Microsoft มีการเติบโตสูง แต่ทำไมจึงไม่ใช่บริษัทที่วอเรนสนใจ

[redvdox]

ในหนังสือ "ลงทุนอย่าง วอเรน บัฟเฟตต์" มักจะพูดย้ำเสมอๆว่า จงเลือกลงทุนในบริษัทที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน

และในหนังสือก็อ้างมาประโยคนึง "Microsoft มีการเติบโตสูง แต่ไม่ใช่บริษัทที่วอเรนสนใจ" แล้วก็ไม่ได้มีการขยายความต่อ

ผมคิดในใจเล่นๆ "Microsoft มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันไหม ?" คิดว่ามี
"ความได้เปรียบนั้น ยั่งยืนไหม" ยังตอบว่า ยั่งยืน (เพราะMircosoft ใช้กลยุทธ์สกัดดาวรุ่ง คู่แข่งทุกรายที่กำลังเติบโต ฮา....."

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยครับว่า ทำไมวอเรน จึงไม่สนใจ Mircosoft (สมมติว่า วันนี้หุ้นของ Microsoft มีราคาที่ต่ำมากๆ)

และวอเรนมักจะยกตัวอย่างถึงหุ้น Coca-Cola บ่อยมากๆ (อย่างกับหุ้นเทพเจ้า ฮา.....) อยากถามว่าถ้าวอเรนมาเกิดที่ประเทศไทย ยังพอจะหาหุ้นอย่าง Coca-Cola ได้ไหม ?

[CK]

เพราะเขาไม่เข้าใจใน nature ของธุรกิจ และปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลกระทบกับกำไร

[WEB]

Buffett ไม่ลงทุนใน Microsoft เพราะ Buffett บอกว่า เขาไม่รู้ว่า อีก 10-20 ข้างหน้า Microsoft จะเป็นอย่างไร กระทั่งตัว Gates เองก็ยอมรับว่า ทุกๆ 10 ปี มันจะมีวิกฤตเกิดขึ้นกับ Microsoft อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ธุรกิจเทคโนโลยีมันมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมากจนบางครั้งอาจจะทำให้ผู้นำกลายเป็นผู้ตามหรือล้มหายตายจากไปเลย Buffett จะชอบอะไรๆที่มีความแน่นอนและยั่งยืนสูงๆครับ
Buffett ชอบหุ้น Coke มาก เพราะธุรกิจมันมีความแน่นอนสูง มีตราสินค้าที่แข็งแกร่ง และยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ( consumption rate ของประเทศอื่นๆอย่างเช่นจีนยังต่ำกว่าอเมริกามาก ) Buffett ชอบหุ้น Coke มานานและใช้เป็นตัวอย่างในการอธิบาย Durable competitive advantage มานาน แต่เขาก็ไม่ได้ซื้อทันทีแต่รอซื้อในราคาที่เขาคิดว่ามีส่วนลดมากพอ เราคงหาหุ้นอย่าง Coke ในเมืองไทยยากครับ ของเขาโอกาสเติบโตเยอะขายไปทั่วโลก แถมมี Brand อีกต่างหาก Buffett เคยพูดว่า คนยังอุตส่าห์ยอมเสียเงินซื้อเสื้อ Coke มาใส่เดินโฆษณาให้บริษัท

[WEB]

อีกอย่างผมว่า การวิเคราะห์ดูว่า บริษัทหนึ่งๆมี Durable competitive advantage หรือเปล่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เราเคยมีเครื่องคอมพิวเตอร์ IBM กับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ( IBM compatibles ) เราเคยมีเบียร์สิงห์กับเบียร์อื่นๆ เราเคยมีร้านหนังสือดอกหญ้ากับร้านหนังสืออื่นๆ แต่วันนี้ มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว คำว่ายิ่งใหญ่ ของอเมริกาอย่าง Kodak หรือ Kellogg ก็อ่อนแอลงกว่าแต่ก่อนเหมือนกัน

[โอ@]

Microsoft อิงรายได้กับ Window และ Office มากเกินไปครับ กว่า 70 - 80 % ของกำไรได้มาจากตัวนี้

[มือเก่าหัดขับ]

อย่างข้างบนบอกครับ
เข้าใจว่า ป๋าแกไม่เข้าใจในธุรกิจซอฟท์แวร์จริงๆ จังๆ เลยไม่รู้จุดอ่อน จุดแข็ง อนาคต
ของธุรกิจ เลยไม่ต้องการลงทุนครับ

[Stock Broker]

เพราะเขาไม่เข้าใจใน nature ของธุรกิจ และปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลกระทบกับกำไร

ถูกต้องนะคร้าบบบ..

ดร.นิเวศน์ เองก็เหมือนกัน ท่านไม่สนใจธุรกิจที่เป็น cycle ชัดเจนเลย เพราะไม่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้นๆ

เซียนเค้าลงทุนเฉพาะในด้านที่เค้ารู้จริงครับ มีแต่หมู่เฮานี่แหละลงทุนตาม Momentum ราคา ยิ่งร้อนแรงยิ่งช๊อบชอบ