ไม่ทราบว่านลท.มีมุมมองอย่างไรต่อการบริหารเงินลงทุนของกองทุนบ้านเราบ้างครับ? พฤติกรรมการกดขายหุ้นอย่างหนักในวันนี้ถึงแม้จะสามารถอ้างเหตุจากการถูกรีดีมของนลท.ที่ซื้อมาก่อนหน้าหลายปีและมาขอไถ่ถอนในวันนี้ แต่จะเกิดอะไรกับมูลค่าหรือ nav ของกองทุนใหม่ที่ปชช.เพิ่งนำเงินมาซื้อในช่วงปลายปี จะแยกกันโดยเด็ดขาดหรือก็เป็นก้อนเดียวกัน
คหสต. ผมมองว่าต้องมีคำตอบให้นลท.ชัดเจนว่า การขายออกมาในวันนี้เป็นการปกป้องผลปย. หรือสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อหน่วยและนลท.ได้อย่างไร เพราะเพียงข้ามปีมาแค่วันแรก กองทุนก็นำเงินที่ปชช.ไว้ใจให้ดูแลสร้างผลตอบแทนมาขายใส่ในตลาดอย่างไม่ยั้ง ผมคิดว่าผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนทั้งหลายก็มีความชอบธรรมที่จะทราบ
หากไม่มีสิทธิลดหย่อนภาษีที่ผู้ซื้อหน่วยจะใช้สิทธิได้ตามฐานรายได้ (ซึ่งเงินส่วนนี้เข้าใจว่าก็มาจากภาษีของปชช.ทั้งประเทศที่ต้องมาอุดหนุนให้กับผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนไป) ผมคิดว่าการบริหารเงินลงทุนคงต้องมีนโยบายกำกับที่ดีกว่านี้ และยึดเอาผลปย.ของผู้ซื้อหน่วยลงทุนเป็นที่ตั้ง
*ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเห็นว่าเป็นประเด็นที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ก็รบกวนช่วยลบข้อความข้างต้นให้ด้วยครับ* จุดประสงค์ไม่ได้เพื่อต้องการกล่าวโทษใคร แต่ต้องการให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกๆ ท่าน ทั้งผู้ที่ซื้อและไม่ได้ซื้อหน่วยลงทุนทุกๆคน
เกิดอะไรขี้นกับนโยบายการบริหารของกองทุนครับ?
-
- Verified User
- โพสต์: 670
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เกิดอะไรขี้นกับนโยบายการบริหารของกองทุนครับ?
โพสต์ที่ 2
ที่เป็นไปได้เหมือนกัน ก็คือ รายย่อยขาย LTF ที่ครบกำหนดผ่านกองทุนนะครับ จึงมียอด Net Sale ค่อนข้างมากzz99 เขียน:ไม่ทราบว่านลท.มีมุมมองอย่างไรต่อการบริหารเงินลงทุนของกองทุนบ้านเราบ้างครับ? พฤติกรรมการกดขายหุ้นอย่างหนักในวันนี้ถึงแม้จะสามารถอ้างเหตุจากการถูกรีดีมของนลท.ที่ซื้อมาก่อนหน้าหลายปีและมาขอไถ่ถอนในวันนี้ แต่จะเกิดอะไรกับมูลค่าหรือ nav ของกองทุนใหม่ที่ปชช.เพิ่งนำเงินมาซื้อในช่วงปลายปี จะแยกกันโดยเด็ดขาดหรือก็เป็นก้อนเดียวกัน
คหสต. ผมมองว่าต้องมีคำตอบให้นลท.ชัดเจนว่า การขายออกมาในวันนี้เป็นการปกป้องผลปย. หรือสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อหน่วยและนลท.ได้อย่างไร เพราะเพียงข้ามปีมาแค่วันแรก กองทุนก็นำเงินที่ปชช.ไว้ใจให้ดูแลสร้างผลตอบแทนมาขายใส่ในตลาดอย่างไม่ยั้ง ผมคิดว่าผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนทั้งหลายก็มีความชอบธรรมที่จะทราบ
หากไม่มีสิทธิลดหย่อนภาษีที่ผู้ซื้อหน่วยจะใช้สิทธิได้ตามฐานรายได้ (ซึ่งเงินส่วนนี้เข้าใจว่าก็มาจากภาษีของปชช.ทั้งประเทศที่ต้องมาอุดหนุนให้กับผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนไป) ผมคิดว่าการบริหารเงินลงทุนคงต้องมีนโยบายกำกับที่ดีกว่านี้ และยึดเอาผลปย.ของผู้ซื้อหน่วยลงทุนเป็นที่ตั้ง
*ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเห็นว่าเป็นประเด็นที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ก็รบกวนช่วยลบข้อความข้างต้นให้ด้วยครับ* จุดประสงค์ไม่ได้เพื่อต้องการกล่าวโทษใคร แต่ต้องการให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกๆ ท่าน ทั้งผู้ที่ซื้อและไม่ได้ซื้อหน่วยลงทุนทุกๆคน
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1369
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เกิดอะไรขี้นกับนโยบายการบริหารของกองทุนครับ?
โพสต์ที่ 3
ผมว่านโยบายของกองทุนไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย
การขายตอนนี้เป็นการทำตามกลยุทธล้วนๆ ไม่ได้ขัดกับนโยบายเลย
ไม่ว่ากอง70/30 ที่กำหนดนโยบายถือครองหุ้นไม่น้อยกว่า35%
และไม่เกินกว่า70%ในช่วงระยะเวลา1ปี
หรือกองหุ้น ที่กำหนดนโยบายถือครองหุ้นไม่น้อยกว่า65%ในช่วงระยะเวลา1ปี
ถ้าไปไล่ดูส่วนใหญ่ถือกัน90%+ทั้งนั้น
อย่างน้อยก็ยังมีช่องว่าง>=25%ให้ทำSAPได้
ซึ่งก็ส่งผลดีต่อผู้ถือกองทุน เพราะสามารถมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นได้โดยใช้เงินเท่าเดิม
และการประกาศปิดกทม. ยึดทุกสี่แยกของเทพเทือกเป็นsentimentที่แรงมากๆๆๆๆๆๆ
ลองคิดดูว่าถ้าทำได้จริง แม้แต่cpallที่บอกว่ามีม๊อบแล้วขายดีก็คงหนาวเหมือนกัน
เพราะขนส่งไม่ได้ ไม่มีสินค้าให้ขาย เดินทางไม่ได้ พนง.มาเปิดร้าน/เปลี่ยนกะไม่ได้
การขายตอนนี้เป็นการทำตามกลยุทธล้วนๆ ไม่ได้ขัดกับนโยบายเลย
ไม่ว่ากอง70/30 ที่กำหนดนโยบายถือครองหุ้นไม่น้อยกว่า35%
และไม่เกินกว่า70%ในช่วงระยะเวลา1ปี
หรือกองหุ้น ที่กำหนดนโยบายถือครองหุ้นไม่น้อยกว่า65%ในช่วงระยะเวลา1ปี
ถ้าไปไล่ดูส่วนใหญ่ถือกัน90%+ทั้งนั้น
อย่างน้อยก็ยังมีช่องว่าง>=25%ให้ทำSAPได้
ซึ่งก็ส่งผลดีต่อผู้ถือกองทุน เพราะสามารถมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นได้โดยใช้เงินเท่าเดิม
และการประกาศปิดกทม. ยึดทุกสี่แยกของเทพเทือกเป็นsentimentที่แรงมากๆๆๆๆๆๆ
ลองคิดดูว่าถ้าทำได้จริง แม้แต่cpallที่บอกว่ามีม๊อบแล้วขายดีก็คงหนาวเหมือนกัน
เพราะขนส่งไม่ได้ ไม่มีสินค้าให้ขาย เดินทางไม่ได้ พนง.มาเปิดร้าน/เปลี่ยนกะไม่ได้
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ