หาดูในยูทูปมีซีรีย๋อีกเรื่อง wall street warriors แต่ต้องละวางหน่อย
เพราะเป็นเป็นเรื่อง day trade แต่จุดขายน่าจะนางเอกแซนดีี

ปี2015 เราจะได้เห็น Superman/Batman ครับ สงสัยคราวนี้Gothamเละแน่miracle เขียน:Man of steel
หนังบ้าอะไรฟ่ะ ถล่มโลก
โลกเสียหายไปครึ่งใบ
เชิดชูความเป็น US ที่ว่า เป็นตำรวจโลก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ US
ดูแล้วเครียดชิป ดราม่าก็หนักอึ้ง
เพิ่งดูมาเมื่อบ่ายนี้ แนะนำมากครับ หนังดีมาก ภาพสวย ลุ้นระทึก ให้แง่คิด เติมพลังคนที่หมดหวังจากการสูญเสียอะไรบางอย่างที่สำคัญไปmiracle เขียน:gravity
เรื่องนี้ถ้าใครคิดจะอยู่คนเดียว กับการเสี่ยงตาย ควรไปดู
เรื่องนี้ภาพสวยมากๆๆ เพราะเป็นภาพของโลกในมุมมองที่อยู่บนอวกาศ ถ่ายลงมา
และมีภาพของดวงดาวบนอวกาศให้เห็น
อาจจะได้ชนะในเรื่องที่เกี่ยวกับภาพก็ได้ เพราะเป็นความแปลกใหม่ในการนำเสนอเรื่องราว
เรื่องอื่นๆไม่มีใครเสนอในประเด็นที่เรื่องนี้เสนอบนแผ่นฟิล์ม
ไปดูมาแล้วเหมือนกัน แต่อาจเป้นเพราะอยู่สายบัญชี&ตรวจสอบบัญชีmiracle เขียน:gravity
เรื่องนี้ถ้าใครคิดจะอยู่คนเดียว กับการเสี่ยงตาย ควรไปดู
เรื่องนี้ภาพสวยมากๆๆ เพราะเป็นภาพของโลกในมุมมองที่อยู่บนอวกาศ ถ่ายลงมา
และมีภาพของดวงดาวบนอวกาศให้เห็น
อาจจะได้ชนะในเรื่องที่เกี่ยวกับภาพก็ได้ เพราะเป็นความแปลกใหม่ในการนำเสนอเรื่องราว
เรื่องอื่นๆไม่มีใครเสนอในประเด็นที่เรื่องนี้เสนอบนแผ่นฟิล์ม
[youtube]iszwuX1AK6A[/youtube]ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Leonardo DiCaprio , Matthew McConaughey ซึ่งหนังดัดแปลงจากหนังสือบันทึกส่วนตัวของอดีตเทรดเดอร์แห่งวอลสตรีท ผู้ใช้ชีวิตอย่างร่ำรวย หรูหรา ฟู่ฟ่า และปาร์ตี้อย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่เอฟบีไอจะพบความไม่ชอบมาพากลเบื้องหลังของเงินที่เขาได้รับมา ซึ่งภายหลัง เขาต้องติดคุก 22 เดือน ในข้อหาข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงินให้แก่อาชญากร เทอร์เรนซ์ วินเทอร์ จาก Boardwalk Empire และ The Sopranos เป็นผู้รับหน้าที่ดัดแปลงบทหนังให้
ใน The Wolf of Wall Street ว่าด้วยเรื่องราวของ จอร์แดน เบลฟอร์ รับบทโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ โบรกเกอร์ชาวนิวยอร์ก ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในแผนฉ้อโกงครั้งใหญ่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท Wall Street ธนาคารแห่งใหญ่ของโลกที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วทุกที่ โดยหนังดัดแปลงมาจากบันทึกส่วนตัวของอดีตโบรกเกอร์ชื่อดัง จอร์แดน เบลฟอร์ (Jordan Belfort) ในช่วงชีวิตตั้งแต่จุดสูงสุดไปจนถึงจุดตกต่ำของเขา ช่วงปี 1980 ซึ่งเราจะได้เห็นทั้งชีวิตการทำงานที่ต้องบริหารเรื่องการเงิน และไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่เต็มไปด้วยปาร์ตี้แสงสีวุ่นวายของเขา
ที่มา http://www.nangdee.com/title/html/m3447.html
ต้องลองไปดูครับ ภาคแรกจะเน้นแอคชั่น เน้นความสนุกจากในเกม ส่วนภาคนี้ใส่พวกสัญลักษณ์และมุมมองทางการเมืองเข้าไปเยอะมากครับ อารมณ์ต่างกับภาคเก่าพอควร เพราะตัวละครแต่ละตัวจะแสดงความต่อต้านทางการเมืองออกมาในรูปแบบต่างๆpicatos เขียน:ผมดูแล้วไม่ชอบ Hunger Game ภาคแรก ตอนแรกไม่คิดว่าจะไปดูภาค 2 แน่ๆ แต่พอเห็นบทวิจารณ์ Rating ของหลายๆ แหล่ง ที่ยกย่องให้ขึ้นเป็นถึง Leage เกียวกับ The Empire Strike Back หรือ The Dark Knight เลยทำให้รู้สึกดู... แต่พอมาอ่านความเห็นของคนแถวนี้แล้วก็ชักจะงงๆ... ตกลงไปดูดีไหมเนี่ย?
อืม... ผมไม่ชอบภาคแรก เพราะ เคยดูและติดภาพของหนังญี่ปุ่นที่ชื่อ Battle Royal อยู่... เรื่องนั้นนี่เอาคนไปฆ่ากันบนเกาะ ซึ่งอารมณ์ ความเครียด ความตั้งใจในการฆ่า ความกดดันนี่ ถึงกว่ามาก... Hunger Game ภาคแรกกำกับออกมามองโลกในแง่ดี ผมเลยมี bias พอสมควร... แต่ภาคสองนี่เข้าใจว่า สร้างสมมติฐานอะไรเอาไว้ได้เยอะแล้ว ทำให้ในการเดินเรื่องภาคสอง เอาสมมติฐาน สภาพแวดล้อมต่างๆ มาเดินเรื่องได้เต็มที่ สไตล์เดี๋ยวกับ The Empire Strike Back หรือ The Dark Knight แล้วเอาสมมติฐานที่วางเอาไว้มาเดินเรื่องอย่างเข้มข้น... คงต้องลองไปดูเองแล้วล่ะครับ ว่าภาคสองจะทำได้ดีอย่างที่นักวิจารณ์เค้าว่ากันเอาไว้รึเปล่าJobJakraphan เขียน:ต้องลองไปดูครับ ภาคแรกจะเน้นแอคชั่น เน้นความสนุกจากในเกม ส่วนภาคนี้ใส่พวกสัญลักษณ์และมุมมองทางการเมืองเข้าไปเยอะมากครับ อารมณ์ต่างกับภาคเก่าพอควร เพราะตัวละครแต่ละตัวจะแสดงความต่อต้านทางการเมืองออกมาในรูปแบบต่างๆpicatos เขียน:ผมดูแล้วไม่ชอบ Hunger Game ภาคแรก ตอนแรกไม่คิดว่าจะไปดูภาค 2 แน่ๆ แต่พอเห็นบทวิจารณ์ Rating ของหลายๆ แหล่ง ที่ยกย่องให้ขึ้นเป็นถึง Leage เกียวกับ The Empire Strike Back หรือ The Dark Knight เลยทำให้รู้สึกดู... แต่พอมาอ่านความเห็นของคนแถวนี้แล้วก็ชักจะงงๆ... ตกลงไปดูดีไหมเนี่ย?
เหมือนเป็นการเอา Battle Royal มาต่อยอดโดยการใส่เรื่องการเมืองและรักสามเศร้าลงไปครับ (แต่ผู้กำกับบอกว่าไม่เคยดู Battle Royal ซึ่งผมว่าน่าจะเอามาจากBRแน่ๆ) ถ้าในเรื่องของเกมต้องให้BRเลยครับpicatos เขียน: อืม... ผมไม่ชอบภาคแรก เพราะ เคยดูและติดภาพของหนังญี่ปุ่นที่ชื่อ Battle Royal อยู่... เรื่องนั้นนี่เอาคนไปฆ่ากันบนเกาะ ซึ่งอารมณ์ ความเครียด ความตั้งใจในการฆ่า ความกดดันนี่ ถึงกว่ามาก... Hunger Game ภาคแรกกำกับออกมามองโลกในแง่ดี ผมเลยมี bias พอสมควร... แต่ภาคสองนี่เข้าใจว่า สร้างสมมติฐานอะไรเอาไว้ได้เยอะแล้ว ทำให้ในการเดินเรื่องภาคสอง เอาสมมติฐาน สภาพแวดล้อมต่างๆ มาเดินเรื่องได้เต็มที่ สไตล์เดี๋ยวกับ The Empire Strike Back หรือ The Dark Knight แล้วเอาสมมติฐานที่วางเอาไว้มาเดินเรื่องอย่างเข้มข้น... คงต้องลองไปดูเองแล้วล่ะครับ ว่าภาคสองจะทำได้ดีอย่างที่นักวิจารณ์เค้าว่ากันเอาไว้รึเปล่า
ผมไม่ชอบภาคแรก แต่ภาคสอง สนุกดีครับpicatos เขียน: สำหรับคนที่ผิดหวังภาคแรก ผมว่าภาคนี้นี่เยี่ยมมากเลยครับ