งานสังสรรค์วีไอครั้งที่2 ปี 2561 รุมหลังงานกับดร (ต่อ)

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

งานสังสรรค์วีไอครั้งที่2 ปี 2561 รุมหลังงานกับดร (ต่อ)

โพสต์ที่ 1

โพสต์

งานสังสรรค์วีไอครั้งที่2 ปี 2561 ของสมาคมไทยวีไอ 27 ตค 2561
ช่วงรุมหลังงานกับ ดร นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ตอนที่2
พิธีกร คุณบอล และ น้องเบส


Q: อยากสอบถามความเห็นของอาจารย์เกี่ยวกับ อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง และ ตอกเสาเข็ม
A: อุตสาหกรรมรับเหมามากับประชากรที่เพิ่มขึ้น และ รวยขึ้น แต่ตอนนี้เด็กเกิดใหม่น้อยลง
Facilityที่สร้างมาเยอะ สะสมมาเรื่อยๆ Mega projectที่เกิดขึ้น สุดท้ายเป็นอย่างไร
การที่ประเทศญี่ปุ่นไมร่วมลงทุนกับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ไปเชียงใหม่จากข่าวเมื่อวันที่ 26 ตค 18
ความคิดเก่าเกี่ยวกับว่าจำเป็นต้องมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง สุดท้ายสร้างขึ้นมาก็เจ๊ง จริงๆนาทีนี้ใช้เครื่องบินดีกว่า
ถ้าญี่ปุ่นถอยก็รอรัฐบาลหน้ามาตัดสินใจ ท้ายสุดก็ขึ้นกับcapacity
การรับงานpublicเป็นธุรกิจสีเทา กำไรได้มาจะถึงกระเป๋าเราเท่าไหร่
ธุรกิจเสาเข็ม มีข้อดี คือ กำไรจากการเก็บเงินหลังงานเสร็จ ไม่ต้องรอตึกเสร็จ คำนวณง่าย มีmarginค่อนข้างดี
กำไรจะโตมากในช่วงนี้ กำไรเพิ่ม ถ้าให้PEเพิ่มอีก เราก็จะติดกับดัก PEเพิ่ม เราเข้าไปซื้อของแพง บางคนคิดว่า
ซื้อแพง ก็ขายแพงกว่า แต่มีคนอื่นรู้ดีกว่าเรา
หุ้นเสาเข็มไม่ใช่หุ้นGrowth เพราะว่าถ้าprojectหมด ก็กลับมาสู่ช่วงปกติ ซึ่งปกติPEไม่เกิน 10 เท่า
ระยะสั้น PEสูงได้จากนักเก็งกำไร เป็นเหตุว่าหุ้นตัวเล็กมีmarket cap 10,000-100,000 ลบ ตัวอย่างเช่น
บริษัทขายขนมทำไมจะโตได้ขนาดนี้ ถึงแม้เขาบริหารดีกว่า แต่ธุรกิจไม่ใช่ธุรกิจหลักในเมืองไทย อาจมีคู่แข่งเข้ามาได้

Q: ราคาห้นบางตัว เช่น Jxxxt ลงมาเยอะสุดในปีนี้ เกิดอะไรขึ้น จะเจ๊งไหม มีโอกาสกลับเหมือนเดิมไหม
A: ตอนหุ้นขึนมีstory : JxT, Jaxxxt อะไรก็ดูดีหมด มือถือก็เป็นผู้นำ พยายามทำเป็นหุ้นgrowth
ตอนนี้กลับมาสู่ความเป็นจริง ขายมือถือเท่าไหร่ marginเท่าไหร่
ตอนนี้ต้องเข้าสู่ความเป็นจริง ควรมีmarket cap เท่าไหร่ ถ้าresonableก็ถึงจะเข้าไป
Marketcapรวมหนี้ด้วย ถ้าเราวิเคราะห์แบบนี้ได้ ตัวธุรกิจขายมือถือไม่มีvalue marginบางมาก

Q: Bond 10 years Yieldเพิ่ม มีโอกาสเกิดวิกฤตไหม
A: มีโอกาส เพราะถ้าYieldสูง คนหันมาซื้อBondแทน เวลานั้นคนย้ายจากหุ้นมาBond มีผลสูงมาก
คนกลัวมา ดอกเบี้ยขึ้นแรงๆ แต่ยังมั่นใจดอกเบี้ยในไทยไม่ขึ้นแรง เพราะว่าเงินยังมีอยู่เยอะ ไม่มีทางไป
รัฐบาลพยายามกดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ความเสี่ยงมีแต่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสหรัฐ แต่ถ้าสหรัฐเกิดไป
เราก็โดนไม่แรง และ ฟื้นตัวได้

Q: อาจารย์มีการขายหุ้นบางตัวไป อยากให้ช่วยแนะนำว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ขายหุ้นไป
A: ส่วนใหญ่ดูfundamental ราคาเป็นส่วนน้อยที่เป็นตัวตัดสินใจในการขาย
หุ้นตกไม่ใช่ประเด็นในการขาย เวลากิจการดี สุดท้ายราคาก็กลับมา
ตอน Hmpro เปิด Magahome มีคู่แข่งเช่น ไทวัสดุ Global houseเข้ามาตลาดใกล้เคียง
แทนกันได้เยอะในต่างจังหวัด อีกหน่อยก็แย่ คนที่improveบ้านแบบ middle income ก็จะไปที่อื่น
ผมซื้อHmproมา10ปี ราคาขึ้นก็เลยขายหมูไป เพราะว่าหลังจากการขาย ราคาก็ขึ้นไปอีก ต่อมาซื้อ
QHซึ่งถือHmpro 25% valuationได้ ขยายไปมาเลเซีย ถ้าธุรกิจที่นั่นลงตัว ก็เป็นตัวเร่งได้
ช่วงนี้ Hmpro ขึ้นสวนกระแสมาตลอด
การซื้อหุ้น QH เหมือนการซื้อหุ้น Hmpro ในราคาdiscount ปันผลดี ดูแลผู้ถือหุ้นดี มีธรรมมาภิบาล
ส่วน BCP ซื้อมาก่อน BCPG เพราะตอนหลังหาหุ้นซื้อยาก ส่วนsuper stock ราคาแพงเวอร์มาก
เลยหาหุ้นแบบ Supercheap stockแทน BCP ราคาค่อนข้างถูก ปันผล 5-6%
Commodity long run ,marginบาง 2-3% แต่ยอดขาย แสนล้านบาท ได้กำไร 2,000-3,000 ล้านบาท
ประกอบกับ ลงทุนในธุรกิจBattery ซื้อบ่อน้ำมัน ซึ่งอาจารย์ไม่เห็นด้วย เพราะเจ๊งไปบ่อนึงแล้ว
ถือหุ้น50%ในโรงเอทานอลด้วย P/B 1 เท่า , PE < 10 เท่า ปันผล 5-6% ดูย้อนหลัง 5-6 ปี
มีเงินสำหรับจ่ายปันผลได้ Cash flowดี , EBITDA / cash 10,000 กว่าล้านบาทต่อปี
Market cap 50,000 ลบ แสดงว่าเก็บแค่ 3-4 ปี ก็คืนหมดแล้ว พอใจกับปันผล 5%
BCPG มั่นคงน้อยกว่า BCP เป็นหุ้นแนว growth

Q: วิกฤต ถ้าเกิดจริงๆ อาจารย์สนใจหุ้นUS, VN หรือ ไทยครับ
A: น่าจะเป็นหุ้นไทย เพราะเรารู้ดีกว่าหุ้นในตลาดอื่น เวลาลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม
เห็นว่าหลายอย่างไม่เหมือนกับไทย เกณฑ์การทำธุรกิจ มีความแตกต่าง
ถ้าย้อนหลังไปได้ ประเทศเวียดนามตอนนั้นกำลังพุ่ง ย้ายโรงงานจากไทยไปเวียดนาม
ทำให้เรารู้สึกว่าเวียดนามจะเป็น Next Thailand and Beyond
เราเข้าตอนเริ่มต้น น่าจะได้กำไร และต้องการdiversify เพราะเห็นriskในไทย
อาจารย์ใช้robotหาหุ้นจากเกณฑ์ที่อาจารย์กำหนด และ ซื้อลงทุนไป 100 กว่าตัวที่เข้าเกณฑ์
แต่3 ปีไม่ไปไหน ลงอีก ได้แต่ปันผล และ ปกติต้องปรับportทุกปี แต่ไม่มีสภาพคล่องให้ปรับportเลย
ยังหวังว่า ตลาดหุ้นเวียดนาม รายย่อยจะแห่มาเล่นจนPE 40 เท่า ครั้งนึงในชีวิต ซึ่งคุ้มมาก

Q: ตอนวิกฤต ตลาดหุ้นเวียดนามจะแย่กว่าไทยไหม
A: ตอนนี้ก็ลงไปเยอะแล้ว หุ้นที่อาจารย์ลงไปส่วนใหญ่เป็นของรัฐ ไม่มีแรงจูงใจใรการเติบโต
แต่ถือว่าเป็นการกระจายการลงทุน

Q: อยากให้อาจารย์ช่วยแชร์ประสบการณ์ความผิดพลาดมาแบ่งปันเพื่อเป็นกำลังใจ
A: ความรู้ที่เรียนมาอาจผิด แต่สถานการณ์ที่ผ่านมา ทำให้หุ้นขึ้นมา
บางทีรวยจากการผิด ถ้าเราลงอย่างไม่ถูกต้อง จะไม่ยั่งยืน
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยขาดทุน แต่ยืนอยู่บนฐานที่ถูกต้อง
ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น ก็ฟื้นมาได้
นักเก็งกำไรระดับโลก บางครั้งรวยกว่าวอร์เรน แต่ก็มีโอกาสขาดทุนและหายไป
ให้ล้างสมอง ไม่ได้อยู่ตอนนี้ แต่ไปอยู่ตอนวิกฤต ไม่มีสภาพคล่อง ไม่มีการเชียร์หุ้น
คุณจะให้valueเท่าไหร่ วอร์เรนไม่เคยซื้อของแพง
ตอนซื้อapple PE 10กว่าเท่า เขาซื้อหุ้นราคาถูก
บางทีต้องคิดว่าแต่ละคนมีจุดยืนอย่างไร
เวลาขึ้นดีมากๆ ได้ไม่ค่อยมาก แต่เวลาตลาดลง ขาดทุนไม่เยอะ ประมาณ 20% แต่หลายคนเจอขาดทุน 50%
วอร์เรน ไม่เคยเจอกำไรเกิน 100% มีแค่2ปีที่กำไรเยอะ กำไร 40-45%ต่อปี อาศัยความอึดและทน ไม่ตื่นเต้นมาก
ปกตินักลงทัเวลาหุ้นตก ก็เศร้า ทำใจให้มันผ่านไป เราต้องรอหุ้นขึ้นในอีก2-3 ปี ซึ่งทำยาก แต่ผมรอเป็น 10 ปีเลย
ร้านสะดวกซื้อ ก็เคยลงหนักๆมาหลายรอบ รอบละ 10-20% บางทีก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมลง
เราต้องมั่นใจในธุรกิจ อนาคตขยายสาขาได้อีก ยังพอถือได้

Q: คำแนะนำสำหรับคนที่ซื้อไปแล้วตอนPE สูง จะปรับportอย่างไร
A: ระยะต่อจากนี้หลายปี จะกลับมาเป็นช่วงของหุ้นvalue เน้นหุ้นถูก อนาคตค่อนข้างโตยาก
หุ้นgrowthดีๆ ค่อนข้างแพงซึ่ง downside risk สูง
ต้องปรับเปลี่ยนความคิด ล้างสมอง กลับมาเริ่มต้นใหม่ ไม่รับรู้ว่าหุ้นขึ้นแบบนี้
เล่นกันแบบบ้าคลั่ง กำไรเป็น 100% ซึ่งเป็นอะไรที่ผิดปกติ
การลงทุนต้องค่อยๆไป ได้ ปีละ 10-15% ก็ทำให้ฐานะการเงินดีขึ้นแล้ว
หวังแต่ financially ดีขึ้น ตอนเข้าตลาดหวังปันผลอย่างเดียว สุดท้ายอยู่ที่คนในบริษัท
เวลาไปเที่ยวก็ดูพฤติกรรมของคนแต่ละประเทศ เปรียบเทียบกับคนไทย
วัดได้ถ้าคนมีศักยภาพ ท้ายสุด ประเทศมีความก้าวหน้า
ตอนนี้เราเจริญกว่า เขามีปัญหาเรื่องระบบ ถ้าแก้ได้ก็เจริญกว่า
จีนเมื่อ30ปีที่แล้วล้าหลัง จีนที่อยู่นอกประเทศเจริญกว่า พอเปลี่ยนแปลงระบบ ก็เจริญอย่างรวดเร็ว
ขึ้นอยู่กับคน ดังนั้นที่เวียดนาม อย่างไรก็เจริญ ถือเป็นเสือตัวต่อไป

สุดท้ายขอขอบคุณ อาจารย์นิเวศน์ และ คุณบอล น้องเบสมากครับ
โพสต์โพสต์