2020 Annual Outlook by Citibank
ตลาดหุ้นผันผวนในปี2019 (หุ้นต่างประเทศนั้นปิดบวกรวมไทยด้วย)
และ ปี 2018 ตลาดหุ้นก็หดตัว
ดังนั้นแนะนำว่าไม่ควรเก็งกำไรระยะสั้น
แต่ควรจัดสัดส่วนสินทรัพย์ให้เหมาะสม ลงทุนให้ถูกทาง
SET แย่กว่าตลาดทั่วโลก การกระจายการลงทุนเป็นสิ่งที่ควรทำ
เศรษฐกิจโลกโต 2.6% ยังมีความเสี่ยงในเรื่อง
-ภาวการณ์ถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
-ความเสี่ยงทางการเงิน
ส่วนภาคการผลิตนั้
-เอกชนคาดการณ์ว่าผู้บริโภคใช้จ่ายในสหรัฐไม่ดี แต่จริงๆนั้นดี เศรษฐกิจสหรัฐยังดี
-FOMC ปีนี้ไม่ขยับดอกเบี้ยอีก ส่วน EU ก็ไม่ขึ้นดอกเบี้ย ,UK อาจลดดอกเบี้ยจากBrexit
-จีน ใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่
Earning บริษัทจดทะเบียนของโลกยังโต 7%
-Dividend ปันผลค่อนข้างดี เป็นThemeของเราCitibankในปีนี้
-ปันผลดี เพราะผลตอบแทนตราสารหนี้ลดลง ทำให้เงินปันผลของหุ้นปันผลดูน่าสนใจมากขึ้น
-การถือหุ้นปันผล สามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนได้
ความถูกและแพงของหุ้น (Valuations)
- US แพงสุด
- EM , UK , JP ยังถูก
ดังนั้นปีนี้ การขยับไปลงทุนหุ้นราคาถูก เป็น Themeของปีนี้
ความเสี่ยงระดับประเทศ US ทำสงครามการค้ากับหลายประเทศ
และยังความเสี่ยงจาก
- การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐในปลายปีนี้
- Trade war US-China Phase II , III ตกลงกันได้หรือไม่
- Hongkong เศรษฐกิจชะลอตัว
- UK ดูในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้หลังจาก Brexit
Citibank แนะนำให้กระจายความเสี่ยงลงทุนในสินทรัพย์
Key Takeaways
1.กองทุน Low volatility ซึ่งกระจายความเสี่ยงไปที่หุ้นในหลายประเทศ
: Gold , Multi asset , Long/short + Alternatives
2.Pivot to Growth Opportunity :Asia GDP โต 5.2%
PE 14 เท่า และเงินปันผล 2.6%
การเติบโตในภูมิภาคเอเชีย การขยายผังเมือง การเติบโตของประชากร
จีนมีการบริโภคที่ดี ทำให้การลงทุนในเอเชีย มีประสิทธิภาพมากขึ้น
: Asian Equities , Health Care Sector
3.ผลตอบแทนตราสารหนี้ / เงินปันผล คือ การลงทุน Hunt for Yield
ลงทุนในBond อายุ 5-10ปี สามารถbalanceกับความเสี่ยงได้
Citibank จะoverweight ในตราสารหนี้ของเอเชีย
: US Investment Grade Bonds , Emerging Market Debt(Asia) , Dividend Yielding Equities.
4.Pivot to Safe Haven Currencies
ลงทุนในค่าเงินที่ปลอดภัย สามารถช่วยลดความเสี่ยงลงได้
:Safe Haven Currencies may Benefit (JPY and Gold)
Update on Corona virus : impact on markets
ซึ่งอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าSARS
วันที่ 3 กพ ตลาดหุ้นจีนตกไป 8% แต่วันรุ่งขึ้น rebound กลับมา
ส่วนเศรษฐกิจไทยปีนี้ โต 2.2% ซึ่งการเติบโตลดลงจากไวรัส Corona
ดังนั้นควรกระจายการลงทุนไปที่ประเทศอื่นนอกจากไทยด้วย
-