เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 1
ช่วงนี้ไม่ค่อยสบายใจ เลยอยากมาขอคำแนะนำและเล่าสู่กันฟังครับ
อาจเพราะผมอายุยังไม่มากหรือเพราะยังใหม่กับการลงทุนอย่างไรไม่ทราบ เลยยังทำใจไม่ได้
รอบนี้อดไม่สบายใจไม่ได้จริงๆ เพราะทิ้งหุ้นที่อุตส่ามองมาอย่างดี
เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบและความไม่รอบคอบของตัวเอง
จนพอกลับมาดูอีกครั้งราคาก็ทิ้งไป จนMOSไม่คุ้มที่จะซื้อกลับมาแล้ว
สาเหตุของเรื่องนี้ก็คือพอดีที่ช่วงที่วิกฤติการเมืองกำลังพีค ชีวิตผมก็ยุ่งเข้าจุดพีคเช่นกัน
พอกลับมาถึงบ้านเห็นข่าวอ่าวยึดอำนาจแล้ว ก็เลยไม่รู้จะเป็นอย่างไร เลยตั้งเทขายทั้งหมดออก
ทั้งๆที่ก็รู้แก่ใจ เมื่อไหร่ตลาด panic นี่คือโอกาสของพวกเรา
แต่ก็กลัวเกิดอะไรขึ้นมาเดี๋ยวไม่มีเวลาตามดู (ทั้งๆที่บริษัทที่ผมถือไว้ก็แทบไม่เกี่ยวกับการเมืองอยู่แล้ว และผมก็มั่นใจว่าคงค่อยๆโตต่อไปแน่นอน)
คือเรียกง่ายๆว่า "พื้นฐานไม่เปลี่ยน แต่อารมณ์เปลี่ยน"
โชคยังดีเช้าวันต่อมาตลาดไม่ลง ผมยังขายในราคาที่ไม่ต่ำมาก
แต่สักพักทุกอย่างก็ไปด้วยดี ตลาดสดใสและที่เจ็บใจที่สุด "ผลประกอบการออกมาดีอย่างที่คาดไว้"
ส่วนผมเหมือนพระเอก MV ยืนมองจากมุมตึก ได้เห็นเธอเป็นสุขฉันก็สุขใจ
เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังและขอคำแนะนำจากพี่ๆด้วยครับ
ว่าควรทำใจอย่างไรดี เพราะเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกอย่าคิดมาก อย่างน้อยก็กำไรแล้ว
(แต่คือถ้าถือต่ออีกแค่สองสัปดาห์ กำไรเพิ่มมาเท่าครึ่ง จากถือมาเกือบปี)
อาจเพราะผมอายุยังไม่มากหรือเพราะยังใหม่กับการลงทุนอย่างไรไม่ทราบ เลยยังทำใจไม่ได้
รอบนี้อดไม่สบายใจไม่ได้จริงๆ เพราะทิ้งหุ้นที่อุตส่ามองมาอย่างดี
เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบและความไม่รอบคอบของตัวเอง
จนพอกลับมาดูอีกครั้งราคาก็ทิ้งไป จนMOSไม่คุ้มที่จะซื้อกลับมาแล้ว
สาเหตุของเรื่องนี้ก็คือพอดีที่ช่วงที่วิกฤติการเมืองกำลังพีค ชีวิตผมก็ยุ่งเข้าจุดพีคเช่นกัน
พอกลับมาถึงบ้านเห็นข่าวอ่าวยึดอำนาจแล้ว ก็เลยไม่รู้จะเป็นอย่างไร เลยตั้งเทขายทั้งหมดออก
ทั้งๆที่ก็รู้แก่ใจ เมื่อไหร่ตลาด panic นี่คือโอกาสของพวกเรา
แต่ก็กลัวเกิดอะไรขึ้นมาเดี๋ยวไม่มีเวลาตามดู (ทั้งๆที่บริษัทที่ผมถือไว้ก็แทบไม่เกี่ยวกับการเมืองอยู่แล้ว และผมก็มั่นใจว่าคงค่อยๆโตต่อไปแน่นอน)
คือเรียกง่ายๆว่า "พื้นฐานไม่เปลี่ยน แต่อารมณ์เปลี่ยน"
โชคยังดีเช้าวันต่อมาตลาดไม่ลง ผมยังขายในราคาที่ไม่ต่ำมาก
แต่สักพักทุกอย่างก็ไปด้วยดี ตลาดสดใสและที่เจ็บใจที่สุด "ผลประกอบการออกมาดีอย่างที่คาดไว้"
ส่วนผมเหมือนพระเอก MV ยืนมองจากมุมตึก ได้เห็นเธอเป็นสุขฉันก็สุขใจ
เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังและขอคำแนะนำจากพี่ๆด้วยครับ
ว่าควรทำใจอย่างไรดี เพราะเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกอย่าคิดมาก อย่างน้อยก็กำไรแล้ว
(แต่คือถ้าถือต่ออีกแค่สองสัปดาห์ กำไรเพิ่มมาเท่าครึ่ง จากถือมาเกือบปี)
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 2
'Gimel, Zayin, Utd' ( ภาษาฮีบรู )
แปลได้ว่า .... " This too shall pass "
แปลได้ว่า .... " This too shall pass "
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 3
ผมขอเดาว่าหุ้นที่ คุณ "TissueThiti" กล่าวถึงเป็นหุ้นโรงพยาบาลแห่งหนึ่งนะครับ
เอาเป็นว่ารู้กัน อิอิ...^^)
ลองย้อนกลับไปทบทวนเหตุผลที่ขายครับ ว่าเกิดจากอะไร อารมณ์แบบไหน
การตัดสินใจขายตอนนั้นเป็นเพราะอะไร ในมุมของผมมองจากที่คุณว่ามา คือ
ตัดสินใจซื้อถูกแล้ว แต่ตัดสินใจขายเร็วเกินไป ผมจึงอยากให้กลับไปตอนที่ขาย
ครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา
จากประสบการณ์ของผมที่ผ่านมา(อันน้อยนิด) ผมซื้อ-ขาย หุ้นเพราะเหตุผลใน
เวลานั้น ขณะนั้น วินาทีนั้นมันถูก ผมจะไม่เอาราคาในเวลาถัดไปมาเป็นตัวตัดสิน
การกระทำในครั้งนั้นครับ
ปล. ผมก็ยังลงทุนมาไม่นาน แนะนำอะไรไม่ได้มาก รอท่านอื่นมาชี้แนะนะครับ...^^)
เอาเป็นว่ารู้กัน อิอิ...^^)
ลองย้อนกลับไปทบทวนเหตุผลที่ขายครับ ว่าเกิดจากอะไร อารมณ์แบบไหน
การตัดสินใจขายตอนนั้นเป็นเพราะอะไร ในมุมของผมมองจากที่คุณว่ามา คือ
ตัดสินใจซื้อถูกแล้ว แต่ตัดสินใจขายเร็วเกินไป ผมจึงอยากให้กลับไปตอนที่ขาย
ครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา
จากประสบการณ์ของผมที่ผ่านมา(อันน้อยนิด) ผมซื้อ-ขาย หุ้นเพราะเหตุผลใน
เวลานั้น ขณะนั้น วินาทีนั้นมันถูก ผมจะไม่เอาราคาในเวลาถัดไปมาเป็นตัวตัดสิน
การกระทำในครั้งนั้นครับ
ปล. ผมก็ยังลงทุนมาไม่นาน แนะนำอะไรไม่ได้มาก รอท่านอื่นมาชี้แนะนะครับ...^^)
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 4
มีเงินเหลือ
มีชีวิตเหลือ
มีเวลาเหลือ ไม่ใช่หรือ
เห็นบอกอายุยังน้อย
จะมามัวพิรี้พิไรทำซากอะไร รู้ว่าอะไรผิดก็แก้ไข หุ้นมีห้าหกร้อยตัวทำการบ้านหมดแล้วเหรอ
รีบไปทำการบ้านพรุ่งนี้ตลาดเปิดแล้ว ไป
ปล อ่านแล้วโกรธและด่าผมเต็มที่เลยนะ.
มีชีวิตเหลือ
มีเวลาเหลือ ไม่ใช่หรือ
เห็นบอกอายุยังน้อย
จะมามัวพิรี้พิไรทำซากอะไร รู้ว่าอะไรผิดก็แก้ไข หุ้นมีห้าหกร้อยตัวทำการบ้านหมดแล้วเหรอ
รีบไปทำการบ้านพรุ่งนี้ตลาดเปิดแล้ว ไป
ปล อ่านแล้วโกรธและด่าผมเต็มที่เลยนะ.
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 5
ยากสุด คือ ทำใจยอมรับมัน ครับ
ผล มันเป็นแบบนี้ เหตุ เพราะตัดสินใจทำ ในวันนั้น
วันนั้นตัดสินใจ แบบนั้น เพราะเหตุการณ์ และประสบการณ์ ความรู้ที่เรามี ในวันนั้น
ทำใจยอมรับมัน แล้วเรียนรู้ครับ
เพราะวันหน้า ก็ ต้องตัดสินใจ เรื่องแบบนี้อีก และไม่มีใครรู้ผล
เข้าใจครับ เพราะ ผมเอง ก็ รู้ งี้ บ่อย ๆ (และต้องคอยมีสติ รู้ตัว)
ผล มันเป็นแบบนี้ เหตุ เพราะตัดสินใจทำ ในวันนั้น
วันนั้นตัดสินใจ แบบนั้น เพราะเหตุการณ์ และประสบการณ์ ความรู้ที่เรามี ในวันนั้น
ทำใจยอมรับมัน แล้วเรียนรู้ครับ
เพราะวันหน้า ก็ ต้องตัดสินใจ เรื่องแบบนี้อีก และไม่มีใครรู้ผล
เข้าใจครับ เพราะ ผมเอง ก็ รู้ งี้ บ่อย ๆ (และต้องคอยมีสติ รู้ตัว)
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 154
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 6
ชอบข้อความที่คุณ nevercry ตอบนะครับ สมกับชื่อ "nevercry" เลยครับ
เห็นใจและเข้าใจนะครับรีบทำใจแล้วเริ่มต้นใหม่เถอะครับ วันข้างหน้ายังต้องพบอะไรอีกมากครับ
ความจริงก่อนขายหุ้นให้สูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุดนะครับแล้วผ่อนออกให้สุดเช่นกันทำ 3 ครั้งครับ
หุ้นที่เราคิดว่าพื้นฐานดีเพียงแต่อาจรอบางอย่าง หรือสถานการณ์บางอย่างไม่เอื้ออำนวย
จะขายก็ขายได้นะครับ แต่อย่าขายหมดให้ขายบางส่วน มันก็จะเหมือนเราซื้อ option ไว้นะครับ
วันข้างหน้าถ้าราคาลงต่ำกว่าเราก็มาซื้อกลับได้ หรือถ้าราคาขึ้นไปเราก็ยังเหลือบางส่วนไว้นะครับ
หลักการก็คล้ายคุณอาคลายเคลียดน่ะแหละครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
เห็นใจและเข้าใจนะครับรีบทำใจแล้วเริ่มต้นใหม่เถอะครับ วันข้างหน้ายังต้องพบอะไรอีกมากครับ
ความจริงก่อนขายหุ้นให้สูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุดนะครับแล้วผ่อนออกให้สุดเช่นกันทำ 3 ครั้งครับ
หุ้นที่เราคิดว่าพื้นฐานดีเพียงแต่อาจรอบางอย่าง หรือสถานการณ์บางอย่างไม่เอื้ออำนวย
จะขายก็ขายได้นะครับ แต่อย่าขายหมดให้ขายบางส่วน มันก็จะเหมือนเราซื้อ option ไว้นะครับ
วันข้างหน้าถ้าราคาลงต่ำกว่าเราก็มาซื้อกลับได้ หรือถ้าราคาขึ้นไปเราก็ยังเหลือบางส่วนไว้นะครับ
หลักการก็คล้ายคุณอาคลายเคลียดน่ะแหละครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2545
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 7
อย่าไปกังวลใจเลยครับ โดนกันทุกคนในชีวิตการลงทุนครับ แม้แต่ลุงบัฟเฟทก็ตามที่ถือเป็นแม่แบบที่ประสบความสำเร็จการลงทุนในปัจจุบันอย่างมาก
กลับไปลงทุนความรู้ให้มากขึ้น มากขึ้น
หาสาเหตุการลงทุนที่ผิดพลาด และทั้งการลงทุนถูกแต่ตัดสินใจผิด เพราะอะไร
หรืือการลงทุนผิดพลาดและตัดสินใจผิด และลดการสูญเสียหรือ รู้ตัวช้าเกินไป ยึดมั่นถือมั่น จนความสูญเสียลามไปมาก แล้วต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ซ้ำซาก เพราะอะไร
ให้ถือเป็นต้นทุนการลงทุนเพื่อต่อยอดประสบการณ์การลงทุนของเราเอง ซึ่งไม่มีใครเข้าใจได้ดีเท่าที่คุณได้ความรู้จากการประเมินผลด้วยตนเอง นอกเหนือจากความรู้ที่ได้จากบอกเล่า จากหนังสือก็ตาม
เวลาโดน ๆ แล้ว ต้องจดจำและต่อยอดให้ได้ จึงถือเป็นต้นทุนการลงทุนที่เป็นประโยชน์ ห้ามท้อถอย
ไอล์สไตน์ เคยบอกทำนองนี้ว่า เวลาคนมองความล้มเหลวของการทดลองของเขาจำนวนมากมาย
แต่ไอล์สไตน์ มองมุมกลับว่า งานเหล่านั้นคือบทเรียนต่าง ๆ ที่ทำให้เขามีความรู้ไปสู่ความสำเร็จของงานที่ดีขึ้นในอนาคต
เห็นได้ชัดเจน ระหว่างคนมองโลกเป็นลบ กับ มองโลกเป็นบวก มันทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปเยอะและมีความสุขกับทุกเวลาการลงทุนทั้งที่ไม่ตรงใจ และตรงใจ ตรงความหวังของเรา ฝึกฝนเรื่อย ๆ
แล้วเราจะพบว่าทุกช่วงเวลา เราจะมีการพัฒนาการลงทุนของเราได้ดีกว่าที่คนบอกเล่า เป็นประสบการณ์ความรู้ของจริง
เป็นกำลังใจให้กับคุณ เพื่อต่อสู้กับบทเรียนการลงทุนต่อไป
สู้ต่อไป ทาเคชิ
กลับไปลงทุนความรู้ให้มากขึ้น มากขึ้น
หาสาเหตุการลงทุนที่ผิดพลาด และทั้งการลงทุนถูกแต่ตัดสินใจผิด เพราะอะไร
หรืือการลงทุนผิดพลาดและตัดสินใจผิด และลดการสูญเสียหรือ รู้ตัวช้าเกินไป ยึดมั่นถือมั่น จนความสูญเสียลามไปมาก แล้วต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ซ้ำซาก เพราะอะไร
ให้ถือเป็นต้นทุนการลงทุนเพื่อต่อยอดประสบการณ์การลงทุนของเราเอง ซึ่งไม่มีใครเข้าใจได้ดีเท่าที่คุณได้ความรู้จากการประเมินผลด้วยตนเอง นอกเหนือจากความรู้ที่ได้จากบอกเล่า จากหนังสือก็ตาม
เวลาโดน ๆ แล้ว ต้องจดจำและต่อยอดให้ได้ จึงถือเป็นต้นทุนการลงทุนที่เป็นประโยชน์ ห้ามท้อถอย
ไอล์สไตน์ เคยบอกทำนองนี้ว่า เวลาคนมองความล้มเหลวของการทดลองของเขาจำนวนมากมาย
แต่ไอล์สไตน์ มองมุมกลับว่า งานเหล่านั้นคือบทเรียนต่าง ๆ ที่ทำให้เขามีความรู้ไปสู่ความสำเร็จของงานที่ดีขึ้นในอนาคต
เห็นได้ชัดเจน ระหว่างคนมองโลกเป็นลบ กับ มองโลกเป็นบวก มันทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปเยอะและมีความสุขกับทุกเวลาการลงทุนทั้งที่ไม่ตรงใจ และตรงใจ ตรงความหวังของเรา ฝึกฝนเรื่อย ๆ
แล้วเราจะพบว่าทุกช่วงเวลา เราจะมีการพัฒนาการลงทุนของเราได้ดีกว่าที่คนบอกเล่า เป็นประสบการณ์ความรู้ของจริง
เป็นกำลังใจให้กับคุณ เพื่อต่อสู้กับบทเรียนการลงทุนต่อไป
สู้ต่อไป ทาเคชิ
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 8
ใช่ครับพี ่555 ผมก็ปลอบใจตัวเองอย่างนี้อยู่ว่าครั้งนี้โชคดีได้บทเรียนเร็วNevercry.boy เขียน:มีเงินเหลือ
มีชีวิตเหลือ
มีเวลาเหลือ ไม่ใช่หรือ
เห็นบอกอายุยังน้อย
จะมามัวพิรี้พิไรทำซากอะไร รู้ว่าอะไรผิดก็แก้ไข หุ้นมีห้าหกร้อยตัวทำการบ้านหมดแล้วเหรอ
รีบไปทำการบ้านพรุ่งนี้ตลาดเปิดแล้ว ไป
ปล อ่านแล้วโกรธและด่าผมเต็มที่เลยนะ.
แถมพอถือเงินสดปั้บ มีกำลังใจศึกษาเพิ่มมากขึ้นเยอะเลย 5555
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณทุกท่านมากครับ หายอัดอั้นละ 5555
TT จะรีบพยายามทำใจให้กลับมาสงบครับ วิ่งหาหุ้นตัวใหม่ต่อ
TT จะรีบพยายามทำใจให้กลับมาสงบครับ วิ่งหาหุ้นตัวใหม่ต่อ
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 10
ชีวิตคนเราก็ผิดพลาดซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้แหละครับ
บางทีเราทำดีที่สุด เต็มความสามารถแล้ว ผลลัพธ์ก็ออกมาเลวร้ายสุดคาดคิดได้เลย
สมัยแรกๆ ก็โกรธ หงุดหงิด รำคาญใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามทำครั้งใหม่ให้ดีขึ้น ทำให้ Prefect ขึ้น ทำไปเรื่อยๆ จนติดนิสัยกลายเป็นพวก Perfectionist ผิดเล็กผิดน้อยเป็นไม่ได้ เครียดกับชีวิตเกินไป กลายเป็นว่าชีวิตก็มีความสุขน้อยลงเพราะผิดไม่ได้ คนข้างๆ ตัวกลายเป็นไม่มีความสุขไปด้วย กลายเป็นว่า ยิ่งพัฒนา ยิ่งผิดทาง การเป็น Perfectionist จึงเป็นทางสุดโต่งที่ไม่ควรเสพ
ได้ปฏิบัติธรรมจึงเห็นว่า เราทำได้แค่สร้างเหตุให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างเต็มความสามารถ ทำเสร็จแล้วก็ต้องวางอุเบกขา รับสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง คาดหวังเอาไว้เลยว่าสิ่งที่ไม่ได้ดังใจจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เลวร้ายอาจเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะ เหตุปัจจัยในสิ่งๆ หนึ่งมีมากมายหลายอย่างเหลือเกิน การกระทำของเราเป็นแค่เหตุเล็กๆ อันหนึ่ง แต่การได้ทุ่มเททำสิ่งที่เราทำ ณ ปัจจุบันอย่างเต็มความสามารถ เป็นสิ่งเดียว เป็นสุขอย่างเดียวที่เราสามารถหวังได้ สุขจากการได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ สุขจากการมีสติและสมาธิอยู่กับปัจจุบัน พอใจกับการได้ใช้ชีวิตทุกขณะให้คุ้มค่า สมกับที่ได้มีชีวิตเกิดมาเป็นมนุษย์
สติ จะเป็นเครื่องรักษาจิต ไม่ให้โดนความโลภ โกรธ หลง ครอบงำ ปัญญาที่เกิดขึ้นจากการปฎิบัติ ทำให้เมื่อทำสิ่งใดก็ทุ่มเททำสุดความสามารถ เมื่อทำเสร็จก็พร้อมที่จะทิ้ง พร้อมที่จะวางไปพัก ไปทำสิ่งใหม่ เพราะ สิ่งที่ทำเสร็จไปแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว เอาเวลามาสร้างปัจจุบันอันใหม่ที่ไม่ใช่งานอันเก่าจะดีเสียกว่า เมื่อทำเหตุใหม่ๆ ได้ดีมากขึ้นๆ คาดหวังในผลลัพธ์ให้น้อยลงๆ หวังแค่ว่า วันนี้เราจะศึกษาอะไรได้มากขึ้น เราจะคิดอย่างไรให้ดีขึ้น เราจะพูดอย่างไรให้ดีขึ้น เราจะกระทำอย่างไรให้ดีขึ้น เอาแค่เป็นขณะๆ ไป มันกลายเป็นว่า สิ่งดีๆ มันเกิดขึ้นกับตัวเราเองมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีความคาดหวังน้อยลง
ผมพบว่าหลังจากเปลี่ยนความคาดหวังให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นความคาดหวังที่จะทุ่มเทความสามารถในการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลย และก็ไม่ค่อยต้องโกรธตัวเองอะไรมากๆ อีกต่อไป
บางทีเราทำดีที่สุด เต็มความสามารถแล้ว ผลลัพธ์ก็ออกมาเลวร้ายสุดคาดคิดได้เลย
สมัยแรกๆ ก็โกรธ หงุดหงิด รำคาญใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามทำครั้งใหม่ให้ดีขึ้น ทำให้ Prefect ขึ้น ทำไปเรื่อยๆ จนติดนิสัยกลายเป็นพวก Perfectionist ผิดเล็กผิดน้อยเป็นไม่ได้ เครียดกับชีวิตเกินไป กลายเป็นว่าชีวิตก็มีความสุขน้อยลงเพราะผิดไม่ได้ คนข้างๆ ตัวกลายเป็นไม่มีความสุขไปด้วย กลายเป็นว่า ยิ่งพัฒนา ยิ่งผิดทาง การเป็น Perfectionist จึงเป็นทางสุดโต่งที่ไม่ควรเสพ
ได้ปฏิบัติธรรมจึงเห็นว่า เราทำได้แค่สร้างเหตุให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างเต็มความสามารถ ทำเสร็จแล้วก็ต้องวางอุเบกขา รับสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง คาดหวังเอาไว้เลยว่าสิ่งที่ไม่ได้ดังใจจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เลวร้ายอาจเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะ เหตุปัจจัยในสิ่งๆ หนึ่งมีมากมายหลายอย่างเหลือเกิน การกระทำของเราเป็นแค่เหตุเล็กๆ อันหนึ่ง แต่การได้ทุ่มเททำสิ่งที่เราทำ ณ ปัจจุบันอย่างเต็มความสามารถ เป็นสิ่งเดียว เป็นสุขอย่างเดียวที่เราสามารถหวังได้ สุขจากการได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ สุขจากการมีสติและสมาธิอยู่กับปัจจุบัน พอใจกับการได้ใช้ชีวิตทุกขณะให้คุ้มค่า สมกับที่ได้มีชีวิตเกิดมาเป็นมนุษย์
สติ จะเป็นเครื่องรักษาจิต ไม่ให้โดนความโลภ โกรธ หลง ครอบงำ ปัญญาที่เกิดขึ้นจากการปฎิบัติ ทำให้เมื่อทำสิ่งใดก็ทุ่มเททำสุดความสามารถ เมื่อทำเสร็จก็พร้อมที่จะทิ้ง พร้อมที่จะวางไปพัก ไปทำสิ่งใหม่ เพราะ สิ่งที่ทำเสร็จไปแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว เอาเวลามาสร้างปัจจุบันอันใหม่ที่ไม่ใช่งานอันเก่าจะดีเสียกว่า เมื่อทำเหตุใหม่ๆ ได้ดีมากขึ้นๆ คาดหวังในผลลัพธ์ให้น้อยลงๆ หวังแค่ว่า วันนี้เราจะศึกษาอะไรได้มากขึ้น เราจะคิดอย่างไรให้ดีขึ้น เราจะพูดอย่างไรให้ดีขึ้น เราจะกระทำอย่างไรให้ดีขึ้น เอาแค่เป็นขณะๆ ไป มันกลายเป็นว่า สิ่งดีๆ มันเกิดขึ้นกับตัวเราเองมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีความคาดหวังน้อยลง
ผมพบว่าหลังจากเปลี่ยนความคาดหวังให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นความคาดหวังที่จะทุ่มเทความสามารถในการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลย และก็ไม่ค่อยต้องโกรธตัวเองอะไรมากๆ อีกต่อไป
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 1244
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 11
บทเรียนที่ได้คุ้มกว่ากำไรระยะสั้นมากโข อย่าไปซีเรียสกับธรรมชาติของมนุษย์ครับTissueThiti เขียน:ช่วงนี้ไม่ค่อยสบายใจ เลยอยากมาขอคำแนะนำและเล่าสู่กันฟังครับ
อาจเพราะผมอายุยังไม่มากหรือเพราะยังใหม่กับการลงทุนอย่างไรไม่ทราบ เลยยังทำใจไม่ได้
รอบนี้อดไม่สบายใจไม่ได้จริงๆ เพราะทิ้งหุ้นที่อุตส่ามองมาอย่างดี
เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบและความไม่รอบคอบของตัวเอง
จนพอกลับมาดูอีกครั้งราคาก็ทิ้งไป จนMOSไม่คุ้มที่จะซื้อกลับมาแล้ว
สาเหตุของเรื่องนี้ก็คือพอดีที่ช่วงที่วิกฤติการเมืองกำลังพีค ชีวิตผมก็ยุ่งเข้าจุดพีคเช่นกัน
พอกลับมาถึงบ้านเห็นข่าวอ่าวยึดอำนาจแล้ว ก็เลยไม่รู้จะเป็นอย่างไร เลยตั้งเทขายทั้งหมดออก
ทั้งๆที่ก็รู้แก่ใจ เมื่อไหร่ตลาด panic นี่คือโอกาสของพวกเรา
แต่ก็กลัวเกิดอะไรขึ้นมาเดี๋ยวไม่มีเวลาตามดู (ทั้งๆที่บริษัทที่ผมถือไว้ก็แทบไม่เกี่ยวกับการเมืองอยู่แล้ว และผมก็มั่นใจว่าคงค่อยๆโตต่อไปแน่นอน)
คือเรียกง่ายๆว่า "พื้นฐานไม่เปลี่ยน แต่อารมณ์เปลี่ยน"
โชคยังดีเช้าวันต่อมาตลาดไม่ลง ผมยังขายในราคาที่ไม่ต่ำมาก
แต่สักพักทุกอย่างก็ไปด้วยดี ตลาดสดใสและที่เจ็บใจที่สุด "ผลประกอบการออกมาดีอย่างที่คาดไว้"
ส่วนผมเหมือนพระเอก MV ยืนมองจากมุมตึก ได้เห็นเธอเป็นสุขฉันก็สุขใจ
เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังและขอคำแนะนำจากพี่ๆด้วยครับ
ว่าควรทำใจอย่างไรดี เพราะเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกอย่าคิดมาก อย่างน้อยก็กำไรแล้ว
(แต่คือถ้าถือต่ออีกแค่สองสัปดาห์ กำไรเพิ่มมาเท่าครึ่ง จากถือมาเกือบปี)
เราสนใจที่วิธีการต่อไป นำข้อมูลที่ได้มาใหม่มาปรับปรุง สู้ๆ
การเดินทางสำคัญกว่าจุดหมาย
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 12
คุณเองก็ยอมรับว่าขายได้ราคาไม่ต่ำมาก แถมขายในวันที่คนส่วนใหญ่กลัวสุดขีด จะว่าไป ณ เวลาที่คุณขายหุ้นออกไปนั้น คุณอาจจะรู้สึกดีใจที่ยังขายได้ราคาดีด้วยซ้ำ คนที่เค้าซื้อหุ้นต่อจากคุณ ณ อารมณ์ตลาดที่กลัวกันขนาดนั้น ก็ให้เค้าได้กำไรไปเถอะครับTissueThiti เขียน: โชคยังดีเช้าวันต่อมาตลาดไม่ลง ผมยังขายในราคาที่ไม่ต่ำมาก
แต่สักพักทุกอย่างก็ไปด้วยดี ตลาดสดใสและที่เจ็บใจที่สุด "ผลประกอบการออกมาดีอย่างที่คาดไว้"
ส่วนผมเหมือนพระเอก MV ยืนมองจากมุมตึก ได้เห็นเธอเป็นสุขฉันก็สุขใจ
ผมพูดจริง ๆ นะ คนเรานี่มีแต่คนอยากขายให้ได้ราคาสูงสุด ขายแล้วหุ้นลงเลยได้ยิ่งดี แบบนี้ถือว่าใจดำกับคนที่เค้าซื้อหุ้นต่อมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าไม่ยึดติดอะไรมาก แค่คิดให้ "คู่ค้า" ที่มารับหุ้นต่อจากเราเค้าได้กำไรบ้าง ชีวิตจะเป็นสุขขึ้นเยอะครับ
ผมเองเคยโดนยิ่งกว่าคุณอีกนะ มีหุ้นตัวหนึ่งถืออยู่ 30% ของพอร์ต ถือมาสองปี เคยติดลบไปราว ๆ 30% ก่อนจะกลับมากำไร 100% วันที่ผมขายออกไป ไม่ใช่เพราะอารมณ์ แต่มีเหตุผล ขายเช้า บ่ายบ.ออกข่าวดีอะไรบางอย่าง หุ้นวิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะช่วงนั้นตลาดดีมากด้วย กำไรผมที่ควรจะได้อีกราว ๆ 300% หายไป ไม่งั้นรับเน็ท ๆ 400% ถึงจะเซ็งบ้าง แต่ผมก็ต้องยอมรับ เพราะตลาดหุ้นมันก็เป็นอย่างนี้เอง
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 68
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 13
ดีมากเลยครับ ใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตเลยpicatos เขียน:ชีวิตคนเราก็ผิดพลาดซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้แหละครับ
บางทีเราทำดีที่สุด เต็มความสามารถแล้ว ผลลัพธ์ก็ออกมาเลวร้ายสุดคาดคิดได้เลย
สมัยแรกๆ ก็โกรธ หงุดหงิด รำคาญใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามทำครั้งใหม่ให้ดีขึ้น ทำให้ Prefect ขึ้น ทำไปเรื่อยๆ จนติดนิสัยกลายเป็นพวก Perfectionist ผิดเล็กผิดน้อยเป็นไม่ได้ เครียดกับชีวิตเกินไป กลายเป็นว่าชีวิตก็มีความสุขน้อยลงเพราะผิดไม่ได้ คนข้างๆ ตัวกลายเป็นไม่มีความสุขไปด้วย กลายเป็นว่า ยิ่งพัฒนา ยิ่งผิดทาง การเป็น Perfectionist จึงเป็นทางสุดโต่งที่ไม่ควรเสพ
ได้ปฏิบัติธรรมจึงเห็นว่า เราทำได้แค่สร้างเหตุให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างเต็มความสามารถ ทำเสร็จแล้วก็ต้องวางอุเบกขา รับสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง คาดหวังเอาไว้เลยว่าสิ่งที่ไม่ได้ดังใจจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เลวร้ายอาจเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะ เหตุปัจจัยในสิ่งๆ หนึ่งมีมากมายหลายอย่างเหลือเกิน การกระทำของเราเป็นแค่เหตุเล็กๆ อันหนึ่ง แต่การได้ทุ่มเททำสิ่งที่เราทำ ณ ปัจจุบันอย่างเต็มความสามารถ เป็นสิ่งเดียว เป็นสุขอย่างเดียวที่เราสามารถหวังได้ สุขจากการได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ สุขจากการมีสติและสมาธิอยู่กับปัจจุบัน พอใจกับการได้ใช้ชีวิตทุกขณะให้คุ้มค่า สมกับที่ได้มีชีวิตเกิดมาเป็นมนุษย์
สติ จะเป็นเครื่องรักษาจิต ไม่ให้โดนความโลภ โกรธ หลง ครอบงำ ปัญญาที่เกิดขึ้นจากการปฎิบัติ ทำให้เมื่อทำสิ่งใดก็ทุ่มเททำสุดความสามารถ เมื่อทำเสร็จก็พร้อมที่จะทิ้ง พร้อมที่จะวางไปพัก ไปทำสิ่งใหม่ เพราะ สิ่งที่ทำเสร็จไปแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว เอาเวลามาสร้างปัจจุบันอันใหม่ที่ไม่ใช่งานอันเก่าจะดีเสียกว่า เมื่อทำเหตุใหม่ๆ ได้ดีมากขึ้นๆ คาดหวังในผลลัพธ์ให้น้อยลงๆ หวังแค่ว่า วันนี้เราจะศึกษาอะไรได้มากขึ้น เราจะคิดอย่างไรให้ดีขึ้น เราจะพูดอย่างไรให้ดีขึ้น เราจะกระทำอย่างไรให้ดีขึ้น เอาแค่เป็นขณะๆ ไป มันกลายเป็นว่า สิ่งดีๆ มันเกิดขึ้นกับตัวเราเองมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีความคาดหวังน้อยลง
ผมพบว่าหลังจากเปลี่ยนความคาดหวังให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นความคาดหวังที่จะทุ่มเทความสามารถในการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลย และก็ไม่ค่อยต้องโกรธตัวเองอะไรมากๆ อีกต่อไป
ผมขออนุญาต นำไปแชร์นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 14
ลูกปืนที่ยิงออกจากกระบอกปืน ไม่มีวันที่กลับเข้ากระบอกปืนเดิมได้อีก
ฉันใดก็ฉันนั้น
การที่ตัดสินใจไปแล้ว มานั่งเสียใจที่หลังมันควรทำแล้วหรือ
แต่สิ่งที่เราทำได้คือ จดบันทึก และ วิเคราะห์ให้อย่าไปทำมันอีกเป็นครั้งที่สองหรือครั้งที่สาม
อีกอย่างคือ
เราตัดสินใจซื้อหรือขาย ไม่ใช่มาร์ดังนั้น
ถ้าหากผิดคือผิดที่เรา ไม่ใช่ผิดที่มาร์
ฉันใดก็ฉันนั้น
การที่ตัดสินใจไปแล้ว มานั่งเสียใจที่หลังมันควรทำแล้วหรือ
แต่สิ่งที่เราทำได้คือ จดบันทึก และ วิเคราะห์ให้อย่าไปทำมันอีกเป็นครั้งที่สองหรือครั้งที่สาม
อีกอย่างคือ
เราตัดสินใจซื้อหรือขาย ไม่ใช่มาร์ดังนั้น
ถ้าหากผิดคือผิดที่เรา ไม่ใช่ผิดที่มาร์
-
- Verified User
- โพสต์: 925
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 15
เคยขายหุ้นตอน panic หลายครั้งครับ บ้างก็บอกตัวเองว่า จะขายแล้วซื้อคืน บ้างก็บอกว่าหนทางมืดมนขายๆไปก่อนดีกว่า
ผมเข้าใจดีครับ ผมว่าเกือบทุกคนเคยทำแบบนี้มาแล้วละ แต่ พวกที่เค้าเก่งๆในปัจจุบันนั้น เพราะเค้าเรียนรู้ในความผิดพลาด สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ จำเอาไว้ดีๆ เพราะในอีกไม่ช้าก็เร็ว อาจจะมีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นแล้วมีสถานการณ์แบบนี้อีก คุณต้องจำวันนั้นเอาไว้และคิดเอาไว้ก่อนเลยว่าจะทำอะไรถ้าเกิดเหตุการณ์ เช่นนั้นอีก
และ เรื่องการทำใจแบบนี้มันยากครับ ผมเคยอ่าน บทสัมภาษณ์ ของ เทรดเดอร์ ฝรั่งดังๆท่านหนึ่ง (นานมาละ) เค้าพูดประมาณว่า ขายหุ้นตัวหนึ่งไปแล้วราคาวิ่งไป 9-10 เท่า และเค้าทำใจไม่เคยได้กับตัวนี้ สุดท้ายสิ่งที่เค้าทำก็คือ ซื้อหุ้นตัวนี้กลับมา เพียงเพื่อทำให้เค้า "สบายใจ" ผมไม่ได้หมายถึงเชียร์ให้คุณไปซื้อหุ้นกลับมาแต่อยากจะบอกว่า มันเป้นเรื่องทำใจยากครับ แต่ถ้าจะอยู่ในตลาด ยังต้องเจออีกหลายครั้งครับ สู้ๆ
ผมเข้าใจดีครับ ผมว่าเกือบทุกคนเคยทำแบบนี้มาแล้วละ แต่ พวกที่เค้าเก่งๆในปัจจุบันนั้น เพราะเค้าเรียนรู้ในความผิดพลาด สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ จำเอาไว้ดีๆ เพราะในอีกไม่ช้าก็เร็ว อาจจะมีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นแล้วมีสถานการณ์แบบนี้อีก คุณต้องจำวันนั้นเอาไว้และคิดเอาไว้ก่อนเลยว่าจะทำอะไรถ้าเกิดเหตุการณ์ เช่นนั้นอีก
และ เรื่องการทำใจแบบนี้มันยากครับ ผมเคยอ่าน บทสัมภาษณ์ ของ เทรดเดอร์ ฝรั่งดังๆท่านหนึ่ง (นานมาละ) เค้าพูดประมาณว่า ขายหุ้นตัวหนึ่งไปแล้วราคาวิ่งไป 9-10 เท่า และเค้าทำใจไม่เคยได้กับตัวนี้ สุดท้ายสิ่งที่เค้าทำก็คือ ซื้อหุ้นตัวนี้กลับมา เพียงเพื่อทำให้เค้า "สบายใจ" ผมไม่ได้หมายถึงเชียร์ให้คุณไปซื้อหุ้นกลับมาแต่อยากจะบอกว่า มันเป้นเรื่องทำใจยากครับ แต่ถ้าจะอยู่ในตลาด ยังต้องเจออีกหลายครั้งครับ สู้ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 46
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 16
เล่าสู่กันฟัง
เคยได้อ่าน/ฟังจากที่ไหนไม่แน่ใจ เขาบอกว่า
ความผิดพลาด ให้ใส่ใจ แต่อย่าฝังใจครับ
ใส่ใจว่า ทำอย่างไรไม่ให้เกิดอีก ทำระบบส่วนตัวซักอย่าง หาความรู้/ วิเคราะห์จากความผิดพลาดนั้น
แล้วทำใจปล่อยมันไป หรือจะจดก็ได้ ไว้รวยแล้วจะได้เอาไว้เป็นตัวอย่างที่คนสัมภาษณ์ชอบถาม
พอจดแล้วก็ลืมๆไป จดจ่อกับปัจจุบันดีกว่าครับ
เคยได้อ่าน/ฟังจากที่ไหนไม่แน่ใจ เขาบอกว่า
ความผิดพลาด ให้ใส่ใจ แต่อย่าฝังใจครับ
ใส่ใจว่า ทำอย่างไรไม่ให้เกิดอีก ทำระบบส่วนตัวซักอย่าง หาความรู้/ วิเคราะห์จากความผิดพลาดนั้น
แล้วทำใจปล่อยมันไป หรือจะจดก็ได้ ไว้รวยแล้วจะได้เอาไว้เป็นตัวอย่างที่คนสัมภาษณ์ชอบถาม
พอจดแล้วก็ลืมๆไป จดจ่อกับปัจจุบันดีกว่าครับ
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 17
จบเกมส์คือ จบครับ อย่าไปคิดอะไรมาก มันไม่ส่งผลดีต่อจิตใจครับ ก็คิดเหมือนเล่นเกมส์นะ พอ game over แล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจาก start new game เริ่มเกมส์ใหม่ เท่านั้นเองครับ
หุ้นไม่ได้ขึ้นตลอดกาล และหุ้นก็ไม่ได้ลงตลอดไป มันต้องมีวันของมัน เพียงแต่ว่า มันจะลงมาวันไหนให้เราซื้อใหม่และกลับขึ้นไปให้เราขายใหม่เท่านั้นเอง อีกอย่าง หุ้นไทย มีมากถึง 600-700 ตัว ก็น่ามีอีกมากมายให้มองหาไปก่อนเช่นกันครับ
หุ้นไม่ได้ขึ้นตลอดกาล และหุ้นก็ไม่ได้ลงตลอดไป มันต้องมีวันของมัน เพียงแต่ว่า มันจะลงมาวันไหนให้เราซื้อใหม่และกลับขึ้นไปให้เราขายใหม่เท่านั้นเอง อีกอย่าง หุ้นไทย มีมากถึง 600-700 ตัว ก็น่ามีอีกมากมายให้มองหาไปก่อนเช่นกันครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 18
ได้อ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนในอดีตพบว่า มีบางอย่างที่ตัวเองเปลี่ยนไปpicatos เขียน: ↑จันทร์ มิ.ย. 09, 2014 12:07 pmชีวิตคนเราก็ผิดพลาดซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้แหละครับ
บางทีเราทำดีที่สุด เต็มความสามารถแล้ว ผลลัพธ์ก็ออกมาเลวร้ายสุดคาดคิดได้เลย
สมัยแรกๆ ก็โกรธ หงุดหงิด รำคาญใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามทำครั้งใหม่ให้ดีขึ้น ทำให้ Prefect ขึ้น ทำไปเรื่อยๆ จนติดนิสัยกลายเป็นพวก Perfectionist ผิดเล็กผิดน้อยเป็นไม่ได้ เครียดกับชีวิตเกินไป กลายเป็นว่าชีวิตก็มีความสุขน้อยลงเพราะผิดไม่ได้ คนข้างๆ ตัวกลายเป็นไม่มีความสุขไปด้วย กลายเป็นว่า ยิ่งพัฒนา ยิ่งผิดทาง การเป็น Perfectionist จึงเป็นทางสุดโต่งที่ไม่ควรเสพ
ได้ปฏิบัติธรรมจึงเห็นว่า เราทำได้แค่สร้างเหตุให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างเต็มความสามารถ ทำเสร็จแล้วก็ต้องวางอุเบกขา รับสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง คาดหวังเอาไว้เลยว่าสิ่งที่ไม่ได้ดังใจจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เลวร้ายอาจเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะ เหตุปัจจัยในสิ่งๆ หนึ่งมีมากมายหลายอย่างเหลือเกิน การกระทำของเราเป็นแค่เหตุเล็กๆ อันหนึ่ง แต่การได้ทุ่มเททำสิ่งที่เราทำ ณ ปัจจุบันอย่างเต็มความสามารถ เป็นสิ่งเดียว เป็นสุขอย่างเดียวที่เราสามารถหวังได้ สุขจากการได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ สุขจากการมีสติและสมาธิอยู่กับปัจจุบัน พอใจกับการได้ใช้ชีวิตทุกขณะให้คุ้มค่า สมกับที่ได้มีชีวิตเกิดมาเป็นมนุษย์
สติ จะเป็นเครื่องรักษาจิต ไม่ให้โดนความโลภ โกรธ หลง ครอบงำ ปัญญาที่เกิดขึ้นจากการปฎิบัติ ทำให้เมื่อทำสิ่งใดก็ทุ่มเททำสุดความสามารถ เมื่อทำเสร็จก็พร้อมที่จะทิ้ง พร้อมที่จะวางไปพัก ไปทำสิ่งใหม่ เพราะ สิ่งที่ทำเสร็จไปแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว เอาเวลามาสร้างปัจจุบันอันใหม่ที่ไม่ใช่งานอันเก่าจะดีเสียกว่า เมื่อทำเหตุใหม่ๆ ได้ดีมากขึ้นๆ คาดหวังในผลลัพธ์ให้น้อยลงๆ หวังแค่ว่า วันนี้เราจะศึกษาอะไรได้มากขึ้น เราจะคิดอย่างไรให้ดีขึ้น เราจะพูดอย่างไรให้ดีขึ้น เราจะกระทำอย่างไรให้ดีขึ้น เอาแค่เป็นขณะๆ ไป มันกลายเป็นว่า สิ่งดีๆ มันเกิดขึ้นกับตัวเราเองมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีความคาดหวังน้อยลง
ผมพบว่าหลังจากเปลี่ยนความคาดหวังให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นความคาดหวังที่จะทุ่มเทความสามารถในการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลย และก็ไม่ค่อยต้องโกรธตัวเองอะไรมากๆ อีกต่อไป
จากที่พยายามทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น ตอนนี้ผมก็ไม่เหลือแล้วครับ เพราะ มันก็ยังเป็นการเปรียบเทียบกับตัวเองในอดีต และการเปรียบเทียบ ยึดถือตัวตนแบบไหนไว้ก็ยังเป็นทุกข์อยู่
ทุกวันนี้ผมแค่พยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุดตามกำลัง ตามความสามารถ ตามเหตุปัจจัย ตามสภาวะและสภาพแวดล้อม ณ ขณะนั้นๆ
รู้สึกว่าทำแบบนี้แล้วทุกข์น้อยกว่า เบาสบายมากกว่าครับ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 19
เคยครับ บ่อยด้วย
และบ่นเสียดายนู่นนี่ให้บุพการีงง
"ตัวนี้นะ ขายไปแล้วนะ ราคานี้ๆ
ตอนนี้นะ ราคาไปนู่นแล้วนะ
ถ้ายังถือไว้นะ โหๆๆ"
แม่ผมก็จะบอกว่า
"แกขายไปแล้ว.........ว"
"555"
อยู่กับปัจจุบันนะครับ
ผมลงทุนมาหลายปี
แทบจะไม่เคยได้หุ้นเด้งเลยนะ
น้อยมาก
นับตัวได้ แค่หลักเดียว
ระยะสิบกว่าปีหลังก็แทบไม่ได้เติมเงินเลย
แต่เอาปันผลมา Reinvest บ้าง
พอร์ตก็โตหลายเด้งอยู่แบบไม่คิดฝันว่าจะมาถึงจุดนี้ได้
ถ้าขยันหน่อย
โอกาสมันก็พอมีให้เห็น
บ้าง... ไม่มากก็น้อย
อย่าไปยึดกับหุ้นตัวเก่าๆ
ก็มันขายไปแล้ว
ราคามันก็ไปแล้ว
ทบทวนแล้วกลับไปซื้อไม่คุ้ม
ก็ไม่ต้องกลับไปซื้อ
บ่นเสียดายเสร็จแล้วก็แค่กลับมาทำการบ้าน
หาตัวใหม่
ผมก็เจอเรื่อยๆ เหมือนกัน
มากบ้างน้อยบ้าง
ส่วนตัวผมค่อนข้างอาจจะ Conservative หน่อย
เลยพลาดหุ้นเด้งไปหลายครั้ง
แต่ตัวผมมันก็แบบนี้แหละ
ลงทุนเป็นธรรมชาติ
ผมไม่ได้ฝืน
เลิกงานกลับบ้าน
พอมีเวลาก็มาอ่านนู่นอ่านนี่บ้าง
ทำจนเป็นกิจวัตร
ประเด็นตอนที่ถือหุ้นอยู่
แล้วมันมีเหตุการณ์อะไรก็ไม่รู้
ที่ทำให้เราไขว้เขว
ผมคิดว่ามันก็เป็นธรรมชาติมนุษย์เหมือนกัน
เพราะเราเองก็มองไม่เห็นอนาคตเช่นกัน
เพราะเราไม่รู้ เราจึงกลัว
กลัวว่า เฮ้ย.. ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้
ราคาหุ้นเรามันจะเป็นยังไง
ที่คิดแบบนี้เพราะตัวเราอาจจะยังติดกับราคาหุ้นในตลาดมากเกินไป
เราซื้อหุ้น
เราต้องได้หุ้น
เราถือหุ้น
ตอนนี้เราเป็นเจ้าของกิจการ
กิจการสำหรับผมนั้นก็คือเครื่องมือผลิตเงินสด
แต่ก็นั่นแหละ
มันทำไม่ง่าย
เพราะมันฝืนธรรมชาติที่มีความกลัวอยู่ลึกๆ ในจิตใจ
ปล.
แลกเปลี่ยนกัน
ปกติผมจะไม่ค่อยขายหุ้นออกไปเพื่อถือเงินสด
ถ้าจะขายนะ
คือเมื่อผมหาหุ้นตัวใหม่ได้แล้วเท่านั้น
อดีตที่ผ่านมาผมเลยไม่ค่อยตกรถ
แต่ก็ต้องแลกมากับอาการจุก เสียด
และแน่นท้อง อยู่บ่อยๆ
และบ่นเสียดายนู่นนี่ให้บุพการีงง
"ตัวนี้นะ ขายไปแล้วนะ ราคานี้ๆ
ตอนนี้นะ ราคาไปนู่นแล้วนะ
ถ้ายังถือไว้นะ โหๆๆ"
แม่ผมก็จะบอกว่า
"แกขายไปแล้ว.........ว"
"555"
อยู่กับปัจจุบันนะครับ
ผมลงทุนมาหลายปี
แทบจะไม่เคยได้หุ้นเด้งเลยนะ
น้อยมาก
นับตัวได้ แค่หลักเดียว
ระยะสิบกว่าปีหลังก็แทบไม่ได้เติมเงินเลย
แต่เอาปันผลมา Reinvest บ้าง
พอร์ตก็โตหลายเด้งอยู่แบบไม่คิดฝันว่าจะมาถึงจุดนี้ได้
ถ้าขยันหน่อย
โอกาสมันก็พอมีให้เห็น
บ้าง... ไม่มากก็น้อย
อย่าไปยึดกับหุ้นตัวเก่าๆ
ก็มันขายไปแล้ว
ราคามันก็ไปแล้ว
ทบทวนแล้วกลับไปซื้อไม่คุ้ม
ก็ไม่ต้องกลับไปซื้อ
บ่นเสียดายเสร็จแล้วก็แค่กลับมาทำการบ้าน
หาตัวใหม่
ผมก็เจอเรื่อยๆ เหมือนกัน
มากบ้างน้อยบ้าง
ส่วนตัวผมค่อนข้างอาจจะ Conservative หน่อย
เลยพลาดหุ้นเด้งไปหลายครั้ง
แต่ตัวผมมันก็แบบนี้แหละ
ลงทุนเป็นธรรมชาติ
ผมไม่ได้ฝืน
เลิกงานกลับบ้าน
พอมีเวลาก็มาอ่านนู่นอ่านนี่บ้าง
ทำจนเป็นกิจวัตร
ประเด็นตอนที่ถือหุ้นอยู่
แล้วมันมีเหตุการณ์อะไรก็ไม่รู้
ที่ทำให้เราไขว้เขว
ผมคิดว่ามันก็เป็นธรรมชาติมนุษย์เหมือนกัน
เพราะเราเองก็มองไม่เห็นอนาคตเช่นกัน
เพราะเราไม่รู้ เราจึงกลัว
กลัวว่า เฮ้ย.. ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้
ราคาหุ้นเรามันจะเป็นยังไง
ที่คิดแบบนี้เพราะตัวเราอาจจะยังติดกับราคาหุ้นในตลาดมากเกินไป
เราซื้อหุ้น
เราต้องได้หุ้น
เราถือหุ้น
ตอนนี้เราเป็นเจ้าของกิจการ
กิจการสำหรับผมนั้นก็คือเครื่องมือผลิตเงินสด
แต่ก็นั่นแหละ
มันทำไม่ง่าย
เพราะมันฝืนธรรมชาติที่มีความกลัวอยู่ลึกๆ ในจิตใจ
ปล.
แลกเปลี่ยนกัน
ปกติผมจะไม่ค่อยขายหุ้นออกไปเพื่อถือเงินสด
ถ้าจะขายนะ
คือเมื่อผมหาหุ้นตัวใหม่ได้แล้วเท่านั้น
อดีตที่ผ่านมาผมเลยไม่ค่อยตกรถ
แต่ก็ต้องแลกมากับอาการจุก เสียด
และแน่นท้อง อยู่บ่อยๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 20
ของผมน้าจะหนักกว่านะ
ขายเพราะไม่เชื่อตัวเอง
ฟังเซียนแล้ว ใจสั่น
คืนก่อนขายนอนไม่หลับ
แถมสุดท้ายไม่กล้าซื้อคืน ไหวตัวช้า
ของผมคือ 4เด้งในสามเดือน
(มุลค่าถือว่ามากและมีนัยยะสำหรับผมอะ)
ซึ่ง คงไม่ได้เจอบ่อยๆ จริงๆ มีpre และ post ีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีี ที่ซวยๆเปนซีรี่ย์มาอีก
ถามว่าทำไง 2 3 ปี มาละ ผมกะยังลืมไม่ลงนะ แต่จะให้ทำไง ย้อนเวลาไม่ได้
บางทีวาสนา เรามีแค่นี้ กะก้มหน้าก้มตา สู้กันต่อไป
ถึงเวลากะปลงได้เอง
ขายเพราะไม่เชื่อตัวเอง
ฟังเซียนแล้ว ใจสั่น
คืนก่อนขายนอนไม่หลับ
แถมสุดท้ายไม่กล้าซื้อคืน ไหวตัวช้า
ของผมคือ 4เด้งในสามเดือน
(มุลค่าถือว่ามากและมีนัยยะสำหรับผมอะ)
ซึ่ง คงไม่ได้เจอบ่อยๆ จริงๆ มีpre และ post ีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีี ที่ซวยๆเปนซีรี่ย์มาอีก
ถามว่าทำไง 2 3 ปี มาละ ผมกะยังลืมไม่ลงนะ แต่จะให้ทำไง ย้อนเวลาไม่ได้
บางทีวาสนา เรามีแค่นี้ กะก้มหน้าก้มตา สู้กันต่อไป
ถึงเวลากะปลงได้เอง
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 184
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยโกรธตัวเองเพราะการตัดสินใจชั่ววูบไหมครับ
โพสต์ที่ 21
ยอมรับความจริงครับ คนเราผิดพลาดได้ตลอดเวลา เป็นเรื่องปกติnut776 เขียน: ↑เสาร์ ต.ค. 31, 2020 7:07 pmของผมน้าจะหนักกว่านะ
ขายเพราะไม่เชื่อตัวเอง
ฟังเซียนแล้ว ใจสั่น
คืนก่อนขายนอนไม่หลับ
แถมสุดท้ายไม่กล้าซื้อคืน ไหวตัวช้า
ของผมคือ 4เด้งในสามเดือน
(มุลค่าถือว่ามากและมีนัยยะสำหรับผมอะ)
ซึ่ง คงไม่ได้เจอบ่อยๆ จริงๆ มีpre และ post ีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีี ที่ซวยๆเปนซีรี่ย์มาอีก
ถามว่าทำไง 2 3 ปี มาละ ผมกะยังลืมไม่ลงนะ แต่จะให้ทำไง ย้อนเวลาไม่ได้
บางทีวาสนา เรามีแค่นี้ กะก้มหน้าก้มตา สู้กันต่อไป
ถึงเวลากะปลงได้เอง
การเคลื่อนไหวทางด้านราคาก็เป็นส่วนหนึ่ง
ชีวิตยังอีกยาวไกลครับ เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ แต่ด้วยประสบการณ์ของเราจะเติบโตขึ้น จากความผิดพลาดเหล่านั้น
“ กำไรเมื่อซื้อ ไม่ใช่เมื่อขาย ”
Cr.Richdad
Cr.Richdad