เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โพสต์ที่ 31
เรียนพี่หมอชาตรี หรือ คุณหมอท่านอื่นๆ จะออกคห.ก็ได้นะครับ
สรุป วันนี้ผมไปหาหมอที่คลีนิคมาแล้วครับ ตั้งใจจะไปตั้งแต่บ่าย
ตอนทานข้าวเย็น ไม่รู้ว่ารีบไปหรือเปล่า ดันเจ็บหน้าอกขึ้นมาอีก ตรงด้านในที่เดิม รู้สึกเจ็บขึ้นมาแว่บนึง หลังจากนั้น สักพักก็รู้สึก เมื่อยล้า กล้ามเนื้อ ไปทางต้นแขนและหลัง คล้ายๆเดิมเลย
เลยได้จังหวะพอดี ไปอธิบายให้หมอฟัง (เป็น GP - Cardiologist ไม่อยู่) หมอก็ให้ไปทำ Chest X-ray และ ตรวจคลื่นหัวใจ ECG ทันที ค่าที่ได้ ก็เป็นปกติ
หมอเลยสรุปว่าเป็นการปวดกล้ามเนื้อ ให้ยา MOBIC 7.5 mg มาทานวันละ 1 เม็ด x 10 วัน และ Voltaren Emulgel มาทา วันละ 2 ครั้ง
ผมถามว่า ยาจะมีผลข้างเคียงต่อตับ หรือไม่ หมอบอกว่า ไม่เป็นไร
ผมถามว่า ถ้ารู้สึกเจ็บขึ้นมาอีก ควรจะทำอย่างไร หมอบอกให้มาหาใหม่ (จบ) :roll:
ไม่ทราบว่า พี่หมอ พอจะมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ เกี่ยวกับยาที่ให้ ควรจะทานหรือไม่ เพราะที่ไม่อยากทานยา คือกลัวยาจะมีผลเสียต่อตับ แต่ถ้าทาน คงเริ่มทาน พรุ่งนี้เย็น หลังอาหาร
******************
แล้วบังเอิญ คุยกับพี่คนไทย คนนึง เป็นวิศวกรเหมือนกัน ทำงานอยู่ที่เดียวกัน แกมีอาการคล้ายกับผมเลย แต่หนักกว่า (เจ็บมากกว่า และเจ็บตลอด) และที่สำคัญ แกเป็นเรื้อรังมา 2 ปีแล้ว แกบอกว่าไปหาหมอบ่อยมาก ทั้งที่เมืองไทย และที่นี่ ตรวจละเอียดหลายอย่าง ทั้ง ECG และ ECHO ก็ไม่พบเหตุผิดปกติอะไร หมอทั้งหลายก็สรุปว่า กล้ามเนื้ออักเสบ
ผมมีข้อสังเกต 2-3 อย่าง
1. เท่าที่คุยกัน แกบอกว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากลมดันมาจากในช่องท้อง ดันหัวใจ ไปดันกล้ามเนื้ออีกที ทำให้อักเสบ ซึ่งผมและแก ตรงกันคือท้องจะมีลมเยอะ มักจะเรออยู่บ่อยๆ (ตอนเจ็บหน้าอก ผมจะรู้สึกแน่นท้องด้วย)
2. ไม่ทราบว่า จะมีโรคที่เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม เช่นอยู่ใน สภาพทะเลทราย หรือว่า จะเกิดจากการนั่งเครื่องบิน ขึ้น-ลง บ่อยหรือเปล่า (ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผมกลับเมืองไทย 3 ครั้ง และ พี่คนนี้ ปกติจะกลับเมืองไทย ปีละ 5-6 ครั้ง เพราะ ลูก-เมียแกอยู่ที่เมืองไทย)
3. ถ้าเป็น เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เนื่องจากไวรัส ผมมีโอกาสที่จะติดเชื้อจากแกหรือไม่
ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ขอความคิดเห็นเพิ่มเติมด้วยครับ
ตอนนี้ก็สบายใจ ขึ้นมาหน่อยถ้าไม่ใช่โรคร้ายแรงอ่ะครับ
สรุป วันนี้ผมไปหาหมอที่คลีนิคมาแล้วครับ ตั้งใจจะไปตั้งแต่บ่าย
ตอนทานข้าวเย็น ไม่รู้ว่ารีบไปหรือเปล่า ดันเจ็บหน้าอกขึ้นมาอีก ตรงด้านในที่เดิม รู้สึกเจ็บขึ้นมาแว่บนึง หลังจากนั้น สักพักก็รู้สึก เมื่อยล้า กล้ามเนื้อ ไปทางต้นแขนและหลัง คล้ายๆเดิมเลย
เลยได้จังหวะพอดี ไปอธิบายให้หมอฟัง (เป็น GP - Cardiologist ไม่อยู่) หมอก็ให้ไปทำ Chest X-ray และ ตรวจคลื่นหัวใจ ECG ทันที ค่าที่ได้ ก็เป็นปกติ
หมอเลยสรุปว่าเป็นการปวดกล้ามเนื้อ ให้ยา MOBIC 7.5 mg มาทานวันละ 1 เม็ด x 10 วัน และ Voltaren Emulgel มาทา วันละ 2 ครั้ง
ผมถามว่า ยาจะมีผลข้างเคียงต่อตับ หรือไม่ หมอบอกว่า ไม่เป็นไร
ผมถามว่า ถ้ารู้สึกเจ็บขึ้นมาอีก ควรจะทำอย่างไร หมอบอกให้มาหาใหม่ (จบ) :roll:
ไม่ทราบว่า พี่หมอ พอจะมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ เกี่ยวกับยาที่ให้ ควรจะทานหรือไม่ เพราะที่ไม่อยากทานยา คือกลัวยาจะมีผลเสียต่อตับ แต่ถ้าทาน คงเริ่มทาน พรุ่งนี้เย็น หลังอาหาร
******************
แล้วบังเอิญ คุยกับพี่คนไทย คนนึง เป็นวิศวกรเหมือนกัน ทำงานอยู่ที่เดียวกัน แกมีอาการคล้ายกับผมเลย แต่หนักกว่า (เจ็บมากกว่า และเจ็บตลอด) และที่สำคัญ แกเป็นเรื้อรังมา 2 ปีแล้ว แกบอกว่าไปหาหมอบ่อยมาก ทั้งที่เมืองไทย และที่นี่ ตรวจละเอียดหลายอย่าง ทั้ง ECG และ ECHO ก็ไม่พบเหตุผิดปกติอะไร หมอทั้งหลายก็สรุปว่า กล้ามเนื้ออักเสบ
ผมมีข้อสังเกต 2-3 อย่าง
1. เท่าที่คุยกัน แกบอกว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากลมดันมาจากในช่องท้อง ดันหัวใจ ไปดันกล้ามเนื้ออีกที ทำให้อักเสบ ซึ่งผมและแก ตรงกันคือท้องจะมีลมเยอะ มักจะเรออยู่บ่อยๆ (ตอนเจ็บหน้าอก ผมจะรู้สึกแน่นท้องด้วย)
2. ไม่ทราบว่า จะมีโรคที่เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม เช่นอยู่ใน สภาพทะเลทราย หรือว่า จะเกิดจากการนั่งเครื่องบิน ขึ้น-ลง บ่อยหรือเปล่า (ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผมกลับเมืองไทย 3 ครั้ง และ พี่คนนี้ ปกติจะกลับเมืองไทย ปีละ 5-6 ครั้ง เพราะ ลูก-เมียแกอยู่ที่เมืองไทย)
3. ถ้าเป็น เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เนื่องจากไวรัส ผมมีโอกาสที่จะติดเชื้อจากแกหรือไม่
ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ขอความคิดเห็นเพิ่มเติมด้วยครับ
ตอนนี้ก็สบายใจ ขึ้นมาหน่อยถ้าไม่ใช่โรคร้ายแรงอ่ะครับ
- drchatri
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โพสต์ที่ 32
ผม seach มาฝากน้องบางกอกนะครับ
http://www.rxlist.com/cgi/generic3/mobic_ad.htm
จะเห็นว่า adverse effect ต่อตับและระบบทางเดินน้ำดี(hepatobilliary system) จากการติดตามดูีการใช้ยาจริงในทางคลินิก ภายหลังจากการที่ปล่อยยาออกสู่ตลาดนั้น เกิดน้อยกว่า 2% จากการใช้ยาในคนไข้กว่า 15,400ราย ดังนั้นหากมีข้อบ่งชี้ผมว่าคงไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตามการใช้ยาตัวนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลในกระเพาะและ
อาการข้างเคียงทางระบบทางเดินอาหาร และตับน้องบางกอกเพิ่งฟื้นผมว่า
ถ้าไม่จำเป็นไม่ได้ปวดกล้ามเนื้อชัดเจน เราอาจไม่ต้องกินยาแล้วใช้วิธีที่ไม่ต้องกินยาเช่นการนวดเบาๆเพื่อคลายกล้ามเนื้อ
การปรคบด้วยน้ำอุ่น หรือทายา Voltaren gel ก็พอครับ จะได้สบายใจไม่ต้องไปเสี่ยง เพราะถ้าเป็นแค่กล้ามเนื้ออักเสบ สบม.ครับหายห่วง ส่วนประเด็นเรื่องเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบผมว่าไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้วครับไม่เหมือนแน่นอน
เพราะหากเป้น EKG ต้องแสดงความผิดปรกติแล้วครับ และการดำเนินโรคจะไม่เป็นๆหายๆแบบนี้ ประเด็นว่ากินอาหารอิ่มแล้วจะมาเจ็บกล้ามเสื้อก็ไม่น่่าจะใช่นะครับ ถ้ากล้ามเสื้อจะล้าน่าจะเพราะทำงานมาทั้งวันมากกว่า แต่การกินอิ่มเกินไปอาจกระตุ้นให้คนที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบนั้นมี angina pectoris กำเริบได้ครับ แต่ผมฟังจากที่เล่ามาแล้วก็ค่อนข้างน่าจะสบายใจได้นะครับ คือถ้าอาการแบบที่น้องบางกอกบรรยายมานี้เกิดในคนที่มี Risk factor มากๆเช่น เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อายุมาก สูบบุหรี่จัด อาการที่เล่ามาต้องให้ความใส่ใจมาก โดยเฉพาะถ้ามีเหงื่อแตกร่วมด้วย แต่สำหรับน้องผมว่าไม่ค่อยเหมือน การทำ EKG ขณะที่ไม่ได้ออกแรงก็ช่วยตัดโรคออกไปได้มาก แต่หากยังกังวลมากคงต้องทำ Exercise stress test ซึ่งผมว่าไม่ค่อยจำเป็นสำหรับน้องครับ สรุปว่า Observe อาการไปก่อนอย่างที่คุณหมอเขาแนะนำมาผมเห็นด้วยครับ นอกจากนั้นการ
กินอิ่มมากอาจจะไปดันกระบังลมทำให้หายใจอึดอัด หรือเกิดจุกเสียดท้องพาลร้าวไปแถวๆยอดอกได้ คิดว่าไม่น่าเป็นไรนะครับน้องบางกอก ขอให้โชคดีครับ
ถ้าคุณหมอท่านอื่นมีความเห็นอื่นก็ช่วยน้องเขาหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ
http://www.rxlist.com/cgi/generic3/mobic_ad.htm
จะเห็นว่า adverse effect ต่อตับและระบบทางเดินน้ำดี(hepatobilliary system) จากการติดตามดูีการใช้ยาจริงในทางคลินิก ภายหลังจากการที่ปล่อยยาออกสู่ตลาดนั้น เกิดน้อยกว่า 2% จากการใช้ยาในคนไข้กว่า 15,400ราย ดังนั้นหากมีข้อบ่งชี้ผมว่าคงไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตามการใช้ยาตัวนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลในกระเพาะและ
อาการข้างเคียงทางระบบทางเดินอาหาร และตับน้องบางกอกเพิ่งฟื้นผมว่า
ถ้าไม่จำเป็นไม่ได้ปวดกล้ามเนื้อชัดเจน เราอาจไม่ต้องกินยาแล้วใช้วิธีที่ไม่ต้องกินยาเช่นการนวดเบาๆเพื่อคลายกล้ามเนื้อ
การปรคบด้วยน้ำอุ่น หรือทายา Voltaren gel ก็พอครับ จะได้สบายใจไม่ต้องไปเสี่ยง เพราะถ้าเป็นแค่กล้ามเนื้ออักเสบ สบม.ครับหายห่วง ส่วนประเด็นเรื่องเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบผมว่าไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้วครับไม่เหมือนแน่นอน
เพราะหากเป้น EKG ต้องแสดงความผิดปรกติแล้วครับ และการดำเนินโรคจะไม่เป็นๆหายๆแบบนี้ ประเด็นว่ากินอาหารอิ่มแล้วจะมาเจ็บกล้ามเสื้อก็ไม่น่่าจะใช่นะครับ ถ้ากล้ามเสื้อจะล้าน่าจะเพราะทำงานมาทั้งวันมากกว่า แต่การกินอิ่มเกินไปอาจกระตุ้นให้คนที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบนั้นมี angina pectoris กำเริบได้ครับ แต่ผมฟังจากที่เล่ามาแล้วก็ค่อนข้างน่าจะสบายใจได้นะครับ คือถ้าอาการแบบที่น้องบางกอกบรรยายมานี้เกิดในคนที่มี Risk factor มากๆเช่น เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อายุมาก สูบบุหรี่จัด อาการที่เล่ามาต้องให้ความใส่ใจมาก โดยเฉพาะถ้ามีเหงื่อแตกร่วมด้วย แต่สำหรับน้องผมว่าไม่ค่อยเหมือน การทำ EKG ขณะที่ไม่ได้ออกแรงก็ช่วยตัดโรคออกไปได้มาก แต่หากยังกังวลมากคงต้องทำ Exercise stress test ซึ่งผมว่าไม่ค่อยจำเป็นสำหรับน้องครับ สรุปว่า Observe อาการไปก่อนอย่างที่คุณหมอเขาแนะนำมาผมเห็นด้วยครับ นอกจากนั้นการ
กินอิ่มมากอาจจะไปดันกระบังลมทำให้หายใจอึดอัด หรือเกิดจุกเสียดท้องพาลร้าวไปแถวๆยอดอกได้ คิดว่าไม่น่าเป็นไรนะครับน้องบางกอก ขอให้โชคดีครับ
ถ้าคุณหมอท่านอื่นมีความเห็นอื่นก็ช่วยน้องเขาหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ

- drchatri
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โพสต์ที่ 33
ขอเพิ่มเติมอีกนิดครับ จริงๆแล้วการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลันอาจเกิดในคนที่ไม่มี Risk มากก็ได้ครับ คือเกิดจากการหดตัวเฉียบพลันของหลอดเสือดหัวใจ( Coronary vesospasm) ซึ่งเราเรียกว่า Prinzmetal angina แต่ภาวะนี้พบน้อยมากครับ และไม่อันตรายมากครับ นอกจากนี้ angina อาจเกิดกับเส้นเลือดหัวใจเส้นเล็กๆที่ไม่ใช่เส้นหลักๆก็ได้( Diagonal branch) ซึ่งไม่ค่อยอันตรายครับแต่สร้างความรำคาญ ผมคิดว่าไม่เหมือนนะครับ จริงๆแล้วก็ไม่ค่อยอยากบรรยายให้น้องฟังมากกว่านี้กลัวจะทำให้กังวลเปล่าๆ แต่ก็ให้ข้อมูลไว้เผื่อมีคุณหมอท่านใดมาเล่าให้ฟังจะได้ไม่งงครับ 

-
- Verified User
- โพสต์: 13
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โพสต์ที่ 34
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยมากที่สุดอันหนึ่งของยากลุ่มยาแก้ปวดในที่นี้คือ Mobic คือเรื่องตับอักเสบ ผมคิดว่าควรหลีกเลี่ยงยานี้ในคนไข้ที่มีโรคตับอยู่แล้ว ในกรณียาแก้ปวดที่ปลอดภัยที่สุดในกรณีที่มีโรคตับอักเสบอยู่คือ paracetamol โดยกินในปริมาณที่น้อยที่สุด (ถ้าอาการปวดดีขึ้นให้หยุดยาเร็วที่สุด) ยืนยันในคำที่กล่าวข้างต้นว่าการออกกำลังกายเป็นการลงทุนที่มีคุณค่ามากที่สุดครับ
ปล.ผมก็เป็นคนหนึ่งที่อ่านเว็บน้มานานมากแต่ไม่ได้ post อะไรยินดีช่วยเหลือความรู้ทางการแพทย์ในส่วนที่พอจะมีความรู้อยู่บ้างครับ
ปล.ผมก็เป็นคนหนึ่งที่อ่านเว็บน้มานานมากแต่ไม่ได้ post อะไรยินดีช่วยเหลือความรู้ทางการแพทย์ในส่วนที่พอจะมีความรู้อยู่บ้างครับ
sin
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โพสต์ที่ 35
ขอบคุณมากครับ :) :) :)
ตอนนี้อาการเจ็บหน้าอก ผมค่อนข้างหายแล้ว จริงๆมันก็ยังมีรู้สึกบ้าง แต่นานๆครั้ง อาทิตย์ - 2 อาทิตย์ /ครั้ง และเจ็บน้อยมากๆ ไม่รู้สึกเหมือนกับตอนครั้งแรกๆ แต่ผมก็ยังทา voltaren อยู่ ก่อนนอน
ยา mobic ช่วงต้นเดือน ผมทานไป ประมาณ 6-7 เม็ดครับ ไม่ได้ทานติดกันทุกวัน แต่จะทานเมื่อรู้สึกเจ็บ วันละเม็ด
ค่า ALT / AST ไปตรวจ ล่าสุด อาทิตย์ที่แล้ว ยังสูงอยู่ที่ 142 กับ 63 u/l
เทียบกับค่าเดือนนึงก่อนหน้า ที่ 198 กับ 67 u/l
หมอที่นี่ บอกว่า ให้มาติดตามผลอีก 6 เดือน
ไม่ทราบว่า คุณหมอ เห็นยังไงบ้างครับ
ยาตอนนี้ ผมทาน legalon 70mg หมดแล้ว เหลือแต่ วิตามิน B-co ทานวันละ 1-2 เม็ด ผมควรจะไปซื้อยา legalon มาทานต่อไหมครับ จริงๆ ผมถามหมอที่นี่แล้ว แต่หมอที่นี่ไม่รู้จัก บอกให้เอาแผงแคปซูลไปให้ดู
ตอนนี้อาการเจ็บหน้าอก ผมค่อนข้างหายแล้ว จริงๆมันก็ยังมีรู้สึกบ้าง แต่นานๆครั้ง อาทิตย์ - 2 อาทิตย์ /ครั้ง และเจ็บน้อยมากๆ ไม่รู้สึกเหมือนกับตอนครั้งแรกๆ แต่ผมก็ยังทา voltaren อยู่ ก่อนนอน
ยา mobic ช่วงต้นเดือน ผมทานไป ประมาณ 6-7 เม็ดครับ ไม่ได้ทานติดกันทุกวัน แต่จะทานเมื่อรู้สึกเจ็บ วันละเม็ด
ค่า ALT / AST ไปตรวจ ล่าสุด อาทิตย์ที่แล้ว ยังสูงอยู่ที่ 142 กับ 63 u/l
เทียบกับค่าเดือนนึงก่อนหน้า ที่ 198 กับ 67 u/l
หมอที่นี่ บอกว่า ให้มาติดตามผลอีก 6 เดือน
ไม่ทราบว่า คุณหมอ เห็นยังไงบ้างครับ
ยาตอนนี้ ผมทาน legalon 70mg หมดแล้ว เหลือแต่ วิตามิน B-co ทานวันละ 1-2 เม็ด ผมควรจะไปซื้อยา legalon มาทานต่อไหมครับ จริงๆ ผมถามหมอที่นี่แล้ว แต่หมอที่นี่ไม่รู้จัก บอกให้เอาแผงแคปซูลไปให้ดู
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โพสต์ที่ 38
ขอบคุณครับ พี่หมอ จริงๆผมชอบชื่ออันนี้มากเลย แต่ไม่ค่อยมีคนเรียกdrchatri เขียน:ตกลงน้องปุย(ชื่อน่ารักจัง คิดถึงหนังเรื่องปุกปุยเลย :lol: ) ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับเงียบไปเลย หาายแล้วใช่ไหม จะได้สบายใจเสียที
เรื่องเจ็บหน้าอก หายแล้วครับ ตามพรที่พี่ๆ ให้ไว้
ส่วนเรื่องผลตรวจเลือดตับ ผมถามอยู่ด้านบน ถ้าไม่รบกวนเกินไป พี่ช่วยออก คห.ด้วยครับ เดี๋ยวนี้ พอดีขึ้น แล้วเกเรเหมือนเดิมครับ นอนดึก นอนน้อย คืองาน + activity ต่างๆมันเยอะอ่ะครับ
ค่า ALT / AST ไปตรวจ ล่าสุด ยังสูงอยู่ที่ 142 กับ 63 u/l
เทียบกับค่าเดือนนึงก่อนหน้า ที่ 198 กับ 67 u/l
หมอที่นี่ บอกว่า ให้มาติดตามผลอีก 6 เดือน
ไม่ทราบว่า คุณหมอ เห็นยังไงบ้างครับ
- drchatri
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
โพสต์ที่ 40
ผมว่าแนวโน้มของค่า liver enzyme ดีขึ้นนะครับ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรจะ follow up ที่ 6เดือนก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ ระหว่างนี้ต้องงดเครื่องดื่มหรือยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เด็ดขาด( เช่นยาแก้ไอบางชนิด) ระมัดระวังเรื่องการใช้ยา โดยเฉพาะพวกยาผีบอก อาหารเสริมที่เราไม่รู้สรรพคุณชัดเจนหรือไม่รู้ส่วนประกอบชัดเจนต้องระวังเป็นพิเศษ พาราเซตมอลถึงแม้อาจมีอาการข้างเคียงทางตับได้ แต่ก็เป็นยาที่ปลอดภัยสามารถใช้ได้ ถ้าอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ส่วนยา Legaron ผมก็ไม่เคยใช้ครับวันก่อนลองเปิดหนังสือดู เข้าใจว่าขะเป็นยากลุ่มที่ช่วยเรื่องการฟื้นฟูตับ แต่ผมไม่แน่ใจเรื่องกลไกลการออกฤทธิ์ เท่าที่เคยเรียนมา และในตำราก็ไม่ได้มีการรับรองชัดเจนครับว่ามียาใดช่วยรักษาโรคตับอักเสบได้(ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษเช่น การใช้ยาต้านไวรัสหรืออินเตอร์เฟียรอน ในการรักษาโรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี) ตับที่อักเสบจะหายได้ด้วยตัวของมันเองหากปราศจากการถูกรบกวนจากสารพิษต่างๆรวมถึงการได้รับสารอาหารที่ดีและการดูแลสุขภาพทั่วไป
หากคุณหมอท่านอื่นๆ หรืออายุรแพทย์ด้านโรคระบบทางเดินอาหารท่านใดมีความเห็นเพิ่มเติมช่วย comment ด้วยนะครับ
ท้ายนี้ขออวยพรอีกครั้งให้น้องปุยมีสุขภาพแข็งแรง รวมไปถึงคนในครอบครัวทุกๆคนเลยนะครับ (ปล.ผมก็มีเจ้าตัวเล็กเหมือนน้องเลยครับ ลูกชายตอนนี้เกือบ 2ขวบแล้วครับ กำลังประสบปัญหาเหมือนของน้องเปี๊ยบเลย แต่แฟนผมเขาบอกให้อดทนบอกว่ามันเป็นธรรมชาติของเด็กเดี๋ยวมันจะหายเอง
เวลาเกิดเรื่องก็ให้ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจดีที่สุดครับ เพราะสมาธิของเด็กจะสั้นมาก และลืมง่ายมาก เด็กจะไม่มีมารยา และจะไม่เก้บมาคิดมากเหมือนเราที่เป็นผู้ใหญ่ หากดื้อมากๆหรือทำอะไรที่ไม่ดีมากๆ ก็อาจต้องดุและและแสดงสีหน้าให้เขาเห็นครับ แล้วรีบเบี่ยวเบนความสนใจดีที่สุดครับ การตีในวัยนี้ไม่ช่วยเลยครับ อย่าทำเลยเขายังไม่เข้าใจ การขังหรือที่ฝรั่งเรียกว่า time out ผมว่าวัยนี้ยังไม่ควรใช้ครับ ต้องโตพอรู้ภาษาก่อนครับ และพยายามอย่าแหย่ยั่วให้อารมณ์เสียบ่อยๆครับเพราะจะกลายเป็นคนขี้หงุดหงิด
หากคุณหมอท่านอื่นๆ หรืออายุรแพทย์ด้านโรคระบบทางเดินอาหารท่านใดมีความเห็นเพิ่มเติมช่วย comment ด้วยนะครับ

เวลาเกิดเรื่องก็ให้ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจดีที่สุดครับ เพราะสมาธิของเด็กจะสั้นมาก และลืมง่ายมาก เด็กจะไม่มีมารยา และจะไม่เก้บมาคิดมากเหมือนเราที่เป็นผู้ใหญ่ หากดื้อมากๆหรือทำอะไรที่ไม่ดีมากๆ ก็อาจต้องดุและและแสดงสีหน้าให้เขาเห็นครับ แล้วรีบเบี่ยวเบนความสนใจดีที่สุดครับ การตีในวัยนี้ไม่ช่วยเลยครับ อย่าทำเลยเขายังไม่เข้าใจ การขังหรือที่ฝรั่งเรียกว่า time out ผมว่าวัยนี้ยังไม่ควรใช้ครับ ต้องโตพอรู้ภาษาก่อนครับ และพยายามอย่าแหย่ยั่วให้อารมณ์เสียบ่อยๆครับเพราะจะกลายเป็นคนขี้หงุดหงิด