Top 3 หุ้นทั่วโลก และอนาคตประเทศไทย (2)
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
Top 3 หุ้นทั่วโลก และอนาคตประเทศไทย (2)
โพสต์ที่ 1
Top 3 หุ้นทั่วโลก และประเทศไทย
.
จริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าหุ้น 3 ตัวที่ Market cap ใหญ่ที่สุดของแต่ละประเทศจะบ่งบอกลักษณะเฉพาะของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศได้ชัดเจนแบบไม่น่าเชื่อ
.
สหรัฐอเมริกา
1. Apple 2. Microsoft 3. Amazon สุดยอด 3 หุ้นเทคโนโลยีประเภท Information Tech สหรัฐในฐานะผู้ให้กำเนิด และทำให้ Internet คือเทคโนโลยีแห่งศตวรรษที่ 20 อย่างแท้จริง อุตสาหกรรม IT ทำให้เกิดการย้ายศูนย์กลางนวัตกรรมจาก East Coast ที่ชนกับยุโรป มาที่ West Coast ที่ชนกับเอเชียแทน และส่งให้ประเทศเกิดใหม่แห่งนี้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลก
.
เยอรมัน
1. SAP 2. Volkswagens 3. Siemens สะท้อนถึงความมีวินัยของประชาชน ความเป็นผู้ผลิตสินค้าที่คุณภาพสูง และสอดแทรกด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยการผลิตอย่าง SAP ครบเครื่องด้านการผลิตจริงๆ (ยังมี BASF, BAYER, BioNTech เป็นม้ามืดด้วย มี Adidas, Delivery Heros ประเทศนี้ครบจริงๆ)
.
ฝรั่งเศส
1. LVMH 2. L'Oréal 3. Hermès แสดงถึงพลังของแบรนด์ ความหรูหรา แบบพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรมที่เข้มข้นมาก ถ้าจะให้ประเทศที่ขายประวัติศาสตร์อย่างมีรสนิยมที่สุด ผมคงเลือกฝรั่งเศส (ยังมี Kering, Dior, และบริษัทยาง Michellin ที่มีชื่อเสียงในฐานะคนให้ดาวอาหาร มาได้งัย 555)
.
อังกฤษ
1. Linde 2. AstraZeneca 3. Rio Tinto แสดงถึงพลังของอดีตเจ้าอาณานิคม Linde, Rio Tinto ที่เป็นเจ้าของทรัพยากรจำนวนมาก ทั้งโลหะ น้ำมัน แก๊ซธรรมชาติ และที่น่าสนใจคือการเริ่มก้าวขึ้นมาของ Healthtech ที่มีมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง Oxford เป็นผู้หนุนหลัง
.
เนเธอร์แลนด์
1. ASML 2. Prosus 3. Uniliver ดินแดนแห่งนวัตกรรมและการลงทุน ASML เป็นเจ้าพ่อผู้ผลิตเครื่องจักรในการผลิตชิพ (คิดถึงอู่ต่อเรือ VOC ในยุค Explorer ของโลกสิครับ) และ Prosus ผู้ที่เป็นเจ้าของตัวจริงใน Tencent และ Tech Startup ชั้นนำ (คิดถึงตลาดหุ้นแห่งแรก) รวมไปถึง Uniliver บริษัทที่เอาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมาแปรรูปไปขายทั่วโลก (คิดถึงการขายเครื่องเทศ)
.
สวิสเซอร์แลนด์
1. Nesle 2. Roche 3. Novatis ประเทศกลางหุบเขา มีทรัพยากรทางธรรมชาติแต่ไม่ได้ใช้ แต่เน้นใช้มันสมองคนแค่ไม่กี่ล้านคน สร้างบริษัทอาหารที่ดีที่สุดในโลก สร้างบริษัทยาชั้นนำ โดยต่อยอดจากความรุ่งเรืองทางเคมี ตั้งแต่ยุคกลางของลุ่มแม่น้ำไรน์ ด้วยความเปิดกว้างและจุดยืนความเป็นกลางทางการเมืองมาโดยตลอด ประกอบกับความน่าอยู่ ทำให้สามารถดึงดูดชนชั้นสมองไหลเข้าประเทศ
.
จีน
1. Tencent 2. BABA 3. Kweichow Moutai ประเทศที่เดินตามรอยสหรัฐ + เยอรมัน + ญี่ปุ่น + สิงค์โปร์ ทำ Copy and Development แบบชัดเจน บริษัท Tencent คือเจ้าของ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 อย่างธุรกิจเกม (ที่น่าจะมาแทน Hollywood) และ BABA คือผู้ต่อยอดพลังแห่งการผลิตของจีนและนำสินค้าไปขายทั่วโลก ขาดไม่ได้กับการคุยการค้าผ่านการร่ำสุราชั้นเลิศเหมาไถ
.
ญี่ปุ่น 1. Toyota 2. Softbank 3. Sony
เกาหลี 1. Samsung 2. SK 3. LG
ไต้หวัน 1. TSMC 2. Mediatek 3. Foxconn
สิงค์โปร์ 1. SEA 2. DBS 3. OCBC
.
หมดแรงพิมพ์ครับ ข้ามมาไทยเลย
.
ไทย
1. PTT 2. AOT 3. CPALL
.
สำหรับประเทศไทยมีจุดสังเกตคือ สามบริษัทนี้หากินหลัก ๆ แต่ในประเทศไทย อยู่บนพื้นฐานระบบอุปถัมภ์ เราจึงติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง
.
ถ้าประเทศเราจะโต เราต้องหาพระเอกคนใหม่ให้ตลาดหุ้นไทยให้ได้ ที่หากินกับคนต่างประเทศ คิด Global มากกว่า Local
.
อนาคตผมคิดว่าไทยควรจะมุ่งโมเดลสวิสเซอร์แลนด์
แหล่งผลิตอาหารชั้นนำของโลก ควบคู่กับ เทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูง
ดึงดูดมันสมองเข้ามาทำงานในประเทศ และทำให้ประเทศมีภาษาราชการหลากหลาย
เชื่อมทางรถไฟไปหลายทาง เป็น Gateway from China to South East Asia
เป็นมิตรกับทั้งมหาอำนาจอเมริกา จีน และอินเดีย
.
ส่วนการท่องเที่ยวเป็นแค่ของแถม สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างมหาวิทยาลัยการโรงแรมชั้นนำ
.
ThaiVI พวกเราเป็นส่วนหนึ่งในจะปั้นนักลงทุนไทยเก่ง ๆ ออกไประดับโลก
สร้างกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติแบบสิงค์โปร์
.
คิดว่ายังไงครับ พอไหวมั๊ยครับ อิอิ
.
จริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าหุ้น 3 ตัวที่ Market cap ใหญ่ที่สุดของแต่ละประเทศจะบ่งบอกลักษณะเฉพาะของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศได้ชัดเจนแบบไม่น่าเชื่อ
.
สหรัฐอเมริกา
1. Apple 2. Microsoft 3. Amazon สุดยอด 3 หุ้นเทคโนโลยีประเภท Information Tech สหรัฐในฐานะผู้ให้กำเนิด และทำให้ Internet คือเทคโนโลยีแห่งศตวรรษที่ 20 อย่างแท้จริง อุตสาหกรรม IT ทำให้เกิดการย้ายศูนย์กลางนวัตกรรมจาก East Coast ที่ชนกับยุโรป มาที่ West Coast ที่ชนกับเอเชียแทน และส่งให้ประเทศเกิดใหม่แห่งนี้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลก
.
เยอรมัน
1. SAP 2. Volkswagens 3. Siemens สะท้อนถึงความมีวินัยของประชาชน ความเป็นผู้ผลิตสินค้าที่คุณภาพสูง และสอดแทรกด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยการผลิตอย่าง SAP ครบเครื่องด้านการผลิตจริงๆ (ยังมี BASF, BAYER, BioNTech เป็นม้ามืดด้วย มี Adidas, Delivery Heros ประเทศนี้ครบจริงๆ)
.
ฝรั่งเศส
1. LVMH 2. L'Oréal 3. Hermès แสดงถึงพลังของแบรนด์ ความหรูหรา แบบพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรมที่เข้มข้นมาก ถ้าจะให้ประเทศที่ขายประวัติศาสตร์อย่างมีรสนิยมที่สุด ผมคงเลือกฝรั่งเศส (ยังมี Kering, Dior, และบริษัทยาง Michellin ที่มีชื่อเสียงในฐานะคนให้ดาวอาหาร มาได้งัย 555)
.
อังกฤษ
1. Linde 2. AstraZeneca 3. Rio Tinto แสดงถึงพลังของอดีตเจ้าอาณานิคม Linde, Rio Tinto ที่เป็นเจ้าของทรัพยากรจำนวนมาก ทั้งโลหะ น้ำมัน แก๊ซธรรมชาติ และที่น่าสนใจคือการเริ่มก้าวขึ้นมาของ Healthtech ที่มีมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง Oxford เป็นผู้หนุนหลัง
.
เนเธอร์แลนด์
1. ASML 2. Prosus 3. Uniliver ดินแดนแห่งนวัตกรรมและการลงทุน ASML เป็นเจ้าพ่อผู้ผลิตเครื่องจักรในการผลิตชิพ (คิดถึงอู่ต่อเรือ VOC ในยุค Explorer ของโลกสิครับ) และ Prosus ผู้ที่เป็นเจ้าของตัวจริงใน Tencent และ Tech Startup ชั้นนำ (คิดถึงตลาดหุ้นแห่งแรก) รวมไปถึง Uniliver บริษัทที่เอาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมาแปรรูปไปขายทั่วโลก (คิดถึงการขายเครื่องเทศ)
.
สวิสเซอร์แลนด์
1. Nesle 2. Roche 3. Novatis ประเทศกลางหุบเขา มีทรัพยากรทางธรรมชาติแต่ไม่ได้ใช้ แต่เน้นใช้มันสมองคนแค่ไม่กี่ล้านคน สร้างบริษัทอาหารที่ดีที่สุดในโลก สร้างบริษัทยาชั้นนำ โดยต่อยอดจากความรุ่งเรืองทางเคมี ตั้งแต่ยุคกลางของลุ่มแม่น้ำไรน์ ด้วยความเปิดกว้างและจุดยืนความเป็นกลางทางการเมืองมาโดยตลอด ประกอบกับความน่าอยู่ ทำให้สามารถดึงดูดชนชั้นสมองไหลเข้าประเทศ
.
จีน
1. Tencent 2. BABA 3. Kweichow Moutai ประเทศที่เดินตามรอยสหรัฐ + เยอรมัน + ญี่ปุ่น + สิงค์โปร์ ทำ Copy and Development แบบชัดเจน บริษัท Tencent คือเจ้าของ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 อย่างธุรกิจเกม (ที่น่าจะมาแทน Hollywood) และ BABA คือผู้ต่อยอดพลังแห่งการผลิตของจีนและนำสินค้าไปขายทั่วโลก ขาดไม่ได้กับการคุยการค้าผ่านการร่ำสุราชั้นเลิศเหมาไถ
.
ญี่ปุ่น 1. Toyota 2. Softbank 3. Sony
เกาหลี 1. Samsung 2. SK 3. LG
ไต้หวัน 1. TSMC 2. Mediatek 3. Foxconn
สิงค์โปร์ 1. SEA 2. DBS 3. OCBC
.
หมดแรงพิมพ์ครับ ข้ามมาไทยเลย
.
ไทย
1. PTT 2. AOT 3. CPALL
.
สำหรับประเทศไทยมีจุดสังเกตคือ สามบริษัทนี้หากินหลัก ๆ แต่ในประเทศไทย อยู่บนพื้นฐานระบบอุปถัมภ์ เราจึงติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง
.
ถ้าประเทศเราจะโต เราต้องหาพระเอกคนใหม่ให้ตลาดหุ้นไทยให้ได้ ที่หากินกับคนต่างประเทศ คิด Global มากกว่า Local
.
อนาคตผมคิดว่าไทยควรจะมุ่งโมเดลสวิสเซอร์แลนด์
แหล่งผลิตอาหารชั้นนำของโลก ควบคู่กับ เทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูง
ดึงดูดมันสมองเข้ามาทำงานในประเทศ และทำให้ประเทศมีภาษาราชการหลากหลาย
เชื่อมทางรถไฟไปหลายทาง เป็น Gateway from China to South East Asia
เป็นมิตรกับทั้งมหาอำนาจอเมริกา จีน และอินเดีย
.
ส่วนการท่องเที่ยวเป็นแค่ของแถม สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างมหาวิทยาลัยการโรงแรมชั้นนำ
.
ThaiVI พวกเราเป็นส่วนหนึ่งในจะปั้นนักลงทุนไทยเก่ง ๆ ออกไประดับโลก
สร้างกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติแบบสิงค์โปร์
.
คิดว่ายังไงครับ พอไหวมั๊ยครับ อิอิ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Top 3 หุ้นทั่วโลก และอนาคตประเทศไทย (2)
โพสต์ที่ 2
ใครมีไอเดียอื่น ๆ บ้าง และผมอยากขอไอเดีย
Top 3 ของไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า มาเดากันครับว่าเป็นหุ้นอะไร อิอิ สิบปีกลับมาดูกัน
Top 3 ของไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า มาเดากันครับว่าเป็นหุ้นอะไร อิอิ สิบปีกลับมาดูกัน
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
-
- Verified User
- โพสต์: 55
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Top 3 หุ้นทั่วโลก และอนาคตประเทศไทย (2)
โพสต์ที่ 5
ขอวาง bet ครับ ไม่เรียงตามลำดับ
Scenario 1: (ไม่มีการล้างไพ่) CPALL GULF PTT
Scenario 2: (มีการล้างไพ่) BDMS SPC PTT
Scenario 3: ตลาดโดน nationalisation
อย่าคิดมากนะครับ 55555
Scenario 1: (ไม่มีการล้างไพ่) CPALL GULF PTT
Scenario 2: (มีการล้างไพ่) BDMS SPC PTT
Scenario 3: ตลาดโดน nationalisation
อย่าคิดมากนะครับ 55555
อันนี้ควรรีบทำเลยครับ เห็นด้วยอย่างยิ่งThaiVI พวกเราเป็นส่วนหนึ่งในจะปั้นนักลงทุนไทยเก่ง ๆ ออกไประดับโลก
สร้างกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติแบบสิงค์โปร์
-
- Verified User
- โพสต์: 97
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Top 3 หุ้นทั่วโลก และอนาคตประเทศไทย (2)
โพสต์ที่ 6
นึกไม่ออกจริงๆครับ - -
ขอทายแบบให้สุดๆไปเลยว่า XPG, SCB, JMT ครับ 555
แวะเอา infographic บริษัท market cap top 100 มาแปะครับ เจอมาใน twitter สวยดี
ขอทายแบบให้สุดๆไปเลยว่า XPG, SCB, JMT ครับ 555
แวะเอา infographic บริษัท market cap top 100 มาแปะครับ เจอมาใน twitter สวยดี
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้