ผมคิดว่าเศรษฐกิจ ของเรา จะมีการหมุนเวียนดีขึ้น หลัง ทสูนามิ

[ครรชิต ไพศาล]

เนื่องจากจะมีการก่อสร้างมากขึ้น การจ้างงานก่อสร้างจะมากขึ้น
เงินจะหมุนเวียนใน 6 จังหวัด ที่โดนคลื่น มากขึ้น
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลับมาในไม่ช้า

อุตสาหกรรมการผลิต ของเราไม่ได้ เสียหาย ยังเป็นไปตามปกติ

[ต.หยวนเปียว]

เห็นด้วยครับพี่ครรชิต
ถ้าโดนภัยก่อการร้ายอย่างที่บาหลี
อันนั้นการท่องเที่ยวเดี้ยงยาวกว่ามาก

[CK]

เห็นด้วยครับ

ผมคิดว่ากระทบ GDP ในภาพรวมน้อย

แต่กระทบความรู้สึกมาก เพราะเราไม่เคยเจออะไรแบบนี้

มองในแง่ดี เหตุการณ์ครั้งนี้คงจะทำให้คนไทยรักกันมากขึ้น
ช่วยเหลือกันมากขึ้น

และมีวิริยะอุตสาหะที่จะเอาชนะธรรมชาติมากขึ้น

[ครรชิต ไพศาล]

ผมมาลองคิดดู
เงินออมของคน แทนที่จะถูกเก็บไว้เฉยๆ ไม่กระจายไปสู่ประชาชนรากหญ้า
จะถูกนำออกมาใช้จ่าย อีกมาก หลังจากเหตุการณ์ ครั้งนี้

เหมือนของผมเอง ได้ปันผลมา ผมก็เก็บสะสมลูกเดียวไม่ค่อยจ่ายเงิน
เก็บลูกเดียว เพราะขี้เหนียว :lol: :lol:

แต่พอเกิดเหตุ ทสูนามิขึ้น
เราก็ช่วยกันนำเงินออมไปบริจาคโดยไม่คิดเสียดาย
บริษัทประกันภัยก็จ่ายเงิน จากเงินออมของบริษัทออกมาจ่าย
รัฐบาลก็ทุ่มงบประมาณมาสร้างสาธารณูปโภคมากขึ้น

ก็เป็นการนำเงินออมของเราทั้งประเทศ ไปจ้างงาน ให้ประชาชนรากหญ้า
นำไปใช้จ่าย หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ มากขึ้น

[harry]

มีสิ่งที่ดีมากมาย แต่ก็มักจะมีเรื่องแย่ๆ แจมมาด้วยเสมอ

[Dech]

เห็นด้วยครับ

ปีนี้จะมีเงินมาหมุนเวียนมากขึ้น ทั้งประเทศละครับ

ทั้งจากระบบโดยปกติ งบประมาณของรัฐ ของบริษัทต่างๆ
ธุรกิจต่างๆ

แล้วก็มาจากเงินช่วยเหลือจากผลของ Tsunami ด้วย
แล้วก็มาจากการเลือกตั้งอีกมากมาย ทั้งบนดิน ใต้ดิน

[M149]

ผมอาจจะคิดแตกต่างอยู่ซักหน่อยนะครับ ผมว่ายังไงก็คงกระทบGDPแน่ๆ แต่อาจจะไม่รุนแรงมาก ชึ่งถึงแม้ว่าจะมีโครงการก่อสร้างใหม่ๆเกิดขึ้นใน 6 จังหวัดภาคใต้ แต่การลงทุนในรอบนี้เป็นการลงทุนเพื่อชดเชยcapacityเดิมหรือพูดง่ายๆก็คือเป็นการซ่อมแซมเพื่อให้ได้กำลังการผลิตเดิมไม่ใช่การลงทุนเพื่อให้เกิดการผลิตใหม่ ปัจจัยที่สองการเกิดคลื่นTsunamiส่งผลให้การบริโภคใน6จังหวัดนั้นลดลงเนื่องจากความมั่นใจในการบริโภคหดหายไป ปัจจัยถัดมาก็คือแม้จะมีเงินอัดฉีดจากภาครัฐเข้าไปซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจใน6จังหวัดนั้นแต่ถ้าเรามองทั้งประเทศแน่นอนทำให้งบประมาณที่จะลงไปในส่วนอื่นๆลดลงหรือจะพูดง่ายๆก็คือสูญเสียopportunity costนั่นเอง และปัจจัยสุดท้ายความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้การส่งออก(ภาคการท่องเที่ยว)ของประเทศลดลงซึ่งเป็นปัจจัยโดยตรงที่ส่งผลกระทบต่อGDP นอกจากปัจจัยต่างๆอันเนื่องมาจากTsunamiแล้วยังมีปัจจัยเรื่องของ อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ราคาน้ำมันที่แม้นิ่งอยู่แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นได้และรวมถึงการปล่อยราคาน้ำมันดีเซลลอยตัว อีกทั้งการอ่อนค่าลงของเงินสกุลUS$(แต่ในข้อนี้ยังดีที่เงินบาทแข็งค่าในอัตราที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค) จากปัจจัยทั้งหมดผมเชื่อว่าเศรษฐกิจเราน่าจะมีแนวโน้วเติบโตในอัตราที่ถดถอย(พูดชาวบ้านหน่อยก็คือโตแต่โตน้อยกว่าปีที่ผ่านๆมาครับ)

[+++]

อิอิ ....
ดีขึ้นแน่นอนครับ

หวังว่าหุ้นคงจะขึ้นยาวๆ นะครับ
คนจะได้ อารมณ์ดี ๆกันเยอะๆ ครับ


อิอิ