พุธ เม.ย. 10, 2013 1:35 am | 0 คอมเมนต์
chatchai เขียน: ระบบการศึกษาไทยบางส่วนเปลี่ยนแปลงไปแล้วครับ
ปัจจุบันข้อสอบคณิตศาสตร์จะไม่มีข้อสอบแบบเลือกคำตอบ แต่จะมี เติมคำตอบ กับแสดงวิธีทำ
ข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์ เน้นการคิดวิเคราะห์ ออกแบบการทดลอง วิเคราะห์ผลการทดลอง
วิชาภาษาไทยเป็นการอ่านจับใจความ วิเคราะห์บทความ
แต่อาจจะเป็นส่วนน้อย ปัจจุบันการศึกษาไทยเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรครับ แต่ไม่เป็นข่าว เพราะสื่อมวลชนไทยชอบข่าวร้าย ข่าวลบ ดูถูกคนไทยกันเอง
การเรียนหนัก ผมมองว่าเป็นการฝึกเด็กที่จะต่อสู้งานหนัก งานยาก เพียงแต่เราต้องจัดให้พอเหมาะกับเด็ก ในระดับที่เด็กรับไหว ไม่เครียด มีวินัย
เหมือนที่ผมเรียนจบวิศวะ ความรู้ที่เรียนแทบลืมหมดแล้ว แต่ที่ได้คือหลักคิด การทำงานหนัก
จริงๆแล้วปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาของไทยจากมุมมองของผมนะครับ ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ เพราะห่างการเรียนมานานมากแล้ว คือ การบังคับให้ท่องจำในสิ่งที่ไม่จำเป็น ไม่ใช่วิธีการสอบครับ ขอยกตัวอย่างนะครับ เท่าที่จำได้ตอนปีหนึ่งผมลงเรียน 7 วิชาต่อเทอม (ตัวเลขอาจไม่ตรงนะครับเพราะมันหลายปีแล้ว) หลักๆที่คนเรียนวิศวะน่าจะพอจำได้คือ calculus, physics โดยเฉพาะ physics ถ้าจำไม่ผิด ผมต้องเรียนประมาณ 20 chapters ต่อเทอม อาจจะบวกลบนิดหน่อย แต่ละ chapters มีสูตรที่ต้องใช้ประมาณ 5-7 สูตร นั่นหมายความว่าตอนสอบ final ผมต้องท่องจำสูตรให้ได้ขั้นต่ำ 5*20=100สูตรครับ นี่แค่วิชาเดียวนะครับ
แต่กลับกันตอนที่ผมเรียนอยู่ที่ usa ข้อสอบวิชา calculus ที่นั่นมีสูตรแจกให้ครับ ผมได้คุยกับอาจารย์ที่สอน ผมได้คำตอบในทำนองเดียวกับกับที่ผมยกตัวอย่างไว้ข้างบน คือไม่รู้ว่าจะให้ท่องไปทำไม เค้าต้องการให้ผมรู้วิธีใช้มากกว่า ข้อสอบที่ออกจะยากกว่าที่สอนนิดนึงเพื่อให้เด็กได้รู้วิธีการเอาไปใช้ ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าก็คือ ผมติด scientific calculator แบบธรรมดาไปด้วยตัวนึง พออาจารย์เห็นแล้ว แนะนำให้ซื้อใหม่ครับ เอาแบบที่ plot graph ได้ด้วย และที่แปลกไปกว่านั้นคือ เค้าสอนวิธีเขียนโปรแกรมให้ด้วย เพื่อที่เวลาสอบจะได้ไม่ต้องมานั่งกดให้เสียเวลา แค่ใส่ค่าเข้าไปเท่านั้น แต่เค้าให้ไปเขียนเองนะครับ เพื่อที่จะได้รู้ถึงวิธีการใช้สูตร
แต่พอผมกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย เครื่องคิดเลขที่ผมซื้อจาก usa กลับเอามาใช้ไม่ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันโปรแกรมได้
นึกถึงสมัยที่มีโอกาศได้ไปเดินสยามบ่อยๆจะเห็นนักเรียนไปเรียนพิเศษเยอะมาก (เยอะจนอยากให้โรงเรียนพวกนี้เข้่าตลาดหุ้นจังเลย
) เจอทั้งวันเสาร์และอาทิตย์ เลยทำให้สงสัยว่าเด็กพวกนี้มีเวลาได้อยู่กับพ่อแม่บ้างหรือเปล่า เพราะวันจันทร์ถึงศุกร์ก็ต้องไปโรงเรียน แถมเสาร์อาทิตย์ก็ต้องไปเรียนพิเศษอีก พอได้มาเป็นพ่อคนแล้วมองย้อนกลับ รู้สึกไม่อยากให้ลูกต้องไปเจออะไรอย่างนั้น ผมเคยคิดถึงขนาดที่เคยคุยกับแฟนว่าให้ไปคลอดลูกที่อังกฤษ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจออะไรตรงนี้ (ไม่ใช่ว่าอวดรวยหรือมีเงินเยอะนะครับ ทุกวันนี้ยังผ่อนบ้านอยู่เลยครับ
)
เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวเกี่ยวกับนักเรียนที่สอบได้อันดับหนึ่งของประเทศไทยครับ แต่ขออภัยที่จำไม่ได้ว่าเป็นการสอบอะไร นักเรียนคนนั้นเรียนอยู่โรงเรียน inter ชื่อดัง ราคาแพงติดอันดับต้นๆของเมืองไทยครับ น้องคนนั้นเค้าให้สัมภาษว่า ไม่เคยเรียนพิเศษเลยครับ แต่นักเรียนไทยที่ต้องไปเรียนพิเศษกลับไม่ได้ที่หนึ่ง ที่พูดมานี่ไม่ใช่ว่าผมต้องการให้ลูกผมได้ที่ 1 ของประเทศนะครับ แค่ยกตัวอย่างให้ดูเฉยๆ และโรงเรียนที่พูดถึงนั้นก็ไม่ใช่โรงเรียนที่ผมจะส่งลูกไปเรียนด้วย มันแพงมากครับ ไม่มีปัญญาส่งครับ