
ดังนั้นแทนที่จะสนใจในราคาหุ้น นักลงทุนควรสนใจในผลประกอบการและกิจการของบริษัทในระยะยาวมากกว่า
การติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เวลาตลอดวัน
การเยี่ยมชมกิจการในวันหยุดสุดสัปดาห์ตามห้างร้านต่างๆ อ่านข่าวหนังสือพิมพ์
ตรวจสอบผลประกอบการรายไตรมาสหรือรายปีก็เพียงพอสำหรับการติดตามบริษัทที่ลงทุน
นักลงทุนบางท่านไม่สนใจผลประกอบการรายไตรมาสเสียด้วยซ้ำเพราะถือว่าสั้นเกินไป
การดำเนินธุรกิจระยะยาวควรดูกันเป็นปีๆ มากกว่า
ส่วนการค้นหาบริษัทที่น่าสนใจลงทุนนั้น การใช้เวลาหลังเลิกงาน
หรือวันหยุดสุดสัปดาห์นั่งอ่านสมุดรายงานประจำปีและวิเคราะห์ธุรกิจ
สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้เวลาในการทำงานประจำแต่อย่างใด
การทำงานประจำนั้นเป็นสิ่งที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอให้กับผู้ที่เริ่มต้นลงทุน
หลังจากที่ได้เงินเดือนมาแล้วต้องกันส่วนหนึ่งเป็นเงินเก็บ จากนั้นนำเงินที่เก็บไว้
มาลงทุนในการซื้อหุ้นที่มีผลการดำเนินงานที่ดีในระยยาว ในราคาที่ไม่สูงเกินไป
ถ้าสามารถลงทนในหุ้นบริษัทหนึ่งได้ยาวหลายปี ถ้าตลาดหุ้นจะปิดไปสักสองสามปี
ก็คงไม่เดือดร้อนอะไรนัก เงินเดือนที่ได้ยังสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่าย
โดยที่ไม่ต้องนำเงินปันผลหรือกำไรจากหุ้นมาใช้ และนำมาลงทุนต่อเพื่อให้พอร์ตเติบโตขึ้นอีกด้วย
ท่านดร.นิเวศน์ ตำนานแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของเมืองไทย
ในช่วงแรกที่ลงทุนแบบวีไอท่านก็ทำงานประจำไปด้วยและลงทุนไปด้วยในเวลาเดียวกัน
จนเวลาผ่านไปกว่าสิบปี เงินลงทุนของท่านงอกเงยขึ้นมากและได้รับเงินปันผลต่อปีเป็นจำนวนมากพอ
และนอกเหนือจากนั้นท่านรู้สึกว่าการทำงานประจำเต็มไปด้วยความเครียดและต้องทำงาน
เพื่อเป้าหมายของบริษัทตลอดเวลาทำให้ท่านตัดสินใจลาออกจากงานประจำและรับหน้าที่
พิธีกรของรายการมันนี่ทอร์คและเป็นวิทยากรตามงานสัมมนาต่างๆ
จะเห็นว่าสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่งคงด้วยตนเองโดยไม่ได้มีมรดกตกทอดนั้น
การทำงานประจำ เก็บเงินและนำเงินเก็บมาลงทุนแบบเน้นคุณค่าในระยะยาว
ในเวลาเดียวกันนั้น เป็นหนทางในการสร้างความมั่งคั่งได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นคำถามที่ว่าอยากลาออกมาเล่นหุ้นนั้น
น่าจะเป็นทำงานไปลงทุนไปจะสบายใจและมีความสุขมากกว่า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 796
สยามสัปปายะ...
เป็นอีกรายการที่ดูแล้วรู้สึกเย็นใจ
อยากให้มีรายการแบบนี้ออกมาอีกมากๆ
สำหรับผู้ที่สนใจการปฏิบัติธรรม
แนะนำให้ลองชมกันครับ
จะได้อะไรดีๆ กลับไปคิด
และยังเป็นกำลังใจให้คนทำงานด้วยครับ
-พศิน อินทรวงศ์-
[youtube]CXKWzQ_z40Y[/youtube]
เป็นอีกรายการที่ดูแล้วรู้สึกเย็นใจ
อยากให้มีรายการแบบนี้ออกมาอีกมากๆ
สำหรับผู้ที่สนใจการปฏิบัติธรรม
แนะนำให้ลองชมกันครับ
จะได้อะไรดีๆ กลับไปคิด
และยังเป็นกำลังใจให้คนทำงานด้วยครับ
-พศิน อินทรวงศ์-
[youtube]CXKWzQ_z40Y[/youtube]
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 797
ขอบคุณคุณนุชที่นำบทความคุณวิบูลย์มาให้อ่าน
ผมขอเลียนแบบทำงานไปลงทุนไปอีกสักปีสองปี
ช่วงนี้ก็เตรียม ..ฝึกฝนทำใจไปพลางๆ
ผมก็ชอบดูรายการธรรมะเหมือนกัน
เด่วนี้ดี มีเวปให้ฟังและโหลดรายการธรรมะ รึเสียงอ่านเทศนธรรมะ
ผมชอบโหลดมาเขียนลงแผ่นซีดีไว้ฟังในรถ หรือตอนเดินออกกำลัง
ผมขอเลียนแบบทำงานไปลงทุนไปอีกสักปีสองปี
ช่วงนี้ก็เตรียม ..ฝึกฝนทำใจไปพลางๆ
ผมก็ชอบดูรายการธรรมะเหมือนกัน
เด่วนี้ดี มีเวปให้ฟังและโหลดรายการธรรมะ รึเสียงอ่านเทศนธรรมะ
ผมชอบโหลดมาเขียนลงแผ่นซีดีไว้ฟังในรถ หรือตอนเดินออกกำลัง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 798
ยินดีค่ะพี่..ดีใจที่ชอบเหมือนกันค่ะddoo7 เขียน:ขอบคุณคุณนุชที่นำบทความคุณวิบูลย์มาให้อ่าน
ผมขอเลียนแบบทำงานไปลงทุนไปอีกสักปีสองปี
ช่วงนี้ก็เตรียม ..ฝึกฝนทำใจไปพลางๆ
ผมก็ชอบดูรายการธรรมะเหมือนกัน
เด่วนี้ดี มีเวปให้ฟังและโหลดรายการธรรมะ รึเสียงอ่านเทศนธรรมะ
ผมชอบโหลดมาเขียนลงแผ่นซีดีไว้ฟังในรถ หรือตอนเดินออกกำลัง
ถือโอกาสนำมาฝากอีกซักบทความนึงนะคะ...เพิ่ง share ใน fb ไปค่ะ
ข้อคิดสำหรับผู้ต้องการบรรลุธรรมในชาตินี้
แต่มีความจำเป็นยังต้องใช้ชีวิตฆราวาส
พศิน อินทรวงค์ ถาม...
สวัสดีครับพี่พศินผมอยากยึดสายอาชีพภาวนาผมควรพัฒนาตนเองอย่างไรครับแนะนำให้หน่อยครับ
ตอบ...
ข้อคิดสำหรับผู้ต้องการบรรลุธรรมในชาตินี้
แต่มีความจำเป็นยังต้องใช้ชีวิตฆราวาส
1. แยกหน้าที่ออกเป็นสองส่วน
คือ หน้าที่ภายนอก กับหน้าที่ภายใน
1.1หน้าที่ภายนอกคือ การงาน ครอบครัว สังคม สิ่งที่เรารับผิดชอบ สถานภาพทางสังคมที่เรามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง ตรงนี้ทำให้ดีที่สุดอย่างเต็มความสามารถ
1.2 หน้าที่ภายใน ตรงนี้เป็นเรื่องการขัดเกลาจิตใจของเรา ให้สามารถเป็นอิสระจากทุกสิ่ง เป็นหนึ่งเดียวกับการปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่นทุกสิ่งทั้งปวง หน้าที่ตรงนี้ให้ทำด้วยวิธีการบริจาคทาน ถือศีล ทำสมาธิ วิปัสสนา
2. ให้รู้ว่ามีหน้าที่สองส่วนแต่ถึงเวลาปฏิบัติให้จับมารวมกัน
2.1 จำไว้ว่า สิ่งใดก็ตามที่จะทำให้หน้าที่ภายในของเราเสียหาย เราจะไม่ทำ แม้จะเป็นประโยชน์ต่อหน้าที่ภายนอก แต่ถ้าภายในของเราเสีย เราจะไม่ทำ เช่นทำแล้วรวยแต่ผิดคุณธรรม เราจะไม่ทำ ทำแล้วรวย แต่จิตใจตกต่ำเกิดความโลภ เราจะไม่ทำ หน้าที่การงานใดๆ ที่เราจะเลือกทำ จะต้องมีส่วนกระบวนการที่ส่งเสริมให้จิตใจของเราพัฒนาได้สูงยิ่งๆ ขึ้นไป ขอให้ผนึกงานของเราให้กลายเป็นการทำบุญไปด้วยในตัว ตรงนี้ผู้ต้องการพัฒนาจิตอย่างถึงที่สุด ควรให้ความสำคัญกับการคัดเลือกงานของตนด้วย
2.2 เราต้องไม่หลงประเด็น ต้องรู้ชัดว่า เมื่อเราทำหน้าที่ภายในเต็มที่แล้ว หน้าที่ภายนอกก็จะดีไปด้วยอย่างแน่นอน เพราะคนเราใช้จิตใจ ใช้ตัวเองไปทำทุกอย่าง ถ้าจิตใจของเราดี เบิกบาน มีความสุข มีปัญญา จะเอาไปทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น อย่าหลงประเด็นไปคิดว่ามันไม่เกี่ยวข้องกันเด็ดขาด อย่าไปมีความคิดผิดๆ ว่าการพัฒนาจิตใจเป็นการเสียเวลาที่ทำให้ประสบความสำเร็จช้า เพราะมันไม่จริง เราเป็นผู้ปฏิบัติ เราต้องมั่นในในวิถีทางของเราว่า การพัฒนาจิตนี่เองเป็นการเพิ่มขุมพลังชีวิตที่ดีที่สุด เป็นทางตรง ที่ลัดสั้นที่สุดอันนำไปสู่ชีวิตที่ประเสริฐเลิศทั้งปวง
2.3 เราต้องเข้าใจว่า ผู้พัฒนาจิตไม่จำเป็นต้องจน ไม่จำเป็นต้องวิ่งหนีเงิน เราสามารถมีเงินได้ ร่ำรวยได้เต็มที และเราจะมีชีวิตน่าภาคภูมิใจอย่างที่สุดแน่นอน แต่เราจะต้องไม่ยึดติดเงินทอง อย่าปล่อยให้เงินทองวัตถุมามีอำนาจเหนือเรา เพราะถ้าแม้แต่เงินทองเรายังเอาชนะไม่ได้ ก็เป็นอันว่า กิเลสทั้งหลายก็ยังเหยียบหัวเราอยู่ร่ำไป เราต้องวางตัวเป็นนาย ไม่ใช่ทาส ปล่อยวางได้ทุกเมื่อ มีก็ใช้ ไม่มีก็ไม่ใช่ มีปัญญาพอที่จะหามา มีปัญญาพอที่จะสละออกไปโดยไม่อาลัยอาวรณ์
2.4 การช่วยเหลือผู้อื่น คือหน้าที่ของเรา ถ้าเราคิดว่า เราต้องการพัฒนาจิตจนถึงที่สุด การเสียสละ มีน้ำใจ แบ่งปัน ไม่ใช่สิ่งที่ว่างๆ ค่อยทำ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อจิตใจของเราในระดับที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไป
3. คุณธรรมที่ต้องมี
3.1 ขอให้เราจัดการหน้าที่ภายนอกด้วยหลักอิทธิบาทสี่ รักในงาน ให้เวลา หาความรู้ และทบทวนประเมิณผล ขอให้ทำอย่างดีที่สุด แล้วปล่อยวางกับผลที่จะเกิด อย่าขับเคลื่อนการทำงานด้วยความโลภ ด้วยเงิน แต่จงขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งปัจจุบันขณะ เพราะพลังแห่งปัจจุบันขณะมีความแข็งแกร่งกว่าพลังแห่งความทะเยอทะยาน อีกทั้งไม่มีผลเสียตกค้างที่ก่อให้เกิดความผิดหวัง และความโลภ จงทำงานด้วยจิตว่าง แรกๆ จะทำเช่นนี้ไม่ได้ แต่ถ้าฝึกทำไปเรื่อยๆ ก็จะทำได้แน่นอน เมื่อทำได้แล้วการงานที่รับผิดชอบอยู่ จะถูกขับเคลื่อนด้วยศักยภาพสูงสุดที่คุณมี
3.2 ควบคุมคำพูดของคุณให้มาก โดยเฉพาะการวิพากวิจารณ์ เมื่อคุณคิดว่าต้องการพัฒนาจิตจนถึงที่สุด คุณต้องรู้ลิมิตของตนเองที่จะพูด พูดได้แค่ไหนที่ไม่ไปตีกิเลสของตัวเองให้ฟุ้งกระจาย คุณต้องรู้จักมีระยะห่าง อย่าไปเล่นกับอะไรที่มันจะเข้ามาทำให้จิตของคุณตกต่ำ เมื่อต้องเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งใดๆ คุณควรเข้าไปได้ใกล้แค่ไหนกิเลสของคุณจึงไม่ตีตลบหลัง ความสมดุลตรงนี้คุณต้องรู้จักรักษาให้ดี อย่างที่บอกไว้แต่แรก อย่าทำหน้าที่ภายนอก จนหน้าที่ภายในเสียหาย ถ้าคุณเลือกแล้วที่จะพัฒนาจิตจนถึงที่สุด คุณก็ต้องเตือนตนไว้เสมอว่าเป้าหมายของชีวิตคุณคืออะไร แล้วอย่าเอาอะไรไปแลกเด็ดขาด
3.3 แสดงออกทางการกระทำด้วยศีล อะไรที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ตนเองเดือดร้อน อย่าไปทำเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ชีวิตของคุณร้อน ไม่มีความเหมาะสมต่อการพัฒนาจิต การพัฒนาจิตจะเกิดได้ดี ก็ต่อเมื่อชีวิตสงบเย็นตามสมควร
3.4 อัดฉีดความเมตตาเข้าไปในจิตใจของคุณ คุณธรรมเกี่ยวกับความเมตตานี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่คุณต้องฝังจิตใจของคุณลงไปในนั้นให้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น คุณต้องไม่ลืมที่จะวางอุเบกขาเมื่อถึงเวลาที่ควรวาง จงเมตตา แต่อย่าได้ทุกข์ร้อนไปกับความเมตตาของตนเอง คุณต้องพยายามฝึกจิตใจของคุณให้ข้ามพรมแดนของความเป็นเรา เขา ครอบครัว คนรัก ต้องพยายามฝึกให้ใจของคุณเห็นผู้อื่นสำคัญพอๆ กับตนเอง
3.5 การภาวนา เมื่อคุณคิดจะพัฒนาจิตจนถึงที่สุดแล้ว การภาวนาของคุณจะแยกจากชีวิตประจำวันไม่ได้เด็ดขาด คุณต้องมีกรรมวิธีในการหาอุบาย อย่าให้การภาวนาของคุณแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ คุณต้องรู้จักหนักเบาของตนเอง อะไรคือจุดดีจุดแข็ง จุดเปราะบางที่กิเลสมันจะแทรกตัวเข้ามาได้ง่าย คุณต้องเป็นนักบูรณาการสามารถผูกโยงทุกประสบการณ์ไว้กับหลักธรรมความจริง เมื่อเกิดอะไรขึ้น ขอให้นำมาพิจารณาเกี่ยวกับไตรลักษณ์ให้หมด ทั้งความรัก ความชอบ ดีใจ เสียใจ ความรู้สึกและสิ่งทั้งปวงทั้งรูปและนามทุกสิ่งจงน้อมกำหนดลงสูงไตรลักษณ์ให้สิ้นซาก จงมีกำลังใจอยู่เสมอ เรียนรู้ที่จะอยู่กับโลกใบนี้แบบผู้อาศัย ทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆ ว่าเราจะเข้าไปยึดไม่ได้ ทั้งทางสมอง สัญญาหมายจำ รวมไปถึงความเข้าใจระดับจิตอันเกิดจากการทำสมาธิ และวิปัสสนา
4. ปรับสมดุลชีวิต
4.1 เพื่อนฝูง คุณต้องรู้จักคบคน ต้องคบแต่คนดี ที่ไม่พาไปในทางเสื่อม หลีกเลี่ยงคนไม่ดี หลีกเลี่ยงสังคมไม่ดี เลือกคบแต่บุคคลที่จะพาคุณไปในทางสร้างสรรค์ คบแต่กัลยาณมิตร ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคุณคิดจะพัฒนาจิตจนถึงที่สุด คุณจำเป็นต้องมีผู้รู้ที่จะแก้ไขปัญหาการปฏิบัติทางจิตในขั้นลึกให้คุณได้ ถึงจุดหนึ่งคุณไม่สามารถอาศัยตำราได้ตลอดไป เพราะสภาวธรรมบางอย่างนั้น อยู่เหนือขอบเขตของตำราไปมาก ขอให้คุณใช้ปัญญาตรึกตรองดูให้มาก ก่อนจะยกใครเป็นครูบาอาจารย์ และอย่าฝากความหวังไว้กับอาจารย์ของคุณจนเกินไป แต่ให้ยึดที่ตัวธรรมะเป็นหลักโดยใช้ครูบาอาจารย์เป็นทางผ่าน ให้หลักโยนิโสมนสิการให้มาก เพื่อที่คุณจะไม่เลือกคนผิด และพึ่งพาบุคคลให้น้อยที่สุด แต่พึ่งพาหลักธรรมให้มากที่สุด
4.2 การงานของคุณ คุณต้องเลือกในการงานที่ทำให้จิตของคุณไม่ฟุ้งกระจาย ไม่เลือกงานประเภทที่ไปปั่นให้ใจของคุณขึ้นๆ ลงๆ ตรงนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องใช้ปัญญาของคุณเองในการพิจารณา เพราะแต่ละคนก็มีสัดส่วนของกิเลสในใจต่างกัน มีจริตต่างกัน แต่เมื่อคุณคิดจะเอาดีทางด้านนี้จนถึงที่สุด คุณก็ต้องยอมแลกกับความสบาย ความง่ายบางอย่างในช่วงแรกๆ แต่เมื่อคุณผ่านมันมาได้ ชีวิตของคุณจะอยู่ในจุดที่แปดเปื้อนไปด้วยกิเลสน้อยกว่าคนทั่วๆไป
5. ยอมรับความจริง เพื่อเตรียมตัวตั้งรับ
5.1 งานพัฒนาจิตนั้น เป็นงานที่ไม่ง่าย เพราะคุณกำลังสู้อยู่กับกิเลสซึ่งมันชนะคุณมาเนิ่นนาน ดังนั้นคุณต้องไม่ประมาท และต้องรู้จักหล่อเลี้ยงกำลังใจของคุณเอาไว้เสมอ อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ คุณจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องและหาอุบายให้ตนเองสามารถทำมันได้อย่างมีความสุข อย่าตามใจตัวเองจนเกินไป เพราะการตามใจตัวเองของเราส่วนใหญ่เป็นไปด้วยอำนาจกิเลสแทบทั้งสิ้น
5.2 ทางเส้นนี้เป็นเรื่องของการทวนกระแสโลก คุณต้องยอมรับว่า มันไม่ง่ายที่จะให้คนรอบข้างของคุณเข้าใจว่าคุณกำลังทำอะไร มันไม่ง่ายที่คุณจะทนทานต่อกระแสสังคมที่พัดคุณเข้าไปสู่วังวน คุณต้องต่อสู้กับตัวเองภายใน ต่อสู้กับความอยากของตน ต่อสู้กับโฆษณาชวนเชื่อที่ประโคมใส่หูของคุณทุกวัน ต่อสู้กับเสียงของพี่น้องเพื่อนพ้องร่วมโลก ที่จะมากระซิบข้างๆ หูของคุณบ่อยๆ ว่า "นั่นเธอทำอะไร มันผิดทางแล้ว มาตามฉันทางนี้ดีกว่า เธออย่าทำแบบนั้นเลย มันเป็นไปไม่ได้ มันเกินไป มาทางนี้เถอะนะ ใครๆเขาก็มาทางนี้กันทั้งนั้น"
ตลอดชีวิตของคุณ จะมีเสียงเหล่านี้มากระซิบข้างหูของคุณเป็นระยะๆ คุณต้องตั้งมั่นในเป้าหมาย อย่าได้หวั่นไหวเด็ดขาด
6. จงรู้ตัวว่าคุณคือผู้โชคดี เป็นความจริงอย่างถึงที่สุดที่ว่า ในโลกนี้มีคนคิดแบบคุณน้อยมาก และคุณตัดสินใจถูกแล้วที่ต้องการเดินในเส้นทางนี้ ถ้าทำได้และมีความเพียรพยายามพอ คุณจะรอดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ไม่ต้องมาทุกข์ทนอยู่ในสังสารวัฏซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาและความทุกข์ทั้งปวง อันจะเป็นการตอกย้ำว่าคุณคือยอดคนผู้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างถึงจิตถึงใจ เป็นศิษย์ที่ดีที่สุดของพระตถาคตอย่างเต็มภาคภูมิ
7. ขออนุโมทนากับความคิดที่ถูกต้องตรงธรรมในครั้งนี้
และขอให้คุณมีปัญญาสามารถฟันฝ่าทุกอุปสรรค์ไปได้อย่างดีที่สุด
อ่านบทความ พูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดกับผม
"พศิน อินทรวงค์" ได้ที่...
https://www.facebook.com/talktopasin2013
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 799
จากใจ...ศิษย์เก่า "ม.รามคำแหง”
(Theenuch_Team money Talk 4)
...................
ชีวิต "ต้องเลือก" เสมอ
.
หลังจบพยาบาล 2 ปี มีทางเลือก 2 ทาง
1. ต่อเป็นพยาบาลวิชาชีพ (มีค่าวิชาชีพ_ต้องขึ้นเวร)
2. ต่อ ป. ตรี สาขาที่สอบเป็นนักวิชาการสาธารณสุขได้
.
คิดเสมอว่าเราหาเงินเพิ่มได้..โดยไม่หวังค่าวิชาชีพ
ไม่กลัวการสอบ กพ.เพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง "เลือกข้อ 2"
..................
"เลือกเรียนราม" โอนได้ 45 เรียนอีก 97 หน่วยกิต (2 ปีจบ)
.
"เลือก" อ่านหนังสือแต่เนิ่นๆ ทำสรุปไว้ทบทวนซ้ำๆ
สมัยก่อน มีสอบ 3 คาบ/วัน "เลือกวิชา" ใน มร. 30
"ให้วันสอบติดกัน และสอบ 3 คาบ" พกของกินง่ายๆไว้
เพราะต้องเดินย้ายห้อง ย้ายอาคาร ไปโรงอาหารไม่ทัน
ลางาน / เดินทางมาจากต่างจังหวัดแล้ว ต้องสอบให้คุ้ม!
..................
"เรียนราม" มีส่วนคล้าย "การลงทุน"
.
ไม่รวยแต่ต้น จบโรงเรียนไม่ดัง เกรดไม่สูง
สามารถ "สมัครเรียนราม" ได้ทุกเมื่อ
จบช้า/เร็ว หรือเลิกกลางครัน ขึ้นอยู่กับตัวเรา
.
ไม่รวยแต่ต้น จบโรงเรียนไม่ดัง เกรดไม่สูง
สามารถ "ลงทุนในตลาดหุ้น" ได้ทุกเมื่อ
สำเร็จช้า/เร็ว หรือเลิกกลางครัน ขึ้นอยู่กับตัวเรา
.
ไม่มีใครได้เปรียบใคร มีข้อมูลให้เลือกมากมาย
แต่วิถีและแนวทางต้องเลือกเอง เลือกต่าง_ผลต่างค่ะ
................
ถ้าเลือกมีวินัย เข้มงวดกับตัวเอง ก็สำเร็จได้แน่นอน
ถ้าเลือกสบายๆ ก็อาจสำเร็จช้า หรือแม้แต่ไม่ก้าวไปไหน
................
การได้ผ่านรั้ว "รามคำแหง" ถือเป็นความภูมิใจ
เป็นโอกาสได้ดึงศักยภาพในตัวออกมาใช้เต็มที่
ฝึกให้เราอดทน ฝึกการใช้วิจารณญาณกลั่นกรอง
ส่งผลบวกต่อชีวิตในช่วงต่อมาและต่อการลงทุนมาก
................
ฝากถึงนายจ้างที่มีโอกาสพบผู้จบจาก ม.รามคำแหง
มาสมัครงานที่บริษัทหรือองค์กรของท่านว่า...
"ต้นกล้าที่งอกและรอดจากเมล็ดที่อยู่ในสภาพแห้งแล้งได้"
การันตีความแข็งแรงระดับหนึ่ง พร้อมเติบโตในทุกสภาวะ
ขอแค่เพียง "โอกาสได้หยั่งรากลงดิน” เท่านั้นค่ะ
"""""""""""""""""""""""""""""" หมายเหตุ -
มีกลุ่มหนึ่งที่อยากให้อ่านมากคือ "ครอบครัวฐานะไม่ดีนัก
ที่ลูก entrane ไม่ติด"ที่เคยพบมี 2 แบบค่ะ
"แบบแรก_พ่อแม่อยากให้ลูกเรียนรามเพราะมั่นใจในระบบการศึกษา
และค่าเรียนถูก แต่ลูกยื่นคำขาด_อยากให้เรียนต่อต้องเอกชนเท่านั้น (น่าสงสารพ่อแม่)"
และที่ตรงข้ามกัน "ลูกรู้ว่าฐานะทางบ้านไม่ดี จึงอยากเรียนราม
แต่พ่อแม่ไม่เชื่อมั่นในมหาวิทยาลัยเปิด จึงขวนขวายหยิบยืมเงินให้ลูกเรียนเอกชน".
ใครมีโอกาสพบเจอกลุ่มนี้มาปรึกษา อาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น หรือปรับค่านิยมให้เขาได้
เพราะอย่างที่บอกแต่ต้นว่าเป็นกลุ่มที่ฐานะไม่ค่อยดีค่ะ
โดยส่วนตัวเคยชวนทั้งสองแบบให้มาเรียนรามได้สำเร็จค่ะ
เจอกันเขายังขอบคุณอยู่เสมอ..ว่าช่วยได้มาก ไม่เช่นนั้นคงยังใช้หนี้ค่าเรียนไม่หมด ^__^
(Theenuch_Team money Talk 4)
...................
ชีวิต "ต้องเลือก" เสมอ
.
หลังจบพยาบาล 2 ปี มีทางเลือก 2 ทาง
1. ต่อเป็นพยาบาลวิชาชีพ (มีค่าวิชาชีพ_ต้องขึ้นเวร)
2. ต่อ ป. ตรี สาขาที่สอบเป็นนักวิชาการสาธารณสุขได้
.
คิดเสมอว่าเราหาเงินเพิ่มได้..โดยไม่หวังค่าวิชาชีพ
ไม่กลัวการสอบ กพ.เพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง "เลือกข้อ 2"
..................
"เลือกเรียนราม" โอนได้ 45 เรียนอีก 97 หน่วยกิต (2 ปีจบ)
.
"เลือก" อ่านหนังสือแต่เนิ่นๆ ทำสรุปไว้ทบทวนซ้ำๆ
สมัยก่อน มีสอบ 3 คาบ/วัน "เลือกวิชา" ใน มร. 30
"ให้วันสอบติดกัน และสอบ 3 คาบ" พกของกินง่ายๆไว้
เพราะต้องเดินย้ายห้อง ย้ายอาคาร ไปโรงอาหารไม่ทัน
ลางาน / เดินทางมาจากต่างจังหวัดแล้ว ต้องสอบให้คุ้ม!
..................
"เรียนราม" มีส่วนคล้าย "การลงทุน"
.
ไม่รวยแต่ต้น จบโรงเรียนไม่ดัง เกรดไม่สูง
สามารถ "สมัครเรียนราม" ได้ทุกเมื่อ
จบช้า/เร็ว หรือเลิกกลางครัน ขึ้นอยู่กับตัวเรา
.
ไม่รวยแต่ต้น จบโรงเรียนไม่ดัง เกรดไม่สูง
สามารถ "ลงทุนในตลาดหุ้น" ได้ทุกเมื่อ
สำเร็จช้า/เร็ว หรือเลิกกลางครัน ขึ้นอยู่กับตัวเรา
.
ไม่มีใครได้เปรียบใคร มีข้อมูลให้เลือกมากมาย
แต่วิถีและแนวทางต้องเลือกเอง เลือกต่าง_ผลต่างค่ะ
................
ถ้าเลือกมีวินัย เข้มงวดกับตัวเอง ก็สำเร็จได้แน่นอน
ถ้าเลือกสบายๆ ก็อาจสำเร็จช้า หรือแม้แต่ไม่ก้าวไปไหน
................
การได้ผ่านรั้ว "รามคำแหง" ถือเป็นความภูมิใจ
เป็นโอกาสได้ดึงศักยภาพในตัวออกมาใช้เต็มที่
ฝึกให้เราอดทน ฝึกการใช้วิจารณญาณกลั่นกรอง
ส่งผลบวกต่อชีวิตในช่วงต่อมาและต่อการลงทุนมาก
................
ฝากถึงนายจ้างที่มีโอกาสพบผู้จบจาก ม.รามคำแหง
มาสมัครงานที่บริษัทหรือองค์กรของท่านว่า...
"ต้นกล้าที่งอกและรอดจากเมล็ดที่อยู่ในสภาพแห้งแล้งได้"
การันตีความแข็งแรงระดับหนึ่ง พร้อมเติบโตในทุกสภาวะ
ขอแค่เพียง "โอกาสได้หยั่งรากลงดิน” เท่านั้นค่ะ
"""""""""""""""""""""""""""""" หมายเหตุ -
มีกลุ่มหนึ่งที่อยากให้อ่านมากคือ "ครอบครัวฐานะไม่ดีนัก
ที่ลูก entrane ไม่ติด"ที่เคยพบมี 2 แบบค่ะ
"แบบแรก_พ่อแม่อยากให้ลูกเรียนรามเพราะมั่นใจในระบบการศึกษา
และค่าเรียนถูก แต่ลูกยื่นคำขาด_อยากให้เรียนต่อต้องเอกชนเท่านั้น (น่าสงสารพ่อแม่)"
และที่ตรงข้ามกัน "ลูกรู้ว่าฐานะทางบ้านไม่ดี จึงอยากเรียนราม
แต่พ่อแม่ไม่เชื่อมั่นในมหาวิทยาลัยเปิด จึงขวนขวายหยิบยืมเงินให้ลูกเรียนเอกชน".
ใครมีโอกาสพบเจอกลุ่มนี้มาปรึกษา อาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น หรือปรับค่านิยมให้เขาได้
เพราะอย่างที่บอกแต่ต้นว่าเป็นกลุ่มที่ฐานะไม่ค่อยดีค่ะ
โดยส่วนตัวเคยชวนทั้งสองแบบให้มาเรียนรามได้สำเร็จค่ะ
เจอกันเขายังขอบคุณอยู่เสมอ..ว่าช่วยได้มาก ไม่เช่นนั้นคงยังใช้หนี้ค่าเรียนไม่หมด ^__^
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 800
บริษัทที่ผมทำงาน มีผจก.ที่จบบริหารจากราม1คนtheenuch เขียน: ฝากถึงนายจ้างที่มีโอกาสพบผู้จบจาก ม.รามคำแหง
มาสมัครงานที่บริษัทหรือองค์กรของท่านว่า...
"ต้นกล้าที่งอกและรอดจากเมล็ดที่อยู่ในสภาพแห้งแล้งได้"
การันตีความแข็งแรงระดับหนึ่ง พร้อมเติบโตในทุกสภาวะ
ขอแค่เพียง "โอกาสได้หยั่งรากลงดิน” เท่านั้นค่ะ
""""""""""""""""""""""""""""""
^__^
และจบวิศวะอีก1คน
ทั้ง2คนทำงานเก่ง มีความรับผิดชอบสูงและทำงานร่วมกับคนอื่นๆได้ดีมากเชียวครับ
ตอนนี้ผมกำลังหาเจ้าหน้าที่บัญชีมาร่วมงานอีกซักคน
ถ้าพี่นุชรู้จักใครแนะนำให้ผมหน่อยน๊ะครับ...
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 801
เป็นฟุตบอลที่สวยงาม เป็นแมทช์ที่สวยงามจนน้ำตาซึม
เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นมะเร็ง และได้โอกาสจากบียาเรล ให้ลงไปแข่งกับ กลาสโกว เซลติก ยอดทีมแห่งลีกสกอตแลนด์
เจ้าหนุ่มโกฮานเบอร์ 12 ยอดเยี่ยม ครับทั้ง บียาเรล และ กลาสโกว เซลติก
[youtube]EubTOGR3PWk[/youtube]
เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นมะเร็ง และได้โอกาสจากบียาเรล ให้ลงไปแข่งกับ กลาสโกว เซลติก ยอดทีมแห่งลีกสกอตแลนด์
เจ้าหนุ่มโกฮานเบอร์ 12 ยอดเยี่ยม ครับทั้ง บียาเรล และ กลาสโกว เซลติก
[youtube]EubTOGR3PWk[/youtube]
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 802
จบจากที่ไหนก็ดีเหมือนกันหมดค่ะsaichon เขียน:บริษัทที่ผมทำงาน มีผจก.ที่จบบริหารจากราม1คนtheenuch เขียน: ฝากถึงนายจ้างที่มีโอกาสพบผู้จบจาก ม.รามคำแหง
มาสมัครงานที่บริษัทหรือองค์กรของท่านว่า...
"ต้นกล้าที่งอกและรอดจากเมล็ดที่อยู่ในสภาพแห้งแล้งได้"
การันตีความแข็งแรงระดับหนึ่ง พร้อมเติบโตในทุกสภาวะ
ขอแค่เพียง "โอกาสได้หยั่งรากลงดิน” เท่านั้นค่ะ
""""""""""""""""""""""""""""""
^__^
และจบวิศวะอีก1คน
ทั้ง2คนทำงานเก่ง มีความรับผิดชอบสูงและทำงานร่วมกับคนอื่นๆได้ดีมากเชียวครับ
ตอนนี้ผมกำลังหาเจ้าหน้าที่บัญชีมาร่วมงานอีกซักคน
ถ้าพี่นุชรู้จักใครแนะนำให้ผมหน่อยน๊ะครับ...
แต่บ้านเราไกลกันมาก...พี่ไม่รู้จักใครแถวนั้นเลย
.............
หายไปนานเลยน้องสายชล สงสัยวิ่งไล่จับลูกเพลิน
ไม่ค่อยใช้เทคโนโลยีสื่อสารมากนักก็ดีไปอีกแบบ
วิ่งเล่นกับลูกๆ ดีกว่า..ลูกชายสองคนกำลังน่ารักเลย
พี่เห็นใน fb สิงโตหน้าคล้ายไทเกอร์มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะคะ
หล่อทั้งคู่ ^__^
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 803
เห็นด้วยมากเลยว่า...ยอดเยี่ยมและNevercry.boy เขียน:เป็นฟุตบอลที่สวยงาม เป็นแมทช์ที่สวยงามจนน้ำตาซึม
เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นมะเร็ง และได้โอกาสจากบียาเรล ให้ลงไปแข่งกับ กลาสโกว เซลติก ยอดทีมแห่งลีกสกอตแลนด์
เจ้าหนุ่มโกฮานเบอร์ 12 ยอดเยี่ยม ครับทั้ง บียาเรล และ กลาสโกว เซลติก
[youtube]EubTOGR3PWk[/youtube]
เป็นฟุตบอลที่สวยงาม เป็นแมทช์ที่สวยงามจนน้ำตาซึม
และ "น้ำตาซึม"ด้วย...ขอบคุณมากเลยค่ะคุณ NB
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 804
ขอบคุณครับพี่นุชtheenuch เขียน: หายไปนานเลยน้องสายชล สงสัยวิ่งไล่จับลูกเพลิน
ไม่ค่อยใช้เทคโนโลยีสื่อสารมากนักก็ดีไปอีกแบบ
วิ่งเล่นกับลูกๆ ดีกว่า..ลูกชายสองคนกำลังน่ารักเลย
พี่เห็นใน fb สิงโตหน้าคล้ายไทเกอร์มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะคะ
หล่อทั้งคู่ ^__^
แม้ผมจะไม่ได้เข้ามาโพส แต่ก็ตามอ่านบทความดีๆของพี่นุช
ทั้งในกระทู้นี้และในfbอยู่เสมอครับ
สิงโต ตอนนี้แกอายุเกือบ2ปีแล้วครับ เราวางแผนไว้ว่าจะให้แกเข้าโรงเรียนปีหน้าครับ
ช่วงนี้ตอนเราไปรับ-ส่งไทเกอร์ เราจะพยายามพาแกไปด้วย
แกจะได้คุ้นเคยกับโรงเรียนตั้งแต่เด็กๆครับ
สิงโตดูแกจะชอบทำตามสิ่งที่พี่ชายแกทำครับ
บางครั้งเราให้แกทำอะไร แกอาจดื้อไม่เชื่อฟังบ้าง
แต่หากให้พี่ชายแกทำก่อน แกจะทำตามโดยดีเชียวครับ
ส่วนไทเกอร์ตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่องร้องให้ก่อนไปโรงเรียนแล้วครับ
จะมีก็เรื่องไปโรงเรียนสายอยู่บ้างเท่านั้น
เราเริ่มหากีฬาที่จะให้แกเรียนช่วงวัยเด็กไว้แล้วครับ
ไม่รู้จะเร็วไปมั๊ย
แต่คิดว่าดีกว่าให้แกเล่นดิน เล่นทราย อยู่ที่บ้านอย่างเดียวครับ
รักษาสุขภาพน๊ะครับพี่นุช
ผมค่อยเข้ามาคุยใหม่น๊ะครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1959
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 805
น่าสนใจดีครับ เลยนำมาให้อ่าน
http://www.manager.co.th/iBizChannel/Vi ... 0000102193
โค้ด: เลือกทั้งหมด
อุปนิสัย “ความโชคดี”คุณสร้างได้-ไม่ใช่ชะตากรรม
คนที่ประสบความสำเร็จ บางกรณีจะถูกสรุปว่าเพราะ เก่ง+เฮง หรือบางคนก็ถูก มองว่าได้ดีเพราะ “โชคช่วย” คนจำนวนไม่น้อยจึงพลอย เชื่อว่าเป็นเรื่องของชะตากรรมหรือคิดว่าเป็นเรื่อง “ดวง” ที่ทำให้ “โชคดี” หรือ “โชคร้าย”
ทั้งๆ ที่คนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธถูกสอนให้สร้างเหตุหรือกรรมที่ดี แม้ไม่ต้องหวังผลก็จะเกิดผลดีหรือกรรมดี ตามหลักเหตุและผล ซึ่งเป็นคุณลักษณะเด่นของพระพุทธศาสนา
ดักลาส มิลเลอร์ เขียนไว้ในหนังสือ THE LUCK HABIT ซึ่ง โสภาพร คอร์ช พากย์ไทยว่า “อุปนิสัยแห่งความโชคดี” Post Books จัดพิมพ์ เขาเชื่อว่า “โชคดี” นั้นมีอยู่จริง และมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ซึ่งไม่ใช่เป็น “ชะตากรรม” ที่ชี้นำหรือควบคุมความคิด การกระทำของคนตามหลักของหลายศาสนา
หลักคิดตามหนังสือเล่มนี้ว่าด้วยเรื่อง “โชคดี” ที่ทุกคนสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ ด้วย “ปัจจัยแห่งความโชคดี 20 ประการ” ได้แก่
1. รู้ว่าอะไรสำคัญสำหรับคุณ ตัวตนที่แท้จริงเป็นอย่างไร เช่น ค่านิยมของตัวเอง ที่กลายเป็นคนมีไฟ และทุ่มเทให้งาน หรือหมดไฟ
2. รู้สึกตื่นตัว และมีชีวิตชีวา อุปนิสัยแห่งความโชคดีจะงอกงามได้ดี เมื่อคุณทุ่มเท เอาใจใส่กับสิ่งที่กำลังทำ ไม่ใช่แค่การทำงานแบบ “ขอไปที”
คนประเภท “ตัวอยู่แต่ใจเกษียณ” เพราะขาดแรงจูงใจ และ ไม่ใฝ่รู้ไม่ใฝ่ดี อาจจะคิดแต่ว่าทำไม่ได้ และไม่อยากทำ ก็จะตรงข้ามกับปัจจัยที่ดีนี้
3. ทำได้ และจะทำ ความมุ่งมั่นแบบนี้จะผลักดันให้เกิดความสำเร็จ ด้วยความรู้ + ทักษะ จะเกิดความเชื่อว่า “ฉันทำได้” เสริมด้วยแรงจูงใจว่า “ฉันจะทำ”
4.ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ดี เพราะให้บทเรียนว่า ทำไมจึงผิดพลาด และหากรู้จักเรียนรู้จากบทเรียนต่างๆ เหล่านั้น มันจะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
5. รู้จักความสามารถของตัวเอง นอกจากทักษะที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถ้าลองสังเกตและทดลองทำสิ่งใหม่ๆ อาจได้เห็นความสามารถอื่นที่สร้างโชคดีได้
6. เปิดกว้างต่อผลตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นคำชม หรือเสียงวิจารณ์ ให้ถือนั่นเป็น “ของขวัญ” ขอให้พิจารณาให้ดี ก่อนจะเลือกใช้วิธีการตอบสนองหรือปฏิบัติให้ดีที่สุด ต่อผลตอบรับนั้น
7. สร้างรูปแบการเรียนรู้ของคุณเอง อย่าเอาความสำเร็จของคนอื่น มาบั่นทอนความมั่นใจของตนเอง ควรว่า “เขาเก่งจริง” และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาจำกัดว่า “ฉันจะเก่งแบบนั้นไม่ได้”
8. เปลี่ยนความกลัวให้เป็นการเติมเต็ม เปลี่ยนความวิตกกังวลในการรอคอย และคาดหวังให้เป็นประสบการณ์ที่โน้มน้าวตัวเองไปสู่ความสำเร็จให้ได้
9. ทำงานหนัก ผู้ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ล้วนต้องทุ่มเทความพยายาม ไปในจุดที่จะเกิดประโยชน์สูงสุด และการบรรลุเป้าหมายก็ต้องมีความขยัน การวางแผนที่ดี ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาผลงาน
10. ประเด็นคืออะไร การเข้าใจคุณค่า “ที่ใส่เข้ามา” และสิ่งที่กำลังทำ อย่าจำกัดแค่เพียงทำตามหน้าที่ที่กำหนด ให้ดูว่ามีอะไรบ้างที่ควรจะทำ เพื่อนำไปสู่การสร้างผลการปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยม
11. คิดโดยไม่ต้องคิด ปรับสมองโลดแล่นช้าลง เพื่อให้ ความคิดที่ดีไล่ตามทัน นำไปสู่ความคิดอย่างเปิดใจให้กว้าง และสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดความคิดเยี่ยมยอดที่สุด
12. รู้สึกสดชื่นอยู่เสมอ คนโชคดีทั้งหลาย มักเป็นคนช่างสงสัย หาทางออกตามล่าหาประสบการณ์ใหม่ วิธีการใหม่ในการทำสิ่งต่างๆ และทำให้ความคิดของเขาสดชื่นอยู่เสมอ
13. มีเป้าหมายชีวิต ระบุชัดเจนพร้อมกำหนดเวลา ให้แน่ใจว่าเป้าหมายนั้นน่าจูงใจ และจะเป็นจริงได้ต้องทำงานหนัก รวมทั้งมีกลยุทธ์จัดการกับความ ล้มเหลว
14. มีเป้าหมายระยะสั้น เป็นเป้าหมายที่เข้าถึงได้ทันที และมีวิธีตรวจสอบความก้าวหน้าได้ด้วย การตั้งเป้าหมายระยะสั้น ทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องที่จัดการได้ เป็นหลักไมล์สำคัญที่ใช้ตรวจสอบความก้าวหน้าด้วย
15. ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ควรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเรา มีหลายครั้งที่เราต้องใช้หัวใจมากกว่าหัวสมองในการคิดวิเคราะห์
16. พฤติกรรมบ่มเพาะพฤติกรรม พฤติกรรมที่ดี จะเป็นโอกาสให้ได้รับพฤติกรรมที่ดีตอบแทนกลับมา แม้แต่กลุ่มคนที่เราไม่วันเข้ากับเขาได้ก็ต้องทำให้เหลือน้อยที่สุด
17. สร้างเครือข่าย ทำด้วยเจตนาดีที่สุด ด้วยความยินดี ไม่ใช่ทำเพราะหวังผลประโยชน์จากการนี้ โดยเฉพาะการสร้างเครือข่าย เพื่อช่วยเหลือคนอื่น
18. มีอิทธิพล ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือ เป็นที่มาของหลักการมีอิทธิพล
19. แบ่งปันความสำเร็จ 3 สิ่งง่ายๆ ที่สามารถสร้างบรรยากาศที่ดี ของคุณกับคนอื่น ก็คือ กล่าวคำชม พูดขอบคุณ และฉลองความสำเร็จ
20. มองเห็นโอกาส ไม่รอโอกาสผ่านเข้ามา แต่จะกระตือรืนร้นในการสร้างโอกาสให้ตัวเอง และเตรียมพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ปรากฏขึ้น
ดักลาส มิลเลอร์ สรุปข้อคิดด้วยว่า คุณสามารถเลือกที่จะเป็น “ผู้เล่น” หรือ “ผู้ดู” ในเกมชีวิต
ถ้าจะเป็นผู้เล่น หากต้องการให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับคุณก็ต้อง ทำอะไรบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้สิ่งดีๆ เหล่านั้นเกิดขึ้น
แต่ถ้าจะเป็นแค่ “ผู้ดู” แล้วรอคอยหรือหวังว่าจะมีรถไฟแห่งความโชคดีจะมาหยุดแวะรับเข้าสักวัน ก็เหมือนคอยพึ่งโชคชะตา เราจึงมักได้ยินคนกลุ่มนี้บ่นเสียดาย เมื่อรถไฟเปลี่ยนเส้นทางหรือ ออกเร็วไป 2-3 นาที และพวกเขาก็พลาดมันไป
คนที่เชื่อเรื่องโชคชะตามักจะทำ 2 อย่างคือ
• ใช้ประสบการณ์ ที่เคยเจอผลลัพธ์ที่ไม่ดี เอามาเป็นเงื่อนไขของชีวิต และได้แต่บ่นว่า “ฉันมันโชคไม่ดี...แต่คนอื่น โชคดีตลอด ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ตามคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้หลอก”
• รอคอยและหวังว่า “จะโชคดี” เช่นหวังจะถูกหวย ซึ่งเป็นเรื่องสูญเปล่าในชีวิตอย่างยิ่ง
คุณอยากจะเป็นผู้เล่นที่กระตือรือร้นในชีวิตหรือจะเป็นคน นั่งดู
เมื่อถึงช่วงปลายของชีวิต คุณอยากมองย้อนหลังไปดูการใช้ชีวิตและผลการทำงานที่มีคุณค่าและพูดกับตัวเองด้วยความภาคภูมิใจว่า “ฉันเคยทำมาแล้วอย่างดี” หรือปล่อยให้โอกาสทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาแล้วหลุดมือไปอย่างไร้คุณค่า
คุณเลือกได้เอง!
" สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 806
เชื่อว่าก่อนนำมาฝาก น้อง jverakul ต้องอ่านมาแล้ว
และรู้สึกว่าดี จึงอยากนำมาแบ่งปันให้พี่และเพื่อนๆ
.
พี่ว่า...บทความนี้ "เยี่ยมมาก" และใครที่ชอบบทความนี้ก็ "สุดยอด"
(เอพี่ชมตัวเองด้วยหรือเปล่านะ...พี่ก็รู้สึกชอบบทความนี้มากเลยค่ะ ^__^)
มีประโยชน์มากๆ...ขอบคุณมากเลยค่ะน้อง jverakul
และรู้สึกว่าดี จึงอยากนำมาแบ่งปันให้พี่และเพื่อนๆ
.
พี่ว่า...บทความนี้ "เยี่ยมมาก" และใครที่ชอบบทความนี้ก็ "สุดยอด"
(เอพี่ชมตัวเองด้วยหรือเปล่านะ...พี่ก็รู้สึกชอบบทความนี้มากเลยค่ะ ^__^)
มีประโยชน์มากๆ...ขอบคุณมากเลยค่ะน้อง jverakul
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 807
ขอบคุณมากเลยน้องสายชล ที่แวะมาทักทายกันเป็นระยะๆsaichon เขียน: ขอบคุณครับพี่นุช
แม้ผมจะไม่ได้เข้ามาโพส แต่ก็ตามอ่านบทความดีๆของพี่นุช
ทั้งในกระทู้นี้และในfbอยู่เสมอครับ
สิงโต ตอนนี้แกอายุเกือบ2ปีแล้วครับ เราวางแผนไว้ว่าจะให้แกเข้าโรงเรียนปีหน้าครับ
ช่วงนี้ตอนเราไปรับ-ส่งไทเกอร์ เราจะพยายามพาแกไปด้วย
แกจะได้คุ้นเคยกับโรงเรียนตั้งแต่เด็กๆครับ
สิงโตดูแกจะชอบทำตามสิ่งที่พี่ชายแกทำครับ
บางครั้งเราให้แกทำอะไร แกอาจดื้อไม่เชื่อฟังบ้าง
แต่หากให้พี่ชายแกทำก่อน แกจะทำตามโดยดีเชียวครับ
ส่วนไทเกอร์ตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่องร้องให้ก่อนไปโรงเรียนแล้วครับ
จะมีก็เรื่องไปโรงเรียนสายอยู่บ้างเท่านั้น
เราเริ่มหากีฬาที่จะให้แกเรียนช่วงวัยเด็กไว้แล้วครับ
ไม่รู้จะเร็วไปมั๊ย
แต่คิดว่าดีกว่าให้แกเล่นดิน เล่นทราย อยู่ที่บ้านอย่างเดียวครับ
รักษาสุขภาพน๊ะครับพี่นุช
ผมค่อยเข้ามาคุยใหม่น๊ะครับ
ดีใจที่เด็กๆ ลงตัวมากขึ้นแล้ว
สิงโตเขาจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาใช้ภาษาสื่อสารกับทุกคนได้มากขึ้น
พี่ไทเกอร์เองก็ภูมิใจที่เขาได้นำน้อง และจะรักน้องไปโดยปริยายค่ะ
แต่เรื่องทะเลาะกันยังมีอยู่แน่นอนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
อยู่ในบ้านทะเลาะกัน แต่นอกบ้าน..ถ้ามีใครมารังแก
เขาจะปกป้องและดูกันและกันอย่างดี...เลยหละ
พักนี้น้องสายชลคงไม่มีเวลาไปตกปลาแล้ว...จึงไม่มีรูปปลามาฝาก
เปลี่ยนเป็นรูป "ไทเกอร์" กับ "สิงโต" แทนก็ได้นะคะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 808
เรียบง่าย...สบายกระเป๋า (1)
(Theenuch_Team Money Talk 4)
................
>บ้านถือเป็นหนี้สินไม่ใช่ทรัพย์สิน..หากเรายังผ่อนไม่หมด<
.
ดังนั้น..จ่ายน้อยลงแต่ยังคงดูดี..อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
.................
พื้นที่นอกบ้าน โรงรถ ซักล้าง นั่งเล่น พื้นที่รวมไม่น้อย
เลือกกระเบื้องเกรด B ที่ลดราคาอยู่นอกห้องแอร์ก็ได้
(ลายที่ของเหลือน้อย ยิ่งถูกลง) ออกแบบการปูให้เก๋ๆ
ก็ดูดีได้ในราคาเบาๆ (ความประหยัด x ตรม.ไปเลยค่ะ)
ถ้าเลือกเกรด A ลายในตัว ราคาจะสูงกว่ากันมาก
แถมยังมีโอกาสซ้ำกับบ้านอื่นอยู่ดี แต่ออกแบบเอง
ไม่ซ้ำใครแน่นอน (Limited edition กะเค้าบ้าง ^__^)
.
วัดพื้นที่ + วาดผังในกระดาษ (ทำเป็นอัตราส่วน)
เวลาเลือกกระเบื้องนอกจากคำนวณ ตรม.รวม แล้ว
กำหนดการวางลาย จากจำนวนกระเบื้องราคาถูกที่มี
ละเอียดระดับเซนติเมตร ทำให้ดีเสียตั้งแต่ขั้นตอนนี้
ระบุลายกระเบื้องในแบบให้ชัดเจน จะคุยกับช่างง่าย
พกตลับเมตร และเครื่องคิดเลขเสมอ ไม่ยากค่ะ
.
ในโรงรถก็มีตู้ได้ ไว้เก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับรถ
อุปกรณ์ทำสวน ไม่ต้องเดินเข้าออกตัวบ้านเลย
.
ภาพล่างขวา_ลึกๆ ตู้บานเลื่อนไว้เก็บของสูงๆ ยาวๆ
ลองมองหาพื้นที่ แล้วจ้างช่างก่อขึ้นมาเลยไม่แพง
บานเลื่อนปิด-เปิด ช่างกระจกอลูมิเนียมทุกจ้าวทำได้
.
แถมการทำความสะอาดห้องน้ำและโรงรถให้ด้วยค่ะ
ถ้าใช้น้ำยาล้างห้องน้ำแบบอ่อนๆ จะขัดไม่ค่อยสะอาด
แบบแรงๆ ยาแนวกระเบื้องจะเสีย และทิ้งคราบไขมัน
ลองมาหลายแบบแล้ว พบว่า **ผงซักฟอกแบบถูกๆ**
ดีที่สุดค่ะ...ขัดง่ายไม่ทิ้งคราบ ยาแนวไม่เสียด้วย
(ทางที่ดี..ขัดบ่อยๆ อย่าให้เกิดคราบดีที่สุดค่ะ)
ล้างโรงรถหลังซักผ้าก็ยิ่งดีค่ะ..ประหยัดน้ำได้อีก ^__^
.
รอติดตาม **เรียบง่าย...สบายกระเป๋า** ตอนต่อไปนะคะ เวลาไปซื้อบ้านภาพในแผ่นพับนั้นดูดีไปหมด
แต่ในความเป็นจริง...หลายๆ โครงการไม่มีโรงรถให้ ต้องมาทำเองทีหลัง
เวลาซื้อบ้านต้องถามให้ดี ..บางที่มีที่จอดรถแต่ให้พื้นเป็นปูนขัด
ดังนั้น คนซื้อบ้านมีโอกาสได้เลือกปูกระเบื้องเองสูงค่ะ.
เวลาจะทำจริงต้องมีค่าแรงด้วย ทั้งค่าแรงและค่ากระเบื้องไม่น้อยทีเดียวค่ะ
.
กระเบื้องโรงรถจะแพงกว่าปกติอยู่แล้ว เพราะต้องรับน้ำหนักมาก
แบบมีลายและไม่มีลายในตัว บางทีราคาต่างกันครึ่งนึงเลยค่ะ
ที่สำคัญอีกอย่างที่จะทำให้ทนทานคือ การปูกระเบื้องต้องดูให้ช่างใช้ปูนเต็ม
ถ้างานเหมา บางทีช่างจะประหยัดปูนแล้วปูตามมุมไม่เต็ม
เมื่อมีโพรงอากาศแทรกอยู่เวลารถเหยียบบ่อยๆ อาจแตกได้
ดังนั้นต้องดูเรื่องนี้ดีๆ ด้วยนะคะ...ถ้าพอมีเวลาจ้างแต่ค่าแรงแล้วซื้อของเองจะดีกว่าค่ะ
(Theenuch_Team Money Talk 4)
................
>บ้านถือเป็นหนี้สินไม่ใช่ทรัพย์สิน..หากเรายังผ่อนไม่หมด<
.
ดังนั้น..จ่ายน้อยลงแต่ยังคงดูดี..อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
.................
พื้นที่นอกบ้าน โรงรถ ซักล้าง นั่งเล่น พื้นที่รวมไม่น้อย
เลือกกระเบื้องเกรด B ที่ลดราคาอยู่นอกห้องแอร์ก็ได้
(ลายที่ของเหลือน้อย ยิ่งถูกลง) ออกแบบการปูให้เก๋ๆ
ก็ดูดีได้ในราคาเบาๆ (ความประหยัด x ตรม.ไปเลยค่ะ)
ถ้าเลือกเกรด A ลายในตัว ราคาจะสูงกว่ากันมาก
แถมยังมีโอกาสซ้ำกับบ้านอื่นอยู่ดี แต่ออกแบบเอง
ไม่ซ้ำใครแน่นอน (Limited edition กะเค้าบ้าง ^__^)
.
วัดพื้นที่ + วาดผังในกระดาษ (ทำเป็นอัตราส่วน)
เวลาเลือกกระเบื้องนอกจากคำนวณ ตรม.รวม แล้ว
กำหนดการวางลาย จากจำนวนกระเบื้องราคาถูกที่มี
ละเอียดระดับเซนติเมตร ทำให้ดีเสียตั้งแต่ขั้นตอนนี้
ระบุลายกระเบื้องในแบบให้ชัดเจน จะคุยกับช่างง่าย
พกตลับเมตร และเครื่องคิดเลขเสมอ ไม่ยากค่ะ
.
ในโรงรถก็มีตู้ได้ ไว้เก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับรถ
อุปกรณ์ทำสวน ไม่ต้องเดินเข้าออกตัวบ้านเลย
.
ภาพล่างขวา_ลึกๆ ตู้บานเลื่อนไว้เก็บของสูงๆ ยาวๆ
ลองมองหาพื้นที่ แล้วจ้างช่างก่อขึ้นมาเลยไม่แพง
บานเลื่อนปิด-เปิด ช่างกระจกอลูมิเนียมทุกจ้าวทำได้
.
แถมการทำความสะอาดห้องน้ำและโรงรถให้ด้วยค่ะ
ถ้าใช้น้ำยาล้างห้องน้ำแบบอ่อนๆ จะขัดไม่ค่อยสะอาด
แบบแรงๆ ยาแนวกระเบื้องจะเสีย และทิ้งคราบไขมัน
ลองมาหลายแบบแล้ว พบว่า **ผงซักฟอกแบบถูกๆ**
ดีที่สุดค่ะ...ขัดง่ายไม่ทิ้งคราบ ยาแนวไม่เสียด้วย
(ทางที่ดี..ขัดบ่อยๆ อย่าให้เกิดคราบดีที่สุดค่ะ)
ล้างโรงรถหลังซักผ้าก็ยิ่งดีค่ะ..ประหยัดน้ำได้อีก ^__^
.
รอติดตาม **เรียบง่าย...สบายกระเป๋า** ตอนต่อไปนะคะ เวลาไปซื้อบ้านภาพในแผ่นพับนั้นดูดีไปหมด
แต่ในความเป็นจริง...หลายๆ โครงการไม่มีโรงรถให้ ต้องมาทำเองทีหลัง
เวลาซื้อบ้านต้องถามให้ดี ..บางที่มีที่จอดรถแต่ให้พื้นเป็นปูนขัด
ดังนั้น คนซื้อบ้านมีโอกาสได้เลือกปูกระเบื้องเองสูงค่ะ.
เวลาจะทำจริงต้องมีค่าแรงด้วย ทั้งค่าแรงและค่ากระเบื้องไม่น้อยทีเดียวค่ะ
.
กระเบื้องโรงรถจะแพงกว่าปกติอยู่แล้ว เพราะต้องรับน้ำหนักมาก
แบบมีลายและไม่มีลายในตัว บางทีราคาต่างกันครึ่งนึงเลยค่ะ
ที่สำคัญอีกอย่างที่จะทำให้ทนทานคือ การปูกระเบื้องต้องดูให้ช่างใช้ปูนเต็ม
ถ้างานเหมา บางทีช่างจะประหยัดปูนแล้วปูตามมุมไม่เต็ม
เมื่อมีโพรงอากาศแทรกอยู่เวลารถเหยียบบ่อยๆ อาจแตกได้
ดังนั้นต้องดูเรื่องนี้ดีๆ ด้วยนะคะ...ถ้าพอมีเวลาจ้างแต่ค่าแรงแล้วซื้อของเองจะดีกว่าค่ะ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 809
อายจัง..theenuch เขียน: พักนี้น้องสายชลคงไม่มีเวลาไปตกปลาแล้ว...จึงไม่มีรูปปลามาฝาก
เปลี่ยนเป็นรูป "ไทเกอร์" กับ "สิงโต" แทนก็ได้นะคะ
แต่ถ้าพี่นุชขอมา ผมทำได้ครับ
(เอาเป็นรูปกิจกรรมที่ทำใกล้ๆบ้าน ช่วงวันหยุดมาฝากนิดหนึ่งแล้วกันน๊ะครับ)
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 810
น่ารักมากๆ บอกได้คำเดียวว่า..."ใจละลาย"saichon เขียน:อายจัง..theenuch เขียน: พักนี้น้องสายชลคงไม่มีเวลาไปตกปลาแล้ว...จึงไม่มีรูปปลามาฝาก
เปลี่ยนเป็นรูป "ไทเกอร์" กับ "สิงโต" แทนก็ได้นะคะ
แต่ถ้าพี่นุชขอมา ผมทำได้ครับ
(เอาเป็นรูปกิจกรรมที่ทำใกล้ๆบ้าน ช่วงวันหยุดมาฝากนิดหนึ่งแล้วกันน๊ะครับ)
ขอบคุณน้องสายชลมากเลยที่นำรูปหนุ่มน้อยนักกีฬาทั้งสองมาฝาก ^__^