Symbol: RPC
Headline: สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
Time: 10 พ.ย. 2004 17:55:36
RPC/HO-SET/ELCID-0024/04
RPC สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด ( มหาชน )
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2547 2546 2547 2546
กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 169,614 39,629 367,508 171,463
กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 2.04 0.60 4.42 2.77
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบงบการเงิน
จากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงินฉบับเต็ม
ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ............................
( นางศิรพร กฤษณกาญจน์ )
ตำแหน่ง..ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ.
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
RPC
-
นักดูดาว
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
RPC
โพสต์ที่ 2
Symbol: RPC
Headline: ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี2547
Time: 10 พ.ย. 2004 17:55:36
ที่ RPC/HO-SET/ELICID - 0025/04
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2547
เรื่องชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2547
เรียนกรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2546
เท่ากับ 129.98 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 328 คือเพิ่มขึ้นจาก 39.63 ล้านบาท เป็น 169.61 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักดังนี้
1. รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 786 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.35 จาก 1,813 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2546
เป็น 2,599 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 โดยมาจากการขายน้ำมันภายในประเทศและการส่งออกเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันทั่วโลกมีราคาสูงขึ้น
และการผลิตของบริษัทฯ มีปริมาณเพิ่มขึ้น
2. ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย
แม้บริษัทฯ มีต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 592 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35.64 จาก 1,661 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2546 เป็น 2,253 ล้านบาท
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 มาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มราคาสูงขึ้นทั่วโลก นอกจากนั้นยังมีผลมาจากการประกาศปรับลดค่ากำมะถันในน้ำมันดีเซลลงจาก 500 ppm (0.05%)
เป็น 350 ppm (0.035%) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 มีผลให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม
อัตราต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นยังต่ำกว่าอัตราเพิ่มขึ้นของรายได้อย่างมาก
3. การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร และค่าตอบแทนกรรมการ
ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48.78 จาก 82 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2546 เป็น 122 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2547
เนื่องจากในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 มีการขายในประเทศสูงกว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 2546 มีผลให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสูงขึ้นจำนวน 6 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขาย
และประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านบาท นอกจากนั้นในไตรมาสนี้บริษัทฯ ยังได้เริ่มต้นบันทึกค่าใช้จ่ายค้างจ่าย (Accrue) สำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกรรมการ และพนักงาน
สำหรับระยะเวลา 9 เดือน (มกราคม - กันยายน 2547) จำนวน 24 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้มีการบันทึกรายการค่าใช้จ่ายค้างจ่ายทั้ง 2 ประเภทนี้ในไตรมาสเดียวกันในปี 2546
อนึ่ง บริษัทฯ จะได้ทำการบันทึกรายการค่าใช้จ่ายค้างจ่ายเกี่ยวกับกรรมการและพนักงานเป็นประจำทุกไตรมาสต่อไป
ดังนั้น บริษัทจึงมีผลกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี 2546 ร้อยละ 328 หรือเท่ากับ 129.98 ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นางศิรพร กฤษณกาญจน์ )
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
เจ้าหน้าที่นักลงทุนสัมพันธ์ / สำนักกรรมผู้จัดการ
โทร. 0-2515-8671
Headline: ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี2547
Time: 10 พ.ย. 2004 17:55:36
ที่ RPC/HO-SET/ELICID - 0025/04
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2547
เรื่องชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2547
เรียนกรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2546
เท่ากับ 129.98 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 328 คือเพิ่มขึ้นจาก 39.63 ล้านบาท เป็น 169.61 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักดังนี้
1. รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 786 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.35 จาก 1,813 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2546
เป็น 2,599 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 โดยมาจากการขายน้ำมันภายในประเทศและการส่งออกเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันทั่วโลกมีราคาสูงขึ้น
และการผลิตของบริษัทฯ มีปริมาณเพิ่มขึ้น
2. ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย
แม้บริษัทฯ มีต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 592 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35.64 จาก 1,661 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2546 เป็น 2,253 ล้านบาท
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 มาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มราคาสูงขึ้นทั่วโลก นอกจากนั้นยังมีผลมาจากการประกาศปรับลดค่ากำมะถันในน้ำมันดีเซลลงจาก 500 ppm (0.05%)
เป็น 350 ppm (0.035%) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 มีผลให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม
อัตราต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นยังต่ำกว่าอัตราเพิ่มขึ้นของรายได้อย่างมาก
3. การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร และค่าตอบแทนกรรมการ
ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48.78 จาก 82 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2546 เป็น 122 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2547
เนื่องจากในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 มีการขายในประเทศสูงกว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 2546 มีผลให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสูงขึ้นจำนวน 6 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขาย
และประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านบาท นอกจากนั้นในไตรมาสนี้บริษัทฯ ยังได้เริ่มต้นบันทึกค่าใช้จ่ายค้างจ่าย (Accrue) สำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกรรมการ และพนักงาน
สำหรับระยะเวลา 9 เดือน (มกราคม - กันยายน 2547) จำนวน 24 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้มีการบันทึกรายการค่าใช้จ่ายค้างจ่ายทั้ง 2 ประเภทนี้ในไตรมาสเดียวกันในปี 2546
อนึ่ง บริษัทฯ จะได้ทำการบันทึกรายการค่าใช้จ่ายค้างจ่ายเกี่ยวกับกรรมการและพนักงานเป็นประจำทุกไตรมาสต่อไป
ดังนั้น บริษัทจึงมีผลกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี 2546 ร้อยละ 328 หรือเท่ากับ 129.98 ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นางศิรพร กฤษณกาญจน์ )
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
เจ้าหน้าที่นักลงทุนสัมพันธ์ / สำนักกรรมผู้จัดการ
โทร. 0-2515-8671
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
บันทึกไม่สำเร็จ