การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
-
- Verified User
- โพสต์: 21
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 1
การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ [color=#FF0000]การทำบุญ [/color] เพราะเราสามารถเก็บเกี่ยวดอกผลไปได้ถึงชาติหน้า ส่วนการลงทุนอย่างอื่นถึงจะได้กำไรมหาศาลปานใดก็..ได้แค่ชาตินี้เท่านั้น บางคนหาเงินทองไว้มากมายยังไม่ทันได้ใช้ ก็เกิดมาตายเสียก่อน....
ข้อคิดจาก หนังสือธรรมนิยาย ชุดสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม "มักกะลีผล"
ข้อคิดจาก หนังสือธรรมนิยาย ชุดสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม "มักกะลีผล"
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 2
ทำบุญแล้วหวังเผื่อชาติหน้าผมว่าอย่าทำเลยดีกว่าครับPK Cop เขียน:การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ การทำบุญ เพราะเราสามารถเก็บเกี่ยวดอกผลไปได้ถึงชาติหน้า ส่วนการลงทุนอย่างอื่นถึงจะได้กำไรมหาศาลปานใดก็..ได้แค่ชาตินี้เท่านั้น บางคนหาเงินทองไว้มากมายยังไม่ทันได้ใช้ ก็เกิดมาตายเสียก่อน....
ข้อคิดจาก หนังสือธรรมนิยาย ชุดสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม "มักกะลีผล"
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 3
ไม่ใช่แค่ทำบุญครับ "กรรม" ทุกชนิดที่เราทำในปัจจุบันไม่ว่าดีหรือร้ายก็จะส่งผลในอนาคตเสมอ เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตครับ
ทำบุญก็มีหลายขั้น ผลบุญเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ทาน
ศีล
สมถะ
วิปัสนา
ทำบุญก็มีหลายขั้น ผลบุญเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ทาน
ศีล
สมถะ
วิปัสนา
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 5
หว่านพืชย่อมหวังผล นะครับ ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนอยู่
ขอแค่พืชที่หว่าน ไป คือ ดอกไม้ อย่าเป็นวัชพืชก็พอ
...เอ ไม่เกี่ยวกับหัวข้อนี่หน่า
ปล. ผมว่า คุณ PK Cop คงตั้งใจจะให้ทุกท่านลองพิจารณา เรื่องการลงทุนด้วยการทำบุญ เพิ่มเติมจากที่ เน้น การลงทุนทางโลก ไม่ว่าจะเป็นการหาความรู้, การสร้างความมั่งคั่งให้ชีวิต หน่ะครับ
และก็ หากมีโอกาสอยากให้ลองไปเจริญวิปัสสนากรรมฐานกันดูครับ ดีจริงๆ นะ
ขอแค่พืชที่หว่าน ไป คือ ดอกไม้ อย่าเป็นวัชพืชก็พอ
...เอ ไม่เกี่ยวกับหัวข้อนี่หน่า
ปล. ผมว่า คุณ PK Cop คงตั้งใจจะให้ทุกท่านลองพิจารณา เรื่องการลงทุนด้วยการทำบุญ เพิ่มเติมจากที่ เน้น การลงทุนทางโลก ไม่ว่าจะเป็นการหาความรู้, การสร้างความมั่งคั่งให้ชีวิต หน่ะครับ
และก็ หากมีโอกาสอยากให้ลองไปเจริญวิปัสสนากรรมฐานกันดูครับ ดีจริงๆ นะ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 6
ทำบุญหวังผล จะได้บุญหรือครับ ไม่ได้กวนนะครับแต่อยากทราบจริงๆ ใครศึกษาธรรมมะ ช่วยไขกระจ่างหน่อย
ส่วนใหญ่ที่ผมทำบุญคือ เรามีแล้ว อยากเผื่อแผ่คนอื่นที่ยังไม่บ้าง
และผมจะแอนตี้ การทำบุญกับวัดที่ดูแล้วเป็นเชิงพาณิชย์มากเกินไป แบบว่าแทบจะเหยียบกันตายเพื่อบริจาคเงินให้วัด
วัดวาเงินสะพัดเป็นล้านๆ สิบๆ ล้าน มันออกจะเกินความจำเป็นเกินไป ไม่น่าจะได้บุญกุศลเลย
มีเรื่องเล่าที่ผมฟังมาจากแม่ผม เล่าว่า ที่เมืองจีนในยุคสมัยหนึ่ง มีเมืองหนึ่งต้องการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ ก็เปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วไป
ทีนี่ก็มีขอทานคนนึง อยากบริจาคเป็นสาธารณกุศลบ้าง ก็จะหยอดเงินเหรียญที่เล็กที่สุดในสมัยนั้น (ประมาณว่า 25 สตางค์สมัยนี้)
คนเฝ้าหีบเห็นว่าเป็นขอทานสกปรก จำนวนเงินก็น้อยนิด คนเฝ้าก็ไม่ให้ใส่เงินในหีบรับบริจาค ก็โยนเหรียญเงินนั้นทิ้งไป
ผลสุดท้าย คือสะพานนั้นสร้างไม่ได้ครับ สร้างยังไงก็ไม่สำเร็จ จนมีซินแสมาดูแล้วบอกว่า ให้ไปหาเหรียญของขอทานคนนั้นกลับมา จึงจะสร้างสะพานได้
เรื่องนี้จริงเท็จไม่ทราบ เล่าสู่กันฟังเฉยๆ ครับ
ส่วนใหญ่ที่ผมทำบุญคือ เรามีแล้ว อยากเผื่อแผ่คนอื่นที่ยังไม่บ้าง
และผมจะแอนตี้ การทำบุญกับวัดที่ดูแล้วเป็นเชิงพาณิชย์มากเกินไป แบบว่าแทบจะเหยียบกันตายเพื่อบริจาคเงินให้วัด
วัดวาเงินสะพัดเป็นล้านๆ สิบๆ ล้าน มันออกจะเกินความจำเป็นเกินไป ไม่น่าจะได้บุญกุศลเลย
มีเรื่องเล่าที่ผมฟังมาจากแม่ผม เล่าว่า ที่เมืองจีนในยุคสมัยหนึ่ง มีเมืองหนึ่งต้องการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ ก็เปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วไป
ทีนี่ก็มีขอทานคนนึง อยากบริจาคเป็นสาธารณกุศลบ้าง ก็จะหยอดเงินเหรียญที่เล็กที่สุดในสมัยนั้น (ประมาณว่า 25 สตางค์สมัยนี้)
คนเฝ้าหีบเห็นว่าเป็นขอทานสกปรก จำนวนเงินก็น้อยนิด คนเฝ้าก็ไม่ให้ใส่เงินในหีบรับบริจาค ก็โยนเหรียญเงินนั้นทิ้งไป
ผลสุดท้าย คือสะพานนั้นสร้างไม่ได้ครับ สร้างยังไงก็ไม่สำเร็จ จนมีซินแสมาดูแล้วบอกว่า ให้ไปหาเหรียญของขอทานคนนั้นกลับมา จึงจะสร้างสะพานได้
เรื่องนี้จริงเท็จไม่ทราบ เล่าสู่กันฟังเฉยๆ ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 7
เมื่อผมเป็นเด็ผมอยากให้ชาติหน้ามีจริง
เพราะผมกลัวว่าเมื่อผมตายไปทุกอย่างจะมืดและเงียบไปตลอดกาล
กลัวว่าคนรอบๆตัวเราจะตายจากไป อยากให้ชีวิตนั้นยั่งยืนไม่มีที่สิ้นสุด
การตายเป็นการจากที่ไม่มีทางที่จะได้พบกันอีก
เมื่อสิ่งที่กลัวแสนกลัวเกิดขึ้นแล้วก็เกิดขึ้นอีก
ผมไม่ต้องการให้คนในครอบครัวผมมีชีวิตที่ยั่งยืนอีกแล้ว เพราะมันเป็นไปไม่ได้
แต่ขอสักนิด ขอให้การตายนั้นเรียงลำดับ เกิดก่อนตายก่อน
การตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ที่ดีที่สุดคือรักษาสุขภาพและชีวิตของตัวเอง
เพราะผมกลัวว่าเมื่อผมตายไปทุกอย่างจะมืดและเงียบไปตลอดกาล
กลัวว่าคนรอบๆตัวเราจะตายจากไป อยากให้ชีวิตนั้นยั่งยืนไม่มีที่สิ้นสุด
การตายเป็นการจากที่ไม่มีทางที่จะได้พบกันอีก
เมื่อสิ่งที่กลัวแสนกลัวเกิดขึ้นแล้วก็เกิดขึ้นอีก
ผมไม่ต้องการให้คนในครอบครัวผมมีชีวิตที่ยั่งยืนอีกแล้ว เพราะมันเป็นไปไม่ได้
แต่ขอสักนิด ขอให้การตายนั้นเรียงลำดับ เกิดก่อนตายก่อน
การตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ที่ดีที่สุดคือรักษาสุขภาพและชีวิตของตัวเอง
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 2606
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 8
นั้นนะสิครับ คนเราจะตายเมื่อไร ไม่รู้ เค้าเลยสอนให้เราตั้งในความไม่ประมาท ไม่ใช่จะได้ไม่ตาย แต่เตรียมพร้อมที่จะตายได้ทุกเมื่อ เป็นอย่างนี้หรือป่าวครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 151
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 10
ขอตอบเท่าที่เข้าใจนะครับ ผิดขออภัย ทำบุญหวังผลได้บุญหรือไม่ผู้ทำไม่ได้เป็นผู้กำหนด เจตนาและผลของการกระทำต่างหากที่เป็นตัวกำหนด การหวังผลเป็นเรื่องของตัวบุคคล แต่ได้บุญหรือไม่ก็ต้องว่าไปตามกฏแห่งกรรมครับ
แนะนำหนังสือเล่มนึง ปรากฏการณ์ทางวิญญาณของน.พ.อาจินต์ บุญเกตุ
http://www.kanlayanatam.com/Mybookneanam/pimpawadee.pdf
แนะนำหนังสือเล่มนึง ปรากฏการณ์ทางวิญญาณของน.พ.อาจินต์ บุญเกตุ
http://www.kanlayanatam.com/Mybookneanam/pimpawadee.pdf
-
- Verified User
- โพสต์: 151
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 11
มีหนังสือเล่มนึงอ้างว่า discovery channel ทำสารคดีเกี่ยวกับการระลึกชาติ ทั้งหมด 100 เคสส่วนใหญ่อยู่ในอินเดีย มีการฟันธงว่าเป็นเรื่องจริงถึง 80 กว่าเคส แต่ผมเคยลอง search หาสารคดีตอนนี้ดูแล้วไม่เห็นเจอเลย ไม่รู้มีจริงๆป่าว อ่อแล้วเขาก็บอกว่าหลังจากที่ตายแล้วระยะเวลาเฉลี่ยที่จะมาเกิดใหม่ 43 ปี
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 12
ผมเชื่อว่ามีคับ ง่ายๆก็เรื่องทศชาติชาดกคับ เล่าเรื่องการบำเพ็ญบารมีให้เต็มของพระองค์ในสิบพระชาติสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันคับ ช่วยยืนยันเรื่องชาติภพมีจริง หรือจะฟังเสียงธรรมเรื่องมักกะลีผลอย่างที่ผู้กระทู้เอยไว้และผลงานต่างๆที่อิงจากประวัติหลวงพ่อจรัญดูก็ได้คับ ฟังไปเรื่อยๆจะพบคำตอบได้เองpornchal เขียน:ใครรู้ ตอบหน่อย...อยากรู้เหมือนกัน..ปรัชญา เขียน:โทษทีนะครับ
ชาติหน้ามีจริงหรือครับ
http://www.fungdham.com/book/sutassa.html
ชอบเรื่องใดก็เชิญฟังได้เลยคับ
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
-
- Verified User
- โพสต์: 21
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 13
ขออนุญาต ขยายความเพิ่มเติม
"ทำบุญ" คือ การทำความดี, การประกอบกรรมดี, การทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเพิ่มพูนความดี และเพื่อกำจัดความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ได้ออกไปจากใจ
ความหมายของ "ทำบุญ" ในคำวัดหมายถึงการทำสิ่งที่เป็นบุญ กล่าวกว้างๆ วิธีทำบุญมี 3 วิธีคือ
ให้ทาน เช่นทำบุญตักบาตร เลี้ยงพระ ถวายสังฆทาน
รักษาศีล เช่นรักษาศีลห้า, ศีลแปด
เจริญภาวนา เช่น ทำสมาธิอบรมใจ ปฏิบัติกรรมฐาน
นอกจากนี้ยังมีวิธีทำบุญอีก 7 อย่าง คือ "บุญกิริยาวัตถุ" รวมเป็น 10 อย่าง
การทำบุญในปัจจุบันมักเข้าใจเพียงว่าตักบาตร ถวายสังฆทาน ถวายเงินให้วัดเท่านั้นจึงจะชื่อว่าทำบุญ แท้จริงการทำเช่นนั้นเป็นการทำบุญเพียง 1 อย่างใน 10 อย่างเท่านั้น
อ้างอิง
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
"ทำบุญ" คือ การทำความดี, การประกอบกรรมดี, การทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเพิ่มพูนความดี และเพื่อกำจัดความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ได้ออกไปจากใจ
ความหมายของ "ทำบุญ" ในคำวัดหมายถึงการทำสิ่งที่เป็นบุญ กล่าวกว้างๆ วิธีทำบุญมี 3 วิธีคือ
ให้ทาน เช่นทำบุญตักบาตร เลี้ยงพระ ถวายสังฆทาน
รักษาศีล เช่นรักษาศีลห้า, ศีลแปด
เจริญภาวนา เช่น ทำสมาธิอบรมใจ ปฏิบัติกรรมฐาน
นอกจากนี้ยังมีวิธีทำบุญอีก 7 อย่าง คือ "บุญกิริยาวัตถุ" รวมเป็น 10 อย่าง
การทำบุญในปัจจุบันมักเข้าใจเพียงว่าตักบาตร ถวายสังฆทาน ถวายเงินให้วัดเท่านั้นจึงจะชื่อว่าทำบุญ แท้จริงการทำเช่นนั้นเป็นการทำบุญเพียง 1 อย่างใน 10 อย่างเท่านั้น
อ้างอิง
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 14
ผมลงทุนไว้3-4อย่าง...
อย่างแรกคือเรื่อง การลงทุนในหุ้น ผมลงทุนมาแล้วประมาณ 6 ปีกว่า
ถึงตอนนี้ผมพอใจกับผลที่ได้รับ..อนาคตก็คิดว่าจะลงทุนต่อไป
เรื่องที่2คือเรื่องสุขภาพ ผมลงทุนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมาแล้วหลายปี
ตอนนี้ผมแข็งแรงดีแต่อนาคตไม่รู้ผลจะเป็นอย่างไร..
เรื่องที่3คือเรื่องครอบครัว ผมเพิ่งลงทุนไป3-4ปี ผลแรกออกมาแล้วปีกว่า
ตอนนี้กำลังจะออกผลที่2..(ยังไงคงพอแค่2ผล)
เรื่องที่4คือเรื่องความสุขสงบทางจิตวิญญาณ เรื่องนี้ผมยังทำได้ไม่ดี ทำได้เป็นพักๆ
ต้องปรับปรุงอีกพอสมควร...
ชาติหน้ามีหรือเปล่าผมเป็นอีกคนที่ตอบไม่ได้
ผมเลยทำวันนี้ เพื่อบั้นปลายชีวิตที่ผมคิดว่ามีแน่ไว้แทนครับ..
อย่างแรกคือเรื่อง การลงทุนในหุ้น ผมลงทุนมาแล้วประมาณ 6 ปีกว่า
ถึงตอนนี้ผมพอใจกับผลที่ได้รับ..อนาคตก็คิดว่าจะลงทุนต่อไป
เรื่องที่2คือเรื่องสุขภาพ ผมลงทุนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมาแล้วหลายปี
ตอนนี้ผมแข็งแรงดีแต่อนาคตไม่รู้ผลจะเป็นอย่างไร..
เรื่องที่3คือเรื่องครอบครัว ผมเพิ่งลงทุนไป3-4ปี ผลแรกออกมาแล้วปีกว่า
ตอนนี้กำลังจะออกผลที่2..(ยังไงคงพอแค่2ผล)
เรื่องที่4คือเรื่องความสุขสงบทางจิตวิญญาณ เรื่องนี้ผมยังทำได้ไม่ดี ทำได้เป็นพักๆ
ต้องปรับปรุงอีกพอสมควร...
ชาติหน้ามีหรือเปล่าผมเป็นอีกคนที่ตอบไม่ได้
ผมเลยทำวันนี้ เพื่อบั้นปลายชีวิตที่ผมคิดว่ามีแน่ไว้แทนครับ..
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- theerasak24
- Verified User
- โพสต์: 614
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 15
ผมนับถือครับ ลงทุน ตามด้านบนนี้ผมได้แค่ 2 อย่างอยู่เลย ยังไงต้องลงทุนเพิ่มแล้วครับsaichon เขียน:ผมลงทุนไว้3-4อย่าง...
อย่างแรกคือเรื่อง การลงทุนในหุ้น ผมลงทุนมาแล้วประมาณ 6 ปีกว่า
ถึงตอนนี้ผมพอใจกับผลที่ได้รับ..อนาคตก็คิดว่าจะลงทุนต่อไป
เรื่องที่2คือเรื่องสุขภาพ ผมลงทุนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมาแล้วหลายปี
ตอนนี้ผมแข็งแรงดีแต่อนาคตไม่รู้ผลจะเป็นอย่างไร..
เรื่องที่3คือเรื่องครอบครัว ผมเพิ่งลงทุนไป3-4ปี ผลแรกออกมาแล้วปีกว่า
ตอนนี้กำลังจะออกผลที่2..(ยังไงคงพอแค่2ผล)
เรื่องที่4คือเรื่องความสุขสงบทางจิตวิญญาณ เรื่องนี้ผมยังทำได้ไม่ดี ทำได้เป็นพักๆ
ต้องปรับปรุงอีกพอสมควร...
ชาติหน้ามีหรือเปล่าผมเป็นอีกคนที่ตอบไม่ได้
ผมเลยทำวันนี้ เพื่อบั้นปลายชีวิตที่ผมคิดว่ามีแน่ไว้แทนครับ..
ส่วนเรื่องชาติหน้ามีจริงหรือไม่ตอบไม่ได้ครับเพราะไม่เคยประสพพบมา แต่ก็อยากแนะนำหนัง
สือของ คุณณัฐพบธรรม ครับ มีหลายเรื่องเลยที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องด้านบนครับยังไงก็มีความสุขกับ
การลงทุนทุกด้านนะครับ คุณพี่สายชล
"เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะยังคงทำสิ่งต่างๆ ต่อไปตราบใดที่มันยังให้ความรื่นรมย์และคุณก็ทำมันได้ดี"
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 16
ขอบคุณครับพี่ธีtheerasak24 เขียน:
ผมนับถือครับ ลงทุน ตามด้านบนนี้ผมได้แค่ 2 อย่างอยู่เลย ยังไงต้องลงทุนเพิ่มแล้วครับ
ส่วนเรื่องชาติหน้ามีจริงหรือไม่ตอบไม่ได้ครับเพราะไม่เคยประสพพบมา แต่ก็อยากแนะนำหนัง
สือของ คุณณัฐพบธรรม ครับ มีหลายเรื่องเลยที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องด้านบนครับยังไงก็มีความสุขกับ
การลงทุนทุกด้านนะครับ คุณพี่สายชล
บางเรื่องผมยังคงต้องขอคำแนะนำจากพี่แหละครับ
(ปล.ยินดีกับคนรักชาเขียวแบบพี่ด้วยน๊ะครับ )
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 17
ผมก็อยากรู้ว่า ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นอะไรpornchal เขียน:ใครรู้ ตอบหน่อย...อยากรู้เหมือนกัน..ปรัชญา เขียน:โทษทีนะครับ
ชาติหน้ามีจริงหรือครับ
ไปเกิดเป็นคนที่เอธิโอเปีย ไปเกิดที่ยูกันดา ชนกลุ่มน้อยที่ยูเครน หากไปเกิดที่เหล่านี้ไม่ไหวมั้ง
กินอาหารปรุงจากซากไก่ซากหมูจากเนื้อสัตว์หลายๆอย่าง
หากต้องไปเกิดชดใช้กรรม คิดหนักเลยนะนี่
ขอชาตินี้ชาติเดียวก็พอแล้วม้าง ชาติหน้าไม่เอาดีกว่านิ
-
- Verified User
- โพสต์: 1260
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 18
ถ้าพูดถึงการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
ผมมักจะนึกถึงการพัฒนาคน การศึกษา อะไรพวกนี้
เรื่องทำบุญ ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
ถ้ามีโอกาสผมมักจะทำความดีเล็กๆน้อยๆมากกว่า
เรื่องชาติหน้า ผมไม่เชื่อเท่าไหร่ ถ้ามีจริง ผมไม่อยากเกิดอีก
ผมมักจะนึกถึงการพัฒนาคน การศึกษา อะไรพวกนี้
เรื่องทำบุญ ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
ถ้ามีโอกาสผมมักจะทำความดีเล็กๆน้อยๆมากกว่า
เรื่องชาติหน้า ผมไม่เชื่อเท่าไหร่ ถ้ามีจริง ผมไม่อยากเกิดอีก
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 19
ได้ครับpongo เขียน:ทำบุญหวังผล จะได้บุญหรือครับ ไม่ได้กวนนะครับแต่อยากทราบจริงๆ
แต่จะได้ผลนั้นก็ต้องมีองค์ประกอบครบถ้วน ถึงจะได้อานิสงค์สูงสุดครับ
คือ ก่อนให้ ขณะให้ หลังจากให้ จิตนั้นต้องเปี่ยมไปด้วยความสุขของการให้
สิ่งที่ให้ ต้องเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ เป็นทรัยพ์ที่สุจริต
และเนื้อนาบุญที่ให้ ยิ่งบริสุทธิ์มากก็จะมีอานิสงค์แรงเช่นกันครับ
ในพระศาสนาแบ่ง สวรรค์ออกเป็นชั้นต่างๆ 6 ชั้น เริ่มจากการให้ ที่ไม่อยากให้ แต่เห็นคนอื่นให้ เลยอาย
กลัวเขาหาว่า งก ก็ให้กับเขาบ้าง ก็ไปเกิดในสวรรค์ชั้นต่ำสุดก็มี
หลายคนสงสัยว่าแล้วบุญจะเกิดได้อย่างไร ลองนึกดูครับ สมมติเราบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมไปคนละ 10 บาท
รวมแล้วได้ 10 ล้าน ปรากฏว่าส่งเงินเหล่านั้นไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ตกยากจำนวนหลายพันคน คนเหล่า
นั้นเมื่อได้ความช่วยเหลือ ต่างอนุโมทนา สาธุ ซาบซึ้งใจ จนเกิดเป็นแรงเกื้อหนุน คือบุญเกิดขึ้น
หากถามว่าประสงค์สิ่งใดแล้วขอจะได้ไหม ตามหลักพระศาสนาก็ต้องตอบว่าได้ครับ แต่จะได้รับก็ต่อเมื่อ
กรรมนั้นหมดแล้วเหลือแต่บุญที่คอยส่งผล ยกตัวอย่างสมัยพุทธกาล คือ นางวิสาขา เคยอธิฐานว่า ขอให้ตัวเอง
อย่าแก่เฒ่า มีรูปร่างสวยงามตลอดเวลา บุญนั้นก็ส่งผลให้ในยุคของสมเด็จพระศาสดานี้ นางได้ตามที่ขอไว้
บุญนั้นเกิดจากใจ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า หากทำด้วยความเต็มใจผลของบุญก็คือความสุขใจของเรานั่นเองครับ
ที่ได้มีส่วนช่วยเหลือเพื่อนมนุยษ์ที่ยากลำบากกว่าเรา
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 20
555 เป็นปัญหาโลกแตกจริงๆครับปรัชญา เขียน: ผมก็อยากรู้ว่า ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นอะไร
ไปเกิดเป็นคนที่เอธิโอเปีย ไปเกิดที่ยูกันดา ชนกลุ่มน้อยที่ยูเครน หากไปเกิดที่เหล่านี้ไม่ไหวมั้ง
กินอาหารปรุงจากซากไก่ซากหมูจากเนื้อสัตว์หลายๆอย่าง
หากต้องไปเกิดชดใช้กรรม คิดหนักเลยนะนี่
ขอชาตินี้ชาติเดียวก็พอแล้วม้าง ชาติหน้าไม่เอาดีกว่านิ
ผมขอยกบางเรื่องจากพระสูตร หน่อยนะครับ
มีพุทธสาวก ถามพระพุทธเจ้าว่า เกิดเป็นคน บาปบุญไม่สร้าง ใช้ชีวิตไปวันๆ พอใกล้ตายแล้วนึกถึงพระพุทธเจ้า
แล้วได้ไปสวรรค์มีมากไหม พระพุทธองค์ตรัสว่า เปรียบเหมือนคนนอนกองกันบนดิน สูงไปจนถึงปลายฟ้า นับไม่ได้
มีเยอะมาก ทั้งๆที่ตอนอยู่ไม่เคยทำบุญ แต่นึกถึงพระพุทธองค์แค่แว๊บเดียวก่อนตายได้ไปสวรรค์
(แต่เสวยสุขคติแล้ว หมดบุญก็ต้องไปตามทาง)
หลายๆคน อ่านแล้วตาโต อึ้ง งง ปนขำ จะเป็นไปได้ไง แค่นึกถึงก่อนตายก็ได้ไปสวรรค์ หากเรามองดูความเป็นจริง
เวลาเราใกล้ตายหรือเจ็บป่วย เราจะนึกถึงอะไรก่อน? ทำไมถึงปวดอย่างนี้ เงินทองจะแบ่งยังไง ลูกเมียไปไหน ^^"
ซะส่วนใหญ่ล่ะมั้งครับ ที่นึกถึงเรื่องพวกนี้
หลายคนอาจจะรู้แล้วหรือไม่รู้ ว่าศาสนาพุทธใครต้องการจะเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ หลายคนอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่า
สมเด็จพระศรีศากยมุนี ที่เรารู้จักนับถือกันในปัจจุบัน ไม่ใช่พระพุทธเจ้าพระองค์แรก พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่
... ไม่มีใครบอกได้
ศาสนาพุทธเน้นที่เหตุและผล คนเก่งไม่ได้มีคนเดียวในโลก ใครขยันมีความเพียร ก็สำเร็จได้ตามหวัง พระพุทธเจ้าใช้
เวลาบำเพ็ญเพียร คือ เกิดแล้วเกิดอีก ทั้งหมดอย่างต่ำ 4 อสงไขย ( 1 อสงไขยเท่ากับ 10 ยกกำลัง 140 ปี) ลองคิด
ดูว่า นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความเพียร?
อันนี้ยิ่งอึ้งกันไปใหญ่ เพราะปัจจุบันอายุ 80 ปีตายแล้วเราก็ยังไม่รู้ว่าไปไหน
ศาสนานั้นเป็นที่พึ่งทางจิต มุ่งเน้นให้เราตั้งมั่นอยู่ในความดี คือการไม่เบียดเบียน ยิ่งศาสนาพุทธของเรา หัวใจหลัก
ก็คือการไม่กลับมา
หลายๆคนอาจจะรู้แล้วหรือไม่รู้ว่า การทำบุญนั้นมี การให้ทาน รักษาศีล และการทำสมาธิ บุญที่สูงที่สุดก็คือ การทำ
สมาธิ นั่งอยู่ที่บ้าน ภาวนาวันละนิดวันละหน่อย จิตแจ่มใจ ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เพราะจิตจ่ออยู่ที่คำบริกรรม
หากเรานั่งซัก 10 วิ ก็จะรู้ว่าสิ่งที่เราคิดว่าง่ายๆ แท้จริงไม่ได้ง่ายเลย ดั่งที่พระองค์ตรัสว่า ธรรมของตถาคตเป็น ปัจจัตตัง ใครปฏิบัติถึงแล้วย่อมรู้ได้ด้วยตนเอง เฉพาะตนของใครของมัน กรรมใครกรรมมัน ธรรมของใครก็ของผู้นั้น ทำแทนกันไม่ได้
ย้อนกลับมาที่คำถาม อาจจะนอกเรื่องไปเยอะหน่อย 555
ในทางพระศาสนาท่านว่า ผู้ที่ได้ฌาณ ย่อมสามารถท่องไปในภพภูมิต่างๆ ย้อนอดีต ดูอนาคต แต่หัวใจหลักของ
พระศาสนาท่านไม่แนะ เพราะไม่ใช่ทางหลุดพ้น อย่าที่พี่ปรัชญาว่า จะมาเกิดอีกทำไม เพราะพระพุทธองค์ท่านสอน
ไม่ให้มาเกิด
หากรู้เห็นอดีต อนาคตจริง มาเล่าให้คนอื่นฟัง เขาก็หาว่าบ้า ผมเองก็ไม่เชื่อเพราะผมก็ยังไม่เคยเห็น
ถามว่าทุกวันนี้ผมปฏิบัติตามธรรมะของพระพุทธองค์ไหม ก็ต้องตอบว่าทำตาม เพราะผมเองได้ความสุขกาย
สุขใจ ที่เกิดขึ้นกับตนเอง มีเงินมากขึ้นก็ใช้เท่าเดิม เพราะพุงน้อยๆนี้ รับเพิ่มไม่ไหวจริงๆครับ 555
สรุปง่ายๆว่า ใครทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำเถอะครับ ขอเพียงอย่าเบียดเบียนตนเองและคนอื่นก็พอ
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 21
Like จับใจ ครับtum_H เขียน:555 เป็นปัญหาโลกแตกจริงๆครับปรัชญา เขียน: ผมก็อยากรู้ว่า ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นอะไร
ไปเกิดเป็นคนที่เอธิโอเปีย ไปเกิดที่ยูกันดา ชนกลุ่มน้อยที่ยูเครน หากไปเกิดที่เหล่านี้ไม่ไหวมั้ง
กินอาหารปรุงจากซากไก่ซากหมูจากเนื้อสัตว์หลายๆอย่าง
หากต้องไปเกิดชดใช้กรรม คิดหนักเลยนะนี่
ขอชาตินี้ชาติเดียวก็พอแล้วม้าง ชาติหน้าไม่เอาดีกว่านิ
ผมขอยกบางเรื่องจากพระสูตร หน่อยนะครับ
มีพุทธสาวก ถามพระพุทธเจ้าว่า เกิดเป็นคน บาปบุญไม่สร้าง ใช้ชีวิตไปวันๆ พอใกล้ตายแล้วนึกถึงพระพุทธเจ้า
แล้วได้ไปสวรรค์มีมากไหม พระพุทธองค์ตรัสว่า เปรียบเหมือนคนนอนกองกันบนดิน สูงไปจนถึงปลายฟ้า นับไม่ได้
มีเยอะมาก ทั้งๆที่ตอนอยู่ไม่เคยทำบุญ แต่นึกถึงพระพุทธองค์แค่แว๊บเดียวก่อนตายได้ไปสวรรค์
(แต่เสวยสุขคติแล้ว หมดบุญก็ต้องไปตามทาง)
หลายๆคน อ่านแล้วตาโต อึ้ง งง ปนขำ จะเป็นไปได้ไง แค่นึกถึงก่อนตายก็ได้ไปสวรรค์ หากเรามองดูความเป็นจริง
เวลาเราใกล้ตายหรือเจ็บป่วย เราจะนึกถึงอะไรก่อน? ทำไมถึงปวดอย่างนี้ เงินทองจะแบ่งยังไง ลูกเมียไปไหน ^^"
ซะส่วนใหญ่ล่ะมั้งครับ ที่นึกถึงเรื่องพวกนี้
หลายคนอาจจะรู้แล้วหรือไม่รู้ ว่าศาสนาพุทธใครต้องการจะเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ หลายคนอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่า
สมเด็จพระศรีศากยมุนี ที่เรารู้จักนับถือกันในปัจจุบัน ไม่ใช่พระพุทธเจ้าพระองค์แรก พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่
... ไม่มีใครบอกได้
ศาสนาพุทธเน้นที่เหตุและผล คนเก่งไม่ได้มีคนเดียวในโลก ใครขยันมีความเพียร ก็สำเร็จได้ตามหวัง พระพุทธเจ้าใช้
เวลาบำเพ็ญเพียร คือ เกิดแล้วเกิดอีก ทั้งหมดอย่างต่ำ 4 อสงไขย ( 1 อสงไขยเท่ากับ 10 ยกกำลัง 140 ปี) ลองคิด
ดูว่า นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความเพียร?
อันนี้ยิ่งอึ้งกันไปใหญ่ เพราะปัจจุบันอายุ 80 ปีตายแล้วเราก็ยังไม่รู้ว่าไปไหน
ศาสนานั้นเป็นที่พึ่งทางจิต มุ่งเน้นให้เราตั้งมั่นอยู่ในความดี คือการไม่เบียดเบียน ยิ่งศาสนาพุทธของเรา หัวใจหลัก
ก็คือการไม่กลับมา
หลายๆคนอาจจะรู้แล้วหรือไม่รู้ว่า การทำบุญนั้นมี การให้ทาน รักษาศีล และการทำสมาธิ บุญที่สูงที่สุดก็คือ การทำ
สมาธิ นั่งอยู่ที่บ้าน ภาวนาวันละนิดวันละหน่อย จิตแจ่มใจ ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เพราะจิตจ่ออยู่ที่คำบริกรรม
หากเรานั่งซัก 10 วิ ก็จะรู้ว่าสิ่งที่เราคิดว่าง่ายๆ แท้จริงไม่ได้ง่ายเลย ดั่งที่พระองค์ตรัสว่า ธรรมของตถาคตเป็น ปัจจัตตัง ใครปฏิบัติถึงแล้วย่อมรู้ได้ด้วยตนเอง เฉพาะตนของใครของมัน กรรมใครกรรมมัน ธรรมของใครก็ของผู้นั้น ทำแทนกันไม่ได้
ย้อนกลับมาที่คำถาม อาจจะนอกเรื่องไปเยอะหน่อย 555
ในทางพระศาสนาท่านว่า ผู้ที่ได้ฌาณ ย่อมสามารถท่องไปในภพภูมิต่างๆ ย้อนอดีต ดูอนาคต แต่หัวใจหลักของ
พระศาสนาท่านไม่แนะ เพราะไม่ใช่ทางหลุดพ้น อย่าที่พี่ปรัชญาว่า จะมาเกิดอีกทำไม เพราะพระพุทธองค์ท่านสอน
ไม่ให้มาเกิด
หากรู้เห็นอดีต อนาคตจริง มาเล่าให้คนอื่นฟัง เขาก็หาว่าบ้า ผมเองก็ไม่เชื่อเพราะผมก็ยังไม่เคยเห็น
ถามว่าทุกวันนี้ผมปฏิบัติตามธรรมะของพระพุทธองค์ไหม ก็ต้องตอบว่าทำตาม เพราะผมเองได้ความสุขกาย
สุขใจ ที่เกิดขึ้นกับตนเอง มีเงินมากขึ้นก็ใช้เท่าเดิม เพราะพุงน้อยๆนี้ รับเพิ่มไม่ไหวจริงๆครับ 555
สรุปง่ายๆว่า ใครทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำเถอะครับ ขอเพียงอย่าเบียดเบียนตนเองและคนอื่นก็พอ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 22
เหมือนจะพาการลงทุนไปสวรรค์ซะแล้วเนี่ยะ
ดูคำสอน ชาดก ยกมาอ่าน
เป็นนิทาน บัญญัติ จัดดี-ชั่ว
บุญและกรรม ทำอยู่ ให้รู้ตัว
สังวรจิต คิดถ้วนทั่ว ให้กลัวเวร
มีบาป-บุญ หนุนนำ ให้จำจด
อย่าเลี้ยวลด หลบเลี่ยง เพียงเลือกเส้น
ควรคิดดี พูดดี ทำดี มีตามเกณฑ์
ไม่เชื่อก็ อย่าเบน อย่าเอนเอียง
ลงทุนทำ ความดี เป็นที่ตั้ง
ควรระวัง พลั้งพลาด อาจจะเสี่ยง
อย่าประมาท ชีวิต คิดพอเพียง
จงหลีกเลี่ยง อย่ามองข้าม ความมั่นใจ
ปรัชญา /เขียน/10กค2555
ดูคำสอน ชาดก ยกมาอ่าน
เป็นนิทาน บัญญัติ จัดดี-ชั่ว
บุญและกรรม ทำอยู่ ให้รู้ตัว
สังวรจิต คิดถ้วนทั่ว ให้กลัวเวร
มีบาป-บุญ หนุนนำ ให้จำจด
อย่าเลี้ยวลด หลบเลี่ยง เพียงเลือกเส้น
ควรคิดดี พูดดี ทำดี มีตามเกณฑ์
ไม่เชื่อก็ อย่าเบน อย่าเอนเอียง
ลงทุนทำ ความดี เป็นที่ตั้ง
ควรระวัง พลั้งพลาด อาจจะเสี่ยง
อย่าประมาท ชีวิต คิดพอเพียง
จงหลีกเลี่ยง อย่ามองข้าม ความมั่นใจ
ปรัชญา /เขียน/10กค2555
- todsapon
- Verified User
- โพสต์: 1137
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 23
เห็นด้วยครับ แต่ที่คุ้มค่ารองลงมาก็คือลงทุนให้ตนเอง ลงทุนให้ความรู้แก่ตนเอง
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2135
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 24
ในเมื่อ ณ วันนี้ ตอนนี้ เรายังไม่สามารถนึกได้เลยครับ ว่าชาติที่แล้วเราเป็นใคร เป็นอะไร
ดังนั้นถ้าชาติหน้ามีจริง คิดว่าจะจำชาตินี้กันได้รึเปล่าครับ
อยากจะทำอะไรก็รีบทำและรับผลในช่วงชีวิตนี้นี่แหละครับ ไม่ต้องรอ
ดังนั้นถ้าชาติหน้ามีจริง คิดว่าจะจำชาตินี้กันได้รึเปล่าครับ
อยากจะทำอะไรก็รีบทำและรับผลในช่วงชีวิตนี้นี่แหละครับ ไม่ต้องรอ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 144
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 26
คงไม่ใครตอบได้Radio เขียน:คำถามคือชาติหน้ามีจริงหรือ
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 27
เมือถึงเวลาจะรู้ได้ด้วยตนเองteerasak.moo เขียน:คงไม่ใครตอบได้Radio เขียน:คำถามคือชาติหน้ามีจริงหรือ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 28
thaloengsak เขียน:เมือถึงเวลาจะรู้ได้ด้วยตนเองteerasak.moo เขียน:คงไม่ใครตอบได้Radio เขียน:คำถามคือชาติหน้ามีจริงหรือ
ลองฟังเรื่องจริงจากหลวงพ่อจรัญดูนะคับ หลวงพ่อจรัญท่านเป็นพระผู้รู้แจ้งกฎแห่งกรรมมากที่สุดองค์หนึ่งในยุคนี้คับ
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 29
ฉบับเต็มสามารถหาอ่าน&ฟัง ได้จากเรื่อง"ไฟใหน ร้อนเท่าไฟนรก" คับ
http://www.fungdham.com/book/sutassa.html
http://www.fungdham.com/book/sutassa.html
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 795
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ.....
โพสต์ที่ 30
ทำบุญถ้าเพื่อให้ชีวิตดี ก็คำนึง ถึงองค์ประกอบสามอย่างข้างต้น ให้มาก
เป้าหมายการทำบุญ เท่าที่เข้าใจ คือ เพื่อลดอัตตา การยึดติดว่า สิ่งต่างๆ เป็นของเรา เป็นตัวเรา หรือ ให้เข้าถึง สภาวะจิต หนึ่งในกฎไตรลักษณ์ คือ อนัตตา
จริงๆ แล้ว การปฏิบัติธรรม ไม่ว่า ทาน ศีล ภาวนา เน้นตัวเดียว คือ มุ่งให้ สภาวะจิตเป็นอิสระจาก การปรุงแต่ง บีบคั้น ซึ่ง ต้องทำเหตุให้ตรง เดี๋ยวผลมันเกิดเอง เหตุ คือ การที่จิตเข้าถึงธรรม เห็นด้วยจิตเอง(ไม่ใช่นึกคิด) ว่า ทุกอย่าง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือ นิพพาน
เป้าหมายการทำบุญ เท่าที่เข้าใจ คือ เพื่อลดอัตตา การยึดติดว่า สิ่งต่างๆ เป็นของเรา เป็นตัวเรา หรือ ให้เข้าถึง สภาวะจิต หนึ่งในกฎไตรลักษณ์ คือ อนัตตา
จริงๆ แล้ว การปฏิบัติธรรม ไม่ว่า ทาน ศีล ภาวนา เน้นตัวเดียว คือ มุ่งให้ สภาวะจิตเป็นอิสระจาก การปรุงแต่ง บีบคั้น ซึ่ง ต้องทำเหตุให้ตรง เดี๋ยวผลมันเกิดเอง เหตุ คือ การที่จิตเข้าถึงธรรม เห็นด้วยจิตเอง(ไม่ใช่นึกคิด) ว่า ทุกอย่าง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือ นิพพาน
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"