คุณรู้จัก กลุ่มปิโตรเคมี แบบนี้รึป่าว

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

คุณรู้จัก กลุ่มปิโตรเคมี แบบนี้รึป่าว

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ลอกเขามา (ตามฟอร์ม) ครับ

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อ ชาวเราไม่มากก็น้อยนะครับ หากมีข้อความใดล่อแหลมกรุณาตัดทอนด้วยครับ


การแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมปโตรเคมีรายผลิตภัณฑ

1. กลุ่ม Olefin Products
บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยและผลิต Olefins นั้นมีบริษัท TOC และ NPC ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีความ แตกต่างทางด้านขบวนการผลิต โดย TOC ใช Liquid Based โดยใช Light Naphtha เป็นวัตถุดิบ ส่วน NPC จะใช Gas Based โดยใช Gas Ethane เป็นวัตถุดิบ แตป 2005 ทาง TOC จะเริ่มผลิตโดยใช Gas Based เช่นเดียวกับ NPC แตกําลัง การผลิตส่วนนี้จะน้อยกว่า NPC การที่ Olefin Products มีราคาขึ้น-ลงตามราคาของ Naphtha และความต้องการใชซึ่ง Olefins Products สามารถดัดแปลงใชไดหลายผลิตภัณฑจึงมีราคาสูง NPC มีการขยายกําลังการผลิตสูปลายน้ำคือ HDPE ซึ่งจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชยใน 3Q04 การที่ NPC เริ่มผลิต HDPE ในภาวะเช่นนี้ถือไดว่าผิดช่วงเวลา เนื่องเพราะราคาของ HDPE เทียบกับ Ethylene นั้นมี Spread Margin ที่ต่ําซึ่ง จะส่งผลใหทาง NPC รับรูขาดทุนจาก HDPE มาก-น้อย ตามกําลังการผลิตที่ใช
TOC จะเพิ่มกําลังการผลิตส่วน Gas Based ใน 1Q05 ซึ่งจะทําให TOC มีกําลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 80%และ TOC ยังจะทําการขยายคอขวดอีกใน 3Q06 อีกทั้งยังมีการขยายกําลังการผลิตสูปลายน้ำคือ MEG และCumene/Phenol ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าใหแกผลิตภัณฑของ TOC

2. กลุ่ม Aromatics Products
ในตลาดหลักทรัพยมีเพียงบริษัท ATC เท่านั้นที่ผลิตสาร Aromatics นอกจากนี้สาร Aromatics เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑบริษัทเช่น TPI กําลังการผลิตของ ATC นั้นสูงสุดและอยูในระดับ World Scale อีกทั้ง ATC ยังมีนโยบายที่จะขยายการผลิตสูโรงงานที่ 2 เพื่อรองรับความต้องการใชในอนาคต

3. กลุ่ม PVC Products
มีเพียงบริษัท VNT และ TPC ที่ผลิตแตมีความแตกต่างกันเล็กน้อยคือ TPC มีการขยายธุรกิจสูปลายน้ำคือ ผลิตภัณฑพีวีซี แต VNT มีการผลิต EDC ไดเองขณะที่ TPC ทําไดเล็กน้อยจําเป็นต้องนําเข้าเพื่อผลิต VCM อีกทั้ง VNT จะมีการทําการขยายคอขวดซึ่งจะได PVC Resin เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปหน้า

ขีดความสามารถในการทํากําไรของกลุ่มบริษัทปิโตรเคมี
1. ราคาวัตถุดิบ: การที่ราคาวัตถุดิบ (Crude Oil,Naphtha) ของผลิตภัณฑปิโตรเคมีสามารถขยับขึ้น-ลงไดนั้นจะเกิดจากการที่ความต้องการใชมีมากขึ้น โดยการเคลื่อนไหวของราคาจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ํามันดิบในตลาดโลก และราคาแนฟทา

2. มูลค่าการแปรรูปผลิตภัณฑ: การที่ผลิตภัณฑปิโตรเคมีเปลี่ยนสายการผลิตนั้นจะต้องมีมูลค่าของการแปรรูปซึ่งการที่มูลค่าจะมาก-น้อยนั้นขึ้นอยูกับความยาก-ง่ายของสายการผลิต

3. ราคาผลิตภัณฑ: ราคาผลิตภัณฑปิโตรเคมีนั้นขึ้นอยูกับความต้องการใช และความสามารถในการแปรรูปของผลิตภัณฑว่ามีความหลากหลายมาก-น้อยอย่างไร อีกทั้งการที่อุปทานในตลาดขาดช่วงไปจากการหยุดการผลิตชั่วคราว

4. กําลังการผลิต: การที่จะเกิดโรงงานแห่งใหมของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีนั้นจะต้องใชเวลาประมาณ 2-3 ป และใชงบประมาณการก่อสร้างที่สูง ซึ่งทางโรงงานจะต้องมีการวางแผนการผลิตที่ดีถ้าหากเกิดความคลาดเคลื่อนอาจทําใหอยูในช่วงขาลงของภาวะอุตสาหกรรมไดซึ่งจะส่งผลใหมีกําไรขั้นต้นที่ต่ําหรืออาจขาดทุนไดในบางสายการผลิต ซึ่งในประเทศไทยมีการเพิ่มกําลังการผลิตทั้งการขยายคอขวด และการสร้างโรงงานใหมในช่วงที่ผานมาพอสมควรแล้ว ซึ่งประจวบเหมาะกับภาวะขาขึ้นของอุตสาหกรรมพอดี ซึ่งถ้าโรงงานแห่งใดมีกําลังการผลิตในระดับWorld Scale จะช่วยใหเกิดผลกระทบน้อยกว่าโรงงานที่กําลังการผลิตต่ำ

5. ความต้องการใช: ความต้องการใชผลิตภัณฑเคมีจะขึ้นอยูกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศนั้น และของเศรษฐกิจโลก โดยมาตรฐานทั่วไปจะใช World GDP เป็นตัววัดถึงความต้องการโดยใชค่าประมาณ 1.5-2.0 เท่าของ World GDP


โอกาสและความสามารถในการทํากําไร

ในป 2004 ถือไดว่าเป็นปของ Aromatics และ Olefins อย่างแทจริง เนื่องจากราคาของผลิตภัณฑที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก แตในขณะเดียวกันกลับไมค่อยเป็นผลดีมากนักต่อกลุ่มผูผลิต PVC เนื่องจากจะต้องใชสาร Aromatics เป็นวัตถุดิบอีกทั้งราคาของ PVC ก็ยังขยับขึ้นไมสูงมากนักATC ดูเหมือนว่าจะไดรับประโยชนสูงสุดในป 2004 เนื่องจากการเพิ่มกําลังการผลิตที่แล้วเสร็จลงใน 1Q04อีกทั้งราคาของ Aromatics ก็สูงขึ้นอย่างชัดเจน

TOC และ NPC ไดรับประโยชนจากราคาผลิตภัณฑที่สูงขึ้นเช่นกันแตน้อยกว่ากลุ่ม Aromatics เนื่องจากความหลากหลายในการแปรรูปผลิตภัณฑไดน้อยกว่า และความจําเป็นใชน้อยกว่า

TPC และ VNT มีการผลิตพีวีซีแตเนื่องจากปนี้ราคาของพีวีซีไมสูงมากนักจึงทําให TPC และ VNT น่าจะแสดงผลกําไรในปนี้โดดเด่นไมเท่ากับกลุ่ม Aromatics และ Olefins

ความต้องการใชผลิตภัณฑยังคงระดับสูง
ผลิตภัณฑของ ATC ดูเหมือนว่าจะมีความต้องการใชสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีด้วยกัน เนื่องจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑที่หลากหลาย เช่น ความต้องการใชในจีนที่คงระดับสูง และการที่สหรัฐอเมริกาประกาศใชมาตรการยกเลิกการใชสาร MTBE และประกาศควบคุมสารซัลเฟอร เมื่อวันที่ 1 ม.ค.47 ซึ่งทําใหมีความจําเป็นต้องใชสาร Aromatics เข้าไปผสมด้วยเพื่อลดปริมาณซัลเฟอร และการขยายตัวของกลุ่มผูผลิต PTA ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น

ผลิตภัณฑของ TOC และ NPC การที่ราคาของ Ethylene คงในระดับสูง เนื่องจากถูกผลักดันจากราคาของ MEG สวนหนึ่งและความสามารถของผลิตภัณฑที่จะแปรรูปเป็นผลิตภัณฑอื่นได ซึ่งทั้ง TOC และ NPC มีแผนที่จะขยายกําลังการผลิตสูปลายน้ำเพื่อเพิ่มมูลค่าใหแกผลิตภัณฑ กล่าวคือ NPC จะขยายสู HDPE 250,000 ตันต่อป ในขณะที่ TOC จะขยายสู MEG ซึ่งจากการเปรียบเทียบราคาของผลิตภัณฑจะพบว่า HDPE ยังมีราคาไมสูงมากนักจึงจะส่งผลให NPC รับรูขาดทุนจากการผลิต HDPE ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดการณว่าทาง NPC ไมน่าจะผลิต HDPE ด้วยกําลังการผลิตที่สูงมากนัก เนื่องจากราคาผลิตภัณฑไมค่อยดีนัก แตก็พร้อมที่จะเพิ่มกําลังการผลิตในทันทีที่ราคาของ HDPE ขยับสูงขึ้น สําหรับ TOC นั้นจะสามารถผลิต MEG เชิงพาณิชยไดประมาณ 2Q06 ซึ่งโดยภาวะปกติราคาของ MEG จะสูงกว่า Ethylene ประมาณ 10-20% ซึ่งจะส่งผลดีต่อ TOC ในระยะยาว

ผลิตภัณฑ PVC นั้นราคา ณ.ป่จจุบันอาจจะดูไมค้อยดีนัก เมื่อทําการเปรียบเทียบกับราคาของ Ethylene ซึ่ง เป็นวัตถุดิบที่ใช แต Conversion ratio นั้นใชเพียง 50% ซึ่งเมื่อทําการเปรียบเทียบราคาแล้วทางกลุ่มของ PVC ก็ยังมีกําไรจากการที่ราคา Ethylene ที่สูงขึ้น

ปัจจัยความเสี่ยง
ผลิตภัณฑปิโตรเคมีทุกชนิดมีธรรมชาติของความผันผวนด้านราคา นอกจากนั้นแต่ละบริษัทก็ยังมีความเสี่ยงเฉพาะตัว คือ
ATC การแปลงสภาพของหุ้นที่เสนอขายใหแกกรรมการหรือพนักงานจะทําใหเกิด Dilution Effect เล็กน้อยต่อราคาหุ้น
TOC ความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ
NPC ถาหากบริษัทเพิ่มกําลังการผลิตในส่วน HDPE ช่วงเวลานี้
VNT ความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ
TPC ความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ และการลงทุนในต่างประเทศ
แก้ไขล่าสุดโดย tom เมื่อ อาทิตย์ ก.พ. 27, 2005 8:44 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ont
Verified User
โพสต์: 88
ผู้ติดตาม: 0

คุณรู้จัก กลุ่มปิโตรเคมี แบบนี้รึป่าว

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะทีเดียว :D
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

คุณรู้จัก กลุ่มปิโตรเคมี แบบนี้รึป่าว

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ

แต่ไม่มี WG นะครับ

WG ปัจจัยความเสี่ยง ตอนนี้ไม่มี :lol: :lol:
รออ่านใน 56-1 ดีกว่า
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

คุณรู้จัก กลุ่มปิโตรเคมี แบบนี้รึป่าว

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เยี่ยมครับ

รู้สึก สูตรราคาขาย olefins ของ NPC กับ TOC คิดไม่เหมือนกัน ใช่ไหมครับ
ใครมีรายละเอียดบ้าง
แล้วถ้า 2 บริษัทนี้เค้ารวมกัน (ตามข่าวที่เค้าศึกษาความเป็นไปได้อยู่) จะเป็นยังไง
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

คุณรู้จัก กลุ่มปิโตรเคมี แบบนี้รึป่าว

โพสต์ที่ 5

โพสต์

wg หาบทวิเคราะห์ยากมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

คุณรู้จัก กลุ่มปิโตรเคมี แบบนี้รึป่าว

โพสต์ที่ 6

โพสต์

tom เขียน:wg หาบทวิเคราะห์ยากมากครับ
เป็นธุรกิจ ซื้อมาบวก แล้วขายต่อ

เป็นอาชีพพ่อค้าคนกลาง
ว่ากันแบบนี้คุณฉัตรชัย จะว่าอะไรหรือเปล่า
อันนี้ไม่ใช่บทวิเคราะห์เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัวครับ
แลมีทรัพย์สินให้เช่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

คุณรู้จัก กลุ่มปิโตรเคมี แบบนี้รึป่าว

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ปรัชญา เขียน: เป็นธุรกิจ ซื้อมาบวก แล้วขายต่อ

เป็นอาชีพพ่อค้าคนกลาง
ว่ากันแบบนี้คุณฉัตรชัย จะว่าอะไรหรือเปล่า
อันนี้ไม่ใช่บทวิเคราะห์เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัวครับ
แลมีทรัพย์สินให้เช่า
เท่าที่รู้มาก็แบบนี้แหละครับ
Expecto Patronum!!!!!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
tom
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

คุณรู้จัก กลุ่มปิโตรเคมี แบบนี้รึป่าว

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมไปค้น ๆ ของ wg ดู ได้ข้อมูลแบบนี้นะครับ

ลึกๆ คงต้องถามที่ พี่ฉัตรชัย ละครับ

บริษัท ไว้ท์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ การนำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมสำหรับการใช้เฉพาะอย่าง รวมทั้งให้บริการในการผลิตและผสมสารเคมี และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์

เป้าหมายการดำเนินธุรกิจ

เป้าหมายการดำเนินธุรกิจสำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม คือการขยายธุรกิจในตลาดเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมเคลือบผิว เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี เคมีวิเคราะห์และอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ และเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหาร ตามอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ โดยการรักษาส่วนแบ่งตลาดในแต่ละอุตสาหกรรมไว้ให้ได้
ในส่วนของธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ มีเป้าหมายจะเพิ่มผู้เช่ารายใหม่ เมื่อเศรษฐกิจมีการขยายตัวดีขึ้น อีกทั้งธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก ซึ่งดำเนินการโดย บริษัทร่วมคือ บริษัท แอมคอร์ คอนเทนเนอร์ส แพคเกจจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งขณะนี้ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาดบรรจุภัณฑ์ ของโลกก็มุ่งเน้นการขยายตลาดไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค
ความเสี่ยง
ความเสี่ยงด้านการให้สินเชื่อ
ฐานลูกค้าของบริษัทฯ สำหรับธุรกิจหลักคือ การจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม มีการกระจายเป็น อย่างมาก เนื่องจากลูกค้ามีจำนวนมากราย และครอบคลุมทั้งผู้ผลิตในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และผู้จำหน่ายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ฝ่ายบริหารเชื่อว่าความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อเป็นระดับความเสี่ยงที่สามารถรองรับได้ เนื่องจากมีการสำรองเผื่อขาดทุนจาการเรียกเก็บหนี้ไว้แล้ว

ความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยน
เนื่องจากบริษัทฯ มีการนำเข้าเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมจากต่างประเทศมากกว่าร้อยละ 80 ของสินค้าที่จำหน่าย จึงต้องชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ บริษัทฯ จึงใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตที่หนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศจะต้องจ่ายชำระตามอัตราที่กำหนดโดยธนาคารของบริษัท ฯ ในปี พ.ศ. 2546 ที่ผ่านมาการใช้เครื่องมือทางการเงินนี้ยังคงได้ผลดี เนื่องจากทำให้บริษัท ฯมีกำไรจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ 0.04 ล้านบาท

ความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ
แม้บริษัทฯ จะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้แก่เจ้าของผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศเป็นจำนวนมากและเป็นเวลานาน บริษัทฯ ก็ยังมีความเสี่ยงจากการที่เจ้าของผลิตภัณฑ์รายใดรายหนึ่งอาจบอกเลิกการให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายได้ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มั่นใจว่าผลงานของบริษัทฯ จะเป็นปัจจัยหลักในการรักษาความสัมพันธ์กับเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้ และในรอบปี 2546 ที่ผ่านมาไม่ปรากฏว่ามีเจ้าของผลิตภัณฑ์รายใดบอกเลิกการให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่อย่างใด

ความเสี่ยงจากภาระค้ำประกัน
บริษัท ฯ ได้ค้ำประกันบริษัท ฯ ย่อย ในการขอวงเงินสินเชื่อเบิกเกินบัญชีธนาคารกับธนาคาร 2 แห่ง รวมจำนวน 2.5 ล้านบาท ฉะนั้นจึงมีความเสี่ยงจากการที่อาจถูกฟ้องร้องในฐานะผู้ค้ำประกันตามจำนวนมูลหนี้ ซึ่งสูงสุดไม่เกิน 2.5 ล้านบาท
ล็อคหัวข้อ