รายงานประจำปี 2004 ของ Berkshire Hathaway
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
รายงานประจำปี 2004 ของ Berkshire Hathaway
โพสต์ที่ 1
เพิ่งออกสดๆร้อนๆเลยครับ อ่านได้ที่ www.berkshirehathaway.com ผมคัดส่วนที่น่าสนใจมาให้อ่านครับ :
ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอเมริกันสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งมันน่าจะทำให้การได้รับผลตอบแทนดี ๆ เป็นเรื่องง่ายสำหรับนักลงทุน สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือ การซื้อบริษัทอเมริกันกระจายไปหลาย ๆ บริษัทหลายๆอุตสาหกรรม โดยที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ ๆ ซึ่งการซื้อกองทุนดัชนีและถือยาวจะช่วยให้บรรลุผลนี้ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ นักลงทุนจำนวนมากได้ผลตอบแทนที่ต่ำหรือเกิดการขาดทุนอย่างมากเสียด้วยซ้ำ
เรื่องนี้เกิดจากสาเหตุหลัก ๆ 3 ประการคือ ข้อแรก นักลงทุนมักจะซื้อ ๆ ขาย ๆ บ่อยครั้งเกินไปซึ่งก่อให้เกิดต้นทุนที่สูง ; ข้อสอง นักลงทุนมักจะซื้อหุ้นที่ได้รับการแนะนำจากคนอื่น หรือซื้อหุ้นที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนั้น แทนที่จะเลือกซื้อหุ้นโดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์ธุรกิจอย่างรอบคอบ ; ข้อสาม นักลงทุนมักจะเข้าออกตลาดผิดเวลา นั่นก็คือ จะซื้อเมื่อราคาหุ้นได้เพิ่มสูงขึ้นไปมากแล้วและจะขายหลังจากที่ราคาหุ้นอยู่นิ่ง ๆ หรือตกลงมาแล้วช่วงหนึ่ง นักลงทุนควรจะจำไว้ว่า ความน่าตื่นเต้นและค่าใช้จ่ายเป็นศัตรูของพวกเขา และหากพวกเขายังอยากจะพยายามเลือกจังหวะการเข้าออกตลาดอยู่ พวกเขาควรจะพยายามกลัวในยามที่คนอื่นโลภ และโลภในยามที่คนอื่นกลัว
ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอเมริกันสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งมันน่าจะทำให้การได้รับผลตอบแทนดี ๆ เป็นเรื่องง่ายสำหรับนักลงทุน สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือ การซื้อบริษัทอเมริกันกระจายไปหลาย ๆ บริษัทหลายๆอุตสาหกรรม โดยที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ ๆ ซึ่งการซื้อกองทุนดัชนีและถือยาวจะช่วยให้บรรลุผลนี้ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ นักลงทุนจำนวนมากได้ผลตอบแทนที่ต่ำหรือเกิดการขาดทุนอย่างมากเสียด้วยซ้ำ
เรื่องนี้เกิดจากสาเหตุหลัก ๆ 3 ประการคือ ข้อแรก นักลงทุนมักจะซื้อ ๆ ขาย ๆ บ่อยครั้งเกินไปซึ่งก่อให้เกิดต้นทุนที่สูง ; ข้อสอง นักลงทุนมักจะซื้อหุ้นที่ได้รับการแนะนำจากคนอื่น หรือซื้อหุ้นที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนั้น แทนที่จะเลือกซื้อหุ้นโดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์ธุรกิจอย่างรอบคอบ ; ข้อสาม นักลงทุนมักจะเข้าออกตลาดผิดเวลา นั่นก็คือ จะซื้อเมื่อราคาหุ้นได้เพิ่มสูงขึ้นไปมากแล้วและจะขายหลังจากที่ราคาหุ้นอยู่นิ่ง ๆ หรือตกลงมาแล้วช่วงหนึ่ง นักลงทุนควรจะจำไว้ว่า ความน่าตื่นเต้นและค่าใช้จ่ายเป็นศัตรูของพวกเขา และหากพวกเขายังอยากจะพยายามเลือกจังหวะการเข้าออกตลาดอยู่ พวกเขาควรจะพยายามกลัวในยามที่คนอื่นโลภ และโลภในยามที่คนอื่นกลัว
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
รายงานประจำปี 2004 ของ Berkshire Hathaway
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณครับ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
รายงานประจำปี 2004 ของ Berkshire Hathaway
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณครับ แปลมาให้อ่านอีกนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
รายงานประจำปี 2004 ของ Berkshire Hathaway
โพสต์ที่ 6
คุณ WEB น่าจะไปขอลิขสิทธิ์ แล้วนำจดหมาย และรายงานผลประกอบการ ทั้งหมด มาแปลเป็นไทยนะครับ
ผมว่าน่าจะขายดี เพราะมีเรื่องน่ารู้หลายเรื่อง และหลายๆคนรวมทั้งตัวผมด้วย ก็ติดปัญหาเรื่องภาษา ปะกิด ครับ
ผมว่าน่าจะขายดี เพราะมีเรื่องน่ารู้หลายเรื่อง และหลายๆคนรวมทั้งตัวผมด้วย ก็ติดปัญหาเรื่องภาษา ปะกิด ครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
รายงานประจำปี 2004 ของ Berkshire Hathaway
โพสต์ที่ 8
อ่านแล้ว มีคำถามครับ ...
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่ายังไงครับ ?
ตอนนี้เราควรกลัว หรือ ควรโลภครับ ?WEB เขียน: ........................ ....................... ................
.............พวกเขาควรจะพยายามกลัวในยามที่คนอื่นโลภ และโลภในยามที่คนอื่นกลัว
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่ายังไงครับ ?
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying