cpfครัวของโลกมี marketcap น้อยกว่า cpall เหมาะสมเปล่า
-
- Verified User
- โพสต์: 2166
- ผู้ติดตาม: 0
Re: cpfครัวของโลกมี marketcap น้อยกว่า cpall เหมาะสมเปล่า
โพสต์ที่ 3
การเป็นครัวของโลกของ CPF ในช่วงหลังๆ เป็นการขยายธุรกิจในส่วนของ Feed and Farm ซะส่วนใหญ่ ซึ่งมีลักษณะเป็น commodity ไม่มี competitive advantage มากนัก
ในขณะที่ CPALL นั้นเน้นไปทางสะดวกกิน มีอาหารให้เลือกกินทุกอย่าง ซึ่งจะมองว่ามาแทนครัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งเข้ากับสภาพชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน
ในขณะที่ CPALL นั้นเน้นไปทางสะดวกกิน มีอาหารให้เลือกกินทุกอย่าง ซึ่งจะมองว่ามาแทนครัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งเข้ากับสภาพชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
http://valueinvestors.wordpress.com/
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: cpfครัวของโลกมี marketcap น้อยกว่า cpall เหมาะสมเปล่า
โพสต์ที่ 4
เป็นเรื่องลักษณะกิจการ/ผลประกอบการ ผลปลายทางที่สะท้อนออกมา... CPALL ที่เรามองเห็นกันอยู่ เจอเศรษฐกิจแย่ๆ ของประเทศเข้าไป ก็ยังทำยอดขายโตได้ 10% (แต่ลดมา จากที่เคยโต 30-40%) premium ที่ได้เพราะยังถือได้ว่าเป็น Growth stock อยู่
CPF มีส่วน commodity อย่างท่าน offshore-engineer ว่า บางปีเพิ่ม บางปีลด ช่วงนี้ยอดขายหดตัวเล็กน้อย ดีที่ยังคงกำไรได้บ้าง พอโตขึ้นไปไกลในโลก มีส่วนที่ควบคุมยากอยู่เป็นส่วนประกอบด้วย มีอุปสรรคมีผลต่อการขายประปรายอีก ตลาดจึงให้ premium ต่ำกว่าเป็นธรรมดา
ถ้าเป็นพาหนะ เพราะเป็นบริการรถประจำทางที่มีความน่าเชื่อถือดีระดับแนวหน้าของประเทศทั้งคู่ แต่เหมือนแบบรถทัวร์ ABC นั่งสบายๆ เพราะรถแอร์เย็นสบายมาแบบนี้หลายปี แต่อีกบริษัททัวร์ XYZ ถึงจะรถคันใหญ่กำลังดีกว่ารถเยอะกว่าก็ตาม แต่เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนเครื่องสะดุดๆ คนไม่ได้สนใจขนาด แต่สนใจคุณภาพบริการที่ได้มากกว่านั่งสบายใจกว่า
ความรู้สึกคนที่เห็นรถทั้งสองคันรวมถึงคนที่เคยใช้บริการบ้างแล้ว จึงพอจะเข้าใจได้ว่า มหาชนชอบใช้บริการคันไหนเป็นพาหนะในการลงทุนกันมากกว่า
CPF มีส่วน commodity อย่างท่าน offshore-engineer ว่า บางปีเพิ่ม บางปีลด ช่วงนี้ยอดขายหดตัวเล็กน้อย ดีที่ยังคงกำไรได้บ้าง พอโตขึ้นไปไกลในโลก มีส่วนที่ควบคุมยากอยู่เป็นส่วนประกอบด้วย มีอุปสรรคมีผลต่อการขายประปรายอีก ตลาดจึงให้ premium ต่ำกว่าเป็นธรรมดา
ถ้าเป็นพาหนะ เพราะเป็นบริการรถประจำทางที่มีความน่าเชื่อถือดีระดับแนวหน้าของประเทศทั้งคู่ แต่เหมือนแบบรถทัวร์ ABC นั่งสบายๆ เพราะรถแอร์เย็นสบายมาแบบนี้หลายปี แต่อีกบริษัททัวร์ XYZ ถึงจะรถคันใหญ่กำลังดีกว่ารถเยอะกว่าก็ตาม แต่เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนเครื่องสะดุดๆ คนไม่ได้สนใจขนาด แต่สนใจคุณภาพบริการที่ได้มากกว่านั่งสบายใจกว่า
ความรู้สึกคนที่เห็นรถทั้งสองคันรวมถึงคนที่เคยใช้บริการบ้างแล้ว จึงพอจะเข้าใจได้ว่า มหาชนชอบใช้บริการคันไหนเป็นพาหนะในการลงทุนกันมากกว่า
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: cpfครัวของโลกมี marketcap น้อยกว่า cpall เหมาะสมเปล่า
โพสต์ที่ 5
ที่เห็นเป็นแบบนี้ CPALL ต่างจาก CPF ตรงที่ เซเว่นส่วนใหญ่เป็นเงินสดจากลูกค้าเอามาหมุนได้ง่ายก่อนเอาไปจ่ายคนขายสินค้าให้ (supplier) ได้ ลูกค้าเป็นหนี้น้อย
ไปดูตัวเลขแปลงลูกหนี้เป็นเงินสด (A/R Turnover) CPALL หมุนได้แบบที่ธุรกิจอื่นต้องอิจฉา ตัวเลข 505 เท่า! ก็เหตุผลธุรกิจค้าปลีก ที่ไม่ค่อยให้มีลูกหนี้...
เพราะลูกหนี้ขายเชื่อเฉลี่ย ที่เป็นตัวหารน้อยนิด เลยทำให้ตัวเลขอัตราการหมุนสูง
ตัวเลข Collection Period 0.7 วัน เพราะได้รับเงินจากฝูงชนคนละเล็กละน้อย เศษสตางค์ก็มี เห็นผลเข้ากระเป๋าทันทีที่ได้ยินเสียง "รับถุงยางเพิ่มมั๊ยคะ" แปลว่าเงินสด collect ละ... แต่เงินที่ว่า ที่ได้รับมาจากชาวบ้าน กว่าจะจ่ายออกไปหา supplier ออกไปเป็นก้อนๆ ก็ปาเข้าไปอีก 2 เดือนโดยเฉลี่ย (ตัวเลข Payment Period 63 วัน)
เป็นเพราะส่วนใหญ่ สินค้า CPALL ไม่ใช่ที่ผลิตเอง แต่รับ "เชื่อ" มาขายไป "สด"
CPALL มีตัวเลขวัดอีกตัว ที่เรียกว่า Same store sales growth โตบนทางช่องทางจำหน่ายเหมือนเดิม ธุรกิจขยายตัว ส่วนหนึ่งด้วยวิธีการแค่ copy ร้านของเก่า เป็นการเพิ่ม distribution channel ที่ผ่านมาก้ไม่ค่อยได้เห็นมีการปิดร้าน มีแต่เปิดร้่านเพิ่มใกล้ๆ เมื่อเห็นยอดร้านเดิมขายดี เหมือนแย่งลูกค้าจากคนเดิม แต่บริษัทยอดขายเพิ่ม เพราะเพิ่มพื้นที่ขาย เพิ่มจุดในการขาย ลูกค้าเดิมก็สะดวกยิ่งขึ้น เพิ่มลูกค้าใหม่อีก
ส่วนอัตราการ "ขยายกำลัง" ด้าน leverage
วัดอัตรากำไร ROE ของ CPF น่าจะคล้ายที่เห็นได้เหมือนบริษัททั่วไปที่พอใช้ แต่ไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก เพราะอยู่ราวไม่ถึง 7%
CPALL ROE ที่ตกมาถึงมือผู้ถือหุ้นสูงมากถึง กว่า 40% ที่ในตลาดสูงขนาดนี้หรือกว่านี้มีแค่ราว 20 บริษัท
แต่ CPALL นี่ก็ยังมีด้านมืดอยู่บ้าง... เพราะ ROE แบบนี้ ก็แลกด้วยความเสี่ยง ที่ DE Ratio 9 เท่า (ปีที่แล้ว 10 เท่า) คือว่า... คนถือหุ้นมีเงินทุนรวมอยู่ 3 หมื่นล. แต่บริษัทที่เห็นว่าใหญ่ๆ ใช้เงินของเจ้าหนี้ 2.8-3 แสนล้าน
ดูอีกทีบอกว่าคนดำเนินกิจการ ใช้เงิน equity นิดเดียวเองก็ที่เห็น ถือเป็นการขยายเงินที่ทำให้ได้ ROE สูงๆ ตาม
แต่ดูทีนึง อีกด้านนึง.... ความเสียงสูงเป็นหนี้ชาวบ้านซะเยอะจนน่ากลัว หนี้ยาวเกือบ 2 แสนล.
ไปดูตัวเลขแปลงลูกหนี้เป็นเงินสด (A/R Turnover) CPALL หมุนได้แบบที่ธุรกิจอื่นต้องอิจฉา ตัวเลข 505 เท่า! ก็เหตุผลธุรกิจค้าปลีก ที่ไม่ค่อยให้มีลูกหนี้...
เพราะลูกหนี้ขายเชื่อเฉลี่ย ที่เป็นตัวหารน้อยนิด เลยทำให้ตัวเลขอัตราการหมุนสูง
ตัวเลข Collection Period 0.7 วัน เพราะได้รับเงินจากฝูงชนคนละเล็กละน้อย เศษสตางค์ก็มี เห็นผลเข้ากระเป๋าทันทีที่ได้ยินเสียง "รับถุงยางเพิ่มมั๊ยคะ" แปลว่าเงินสด collect ละ... แต่เงินที่ว่า ที่ได้รับมาจากชาวบ้าน กว่าจะจ่ายออกไปหา supplier ออกไปเป็นก้อนๆ ก็ปาเข้าไปอีก 2 เดือนโดยเฉลี่ย (ตัวเลข Payment Period 63 วัน)
เป็นเพราะส่วนใหญ่ สินค้า CPALL ไม่ใช่ที่ผลิตเอง แต่รับ "เชื่อ" มาขายไป "สด"
CPALL มีตัวเลขวัดอีกตัว ที่เรียกว่า Same store sales growth โตบนทางช่องทางจำหน่ายเหมือนเดิม ธุรกิจขยายตัว ส่วนหนึ่งด้วยวิธีการแค่ copy ร้านของเก่า เป็นการเพิ่ม distribution channel ที่ผ่านมาก้ไม่ค่อยได้เห็นมีการปิดร้าน มีแต่เปิดร้่านเพิ่มใกล้ๆ เมื่อเห็นยอดร้านเดิมขายดี เหมือนแย่งลูกค้าจากคนเดิม แต่บริษัทยอดขายเพิ่ม เพราะเพิ่มพื้นที่ขาย เพิ่มจุดในการขาย ลูกค้าเดิมก็สะดวกยิ่งขึ้น เพิ่มลูกค้าใหม่อีก
ส่วนอัตราการ "ขยายกำลัง" ด้าน leverage
วัดอัตรากำไร ROE ของ CPF น่าจะคล้ายที่เห็นได้เหมือนบริษัททั่วไปที่พอใช้ แต่ไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก เพราะอยู่ราวไม่ถึง 7%
CPALL ROE ที่ตกมาถึงมือผู้ถือหุ้นสูงมากถึง กว่า 40% ที่ในตลาดสูงขนาดนี้หรือกว่านี้มีแค่ราว 20 บริษัท
แต่ CPALL นี่ก็ยังมีด้านมืดอยู่บ้าง... เพราะ ROE แบบนี้ ก็แลกด้วยความเสี่ยง ที่ DE Ratio 9 เท่า (ปีที่แล้ว 10 เท่า) คือว่า... คนถือหุ้นมีเงินทุนรวมอยู่ 3 หมื่นล. แต่บริษัทที่เห็นว่าใหญ่ๆ ใช้เงินของเจ้าหนี้ 2.8-3 แสนล้าน
ดูอีกทีบอกว่าคนดำเนินกิจการ ใช้เงิน equity นิดเดียวเองก็ที่เห็น ถือเป็นการขยายเงินที่ทำให้ได้ ROE สูงๆ ตาม
แต่ดูทีนึง อีกด้านนึง.... ความเสียงสูงเป็นหนี้ชาวบ้านซะเยอะจนน่ากลัว หนี้ยาวเกือบ 2 แสนล.
-
- Verified User
- โพสต์: 153
- ผู้ติดตาม: 0
Re: cpfครัวของโลกมี marketcap น้อยกว่า cpall เหมาะสมเปล่า
โพสต์ที่ 6
ผมสังเกตเห็นเดี๋ยวนี้คนมักใช้บัตร smart purse กันมากขึ้น ซึ่งถ้าลองๆ เอามาคำนวณเป็นตัวเงินดูแล้วน่าจำกำไรเห็นๆ
ค่าบัตรใบละประมาณ 190 บาท ตอนนี้ถ้าจำไม่ผิดได้แสตมป์ 60 บาท (ส่วนต่าง 130 บาท มีอายุการใช้งาน 3 ปี ซึ่ง
เฉลี่ยต่อปีก็ประมาณ 43 บาท) และเติมเงินขั้นต่ำคือ 50 บาท ถ้ามีลูกค้าใช้บัตรประมาณ 1 ล้านใบ แล้วเติมเงินขั้นต่ำ
ใน 1 วัน CPALL จะได้ดอกเบี้ยวันและเท่าไหร่ ? แล้วปัจจุบันก็มีสินค้า house brand เยอะขึ้น ทั้งตัดราคา แย่งตลาดเดิม
แบบนี้จะไม่ให้กำไรได้อย่างไรล่ะครับ แถมเงินสดเยอะขนาดนี้หมุนยังไงก็คล่องมือ ไม่แปลกที่ Market Cap. จะดีกว่า
CPF แต่ถึงอย่างไร ตัว CPF นั้นก็คงจะผันผวนชั่วคราวหล่ะครับ ผมเองก็ยังนึกถึงคำสอนของท่านอาจารย์ ด.ร.นิเวศน์ ที่
ท่านเคยพูดไว้ว่าบริษัทที่ยิ่งใหญ่นั้นมักจะมี "ศักดิ์ศรีของหุ้น" คำคออยู่.....
ค่าบัตรใบละประมาณ 190 บาท ตอนนี้ถ้าจำไม่ผิดได้แสตมป์ 60 บาท (ส่วนต่าง 130 บาท มีอายุการใช้งาน 3 ปี ซึ่ง
เฉลี่ยต่อปีก็ประมาณ 43 บาท) และเติมเงินขั้นต่ำคือ 50 บาท ถ้ามีลูกค้าใช้บัตรประมาณ 1 ล้านใบ แล้วเติมเงินขั้นต่ำ
ใน 1 วัน CPALL จะได้ดอกเบี้ยวันและเท่าไหร่ ? แล้วปัจจุบันก็มีสินค้า house brand เยอะขึ้น ทั้งตัดราคา แย่งตลาดเดิม
แบบนี้จะไม่ให้กำไรได้อย่างไรล่ะครับ แถมเงินสดเยอะขนาดนี้หมุนยังไงก็คล่องมือ ไม่แปลกที่ Market Cap. จะดีกว่า
CPF แต่ถึงอย่างไร ตัว CPF นั้นก็คงจะผันผวนชั่วคราวหล่ะครับ ผมเองก็ยังนึกถึงคำสอนของท่านอาจารย์ ด.ร.นิเวศน์ ที่
ท่านเคยพูดไว้ว่าบริษัทที่ยิ่งใหญ่นั้นมักจะมี "ศักดิ์ศรีของหุ้น" คำคออยู่.....
มงคลชีวิต 38 ประการ
คือ บทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ หรือ มี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ทั้งหมด ๓๘ ประการ
คือ บทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ หรือ มี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ทั้งหมด ๓๘ ประการ