หุ้นลงซื้อหุ้นขึ้นขายทำไมถึงไม่ได้ผล

[หมอวิ]

ใครที่เคยทำตามคำแนะนำทำนองนี้ (หุ้นลงซื้อ-หุ้นขึ้นขาย) คงจะรู้กันดีครับว่า บางทีมันก็ได้ผล บางทีก็ไม่ได้ผล และสุดท้ายมักจะลงเอยด้วยการขาดทุนเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าบ่อยครั้งที่เราช้อนซื้อหุ้นแล้วมันดันลงต่อ (ติดดอย) แล้วพอหุ้นขึ้นเราขายมันก็ขึ้นไปอีก (ขายหมู)

นั่นเป็นเพราะอะไร เรามาดูกันครับ

เมื่อมองผ่านแว่นของนักลงทุนเน้นคุณค่า เราจะพบว่ากลยุทธ์นี้มีโอกาสสำเร็จไม่ถึงครึ่ง (มีโอกาสผิดมากกว่าถูก) เพราะที่บอกว่า “หุ้นลง” นั้น เราไม่รู้ว่ามันเป็นอันไหนกันแน่ ระหว่าง
1) เพิ่งลงมาจากยอดดอย คือราคาลงมาแล้ว แต่ก็ยังแพงอยู่ดี
2) ลงมาพอสมควร ถึงระดับกลาง ๆ คือ ไม่ถูกแต่ก็ไม่แพง
3) ลงมามากจนเกือบจะสุด หรือถูกมากแล้ว

ที่บอกว่าถูกไม่ถึงครึ่ง ก็เพราะว่าตามหลักการของวีไอ เราจะซื้อหุ้นเมื่อมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย (Margin of safety : MOS) มากพอ ซึ่งในที่นี้ คือ กรณีที่ 3 เท่านั้น

ส่วนที่บอกว่า “หุ้นขึ้น” ก็เป็นไปในทำนองคล้าย ๆ กัน

เพื่อที่จะทำให้กลายเป็นคำแนะนำที่ใช้ได้ผล ผมขอขยายความเพิ่มเติม ดังนี้
1) คำว่า “ลงซื้อ” หมายถึง ลงมาจนถูกมากพอ (มี MOS เพียงพอ) จึงค่อยซื้อ
2) คำว่า “ขึ้นขาย” หมายถึง ขึ้นมาจนเต็มหรือเกินมูลค่า จึงค่อยขาย

ลองดูภาพประกอบ 2 ภาพนี้ครับ

[img]

ภาพประกอบ_บทความที่%204.1(เล็ก).jpg

[/img]

[img]

ภาพประกอบ_บทความที่%204.2(เล็ก).jpg

[/img]

แต่ทว่า คำแนะนำนี้มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งครับ (ปัญหาใหญ่มากเสียด้วย) คือ เราจะต้องประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของกิจการให้ได้ก่อน จึงจะสามารถบอกได้ว่าราคาหุ้นที่ลงมานั้น ระดับไหนคือถูก ระดับไหนคือแพง

สำหรับปัญหาที่ว่านี้ ขอแยกกล่าวเป็นสองกรณี คือ

กรณีที่ 1 : เรามีมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ในใจ
ถ้าอย่างนี้ก็ไม่ยากครับ เพราะเมื่อมีมูลค่าที่เหมาะสมเป็นจุดอ้างอิง เราก็พอจะบอกได้ว่า ช่วงราคาไหนคือโซนถูก (โซนน่าซื้อ), โซนไม่ถูกไม่แพง (ไม่ซื้อไม่ขาย), หรือโซนแพง (โซนน่าขาย)
แต่นี่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราประเมิน “มูลค่าที่เหมาะสม” ได้อย่าง “เหมาะสม” แค่ไหนด้วยนะครับ
ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องขอบอกว่า ถ้ารักและเลือกที่จะลงทุนแนวเน้นคุณค่า เราก็จำเป็นต้องพัฒนาทักษะในการประเมินมูลค่าหุ้นขึ้นมาให้จงได้ครับ
(แนะนำอ่านบทความเรื่อง #พรสามประการของการลงทุนเน้นคุณค่า จากเพจ Dr.Vichian ประกอบ)

กรณีที่ 2 : ไม่รู้ว่ามูลค่าที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน
ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมมีคำแนะนำให้เลือก 3 ทางครับ
1) ปล่อยให้มันผ่านไป แล้วไปมองหาโอกาสอื่น (อย่าออกนอกขอบเขตความรู้ หรือ Circle of competence)
2) ศึกษาเพิ่มเติมจนเข้าใจกิจการดีพอที่จะทำ Valuation ได้ (ขยาย Circle of competence)
3) เล่นในแนวทางอื่น ที่ไม่ใช่แนวเน้นคุณค่า

หวังว่าคราวหน้า เมื่อเจอกับสารพันคำแนะนำ เคล็ดลับ หรือเทคนิคในการซื้อขายหุ้นอะไรก็ตาม (อาจจะเป็น ข่าวดีให้ขาย-ข่าวร้ายให้ซื้อ, ซื้อตอนที่คนอื่นกลัว-ขายตอนที่คนอื่นโลภ, ซื้อขายตามสัญญาณเทคนิค, ซื้อขายตามคำแนะนำของนักวิเคราะห์, หรือแม้แต่มีข่าววงในมาบอก) คุณ “ในฐานะนักลงทุนเน้นคุณค่า” คงไม่ลืมที่จะกลับมาประเมินก่อนนะครับว่า ราคาหุ้นขณะนั้นมันถูกหรือแพง (อยู่ในโซนซื้อ-ถือ-หรือขาย) แล้วจึงค่อยวางแผนการลงทุนที่เหมาะสม เมื่อเห็นว่าเป็นโอกาสที่มีแต้มต่อเท่านั้น

by #Dr.Vi. #หมอวิ (20 ตค. 60)
https://www.facebook.com/Dr.Vichian/
[email protected]

[neuhiran]

ขอบคุณครับ

[poody]

โดนใจ เพิ่งทำพลาด หุ้นขึ้นซื้อ(เพราะคิดว่าจะขึ้นต่อ) หุ้นลงขาย(เพราะกลัวลงไปอีก) เป็นแบบนี้หลายรอบหล่ะ