มงคล 38 ประการ

[Jeng]

http://www.dhammathai.org/treatment/poem/poem01.php

[drchatri]

พี่เจ๋ง ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิหรือเปล่าครับ เขาว่าดี ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว จากแต่ก่อนที่คิดว่าตัวเองแค่ทำความดีตามเท่าที่เราทำได้ก็พอ เคยคิดว่าถ้ามีเงินเยอะขึ้นก็จะมีความสุข แต่ตอนนี้ผมค้นพบแล้วว่ามันไม่ใช่ทั้งหมด แล้วจำเป็นไหมครับต้องไปทำที่วัด ผมทำเองทีบ้านได้หรือเปล่า(ค่อนข้างจะไม่มีเวลาหน่ะครับ เคยไปถามที่วัดหลวงปู่จรัล ต้องกินอยู่หลับนอน 3-7วันแหน่ะ)

[Jeng]

ทำที่บ้านก็ได้นะ แต่ถ้าไปวัด ก็อาจะไปพัก 1 คืนก็ได้ คือหาเวลาไป

เพื่อให้ได้หลักการ และจำบรรยากาศแนวทาง มาปฎิบัติที่บ้านครับ

[dingding]

มีคนจำพวกหนึ่งทั้งฝรั่งและไทย
ที่ถือเอาการท้าทายมฤตยู หรือทำกิจกรรมเสี่ยงตาย
เป็นการวัดใจ หรืออีกนัยเป็นการทำความรู้จักกับตัวเองว่าเขาคือใคร
ประมาณว่ายิ่งใหญ่พอจะสยบความกลัวตายได้ไหม

อย่างเช่นการเล่นสกีผาดโผน โดดมัวนตัวจากที่สูงนั้น
ลงพลาดนิดเดียวมีสิทธิ์คอหักตายทันที
นี่เป็นที่รู้กัน แต่สำหรับบรรดานักสกีแล้ว
การเสี่ยงตายชนิดนี้แลกมากับรสสุขสุดวิเศษ
ชั่วขณะที่ร่างกายเหมือนไร้น้ำหนักและหมุนพลิ้วสบายดังใจนึก
มันเป็นสุดยอดความสุขภายในสำหรับพวกเขา
แถมได้รับการยอมรับจากคนในแวดวงว่ายูเจ๋งจริงๆ

ถ้าคุณไม่ได้เข้าไปอยู่ตรงนั้น
ตรงที่ลอยเคว้งกลางอากาศเหมือนฝัน
ตรงที่คุณอยู่เหนืออำนาจดึงดูดของโลกสักสิบวินาที
คุณจะไม่มีวันรู้ว่าพวกเขาเสี่ยงตายกันไปทำไม
อย่างมากจะนั่งดูเขาและเธอเล่นผาดโผนเสี่ยงตายกลางหิมะขาวโพลน
ด้วยความรู้สึกเพลิดเพลินและไม่ตระหนักว่าความผิดพลาดนิดเดียว
หมายถึงการชีวิตไปทิ้งหลังเสพสุขเหนือแรงดึงดูดโลกชั่ววูบ

ความจริงยอดแห่งสุขเบาไร้น้ำหนักยังมียิ่งกว่านั้น
เสพรสได้นานกว่านั้น
และไม่จำเป็นต้องเสี่ยงตายด้วย
เพียงคุณนั่งนิ่งๆอยู่กับบ้าน
หายใจเข้าออกตามธรรมดา
ที่ผิดจากธรรมดานิดเดียวคือมีสติตามรู้ไปด้วย
ว่าขณะนี้มีลมหายใจออก ขณะนี้มีลมหายใจเข้า
ขณะนี้ลมหายใจยาว ขณะนี้ลมหายใจสั้น หรือขณะนี้ไม่มีลมหายใจ

การรู้ไปจนเหลือลมหายใจปรากฏเด่นอยู่อย่างเดียว
จะหน่วงเหนี่ยวให้จิตบังเกิดความตั้งมั่น
หลุดพ้นจากอำนาจแรงดึงดูดของความฟุ้งซ่านและความกระหายกาม
นานเท่าที่กำลังสติของคุณจะสามารถตามรู้ตามดูลมหายใจ

และในความมีสติรู้ชัดขนาดนั้น
เพียงมีปัญญาพิจารณาเห็นความไม่เที่ยง
ทราบความเกิด ทราบความดับของลมหายใจ
ทราบความมีอยู่ชั่วคราวของปีติโสมนัสอันเกิดจากจิตวิเวก
ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่านั่นเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นของเรา
ก็จะเกิดมิติของความน่าพอใจ ถึงใจยิ่งขึ้นไปอีก


จาก
http://dungtrin.com/

[drchatri]

ขอบคุณพี่เจ๋งและคุณ dingding มากครับ ในที่สุดผมก็ได้พบกัลยาณมิตรแล้ว ผมเคยลองนั่งหลายครั้งแต่ได้ราวแค่ 20 นาที และไม่ค่อยต่อเนื่องหน่ะครับ บางคนบอกว่านั่งแล้วเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เท่าที่รู้มามันเป็นแค่นิมิตร ใช่ไหมครับ อาจเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ เราทำไปโดยไม่ต้องคาดหวังใช่ไหมครับ

[Jeng]

เห็นก็ได้ ไม่เห็นก็ได้

และตอนนั่งก็ไม่ต้องตั้งใจให้เห็น หรือตั้งใจให้สงบ หรือตั้งใจให้นั่งได้นาน

คือ นั่งตามสบาย ตั้งตัวตรง ดำรงสติมั่น คือ

นั่งแล้วเราก็จะรับรู้ได้เอง ว่าจิตไม่นิ่ง วิ่งไปวิ่งมา เดี๋ยวคิดเรืองนั้น เรื่องนี้ ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต เรื่องที่เราคิดขึ้นมา ก็จะมีการปรุงแต่ง ให้เป็นไปตามที่เราอยากเป็น หรือไม่อยากเป็น

อย่าพยายามไปหยุดไม่ให้จิตคิดนั้นคิดนี่ แค่ตามดู เฉยๆ เมื่อสติเข้าไปดู ความคิดที่คิดนั่นคิดนี่ ก็จะหายไป เมื่อขาดสติ ความคิดก็จะผุดขึ้นมาคิด ต่อ เป็นเรื่องปกติ

ขอให้นั่งต่อไป อะไรที่ทำให้นั่งแล้วไม่สบาย ก็เปลี่ยนอย่าฝืน

นั่งไป ดูลมหายใจเข้าออก ก็ได้ ดูจิตที่วิ่งไปวิ่งมาไม่หยุดก็ได้ ดูกาย ก็ได้

[drchatri]

โหพี่เจ๋ง ดีมากๆเลยครับเข้าใจขึ้นอีกโข  แต่ก่อนก็งงครับไม่เข้าใจนักแล้วมันเกิดอาการอย่างที่ พี่เจ๋งว่าไว้ทุกประการ practical มากครับ แต่ เอ่อ.. ขอรบกวนถามอีกอย่างซีครับ มีบางคนบอกว่าต้องถือศีลแปด หรือศีลห้าอย่างเคร่งครัด จึงจะเกิดสมาธิ จริงหรือเปล่าครับ (ไม่ค่อยจะได้ถึงกับเรียกว่าเคร่ง ได้ 100% และผมก็เชื่อว่าหายากนะครับ ที่จะทำได้ทั้ง 100%) อีกอย่างคือว่า ควรนั่งเวลาไหนครับ บางคนก็บอกดว่าต้องนั่งถึง สองเวลา เช้า หัวค่ำ ต้องขนาดนั้นเลยหรือ เอ่อบางคนก็บอกว่าต้องทำบุญสังฆทานด้วย จำเป็นไหมครับ

[Jeng]

จริงๆแล้ว การถือศิล 5 หรือ ศิล 8 ก็จะทำให้นั่งสมาธิได้ง่ายขึ้น

ลองมาดูศิล 5 ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามลักทรัพย์ ห้ามประพฤติผิดในกาม ห้ามโกหก ห้ามดื่มสุรา

เราก็ลองดื่มสุราให้เมาแล้วไปนั่งดูดิ ว่าสติเป็นไง

ทางพุทธนี่ดีนะ เพราะเราสามารถหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง

...........................................................

มีคำสอนที่พิสูจน์ได้เช่น รักษาศิลแล้วจะสวย ทำบุญแล้วจะรวย นั่งสมาธิแล้วจะเกิดปัญญา

เราก็สามารถพิสูจน์ได้เลย ว่าจิงหรือเป่า

การรักษาศิล 8 ยิ่งทำให้ดีขึ้น เพราะ การไม่นอนที่สูง การไม่ยินดีกับความสวยงาม คือไม่แต่งหน้า ทาปาก อะไรทำนองนี้ เอ๊ะอีกข้อคือไร จำไม่ได้

ก็จะทำให้ตัวเบาขึ้น ปฎิบัติง่ายขึ้น

พี่คิดว่าไม่ใช่ข้อที่ต้องมายึดไว้ว่า เราไม่รักษาศิล 5 แล้วนั่งสมาธิไม่ได้ คงไม่ใช่แบบนั้นครับ

เพราะเป็นแค่ฐานที่ทำให้ปฎิบัติง่ายขึ้น

..................................................................................

ส่วนเวลาในการปฎิบัตินั้น ก็เอาเวลาสดวกนะ เพราะแต่ละคนก็มีอาชีพต่างกัน และบางคนก็เป็น morning person คือตื่นเช้า บางคนเป็น afternoon person คือตื่นสาย

พวกตื่นสาย ก็ไปปฎิบัติกลางคืนก็ได้ เพราะชอบนอนดึก แทนที่จะไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ให้มีความทุกข์ และนอนไม่หลับ ก็มาลองปฎิบัติก่อนนอน และไม่ต้องกลัวว่าปฎิบัติไปแล้วนอนน้อย จะทำให้ไม่แข็งแรง ไม่ต้องกลัว นั่งสมาธิ แล้วจิตสงบ เวลาหลับ หลับลึกครับ ทำให้หลับ 4 ชั่วโมงก็เต็มอิ่ม

หรือหลายคน ที่เก่งๆ ก็นั่งถึงเช้าก็สดใส ไม่ต้องนอนจริงๆ ก็ยังได้ แต่พี่ทำไม่ได้ครับ เหอๆ หลับเก่ง

.........................................................................................

เรื่องการทำสังฆทานเป็นบุญใหญ่อยู่แล้ว เราก็หาเวลาตามความเหมาะสม ทำบุญ ทำทาน ทำสังฆทาน ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน สร้างพระ ฝังลูกนิมิต คงไม่ต้องไปซีเรียส ว่าต้องทำให้ได้ เหมือนพระบางรูปครับ มัวแต่กลัวว่าวัดจะสร้างไม่เสร็จ ก็เรียไร และมุ่งมั่นใจสร้างวัดให้เสร็จให้ได้ จนกระทั่งลืมไปว่ามาบวชทำอะไร จริงๆแล้วก็ค่อยๆสร้างไปตามเหตุปัจจัย และแบ่งเวลาไปศึกษา ทั้งพระธรรม จากหนังสือบ้าง จากพระไตรปิฎกบ้าง และแบ่งเวลามาปฎิบัติบ้าง มัวแต่สร้างวัด มัวแต่รับกิจนิมนต์ จนกระทั่งไม่มีเวลา ลับมีดทางปัญญา แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปตัดกิเลส ( พูดเหมือนพี่บรรลุเลย เหอๆ นี่พูดตามความเข้าใจ ที่ได้ศึกษามาบ้างครับ )

............................................................................................

มีเคล็ดนิดนึง เวลานั่งสมาธิ ก่อนนั่งให้ไหว้พระ  แล้วตามด้วย การแผ่เมตตา ตรงนี้ครับ สำคัญมาก เวลานั่งจะไม่กัวอะไรมารบกวน ไม่ว่าจะเป็นวิญญานหรืออะไรก็ตาม ต่อให้ไม่เชื่อเรื่องวิญญานก็ตาม การแผ่เมตตา ก็จะทำเรามีบารมี เป็นการเติมอาหารให้จิตใจเราเป็นคนดี เรามัวแต่ออกกำลังกาย แต่ไม่ได้ออกกำลังใจ โดยการแผ่เมตตา

สรุปว่า เดินสายกลาง ค่อยๆทำครับ

พระพุทธเจ้าบอกว่า เมื่อเราปฎบัติ นั่งสมาธิ เจริญปัญญา เพื่อตัดกิเลส เราไม่รูหรอกว่า กิเลสเราลดลงไปขนาดไหน เปรียบเสมือน ลูกกระพรวนเรือ ทีลากขึ้นลากลง แล้วก็ค่อยๆสึกกร่อนไป เวลาผ่านไป มาดูอีกทีก็สึกไปมากแล้ว

การตัดกิเลสก็เช่นกัน เราไม่รู้หรอกว่า กิเลสมันลดลงไปขนาดไหน แต่เมื่อเราปฎิบัติไปเรื่อย กิเลสก็จะค่อยๆลดไปเรื่อยๆ

[Jeng]

หมอนั่งไปเรื่อยๆนะแรกๆจะได้รับความสงบ รู้สึกมีความสุข นั่งไปนั่งมาจิตเริ่มละเอียดขึ้น

ก็จะอาจจะเจอขั้นต่อไป เช่น วิตก วิจารณ์ สงสัย ฟุ้งซ่าน รำคาญ  

ตรงนี้ให้หมอลองหาตำราอ่านนะ เขาเรียกว่า นิวรณ์ มี 5 อย่าง ที่จะมาคอยดึงให้เราไปต่อลำบาก

เราก็ค่อยๆฝึกสติ แล้วดูอยู่ ว่าเออ ตอนนี้ฟุ้งอยู่นะ ตอนนี้สงสัยอยู่นะ เช่น ไปสงสัยว่า มานั่งทำบ้าอะไรอยู่นี่ พระพุทธเจ้ามีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เสียเวลาจริงๆ หรืออะไรก็แล้วแต่

หมอก็ต้องหาหนังสือธรรมะมาอ่านแล้วหละ เพราะพี่เองก็เอาตัวไม่ค่อยรอดหรอก ฮา

[Jeng]

หมอครับ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป ผมกับเพื่อนรุ่นน้องคนนึง ตั้งใจ ทำตามมงคล 38 ประการ โดยทำวันละข้อ

เริ่มพรุ่งนี้ ทำข้อแรก

คือไม่คบคนพาล แล้วเอาลักษณะคนพาลที่เขียนไว้ ลองมาระลึกดูว่า คนรอบตัวเราคนไหน เข้าเกณ เราจะได้ไม่คบด้วย

พออีกวันก็ทำอีกข้อ

เหอๆ พี่คิดว่าคนส่วนใหญ่ ก็ได้แต่อ่าน แล้วก็ผ่านไป โหมีตั้ง 38 ข้อ

จิงๆ แล้วก็ค่อยๆทำไป 38 วัน

ก็จะชำนาญขึ้น

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

(๙)  ฌาน ๔ = รูปฌาน ๔ (the Four Jhanas) 

๑. ปฐมฌาน (ฌานที่ ๑  the First Absorption)  มีองค์ ๕ คือ  วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา 

๒. ทุติยฌาน (ฌานที่ ๒  the Second Absorption)  มีองค์ ๓ คือ  ปีติ สุข เอกัคคตา 

๓. ตติยฌาน (ฌานที่ ๓  the Third Absorption)  มีองค์ ๒ คือ  สุข เอกัคคตา 

๔. จตุตถฌาน (ฌานที่ ๔  the Fourth Absorption)  มีองค์ ๒ คือ  อุเบกขา เอกัคคตา 

คัมภีร์ฝ่ายอภิธรรม นิยมแบ่งรูปฌานนี้เป็น ๕ ขั้น เรียกว่า ฌานปัญจกนัย หรือ ปัญจกัชฌาน โดยแทรก ทุติยฌาน (ฌานที่ ๒) ที่มีองค์ ๔ คือ วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา เพิ่มเข้ามา แล้วเลื่อนทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตฌาน ในฌาน ๔ ข้างต้นนี้ออกไปเป็น ตติยฌาน จตุตถฌาน และปัญจมฌาน ตามลำดับ (โดยสาระก็คือ การจำแนกขั้นตอนให้ละเอียดมากขึ้นนั่นเอง) 

M.I.40    ม.มู. ๑๒/๑๐๒/๗๒ 

[Rocker]

สมมุตินะครับสมมุติ ดื่ม beer ดูดบุหรี่ เจ๊าแจ๊ะกับ สาวๆแต่ไม่ได้คิดอะไรกับพวกเธอ

จะเรียกว่าขัด มงคล 38 ข้อใหมพี่  8)

[drchatri]

ขอบคุณพีเจ๋งมากครับที่กรุณา  ผมโชคดีมากครับที่ได้คุยกับพี่ ผมจะลองนำคำแนะนำไปปฏิบัติดูนะครับ  :D

[Jeng]

คุณ Rocker ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ลองมาปฎิบัตร่วมกันมั๊ย

เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ เอาวันละ 1 ข้อ

แล้วค่อยมาสรุปหลังจากผ่านไป 38 วัน

แต่ผมไม่ค่อยเคร่งนะ

ปฎิบัติไปเรื่อยๆอะ

ประมาณว่าดีกว่าไม่ปฎิบัติ

[oatty]

คุณหมอครับ ศีลเป็นปฐมบทแห่งการทำความดีครับ มีภาษิตเป็นบาลี แต่จำไม่ได้แล้ว

[drchatri]

จริงๆแล้วตอนนี้ ผมกำลังล้ำหน้าพี่เจ๋งแล้วนะครับ เพราะผมกำลังทำข้อที่สองอยู่ คือการคบบันฑิต

[drchatri]

ขอบคุณครับคุณ JoJo ผมก็ว่าจริงๆแล้ว ถ้าเราต้องการเป็นคนดีจริงๆเราคงต้องทำการรักษาศีลให้ได้ครับ เพียงแต่บางครั้งยังอาจยุกยิกได้หน่ะครับ(โธ่ก็ยังมีกิเลสอยู่เยอะแยะนะครับ :lol: )

[drchatri]

พี่เจ๋งเมือ่วานผมลองนั่งสมาธิได้แค่ 15 นาทีเองก้ง่วงหลับแล้ว ยังเอาชนะตัวเองไม่ได้เลย แย่จัง

[Jeng]

ง่วงอาจะเป็นเพราะเหนื่อยก็ได้นะหมอ เนื่องอาชีพหมองานหนัก และต้องการการพักผ่อน และเราคงโปรแกรมไว้แล้ว ว่าอยากจะหาเวลานอน

หมอส่วนใหญ่ อยากหาเวลานอนให้หลับเต็มอิ่มไปเลย

เหอๆ

จิตใจบางทีต้องทำตรงข้าม เช่น

เราอยากนอน กลับตื่น ทั้งๆที่เหนื่อย และง่วง ยิ่งอยากนอน ยิ่งนอนไม่หลับ

ทางแก้ ลองเอาหนังสือธรรมะมาอ่าน อ่านไปซักพัก ก็จะหลับไปเอง

ในทางกลับกัน

เราอยากตื่น กลับง่วงมาก ยิ่งอยากตืนตายิ่งจะหลับ อืม แก้ไงดี

[Dech]

เป็นหนังสือธรรมมะเล่มแรกที่ผมซื้อมาอ่านเลยครับ เมื่อ สิบกว่าปีก่อน
ผมมาสนใจธรรมะ ก็เพราะเล่มนี้นะครับ

แต่ก็ได้แค่ อ่าน ยังขาดเรื่องปฎิบัติอีกเยอะ

ปริยัติก็ไม่แน่ ปฎิบัติก็ไม่ทำ ปฎิเวธจะเกิดได้อย่างไร

[drchatri]

ถามพี่เจ๋ง หรือ เพื่อนๆ  :o
  ประเด็นเรื่องการรักษาศีล ให้เคร่งครัดเลยผมว่าค่อนข้างยากมากนะครับ แค่ศีล 5ข้อก็ยังทำไม่ครบสม่ำเสมอเลยครับ
  เช่น ศีลข้อ 4 ไม่พูดปด ผมยอมรับว่าบางสถานการณืผมจำเป็นต้องพูดปดครับ เช่น ตอนที่ผมพาแม่มาตรวจภายในกับรุ่นพี่หมอสูติ แล้วพบว่า แม่ผมเป็นมะเร็งปากมดลูก แม่ผมถามว่าเป็นอะไร ผมจำเป็นต้องโกหกแม่ผมว่าไม่เป็นอะไรมาก เป็นแค่  มดลูกอักเสบธรรมดารักษาแล้วดีขึ้นแน่นอน ให้ทำตามที่หมอแนะนำ เพื่อไม่ให้จิตใจย่ำแย่ แล้วหม่ผมก็มีกำลังใจรักษาต่อเนื่องจนปัจจุบันอาการดีขึ้นมาก หรือกับคนไข้ผมก็จำเป็นต้องใช้เทคนิคนี้บ่อยๆ ต้องบอกกับญาติ แทนที่จะบอกตรงๆกับคนไข้ การทำแบบนี้ ก็ถือว่าพูดปดแน่นอน แต่เป็นการกระทำที่มีเจตนาที่ดีเป็นตัวกำกับ อย่างนี้ผมผิดศีลหรือเปล่าครับ แล้วและเป็นบาปหรือเปล่าครับ

[Jeng]

ก็ผิดศิลครับ

พี่เคยฟังหลวงพ่อเทศ ว่าการเป็นฆาราวาส ต้องอยู่อย่างหลีกเลี่ยงการผิดศิลได้ยาก

เช่นพ่อค้า ก็มีกรรม คือ เวลาขายของ ก็ต้องไปบอกว่าไม่มีกำไร เป็นต้น

อย่างไรก็ตามก็ต้องถือว่า มีเจตนาดี เป็นที่ตั้ง คือเพื่อไม่ให้คุณแม่ตกใจ หรือปรับตัวไม่ทัน

วาจาที่เปล่งออกมา ก็มีเมตตา เพื่อให้คุณแม่ มีกำลังใจในการต่อสู้โรคร้ายต่อไป

เหอๆ พี่ว่าจะว่าผิดก็ผิด แต่ผิดน้อยอะ ไม่น่ามีผลอะไรมากมาย

เพียงแต่ว่า เราก็ต้องมีสติรับรู้อยู่ว่า ผิดเหมือนกัน

ถ้าวันนึงข้างหน้า เกิดท่านรู้ว่าไม่ได้บอกความจริงท่าน แล้วท่านโกรธมาก

เราก็ยอมรับ ที่เราไม่ได้บอก และโกหก

เราจะได้ไม่ต้องไปโวยวายกลับ ว่าที่โกหก ก็เพราะทำเพื่อท่าน

อืม เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ

คือถ้าเราคิดว่าเราถูกหมด พอท่านมาว่าเรา เกิดเราเผลอไปว่ากลับ จะยิ่งไปกันใหญ่

[drchatri]

อ๋อ..ประเด็นนั้นพี่เจ๋.ไม่ต้องห่วงครับ คุณแม่ผมเขารู้ไปอย่างธรรมชาติ คือระหว่างที่ท่านไปรับเคมีและฉายรังสีที่ศิริราช ปรากฏว่ามีคนป่วยด้วยโรคเดียวกัยท่านเต็มไปหมด นั่งรอหมออยู่ เขาก็คุยกันแม่ผมท่านก็รู้สึกว่าคนอื่นเป็นมากกว่าอีก และหลังรับการรักษาสม่ำเสมออาการดีขึ้นเรื่อยๆท่านก็มั่นใจมากขึ้น  จนปัจจุบันแม่ผมรู้ความจริงไปเองโดยธรรมชาติ แต่เนื่องจากสุขภาพจิตดี ตอนนี้ไม่มีอาการอะไรเลย  ส่วนตัวผมเองก็คิดเอาเองว่าไม่น่าจะบาปอะไรมาก เหมือนเราทำความดีมากกว่า ความไม่ดี มันก็ dilute กันไปได้ใช่ไหมครับ
  วันหยุดอย่างนี้ได้สนทนาหัวข้อธรรมะ  กับกัลยาณมิตรอย่างพี่เจ๋งแล้วทำให้จิตใจแช่มชื่นขึ้นมาก  หลังจากที่หดหู่กับสถานการณ์บ้านเมืองช่วงนี้เหลือเกิน เอ่อ..อีกอย่างผมรู้แล้วหล่ะครับว่าพี่เป็นหมอฟัน วันหลังคงได้ consult บ้างนะครับ  
  ปล.เมื่อวานผมเห็นมีคน post กระทู้ไม่เหมาะสมเข้ามาในเวบของเรา  หากผมเห็นจะแจ้งลบกระทู้ได้ที่ไหนครับ(แต่ทีม staff ทำงานดีมากครับไวจริงๆ )

[Jeng]

อ๋อ พี่ไม่ได้เป็นหมอฟัน อันนั้นพี่ชายพี่ อิอิ ติดต่อมา พี่แนะนำได้ครับ

ส่วนตัวพี่เข้าแพทย์จุฬา ปี 2526 เรียนได้ 4 ปี ก็ขอจบวทบ.ครับ

เอิ๊กๆ ตกชีวะตั้งแต่เอน ก็เป็นเช่นนี้เอง

[drchatri]

ไม่เป็นไรครับผมถือว่าเป็นเพื่อนแพทย์เหมือนกัน มิน่า...หลายกระทู้ที่พี่ตอบเหมือนคนที่เป็นหมอตอบมาก..แต่อย่างไรก็ตามมีตังค์ก็ถือว่า เจ๋ง..สุดๆแล้ว อิอิ.. :lol: