ปี48 อสังหาริมทรัพย์จะขยายตัวต่อทั้งแรงซื้อและบ้าน
ธปท.เชื่อว่า ปีหน้าภาคอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตต่อเนื่องทั้งด้านผู้ที่ต้องการซื้อและผู้ผลิตบ้านขาย ในขณะที่ปี 2547 ตลาดอสังหาริมทรัพย์โตอย่างสมดุล และมีเสถียรภาพมากขึ้นและเกิดจากความต้องการซื้อจริงไม่ใช่ความต้องการซื้อเทียมหรือการเก็งกำไร ซึ่งเป็นผลจากมาตรการรัฐ และดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งการแข่งขันกันปล่อยสินเชื่อบ้านของธนาคารพาณิชย์ พร้อมยอมรับว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยจากนี้ไปจะเป็นขาขึ้น
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า อัตราการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังขยายตัวในระดับที่ดีต่อเนื่องหลังจากที่ตื่นตัวอย่างจริงจังในปี 2545 จากแรงกระตุ้นจากมาตรการของภาครัฐทั้งการลดภาษีการโอนที่ดิน การออกโครงการการให้สินเชื่อข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจซื้อบ้าน 60,000 ล้านบาทโครงการบ้านเอื้ออาทรของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)และโครงการบ้านเอื้ออาทรของธนาคารออมสิน
สำหรับมูลค่าการซื้อขายที่ดินปี 2546 มี 437,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 64.4 จากปีก่อน และในปี 2547 นี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่องแต่ไม่เท่ากับปีก่อนหน้าอย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายที่ดิน 8 เดือนแรกยังสูงถึง 337,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 51 จากปีก่อนพื้นที่ขอจดทะเบียนการก่อสร้างทั่วกรุงเทพและต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 สินเชื่อที่ให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ 8เดือนแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 และสินเชื่อบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ซึ่งทำให้ภาคการก่อสร้าง ภาควัสดุก่อสร้างและวัสดุที่ใช้ตกแต่งบ้านขยายตัวตามไปด้วยส่งผลให้เกิดการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ
จากตัวเลขเหล่านี้ทำให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโต ทั้งตัวความต้องการซื้อและสินค้าที่อยู่ในตลาดโดยโครงการในสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านของข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ มียอดของกู้เต็มวงเงินแล้ว 60,000 ล้านบาทโดยมีการปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 34,000 ล้านบาทและโครงการบ้านของออมสิน 4 แสนหลัง ทยอยปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 2,000 ล้านบาท
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า จากที่มีการศึกษาโดย ธปท.เห็นว่าในปี 2548 อสังหาริมทรัพย์จะยังขยายตัวได้ทั้งในด้านความต้องการซื้อและสินค้าโดยตลาดในปี 2547นั้น แม้ว่าจะโตขึ้นไม่พรวดพราดอย่างปี 2546 แต่เป็นการโตที่มีความสมดุล และมีเสถียรภาพมากขึ้นศึกษาแล้วพบว่าเกิดจากความต้องการซื้อจริงไม่ใช่ความต้องการซื้อเทียมหรือการเก็งกำไร ซึ่งเบาใจได้เพราะนอกจากมาตรการของรัฐแล้ว ที่ผ่านมายังมีอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและการหันมาปล่อยแข่งขันกันปล่อยสินเชื่อบ้านของธนาคารพาณิชย์ในขณะที่สินเชื่ออื่นยังปล่อยไม่ได้มาช่วยสนับสนุนภาคอสังหาฯด้วย"
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวต่อว่า ปัญหาที่จะต้องดูแลคือทำอย่างไรที่จะคงความต้องการซื้อบ้านและสินค้าในตลาดให้ยังคงสมดุลกันต่อไปได้ซึ่งในส่วนของภาครัฐคงไปกะกณฑ์ว่าผู้ประกอบการจะสร้างเท่าไรในแต่ละปีคงทำไม่ได้แต่ธปท.จะช่วยผ่านการดูแลการปล่อยสินเชื่ออสังหาฯของธนาคารพาณิชย์ให้ปล่อยในบริษัทหรือโครงการที่มีความเป็นไปได้และช่วยดูแลผ่านการประกาศดัชนีราคาที่อยู่อาศัยซึ่งจะเสร็จในอีกไม่นานนี้หวังว่าผู้ประกอบการจะมีความระมัดระวังมากขึ้นจากบทเรียนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา
สำหรับเรื่องอัตราดอกเบี้ยนั้น ต้องยอมรับว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยในช่วงต่อไปจะต้องเป็นขาขึ้นเพราะอยู่ในระดับต่ำมานานมากแล้วแต่หลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย(อัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร 14 วัน) มา 2 ครั้งแล้ว การขึ้นดอกเบี้ยต่ำจากน้คงจะไม่ต้องห่วงอัตราเงินเฟ้อมากนักแต่จะดูทั้งอัตราเงินเฟ้อ เศรษฐกิจต่างประเทศอัตราดอกเบี้ยต่างประเทศ การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยรวมทั้งการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย
โดยจะเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อกำลังซื้อบ้านเพราะต้องยอมรับว่าหากอัตราดอกเบี้ยขึ้นต้องกระทบอสังหาฯอย่างช่วยไม่ได้แต่จะทยอยขึ้นให้ไม่กระเทือนต่อกำลังส่งต่อเดือนของผู้ซื้อบ้านเพื่อไม่ให้กำลังซื้อและความต้องการซื้ออสังหาฯชะงักหรือกระตุกอย่างรุนแรง (สำนักข่าวไทย
คิดกันอย่างไรคับ
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
คิดกันอย่างไรคับ
โพสต์ที่ 2
แล้วมันจะจริงเหรอครับ คนต้องการบ้านมากขนาดนั้นเชียว แล้วไหง หุ้นบ้านทั้งหลายที่ PE Pb ต่ำๆ ไหงกำไรลดลงมาก แถมราคาดิ่งเหวอีกต่างหากล่ะครับ แต่ระดับชติออกมาพูดต้องฟังไว้มั้งแฮะ