กระทิงนานแค่ไหน

[Internship]

สวัสดีครับ

ผมอยากจะรู้จังครับ ว่าเวลาตลาดเป็นภาวะกระทิงนี่ (ตอนนี้มูลค่าซื้อขายต่อวันประมาณ 5-6 หมื่นล้าน <--- นี่เรียกว่ากระทิงได้แล้วใช่ไหมครับ)
มันจะกินเวลาสักเท่าไหร่หรอครับ หรือพอจะมีจุดสังเกตอะไรบ้างไหมครับ เมื่อมันเริ่มอ่อนแรงลง

คือบางทีผมก็ขายหุ้นเร็วเกินไปบ่อยๆ ในสภาวะตลาดที่เป็นกระทิงน่ะครับ (ซึ่งจริงๆ มันอาจจะพึ่งเริ่มต้น และดำเนินไปอีกยาวนาน)
และยิ่งผมเป็นนักลงในแนวนี้ด้วยแล้ว พอรู้สึกว่าหุ้นมันเต็มมูลค่า เราก็อยากจะขายออกไป

ซึ่งผมคิดว่าเราน่าจะทำผลตอบแทนได้มากกว่านี้ ถ้าเราสามารถทำแบบนี้ได้
--> มูลค่าของบริษัท + กระทิง = มูลค่าของบริษัทในสภาวะกระทิง

ตลาดกระทิงความคาดหวังมันน่าจะเยอะมากน่ะครับ เลยทำให้ราคานั้นเกินมูลค่าไปได้มาก
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเกาะมันไปให้นานๆ หน่อย แต่ไม่ต้องเกาะมันไปจนเกือบสุดทางนะครับ.. มันเสียว

รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ

[BoatAttasit]

ผมว่าคาดไม่ได้หรอกครับ ไม่มีใครรู้หรอกว่า กระทิงกินเวลานานเท่าไร และหมีมักจะมาตอนคนไม่รู้ตัวและไม่ระวังกัน

สิ่งที่เราทำได้ก็คือ เลือกหุ้นเป็นรายตัวตัวที่ยังราคาต่ำกว่ามูลค่าแต่อย่าพยายามคาดการณ์ตลาด(เพราะทำไม่ได้อยู่แล้ว) ถ้าหาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าไม่ได้ก็ถือเงินสดครับ

อีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบทำก็คือสังเกตุจากพฤติกรรมคนรอบข้างครับจะสามารถรู้ได้ว่าตลาดร้อนแรงเกินไปหรือยัง ถ้าใช่ก็ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ

ส่วนหุ้นที่มีอยู่แล้วถ้าราคาไม่ได้เกินมูลค่าไปมากจนถึงระดับที่เราต้องการ คิดว่ายังไม่ขายครับ แต่ไม่ซื้อเพิ่ม

[fifie]

เห็นด้วยนะครับ ว่าหมีมักมาตอนที่เราไม่ระวัง ตอนที่ความมั่นใจสูง
แต่ตอนนี้รู้สึกเห็นมีแต่คนระวังเต็มไปหมด

[WHYDOWEFALL]

หมีมา กลิ่นเค็มๆจะมาก่อนครับ

[Plant]

ถ้าเอาตามหลักการ VI ก็ต้องไปดูกฎ 3 ข้อในการขายหุ้นของ อ.ฟิลลิป ฟิชเชอร์เลยครับ

แต่ถ้าเอาว่าอยากได้ผลตอบแทนจากการขายหุ้น ผมมองว่าขายตอนที่ราคา
มันเกินมูลค่าที่เราคำนวนได้ไปมากครับ มากแค่ไหนขึ้นอยู่กับความรู้สึกเราครับ
เพราะผมเชื่อว่าไม่มีใครขายได้ที่ราคาสูงสุดในทุกครั้งที่ตัดสินใจครับ

ดังนั้นตลาดจะขึ้นไปอีกมากแค่ไหนอย่าสนใจครับ สนเพียงบริษัทเรามันทำกำไรวิ่งไล่
ตามความคาดหวังของตลาดได้หรือเปล่า ถ้ายังไม่มั้นใจอีกก็แบ่งขายและแบ่งถือไว้
ก็ได้ครับ เซฟๆ (ผมก็ใช้วิธีนี้ อิอิ)

...^^)

[Samadha]

ตลาดกระทิงจะไปได้ไกลถึงขนาดว่า จะสร้างความแปลกใจให้กับทั้งคนที่ศรัทธาในตลาดหุ้นและคนที่ไม่เชื่อในตลาดหุ้นครับ