|0 คอมเมนต์
Update:2 เซียนเสียงแตก FSS มองSETพรุ่งนี้ แกว่งกรอบ ส่วน CNS มองลงเดือด หลังแรงขายฝรั่งฉุด/กังวลปัญหาหน้าผาการคลังมะกัน
วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,289.07 จุด ลดลง 5.43 จุด หรือ 0.42%
มูลค่าการซื้อขาย 38,857.70 ล้านบาท
สรุปสถาบันในประเทศต่างชาติซื้อสุทธิ 1,161.47 ล้านบาท
สรุปบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 27.42ล้านบาท
สรุปนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,921.63ล้านบาท
สรุปนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 2,732.74 ล้านบาท
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันพรุ่งนี้ ( 14 พ.ย. ) แกว่งตัวกรอบแคบ เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของประเทศสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) ที่จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาครองเกรสที่จะเริ่มเปิดสมัยการประชุม นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลปัญหาหนี้ในประเทศกรีซ เนื่องจากต้องติดตามว่าประเทศกรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่ตลาดฯ ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
ทั้งนี้ แนะนำ เทรดดิ้งระยะสั้น แต่หากซื้อ แนะนำซื้อช่วงที่ดัชนีฯ อ่อนตัวลดลง ส่วนหุ้นใหญ่แนะถือ โดยประเมินแนวรับที่ 1,285 - 1,290 จุด และประเมินแนวต้านที่ 1,296 -1,298 จุด
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในวันพรุ่งนี้ คือ ปัญหาหน้าผาทางการคลังของประเทศสหรัฐฯและปัญหาหนี้กรีซ รวมทั้ง ปัจจัยภายในประเทศเรื่องศาลปกครองพิจารณารับคำร้องประมูล เรื่องการออกใบอนุญาตคลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 GHz
สำหรับภาพรวมดัชนีฯ วันนี้ พบว่า แกว่งทรงตัวในกรอบแคบ โดยส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีความกังวลต่อปัจจัยภายต่างประเทศ โดยเฉพาะ ความกังวลการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของประเทศสหรัฐฯและหนี้กรีซ
ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นในต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลง อาทิ ดัชนี ดาวโจนส์ ล่วงหน้า: ตลาดหุ้นนิวยอร์ค เวลา 16:35 น. อยู่ที่ระดับ 12,724.00 จุด ลดลง 56.00 จุด หรือ -0.44 %
ดัชนี CAC-40: ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เวลา 16:51 น. อยู่ที่ระดับ 3,388.81 จุด ลดลง 22.84 จุด หรือ -0.67 %
ดัชนี DAX: ตลาดหุ้นเยอรมนี เวลา 16:51 น. อยู่ที่ระดับ 7,142.36 จุด ลดลง 26.40 จุด หรือ -0.37 %
ดัชนี FTSE: ตลาดหุ้นลอนดอน เวลา 16:51 น. อยู่ที่ระดับ 5,728.81 จุด ลดลง 38.46 จุด หรือ -0.67 %
อนึ่งศาลปกครองกลางนัดไต่สวนกรณีสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำร้องขอให้มีการไต่สวนฉุกเฉินและมีคำสั่งออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม(กสทช.) ระงับการออกใบอนุญาตคลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 GHz ในวันที่ 14 และ 15 พ.ย.
ในวันที่ 14 พ.ย.55 เวลา 10.30 น.เป็นการนัดไต่สวนผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งเป็นฝ่ายผู้ร้อง และวันที่ 15 พ.ย.55 เวลา 13.30 น.เป็นการนัดไต่สวนสำนักงาน กสทช.ซึ่งเป็นฝ่ายผู้ถูกร้อง
คดีนี้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินการประมูลคลื่น 3G ตามประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล หรือ Internation Mobile Telecomunication(IMT) ย่าน 2.1 GHz พ.ศ.2535 เมื่อวันที่ 16 ต.ค.55 โดยเป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการปฎิหน้าที่ของ กสทช., กทค. และสำนักงาน กสทช.
ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเห็นชอบร่วมกันให้เสนอความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการประมูลคลื่นความถี่ดังกล่าวต่อศาลปกครองเพื่อพิจารณาและวินิจฉัยว่าเป็นการดำเนินการที่เป็นแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรการ 47 และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรการ 45 ประกอบมาตรา 41 วรรค1 และ วรรค 7 หรือไม่
นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่าคาดแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันพรุ่งนี้ ( 14 พ.ย.) ปรับตัวลดลง โดยภาพรวมประเมินว่าตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงปรับฐานรอบใหญ่ เนื่องจากช่วงเดือนนี้(พ.ย.) เป็นช่วงที่นักลงทุนต่างประเทศขายออกจากตลาดหุ้นไทยมากที่สุด เพราะมีการปรับพอร์ตการลงทุน โดยดูจากสถิติที่ผ่านมาที่นักลงทุนต่างประเทศจะขายออกประมาณ 1 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือนนี้ ขณะที่ความกังวลต่อปัญหาต่อปัญหาหน้าผาทางการคลังของประเทศสหรัฐอเมริกายังกดดันบรรยากาศการซื้อขาย นอกจากนี้การประกาศผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน หรือ บจ. ในประเทศใกล้วันสิ้นสุดการส่งงบแล้ว โดยบจ. ส่วนใหญ่ที่ประกาศออกมาจะเป็นด้านลบ ทำให้ไม่มีปัจจัยมากระตุ้นนักลงทุน
ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ซื้อเล่นรอบในกรอบ โดยหากดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงแนวต้านแนะนำขายทำกำไร พร้อมประเมินแนวรับที่ 1,280-1,283 จุด และประเมินแนวต้านที่ 1,298-1,300 จุด
ส่วนภาพรวมดัชนีฯ วันนี้ พบว่า ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลง อีกทั้ง การรายงานผลประกอบการไตรมาส3/2555 ของบริษัทจดทะเบียนจะออกมาไม่ดี อาทิ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)CPF รวมทั้ง บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)PS และ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)QH ที่ประกาศกำไรออกมาต่ำกว่าที่คาด
ผู้สื่อข่าว : สุวรรณา รสมณี
(สุกัญญา ศิริรวง รายงาน; ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์ เรียบเรียง;โทร 02-664-4451-2 อีเมล์: [email protected] )
ที่มา: หุ้นอินไซด์
วันที่ : 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555