88

[LOSO]

55

[LOSO]

เปิดประเด็นไว้ ให้พวกเรามาคุยกันน่ะครับ .............

เดี๋ยวคุณคัดท้ายแกจะบ่นอีก ว่าพวกเราไม่ค่อยคุยกัน .............

เห็นคุณมนบอกว่าพวกเราเงียบๆกันไปน่ะ ......

[คัดท้าย]

อ้าวท้าน LOSO แนะนำซัก 1 ตัวหน่อยครับ กลตไม่ว่าหรอก เพราะเราอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลนี่นา ถ้าให้ดี ใส่ URL Link ด้วย จะได้รู้ว่าเราไม่ได้ดำน้ำขึ้นมานะท่าน อิอิ

[jaychou]

มีแต่คนบอกว่า สิ่งทอกับอิเล็กจะแพ้จีน เพราะจีนค่าแรงถูก

ไม่รู้จริงหรือเปล่า

[LOSO]

ผมว่าสินค้าหลายๆอย่าง คนซื้อไม่ได้ดูที่ราคาอย่างเดียว .............

โรงงานอีเล็คทรอนิคส์ในไทยบางโรงานอยู่ในระดับ State of Art ได้เลยครับ .........

ถ้าดูแต่ราคาอย่างเดียว .........

SONY INTEL คงหันไปจีนหมดแล้วครับ ..........

[โป้ง]

แต่อุปกรณ์อิเล็กโทรนิค อย่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ brand ดังๆเลย made in china เพียบแล้วครับ

แม้แต่หลายเดือนก่อนผมซื้อ TV สี philips made in china ครับ คงแข่งกับจีนลำบาก

[LOSO]

ถ้ากลัวเรื่องจีนมาก .............

ถามว่า นักลงทุนหลายๆคน................

กล้ายังไงถึงได้ซื้อ METCO ..........................



ตอนปี 2001 ความกลัวเรื่องการแข่งขันเรื่องราคาจีนมีแล้ว .........

22มีนาคม 2001 METCOปิดที่ 48.25 บาท

ล่าสุดปี 2005 ความกลัวเรื่่องการแข่งขันเรื่องราคาจากจีนก็ยังมี ..........

3กุมภาพันธ์ 2005 METCO ปิดที่ 314 บาท


ผมว่าเราดูภาพรวมอุตสาหกรรมได้

แต่คงต้องfocusเป็นรายบริษัท ไม่ใช่เหมาหมดว่ามันเลวร้าย

ผมชอบบริษัทที่เยี่ยมในอุตสาหกรรมที่แย่(หรือดูเหมือนจะแย่)ครับ


METCO นี่ผมแค่ยกตัวอย่างนะครับ !!!

[Jeng]

เอ แล้ว hana ทำไมมันวิ่งกระฉูดขนาดนั้น ครับท่าน

[LOSO]

ผมถึงได้ถามความคิดพวกเราไงครับ พี่เจ๋ง .........

ว่าคิดยังไงกับอุตสาหกรรมด้านนี้ .........

ใครมีความรู้ก็เอามา แชร์กัน ..............



หรือว่า มีคนรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ครับ พี่เจ๋ง ............

[buglife]

สงสัยยอดส่งออกสินค้าอิเล็ค
ยังไม่ตกมังครับ
เห็นแว๊บๆ ในเว็บกระทรวงพาณิชย์

[jaychou]

จริงครับหลายโรงงานเป็น state of the art อยู่ในตลาดหุ้นไทยก็มีครับ

เป็นที่รู้กันว่าชอบของนอก บริษัทไทยๆ สั่งไม่รับ อ้างว่าออร์เดอร์น้อยทำไปไม่คุ้ม

จนต้องแห่ไปจ้างแถวสิงคโปร์ มาเลเซีย ช่วยทำให้หน่อย

เอากะเค้าสิ..

[โป้ง]

ปี 2001 (2544) ตอนนั้นสินค้า elec. จากจีนไม่โดดเด่นครับ สินค้าหลายๆตัวยังหละหลวมอยู่มาก ความน่าเชื่อถือยังไม่โดดเด่นเหมือนตอนนี้

แต่เดี่ยวนี้ made in china เทียบชั้น taiwan ได้เลยนะ อุปกรณ์ elec. ส่วนใหญ่ market cap. จะอยู่ในชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ลองดูซิครับ made in อะไร (หรือลองไปเดินแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าดูครับ made in อะไรเยอะที่สุด ในเวลานี้ ที่เราขาดดุลการค้ากับจีนก็มาจาก elec.เนี่ยแหละครับ)

แม้แต่ชิ้นส่วน state of the art ก็เริ่มมีการวางรายการผลิตเพิ่มขึ้นในจีน การพัฒนาด้านเทคโนโลยีและฝีมือก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าให้บอกก็ต้องบอกว่า ถนนอุตสาหกรรมสายนี้ ผู้ผลิตวิ่งตรงไปเปิดโรงงานที่จีนหมด ลองคิดดู ให้คุณเลือกลงทุนเปิดโรงงานคุณจะเปิดที่ไหน

แล้วแบบนี้ อนาคตเราจะไปสู้เรื่องต้นทุนเขาได้ยังไง

[CK]

ประเด็นเรื่องสถานที่ตั้งการผลิตหรือรับจ้างผลิตน่าจะมี 5 ประเด็นหลักๆ

1. ต้นทุนแรงงาน
2. เทคโนโลยีการผลิต
3. วัตถุดิบ
4. ฝีมือแรงงาน
5. การส่งเสริมจากรัฐบาล (เช่นสิทธิทางภาษี ฯลฯ)


1. ต้นทุนแรงงานเราแพ้จีนกับเวียดนามหายห่วงครับ ของเราขึ้นเรื่อยๆ
ของเขาค่อนข้างจะคงที่มาหลายปีแล้ว ถูกกว่าด้วย

2. เทคโนโลยีเราเหนือล้ำกว่าครับ ทั้งในอุตสาหกรรมสิ่งทอและ
อิเล็กโทรนิกส์ (บางด้าน)

3. วัตถุดิบ ดูเหมือนจีนจะได้เปรียบนิดหน่อยแฮะ :lol: แต่โดยรวม
ถือว่าไทยยังมีแหล่งวัตถุดิบที่เพียบพร้อมกว่าในหลายๆ ด้าน ผมว่า
แต่ในอนาคต จีนน่าจะแซงได้

4. ฝีมือแรงงาน อันนี้ไทยยังเหนือกว่าจีนอินเดียเวียดนามพอควร
(เพื่อนว่ามา) แต่ในอนาคตสิบปีก็ไม่แน่ แต่ถึงตอนนั้นค่าแรงจะแพง
ขึ้นด้วยหรือเปล่า

5. การส่งเสริมจากภาครัฐ ถ้าในอุตสาหกรรมอี พรบ.ลดภาษีวัตถุดิบ
จาก xx% เหลือ 5% และจาก 5% เหลือ 0% เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว

ต้องดูผลการดำเนินงานของ METCO ครับ ถ้า yield ดีขึ้น ต้นทุนลด
ในไตรมาสหนึ่ง (เดือนต.ค.-ธ.ค. ปีที่แล้ว) ออกมาดีขึ้นมาก แปลว่า
มาตรการของรัฐได้ผลค่อนข้างดี คงจะประกาศต้นเดือนก.พ.
แล้วครับ

พูดถึงภาครัฐ ผมว่าประเด็นสำคัญที่ต่างชาติคิดแล้วคิดอีกในการ
ลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่งคือ หลังจากกำไรแล้ว เอาเงินออก
ง่ายแค่ไหนครับ

จีนกับเวียดนามมีประวัติไม่ค่อยดีในเรื่องนี้ เพราะหลายบริษัทในอดีต
ที่ไปติดกับดักในจีน กำไรเยอะแยะ แต่เอาเงินออกไม่ได้ ถูกรัฐบีบให้
ต้องลงทุนต่อไปเรื่อยๆ แล้วเขาจะทำกำไรได้ไงครับ (ในบริษัทแม่)

ส่วนของไทยค่อนข้างแฟร์ครับ อย่างมากก็โดนรายย่อยด่าว่า
รบ.ปล่อยให้พวกต่างชาติมากอบโกยจากประเทศเรา

[NDD]

ผมว่าขึ้นกับการปรับตัวของบริษัทที่หนีไม่พ้นในเรื่องเหล่านี้
1. cost
2. Product Diff (ในความรับรู้ของลูกค้า)
3. ตลาดเฉพาะ
4. New product, เทคโนโลยี

ความจริงถ้าจะรวบรัดก็เหลือแค่ cost กับ diff อย่างตัวอย่างที่ยกมากรณีเม็ดโก้ จากการติดตาม และการประชุมผู้ถือหุ้นผมว่า เขาปรับตัวต่อเนื่องทั้งด้าน cost และ product diff

[LOSO]

พอดีได้อ่านบทความนี้ ได้ideaดีเหมือนกันครับ ................


28 Jan 2005

The Electronics Cycle & The Tech Sector
Electronics Cycle
GROWTH TO ACCELERATE AGAIN
In 2ND HALF OF 2005

[LOSO]

In the last 6 months, there have been fears that the electronics sector, which is known to be cyclical, will start to show a slowdown. In fact, many investors have actually assumed that there will be a slump in the sector this year, after 2 years of robust growth.

The chart below shows the global semiconductor sales as well as the year-on-year growth rates. In recent months, while sales have continued to grow sequentially, the pace of growth has moderated. In addition, the year-on-year growth rates have decelerated, to 18% in November 2004. The trend of a decelerating growth rate has caused much concern among many investors.

[LOSO]

Will there really be a slump this year as feared by many investors? To answer this question, we start by taking a closer look at what generally causes significant fluctuations in the growth rates of the electronics sector.

The chart below shows a simplified diagram of the relationship between actual production levels in the electronics sector, and the end user demand. The actual production level is the number that investors normally hear about, as there are monthly releases of this data. For instance, in Singapore, there is an industrial production index for the manufacturing sector that is released monthly, which includes a sub-index for the electronics sector.

The end user demand is the actual volume of electronic goods that are actually purchased by retail consumers or companies. Key electronic goods include computers (desktop PCs, notebooks, servers, etc), mobile phones, networking and communication products, consumer electronics, etc. All of these electronic goods require semiconductors, which is why the semiconductor business is such a big industry globally.

[LOSO]

In practice, overall aggregate end user demand for electronic goods does not fluctuate wildly. That is because the overall demand for electronic goods is generally increasing each year. Each year there is generally more demand for computers, mobile phones, networking and communication products, etc.

It takes a major economic event to cause end user demand to shrink in any given year. The last time that happened was in 2001/2002, when the world saw the after-effects of the technology bubble of the late '90s and 2000 (many companies overspent on computer equipment, and when the bubble burst, many internet companies went bankrupt). In the last 25 years, there were probably only 3-4 years when end user demand for electronics products actually shrank compared to the previous year.

On the other hand, the production levels of electronic products fluctuate a lot more, as shown in the chart above. That is because the production trend is complicated by inventory adjustments that happen from time to time. From time to time, manufacturers find that they have been producing more than the actual end user demand. When that happens, they take steps to bring down the inventory levels by cutting back on production. Therefore, the cutback in production happens even if the end user demand continues to grow.

We believe that is what happened in the last 6 months. In the middle of 2004, many manufacturers suddenly found that they had accumulated quite a high level of inventory. Following the boom-and-bust experience of the last 7 years, manufacturers naturally tend to become cautious more easily, and they started to ease off on the production levels. That caused the growth rate in the electronics sector to decelerate. The trend of decelerating growth rate will probably continue for a few more months.

In the meantime, however, end user demand has been very healthy. The chart below shows the trend of US new orders for computers and electronics products (quarterly data; latest data is for Sep-Nov 2004). Following a slump in 2001/2002, end user demand has been recovering after consumers continue to purchase various kinds of electronics products and companies started to spend more as they have been seeing increasing profits.

[LOSO]

Despite growing end user demand for electronics products (particularly in Asia), there has been a substantial degree of pessimism towards the outlook for 2005. We attribute that to the inventory adjustment that has been happening in the last two quarters. Many investors assume that the decelerating trend will continue through 2005 or get worse.

However, if end user demand remains strong, it is simply of matter of time before production levels will have to be ramped up again. One of the first indications of that came from Intel, the world's biggest semiconductor company. Recently Intel reported record sales for 4Q 2004 (not surprising given that global PC shipments grew 14.7% to 177.5 million units in 2004). At the same time, the company indicated that their inventory level is currently 'slightly below optimal levels'.

We expect that the current trend of decelerating y-o-y growth rates for the semiconductor industry may continue through 1Q/2Q 2005. However, the second half of 2005 will likely see growth rates picking up again. Production has to be ramped up to catch up with the continuing growth in end user demand. End user demand will be particularly strong in Asia, where the market for computers, mobile phones, etc are far from mature.

[LOSO]

WHAT HAVE THE SHARE PRICES FACTORED IN?

Technology stocks have generally underperformed in 2004, especially in Asia in second half 2004. That was because many investors have assumed that there will be a slump in the technology sector in 2005. We believe the slump will not materialize, though there is a deceleration in the growth rates. Following the underperformance of the last 6 months, valuations have become very attractive in many cases.

Assuming the scenario in the technology sector plays out as we anticipate, Asian technology stocks will be the key beneficiaries as the year progresses. The more technology-related markets such as Taiwan and South Korea will also benefit. Many of the technology stocks in the Singapore market will benefit too.

It is likely that the overall Asian economies and markets will be given an additional boost, given that electronics exports are very substantial components of Asia's overall exports. With that, we believe that 2005 will turned out to be a good year for Asian markets.

[jaychou]

ขอบคุณคับพี่โลโซ ข้อมูลเด็ดดวงมากเลยคับ

เลือกหุ้นกันดีๆนะจ้ะ กลุ่มนี้มีพวกไร้อนาคตแฝงอยู่ไม่น้อย

หากเน้น P/E P/BV ต่ำๆ ปันผลดีๆ .... อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ท่านต้องการ

[LOSO]

ใช่ครับ น้องนักดูดาว .............

ต้องเลือก ต้องเลือก อย่าเหมาโหล .............