เบรกรับซื้อโซลาร์ฟาร์มเพิ่ม

[syj]

เบรกรับซื้อโซลาร์ฟาร์มเพิ่ม
http://www.thanonline.com/index.php?opt ... N2CVvmUcXo

สนพ.จี้กกพ.ออกระเบียบรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์เซลล์หน่วยงานราชการให้เสร็จภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ เตรียมยื่นไปยังคณะกรรมการพลังงานหมุนเวียนฯ พิจารณากรณีกระทรวงกลาโหมยื่นลงทุนกว่า 310 เมกะวัตต์ ส่วนการพิจารณาเปิดรับซื้อเพิ่มต้องรอนโยบายรัฐปีหน้า ขณะที่ กกพ. เตรียมเจรจาเลื่อนโรงไฟฟ้าที่จะเข้าระบบออกไปก่อน เหตุสำรองไฟฟ้าสูง 25%

ชวลิต พิชาลัยชวลิต พิชาลัยนายชวลิต พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากกรณีที่กองทัพบก กระทรวงกลาโหม ได้ยื่นหนังสือขอให้กระทรวงพลังงานพิจารณาโครงการลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ในหน่วยงานราชการจำนวน 20 แห่ง รวมกำลังผลิต 100 เมกะวัตต์ ที่ร่วมกับภาคเอกชนแห่งละไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ ภายใต้โครงการโซลาร์เซลล์หน่วยงานราชการและสหกรณ์ 800 เมกะวัตต์นั้น คงไม่มีปัญหาอะไร แต่คงต้องรอระเบียบรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้แล้วเสร็จก่อน คาดว่าจะเสร็จภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะต้องเสนอโครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ที่มีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพิจารณาต่อไปในเร็วๆนี้ รวมถึงโครงการผลิตไฟฟ้าจากหญ้าเนเปียร์ ขนาด 1 เมกะวัตต์ ที่กองทัพบกเสนอมาด้วย

ส่วนกรณีที่กระทรวงกลาโหมเสนอขอขายไฟฟ้ามาเพิ่มเติม 310 เมกะวัตต์ นอกเหนือจากเป้าหมายของกระทรวงพลังงานนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของภาครัฐปี 2559 ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งคงต้องรอให้โครงการโซลาร์เซลล์หน่วยงานราชการฯ ในปีนี้800 เมกะวัตต์ สำเร็จไปก่อนที่จะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในสิ้นปี 2558 นี้

โดยแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า ขณะนี้ผู้ที่ได้โควตาผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของกองทัพบก เช่น บริษัท เสริมสร้าง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งมีโครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 40 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดลพบุรี เป็นต้น ขณะที่โครงการผลิตไฟฟ้าจากหญ้าเนเปียร์ ทางกองทัพบกจะร่วมมือกับบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้งฯ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้งฯ ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ซึ่งมีนายนพพร ศุภพิพัฒน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกำลังมีปัญหาเรื่องคดีความอยู่

นายไกรสีห์ กรรณสูต กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกพ.อยู่ระหว่างออกระเบียบรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ราชการ จำนวน 800 เมกะวัตต์ ใกล้จะเสร็จแล้ว เพื่อให้ทางคณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ใช้เป็นระเบียบพิจารณาอนุมัติแต่ละโครงการ รวมทั้งการลงทุนด้วย ส่วนจะมีการขยายโซลาร์เซลล์ราชการเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่ามีโอกาสมาก เนื่องจากกระทรวงพลังงานตั้งเป้ารับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์มากถึง 6 พันเมกะวัตต์ ภายในปี 2579 โดยในปี 2558 อยู่ที่ 3.8 พันเมกะวัตต์ ดังนั้นจึงต้อรอนโยบายของภาครัฐปี 2559 ว่าจะเพิ่มในส่วนนี้อย่างไร

ส่วนกรณีความคืบหน้าต่อสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าภาคเอกชนรายเล็ก(เอสพีพี) ระบบโครเจนฯ ซึ่งปัจจุบันขายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับนิคมอุตสาหกรรม ทาง กกพ. อยู่ระหว่างพิจารณาราคาและปริมาณรับซื้อไฟฟ้า เพื่อไม่ต้องการให้ส่งผลกระทบต่อค่าเอฟทีในอนาคต ซึ่งเบื้องต้นจากการหารือกับสมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน พบว่าสามารถปรับลดปริมาณขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ จากเดิมกำหนดไม่เกิน 90 เมกะวัตต์ เหลือ 60 เมกะวัตต์ แต่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เห็นว่าควรขายไปยังนิคมก่อน ส่วนที่เหลือค่อยขายเข้าระบบประมาณ 5-10 เมกะวัตต์ ซึ่งตัวเลขยังไม่มีข้อสรุป คาดจะเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้

ขณะเดียวกัน ทาง กกพ. เตรียมเจรจากับผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าทั้งผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่(ไอพีพี) และเอสพีพี และโรงไฟฟ้าของ กฟผ. เพื่อเลื่อนขายไฟฟ้าเข้าระบบออกไปจากแผนก่อน เนื่องจากพบว่าปัจจุบันปริมาณสำรองไฟฟ้าอยู่ในระดับสูง ซึ่งปกติจะต้องอยู่ที่ 15% แต่ปัจจุบันสูงถึง 25% โดยเฉพาะในปี 2566-2567 ที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณสำรองสูงถึง 41-42% และในปี 2568-2569 จะทยอยลดลงเป็น 20% เนื่องจากพบว่าตัวเลขเศรษฐกิจและจีดีพีของประเทศไม่เติบโตตามคาด ขณะที่โรงไฟฟ้าไอพีพีก็จะเข้าระบบในปีดังกล่าว ทำให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นการเจรจาเลื่อนลงทุนออกไปก่อน ผู้ประกอบการจะไม่เสียค่าปรับ โดยจะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้ากับประชาชนด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,024 วันที่ 5 - 7 กุมถาพันธ์ พ.ศ. 2558

อยากรบกวนถามข้อมูลจากผู้รู้ครับว่า. ข่าวที่ว่ากำลังไฟฟ้าสำรองของไทยเราเหลือมาก อย่างที่เป็นข่าวข้างบนจริงหรือไม่ครับ

[KriangL]

"สำหรับโรงไฟฟ้าที่จะมีการเจรจาเพื่อให้เลื่อนโครงการออกไป จะเจรจาในส่วนของโรงไฟฟ้ากฟผ.ก่อน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพระนครใต้,โรงไฟฟ้าบางปะกง,โรงไฟฟ้าถ่านหินที่เทพา 1 ,โรงไฟฟ้าไอพีพีถ่านหิน ของบริษัทเนชั่นแนลเพาเวอร์ซัพพลาย หรือ เอ็นพีเอสและโรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทกัลฟ์ และโรงไฟฟ้าในกลุ่มเอสพีพีโคเจน 540 เมกะวัตต์ด้วย" ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/632659

โรงไฟฟ้าพวกนี้ 1 โรงเท่ากันโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกหลายสิบโรง หรือเป็นร้อยโรง ครับ

[KriangL]

ปริมาณสำรองจะมีความสำคัญสุดก็ตอนเดือนเมษาซึ่งเป็นเดือนที่มีการใช้ไฟสูงสุด

อันนี้เป็นข่าวปีที่แล้ว สำรอง 4122 MW ขณะที่ peak 26752 MW http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B ... 9%E0%B8%B2

ข่าวเมื่อสองปีก่อน สำรองแค่ 1424 MW http://money.sanook.com/77819/

25% ก็เป็นตัวเลขที่ไม่เยอะไม่น้อย ทีเมื่อก่อนมีสำรอง 15% ก็ยังต้องเพิ่มเลยครับ http://www.thairath.co.th/content/352545 ที่เยอะคือช่วงปี 2566-2567 ที่แถว 40% ที่พูดถึงในข่าวครับ