ถามคนเคยใช้สีทาบ้านภายนอกคับ ขอความรู้

[hot]

ผมลองไปดูร้านขายสีระหว่างtoa กับdulux

พอดีเจอสีสองรุ่นที่ผมดูแล้วคุณสมบัติน่าจะใกล้เคียงกัน
คือ
toa supershield for exterior ราคาถังหนึ่งไม่น่าเกิน3000 บาท
http://www.toagroup.com/product/colour.htm
ทา3เที่ยว

กับduluxไฮโดเฟรช ราคาถังละ3300 บาท
ทา 2เที่ยว
แต่ราคาค่อนข้างจะแตกต่างกันเหมือนกันจนเห็นได้ชัด

เลยสงสัยว่าถ้าสินค้าคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
ราคาต่างกัน


ในความเป็นจริงคนเลือกใช้สี
เลือกจากคุณสมบัตจริงจริงหรือ

มีข่าวหนึ่งน่าสนใจ
นายพงษ์เชิด จามีกรกุล ผู้อำนวยการกลุ่มสายงานการขาย บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเป็นความพยายามของทีโอเอที่เห็นโอกาสทางการตลาดและต้องการพัฒนาสินค้าในกลุ่มสีทาอาคารสำหรับตลาดระดับบนที่มีคู่แข่งอย่างสีไอซีไอ ดูลักซ์ ครองส่วนแบ่งอยู่ ซึ่งในปี 2546 ถือเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ และขยายตลาด (Market Extension) สู่ระดับบนอย่างเป็นทางการ โดยใช้สี ซูเปอร์ชีล ดูราคลีน ซึ่งเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ สีทาภายในอาคารป้องกันแบคทีเรียและเชื้อรา เป็นหัวหอกในการทำตลาด โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีจะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดส่วนนี้ให้ได้

สำหรับเครื่องมือทางการตลาดที่สนับสนุน จะใช้การสื่อสารที่เป็นแมสมีเดีย ในภายยนตร์โฆษณา 2 ชุดด้วยกัน คือ ชุดด็อก (Dog) และชุดเบบี้ สะท้อนถึงคุณสมบัติเด่นของสินค้าในด้านการทำความสะอาด ป้องกันแบคทีเรียและเชื้อรา ผลิตโดย บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากนี้ ยังใช้สื่อประเภทสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา รวมถึงการจัดกิจกรรมร่วมระหว่างบริษัทกับร้านค้า เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์และสินค้าในกลุ่มผู้บริโภค

"ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการในการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ทีโอเอ ให้ทันสมัยมากขึ้น สะท้อนผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ ให้มีความทันสมัย และเป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมที่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ค่อนข้างจะดูเก่า เพราะทำตลาดมานานกว่า 40 ปี" นายพงษ์เชิด กล่าว และว่า

แนวทางของการตอกย้ำและปรับภาพลักษณ์แบรนด์ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงปี 2541 เป็นต้นมา เนื่องจากเห็นศักยภาพของตลาด ปัจจัยสนับสนุนด้านดอกเบี้ยต่ำ อันจะเอื้อต่อการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้สีหลักอีกกลุ่ม

ทั้งนี้ ยังได้วางเครือข่ายการจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันแบ่งเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่เป็นตัวแทนขาย มีประมาณ 3,000 ร้านค้า ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กับอีก 120 แล็ปสี ซึ่งเป็นแนวทางจัดจำหน่ายที่สำคัญในอนาคต เนื่องจากทิศทางของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Moderntrade) เป็นแนวโน้มใหม่สำหรับในประเทศไทย และจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจทั้งกับบริษัท และตัวแทนจำหน่ายในด้านภาระการสต็อกสินค้าซึ่งน้อยลง กว่า 20-30% จากประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการผสมสีได้กว่า 10,000 สีตามที่ลูกค้าต้องการในระยะเวลาที่รวดเร็ว

"หากเครือข่ายแล็ปสีมีการขยายตัวตามที่วางไว้จากปัจจุบัน 120 แห่ง ในระยะเวลาเพียง 2 ปี และคาดว่าจะขยายเพิ่มเป็น 200 เครื่องภายในสิ้นปี 2546 จะเป็นจุดแข็งที่สำคัญของทีโอเอในการสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะขยายตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้นในอนาคต เพราะใช้เงินลงทุนต่อศูนย์ประมาณ 1-1.2 ล้านบาท" นายพงษ์เชิด กล่าว

แหล่งข่าวจากบริษัทสี โจตัน กล่าวว่า ตลาดสีมีการแข่งขันสูงในตลาดระดับกลางถึงล่าง เนื่องจากมีผู้แข่งขันมากราย ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นผ่านสื่อต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะโฆษณาในลักษณะเด่นของสินค้าเป็นหลัก อาทิ ความคงทนของสี

รายงานวิเคราะห์จากบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า อุตสาหกรรมสีมีการ

นายลิว ยิค คุน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สี ไอซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสี "ไอซีไอ"
เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2547 นี้ บริษัทจะออกสินค้าใหม่เป็นสีระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมและเป็นตัวแรก
ของเมืองไทยชื่อว่า ไอซีไอ ดูลักซ์ ไฮโดรเฟรช ที่ทำความสะอาดตัวเอง ป้องกันเชื้อราและตะไคร่ โดยจะ
วางขายในตลาดตามศูนย์การจำ หน่ายและร้านค้าสีทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามจากการที่นำไปเปิดตัวกับกลุ่ม
ดีลเลอร์ ปรากฏว่าได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก มียอดสั่งจองประ มาณ 2 แสนแกลลอนแล้ว คาดว่าสิน
ค้าตัวนี้จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคและทำยอดขายให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี

นายลิว ยิค คุน กล่าวต่อว่า สินค้าตัวใหม่นี้จะมีจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก ยังไม่ส่งออกขายต่าง
ประเทศ แต่ในอนาคตมีผลิตขายต่างประเทศแน่นอน แต่ขออุบไว้ก่อน กลุ่มเป้าหมายเป็นช่างทาสี สถาปนิก
นักออกแบบ และโครงการจัดสรร ด้านราคาขายจะมีราคาสูงกว่าสีตัวอื่นๆ ในท้องตลาดประมาณ 10-15%
เพราะเป็นระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมซึ่งมีคุณสมบัติดีกว่าตัวอื่นจริงๆ มีราคาขายปลีกอยู่ที่ 3,500 บาทต่อ 5
แกลลอน

นายลิว ยิค คุน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในด้านการตลาด ปีนี้บริษัทใช้งบฯมากขึ้นกว่าทุกปีถึง 50% เพื่อ
เป็นการกระตุ้นยอดขาย หลายคนอาจจะเห็นว่าที่ผ่านมาไอซีไอทำการตลาดเงียบมาก แต่ปีนี้คงไม่เงียบ ที่
เงียบไปเพราะค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อยู่ อีกอย่างสไตล์การทำงานของไอซีไอจะระมัด ระวังเรื่องการ
ประชาสัมพันธ์ จะไม่มีการโหมเคลมคู่แข่งหรือเล่นสงครามราคา

นายลิว ยิค คุน กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัวเพื่อรองรับตลาดที่เติบโตขึ้นตามตลาด
อสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง สีไอซีไอ ดูลักซ์ ไฮโดรเฟรช เป็นสีทาภายนอก ผลิตจากอะคริลิกโพลีเมอร์ สูตรพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะ
ของไอซีไอ มีคุณสมบัติเด่นในการทำความสะอาดตัวเอง พร้อมทั้งคุณสมบัติอื่นๆ เช่น ป้องกันรังสียูวี ป้อง
กันเชื้อราและตะไคร่ ลดการยึดเกาะของฝุ่น รวมถึงการให้ความคงทนในทุกสภาพอากาศเช่นเดียวกับสีอื่นๆ
ในตระกูลดูลักซ์ เหมาะกับทุกสภาพผิว

http://www.thaibase.com/news/newstemp.asp?id=4108

[ต.หยวนเปียว]

สวัสดีครับคุณHot
ผมไม่มีความรู้เรื่องสี
พอดีผมจ้างช่างทาสีบ้านมาได้2ปีแล้ว
ผมเลือกใช้ สีกัปตัน พาราชิลส์ (น่าจะเกรดเดียวกับไอซีไอ ซุปเปอร์ชิลส์)
ยังติดทนสวยงาม
ไม่นานนี้ผมทาห้องเองโดยใช้สีที่เหลือ ก็เป็นที่น่าพอใจ
ลองเลือกดูนะครับ แต่ไม่ควรเลือกเกรดต่ำกว่านี้
ขั้นตอนสำคัญที่สุดน่าจะเป็นการทำความสะอาดพื้นผิว

[hot]

3 สีน้ำอะครีลิค 100% กัปตัน พาราชิลด์
เป็นสีน้ำทาภายนอกอาคารที่ทำจากลาเท็กซ์ประเภทอะครีลิค 100% ซึ่งให้ความ คงทนถาวรดีเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพราะโครงสร้างทางเคมีของอะครีลิคเรซิ่นที่สามารถต้านทานต่อการแปรสภาพอันเนื่องมาจากรังสีอุลตร้าไวโอเลต ทนฤทธิ์ด่างของปูน สีไม่ซีด และให้พลังการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม จึงทำให้สีกัปตัน พาราชิลด์ใช้งานได้ทนนาน กว่าสีน้ำพลาสติกธรรมดาถึง 2 เท่า สีกัปตัน พาราชิลด์เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับทาอาคารพาณิชย์ แฟลต บ้าน หรือ ตึกที่ต้องการความคุ้มครองอันยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่มีความสูงมาก ซึ่งมีความยุ่งยากเรื่องทาสีใหม่อีกครั้ง โดยไม่ต้องทาสีรองพื้นก่อน และยังทาได้บนพื้นผิวปูนทุกชนิด เช่น คอนกรีต กระเบื้องแผ่นเรียบ อิฐ เป็นต้น ปลอดภัยเพราะไม่ผสมสารปรอทและสารตะกั่ว

อยากรู้ราคาคับ

[ต.หยวนเปียว]

ขอโทษครับคุณhot ผมจำราคาnetไม่ได้แล้ว
แต่คร่าวๆ ราคาพอๆกับICI supershield :lol:

[ForrestGump]

คุณ ฮอทครับที่เคยได้ยินมา คุณภาพดีๆ เป็นของ นิปปอนเพนต์ครับ

เกรดที่ดีๆ ของนิปปอนเพนต์ น่าจะเป็น 3 in 1 นะครับถังนึงถังเล็ก (10 ลิตร) ราคาประมาณ 1500-1600 (แต่เนื้อสีเข้มข้น ใช้งานได้เยอะครับน่าจะประมาณ 80 ตรม.ทา2รอบ) (ถ้าจำไม่ผิด) แต่ต้องใช้ผสมทินเนอร์เฉพาะของมันเองอีก ลักษณะสีก็จะออกเงาๆ ด้วย เช็ดล้าง ทำความสะอาดง่าย ติดทนนาน ไม่แตกลายงา กันเชื้อรา

อีกตัวก็เป็นรุ่น คัลเลอร์ชีลด์ ราคาถัง15 ลิตร ประมาณ 2800-3000 เป็นรุ่นกึ่งเงา ถ้ารุ่นเงาแพงกว่านี้ อีกถังละ 3-4 ร้อยบาท น่าจะเป็นตัวทอปของนิปปอนเพนต์ครับ ที่เกรดเดียวกับ 7-1 ของ TOA

ถ้าไม่ติดขัดเรื่องงบประมาณ ผมคิดว่าใช้ตัวทอปไปเลยดีกว่าครับ เพราะ ติดนาน เช็ดล้างง่ายครับ เพราะมันเงา นอกเสียจากว่า ต้องการเปลี่ยนสีบ้านทุก 5 ปี ก็ใช้แค่เกรด Super serve ก็พอคับ ถังนึง ภายนอกก็ประมาณ 1200 บาท มี มอก. ด้วย (อ้อ สีสองเกรดข้างบนมีแต่ภายนอกครับ คุณ hot เข้าใจใช่มั้ยครับ คือ สีที่ตาเห็นเนี่ย จะเหมือนหรือใกล้เคียงกันมาก แต่สีภายนอก เกาะติดดีกว่า เอาไปใช้ภายในได้ แต่สีภายในไปใช้ทาภายนอกไม่ได้)

แล้วอีกอย่าง ไม่ทราบคุณเวปไปซื้อที่ไหนครับ เดี๋ยวนี้เลือกซื้อร้านที่มีเครื่องผสมสี ได้สีถุกใจเราแน่นอนครับ

[hot]

อย่างduluxไฮโดเฟรช เขายอมลดราคาเหลือถังละ3100 บาท
และได้ส่วนลดคูปอง ข้างถังอีก ไม่เกินถังละ200 บาท
พอดีได้คูปอง สำหรับการซื้อครั้งแรกจากงานบ้านและสวน
ลดอีก500 บาท

แต่ผมรู้สึกว่าราคาสีจริงจริงที่ตัวท๊อปจะไม่ค่อยต่างกันมาก
ถ้าทาไม่มาก แต่ถ้าทาเป็นหลายพันตารางเมตรจะเห็นชัด
ของtoa เห็นในงานบอกว่าถังละ2400 บาท แต่น่าจะลดได้อีก
พร้อมส่วนลดข้างถัง อีก70 บาทต่อถัง

แต่ก็สนใจยี่ห้อกัปตันเหมือนกัน เห็นคนข้างบ้านเขาทาก็ทนมาเป็น10ปี

นิปปอนเพนต์ กับโจตันก็สนใจเหมือนกันทีแรกคิดว่าจะแพงกว่ายี่ห้ออื่น
แต่เห็นร้านที่ขายเขาบอกว่าอยู่ที่ว่าเป็นตัวแทนใหญ่ค่ายไหน ราคาก็จะถูก
กว่าร้านทั่วไปไม่รู้จริงหรือเปล่า


แต่สีผสม ของtoa ดูเหมือนจะถูกที่สุดนะเห็นเขาว่า



ยุดนี้สีมีให้เลือกจัง แต่อยากฟังความเห็นคนใช้สีแต่ละยี่ห้อว่า
ต่างกันมากไหมคับ

[ForrestGump]

คุณ hot ครับ ผมใช้ color sheild ของ นิปปอนเพนต์อยู่ เคยไปเปรียบเทียบกับ TOA กับ ICI ผมว่าที่ใช้อยู่ เนื้องานค่อนข้างดีกว่า
ปัจจัยที่ทำให้เนื้องานต่างกัน เท่าที่รู้ น่าจะมีดังนี้ครับ
1. คุณภาพสี แน่นอนว่า แต่ละค่ายก็ต้องยกคุณสมบัติต่างๆ มาข่มกัน อันนี้ต้องใช้สายตา การสัมผัส และ เวลา ของคุณhot เป็นเครื่องพิสูจน์ครับ แต่ผมคิดว่า คงไม่ต่างกันมาก แต่ในแง่ความคุ้มค่า สำหรับผม nippon paint ครับ

2. ฝีมือช่างทาสี เลือกที่ชำนาญ ทาได้เรียบ รู้การเตรียมสี ทำความสะอาดพื้นให้เรียบ ไม่มีรอยปุ่มป่ำ ถ้าปูนใหม่ก็รองพื้นปูนใหม่ ถ้าปูนเก่า ก็รองพื้นปูนเก่า ทาเร็ว ผสมสีเนียน ไม่เปลืองสี ก็สำคัญครับ

3. สภาพอากาศ ถ้าอากาศชื้นโอกาสที่ทาสีแล้วมีฟองขึ้นเป็นไปได้ครับ ทาช่วงอากาศแห้งนี่ดีครับ

เป็นแค่ความเห็นหนึ่งนะครับคุณ hot ต้อง "ฟันธง" เอาเองครับ

ปล. คุณ hot ว่าสีมีเลือกน้อย ผมคิดว่าเยอะแล้วนะครับ ที่ไม่ดังอีกเยอะ แต่คุณ hot จะเลือกหรือเปล่า อย่าลืมนะครับ ลองดูร้านที่มีเครื่องผสมสี ตอนนี้ค่อนข้างเยอะแล้ว ผสมได้ เป็นหมื่นสี แต่เอ ไม่ลองสี Dutch Boy หน่อยเหรอครับ เผื่อ APC จะราคาขยับขึ้นไป คุณ hot ดักซื้อไว้ กำไรสองต่อ อิอิ ล้อเล่นนะครับ

[hot]

ก็น่าสนใจ เหมือนกันคับว่าแต่ราคาขนาด5 แกลลอนมีไหมคับ
และราคาเท่าไรคับถ้าไม่เป็นการรบกวน

แสดงว่าทาสีหน้าหนาวจะดีกว่าทาหน้าร้อนใช่ไหมคับ

[ForrestGump]

ต้องขอโทษด้วยครับ ขนาด 5 กล. ไม่ทราบราคาเหมือนกัน

1. ทาสีหน้าแล้ง ความชื้นน้อยดีกว่า หน้าฝนแน่นอนครับ
2. ขนาด 5 กล. ผมคิดว่าจริงๆ แล้ว น่าจะเป็น 3.75 us gallon มากกว่านะครับ แล้วขนาดถังใหญ่ เต็มๆ น่าจะเป็น 3.75*5 = 18.75 ล. หรือ 5 กล. ซึ่ง โดยปกติ ถ้าใช้เยอะ ซื้อเป็นถังน่าจะถูกกว่าครับ เช่น กล.ราคา 600 บาท ขนาดถัง (5กล.) ราคาอาจจะประมาณ 2500 บาท เป็นต้นครับ

ผมก็ไม่ชำนาญเรื่องสีเท่าไหร่ครับ เพียงแต่เคยใช้ แต่ขอย้ำนะครับ ว่าคุณ hot อย่าลืม ทำความสะอาดพื้นผิว และ ถ้าไม่เรียบก็ทำให้เรียบก่อน จากนั้น ก็ลงสีรองพื้นปูน (ใหม่หรือเก่า ต้องจำเพาะ) แล้วค่อยทาสีจริง อย่างน้อยทับ 2 ครั้ง พอทาเสร็จแล้วได้ที่ซักกี่วันก็จำไม่ได้ ก็ทา สีกันเปื้อนขอบด้านล่างด้วยสูงซัก 30-40 ซม. ก็น่าจะใช้ได้ครับ

ขอให้โชคดีบ้านสวยสมดั่งใจนะครับ

ปล.ถ้าเป็นไม้ พื้นใช้ ยูรีเทน ประตูหน้าต่างไม้ ใช้ คิวปริโนลครับ ช่วยให้สวยและ ทนดีมากๆ เลยครับ

[RR]

ต้องสี dutch boy ซิคุณ hot กำลังลดราคา เมื่อปีก่อนตั้งหลายบาท
ปีนี้ 80 สตางค์เอง แต่ปีหน้าไม่ทราบว่าจะขึ้นหรือลงต่อ

[hot]

color sheild ของ นิปปอนเพนต์

ขนาด5แกลลอน ถังละ2200 บาท
ทิงเนอร์ถังละ500 บาท
เห็นคนขายว่า เนื้อสีแน่นจริงอย่างที่ว่าจริงคับ
แต่เรื่องทา ได้กี่ตารางเมตรเห็นว่าอยู่ที่การผสมแต่ละคนไม่เท่ากัน
ส่วนใหญ่ผสมไม่เกิน10%
แต่งงอย่างคับ

1แกลลอนมันเท่ากับกี่ลิตร
ชักจำไม่ได้แล้วคับ

[RR]

1 Imp. gallon = 4.55 L.
1 US. gallon = 3.79 L.