VI หาดใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 121
งานมีทติ้งที่หาดใหญ่นอกจากผมจะได้ความรู้จากทางผู้จัดอย่างมากมายแล้ว
ยังมีอีก1สิ่งที่ผมได้มากไม่แพ้กันคือผมได้มิตรแท้อีกหลายท่าน
โดยเฉพาะท่านที่มอบหนังสือเล่มนี้ให้ผม....
ขอบคุณผู้จัดงานมีทติ้งและมิตรแท้ท่านนั้นและอีกหลายๆท่านที่เผื่อแผ่สิ่งดีๆ
แก่ผู้อื่นเสมอมา...
ขอสิ่งดีๆจงกลับไปตอบแทนพวกท่านเป็นร้อยเท่าพันทวีครับ
ยังมีอีก1สิ่งที่ผมได้มากไม่แพ้กันคือผมได้มิตรแท้อีกหลายท่าน
โดยเฉพาะท่านที่มอบหนังสือเล่มนี้ให้ผม....
ขอบคุณผู้จัดงานมีทติ้งและมิตรแท้ท่านนั้นและอีกหลายๆท่านที่เผื่อแผ่สิ่งดีๆ
แก่ผู้อื่นเสมอมา...
ขอสิ่งดีๆจงกลับไปตอบแทนพวกท่านเป็นร้อยเท่าพันทวีครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 122
ผมเริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้ไปแล้วบางส่วน
สิ่งที่ผมพบคือผมถูกจริตกับวิธีการเลือกหุ้นลงทุนของผู้แต่งหนังสือเล่มนี้นี่แหละ
นั่นคือการเลือกธุรกิจที่จะสามารถถือได้ตลอดชีวิต
แม้ความคิดนี้จะขัดแย้งกับความเชื่อเดิมของผม คือทุกสิ่งมี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
เช่นเดียวกับหุ้น ก่อนหน้านี้ผมก็เชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน แต่หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมเริ่มคิดว่า
ถ้าเราศรัทธาและคิดว่ามันเป็นไปได้ เราก็จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มันเป็นไปได้
อิอิ...ผมจะลองทำตามแนวแนวคิดนี้ดูซักตั้ง
แฮ่...ว่าแต่เพื่อนๆพอมีหุ้นแบบนี้ให้ผมศึกษาซักคนละตัว 2ตัวป่าวครับ ฮา...
สิ่งที่ผมพบคือผมถูกจริตกับวิธีการเลือกหุ้นลงทุนของผู้แต่งหนังสือเล่มนี้นี่แหละ
นั่นคือการเลือกธุรกิจที่จะสามารถถือได้ตลอดชีวิต
แม้ความคิดนี้จะขัดแย้งกับความเชื่อเดิมของผม คือทุกสิ่งมี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
เช่นเดียวกับหุ้น ก่อนหน้านี้ผมก็เชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน แต่หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมเริ่มคิดว่า
ถ้าเราศรัทธาและคิดว่ามันเป็นไปได้ เราก็จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มันเป็นไปได้
อิอิ...ผมจะลองทำตามแนวแนวคิดนี้ดูซักตั้ง
แฮ่...ว่าแต่เพื่อนๆพอมีหุ้นแบบนี้ให้ผมศึกษาซักคนละตัว 2ตัวป่าวครับ ฮา...
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 123
ให้ไปเลยตัวแรก ชื่อเหมือนพี่เอ๊ดเลยครับ ลองเอาเฉพาะอักษรนำหน้าสองตัวแรกมาสิ
และเหมือนกับว่าเจ้าของหนังสือเขาก็ลงทุนบริษัทนี้อยู่ด้วยนะ
และเหมือนกับว่าเจ้าของหนังสือเขาก็ลงทุนบริษัทนี้อยู่ด้วยนะ
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 124
ขอบคุณครับพี่โอ๊ตoatty เขียน:ให้ไปเลยตัวแรก ชื่อเหมือนพี่เอ๊ดเลยครับ ลองเอาเฉพาะอักษรนำหน้าสองตัวแรกมาสิ
และเหมือนกับว่าเจ้าของหนังสือเขาก็ลงทุนบริษัทนี้อยู่ด้วยนะ
คนอะไรใจดีจัง ขอความช่วยเหลือทีไรมาก่อนคนอื่นเสมอเลย
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 379
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 125
ofmoatty เขียน:ให้ไปเลยตัวแรก ชื่อเหมือนพี่เอ๊ดเลยครับ ลองเอาเฉพาะอักษรนำหน้าสองตัวแรกมาสิ
และเหมือนกับว่าเจ้าของหนังสือเขาก็ลงทุนบริษัทนี้อยู่ด้วยนะ
- theerasak24
- Verified User
- โพสต์: 614
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 126
งานมิตติ้งที่หาดใหญ่นี้มีความเป็นกันเองตั้งแต่แรกมาเป็นยังไงทุกๆครั้งก็มีความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆ กับธารน้ำใจที่ท่านอาจารย์และพี่ๆทุกๆท่านให้มาตลอดครับ ขอขอบคุณจากใจครับ.
"เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะยังคงทำสิ่งต่างๆ ต่อไปตราบใดที่มันยังให้ความรื่นรมย์และคุณก็ทำมันได้ดี"
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 127
หูย..ท่านsaichonใครให้เล่มนั้นมาล่ะฮะ อยากได้อยู่พอดี
ผมมัวแต่นั่งจด ปากกาก็ยืมพี่บัวดินกะพี่แมวมายังไม่คืนเรย
กระดาษก็ท่านmatrixให้มา มีท่านromeeกะเพื่อนๆคอยถามคำถาม
หนังสือวีไอเที่ยวนี้ อ.ลูกอิสานแนะนำ
1.margin of safety โดยset คนที่อ.บัฟเฟต อยากให้บริหารเบอกชายร์ต่อ
มีประโยค"VI always bottom up" คือมักจะก้นโด่ง หัวทิ่ม เอ๊ย ไม่ใช่..
มองจากกิจการ แทนที่จะมองลงจากอุตสาหกรรม(ซึ่งต้องดูสองขั้นตอน อาจพลาด)
ดังนั้น จะเห็นว่า อุตๆเหล็กไม่ดี แต่ทำไมหลายตัวรุ่ง ไอที ดี ค้าปลีกดี แต่ทำไมค้าปลีกไอทีบางตัว ร่วง
2.out of mind เล่มนี้แหละครับ อ่านแล้วสรุปมาแชร์กันด้วยนะจ๊ะ
3.ของอ.linzchi(ชื่อถูกป่าวหว่า) กำลังจะออก
ผมมัวแต่นั่งจด ปากกาก็ยืมพี่บัวดินกะพี่แมวมายังไม่คืนเรย
กระดาษก็ท่านmatrixให้มา มีท่านromeeกะเพื่อนๆคอยถามคำถาม
หนังสือวีไอเที่ยวนี้ อ.ลูกอิสานแนะนำ
1.margin of safety โดยset คนที่อ.บัฟเฟต อยากให้บริหารเบอกชายร์ต่อ
มีประโยค"VI always bottom up" คือมักจะก้นโด่ง หัวทิ่ม เอ๊ย ไม่ใช่..
มองจากกิจการ แทนที่จะมองลงจากอุตสาหกรรม(ซึ่งต้องดูสองขั้นตอน อาจพลาด)
ดังนั้น จะเห็นว่า อุตๆเหล็กไม่ดี แต่ทำไมหลายตัวรุ่ง ไอที ดี ค้าปลีกดี แต่ทำไมค้าปลีกไอทีบางตัว ร่วง
2.out of mind เล่มนี้แหละครับ อ่านแล้วสรุปมาแชร์กันด้วยนะจ๊ะ
3.ของอ.linzchi(ชื่อถูกป่าวหว่า) กำลังจะออก
samatah
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 128
แหม่ ถ้าคุณสายชลกะจะถือยาวตลอดไป สงสัยต้องอ่านบทความนี้แล้วละครับ เผื่อจะมีตัวเลขมาช่วยคำนวนคร่าวๆ
http://kongkiti.blogspot.com/2012/08/my ... isher.html
http://kongkiti.blogspot.com/2012/08/ne ... cks-2.html
เจ้าของบล็อก ก็น่าจะเป็นคนในเวบนี้ด้วยแหละครับ ขออณุญาติเอามาเผยแพร่นะครับ
http://kongkiti.blogspot.com/2012/08/my ... isher.html
http://kongkiti.blogspot.com/2012/08/ne ... cks-2.html
เจ้าของบล็อก ก็น่าจะเป็นคนในเวบนี้ด้วยแหละครับ ขออณุญาติเอามาเผยแพร่นะครับ
You only live once, but if you do it right, once is enough.
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 129
หุ้นตามเซียนที่อยากรู้กัน
อ.ty
หุ้นไฮเทคตัวที่ถืออยู่"แพงแล้วนะ" (ผมว่าอ.ได้ราวสิบเด้ง)กำไรมาจาก
1.ซื้อมาขายไป งั้นๆ
2.data center ได้ตึกเก่าNPLไม่แพง มาทำศูนย์ข้อมูล ซ่ึงต้องมีแอร์ เครื่องดับเพลิงพิเศษๆลๆ
เป็นระบบเฉพาะตัวเพื่อรักษาข้อมูล เพิ่งเสร็จ ในขณะที่เจ้าอื่นเพิ่งเริ่มทำ
3.cloud computing ประมาณระบบสำเร็จรูปที่ลูกค้ามาเช่าใช้งานเลย
ลูกค้าไม่ต้องไปลงทุนติดตั้งโปรแกรมเอง หาผู้ดูแลๆลๆ มาเช่ากะบริษัท ง่ายกว่า ถูกกว่า
ซึ่งพอไปดูตัวเลขบ.เมืองนอก "กำไรเหลือเชื่อ"
ข้อเสียคือ คู่แข่งเยอะ แต่อีกสักพักกว่าจะตามทัน
อ.ลูกอิสาน
จาก"การบ้านที่ให้ไปศึกษาQโน้น"
1."บ.เงินทุนกอดสมบัติ" ไม่ใช่โบรคเกอร์ครับ ไปดูกันเอง แล้วช่วยกันมาดันราคาให้ด้วย ฮ่า..(เล่นงี้เรย)
2.ส่งของให้น้ำดำ ตอนแรกผมนึกว่าทำฝาขวด กลายเป็น"กาวฝากระป๋อง"
จุดเด่น
1.น้ำดำใหญ่สุด approved
2.ขยายกำลังผลิตสามเท่า ไม่ต้องเพิ่มทุน
3.บ.ไทย ขายknowhowให้เยอรมัน
4.ปันผลโอเค งบแข็งแรง
5.ขยายโรงงานไปจีน โตตลอด
ข้อเสีย
1อำนาจต่อรองลูกค้าไม่มี อาจโดนบีบราคา
2.เด๋วนี้petมากกว่ากระป๋งแระ
3.สัญญากะเยอรมันเหลืออีกสองปี ไม่รู้จะเอาไปทำเองป่ะ
4.(ผมเติมเอง)สภาพคล่องน้อยมั่กๆ อ.ได้สองเด้งแระ อยากได้สงสัยต้องขอซื้อต่อจากอาจารย์
ฟังตอนแรกน้ำลายค่อยๆไหลออกจนฟูมปาก
พอฟังเสร็จน้ำลายหดกลับ คอแห้ง หายเหม่อพลางพ้น..(เซ่อไปเลย555+)
อ.ty
หุ้นไฮเทคตัวที่ถืออยู่"แพงแล้วนะ" (ผมว่าอ.ได้ราวสิบเด้ง)กำไรมาจาก
1.ซื้อมาขายไป งั้นๆ
2.data center ได้ตึกเก่าNPLไม่แพง มาทำศูนย์ข้อมูล ซ่ึงต้องมีแอร์ เครื่องดับเพลิงพิเศษๆลๆ
เป็นระบบเฉพาะตัวเพื่อรักษาข้อมูล เพิ่งเสร็จ ในขณะที่เจ้าอื่นเพิ่งเริ่มทำ
3.cloud computing ประมาณระบบสำเร็จรูปที่ลูกค้ามาเช่าใช้งานเลย
ลูกค้าไม่ต้องไปลงทุนติดตั้งโปรแกรมเอง หาผู้ดูแลๆลๆ มาเช่ากะบริษัท ง่ายกว่า ถูกกว่า
ซึ่งพอไปดูตัวเลขบ.เมืองนอก "กำไรเหลือเชื่อ"
ข้อเสียคือ คู่แข่งเยอะ แต่อีกสักพักกว่าจะตามทัน
อ.ลูกอิสาน
จาก"การบ้านที่ให้ไปศึกษาQโน้น"
1."บ.เงินทุนกอดสมบัติ" ไม่ใช่โบรคเกอร์ครับ ไปดูกันเอง แล้วช่วยกันมาดันราคาให้ด้วย ฮ่า..(เล่นงี้เรย)
2.ส่งของให้น้ำดำ ตอนแรกผมนึกว่าทำฝาขวด กลายเป็น"กาวฝากระป๋อง"
จุดเด่น
1.น้ำดำใหญ่สุด approved
2.ขยายกำลังผลิตสามเท่า ไม่ต้องเพิ่มทุน
3.บ.ไทย ขายknowhowให้เยอรมัน
4.ปันผลโอเค งบแข็งแรง
5.ขยายโรงงานไปจีน โตตลอด
ข้อเสีย
1อำนาจต่อรองลูกค้าไม่มี อาจโดนบีบราคา
2.เด๋วนี้petมากกว่ากระป๋งแระ
3.สัญญากะเยอรมันเหลืออีกสองปี ไม่รู้จะเอาไปทำเองป่ะ
4.(ผมเติมเอง)สภาพคล่องน้อยมั่กๆ อ.ได้สองเด้งแระ อยากได้สงสัยต้องขอซื้อต่อจากอาจารย์
ฟังตอนแรกน้ำลายค่อยๆไหลออกจนฟูมปาก
พอฟังเสร็จน้ำลายหดกลับ คอแห้ง หายเหม่อพลางพ้น..(เซ่อไปเลย555+)
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 130
ทีนี้เรื่องเหล็ก
ตัวนึง ที่ท่านsyjให้ข้อสังเกตุ "ขายไปแระ ก่อนงบออก เพราะข้อมูลก็น้อย ออปเดย์ก็ไม่มี ไปประชุมซะไกลลิบ"
ตัวนึง ที่ท่านyyคุยกะผม "เขาไปหักคอน้องซื้อโรงงานมา พีอีสี่เอง ยังไม่รวมงบเลย"
ตัวนึง ที่ท่านkaiserเม้นท์ "เหล็กใต้ จะดีตามเศรษฐกิจใต้ ซึ่งตอนนี้ไปเรื่อยๆ ภาคอื่นไม่มาแข่ง(รู้สึกจะมีโรงงาน
หรือโรงเก็บอยู่แถวภาคกลางอิสานด้วย)
เรื่องสตอคที่ท่านoattyสงสัย ฟังผ่านๆคล้ายจะไม่เท่าไร แต่Q2นี้ กำไรอาจลดลงครับ
แถมเรื่องCI หุ้นอุปกรณ์safetyที่ท่านyyไปเห็นเข้า"ขายไปแล้ว ไม่แน่ใจธุรกิจน้ำที่มีคู่แข่งเยอะ"
ผมอุทาน"อิ๊บอ๋ายแหล่ว"เหื่อนฮาตรึม
อ.เลยสมน้ำหน้า เอ๊ยปลอบว่า" ไม่เป็นไรหรอก เห็นชื่อผมครั้งนี้แล้ว ครั้งต่อไปก็จะไม่เห็นอีก หรือไปเห็นที่ใหม่"
สอนพวกชอบเดินตามผู้ใหญ่ แต่เดินตามไม่ทันซะเลย แง...รอผมด้วยยยย..
ตัวนึง ที่ท่านsyjให้ข้อสังเกตุ "ขายไปแระ ก่อนงบออก เพราะข้อมูลก็น้อย ออปเดย์ก็ไม่มี ไปประชุมซะไกลลิบ"
ตัวนึง ที่ท่านyyคุยกะผม "เขาไปหักคอน้องซื้อโรงงานมา พีอีสี่เอง ยังไม่รวมงบเลย"
ตัวนึง ที่ท่านkaiserเม้นท์ "เหล็กใต้ จะดีตามเศรษฐกิจใต้ ซึ่งตอนนี้ไปเรื่อยๆ ภาคอื่นไม่มาแข่ง(รู้สึกจะมีโรงงาน
หรือโรงเก็บอยู่แถวภาคกลางอิสานด้วย)
เรื่องสตอคที่ท่านoattyสงสัย ฟังผ่านๆคล้ายจะไม่เท่าไร แต่Q2นี้ กำไรอาจลดลงครับ
แถมเรื่องCI หุ้นอุปกรณ์safetyที่ท่านyyไปเห็นเข้า"ขายไปแล้ว ไม่แน่ใจธุรกิจน้ำที่มีคู่แข่งเยอะ"
ผมอุทาน"อิ๊บอ๋ายแหล่ว"เหื่อนฮาตรึม
อ.เลยสมน้ำหน้า เอ๊ยปลอบว่า" ไม่เป็นไรหรอก เห็นชื่อผมครั้งนี้แล้ว ครั้งต่อไปก็จะไม่เห็นอีก หรือไปเห็นที่ใหม่"
สอนพวกชอบเดินตามผู้ใหญ่ แต่เดินตามไม่ทันซะเลย แง...รอผมด้วยยยย..
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 131
อรุณสวัสดิ์ครับท่านdr1และชาวห้องวีไอหาดใหญ่ทุกท่าน
ขอบคุณสำหรับไอเดียหุ้นถือยาวจากทุกท่านน๊ะครับ
ที่ต้องขอบคุณอีกท่านก็คือท่านdr1ที่สรุปเนื้อหามีทติ้งแบบสนุกๆให้เราอ่านทบทวนทุกรอบเลย
ขอให้ที่รวยอยู่แล้วยิ่งรวยขึ้นๆไปอีกน๊ะครับ
สำหรับหนังสือเล่มที่ว่า คนที่ให้ผมไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ เค้าอยู่ใกล้ๆเราแถวนี้แหละ
(แต่ขอเก็บชื่อเค้าไว้ในใจน๊ะครับ ฮ่า...)
ส่วนเนื้อหาในหนังสือที่ท่านdr1ขอให้ช่วยสรุป บังเอิญผมเป็นคนสรุปไม่ค่อยเก่ง เกรงจะทำให้บทความดีๆของผู้แต่งผิดเพี้ยนและเพื่อนๆอาจสับสนได้
เอาเป็นว่าแนะนำให้เพื่อนที่สนใจ สั่งซื้อหนังสือแบบที่ท่านเจ้าสำนักเราบอก หรือเข้าfacebookของชมรมวีไอภาคใต้ครับ
เพราะมีมหามิตรท่านหนึ่ง เค้าเอาบทความของผู้แต่งท่านนี้ไปลงให้เราอ่านกันเกือบทุกเช้าเลยครับ
ขอบคุณสำหรับไอเดียหุ้นถือยาวจากทุกท่านน๊ะครับ
ที่ต้องขอบคุณอีกท่านก็คือท่านdr1ที่สรุปเนื้อหามีทติ้งแบบสนุกๆให้เราอ่านทบทวนทุกรอบเลย
ขอให้ที่รวยอยู่แล้วยิ่งรวยขึ้นๆไปอีกน๊ะครับ
สำหรับหนังสือเล่มที่ว่า คนที่ให้ผมไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ เค้าอยู่ใกล้ๆเราแถวนี้แหละ
(แต่ขอเก็บชื่อเค้าไว้ในใจน๊ะครับ ฮ่า...)
ส่วนเนื้อหาในหนังสือที่ท่านdr1ขอให้ช่วยสรุป บังเอิญผมเป็นคนสรุปไม่ค่อยเก่ง เกรงจะทำให้บทความดีๆของผู้แต่งผิดเพี้ยนและเพื่อนๆอาจสับสนได้
เอาเป็นว่าแนะนำให้เพื่อนที่สนใจ สั่งซื้อหนังสือแบบที่ท่านเจ้าสำนักเราบอก หรือเข้าfacebookของชมรมวีไอภาคใต้ครับ
เพราะมีมหามิตรท่านหนึ่ง เค้าเอาบทความของผู้แต่งท่านนี้ไปลงให้เราอ่านกันเกือบทุกเช้าเลยครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 132
ไม่ใช่ออฟฟิสเมทนะครับ ชื่อพี่เอ๊ดไม่ได้มาจาก OFM ซะหน่อย นี่มันชื่อย่อของหนังสือนี่นาgood to great เขียน:ofmoatty เขียน:ให้ไปเลยตัวแรก ชื่อเหมือนพี่เอ๊ดเลยครับ ลองเอาเฉพาะอักษรนำหน้าสองตัวแรกมาสิ
และเหมือนกับว่าเจ้าของหนังสือเขาก็ลงทุนบริษัทนี้อยู่ด้วยนะ
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 133
ผมรู้คำตอบแล้วครับพี่โอ๊ต กำลังศึกษาอยู่ว่าธุรกิจนี้ดียังไงถึงถูกใจผู้แต่งหนังสือได้ครับoatty เขียน:ไม่ใช่ออฟฟิสเมทนะครับ ชื่อพี่เอ๊ดไม่ได้มาจาก OFM ซะหน่อย นี่มันชื่อย่อของหนังสือนี่นาgood to great เขียน:ofmoatty เขียน:ให้ไปเลยตัวแรก ชื่อเหมือนพี่เอ๊ดเลยครับ ลองเอาเฉพาะอักษรนำหน้าสองตัวแรกมาสิ
และเหมือนกับว่าเจ้าของหนังสือเขาก็ลงทุนบริษัทนี้อยู่ด้วยนะ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 134
เสียดาย ครั้งนี้ เซียน อ.วรพงษ์ ไม่ได้มาร่วมครับ ขาดไปหนึ่งขา
(เลยไม่ครบ ฮก-ลก-ซิ่ว)
ได้ข่าวว่ากำลังเอ็นจอยกับหุ้นขายส่งยักษ์ใหญ่ ที่มีคนให้ราคา
เท่ากับ "Dream Liner" ก็เลยไปลองนั่ง Dream Liner ที่ญี่ปุ่น ...
สิ่งหนึ่งที่ ท่านนายกฯ อ.โจ ให้ไว้ จากคำสอนของใครแล้วหว่า
(จำไม่ได้ขอโทษครับ) "Value Investing is Always Bottom-Up".
แล้วอีกอันหนึ่งที่พูดมาผมหล่ะตกใจ
(ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาหุ้นตกมามาก)
ท่านนายกฯ โจ บอกว่า โอโห้ ของดีราคาถูกเพียบ อยากมีเงินสดซื้ออีก
ฟังแล้วงงครับ แต่มานึกอีกทีถึงคำสอนของบัฟเฟตต์
"จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว จงกลัวเมื่อคนอื่นกล้า" นี่ท่าทางจะจริง
แต่ทำยากมากเลย
พอมาอาทิตย์นี้ (ตอนนี้) หุ้นยิ่งตกมากกว่าอาทิตย์ก่อนอีก
ท่าน อ.โจ คงเก็บของได้อย่างมีความสุขและสนุกสนาน ...
พอถาม เซียน อ.ตี้ ว่าโปรเจ็ค สองล้านล้าน นี่ใครจะได้ประโยชน์มาก
ท่านบอกว่าพวกรับเหมารายใหญ่ เหล่าลูกศิษย์อย่างผมบอกไม่ชอบ
รับเหมา ท่านก็บอกว่า "ผู้ผลิตวัสดุรายใหญ่สุดของไทย" (ที่จริงบอกชื่อ
มาโต้งๆ แต่บอกโต้งๆ ตรงนี้ไม่ได้) ใครชอบหุ้นแข็งแกร่งถือยาวๆ น่าจะดี ...
(เลยไม่ครบ ฮก-ลก-ซิ่ว)
ได้ข่าวว่ากำลังเอ็นจอยกับหุ้นขายส่งยักษ์ใหญ่ ที่มีคนให้ราคา
เท่ากับ "Dream Liner" ก็เลยไปลองนั่ง Dream Liner ที่ญี่ปุ่น ...
สิ่งหนึ่งที่ ท่านนายกฯ อ.โจ ให้ไว้ จากคำสอนของใครแล้วหว่า
(จำไม่ได้ขอโทษครับ) "Value Investing is Always Bottom-Up".
แล้วอีกอันหนึ่งที่พูดมาผมหล่ะตกใจ
(ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาหุ้นตกมามาก)
ท่านนายกฯ โจ บอกว่า โอโห้ ของดีราคาถูกเพียบ อยากมีเงินสดซื้ออีก
ฟังแล้วงงครับ แต่มานึกอีกทีถึงคำสอนของบัฟเฟตต์
"จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว จงกลัวเมื่อคนอื่นกล้า" นี่ท่าทางจะจริง
แต่ทำยากมากเลย
พอมาอาทิตย์นี้ (ตอนนี้) หุ้นยิ่งตกมากกว่าอาทิตย์ก่อนอีก
ท่าน อ.โจ คงเก็บของได้อย่างมีความสุขและสนุกสนาน ...
พอถาม เซียน อ.ตี้ ว่าโปรเจ็ค สองล้านล้าน นี่ใครจะได้ประโยชน์มาก
ท่านบอกว่าพวกรับเหมารายใหญ่ เหล่าลูกศิษย์อย่างผมบอกไม่ชอบ
รับเหมา ท่านก็บอกว่า "ผู้ผลิตวัสดุรายใหญ่สุดของไทย" (ที่จริงบอกชื่อ
มาโต้งๆ แต่บอกโต้งๆ ตรงนี้ไม่ได้) ใครชอบหุ้นแข็งแกร่งถือยาวๆ น่าจะดี ...
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 135
เล่มนี้ดีมากๆ เลยครับ อิอิromee เขียน:แหม่ ถ้าคุณสายชลกะจะถือยาวตลอดไป สงสัยต้องอ่านบทความนี้แล้วละครับ เผื่อจะมีตัวเลขมาช่วยคำนวนคร่าวๆ
http://kongkiti.blogspot.com/2012/08/my ... isher.html
http://kongkiti.blogspot.com/2012/08/ne ... cks-2.html
เจ้าของบล็อก ก็น่าจะเป็นคนในเวบนี้ด้วยแหละครับ ขออณุญาติเอามาเผยแพร่นะครับ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 136
ห้องนี้สุดยอด
เด็กเต๊บ ขอสมัครเป็นสมาชิกด้วยคน
เด็กเต๊บ ขอสมัครเป็นสมาชิกด้วยคน
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- Duckcovery
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 137
ขอบคุณพี่ dr1 สำหรับเลคเชอร์ครับ
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 140
เอาเนื้อหาเฟสบุคของคุณ mudley group (ผจก. hedge fund คนไทยในตลาดโลก)มาให้อ่านครับ แก้เซ็งตอนหุ้นตก
การ cut loss ในทางกองทุนจะใช้ต่อเมื่อ product ที่เราลงทุนมันหมดอนาคตแล้วครับ หากเราใช้ในการเก็งกำไร จะต้องระวังอย่างมาก เพราะ เวลาตลาดถลำลึกแล้ว เราเองไม่สามารถรุ้อนาคตได้เลยครับ ว่าจะรีบาวหรือ ลงต่อ ดังนั้นวิธีการ cut loss จึงเป็นดาบสองคมเสมอครับ เพราะมันทำให้เราอยุ่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเสมอ โดยเฉพาะเวลาที่เราผ่านประสบการณ์ในตลาดมาน้อยครับ ดังนั้น การ cut loss ที่ถูกต้องสำหรับการเก้งกำไร จึงต้องทำแบบฉับไวในช่วงที่ความเสียหายยังไม่ลุกลามครับ แต่ข้อเสียของการฉับไวก็คือทำให้เรา cut loss ไวไปอีก ดังนั้น น้องน่าจะเห้นภาพว่าทำไมการ cut loss ถึงเป็นกลยุทธ์ที่ไม่ควรใช้ในโมเดลหลักๆ เพราะมันขึ้นอยุ่กับการ predict ตลาดค่อนข้างมากครับ ดังนั้น ถ้าอยากไปทางสาย cut loss ควรจะต้องฝึกเน้นที่ skill การอ่านทิศทางตลาดโดยเฉพาะครับ
Q."เนื่องจากกราฟ set index สัญญานบอกแนวโน้มขาลงมาซักพักแล้ว ถ้าจะให้ดี เราควรออกจากตลาดก่อนจะเหมาะสมไหมครับ จะได้ลดความเสี่ยงอื่นๆ ที่จะตามมาอีกมากมาย"
MudleyGroup A. "คือ ในมุมมองของพี่ เราต้องรุ้ว่าเราจะลงทุนหรือเก็งกำไรครับ ถ้าจะลงทุนมันก็จะเริ่มมีโอกาสมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงที่คนอื่นเริ่มกลัว ส่วนถ้าจะเก็งกำไรก็ควรรอให้ฝรั่งกลับมาก่อนครับ"
Q."อยากให้พี่ต้าน แนะนำการมองหาจุดกลับตัวในมุมมองของพี่ต้านแบบเพลย์เซฟคับ ถ้าได้รูปประกอบ เก่าๆๆที่ผ่านมาจะเป็นพระคุณหลายๆๆคับ"
MudleyGroup A. "การมองจุดกลับตัวส่วนมากพี่จะมองภาพ global macro + กับจิตวิทยาของคนในตลาดครับ หรือ ถ้ามีข่าวดีแล้วราคากับคนในตลาดไม่สามารถผลักดันมันไปได้ต่อ เมื่อนั้นจะเกิดกระแส วกกลับได้ง่ายครับ ส่วนการวิเคราะห์แนะนำอ่าน template of understanding ของ Ray dalio ครับ หลายคนอาจมองว่ามันไม่เกี่ยวกับหุ้น แต่นั่นเป้นหัวใจของการทำความเข้าใจกับระบบการเรียนรุ้ของมนุษย์เราๆเพื่อเข้าใจความจริงของธรรมชาติมากที่สุดครับ เพราะ สุดท้ายถ้าน้องเข้าใจธรรมชาติแล้วน้องก้จะสามารถเข้าใจตลาดหุ้นได้ไม่ยากครับ"
Q "ถามการ Cut loss ต่อครับ เราควรจะวางจุดจากอะไร ถ้าเปน ระดับการขาดทุนของเงินที่เปน % บางทีมันก้อไม่ใช่จุดออก แต่การเลือกออกตามสัญญาณเทคนิคยืนยันมันก้อเหมือนรับยอมรับที่จะเสียหายมากแต่น่าจะชัดว่าไม่รีบาวกลับ"
MudleyGroup A."ถ้าบีบบังคับให้พี่ต้อง cutloss จริงๆ พี่จะ cut เมื่อสัญญาณโมเดลพี่เปลี่ยนน่ะครับ พี่ไม่เคยคัดเป้น % ต้องให้โมเดลบอกก่อนเท่านั้นครับ"
Q. "Deleverage ตามมุมมองของ Ray dalio จะกินระยะเวลานานอีกหลายปีมั้ยครับพี่? ....แล้วพี่คิดว่าเงินทุนทั่วโลกในระยะยาว จะยังอยู่ในเอเชีย หรือไหลกลับไปอเมริกา (ซึ่งมีหนี้สูง ) หรือยุโรป? "
MudleyGroup A. "ถ้ามุมมองของ Ray น้องต้องติดตามเค้าเรื่อยๆแล้วล่ะครับ ส่วนการไหลของเงินจะยาวนานหรือสั้นจะอยุ่ที่ discount ใน asset ต่างๆครับ เช่นถ้าตลาดหุ้นมันมี discount มากเงินก็จะไหลกลับมาครับ แต่พี่อยากให้เรามองกันที่ มูลค่า ตัว asset มากกว่าครับ พี่เชือว่านักลงทุนเก่งๆในบ้านเราหลายๆคนจะ focus ที่มุลค่า asset ที่เราจะยอมจ่ายเงินซื้อได้มากกว่าครับ คือ กฏข้อแรกของการลงทุนต้องคิดก่อนว่าของที่เราซื้อมันแพงไปมั้ย อย่าซื้อเพียงหวังว่าอนาคตมันจะสูงขึ้นครับ เพราะบางคนยอมจ่ายแพงๆเพียงแค่หวังว่าอนาคตมันจะสูงขึ้นไปอีก อันนั้นเท่ากับเรามีความเสี่ยงไปผูกกับการคาดการณ์อนาคตครับ"
Q.ตอนนี้เงินย้ายไปที่แหล่งไหนครับ
MudleyGroup "เงินตอนนี้ดึงกลับเข้าที่กองทุนพวกเฮดจ์ฟันหลายๆที่ครับ เป็นการ cash out โดยเฉพาะพวกฟันยุโรปที่ดึงกำไรกลับไปถือเงินยูโรกันค่อนข้างมากครับ"
Q."พี่ต้านมีวิธีการ ดูยังไงครับถึง ทราบว่าเงินย้ายไปแหล่งไหน"
MudleyGroup "พี่ดูจากสัดส่วนการแข็งค่า และ วอลุ่มของเงินยูโรที่ทะลักเข้ามาเมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆครับ และไม่ใช่กระแสเก็งกำไร เพราะ ตลาดมีความผันผวนลดลงมากครับ"
ถ้าผิดกฎเวบตรงใหน ก็ลบทิ้งไปได้เลยนะครับQ "model ที่พี่ต้านหมายถึง ไม่เน้นเรื่องการคาดเดาทิศทางแต่เน้นไปด้านmoney management เป็นหลักหรอคับ"
MudleyGroup "ใช่ครับ น้องจินตนาการนัก poker อาชีพก็ได้ครับ เค้าไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพท์ได้ โอกาสน้อยกว่าหุ้นเสียอีก แต่เค้าสามารถอยู่รอดด้วย money management ระดับสูง ดังนั้นถ้าเราทำแบบนั้นได้เรื่องหุ้นก็ง่ายนิดเดียวครับ พี่แนะนำอ่านของ Edward thorp ครับ"
You only live once, but if you do it right, once is enough.
-
- Verified User
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 141
(ขอบคุณ พี่ตี้ พี่โจ พี่จรัญ พี่แมว พี่บัว และพี่น้องVI ทุกๆคน คือ อาจารย์ผมทั้งหมดครับ สรุปความรู้จากอาจารย์ทุกๆท่านให้ฟัง )
-วิธีหาหุ้น ตั้งแต่แรกหาจากไหนดู p/e , ฟัง Opportunity day หรือเลือกจากอะไร ( ทำเหมือนๆกับที่ทุกคนทำ ดู p/e ,ฟัง Opportunity day ,อ่านหนังสือพิมพ์ )
พี่ตี้ มีวิธีการหลายๆวิธี เอาวิธีที่หลังๆผมใช้บ่อย เลือกหุ้นที่มันเติบโต ถ้าลงรายละเอียดก็แบ่งเป็นสองอย่าง พวกที่เติบโตระยะยาวหลายๆปีเช่น หุ้น c…., b.. แต่หลังๆหุ้นพวกนี้มีราคาสูง คนรู้กันหมดแล้วเป็นหุ้นที่ดี ที่ไม่ได้เลือกซื้อเพราะหุ้นมันราคาสูง ตอนนี้ยังใช้หลักการเดิมแต่ว่าเลือกเป็นการเติบโตที่มีความไม่แน่นอนในบางประเด็น แต่ราคายังไม่สูง คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้และไม่เข้าใจ
พี่โจ อย่างที่พูดเสมอ “เจ้ามือที่แท้จริงคือผลประกอบการณ์” ถ้ากำไรโต EPSโต ราคายังไม่แพงหุ้นพวกนี้ราคาขึ้นทุกตัว แต่ปัญหาคือการวิเคราะห์ได้ยากว่าหุ้นตัวไหนมันโตได้ชัดเจน อย่างเช่นหุ้นพลังงานทดแทน ใช้เงินในการลงทุนเยอะเมื่อมีโครงการใหม่ๆก็ต้องเพิ่มทุน ออกวอร์แรน ทำให้คาดการณ์กำไรและ EPS ได้ยาก อีกอย่าง EPS ก็จะไม่ค่อยโตในหุ้นที่ชอบเพิ่มทุน เน้นหาหุ้นที่คาดการณ์EPS ได้ง่ายๆ
-ราคาไม่แพงวัดยังไงกับการเติบโต
พี่โจ วัดจาก PEG ตัวอย่าง หุ้น A เติบโตไปข้างหน้า 3-4 ปี 20% แต่ PE=10 ก็ได้ PEG=10/20 เท่ากับ 0.5 ซึ่งน้อยกว่า 1 ถือว่าดี พูดง่ายๆประเมิน EPS ให้ถูกต้องแล้วซื้อราคาที่ PE ต่ำกว่าอัตราการเติบโตของกำไร เราไม่จำเป็นต้องพยายามเข้าใจทุกบริษัท เราศึกษาบริษัทที่เราเข้าใจถ้าบริษัทไหนศึกษาแล้วไม่เข้าใจเกินความสามารถก็อย่าไปยุ่ง มีให้เลือกอีกเยอะ
-นิยามเกี่ยวกับคำว่าเข้าใจธุรกิจ
พี่โจ อย่างที่บอกธุรกิจไหนที่เราเข้าใจเราต้องรู้ที่มาของรายได้ว่าได้รายได้มาจากอะไร กำไรได้จากอะไร กำไรที่ลดลงเกิดจากอะไร เข้าใจต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเกิดจากอะไร เข้าใจในเรื่องของค่าใช้จ่าย ภาษี คู่แข่งที่สามารถทำให้รายได้บริษัทลดลงมาจากอะไร อย่างนี้เรียกว่าเข้าใจธุรกิจ(อธิบาภาพใหญ่ในการดูบริษัท) แต่ถ้าทั้งหมดที่พูดไปเราไม่รู้เลย แสดงว่าเราไม่เข้าใจบริษัท ถ้าเราไม่เข้าใจแสดงว่ามีความเสี่ยง คนที่เข้าใจไม่ต้องรอลุ้นเลยว่าไตรมาสที่จะมาถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจะออกมาอย่างไร เพราะว่ามันอยู่ในการคาดการณ์อยู่แล้วก่อนลงทุนในบริษัทนั้น “เค้าเรียก กำไรตั้งแต่ตอนซื้อ ) ในบางครั้งเราดูตัวเลขบรรทัดสุดท้ายในงบการเงิน แต่ไม่ได้เข้าใจบรรทัดก่อนหน้าว่าที่มาที่ไปเป็นยังไงแบบนี้อันตราย
ยกตัวอย่าง บริษัท P เกี่ยวกับ ICT มีรายได้เพิ่มขึ้นจากทำ Data Center , Cloud Computing และเข้าใจว่ามีคู่แข่งเจ้าไหนเข้ามาแข่งขันบ้าง บริษัทได้เปรียบหรือเสียเปรียบในส่วนไหน แบบนี้แสดงว่าเข้าใจ
ต่อเนื่อง หุ้นที่พี่โจ คาดการณ์ผิดเคยขาดทุนมาหลายตัวเป็นหุ้นวัฏจักร ตัวอย่างหุ้นเกี่ยวกับ ยาง ไปดูโครงสร้างทางการเงินเห็น PE 7 เท่า บริษัทมีการขยายโรงงานหลายโรงงาน ดูแค่นี้ไปซื้อหุ้น ปรากฏว่า PE 7 เพราะเป็นบริษัทที่กำไรขึ้นลงตามวัฏจักร กำไรขึ้นลงตามราคายางในตลาดโลกผลสรุปประกาศงบออกมา กำไรลดลงเยอะมาก นี่คือการที่เราไม่เข้าใจในตัวบริษัท (ตัวอย่างนี้ตรงกับที่พี่โจบอกไว้คือดูตัวเลขทางการเงิน)
-ความรู้เกี่ยวบริษัทประกันภัย บริษัทประกันภัยไตรมาส1 กำไรดีทุกตัว แต่สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปรกติ อย่างที่เล่าบ่อยๆบริษัทประกันภัยมีรายได้ 2 ส่วน คือ กำไรจากการประกันและกำไรจากการลงทุน เงินที่ลงทุนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ลงทุนพวกพันธบัตรถือยาว และเงินลงทุนเพื่อการค้าเอามาซื้อหุ้น กำไรขาดทุนขึ้นอยู่กับราคาหุ้น มีบริษัทหลายบริษัทกำไร 200 เกิดจากกรมธรรม์ 100 อีกครึ่งเกิดจากกำไรหุ้น ถ้า Q2 ปิดงบ ณ ตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้นหุ้นตก ในกำไรที่ได้ 100 หายไปดีไม่ดีอาจจะขาดทุนจนเหลือ 50 ก็ได้จากกำไรที่ได้ 200 ให้ไว้เป็นข้อสังเกต
พี่สุบรรณ ให้ข้อคิดกำไรขึ้นลงตามดัชนีหุ้นเลย
-อุตสาหกรรมกำลังดี
พี่ตี้ การบริโภคในประเทศ ถ้ามองภาพใหญ่คนส่วนใหญ่ก็จะรู้ว่าเป็นบริษัทไหนบ้าง แต่มีภาพใหญ่ที่ยังมีภาพเล็กๆลงมา เอา ณ ตอนนี้เลย
ตัวอย่าง ภาพใหญ่ที่เห็นชัดเจน คือการลดดอกเบี้ยลง 0.25 ส่วนภาพเล็กๆ อุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์มากที่สุด น่าจะเป็น พวกที่ชอบออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย (โรงงานให้เช่า โดยมีการจัดการด้านสาธารณูปโภคครบวงจร และมีคนเช่าโรงงาน (มีกำไร)) พวกนี้จะได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ เช่น W..,T….
Business Model ธุรกิจพวกนี้คือ สมมุติเค้ามีเงิน 100 บาท เค้าจะทำการซื้อที่ดิน สร้างโรงงานให้เช่า จัดการสาธารณูปโภค คิดจากเงิน 100 บาทเราให้เค้าเช่าได้ 10 บาทต่อปี วันแรกก็จะมีเงินรายได้ 10 บาท ครบปีเอารายได้ 10 บาท บวกกับเงิน 100 บาทที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ มาตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ จากกำไรที่ให้คนเช่า 10 บาท ถ้า(กองทุน(เช่น ประกันสังคม))หวังผลตอบแทนแค่ 5% บริษัทพวกนี้ก็จะขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์นี้ได้เงินมา 200 บาททันที วงจรธุรกิจของเค้าก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
การลงทุนในกลุ่มนี้ต้องมอง 2 อย่าง คือ โรงงานให้เช่าต้องพอไปได้และดอกเบี้ยต้องต่ำๆเข้าไว้ ในส่วนของโรงงานให้เช่าตอนนี้ขาดแคลนอยู่บ้าง ไม่ใช่หมายถึงขายที่ดินเปล่า ก่อนหน้านี้พวกสร้างโรงงานให้เช่าไม่ค่อยมีใครทำ เพราะได้กำไรน้อย ลงทุนเยอะ ใช้เงินในการลงทุนสูง ทำให้แข่งขันกันน้อย แต่ในยุคปัจจุบันกลายเป็นว่าบริษัทในกลุ่มนี้เค้าขายโรงงานให้เช่า ตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้ก็มีกองทุนต้องการตลอดเวลา ตอนนี้ดอกเบี้ยต่ำทำให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ขายง่าย ที่ขายง่ายเพราะกลุ่มกองทุนใหญ่ๆเช่นกองทุนประกันสังคม ทุกวันนี้เค้าต้องลงทุนให้ได้ดอกเบี้ยตลอดเวลา ถ้าฝากเงินแบบประจำก็ได้ 2-3% แต่ถ้าซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้ดอกเบี้ย 4-5% ทำให้มีความต้องการซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ตลอดเวลา เช่นที่ผ่านมา กองทุน BTS น่าจะเป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท มียอดจองซื้อมากกว่าจำนวนที่ออกขาย แสดงว่ามีความต้องการซื้อเยอะมากๆ ถ้าเราติดตามเราต้องคิดได้ว่านี่คือโอกาสของบริษัทที่ออกกองทุนอสังหา ทำให้บริษัทพวกนี้ราคาในตลาดขึ้นมาเป็นเท่าตัว
แต่ต้องเป็นบริษัทที่มีกองทุนเข้ามาขายเรื่อยๆไม่ใช่ออก 1ปี หยุดไป4-5 ปี ต้องเน้นวิสัยทัศน์ของผู้บริหารว่าต้องมีกองทุนเข้ามาขายเรื่อยๆ อย่างน้อยปีละครั้ง
การขายกองทุน เป็น Business Model อย่างที่บอกวิธีไปด้านบน เป็น Model ที่น่าสนใจทำ ROE ได้สูง อัตรากำไร 40-50% ต่อปี ใช้เวลาสร้างโรงงานให้เช่าเพื่อเข้ากองทุน 1-2 ปี แต่ต้องดูองค์ประกอบ ต้องมีคนเช่าโรงงาน และอัตราดอกเบี้ยต่ำยิ่งต่ำยิ่งดี จะได้ขายกองทุนราคาสูงๆ
พี่โจ เกี่ยวกับการมองเทรนเคยอ่านหนังสือของนักลงทุนที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ อยากให้มาบริหารต่อจากเค้า ท่านผู้นั้น(ชื่ออะไรจำไม่ได้)บอกไว้ว่า พวกVI ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์มองจากล่างขึ้นบน
ถ้าเรามองเทรนคือการมองจากบนลงล่าง ต้องมองเทรนใหญ่ให้ถูกก่อนแล้วมองลงไปบริษัทให้ถูกอีกที เป็นการมองสองขั้นตอนมีโอกาสผิดพลาดได้มากกว่า การมองจากล่างขึ้นบนคือมองเข้าไปในบริษัทเลย มองขั้นเดียวมีโอกาสผิดพลาดน้อยลง
ตัวอย่าง บริษัทกลุ่มเหล็ก คนส่วนใหญ่มองว่าไม่ดี ราคาเหล็กในตลาดไม่ดี แต่จริงๆก็มีบางบริษัทที่มีกำไรต่อเนื่องและความผันผวนของราคาเหล็กโลกมีผลต่อกำไรไม่มากนัก ผู้บริหารสามารถควบคุมในจุดนี้ได้ ทำให้ราคาบริษัทนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกตัวอย่าง บริษัทโบรกเกอร์ไม่มีคนสนใจมานานมาก เวลาเปลี่ยนไก่งวงก็บินได้ ตอนนี้มีการซื้อขายหุ้นเพิ่มมากขึ้นและมีรายย่อยเข้ามาจำนวนมาก(รายย่อยจะเสียค่าซื้อขายมากกว่ารายใหญ่) มีการซื้อขายกันวันละหลายหมื่นล้านบาท บริษัทก็ราคาสูงขึ้น ถ้าเรามองจากภาพใหญ่เราอาจจะไม่เห็นบริษัทเหล่านี้ทำให้เราพลาดโอกาส โดยส่วนตัวพี่โจมองที่บริษัทแต่ะละบริษัทไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทรนอะไรทั้งสิ้น มองไปที่บริษัทก่อนแล้วดูว่ามีเทรนอะไรมาส่งเสริมหรือทำให้บริษัทดีขึ้นหรือแย่ลง ต้องมาวิเคราะห์เพิ่มเต็ม
มีความสุขกับการลงทุนนะครับ
-วิธีหาหุ้น ตั้งแต่แรกหาจากไหนดู p/e , ฟัง Opportunity day หรือเลือกจากอะไร ( ทำเหมือนๆกับที่ทุกคนทำ ดู p/e ,ฟัง Opportunity day ,อ่านหนังสือพิมพ์ )
พี่ตี้ มีวิธีการหลายๆวิธี เอาวิธีที่หลังๆผมใช้บ่อย เลือกหุ้นที่มันเติบโต ถ้าลงรายละเอียดก็แบ่งเป็นสองอย่าง พวกที่เติบโตระยะยาวหลายๆปีเช่น หุ้น c…., b.. แต่หลังๆหุ้นพวกนี้มีราคาสูง คนรู้กันหมดแล้วเป็นหุ้นที่ดี ที่ไม่ได้เลือกซื้อเพราะหุ้นมันราคาสูง ตอนนี้ยังใช้หลักการเดิมแต่ว่าเลือกเป็นการเติบโตที่มีความไม่แน่นอนในบางประเด็น แต่ราคายังไม่สูง คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้และไม่เข้าใจ
พี่โจ อย่างที่พูดเสมอ “เจ้ามือที่แท้จริงคือผลประกอบการณ์” ถ้ากำไรโต EPSโต ราคายังไม่แพงหุ้นพวกนี้ราคาขึ้นทุกตัว แต่ปัญหาคือการวิเคราะห์ได้ยากว่าหุ้นตัวไหนมันโตได้ชัดเจน อย่างเช่นหุ้นพลังงานทดแทน ใช้เงินในการลงทุนเยอะเมื่อมีโครงการใหม่ๆก็ต้องเพิ่มทุน ออกวอร์แรน ทำให้คาดการณ์กำไรและ EPS ได้ยาก อีกอย่าง EPS ก็จะไม่ค่อยโตในหุ้นที่ชอบเพิ่มทุน เน้นหาหุ้นที่คาดการณ์EPS ได้ง่ายๆ
-ราคาไม่แพงวัดยังไงกับการเติบโต
พี่โจ วัดจาก PEG ตัวอย่าง หุ้น A เติบโตไปข้างหน้า 3-4 ปี 20% แต่ PE=10 ก็ได้ PEG=10/20 เท่ากับ 0.5 ซึ่งน้อยกว่า 1 ถือว่าดี พูดง่ายๆประเมิน EPS ให้ถูกต้องแล้วซื้อราคาที่ PE ต่ำกว่าอัตราการเติบโตของกำไร เราไม่จำเป็นต้องพยายามเข้าใจทุกบริษัท เราศึกษาบริษัทที่เราเข้าใจถ้าบริษัทไหนศึกษาแล้วไม่เข้าใจเกินความสามารถก็อย่าไปยุ่ง มีให้เลือกอีกเยอะ
-นิยามเกี่ยวกับคำว่าเข้าใจธุรกิจ
พี่โจ อย่างที่บอกธุรกิจไหนที่เราเข้าใจเราต้องรู้ที่มาของรายได้ว่าได้รายได้มาจากอะไร กำไรได้จากอะไร กำไรที่ลดลงเกิดจากอะไร เข้าใจต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเกิดจากอะไร เข้าใจในเรื่องของค่าใช้จ่าย ภาษี คู่แข่งที่สามารถทำให้รายได้บริษัทลดลงมาจากอะไร อย่างนี้เรียกว่าเข้าใจธุรกิจ(อธิบาภาพใหญ่ในการดูบริษัท) แต่ถ้าทั้งหมดที่พูดไปเราไม่รู้เลย แสดงว่าเราไม่เข้าใจบริษัท ถ้าเราไม่เข้าใจแสดงว่ามีความเสี่ยง คนที่เข้าใจไม่ต้องรอลุ้นเลยว่าไตรมาสที่จะมาถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจะออกมาอย่างไร เพราะว่ามันอยู่ในการคาดการณ์อยู่แล้วก่อนลงทุนในบริษัทนั้น “เค้าเรียก กำไรตั้งแต่ตอนซื้อ ) ในบางครั้งเราดูตัวเลขบรรทัดสุดท้ายในงบการเงิน แต่ไม่ได้เข้าใจบรรทัดก่อนหน้าว่าที่มาที่ไปเป็นยังไงแบบนี้อันตราย
ยกตัวอย่าง บริษัท P เกี่ยวกับ ICT มีรายได้เพิ่มขึ้นจากทำ Data Center , Cloud Computing และเข้าใจว่ามีคู่แข่งเจ้าไหนเข้ามาแข่งขันบ้าง บริษัทได้เปรียบหรือเสียเปรียบในส่วนไหน แบบนี้แสดงว่าเข้าใจ
ต่อเนื่อง หุ้นที่พี่โจ คาดการณ์ผิดเคยขาดทุนมาหลายตัวเป็นหุ้นวัฏจักร ตัวอย่างหุ้นเกี่ยวกับ ยาง ไปดูโครงสร้างทางการเงินเห็น PE 7 เท่า บริษัทมีการขยายโรงงานหลายโรงงาน ดูแค่นี้ไปซื้อหุ้น ปรากฏว่า PE 7 เพราะเป็นบริษัทที่กำไรขึ้นลงตามวัฏจักร กำไรขึ้นลงตามราคายางในตลาดโลกผลสรุปประกาศงบออกมา กำไรลดลงเยอะมาก นี่คือการที่เราไม่เข้าใจในตัวบริษัท (ตัวอย่างนี้ตรงกับที่พี่โจบอกไว้คือดูตัวเลขทางการเงิน)
-ความรู้เกี่ยวบริษัทประกันภัย บริษัทประกันภัยไตรมาส1 กำไรดีทุกตัว แต่สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปรกติ อย่างที่เล่าบ่อยๆบริษัทประกันภัยมีรายได้ 2 ส่วน คือ กำไรจากการประกันและกำไรจากการลงทุน เงินที่ลงทุนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ลงทุนพวกพันธบัตรถือยาว และเงินลงทุนเพื่อการค้าเอามาซื้อหุ้น กำไรขาดทุนขึ้นอยู่กับราคาหุ้น มีบริษัทหลายบริษัทกำไร 200 เกิดจากกรมธรรม์ 100 อีกครึ่งเกิดจากกำไรหุ้น ถ้า Q2 ปิดงบ ณ ตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้นหุ้นตก ในกำไรที่ได้ 100 หายไปดีไม่ดีอาจจะขาดทุนจนเหลือ 50 ก็ได้จากกำไรที่ได้ 200 ให้ไว้เป็นข้อสังเกต
พี่สุบรรณ ให้ข้อคิดกำไรขึ้นลงตามดัชนีหุ้นเลย
-อุตสาหกรรมกำลังดี
พี่ตี้ การบริโภคในประเทศ ถ้ามองภาพใหญ่คนส่วนใหญ่ก็จะรู้ว่าเป็นบริษัทไหนบ้าง แต่มีภาพใหญ่ที่ยังมีภาพเล็กๆลงมา เอา ณ ตอนนี้เลย
ตัวอย่าง ภาพใหญ่ที่เห็นชัดเจน คือการลดดอกเบี้ยลง 0.25 ส่วนภาพเล็กๆ อุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์มากที่สุด น่าจะเป็น พวกที่ชอบออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย (โรงงานให้เช่า โดยมีการจัดการด้านสาธารณูปโภคครบวงจร และมีคนเช่าโรงงาน (มีกำไร)) พวกนี้จะได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ เช่น W..,T….
Business Model ธุรกิจพวกนี้คือ สมมุติเค้ามีเงิน 100 บาท เค้าจะทำการซื้อที่ดิน สร้างโรงงานให้เช่า จัดการสาธารณูปโภค คิดจากเงิน 100 บาทเราให้เค้าเช่าได้ 10 บาทต่อปี วันแรกก็จะมีเงินรายได้ 10 บาท ครบปีเอารายได้ 10 บาท บวกกับเงิน 100 บาทที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ มาตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ จากกำไรที่ให้คนเช่า 10 บาท ถ้า(กองทุน(เช่น ประกันสังคม))หวังผลตอบแทนแค่ 5% บริษัทพวกนี้ก็จะขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์นี้ได้เงินมา 200 บาททันที วงจรธุรกิจของเค้าก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
การลงทุนในกลุ่มนี้ต้องมอง 2 อย่าง คือ โรงงานให้เช่าต้องพอไปได้และดอกเบี้ยต้องต่ำๆเข้าไว้ ในส่วนของโรงงานให้เช่าตอนนี้ขาดแคลนอยู่บ้าง ไม่ใช่หมายถึงขายที่ดินเปล่า ก่อนหน้านี้พวกสร้างโรงงานให้เช่าไม่ค่อยมีใครทำ เพราะได้กำไรน้อย ลงทุนเยอะ ใช้เงินในการลงทุนสูง ทำให้แข่งขันกันน้อย แต่ในยุคปัจจุบันกลายเป็นว่าบริษัทในกลุ่มนี้เค้าขายโรงงานให้เช่า ตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้ก็มีกองทุนต้องการตลอดเวลา ตอนนี้ดอกเบี้ยต่ำทำให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ขายง่าย ที่ขายง่ายเพราะกลุ่มกองทุนใหญ่ๆเช่นกองทุนประกันสังคม ทุกวันนี้เค้าต้องลงทุนให้ได้ดอกเบี้ยตลอดเวลา ถ้าฝากเงินแบบประจำก็ได้ 2-3% แต่ถ้าซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้ดอกเบี้ย 4-5% ทำให้มีความต้องการซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ตลอดเวลา เช่นที่ผ่านมา กองทุน BTS น่าจะเป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท มียอดจองซื้อมากกว่าจำนวนที่ออกขาย แสดงว่ามีความต้องการซื้อเยอะมากๆ ถ้าเราติดตามเราต้องคิดได้ว่านี่คือโอกาสของบริษัทที่ออกกองทุนอสังหา ทำให้บริษัทพวกนี้ราคาในตลาดขึ้นมาเป็นเท่าตัว
แต่ต้องเป็นบริษัทที่มีกองทุนเข้ามาขายเรื่อยๆไม่ใช่ออก 1ปี หยุดไป4-5 ปี ต้องเน้นวิสัยทัศน์ของผู้บริหารว่าต้องมีกองทุนเข้ามาขายเรื่อยๆ อย่างน้อยปีละครั้ง
การขายกองทุน เป็น Business Model อย่างที่บอกวิธีไปด้านบน เป็น Model ที่น่าสนใจทำ ROE ได้สูง อัตรากำไร 40-50% ต่อปี ใช้เวลาสร้างโรงงานให้เช่าเพื่อเข้ากองทุน 1-2 ปี แต่ต้องดูองค์ประกอบ ต้องมีคนเช่าโรงงาน และอัตราดอกเบี้ยต่ำยิ่งต่ำยิ่งดี จะได้ขายกองทุนราคาสูงๆ
พี่โจ เกี่ยวกับการมองเทรนเคยอ่านหนังสือของนักลงทุนที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ อยากให้มาบริหารต่อจากเค้า ท่านผู้นั้น(ชื่ออะไรจำไม่ได้)บอกไว้ว่า พวกVI ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์มองจากล่างขึ้นบน
ถ้าเรามองเทรนคือการมองจากบนลงล่าง ต้องมองเทรนใหญ่ให้ถูกก่อนแล้วมองลงไปบริษัทให้ถูกอีกที เป็นการมองสองขั้นตอนมีโอกาสผิดพลาดได้มากกว่า การมองจากล่างขึ้นบนคือมองเข้าไปในบริษัทเลย มองขั้นเดียวมีโอกาสผิดพลาดน้อยลง
ตัวอย่าง บริษัทกลุ่มเหล็ก คนส่วนใหญ่มองว่าไม่ดี ราคาเหล็กในตลาดไม่ดี แต่จริงๆก็มีบางบริษัทที่มีกำไรต่อเนื่องและความผันผวนของราคาเหล็กโลกมีผลต่อกำไรไม่มากนัก ผู้บริหารสามารถควบคุมในจุดนี้ได้ ทำให้ราคาบริษัทนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกตัวอย่าง บริษัทโบรกเกอร์ไม่มีคนสนใจมานานมาก เวลาเปลี่ยนไก่งวงก็บินได้ ตอนนี้มีการซื้อขายหุ้นเพิ่มมากขึ้นและมีรายย่อยเข้ามาจำนวนมาก(รายย่อยจะเสียค่าซื้อขายมากกว่ารายใหญ่) มีการซื้อขายกันวันละหลายหมื่นล้านบาท บริษัทก็ราคาสูงขึ้น ถ้าเรามองจากภาพใหญ่เราอาจจะไม่เห็นบริษัทเหล่านี้ทำให้เราพลาดโอกาส โดยส่วนตัวพี่โจมองที่บริษัทแต่ะละบริษัทไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทรนอะไรทั้งสิ้น มองไปที่บริษัทก่อนแล้วดูว่ามีเทรนอะไรมาส่งเสริมหรือทำให้บริษัทดีขึ้นหรือแย่ลง ต้องมาวิเคราะห์เพิ่มเต็ม
มีความสุขกับการลงทุนนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 144
ว้าวววว.. สุดยอดดด ครับ ท่านit
คำต่อคำ ละเอียดยิบจริงๆ โพสต่ออีกนะครับ
ไอ้เจ้าหุ้นsoft commo pe7 ที่อ.ลูกอิสาน กะผมไปโดนมา (ที่ท่านitเคยอยู่"วงใน")เนี่ย
ที่ผมถามท่านวันก่อน ท่านว่ายังไม่ถึงเวลาน่ะครับ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ฟ้าถล่ม(นิดๆ) มันก็ห้อยลงไป13
ผมก้อ คิดทื้ง.. คิดถึง ท่านitมั่กๆ
ใด้เวลาเมื่อไร ให้สัญญานสั่งลุยเลยนะครับ
แม้เงินผมจาไม่เย็นเยือกแข็งขนาดของท่าน
แต่ก็พอได้ครับ พอได้ ฮ่า..
คำต่อคำ ละเอียดยิบจริงๆ โพสต่ออีกนะครับ
ไอ้เจ้าหุ้นsoft commo pe7 ที่อ.ลูกอิสาน กะผมไปโดนมา (ที่ท่านitเคยอยู่"วงใน")เนี่ย
ที่ผมถามท่านวันก่อน ท่านว่ายังไม่ถึงเวลาน่ะครับ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ฟ้าถล่ม(นิดๆ) มันก็ห้อยลงไป13
ผมก้อ คิดทื้ง.. คิดถึง ท่านitมั่กๆ
ใด้เวลาเมื่อไร ให้สัญญานสั่งลุยเลยนะครับ
แม้เงินผมจาไม่เย็นเยือกแข็งขนาดของท่าน
แต่ก็พอได้ครับ พอได้ ฮ่า..
samatah
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 145
มาบอกพี่น้องชาวหาดใหญ่ครับ ว่า2กลุ่มที่ผมถามกลางวงล้อม แล้วได้รับคำตอบที่ได้ยินพร้อมๆกัน คือเหล็ก กับเงินทุน
ไอ้ตัวแรกผมว่า ผมเดาไม่ผิดหรอก เพราะตอนนี้ประกาศผถห.รายใหญ่แล้ว ท่านอ.ของเราซื้อเพิ่มซะเยอะเลยทีเดียว
ส่วนตัวที่2 ถ้าผมก็เดาไม่ผิด แบบที่ dr1 เขียนไว้...ซื้อไปตอนนี้ไม่ต้องกลัวมันลงครับ...เพราะมันก็ไม่ขึ้นด้วย ราคาค้างตรงแถวนี้มานานละ
เย็นวันพุธนี้ ท่านอ.จั่นโจไปพูดที่ห้องสมุดมารวย...ใครไม่ได้ไปฟังงานที่หาดใหญ่ ก็มาที่นี่แทนได้
ไอ้ตัวแรกผมว่า ผมเดาไม่ผิดหรอก เพราะตอนนี้ประกาศผถห.รายใหญ่แล้ว ท่านอ.ของเราซื้อเพิ่มซะเยอะเลยทีเดียว
ส่วนตัวที่2 ถ้าผมก็เดาไม่ผิด แบบที่ dr1 เขียนไว้...ซื้อไปตอนนี้ไม่ต้องกลัวมันลงครับ...เพราะมันก็ไม่ขึ้นด้วย ราคาค้างตรงแถวนี้มานานละ
เย็นวันพุธนี้ ท่านอ.จั่นโจไปพูดที่ห้องสมุดมารวย...ใครไม่ได้ไปฟังงานที่หาดใหญ่ ก็มาที่นี่แทนได้
You only live once, but if you do it right, once is enough.
-
- Verified User
- โพสต์: 1258
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 146
ตลาดช่วงนี้ทำให้จิตใจผมฟุ้งซ่านไปกับภาวะตลาด กินข้าวก็ไม่อร่อยเลย 555 เมื่อวานได้ไปฟังท่านอาจารย์โจ ฟังกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ได้ความรู้ ข้อคิดดีๆ ทั้งการใช้ชีวิตและการลงทุนทุกครั้ง อ.โจ บอกว่ายังไงเราก็จะต้องเจอกับความผันผวน เหตุการณ์ต่างๆ นาๆ แต่เราต้องสามารถแยกตัวเองออกมาจากนายตลาด นางตลาด และย้ำให้ยึดมั่นกับหลักการที่ว่า ในที่สุดแล้วราคาหุ้นจะต้องสอดคล้องกับผลประกอบการคือกำไรต่อหุ้นของบริษัทเสมอromee เขียน:เย็นวันพุธนี้ ท่านอ.จั่นโจไปพูดที่ห้องสมุดมารวย...ใครไม่ได้ไปฟังงานที่หาดใหญ่ ก็มาที่นี่แทนได้
ปล. ตอนนี้อาจารย์เต็มพอร์ทไม่เหลือเงินสดแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 148
ครับ ท่านmarcus
เด๋วพี่ๆในห้องนี้จาช่วยกันสั่งสอนให้สาสมดั่งใจเลยฮะ
Keep intouch(แปลว่าตามติด ติดตามให้ตลอดนะฮะ)
วันนี้ได้มีโอกาสฟังแนวคิดลงทุนตอนหุ้นตกมาฮะ สรุปประมาณว่า
บางท่านคิดว่า ตอนนี้มีหุ้นมีmosเพิ่มมาเยอะหลายตัวเลย
แม้ดัชนีจะแค่พีอีกลางๆไม่แพงเหมือนแต่ก่อน(12เทียบกับเกือบ20)
เช่น คอมโมบางตัว พวกขายน้ำ ขายลม ราคาลงมาพอซื้อได้แระ(ขายดินหินรอดูไปก่อน)
ไอพีโอบางตัวเช่นพวกขายคอมโมน้ำๆ ตอนตลาดย่อ ราคาลงมาไกล้เคียงไอพีโอเรย
แถมเวลาดูข้อมูล ปิ๊งๆฟีลลิ่งราวๆหุ้นสิบเด้งของท่านsorn-adisเลยนั่น
ผมแอบถามว่าปิ๊งกว่าอสังหาโปรเจคใหญ่ยักษ์ที่เคยเล่าให้ฟังเลยหรือ? อ.ว่าปิ๊งกว่า
(ว้าว..เดือนนี้อดข้าวเอาเงินเดือนไปซื้อดีก่า)
อ.บางท่านความเห็นว่า ตลาดยังแพง วิธีลงทุนที่เคยใช้แบบหาหุ้นพีอีต่ำสิบลงทุน
แล้วพอได้มูลค่าก็ขายไปหาตัวใหม่ ชักไม่ค่อยเวิร์ค
ขายตัวเก่าไปลงทุนหุ้นใหญ่ๆพวกสื่อสารปันผลดีๆแถมฟรีบ.ลูกติดดาวที่เริ่มมีปันผลดีกว่า
ซึ่งวีไอระดับอ.หลายๆท่านเริ่มลงทุนแบบนี้แระ แม้มาร์เกตแคปคงไม่ไปมากกว่านี้นัก
(สงสัยผอทใหญ่ ชักจะหาหุ้นเล็กๆลงทุนยาก)
แต่หลักการยังเหมือนเดิมครับ
ทุกท่านมีความเห็นว่ายังอยู่ในหุ้น100% เหมือนเดิม
แถมบางท่านเกินร้อย กู้มาร์จิ้นไปอาร์บิถาจหุ้นธนาคารเรย(วะ หรอยจริง อ.เรา)
ให้ข้อสังเกตว่า stock selection สำคัญ ราคาที่ซื้อก็สำคัญ
แต่ที่อาจสำคัญกว่าคือการยืนหยัดผ่านเวลาผันผวนโดยไม่พยามtimingตลาด(ไม่รู้อยู่ในแก๊งไม่ขายโว้ยด้วยป่าว)
คือประมาณ เก่งไม่กลัว กลัวไม่อึด (ผมอืด..ยิ่งกว่าอึดครับ ฮ่า.ฺฺฺ)
เด๋วพี่ๆในห้องนี้จาช่วยกันสั่งสอนให้สาสมดั่งใจเลยฮะ
Keep intouch(แปลว่าตามติด ติดตามให้ตลอดนะฮะ)
วันนี้ได้มีโอกาสฟังแนวคิดลงทุนตอนหุ้นตกมาฮะ สรุปประมาณว่า
บางท่านคิดว่า ตอนนี้มีหุ้นมีmosเพิ่มมาเยอะหลายตัวเลย
แม้ดัชนีจะแค่พีอีกลางๆไม่แพงเหมือนแต่ก่อน(12เทียบกับเกือบ20)
เช่น คอมโมบางตัว พวกขายน้ำ ขายลม ราคาลงมาพอซื้อได้แระ(ขายดินหินรอดูไปก่อน)
ไอพีโอบางตัวเช่นพวกขายคอมโมน้ำๆ ตอนตลาดย่อ ราคาลงมาไกล้เคียงไอพีโอเรย
แถมเวลาดูข้อมูล ปิ๊งๆฟีลลิ่งราวๆหุ้นสิบเด้งของท่านsorn-adisเลยนั่น
ผมแอบถามว่าปิ๊งกว่าอสังหาโปรเจคใหญ่ยักษ์ที่เคยเล่าให้ฟังเลยหรือ? อ.ว่าปิ๊งกว่า
(ว้าว..เดือนนี้อดข้าวเอาเงินเดือนไปซื้อดีก่า)
อ.บางท่านความเห็นว่า ตลาดยังแพง วิธีลงทุนที่เคยใช้แบบหาหุ้นพีอีต่ำสิบลงทุน
แล้วพอได้มูลค่าก็ขายไปหาตัวใหม่ ชักไม่ค่อยเวิร์ค
ขายตัวเก่าไปลงทุนหุ้นใหญ่ๆพวกสื่อสารปันผลดีๆแถมฟรีบ.ลูกติดดาวที่เริ่มมีปันผลดีกว่า
ซึ่งวีไอระดับอ.หลายๆท่านเริ่มลงทุนแบบนี้แระ แม้มาร์เกตแคปคงไม่ไปมากกว่านี้นัก
(สงสัยผอทใหญ่ ชักจะหาหุ้นเล็กๆลงทุนยาก)
แต่หลักการยังเหมือนเดิมครับ
ทุกท่านมีความเห็นว่ายังอยู่ในหุ้น100% เหมือนเดิม
แถมบางท่านเกินร้อย กู้มาร์จิ้นไปอาร์บิถาจหุ้นธนาคารเรย(วะ หรอยจริง อ.เรา)
ให้ข้อสังเกตว่า stock selection สำคัญ ราคาที่ซื้อก็สำคัญ
แต่ที่อาจสำคัญกว่าคือการยืนหยัดผ่านเวลาผันผวนโดยไม่พยามtimingตลาด(ไม่รู้อยู่ในแก๊งไม่ขายโว้ยด้วยป่าว)
คือประมาณ เก่งไม่กลัว กลัวไม่อึด (ผมอืด..ยิ่งกว่าอึดครับ ฮ่า.ฺฺฺ)
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 149
มีสมาชิกในวง ทำธุรกิจอสังหาในหาดใหญ่ เริ่มเตือนภาวะฟองสบู่คอนโดในหาดใหญ่ด้วย
(บังเอิญห้องนี้ชื่อวีไอหาดใหญ่ครับ ขอเม้นท์ไว้นิสนึง)
รายใหญ่ในตลท.เจ้าเก่า แท่งหลังสุดขายได้ราวครึ่งเดียว
รายใหญ่สุดในตลท.แต่เป็นรายใหม่ในหาดใหญ่ กลังจะมาเพิ่มsupplyให้อีกเป็นสิบแท่ง
รายเล็กรายน้อยเริ่มอาการน่าเป็นห่วง
บางเจ้ายังไม่จ่ายค่าที่ดินเลย
บางเจ้ายังไม่เริ่มสร้างเลย
บางเจ้าตั้งชื่อโครงการแหลงใต้ฟังแล้วแปลว่า"ร่วง"(เฮ้ยยยย...เกี่ยวมั้ยเนี่ยยย..)
สำนักข่าวหรอยไปต้ะ(แปลว่า สนุกกันไปเถิด) รายฮาน
(บังเอิญห้องนี้ชื่อวีไอหาดใหญ่ครับ ขอเม้นท์ไว้นิสนึง)
รายใหญ่ในตลท.เจ้าเก่า แท่งหลังสุดขายได้ราวครึ่งเดียว
รายใหญ่สุดในตลท.แต่เป็นรายใหม่ในหาดใหญ่ กลังจะมาเพิ่มsupplyให้อีกเป็นสิบแท่ง
รายเล็กรายน้อยเริ่มอาการน่าเป็นห่วง
บางเจ้ายังไม่จ่ายค่าที่ดินเลย
บางเจ้ายังไม่เริ่มสร้างเลย
บางเจ้าตั้งชื่อโครงการแหลงใต้ฟังแล้วแปลว่า"ร่วง"(เฮ้ยยยย...เกี่ยวมั้ยเนี่ยยย..)
สำนักข่าวหรอยไปต้ะ(แปลว่า สนุกกันไปเถิด) รายฮาน
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 150
ไม่ต้องใบ้ก็ได้ครับคุณหมอ. ในหาดใหญ่. เขารู้กันหมดdr1 เขียน:มีสมาชิกในวง ทำธุรกิจอสังหาในหาดใหญ่ เริ่มเตือนภาวะฟองสบู่คอนโดในหาดใหญ่ด้วย
(บังเอิญห้องนี้ชื่อวีไอหาดใหญ่ครับ ขอเม้นท์ไว้นิสนึง)
รายใหญ่ในตลท.เจ้าเก่า แท่งหลังสุดขายได้ราวครึ่งเดียว
รายใหญ่สุดในตลท.แต่เป็นรายใหม่ในหาดใหญ่ กลังจะมาเพิ่มsupplyให้อีกเป็นสิบแท่ง
รายเล็กรายน้อยเริ่มอาการน่าเป็นห่วง
บางเจ้ายังไม่จ่ายค่าที่ดินเลย
บางเจ้ายังไม่เริ่มสร้างเลย
บางเจ้าตั้งชื่อโครงการแหลงใต้ฟังแล้วแปลว่า"ร่วง"(เฮ้ยยยย...เกี่ยวมั้ยเนี่ยยย..)
สำนักข่าวหรอยไปต้ะ(แปลว่า สนุกกันไปเถิด) รายฮาน
พวกอยู่ในตลาดฯ (เจ้าเก่า SPALI ในฐานะ ผถห.ใหญ่ หาดใหญ่นครินทร์ กับ
SIRI เจ้าใหม่) ไม่เป็นไร (ไม่สาไร) เพราะสัดส่วนการลงทุน มันน้อยมากเมื่อเทียบ
กับโครงการทั้งหมด แต่เจ้าใหม่ๆ หรือเก่าๆ ที่ฐานการเงินไม่มี เหมือนจับเสือมือเปล่า
(บางเจ้่าท้องถิ่นก็เงินหนา ไม่เป็นไรอยู่แล้ว) อันนี้ ผมว่าไม่รอดแน่ๆ ฟันธงเลยครับ ...
เทียบระหว่าง SPALI กับ SIRI โครงการ SPALI สร้างแล้วทั้งคู่ ราคาที่ดินที่ได้มา
อันที่ติด เซ็นทรัลใหม่ ถูกมากๆ. อีกอันที่ภาสว่างคงแพงหน่อย เพราะซื้อมาใหม่ แต่ยังไงๆ
ต่อไปก็น่าจะขายหมด เพราะอยู่ในเมือง ...
แสนสิริ ใครเป็นจัดการไม่รู้. แต่ซื้อไปได้ไง.
น่าจะเอาคนตัดสินใจมาเค้นหน่อย ตอนแรกนึกว่าซื้อแถว มหาลัย. ถ้ายังงั้น
ยังไงก็ขายได้ครับ. แต่พื้นที่ซื้อไป ราคาแพงเวอร์มากๆๆๆ เข้าไปในซอยเล็กๆ
ห่างจากถนนใหญ่เป็นร้อยเมตร นอกเมืองหน่อย แต่ใกล้ โฮมโปรใหม่
แล้วจะสร้างหลายแท่งด้วย ... ขายได้อีกหลายปีเลยครับ ค่อยๆ ขาย ...
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.