ศาลฎีกาสั่งจำคุก6ปีอดีตรองกก.บริษัทหลักทรัพย์ไทยฟูจิยักยอก

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

ศาลฎีกาสั่งจำคุก6ปีอดีตรองกก.บริษัทหลักทรัพย์ไทยฟูจิยักยอก

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 ปี อดีตรองกรรมการบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไทยฟูจิ ยักยอกทรัพย์ และอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทของ “ราเกซ สักเสนา” โดยทุจริต จำนวน 100 ล้านบาท ร่วมชดใช้เงินคืน 82 ล้าน

เมื่อวันที่ (21 ต.ค.) ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมศักดิ์ ผ่องสวัสดิ์ อดีตรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยฟูจิ และ นายสุรพล เนตรเจริญ ในฐานะกรรมการบริษัท อาร์เอส กรุ๊ป จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-2 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.3882/2542 และ อ.2831/2546 รวม 2 คดี

กรณีเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2536 นายสมศักดิ์ ผ่องสวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยฟูจิ ได้อนุมัติสินเชื่อโดยการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 100 ล้านบาท ให้แก่บริษัท อาร์เอส กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีนายสุรพล เนตรเจริญ เป็นกรรมการบริษัท โดยทุจริต และจากการตรวจสอบพบว่าบริษัท อาร์เอส กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทในเครือของนายราเกซ สักเสนา และต่อมาบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไทยฟูจิ จำกัด ถูกปิดกิจการ และบริษัท อาร์เอส กรุ๊ป จำกัด ไม่มีทรัพย์สินชำระหนี้ดังกล่าว

โดยศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษากันแล้วเห็นว่า พฤติการณ์บ่งชี้ชัดว่า นายสมศักดิ์ ผ่องสวัสดิ์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้มีอาชีพนักธุรกิจเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย แก่ประโยชน์ในลักษณะทรัพย์สินของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยฟูจิ จำกัด เป็นการกระทำการ หรือไม่กระทำการใดเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น ในความผิดฐานเป็นกรรมการกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต ยักยอกทรัพย์ และกระทำการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 มาตรา 75 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ประกอบมาตรา 353 ลงโทษตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2552 มาตรา 75 บทหนัก ให้จำคุก 6 ปี

ส่วน นายสุรพล เนตรเจริญ จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการบริษัท อาร์เอส กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้จัดทำเอกสารการขออนุมัติสินเชื่ออันเป็นข้อมูลเท็จ จนทำให้ผู้เสียหายอาวัลและรับรองตั๋วเงิน และชำระหนี้แทนบริษัท อาร์เอส กรุ๊ป จำกัด ไม่อยู่ในฐานะตัวการผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 แต่เป็นการช่วยเหลือจำเลยที่ 1 ให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายกระทำความผิดต่อหน้าที่โดยทุจริต ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไทยฟูจิ จำกัด จึงเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบมาตรา 86 ให้จำคุก 2 ปี และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินแก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไทยฟูจิ จำกัด จำนวน 82,240,030.52 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
----------------------------------------------------
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews ... 0000121506

----------------------------------------------------
ยาวนานมากๆ สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับ ธนาคาร กรุงเทพ พาณิชยการ
สุดท้ายก็ถึงปลายทางซักที
:)
:)
โพสต์โพสต์