ขอความรู้ครับ ซื้อETFต่างประเทศผ่านกองทุน/ซื้อETFต่างประเทศเอง/ซื้อแบบรายตัว อย่างไหน ดีกว่ากัน ในสภาพปัจจุบัน (2021)

[tritep009]

ขอความรู้ครับ ซื้อETFต่างประเทศผ่านกองทุน / ซื้อETFต่างประเทศเอง / ซื้อแบบรายตัว อย่างไหน ดีกว่ากัน ในสภาพปัจจุบัน (2021)

ผมเริ่มต้นด้วยการซื้อ etf ต่างประเทศ 5 กองๆละ 3,000 บาท เป็นกองที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี เป็นส่วนใหญ่คือ cloud computing , digital healthcare , emerging market , new economy new technology , big tech company ครับ จากนั้นใช้วิธีตัดสินใจโดยการอ่านเอกสารต่างๆและประเมินด้วยตนเอง ในรอบถัดไป ก็จัดสรรงบลงทุนมากบ้างน้อยบ้างตามความรู้สึกของตนเอง กองละไม่เกิน 10,000 บาท ผลปรากฏว่าตัวที่คิดว่าดี กลับมีการเคลื่อนไหวของราคาน้อย เนื่องจากผมพอมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง จึงเขียนโปรแกรมผ่านเวิร์กชีตของ google เพื่อดึงราคาต่ำสุดและสูงสุดในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านไปเพื่อหาจุดต่ำสุดสูงสุด แต่ยังไม่ได้ใช้หลักการนั้นในการจัดสรรการลงทุนเต็ม 100% ยังคงใช้ปัจจัยอื่นๆ เป็นแนวคิดมาจัดสรรการลงทุนแต่ละกอง ซึ่งก็ยังให้ผลที่ไม่ถูกใจนัก ถัดมาใช้การจัดสรรตามเปอร์เซ็นต์ การเคลื่อนไหวของราคากองไหนราคาเคลื่อนไหวดีก็ลงทุนมาก กองไหนราคาเคลื่อนไหวน้อย ก็ลงน้อย กองไหนราคาไม่วิ่ง ก็หยุดลงทุน ซึ่งก็ทำให้สภาพดีขึ้นแต่ยังรู้สึกว่าไม่ถูกใจ 100% ครับ
ตอนนี้กำลังค้นคว้าหาโปรแกรมด้าน optimization มาวิเคราะห์กองทุนหุ้นแต่ละตัวครับ เพื่อมาใช้ในการจัดสรรเงินลงทุน โดยทำเป็นรายเดือนย้อนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เมื่อเริ่มมี covid เมื่อนำโปรแกรมด้าน optimization ดังกล่าวมาใช้ก็พบว่ากองทุนที่คนนำเสนอว่าดีน่าสนใจเช่น Cloud พบว่าจะมีการจัดสรรสูงในช่วงแรกๆของการระบาดของ covid แต่ต่อมาก็จัดสรรน้อยลงมาก และราคาก็ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวช้าลงด้วยในระยะหลัง สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่ได้ตามโปรแกรม optimization รวมทั้งพวก emerging market ที่นักวิเคราะห์หลายสำนักทั้งเมืองไทยและต่างประเทศพูดถึงกันมากแต่พอดอลลาร์กลับมาแข็งค่าราคาก็เคลื่อนไหวบวกช้าลง (ตรงกับผลของการใช้โปรแกรม optimization อย่างน่าแปลกใจครับ)
ต่อมา ทำการสร้างแบบจำลองเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 5 กองทุนที่ลงทุนอยู่แล้ว กลุ่มที่ 2 คือ 5 กองทุนเดิม บวกด้วยกองทุนใหม่อีก 2 อันเป็นเรื่องของเทคโนโลยีจีนและพันธุกรรม genomic ซึ่งสนใจที่จะลงทุน และมีตัวชี้วัดอีกตัวคือ msci thailand (THD)
ก็ได้ผลออกมาน่าสนใจทีเดียว กล่าวคือในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาหุ้นไทยชนะกองทุนต่างประเทศอยู่ 2 เดือน และบ่งว่าแต่ละเดือนกองทุนแต่ละอย่างให้ผลตอบแทนต่างกัน การเพิ่มกองทุนชนิดใหม่เข้ามาทำให้การจัดสรรต่างไปจากเดิมพอสมควร (ทำให้ยากต่อการตัดสินใจว่าควรจะเพิ่มดีไหม และคุ้มความเสี่ยงหรือเปล่า)
การรันโปรแกรม optimization ทั้ง 2 กลุ่ม และวิธีการจัดสรรล่าสุดที่ใช้อยู่พบว่า new economy new technology ให้ผลดีที่สุดโดยเฉลี่ย

คำถาม

1. หุ้นเทคโนโลยี ลงทุนระยะยาวได้หรือไม่ ถ้าลงทุนระยะยาวได้จะวางวิธีการอย่างไร

- มีหุ้นเทคโนโลยีหลายตัว ที่ดำเนินกิจการมานับ สิบปี และก้าวหน้าด้วยดี เป็น คำตอบว่าลงทุนระยะยาวได้ วิธีการลงทุนที่ใช้ ในระยะแรก เลือกซื้อ etf ที่มีการบริหารพอร์ต มีการคัดสรรหุ้นเข้าและออกอย่างเป็นระบบ ส่วนการจัดสรรปริมาณเงินลงทุนเท่าใดใช้วิธีการยืดหยุ่นตามการเคลื่อนไหวของราคา

2. etf ต่างประเทศตัวหนึ่งๆ จะมีหุ้นอยู่ 30 ถึง 50 ตัวและมีขนาดใหญ่มีการปรับน้ำหนักไปมาในแต่ละสัปดาห์ ความผันผวนค่อนข้างสูงอย่างกรณีเกิด gamestop กองทุนของผมจากกำไร 4-5 เปอร์เซ็นต์ กลายมาเป็นเสมอตัว ในทันทีจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ตอนนี้ใช้วิธีซื้อสัปดาห์ละ 25,000 บาท

- การปรับตัวขึ้นและลง ครั้งละหลายๆ เปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการสร้างพอร์ต ขณะนี้มีกำไรที่ 8% นับว่ามีความสามารถในการรองรับความผันผวนระดับหนึ่งแล้ว การจัดสรรใส่เงินลงทุนต้องไม่มากจนเกินไป จนส่งผลให้ส่วนต่างกำไรแคบลง และหากขึ้นถึงระดับ 10% ขึ้นไปก็จะยิ่งดี

3.ถ้าเราซื้อ etf ต่างประเทศโดยตรงเองก็ต้องลงทุนจำนวนเงินค่อนข้างมากและค่าใช้จ่ายต่อครั้งค่อนข้างสูงไม่สามารถจัดสรร การลงทุนได้บ่อยๆ เทียบกับการลงทุนผ่านกองทุนในประเทศ FIF มีข้อดีข้อด้อยอย่างไร (แต่ปัญหาที่ผมเห็นอยู่คือเวลาขายกว่าจะได้เงินนานมาก แต่เวลาซื้อตัดเงินทันที และต้องรอเวลามานานมากกว่าจะหันมาเปิดกองทุนที่เราสนใจ)

- ก่อนพิจารณาข้อดีข้อด้อย ให้ทำการศึกษาองค์ประกอบของ etf และวิธีการจัดการเสียก่อน

- ทำการ optimization etf ของกลุ่ม ARK ไปในกลุ่มด้วยกันเองและเทียบกับกลุ่ม ของ Vanguard


4. ในระยะยาวกองทุนแต่ละกองให้ผลตอบแทนเดือนหนึ่งมากบ้างน้อยบ้าง (ดูจากผลของโปรแกรม optimization) เราจะปรับกองต่างๆ เข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะตั้งแต่มีนาคม 63 ดี หรือตั้งแต่เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐดี หรือ ทำแบบเดิมดีแล้ว ปัจจัยอะไรที่บอกว่าวิธีไหนดีที่สุด เราจะหาคำอธิบายในเรื่องนี้อย่างไร

- เท่าที่พิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่าการมองช่วงหลังเลือกตั้งสามารถนำมาเป็นแนวทางกว้างๆได้ สำหรับวิธีที่ใช้อยู่คือการเปลี่ยนแปลงของราคาต่ำสุดสูงสุดน่าจะเหมาะสมดีอยู่แล้ว เพราะเป็นการปรับตามราคาในช่วงไม่เกิน 30 วันที่ผ่านมาซึ่งสอดคล้องกับการพิจารณาหลังจากการเลือกตั้งสหรัฐ

5. กองทุนที่ลงทุนต่างประเทศ บางกองไม่ประกันอัตราแลกเปลี่ยนเลย บางกองประกันบางส่วน แต่ก่อนเคยลงทุนกองทุนต่างประเทศในลักษณะรายประเทศ ปรากฏว่าอัตราแลกเปลี่ยนกินหมด ผมจึงมีข้อกำหนดว่ากองทุนที่ซื้อจะต้องมีผลตอบแทนอย่างน้อย 2-3 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนขึ้นไป ใช้ได้หรือไม่ ถ้าประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเราย่อมได้รับผลบวกจากค่าเงิน แต่ถ้าค่าเงินบาทแข็งมากๆก็อาจสร้างปัญหาได้ ถ้าเมื่อใดเงินบาทแข็งค่าเร็วกว่าผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนต่างประเทศ เราควรทำอย่างไร และอะไรเป็นจุดตัดสินใจว่าจะเลิกลงทุนในกองทุนต่างประเทศ ( จากโปรแกรม optimization มี msci thailand เป็นตัวแทน จะออกแบบกระบวนการตัดสินใจอย่างไร จึงจะเหมาะสม?)

- จับตาดูการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ DXY เป็นตัวแทน

- สร้างโมเดลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับค่าเงินบาท โดยมีกรอบการตัดสินใจดังนี้ อันดับแรกเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 2 เดือนมากกว่า 2% อันดับที่ 2 ไม่มี etf ต่างประเทศใดที่ให้ผลตอบแทนเกินกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน

6. มีปัญหาอื่นที่เราต้องคิดล่วงหน้าอีกบ้างไหม เช่นปัญหาฟองสบู่แตกแบบดอทคอมเมื่อปี 2000 แล้วเราจะจับสัญญาณเหล่านี้ได้อย่างไร

- เฝ้าติดตาม ข่าวสาร และ บทวิเคราะห์ จากต่างประเทศ อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะจาก สำนักข่าวหลักอย่าง Bloomberg , Goldman Sachs , Morgan Stanley,WSJ

7. เราจะจับสัญญาณการพักฐานครั้งใหญ่ในต่างประเทศโดยวิธีใด เมื่อกำไรขึ้นไปถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์แล้ว ควรหยุดจัดสรรเงินลงทุนหรือไม่ ( หากตลาดปรับฐานใหญ่ 20% ก็ยังมีกำไรอีก 20%) หรือ รักษาอัตรากำไรเมื่อลงทุนใหม่แล้วหลังหักค่าใช้จ่ายต้องมีกำไรอย่างน้อย 30 % เสมอจะเหมาะสมดีหรือไม่

- ศึกษาเปรียบเทียบดัชนี 2 ตัวคือ VIX และ NASDAQ

- สร้างแบบจำลอง ที่จะใช้ เพื่อตอบโจทย์เรื่องนี้ ซึ่งต้องศึกษาเพิ่มเติม


8. การซื้อหุ้นต่างประเทศรายตัว ยังจะสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ การขยายตัวของกองทุน etf มีเพิ่มขึ้นมากและมีการดูแลการคัดสรรหุ้นที่ต่างไปจากเดิม เราจะเลือกหุ้นบางตัวจากในลิสต์ของ etf นั้นๆ ดีหรือเปล่า เพราะเราไม่ได้สัมผัสสินค้าและบริการของบริษัทนั้นๆด้วยตนเอง ใน etf บางตัว ให้รายละเอียด รายชื่อหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด จากการติดตามพบว่าบางครั้งขนาดสินทรัพย์ etf โตเร็วกว่าราคาตัวแทนของ etf และบางครั้งขนาดของ สินทรัพย์ etf ลดลงมากกว่า ราคาตัวแทนของ etf นั้นๆ
หรือเราจะเอาหุ้นทั้ง 30 หรือ 50 ตัวมาทำ optimization แล้วเลือกขึ้นมาอีกทีหนึ่งดี

- แนวคิดที่ว่าถ้าลงทุนหุ้นรายตัวเองดี แปลว่าเรามีความสามารถมากกว่าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ เครดิตสวิส หรือ morgan stanley หรือเปล่า ?

- เรามีความสามารถจับ mega trend ของหุ้นในต่างประเทศได้มากน้อยแค่ไหน ?

- การลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศ ซึ่ง บลจ. ได้คัดสรร etf และ ผู้บริหารกองทุนมาแล้ว ผ่อนแรงเราพอสมควร ปัญหาคือ การเปิดกองทุนใหม่ๆ เราจะหาข้อมูลได้จากที่ไหน (ระบบ API ของ กลต. ใช้ได้หรือไม่?) บลจ. เหล่านั้น มีแนวคิดอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเคลื่อนไหวช้ากว่าตลาดต่างประเทศมาก แล้ว อนาคตจะเป็นอย่างไร ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนหรือเปล่า


หมายเหตุ
ผมอายุมากแล้วใกล้จะ 70 ปี เริ่มลืมเลือนบ้าง บางครั้งสรุปบทเรียนแล้ว แต่เมื่อเร็วๆนี้ก็ยังทำผิดซ้ำอีก จึงหวังว่าเว็บบอร์ดนี้จะช่วยให้ผมสามารถไม่ลืมเลือน และมีมุมมองที่กว้างขึ้น และเป็นเสมือนสมุดโน๊ตของตนเองไปในตัว ครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นครับ

tech01-graph.png

tech01-sheet.png

tech01-source-1.png

tech01-source-2.png

tech01-source-3.png

tech02-graph.png

tech02-sheet.png

tech02-source-1.png

Transaction01_LI.jpg

trend01_LI.jpg

ark-graph.png

ark-sheet.png

ark-source-1.png

ark-source-2.png

[tritep009]

แหล่งข้อมูล Source Code : Portfolio Optimization

https://github.com/Hvass-Labs/FinanceOps


แหล่งข้อมูล Source code : การดึงข้อมูลงบการเงิน ผ่าน Yahoo Finance

https://python-yahoofinance.readthedocs ... t/api.html#

เป้าหมาย : ดึงงบการเงินของ ETF

ARKW ARK Next Generation Internet ETF
10 บริษัทแรก

-------------------------------------------------------------
Symbol Company Name

TSLA Tesla, Inc.
GBTC Grayscale Bitcoin Trust (BTC)
SQ Square, Inc.
TDOC Teladoc Health, Inc.
ROKU Roku, Inc.
SPOT Spotify Technology S.A.
SHOP Shopify Inc.
TCEHY Tencent Holdings Limited
API Agora, Inc.
Z Zillow Group, Inc.

[Linzhi]

ขอบคุณที่มาแชร์ครับ ผมอ่านไม่เข้าใจเลยอะ แต่คนอ่านรู้เรื่องน่าจะเป็นประโยชน์

ETF ผมว่าข้อดีก็เยอะ แต่ข้อเสียก็มี

การกระจายความเสี่ยงคือข้อดี แต่จริง ๆ thematic ETF ค่อนข้าง concentrate อยู่ในอุตสาหกรรมเดียว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มันก็จะกระทบแรงกว่าซื้อกองทุนดัชนีครับ

และมีบาง theme ผมว่าราคานำหน้าอนาคตไปไกลเกินไปนิดนึง

[tritep009]

โปรแกรม Portfolio Optimization ที่นำมาศึกษา กว้างๆ คือ เขาพยายาม จัดโครงสร้างการลงทุน
โดยใช้การเปลี่ยนแปลงของราคาแต่ละวัน (มีทั้งบวกและลบ) มาเป็นเครื่องมือ
แต่ Sharpe Ratio ของ โปรแกรมนี้ ไม่มีการหัก Risk Free Rate
(อาจจะเป็นเพราะดอกเบี้ยพันธบัตรต่ำมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน)

วิธีการของเขาคือ ทำการ Random สร้าง โครงสร้าง Port ขึ้นมา
ซึ่งสามารถกำหนด จำนวนของการ Random ได้ อาจจะ 50000 ครั้ง หรือ 200000 ครั้ง
(ที่สามารถทำได้เพราะ โปรแกรมนี้ทำงานภายใต้ Colab ซึ่งเป็น บริการของ google ใช้พัฒนา application ด้าน AI
มี computer กำลังสูงให้ใช้งานฟรี !)

จากนั้นแสดง ผลลัพท์ เป็นสองแบบ
แบบแรก highest Sharpe Ratio จัดโครงสร้างแล้วการผันผวนจะสูง
เลือกเอาอันที่ค่าสูงที่สุดมาแสดงผล

แบบที่สอง minimum standard deviation เลือกเอาอันที่ค่าความผันผวนต่ำสุดครับ
ซึ่งผลตอบแทนย่อมต่ำลง

[tritep009]

แหล่งข้อมูล Source code : การดึงข้อมูลงบการเงิน ผ่าน Yahoo Finance

https://pypi.org/project/yahoofinancials/

เป้าหมาย : ดึงงบการเงินของ ETF

ARKW ARK Next Generation Internet ETF
10 บริษัทแรก

-------------------------------------------------------------
Symbol Company Name

TSLA Tesla, Inc.
GBTC Grayscale Bitcoin Trust (BTC)
SQ Square, Inc.
TDOC Teladoc Health, Inc.
ROKU Roku, Inc.
SPOT Spotify Technology S.A.
SHOP Shopify Inc.
TCEHY Tencent Holdings Limited
API Agora, Inc.
Z Zillow Group, Inc.

ผลการทดสอบ
เนื่องจาก GBTC-Grayscale Bitcoin Trust (BTC) ไม่มีงบการเงินให้ดึงได้จึงเลื่อน
อันดับที่ 11 ขึ้นมาแทน คือ NetFlix แทน และพบปัญหา บาง ไตรมาสไม่มีข้อมูล
(ของ บริษัท API ข้อมูล แสดงเป็น "-" แทนตัวเลขปกติ)
ทำให้ต้องไปปรับแต่งใน Worksheet แทน

ผลการทดสอบเบื้องต้น:
https://docs.google.com/spreadsheets/d/ ... ak/pubhtml#

อ่านผ่านๆ ใน 10 บริษัท มีเพียงสอง บริษัท ที่มีกำไรสะสมเป็นบวก
แต่ข้อดีคือ ทุกบริษัท Cash Flow ดี (ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติม)

[tritep009]

การดึงข้อมูล งบการเงิน กลุ่ม Digital Healthcare 10 บริณัทแรก ล่าสุด
refer link : https://amfunds.credit-suisse.com/ch/en ... 1683285164

TDOC Teladoc Health, Inc.
DXCM DexCom, Inc.
GH Guardant Health, Inc.
ZLAB Zai Lab Limited
VEEV Veeva Systems Inc.
NVCR NovoCure Limited
SDGR Schrödinger, Inc.
NUAN Nuance Communications, Inc.
EXAS Exact Sciences Corporation
TXG 10x Genomics, Inc.


ผลคล้ายกับ ของ ARKW มองอนาคต
กระแสเงินสดดี (ต้องตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง)
Link :
https://docs.google.com/spreadsheets/d/ ... Ez/pubhtml

[tritep009]

การดึงข้อมูล งบการเงิน กลุ่ม CLOUD (10 บริษัทแรก)
Refer Link : https://www.globalxetfs.com/funds/clou/
CLOU Global X Cloud Computing ETF

ZS Zscaler, Inc.
TWLO Twilio Inc.
SHOP.TO Shopify Inc.
FSLY Fastly, Inc.
PFPT Proofpoint, Inc.
PLAN Anaplan, Inc.
WDAY Workday, Inc.
DBX Dropbox, Inc.
COUP Coupa Software Incorporated
XRO.AX Xero Limited


ทำให้เห็นความเสี่ยงที่ชัดเจนขึ้น (ต้องศึกษาเพิ่มเติม)
งบ ไตรมาส 4-2563 ยังไม่ค่อยออก ต้อง run ดูทุกวัน และดูการเคลื่อนไหวของราคาประกอบ

Link :
https://docs.google.com/spreadsheets/d/ ... gi/pubhtml

[DonaldduckVI]

ขอบคุณมากๆครับผม

[tritep009]

คำถาม ข้อ 8
ตอนแรกอาจเขียนไม่ชัดเจนครับ ที่ว่า

" ใน etf บางตัว ให้รายละเอียด รายชื่อหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด จากการติดตามพบว่าบางครั้งขนาดสินทรัพย์ etf โตเร็วกว่าราคาตัวแทนของ etf และบางครั้งขนาดของ สินทรัพย์ etf ลดลงมากกว่า ราคาตัวแทนของ etf นั้นๆ "

ข้อมูลจริงเป็นดังนี้ครับ
ARKW : เทียบต่อสัปดาห์ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ราคาเพิ่มขึ้น สัปดาห์ต่อสัปดาห์ 10.70 % แต่เมื่อไป Download รายละเอียดของ ETF ซึ่ง
มีจำนวนหุ้นราว 50 ตัว รวมผล Market Value เทียบกับ สัปดาห์ก่อน เพิ่มขึ้น 19.46 % หรือ สัปดาห์ถัดมา ราคา ARKW เพิ่มขึ้น 6.64 %
แต่ ผลรวม Market Value เพิ่มขึ้น 16.45 % จะ ตีความว่า มีเงินไหลเข้ากองทุน ถูกต้องหรือไม่ครับ

CLOU : เทียบต่อสัปดาห์ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ราคาเพิ่มขึ้น สัปดาห์ต่อสัปดาห์ 7.42 % แต่เมื่อไป Download รายละเอียดของ ETF ซึ่ง
มีจำนวนหุ้นราว 30 ตัว รวมผล Market Value เทียบกับ สัปดาห์ก่อน เพิ่มขึ้น 6.93 % หรือ สัปดาห์ถัดมา ราคา CLOU เพิ่มขึ้น 1.18 %
แต่ ผลรวม Market Value เพิ่มขึ้น 1.05 % จะ ตีความว่า มีเงินไหลออกเข้ากองทุน ถูกต้องหรือไม่ครับ

[Eakchai56]

ไม่รู้เรื่องเลยครับ ขอแค่เข้ามากราบความเก่งกาจของคนอายุมากใกล้จะ 70 ปี

[tritep009]

ผมนึกถึง บรรยายกาศ ที่ สยามเซ็นเตอร์ ตลาดหลักทรัพย์จะอยู่ตรงโถงกลาง และมี บริษัท Broker ตั้งอยู่ รอบๆ ส่วนใหญ่อยู่ ชั้น 4 สำนักงานที่ผมทำงานอยู่ อยู่ตรงหัวมุม บันไดเลื่อน พอดี พนักงานการตลาด มักเป็นสุภาพสตรี ใส่ สูท สีน้ำเงิน ข้างหลังปักชื่อ ย่อ ของ Broker นั้นๆ หาก เดินไปที่ โถงใน ของตลาดหลักทรัพย์ จะพบ พนักงาน ของ Broker ถือ กล้องส่องทางไกล ส่องไปที่กระดาน ไวท์บอร์ดสีขาว ที่พื้นล่าง จะมี พนักงาน ของ Broker ต่างๆ คอยวิ่งแย่งกัน เคาะกระดาน ส่วนมากเป็นผู้ชาย สมัยนั้น เขา ส่งผมไปเรียน การวิเคราะห์ ที่ใช้ ตาราง แล้ว มี ตัว o กับ x ผมจำชื่อไม่ได้แล้วครับ Candle Stick ยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ผมไม่สนใจ เขาเลยให้ผมมาทำงานด้าน Computer แทน หาก สมาชิกท่านใด ร่วมสมัย กรุณา มา กด like ให้ด้วยครับ

[romee]

1.ถ้ามีเงินเพียงพอกับการเปิดพอร์ตขั้นต่ำ การไปซื้อETFเองที่ตปท. ก็น่าสนใจกว่านะครับ
แต่ถ้าเงินยังน้อยอยู่ ซื้อผ่านกองทุนในไทยก็ดี แต่ข้อจำกัดหลายๆเรื่องก็อย่างที่คุณพี่ จขกท. บอกนั้นละครับ

2.ส่วนซื้อรายตัว ผมว่าหลักคิดก็ไม่ต่างอะไรกับหุ้นไทย หรือซื้อกองทุนไทยดี
คือถ้ามี"เวลา" และ"ใจรัก+สนุก"กับการศึกษาหุ้นตปท. ผมก็คิดว่ารายตัวดีกว่าอยู่แล้ว
ยิ่งตอนนี้ เวบนี้มีห้องหุ้นตปท. แบบรายตัวช่วย นักลงทุนไทยได้มากขึ้นแล้วนะครับ

3.ระดับพี่ เขียนpython ใช้colabดึงข้อมูลแบบนี้ แถมทำmodelได้ อันนี้ไม่ธรรมดาแล้วละครับ
ขอตอบข้อ6+7 เรื่องการจับสัญญาณต่างๆ เพื่อหาจุดหนี จุดขาย...ถ้าดูจากที่พี่ใช้เรื่องแนวโน้มราคา มาเป็นจุดเข้าซื้อเพิ่ม บางทีการใช้แนวโน้มขาลงของราคาเป็นจุดหนีตาย ก็อาจจะดูsimpleดี ส่วนกลยุทธ์จะล็อกกำไรมั้ย ลองbacktest ดูเลยครับ (แต่ส่วนตัวไม่ชอบกลยุทธ์การล็อกกำไร)

[tritep009]

อ่านบทความเกี่ยวกับ Cloud Computing นี้แล้ว https://www.infoworld.com/article/36017 ... -2021.html
(เดือน ธันวาคม 2563) ทำให้ผมต้องหันมาทบทวน การลงทุนใน ETF ที่เกี่ยวกับ Cloud
ข้อแรก ETF ที่ลงทุนอยู่เป็น บริษัท ขนาดเล็ก ในขณะที่ บทความนี้ระบุว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ ได้ประโยชน์
(ซึ่งไปอยู่ใน ETF อีกตัวหนึ่ง และยังจัดสัดส่วนที่น้อยกว่า)
ข้อสอง ปรับปรุง โปรแกรม การเรียกดูงบของกลุ่มนี้ โดยเพิ่ม เรื่องของการ
เปรียบเทียบ การเปลี่ยนแปลงของ Revenue (ในรูปดัชนี) แต่เนื่องจาก การปิดงวดบัญชี
ไม่พร้อมกัน จึงนำมารวมไม่ได้ ต้องดูเป็นราย บริษัท
ข้อสาม จากการทำงานด้าน IT ทำให้รู้ว่า ปัญหาที่ฝ่ายๆ อื่นๆ มอง หน่วยงาน IT
ว่า ใช้เงินมาก หาคนยาก เงินเดือน สูง แต่มักมีปัญหาให้ฝ่ายบริหาร ปวดหัวบ่อยๆ
มองในระยะยาวแล้ว คนที่ให้บริการด้าน Cloud Computing นับว่าเป็นข้อได้เปรียบ
แต่เข้าไปดูการ SETUP และ ดูแล ระบบ Cloud ของเจ้าใหญ่ ดูแล้ว ยังยากอยู่มาก สำหรับ
คนที่ไม่มีทักษะ แม้แต่คนด้าน IT ก็ยังยาก และ ขาดมาตราฐานกลางที่ใช้ร่วมกัน
( จากข่าว AWS ก็ยังจะต้องจัดอบรม การใช้งาน และ อบรมที เดียวมากกว่า 20 ล้านคน)
จากจุดนี้จะเห็นว่า บริษัท ขนาดเล็ก ที่ทำธุรกิจที่ให้บริการแบบเดียวกับ บริษัทใหญ่ น่าจะเสียเปรียบ
เว้นแต่หันไปทำ ธุรกิจที่เสริมกับการให้บริการของบริษัท ขนาดใหญ่

[tritep009]

แนวคิด
เพื่อเปรียบเทียบ ความเสี่ยง ในแต่ละ ETF โดยมองจาก
ปัจจัยพื้นฐาน ผ่านงบการเงิน ของ 10 บริษัทแรกของ ETF นั้น
ยังอยู่ในระหว่าง หา ratio หรือ ปัจจัย ที่มาใช้ชึ้วัด
เนื่องจาก บริษัท ด้าน Technology มักขาดทุนในช่วงแรกๆ
**********************************************************
Risk Scoring (high=bad)
Net Income Last QTR ( < 20% = 1)
Revenue Index Last QTR(<120 = 1)
Op. Exp. Faster Than Rev. (Last QTR)
Current Ratio Last QTR ( < 3 = 1)
D/E Last QTR ( >2.5 = 1 )
**********************************************************
กลุ่ม Cloud : link
https://docs.google.com/spreadsheets/d/ ... gi/pubhtml

กลุ่ม New Economy , New Technology : link
https://docs.google.com/spreadsheets/d/ ... hE/pubhtml

กลุ่ม Digital Health : link
https://docs.google.com/spreadsheets/d/ ... Ls/pubhtml

[tritep009]

การวิเคราะห์ เชิงพื้นฐาน
ETF กลุ่ม Big Tech.

AAPL Apple Inc.
MSFT Microsoft Corporation
AMZN Amazon.com, Inc.
GOOG Alphabet Inc.
TCEHY Tencent Holdings Limited
FB Facebook, Inc.
TSLA Tesla, Inc.
BABA Alibaba Group Holding Limited
TSM Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Limited
V Visa Inc.

link:
https://docs.google.com/spreadsheets/d/ ... Mn/pubhtml

[tritep009]

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
กลุ่ม Emerging Market

0700.HK Tencent Holdings Limited
BABA Alibaba Group Holding Limited
2330.TW Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Limited
TSM Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Limited
3690.HK Meituan
NPN.JO Naspers Limited
RELIANCE.BO Reliance Industries Limited
JD JD.com, Inc.
2318.HK Ping An Insurance (Group) Company of China, Ltd.
0939.HK China Construction Bank Corporation

link:
https://docs.google.com/spreadsheets/d/ ... _A/pubhtml

[tritep009]

แนวคิดเบื้องต้นในการจัดสรร

[tritep009]

ผมกำลัง เฝ้ารอ ETF พันธ์ผสม เอา จุดเด่นของ ตลาดหุ้นไทย บวกจุดเด่นของ ตลาดหุ้นต่างชาติ หรือจะเป็นกองทุนแบบผสม แต่แทนที่จะเป็นตราสารหนี้ กับหุ้น ก็เป็น หุ้นไทย บวก หุ้นต่างประเทศ ถ้าให้ดี จดทะเบียนในตลาด แบบเดียวกับ TDEX ตลาดไทยจึงจะน่าสนใจมากขึ้น

ผมไม่อยากให้ เคยเรียนมาอย่างไร ก็ ทำอย่างนั้น ต่างชาติ เขาแบ่งตาม Sector ก็ตั้งหน้าตั้งตา ทำตามเขาไปเรื่อยครับ

[tritep009]

ลองทดลอง สร้าง Port เอง โดยใช้ ETF ที่มีในตลาด ผ่าน โปรแกรม Optimization
(ซึ่งต้องตรวจสอบต่อ และเพิ่มเติมเรื่อง การทำ Backtest ในการยืนยันผลของการสร้างแบบจำลอง)
MY ETF
ประกอบด้วย ["TDEX.BK","EBANK.BK","ENY.BK","CHINA.BK","GLD.BK"]
MY VI
ประกอบด้วย ["CPALL.BK","TCAP.BK","QH.BK","EASTW.BK","BCP.BK"]

ในแง่ Return ในยามวิกฤติ MY VI ให้ผลตอบแทนดีกว่าชัดเจน
(สำหรับผู้ที่รู้สึกเดียวดาด คงรู้สึกดีขึ้นครับ)

[tritep009]

สรุปบทเรียน ครั้งที่ 1
- ระบบงานต่างๆ ควรทำก่อนลงมือลงทุน (จุดอ่อนคือเมื่อไม่มีเงินมาเกี่ยวข้องก็ไม่กระตือรือล้นจะทำ)
- การจัดสรร การลงทุนช่วงแรกๆ ทำได้ไม่ดี โดยเฉพาะ กลุ่ม Cloud ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าที่ควร ทั้งที่ การเปลี่ยนแปลงของราคาอยู่ในเกณฑ์ 8-9 % ต่อเดือน
- การจัดสรร ทุก 7 วัน ควรปรับวิธีการใหม่ การจับจังหวะเวลาควรหาตัวชึ้วัดอื่นๆมาประกอบ

ภาพรวมของ การจัดสรร และ ระดับความเสี่ยง ที่มองผ่านงบการเงิน (ต้องปรับปรุงอะไรอีกหรือไม่ ?)

แผนระยะถัดไป
จัดทำ กรอบการพัฒนาระบบ
- Function#1 การสุ่มเลือกหุ้น / ETF
- Function#2 การทำ Optimization
- Function#3 การทำ Backtest และ การ verify ผลลัพท์
- Function#4 Output และ UI (User Interface)

การมองหา Mega Trend
1. ผ่านงบการเงิน (ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานแทน)
2. ผ่าน google trend

# https://github.com/GeneralMills/pytrends
# https://github.com/pat310/google-trends ... Categories

[tritep009]

ข้อมูลจาก google trend
ความสนใจต่อ ETF ตระกูล ARK

[vilage]

อายุ 70 เขียน python ใช้ colab ทำ models ทันสมัยมาก
นับถือจริงๆครับ

[tritep009]

พัฒนาระบบ เตือน ความผันผวน โดยใช้ ข้อมูล
VIX ราย 60 นาที

[tritep009]

ในทัศนะของผมเกี่ยวกับการขาดทุนของ บริษัท ด้าน Technology
โดยส่วนตัวผมคิดว่า ผมยอมให้ ขาดทุน ติดต่อกันไม่เกิน 6 ไตรมาสครับ
เพราะ ถ้าสินค้าและบริการที่ นำเสนอ ไม่สามารถ ติดตลาดได้ภายใน 18 เดือน
ผมคิดว่ามีความเสี่ยง ในเรื่อง สินค้าและบริการนั้น ล้าสมัย มากขึ้น
ถ้าเป็น ด้าน Digital Healthcare ผมให้ 10 ไตรมาสครับ เพราะเป็นของใหม่และ
ผู้ใช้บริการต้องเรียนรู้ อาจมี Learning Curve ที่นานขึ้น และการทดสอบเพื่อหาผลลัพท์
น่าจะใช้เวลาที่นาน
ข้อสังเกตุ บริษัท ยักษ์ใหญ่ด้าน Technology มีลักษณะ เป็น Software as a Service
(CPALL ก็ขายบริการด้านความสะดวกมากกว่าการขายสินค้า)
เป็นการขายบริการ - Facebook Microsoft Google AWS ในขณะที่ IBM สมัยก่อนนั้นขาย บริการ
แต่บวก Hardware และ สินค้ามีความสลับซับซ้อน ไม่คุ้ยเคย กับการทำให้ทุกอย่าง ดูง่ายๆ
เช่นเดียวกับ Oracle ที่ ขายสินค้าเรื่อง ฐานข้อมูลเป็นหลัก แต่ค่าบริการหลังการขายและการปรับรุ่น
สินค้าสูงมาก Oracle เคยคิดเรื่อง Computer แบบ พกพา (Smart Phone) มาก่อนใคร
ตั้งแต่ยุคปี 2000 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อาจเพราะขาดความเข้าใจในมุมมองของผู้บริโภค และ
ความพร้อมของตลาดยังไม่สูงมากพอ หลังๆ ก็เริ่มสูญเสียความเป็นผู้นำใน
ด้าน Technology นี้ลงไปเรื่อยๆ (ยักษ์ใหญ่ ทั้งหลายวันหนึ่งก็จะเป็นแบบนี้)
การวิจัยและพัฒนา เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดูจากการวิเคราะห์งบที่ผ่านมา ในกลุ่ม Cloud , Digital Healthcare
กลุ่มละ 10 บริษัท พบว่ามีค่าใช้จ่าย ด้านนี้สูงในขณะที่ รายได้ ยังไม่เติบโต เทียบกับ กลุ่ม Big Tech
ถึงจะมี ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าในเรื่องนี้ แต่สามารถ ใช้การ M&A แทนได้ ในขณะที่ บริษัท ขนาดเล็ก ทำไม่ค่อยได้
เท่าที่่ศึกษา พบบ้างที่ บริษัท ในกลุ่ม Digital Healthcre ใช้ การ M&A ในการขยายตัว
ภาพข้างล่างคือผลสรุปที่ Run ข้อมูลเมื่อเช้าวันที่ 2021-02-27 ครับ

[tritep009]

Link ข้อมูล ETF
https://money.usnews.com/funds/search?c ... =returnytd

[tritep009]

การมอง ETF as a Technology Company
แนวคิดเบื้องต้น
- บริษัทด้าน Technology นั้น มี Business Life Cycle ที่ไม่ยาว
- มีการขาดทุนในระยะแรกมากและมีความไม่แน่นอนในการทำให้สินค้าและบริการ ติดตลาด
- ใช้งบประมาณด้านวิจัยและพัฒนาสูง
- มีการแข่งขันกันอย่างมากและเสียเปรียบ บริษัท Technology ขนาดใหญ่
- การประเมินมูลค่าแท้จริงในระยะยาวทำให้ถูกต้องได้ยาก

สิ่งที่กำลังมองหาคือ ETF ที่ลงทุนใน สาย Technology และ Innovation โดยมุ่งหวังให้ ETF นั้น
สามารถลงทุนในระยะยาวขึ้น กว่าการลงทุนใน บริษัทที่ ดำเนินการเรื่อง Technology และ Innovation โดดๆ
และมีความเสี่ยงที่ลดต่ำลง

ส่วนตัวผมมองว่า ETF นั้นต้องทำตัวดังนี้
- มอง บริษัท ต่างๆ ที่ลงทุนเป็น ศูนย์กำไร (Profit Center)
- มอง บริษัท ต่างๆ ที่ลงทุนเป็น เสมือน แผนกๆ หนึ่ง ใน บริษัทใหญ่ ผลงานดี ก็ขยายงาน ถ้าขาดทุนก็ยุบทิ้ง (เอาออกจาก list การลงทุน) หรือ หยุดขยายการลงทุนเมื่อไม่มีผลงานดีเด่น
- มีการนำเข้าบริษัท มาลงทุนใหม่ เพิ่ม อย่างสม่ำเสมอ (เสมือนหนึ่งตั้งแผนกงานใหม่ เพื่อหารายได้เพิ่ม และ ยืด Business Life Cycle ออกไป)
- ไม่ปรับโครงสร้างกองทุนบ่อยจนเกินไป จนเข้าลักษณะการเก็งกำไร

Source การค้นหา :
1. https://money.usnews.com/funds/search?c ... =returnytd
2. https://www.funds.reuters.wallst.com/US ... sp?reset=1
3. https://www.morningstar.com/sector-equity-etfs

กรณีไม่สามารถหาได้ ให้พิจารณา ETF ที่ใกล้เคียงที่สุด โดยต้องเป็น ETF ที่เปิดเผยรายชื่อบริษัท ที่ไปลงทุน
อย่างครบถ้วน และ ได้รับการ Ranking ในด้านการจัดการที่น่าเชื่อถือได้ ขั้นต่อมา ทำการ เจาะลึกราย บริษัท
ที่เห็นการเปลี่ยนแปลง % การลงทุน อย่างมีนัยยะสำคัญ โดย เน้น การเติบโตของรายได้ และแผนธุรกิจ
(เพื่อเป็นตัวเลือกในการลงทุนโดยตรงในอนาคต)

[tritep009]

หาข้อมูลและดูแนวคิดของ Cathie Wood ในรายการของ CNBC ครับ

Ark's Cathie Wood on 'deep value' stocks

https://www.youtube.com/watch?v=atjQcRX ... Television


จากการสัมภาษณ์ พูดถึง PALANTIR TECHNOLOGIES INC เข้าไปค้นข้อมูลที่เก็บไว้
ใน ARKW วันที่ 15 มค. มีอยู่ 49.6 ล้านเหรียญ พอ มาวันที่ 1 มีนาคม เพิ่มเป็น 121.3 ล้านเหรียญครับ
โครงสร้างผู้ถือหุ้น
https://finance.yahoo.com/quote/PLTR/holders?p=PLTR

Website
https://www.palantir.com/

[tritep009]

ศึกษา ETF : XLK (technology) ที่อยู่ใน S&P500
ย้อนไปช่วงปี 2008-2011 พบว่า มีการปรับตัวจากจุดต่ำสุด ไปจุดสูงสุด คือ 12.94 ไป 27.09 คิดเป็น 209.35 % จากจุดต่ำสุด
เปรียบเทียบกับปัจจุบัน ปี 2020 ถึง 2021-03-16 ใช้เวลา เกือบปี ปรับตัวจาก จุดต่ำสุด 68.10 ไป 139.24 คิดเป็น 204.46% จากจุดต่ำสุด
ข้อสังเกตุ:
ต่ำสุดในเดือนมีนาคมเหมือนกัน
ปี 2020 ใช้เวลาสั้นกว่าในการปรับเพิ่มเป็น สองเท่า
จุดต่ำสุดปี 2020 ก็ยังคิดเป็นประมาณ 5 เท่า ของจุดต่ำสุดปี 2008-2009
ถือยาวมา 10 กว่าปีได้ ประมาณ 10 กว่าเท่า

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก Yahoo Finance และ Colab (บริการของ google) ที่ทำให้ได้เห็นภาพย้อนหลังที่ชัดเจนแบบนี้

[tritep009]

กรณีศึกษา
ETF ตระกูล ARK กับ ETF ของ S&P500
โดยใช้ Program Optimization หาค่าแบบเดือนต่อเดือน
จาก 2020-11-01 ถึง 2021-03-26
(ARK เป็น โทนสีดำ-เทา)

[tritep009]

กรณีศึกษา
ETF ตระกูล ARK กับ ETF ด้าน Technology ที่เป็น active fund
โดยใช้ Program Optimization หาค่าแบบเริ่มจากเดือนต่างๆ
เริ่มจาก 2020-11-01 จนถึงวันที่ 2021-03-26
เริ่มจาก 2020-12-01 จนถึงวันที่ 2021-03-26
..........
(ARK เป็น โทนสีดำ-เทา)