งานสังสรรค์VIประจำปี 2561 ครั้งที่1
หัวข้อ “Emotional Intelligence กับการลงทุน กลยุทธ์บริหารจิตใจในภาวะตลาดผันผวน
ทำพอร์ตยังไงให้สุขแบบยั่งยืน”
วิทยากร
1.คุณ ชาย มโนภาส นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
2.คุณ ชิณณ์ กิตติภานุวัฒน์ นักลงทุนวีไอ
คูณชิณณ์เล่าประวัติการลงทุนที่ผ่านมา
ดูSteve Job บอกว่าตัวเองถูกสร้างมาไม่ดี
ซึ่งคุณชินเห็นด้วย เพราะตอนป.4-ป.6 โรงเรียนลงโทษด้วยการตี
เราไปสายเพราะรถติด เข้าห้องเรียนก็ไม่มีการบ้านส่งก็โดนตีต่อ
ไม้บรรทัดก็ถูกเพื่อนหักหมด ก็เลยเอานิ้วมาตีเส้น ก็โดนลงโทษอีก
พอมาที่บ้านก็มีปัญหา ครอบครัวล้มละลายสามครั้ง
คุณพ่อก็ออกมาขายเครื่องสำอางในระบบMLM ดังนั้นมารับเราตีหนึ่งตีสอง
เราไม่อยากอยู่ แต่เกิดปิ้งไอเดียว่าปัญหามาจากเราจน
ดังนั้นป. 6 มีความฝันว่าเราต้องรวย
ตอนม.1 ไปเข้าโรงเรียนใหม่ไม่มีการลงโทษ ทำให้เรามีโอกาสเข้าไปยืนอ่านหนังสือฟรีที่ร้านหนังสือ
ส่วนใหญ่จะที่The mall รามคำแหง และได้อ่านหนังสือที่แถมมากับประชาชาติ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียนรู้ต่างๆ รวมถึงดอกเบี้ยทบต้น
และความรู้เหล่านี้จะมาช่วยเราในภายหลัง
ผมเคยทำงานแจกใบปลิวเพื่อชวนคนมาทำหน้าในช่วงม.ต้น
พอม.ปลาย ก็เปิดร้านเสริมสวยเอง แจกใบปลิว เดือนเดียวก็คืนทุน
ชอบเล่นเกม ซึ่งเกมต้องมีการวางแผน ติด Dragon Quest ไปตีmonster เพื่อได้เงิน
ทำให้เราเริ่มวางแผนเป็น ม.5-ม.6 ต้องสอบentrance ก็เลยมุ่งอ่านหนังสือ
พอเข้า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ ก็หาทางทำให้รวยได้
เจอพี่เปิ้ลมาชวนไปแข่ง ตลาดหุ้นจำลอง
วันแรก ไม่เข้าใจเกม ก็ไม่ได้รางวัล
แต่พอวันที่สอง เริ่มเข้าใจเรื่องเกม ปกติคนเล่นเป็นกลุ่ม
สรุป วางแผนซื้อหุ้น5ตัว ตั้งขายที่ 26%
และไปเล่นบอล มารู้อีกวันว่าชนะ ขายได้หมดทุกตัว
เราเหมือนพบทางว่าเป็นอาชีพเราได้ เราไม่ชอบยุ่งกับใคร
เวลามีเงินไปโรงเรียน ไม่ชอบวุ่นวายเรื่องการบริหารเงินเอาไปบริจาคหมด
อยู่ได้โดยไม่ต้องใช้เงิน
พอเจอตลาดหุ้น ไม่ต้องเข้าไปบริหารเงิน อยู่กับตัวเอง
หนังสือเล่มแรกที่ศึกษา คือ ตีแตก ของ ดร.นิเวศน์เป็นผู้เขียน
เวลามั่นใจก็ซื้อเต็มที่
อ. ชาย พูดถึงเรื่องลงทุนกับจิตใจ
คุณชายถามกลับว่า ลงทุนต้องใช้อะไร
นักลงทุนต้องมีความคิด ความคิดออกมาจากไหน
เวลาสั่งซื้อ ขาย ออกมาจากสมองไหม
ถามลึกซึ้งอีกว่า สิ่งมีชีวิตต่างกับสิ่งไม่มีชีวิตอย่างไร
อนุภาคที่เล็กที่สุดของโต๊ะ คือ อะตอม
เซลล์ มีนิวเคลียส มีโปรตีน ข้างในมีอะไรต่อ
โต๊ะไม่มีความคิด คนมีความคิด
ธรรมแบ่งสองอย่าง
สังขารที่มีใจครอง และ สังขารที่ไม่มีใจครอง
ความคิดออกมาจากจิตใจของเรา
นักลงทุนใช้ความคิดที่ออกมาจากจิตใจ
ดังนั้นจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญในการลงทุน
คุณชิณญ์บอกว่า
ท่านต้องเชื่อ ก็คือออกมาจากใจ
เรื่องการลงทุน เกี่ยวข้องกับจิตใจ
Rays Radio บอกว่า นั่งสมาธิทุกวัน
กลับมาที่คุณชิณญ์ หลังจากเรียนรู้ตลาดหุ้นจำลอง ตลาดจริงเป็นอย่างไร
ผมเก็บเงินวันละสองร้อยบาท เอาเป็นเล่นแชร์เพื่อให้ได้สี่หมื่นบาทเพื่อเปิดพอร์ต
ปรากฏว่า โดนคนที่รับเงินแชร์โกงไป คุณแม่ก็ออกเงินให้ 40,000 บาท
พอได้เงินจากแม่ก็ไปซื้อหุ้น Cxx หมด ในวันศุกร์ ปรากฏว่าช่วง ส-อา เจอวิกฤตการณ์ 911
Cxx มีofficeอยู่ในตึกที่ถล่มด้วย โชคดีตอนนั้นเงินน้อยแก้portให้กลับมาได้
มีรุ่นพี่เห็นเราชอบเล่นหุ้น มาบอกข่าวinsider เห็นงบแล้วดีเชียร์ซื้อWarrant : Kxx-W
เลยไปชวนคุณพ่อมาลงทุนด้วย พ่อก็ไม่เชื่อเรามาก แต่คิดว่าถ้าหมดตัวตอนที่คุณพ่ออยู่
คุณพ่อช่วยได้ เลยเอาเงินทั้งบ้าน 500,000 บาทไปลงทุน
ตอนนั้นน่ายังไม่มีสมาคมไทยวีไอ
ซื้อราคา 0.5 บาท ได้หุ้นมาหนึ่งล้านหุ้น
แต่มีความรู้ทางเทคนิค พอราคา 0.4 บาทก็เคาะขาย
พี่เขาเชียร์ซื้อต่อเลยซื้อกลับในราคา 0.42บาท
ปรากฏว่าต้องcut lossที่ราคา 0.2 บาท พอร์ตลดลงเหลือสองแสนบาท
การทำเงินสองแสนบาทกลับไปที่ห้าแสนยังเป็นไปได้
หลังจากนั้น ตื่นหกโมงเช้า นอนเที่ยงคืน ศึกษาเรื่องหุ้นเป็นหลัก แต่ไม่ได้เรียนเลย
พอศึกษามาก พอได้เงินคืนหมด เลยรีบนำเงินไปคืนคุณพ่อ
หลังเรียนจบไปยื่นสมัคร marketing ที่ บลแห่งหนึ่ง
แต่ไม่มีประสบการณ์ เลยไม่ได้งาน ช่วงที่ไปแนะนำคนที่เล่นหุ้นจากความรู้ที่ไปศึกษา
ลูกค้าบอกว่า คุณบริการดีมากกว่าmarketingที่ทำงานมา20ปีซะอีก
ตอนหลังไปยื่นที่บล ที่แบรนด์สีส้ม บอกว่ามีลูกค้ามูลค่าพอร์ตสองล้าน ซึ่งตัวเองมองว่าเยอะมาก
บอกบริษัทว่า ไม่เอาเงินเดือนก็ได้เพราะอยากใช้Facilityของบริษัท
ปรากฏว่าผมได้เงินเดือน 10,000 บาท
ผมแนะนำหุ้น โดยดูที่พื้นฐาน เช่นหุ้นโดนไข้หวัดนก ก็แนะนำพื้นฐานดีให้ถือต่อ
มีแฟนเป็นนักวิเคราะห์ เจอบทความของ คุณ Invisible hand ใส่ไปแปดหมื่นต่อเดือน
สุดท้ายยืมคุณแม่ พอร์ตจากสามแสนไปหนึ่งล้าน
สุดท้ายได้กำไร เลยคืนคุณแม่ไปสามแสนบาทจากที่ยืมมาสองแสนบาท
เงินเดือน 15,000 บาท แต่ใช้แค่9,000 บาท
( อันนี้เป็นเคล็ดลับที่จับได้อย่างนึงของผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการลงทุน
ช่วงแรกที่ไม่มีเงิน ต้องพยายามใช้จ่ายให้น้อย และเก็บเงินให้มากเพื่อนำไปลงทุน
ให้ผลตอบแทนกลับคืนมามาก โดยมีMOSที่สูง )
ตั้งเป้าหมายที่ไม่ยาก แต่ตั้งเป้าไว้สูง ระหว่างทางที่ไป เราเก่งขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อนถามผมว่า ดักดานกับJxxมาห้าปี
เลยบอกเขาว่า รวยแล้วแต่เพื่อนมองไม่ออก จริงๆอยากซื้อเพิ่มด้วย
ส่วนตัวนอนห้องพระตลอด ทำให้คุ้นเคยกับการสวดมนต์ นั่งสมาธิ
การถือศีล เป็นจุดเปลี่ยน ถือศีลปรมัตถ์ ข้อที่ง่ายสุดในความคิด คือ สุรา เพราะเรากินเหล้าไม่อร่อย
ทำให้เกิดจุดต่าง เพื่อนที่พอร์ตหนึ่งล้านเท่ากัน แต่เขาชอบกินเหล้า ค่าใช้จ่ายตก ห้าหมื่นบาทต่อเดือน
เจอผู้หญิงที่ไม่ดี ทำให้โอกาสในการสำเร็จยาก เพราะต้องหาเงินห้าหมื่นทุกเดือน
แต่ผมมีเงินเก็บทุกเดือน
การถือศีลช่วยทำให้เราประสบความสำเร็จเลยรับศีลมาครบห้าข้อ
ทำให้ไม่ทุกข์ใจ ทำงานอย่างมีสติ ไม่มีศัตรูที่ทำร้ายเรา ไม่มีการโกหก
ศีลรักษาเรา ให้เราอยู่ในสังคมโดยไม่มีใครตำหนิเรา
คำถามจากพิธีกร : กลับมาที่คุณ ชาย อยากให้เล่าช่วงวัยเด็ก
คุณชายตอบว่า เหตุผลที่สนใจการลงทุนเพราะคุณพ่อเล่นหุ้นตั้งแต่เปิดตลาดหลักทรัพย์
ได้หุ้นก่อนเข้าตลาด พอเข้าแล้วราคาเพิ่มมีเงินปันผลสนใจเป็นพิเศษ
คุณย่าให้หุ้น รพ แห่งหนึ่ง(ที่ตอนนี้โดนรพ ขนาดใหญ่takeไปแล้ว) ได้รับเงินปันผลทุกปี
พอเข้าตลาดพาร์ 10 บาท ราคาขึ้นไป 130 บาท
ส่วนการปฏิบัติธรรม คุณแม่ปลูกฝังเรื่องพุทธศาสนาตลอด
เวลาถูกเพื่อนแกล้ง คุณแม่ปลอบว่าเราต้องทำตัวเป็นหิน แต่ผมแย้งว่าไม่ใช่พระ
คุณชายเคยกินเหล้า เที่ยวผับตั้งแต่ ม 4-ม 5
สิ่งสำคัญ แม้ว่าเพลิดเพลินกับพวกนี้ แต่ก็มีสติ คิดว่าสิ่งที่ทำดีหรือไม่
กินเหล้าถึงเช้า ตื่นขึ้นมาไม่สดใส เลยเลิกไป
อยู่มาวันนึง ไปกราบหลวงพ่อที่วัดปทุม ว่าอยากปฏิบัติธรรม
หลวงพ่อ บอกว่าตื่นมานั่งสมาธิ ก่อนนอนก็นั่งสมาธิ
เมื่อลองปฏิบัติดู ทั้งหมดคือการปฏิบัติ ทำแต่ละช่วงแค่5นาที
เห็นศัตรูในจิตใจ จะมาบอกว่าอย่าทำปฏิบัติธรรม มีข้ออ้างสารพัด
การปฏิธรรม คือ การเอาชนะความรู้สึก
พอเราทำทุกวัน นี่คือหัวใจของการปฏิบัติธรรม
เห็นการพัฒนาของจิต เห็นการชนะของจิต มีความศรัธธา
ท่านลองทำดู อย่าพึ่งเชื่อง่าย ไม่จำกัดเฉพาะศาสนาพุทธอย่างเดียว
เราต้องพัฒนาจิต ทำอย่างไร
ซึ่งก็คือเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา
คุณชิณญ์ พูดถึงการปฏิบัติธรรม อยากรู้ก็เลยลองปฏิบัติดู แต่ช่วงแรกยังไม่เข้าใจคำสอน
อยากได้ตาทิตย์ หูทิตย์ ช่วยในการลงทุน
แต่เรื่องการปล่อยวาง จากครอบครัว คุณปู่หิ้วเงินจากประเทศจีนนั่งเรือมาเผาในประเทศไทย
เพราะใช้เงินที่เมืองไทยไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นหมอ มีคนเอาLotteryมาขาย
ปรากฏว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง เลยเปิดตึกรักษาฟรี แต่โดนหลอกเงิน
แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะเราไม่ได้ทำความผิด เราไม่เสียใจ คนที่โกงนะสิ ควรเสียใจ
เปรียบเทียบกับตลาดหุ้น มีหุ้นแปลก ก็ไม่สนใจ
มีคนเล่นหุ้น เอาพระสมเด็จมูลค่า 30ลบมาแลกรถกระบะ น้องชายลุกหนี
บอกว่า เรารู้เรื่องพระเหรอ แต่มีคนเอา สุดท้ายก็โดนโกง
การถือศีล อทินนาทาน (การลักทรัพย์) ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุผล ก็ไม่ควรเชื่อ
เรื่อง Ixxx มีโรงไฟฟ้า หมื่น MW เลยสงสัยถาม เขาตอบว่า ปั่นหุ้นขึ้นไปเพื่อเอาเงินมาสร้าง
ดูแล้วไม่น่าจริง เลยไม่เข้าไปลงทุน
ตอนสัมมนา บอกให้เรียนรู้ อิทธิบาท4
หุ้นที่ได้มา มันจะลงแรงๆ Jxx ลงหนัก
เหลือ 17 สตางค์ เวลาคนกระโดดสูงๆจะย่อตัวก่อน
ดังนั้นเห็นว่า ในวิกฤตคือโอกาส
สไตด์ผมคือลงทุนหุ้นทีละตัว เพราะไม่สามารถเข้าใจลึกซึ้งหุ้นมากกว่าหนึ่งตัว
(การลงทุนหุ้นเพียงตัวเดียวเป็นความสามารถเฉพาะตัว เราไม่ควรลงทุนหุ้นตัวเดียว
แต่ควรลงทุนอย่างน้อย5ตัวตามที่คุณปิเตอร์ ลินซ์แนะนำสำหรับนักลงทุนทั่วไป)
สุดท้ายไม่ตาย เพราะเรามองระยะยาวขาด มองเกมยาวๆออก มองผู้บริหารออก
ผู้บริหารเป็นเรื่องสำคัญ คือ หุ้น Rxxxxx land แค่ผู้บริหารไม่ทำอะไรเลย
หุ้นจากสองบาทเหลือบาทเดียว
หุ้นที่ได้มา เพราะเป็นความพยายามของผู้บริหารต้องการทำให้ดีขึ้น
ดังนั้นมีกติกาว่าผู้บริหารต้องมีส่วนได้ส่วนเสียที่ทำให้ผลประกอบการดี
ราคาหุ้นอาจนิ่งๆ แต่เวลาBreakthoughจะขึ้นอย่างมากเลย
พอมีหนึ่งล้านรวมกับแม่ เป็นเงินลงทุนทั้งหมด 2.8 ลบ
Axx ราคาตลาดแค่4บาทแต่Book value 8 บาท
ตอนนั้นมีกฏเกณฑ์ไม่สามารถมีเกิน1ธนาคาร และ ทางจีนมีแผนขยาย
ธนาคารมาไทย เลยคิดว่าน่าจะซื้อ Axx
เราซื้อโดยใช้marginหนึ่งเท่า
ปรากฏว่าเจอวิกฤต มีแผนแต่ขายไม่ค่อยได้ จากราคาตลาด 4 บาท จนเหลือ 2 บาท
คำนวณว่าที่ราคา1บาทกว่าๆจะถูกForce sales ซึ่งปกติควรขายเองก่อน
สุดท้ายเอาทองไปขายได้เงินห้าแสน ยืมส้อยโกยมาอีกสี่แสน
และเอาบ้านไปค้ำ ปรากฏว่าราคาหุ้นลงไปหนึ่งบาทจริงๆ
มุมผม เรากำลังจะรวยครั้งใหญ่เลยเขียนแผนว่าจะซื้อmarginทยอยเพิ่มไปเรื่อยๆ
แต่ใช้เวลาหนึ่งปี ช่วงนั้นพยายามประหยัดมากๆ ที่สุดท้ายได้สามสิบล้านบาท
ซึ่งราคาตอนนั้น7บาท แต่กะว่าน่าจะขึ้น 12 บาท แต่ก็พอใจที่ราคานี้
ปรากฏว่าสุดท้ายราคาขึ้นไป 12 บาทจริงๆ
ซึ่งตอนนั้นไม่ได้ศึกษาพุทธศาสนาเลย แต่เล่นตามแผน และ เล่นหุ้นเพื่อฆ่าเวลา
พอราคาเริ่มขยับก็ทยอยซื้อไปถึงสองบาท และราคาก็side way
หัวข้อสำคัญ เราต้องวางแผน และ ต้องอยู่กับแผนตลอดเวลา
อ ชาย ลงทุนมานานมีทั้งกำไรห้าเด้งและขาดทุนด้วย
สไตด์การลงทุนของผมก็อาจไม่เหมาะกับหลายคน
เวลาลงทุน ตอนออกก็ไม่รอถึงFully value
การเปรียบเปรยมูลค่าของ อ ชาย ว่าควรขายตอนไหนเพื่อไปเข้าหุ้นอีกตัว
“มะม่วงสองใบแลก ทุเรียน หนึ่งใบ แต่ปรากฏว่ามะม่วงหนึ่งใบแลกทุเรียนได้แล้ว
ก็จะขายมะม่วงมาซื้อทุเรียน”
ผมเชื่อว่าหุ้นในแต่ละอุตสาหกรรมเทียบกันได้หมด
บริษัทไหนที่เหมาะสมในการใช้ทรัพยากรดีสุด เหมาะกับการถือลงทุน
Watch list หุ้น สามารถเปลี่ยนหุ้นไปมาได้ เพราะคุณชายรู้จักหุ้นในwatch listดีมาก
เปรียบเทียบลงทุนWarmart และถือตลอด
กับการเปลี่ยนตัวได้ถูกต้องอย่างถูกจังหวะ คือ เปลี่ยนหุ้นเป็น Amazonจะได้ผลกำไรเยอะกว่า
ตัวอย่างวิกฤตต้มยำกุ้ง ถือหุ้นอยู่ มูลค่าพอร์ตลดลงมากๆ ต้องทำใจอย่างเดียว
อีกช่วงคือ Hamburger crisis พอดัชนีอยู่ที่ 800 จุด ก็ขายหมด และซื้อกลับตอน 600 จุด
ปรากฏว่าลงไป3xxจุด แต่ไม่เสียใจ เพียงแต่ว่าต้องแก้ไขอย่างไรตอนport ลดลง50%
โดยการเปลี่ยนหุ้นที่ถือ เป็นการตั้งสติในการลงทุน
ผมดูจอตอน Hamburger crisis หุ้นใหญ่โดนทิ้งเร็วมาก ส่วนหุ้นเกรดบี และ ซียังไม่ค่อยลง
แต่สุดท้ายหุ้นทั้งสองกลุ่มก็ลงด้วย
เวลากลับตัว จะกลับจากหุ้นใหญ่ก่อน แล้วจึงทยอยขึ้นหุ้นเล็กต่อมา
หุ้นให้ผลตอบแทนมากกว่าสินทรัพย์อื่น มากกว่าเงินฝาก และ ตราสารหนี้ ในระยะยาว
หุ้นจะมีปัญหาถ้าเราซื้อในราคาที่แพงเกินไป
การลงทุนหุ้นที่ปลอดภัยคือ ลงทุนหุ้นในราคาที่เหมาะสม
คนที่แพ้และถอดใจออกไป คือ คนที่บาดเจ็บที่แท้จริง
เราต้องมีความศรัทธาว่าหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด และลงทุนไป
ต้องมีศรัทธา และเฝ้าสังเกตตลอดเวลา มันมาจากจิต ความคิดของท่าน
ข้าศึกของใจ คือ อารมณ์โกรธ โลภ กลัว
ปัญหาคือการเอาชนะมันอย่างไร
กลับมาที่คุณชิณญ์
คำถาม อะไรที่ดึงพี่เข้ามาศึกษาธรรมะ
ตอบ พอได้สามสิบล้าน ผมและน้องได้หกล้านบาท แม่ได้สิบแปดล้าน
เงินที่มีนำไปฝากธนาคาร ทำให้พอร์ตโตขึ้นไปอีก เกิดอีโก้ขึ้นว่าเราเก่ง
แต่อยากใช้ชีวิตให้ความสุข นอนโรงแรมเป็นรายเดือน
ย้ายไปเรื่อยๆ ไปต่างจังหวัด ตอนอยู่บนรถก็ฟังธรรมะไปเรื่อยๆ
หลังจากนั้นก็หาโรงแรมที่จะพักต่อไป
วนเวียน ความสุข ความทุกข์ไปตลอด ไม่มีความสุขที่แท้จริง
เวลามีพอร์ตโต ก็ต้องกระจายความเสี่ยงไปลงอสังหาริมทรัพย์
พยายามปกป้องport ซึ่งยากมาก เราไม่มีความสุขที่แท้จริง
มีคนมาทักว่าเคยสัญญาว่าจะไปบวช ก็เลยถือโอกาสไปบวช
ได้ปฏิบัติธรรมโดยได้รับการชี้แนะจากหลวงพี่เป็นอย่างดี
ถามคุณชาย ถึงวิธีการปฏิบัตธรรม นั่งสมาธิได้อย่างไร
อ ชาย ตอบว่าอยากให้ทุกท่านเข้าใจการนั่งสมาธิเป็นการปฏิบัติธรรม
อำนาจใฝ่ต่ำ จะแย้ง และ ถ่วงความเจริญ ไม่ให้เราประสบความสำเร็จ
มันไม่ได้เข้ามาตอนเราปิดตาอย่างเดียว
เราต้องสู้ตลอดทั้งยืนและหลับตา
การนั่ง คือ พยายามทำให้เงียบและสงบ
การนั่งสมาธิ ทำให้ผ่อนคลาย ที่เราปวดเข่า ก็คือเราไม่ได้ผ่อนคลาย
แค่หลับตาและสังเกตที่ปลายจมูก ให้จำความรู้สึกนี้ไว้
ตอนเป็นหวัดก็ให้จำความรู้สึก เรื่องการหายใจโดยไม่มีที่กั้น จนวันนึงเราได้เสียมันไป
บางทีเราไปหาความสุขแนวราบ เช่น กินอาหารอร่อย ดูหนังสนุก
พักโรงแรมหรูหรา และ หาที่ต่อไปเรื่อยๆ การกินข้าวโดยดูทีวี กินข้าวคิดถึงแฟน
เราไม่เคยหาแนวดิ่ง คือ จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ตลอด
นั่นคือเราไม่ได้ปฏิบัติธรรม ก็เลยเจอเรื่องแบบนี้
หลวงพ่อวัดปทุม เคยกล่าว ทำอะไรก็ต้องตั้งใจ มีสติจดจ่ออย่างแท้จริง ทำให้เกิดปัญญา
เวลาพอร์ตไม่ดี แต่เดินไปข้างนอกแม่ค้ายังยิ้ม หัวเราะได้ เราจะทำตัวเศร้าไปทำไม
ส่วนคุณชิณณ์ ก่อนปฏิบัติธรรม มีmargin 1,200 ลบ เกิดอีโก้
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ขาดทุนมหาศาล
ก็เลยบริหารใหม่ หลังช่วงไปปฏิบัติธรรม
พบแก่นของธรรมะ เรามีพอร์ตการลงทุนเพื่ออะไร จะได้บริหารอย่างเหมาะสม
ก่อนหน้านี้ เป็นการทำอย่างไม่มีเหตุผล
เราห่วงอะไร เช่น ถ้าเป็นเรื่องปัจจัยสี่ พอร์ตควรเป็น Passive income plus
ต่อมา เรื่องหลังการตาย คือ ลงทุนในกองประกันชีวิต
กองสุดท้ายคือ กองหุ้น เอาไปลงทุน
สุดท้ายเราไม่จำเป็นต้องมีพอร์ตใหญ่
ถึงแม้wealthลดลง แต่ความสำคัญคือราคาที่ซื้อ
ระหว่างทาง เจอหุ้นลง แต่ต้องหนักแน่น
บางตัวถ้าถือต่อ จะได้หลายเด้ง
พี่ชายสอนเรื่องการปฏิบัติ คราวนี้เป็นเรื่องของจิตใจ
ถ้าได้ฝึกไปเรื่อยๆ ทุกข์ไม่ใช่ของเรา สุขก็ไม่ใช่ของเรา
เราควรวางจิตให้ถูก สมาธิจะมาเข้าได้ง่ายๆ
ปกติ2-3ทุ่ม จะรู้สึกอยากออกไปเที่ยว หรือ คิดว่าชีวิตเราน่าจะดีกว่านี้
หลังจากปฏิบัติธรรม ความคิดไม่ใช่ความคิด
เวลาปวด เราสามารถแยกความปวดออกจากตัวเรา
แม้อย่างที่เรารู้ เป็นกระบวนการทางเคมี กายภาพ ทั้งหมดไม่ใช่เรา
เรารื้อระบบนี้ออกได้ เราบริหารพอร์ตอย่างมีเหตุผล
จริงๆไม่ต้องโฟกัสและใช้margin แต่เราต้องบริหารจิตใจ
จนเราไม่ตกอยู่ในการควบคุมของจิตใจ
ถาม แรงบันดาลใจที่ทำให้พอร์ตโตขึ้นอีก
ตอบ คุณชาย บอกว่าถ้าพอร์ตโตกว่านี้ก็ช่วยคนได้มากกว่านี้
คุณชิณณ์ แม้แต่พระอรหันต์ก็ยังต้องทำบุญอยู่เลย
ผมเป็นคนธรรมดา ยังมีกิเลส อยากให้พอร์ตโตเพื่อไปช่วยเหลือคนอื่น
ถาม เราควรปฏิบัติธรรมอย่างไรบ้าง
คุณชิณณ์ แนะนำบทสวด ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
ลองศึกษา หนังสือ ตัวกูของกู ของ พุทธทาส
วัดเล่งเน่ยยี่ บทกาลตา ไม่มีคนที่มีความทุกข์และสุข
ส่วนการปฏิบัติ ลองนั่งสมาธิวันละ 10-20 นาที
เวลาขับรถจะสังเกตได้ดี สัญชาติญาณทำงานอยู่ จะทำไปด้วยความเคยชิน
คุณชาย ให้เบสิคสุดๆ หากิจกรรมอะไรที่จิตทำให้จดจ่อนาน
ปกตินักลงทุนมีสมาธิอยู่แล้ว จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่คุ้นเคย
อ่านหนังสือสอบ ดูสารคดี
บางทีมีอยู่แล้ว แต่อยากนั่งสมาธิ แต่ไม่สบาย
จริงๆเราทำได้อยู่แล้ว
สมาธิคือ การทำให้จิตใจมีความสงบ จดจ่อในการทำงาน
จริงๆแล้ว ชอบอะไร ก็ทำแบบนี้ เช่นการวิ่งมาราธอน 42 กม
ทำจิตจดจ่อ วางจิตถูก ก็สบาย นั่งได้ทั้งคืน
คนทีมีทัศนคติที่ดี จะประสบความสำเร็จ เราเลือกไม่ได้ เราต้องรู้จักการเตรียมตัว
ทุกท่านต้องเจอกับสิ่งที่ไม่สบายใจ เช่น ความเจ็บป่วย การตาย
คุณชิณณ์ต่อยอด ถ้าคนเราเชื่อว่าเราจะตายจริงๆ เราจะทำไม่เหมือนเดิม
ดังนั้นก่อนนอน ซ้อมตายไว้ก่อน จะตายต้องเตรียมตัวอย่างไร
เราเชื่อว่าสะสมความดีเพียงพอ ก็ไม่กลัวความตาย
สุดท้ายขอขอบคุณวิทยากรทั้งสองท่าน และ พิธีกร รวมถึงทีมงานของสมาคมไทยวีไอด้วยครับ