เงิดสดมีมากแค่ไหน ??
-
- Verified User
- โพสต์: 52
- ผู้ติดตาม: 0
เงิดสดมีมากแค่ไหน ??
โพสต์ที่ 1
เรียนถามพี่ๆ ทุกท่าน จากงบการเงิน เราจะดูตรงไหนว่า บริษัทที่เราจะลงทุนมีเงินสดสะสมมากแค่ไหน ดูจากกำไรสะสมได้ไหมครับ (น่าจะไม่ใช่ดูจากงบกระแสเงินสด ผมเข้าใจว่างบกระแสเงินสด บอกเป็นปีๆ ว่าปีนั้น เงิดสดรับมากกว่า หรือเงินสดจ่ายมากกว่า) ผมมองว่าบริษัทที่มีเงินสดในมือพอสมควร ถึงเวลาจะลงทุนอะไรก็ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ให้เสียดอกเบี้ย
- คนดูดาว
- Verified User
- โพสต์: 84
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เงิดสดมีมากแค่ไหน ??
โพสต์ที่ 2
ลองตอบดูนะครับ ผมเข้าใจว่าจริงๆดูจากงบกระแสเงินสดก็ได้นะครับ จะอยู่ในส่วนของรายการเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันสิ้นปี น่ะครับsert เขียน:เรียนถามพี่ๆ ทุกท่าน จากงบการเงิน เราจะดูตรงไหนว่า บริษัทที่เราจะลงทุนมีเงินสดสะสมมากแค่ไหน ดูจากกำไรสะสมได้ไหมครับ (น่าจะไม่ใช่ดูจากงบกระแสเงินสด ผมเข้าใจว่างบกระแสเงินสด บอกเป็นปีๆ ว่าปีนั้น เงิดสดรับมากกว่า หรือเงินสดจ่ายมากกว่า) ผมมองว่าบริษัทที่มีเงินสดในมือพอสมควร ถึงเวลาจะลงทุนอะไรก็ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ให้เสียดอกเบี้ย
ซึ่งรายการนี้ก็จะเท่ากับรายการเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดในส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียนในงบแสดงฐานะการเงินด้วยน่ะครับ
หวังว่าจะตอบตรงคำถามของพี่ sert นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เงิดสดมีมากแค่ไหน ??
โพสต์ที่ 3
ดูที่งบดุลก่อนเลยครับ ว่ามี เงินสดและที่เทียบเท่าเงินสด (เช่นเงินลงทุนชั่วคราว)
ที่นี้ต้องมาลบกับหนี้ระยะสั้น และบวกกับรายการลูกหนี้และสต็อคสินค้า (ที่นี้ต้อง
อนุมานมาว่าทั้งสองด้านนี่เปลี่ยนเป็นเงินสด ได้รวดเร็วแค่ไหน ถ้าช้าก็ไม่ควรถือว่า
เป็นเงินสด หรืออาจจะคิดว่าเป็นเงินสดกี่เปอร์เซ็นต์ อันนี้ต้องดูจากงบในอดีตแล้ว
อนุมานไปข้างหน้า
การกู้มาลงทุนถ้าหาก D/E ไม่ได้สูงเกินไป ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่แย่นะครับ แต่การ
ถือเงินสดเยอะๆ โดยไม่รู้จะทำอะไรนี่แย่กว่ามาก (แต่บางอุตสาหกรรมก็จำเป็นต้อง
มีเงินสดในมือเยอะๆ อาทิ อีเล็คโทรนิค เป็นต้น)
ที่นี้ต้องมาลบกับหนี้ระยะสั้น และบวกกับรายการลูกหนี้และสต็อคสินค้า (ที่นี้ต้อง
อนุมานมาว่าทั้งสองด้านนี่เปลี่ยนเป็นเงินสด ได้รวดเร็วแค่ไหน ถ้าช้าก็ไม่ควรถือว่า
เป็นเงินสด หรืออาจจะคิดว่าเป็นเงินสดกี่เปอร์เซ็นต์ อันนี้ต้องดูจากงบในอดีตแล้ว
อนุมานไปข้างหน้า
การกู้มาลงทุนถ้าหาก D/E ไม่ได้สูงเกินไป ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่แย่นะครับ แต่การ
ถือเงินสดเยอะๆ โดยไม่รู้จะทำอะไรนี่แย่กว่ามาก (แต่บางอุตสาหกรรมก็จำเป็นต้อง
มีเงินสดในมือเยอะๆ อาทิ อีเล็คโทรนิค เป็นต้น)
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 52
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เงิดสดมีมากแค่ไหน ??
โพสต์ที่ 4
คืออย่างงี้ครับพี่ๆ ผมสนใจจะลงทุนในบริษัทที่มีการจ่ายปันผล เราจะดูได้ตรงไหนว่า บริษัทมีเงินกำไรจากการทำธุรกิจ แล้วเอากำไรมาจ่ายปันผล (หรือว่าดูจากกำไรต่อหุ้น ถ้ากำไรต่อหุ้น มากกว่าปันผลต่อหุ้น ก็น่าจะเอากำไรมาจ่าย) แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า บริษัทนี้กู้เงินมาจ่ายปันผลครับ
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เงิดสดมีมากแค่ไหน ??
โพสต์ที่ 5
มันจะมีบอกไว้ตอนเขาประกาศจ่ายปันผลนะครับ ว่าจ่ายจากอะไรsert เขียน:คืออย่างงี้ครับพี่ๆ ผมสนใจจะลงทุนในบริษัทที่มีการจ่ายปันผล เราจะดูได้ตรงไหนว่า บริษัทมีเงินกำไรจากการทำธุรกิจ แล้วเอากำไรมาจ่ายปันผล (หรือว่าดูจากกำไรต่อหุ้น ถ้ากำไรต่อหุ้น มากกว่าปันผลต่อหุ้น ก็น่าจะเอากำไรมาจ่าย) แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า บริษัทนี้กู้เงินมาจ่ายปันผลครับ
เช่น จ่ายจากกำไรจากการดำเนินงาน, จ่ายจากกำไรสะสม อะไรประมานนี่ครับ
โอ้ละหนอดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เงิดสดมีมากแค่ไหน ??
โพสต์ที่ 6
เงินสดมันสะท้อนได้ถึง
1. ความเสี่ยงของธุรกิจนั้นๆ จำเป็นต้องใช้เงินสดในการซื้อมาขายไป
เช่น โลหะมีค่า ไม่มีเครดิตเทอม ของไปเงินมา รูดบัตรก็ไม่ค่อยรับ
แสดงว่า แบบนี้ซื้อมาขายไปแบบเงินสด มันสะท้อน ถึงความเสี่ยงได้ในระดับ
2. ถือเงินสดคือ ต้นทุนทางการเงิน เพราะเงินสดนั้น เกิดดอกออกผลได้น้อย
เงินสดได้ดอกเบี้ย 1-2% ต่อปี แต่กิจการนั้นๆ มีผลตอบแทนในส่วนของ ROA ประมาณ 4-5 %
Asset นั้นรวมเงินสดเข้าไปด้วย ดังนั้น จะเห็นว่า เงินสดเป็นตัวถ่วงทำให้ผลตอบแทนน้อยลงไป นั้นเอง
3. กิจการนั้น ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เลยเก็บในรูปของเงินสดนั้นเอง
ไม่อยากเสี่ยงให้เงินมันหายไป นิ่งๆๆไว้ดีที่สุดนั้นเอง
1. ความเสี่ยงของธุรกิจนั้นๆ จำเป็นต้องใช้เงินสดในการซื้อมาขายไป
เช่น โลหะมีค่า ไม่มีเครดิตเทอม ของไปเงินมา รูดบัตรก็ไม่ค่อยรับ
แสดงว่า แบบนี้ซื้อมาขายไปแบบเงินสด มันสะท้อน ถึงความเสี่ยงได้ในระดับ
2. ถือเงินสดคือ ต้นทุนทางการเงิน เพราะเงินสดนั้น เกิดดอกออกผลได้น้อย
เงินสดได้ดอกเบี้ย 1-2% ต่อปี แต่กิจการนั้นๆ มีผลตอบแทนในส่วนของ ROA ประมาณ 4-5 %
Asset นั้นรวมเงินสดเข้าไปด้วย ดังนั้น จะเห็นว่า เงินสดเป็นตัวถ่วงทำให้ผลตอบแทนน้อยลงไป นั้นเอง
3. กิจการนั้น ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เลยเก็บในรูปของเงินสดนั้นเอง
ไม่อยากเสี่ยงให้เงินมันหายไป นิ่งๆๆไว้ดีที่สุดนั้นเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 32
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เงิดสดมีมากแค่ไหน ??
โพสต์ที่ 7
ผมคิดว่าดูจากงบกระแสเงินสดก็ได้ครับ แล้วไปที่หัวข้อ"กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน"sert เขียน:คืออย่างงี้ครับพี่ๆ ผมสนใจจะลงทุนในบริษัทที่มีการจ่ายปันผล เราจะดูได้ตรงไหนว่า บริษัทมีเงินกำไรจากการทำธุรกิจ แล้วเอากำไรมาจ่ายปันผล (หรือว่าดูจากกำไรต่อหุ้น ถ้ากำไรต่อหุ้น มากกว่าปันผลต่อหุ้น ก็น่าจะเอากำไรมาจ่าย) แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า บริษัทนี้กู้เงินมาจ่ายปันผลครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เงิดสดมีมากแค่ไหน ??
โพสต์ที่ 8
ตามที่ผมเข้าใจการจ่ายเงินปันผลนั้นจะต้องจ่ายออกมาจากกำไร โดยบริษัทจะต้องไม่มีการขาดทุนสะสมหรือทำการล้างการขาดทุนสะสมให้เรียบร้อยก่อนจึงจะจ่ายปันผลได้ การดูแค่ระดับเงินสดที่กิจการมีจึงไม่ได้บ่งบอกว่าบริษัทจะมีความสามารถในการจ่ายปันผลได้อย่างแน่นอนนะครับ
เมื่อบริษัททำกำไรได้แล้วก็ยังต้องทยอยกันกำไรส่วนหนึ่งไว้เป็นทุนสำรองตามกฏหมายอีกจนกว่าจะครบ 10% ของทุนจดทะเบียน
การจ่ายปันผลยังขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทว่าจะจ่ายเป็นอัตราส่วนเท่าไรต่อผลกำไร ซึ่งต้องผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือ อาจจเป็นการประชุมของกรรมการก็ได้ หากเป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
เมื่อตกลงกันแล้วว่าจะจ่าย ก็ค่อยมาดูว่าจะหาเงินสดจากส่วนไหนมาจ่าย ซึ่งก็มีวิธีการมากมายในการหาเงินมาจ่าย แต่ที่สำคัญคือขั้นตอนก่อนหน้านี้มากกว่าครับว่ามันผ่านมาได้อย่างครบถ้วนถูกต้องไหม
การลงทุนโดยเงินปันผลจึงต้องติดตามดูการดำเนินงานของบริษัทว่าทำกำไรได้ไหม ดูงบดุลว่ามีขาดทุนสะสมไหม และบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างไร ควบคู่กันไปทุกมิติครับ
เมื่อบริษัททำกำไรได้แล้วก็ยังต้องทยอยกันกำไรส่วนหนึ่งไว้เป็นทุนสำรองตามกฏหมายอีกจนกว่าจะครบ 10% ของทุนจดทะเบียน
การจ่ายปันผลยังขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทว่าจะจ่ายเป็นอัตราส่วนเท่าไรต่อผลกำไร ซึ่งต้องผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือ อาจจเป็นการประชุมของกรรมการก็ได้ หากเป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
เมื่อตกลงกันแล้วว่าจะจ่าย ก็ค่อยมาดูว่าจะหาเงินสดจากส่วนไหนมาจ่าย ซึ่งก็มีวิธีการมากมายในการหาเงินมาจ่าย แต่ที่สำคัญคือขั้นตอนก่อนหน้านี้มากกว่าครับว่ามันผ่านมาได้อย่างครบถ้วนถูกต้องไหม
การลงทุนโดยเงินปันผลจึงต้องติดตามดูการดำเนินงานของบริษัทว่าทำกำไรได้ไหม ดูงบดุลว่ามีขาดทุนสะสมไหม และบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างไร ควบคู่กันไปทุกมิติครับ
แชทบอทสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.chathoon.com/
https://www.chathoon.com/