"Starbuck Planner สุดยอดเครื่องมือการเงิน" โดยเพจ UpIdea

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
เด็กเลี้ยงไม้
Verified User
โพสต์: 983
ผู้ติดตาม: 0

"Starbuck Planner สุดยอดเครื่องมือการเงิน" โดยเพจ UpIdea

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โปรโมชั่นตาร์บัคส์แพลนเนอร์เริ่มต้นในสัอดาห์นี้ โดยต้องเติมเงิน 3,000 บาทพร้อมกับซื้อเครื่องดื่มพิเศษ 1 แก้ว ก็จะได้แพลนเนอร์นี้มาครอบครอง หรือถ้าอยากได้แพลนเนอร์และกระเป๋าครบเซ็ทก็ต้องเติมเงืน 3,500 บาท
.
ด้วยความอยากรู้ผมเลยไปสอบถามจากร้านสตาร์บัคส์ใกล้ที่ทำงานว่าผลการแจกเป็นอย่างไรบ้าง ปรากฏว่าร้านนี้ได้ของมา 100 เล่ม และวันนี้ก็เหลือเพียง 20 กว่าเล่มเท่านั้น
.
ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าคนจะมาถอยแพลนเนอร์หมดภายในหนึ่งสัปดาห์ ปัจจุบันจากข้อมูลในเว็บไซต์บริษัท ร้านสตาร์บัคส์มีสาขาทั่วประเทศ 336 สาขา ถ้าแต่ละสาขาได้แพลนเนอร์นี้ไปจัดโปรโมชั่นสาขาละ 100 เล่ม แปลว่าภายในสัปดาห์เดียว สตาร์บัคส์จะมีคนเอาเงินมาฝากไว้ผ่านการเติมเงินในบัตรถึง 100 ล้านบาท!!
.
สตาร์บัคส์จะทำยังไงกับเงินสด 100 ล้านบาทนี้ดี?
.
ทางที่ดีที่สุดก็คือการลงทุนกลับไปในสิ่งที่สตาร์บัคส์เชี่ยวชาญนั่นคือการทำให้ลูกค้าติดอยู่กับ Ecosystem ของสตาร์บัคส์ เริ่มต้นจากการขยายสาขาให้ไปที่ไหนคนก็สามารถเดินเข้าสตาร์บัคส์ได้ การฝึกอบรมพนักงานที่ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกเป็นคนพิเศษตั้งแต่วิธีการง่ายๆ เช่นเขียนชื่อหรือหน้ายิ้มไปในแก้วหรือกระทั่งการทวนชื่อเมนูกาแฟเรียกยากๆได้ หรือเอาไปเป็นต้นทุนในการออกโปรโมชั่นลดแลกแจก ซื้อ 1 แถม 1 รวมไปถึงของขวัญสุดพิเศษที่มอบกับลูกค้าคนสำคัญที่เป็นนักสะสมดาวก็เป็นอีกกลวิธีในการดึงดูดลูกค้าให้ติดหรือเกิดความจงรักภักดีกับแบรนด์สตาร์บัคส์นั่นเอง
.
การขยายธุรกิจโดยใช้เงินสดของลูกค้าเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างธุรกิจให้โตอย่างรวดเร็ว ร้านค้าปลีกที่เติบโตอย่างรวดเร็วเช่น 7-11, โฮมโปร หรือสยามโกลบอลเฮ้าส์ก็ล้วนใช้วิธีการหมุนเงินแบบนี้เพื่อขยายสาขาจนทำให้รายได้โตอย่างก้าวกระโดดเพราะร้านค้าปลีกพวกนี้รับเงินสดจากลูกค้าแต่ให้เวลาเป็นเครดิตเทอมในการจ่ายเงินกับซัพพลายเออร์ทำให้เงินสดมาหมุยเพื่อขยายกิจการโดยไม่ต้องง้อสถาบันการเงิน ซึ่งตัวเลขการหมุนเงินนี้เราสามารถดูได้จากรายการวงจรเงินสดของบริษัท ถ้าบริษัทไหนวงจรเงินสดติดลบแสดงว่าเอาเงินเจ้าหนี้ (ซัพพลายเออร์) มาหมุนได้เก่ง
.
นอกจากได้เงินมาล่วงหน้า 100 ล้านบาทแล้ว สตาร์บัคส์ยังมั่นใจได้ว่าปีนี้คนจะมาซื้อกาแฟอย่างแน่นอนเพราะคนเติมเงินไป ถ้าคิดเล่นๆ ว่ากาแฟสตาร์บัคส์ราคาแก้วละ 100 บาท (ซึ่งเมนูราคาต่ำร้อยก็แทบหาไม่ได้แล้วในสตาร์บัคส์) ปีนี้สตาร์บัคส์จะขายกาแฟได้ถึงหนึ่งล้านแก้ว แถมเป็นการกันให้ลูกค้าไม่ไปซื้อกาแฟร้านอื่นด้วยเพราะเติมเงินสตาร์บัคส์ไปแล้ว
.
แล้วทำไมสตาร์บัคส์แพลนเนอร์ถึงเป็นอะไรที่พิเศษ ทั้งที่ช่วงปีใหม่สมุดบันทึกหรือแพลนเนอร์ก็เป็นของแจกที่เห็นกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ความพิเศษนี้เกิดจากพาร์ทเนอร์ของสตาร์บัคส์ในการผลิตแพลนเนอร์ชุดนี้ นั่นคือบริษัท “โมลสกิน” สมุดโน้ตราคาแพงจากประเทศอิตาลีที่ปกติวางขายอยู่เล่มละเกือบหนึ่งพันบาท
.
การจับคู่ระหว่างสตาร์บัคและโมเลสกินนับว่าให้ผลอย่างที่ดีมากกับทั้ง 2 แบรนด์ เพราะในฝั่งลูกค้าสตาร์บัคส์การเติมเงิน 3,000 บาทแล้วได้แพลนเนอร์ราคาหลักพันมาฟรีๆนั้นนับได้ว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ส่วนสตาร์บัคส์เองก็ได้เงินฝากร้อยล้านบาทนี้ตามที่ได้กล่าวไปรวมทั้งยังสามารถสกัดดาวรุ่งร้านกาแฟอื่นเพราะลูกค้าต้องมาใช้เงินที่เติมไปแล้วกับกาแฟสตาร์บัคส์ตามที่ได้กล่าวไป
.
ส่วนโมลสกินนั้นนอกจากจะได้ขายของบิ๊กล๊อตแล้ว ก็ได้ภาพลักษณ์ใหม่จากสมุดราคาแพงที่คนหยิบมาดูราคาแล้วก็วางกลับไปชั้น กลายเป็นสมุดราคาแพงที่ทุกคนเข้าถึงได้รวมทั้งเป็นภาพของขวัญปีใหม่สุดพรีเมียมที่ทำให้ผู้รับเกิดความประทับใจมากกว่าแค่สมุดธรรมดา ทำให้โมเลนสกินยังได้ลูกค้าที่เป็นบริษัทเพิ่มเติม นับเป็นการสร้างกลยุทธ์ Co Branding ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
.
ในสายตาคนบางกลุ่มอาจจะรู้สึกไม่ชอบในแบรนด์สตาร์บัคส์เพราะดูแพงเกินหรือดูเว่อร์วังเกินไป แต่ถ้าลองมองในภาพของการออกแบบธุรกิจก็ต้องยอมรับว่า สตาร์บัคส์เป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสร้าง บรรยากาศร้าน การฝึกพนักงาน(ส่วนใหญ่)ให้ใส่ใจรายละเอียดเพื่อให้ลูกค้าพอใจ การออกแบบระบบ CRM (Customer Relationship Management) ที่ให้ลูกค้ากลายเป็นคนพิเศษ หรือกระทั่งกลยุทธ์อย่างการจับมือกับแบรนด์ดังๆ อย่างโมลสกินหรืออาฟเตอร์ยูเพื่อสร้างอะไรใหม่ๆ ให้กับลูกค้า
.
คนเรายินดีที่จ่ายเงินเพราะมูลค่าเงินที่ต้องจ่ายคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความพึงพอใจที่ตัวเองได้รับและสตาร์บัคส์ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า นี่เป็นเหตุผลให้ร้านกาแฟนางเงือกเขียวนี้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
.
จะเห็นได้ว่าเครื่องมือการตลาดที่ดูน่ารักๆ อย่างการเติมเงินแจกของปีใหม่กลับเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากถ้ามองในมุมของทั้งธุรกิจทั้งเรื่องของการเงินและการกันคู่แข่ง แต่ใช่ว่าร้านกาแฟทุกร้านจะทำอย่างสตาร์บัคส์ได้เพราะการที่ทำให้โลโก้รูปนางฟ้าไปแปะบนอะไรก็กลายเป็นของมีคุณค่า เกิดจากการสะสมความผูกพันธ์และสร้างแบรนด์มาอย่างยาวนานซึ่งถึงแม้จะมีร้านกาแฟอื่นเลียนแบบแต่กลิ่นก็คงไม่หอมหวนเหมือนที่สตาร์บัคส์ทำอย่างแน่นอน

---------------------------------------------------------------------
ภาพประกอบเป็น Starbuck Planner จากต่างประเทศนะครับ ^^

https://www.facebook.com/upideatogether ... =3&theater
เริ่มนับหนึ่ง...
โพสต์โพสต์