เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
- deepwater
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 1
ในช่วงที่ฝรั่งขายติดต่อกันหลายวัน สถานการณ์ทางการเมืองไม่แน่นอนแบบนี้ หลายคนถือเงินสดรอจังหวะเข้าซื้อ ผมมีกระสุนเหลือไม่มากเพราะไม่ได้ขายหุ้นเลย ผมมีคำถามกับหุ้นนิดหน่อยครับว่า พี่ ๆ น้อง ๆ จะเลือกหุ้นประเภทใด
ก. หุ้น margin of safety ดีมาก แต่สภาพคล่องต่ำมากและเท่าที่ผ่านมาหลายปีราคาไม่ขยับขึ้นเท่าไหร่ แต่ผลประกอบการดีมาก ปันผลดี ไม่มีการขยายการผลิต.
ข. หุ้นที่มี MOS แคบลงหรือเกือบเต็มแล้วแต่มีอนาคตที่ดีสดใส สัมผัสธุรกิจเพราะเข้าไปใช้บริการด้วยตัวเอง ผลประกอบการดี อาจไม่ใช่เบอร์หนึ่งของธุรกิจ มีคู่แข่งชัดเจนและถือหุ้นอยู่
ค. หุ้นที่ไม่น่าจะมี MOS แล้ว ราคาและ PE สูง ราคาลงมาบ้างแต่ไม่มาก แม้จะมีสถานการณ์การเมืองแย่แบบนี้ อนาคตดีมากแบบเห็นกับตา ประมาณว่าเข้าไปมีส่วนหรือสัมผัสกับความก้าวหน้าของธุรกิจ มีความมั่นใจที่จะซื้อ หุ้นแบบนี้ PE สูงนะ PEGR ก็ใกล้ ๆ 1 แล้ว และถืออยู่
ง. รอถือเงินสดไม่ซื้อจนให้หุ้น ค. ลงมาแต่ดูจากที่ผ่านมาไม่ค่อยลง แต่ก็จะรอ...
มีสมมติฐานว่า ผบห ดีทุกที่นะครับ.
ส่วนตัวผมข้อ ค ครับ
ใครคิดอย่างไรแชร์ได้ครับ
ก. หุ้น margin of safety ดีมาก แต่สภาพคล่องต่ำมากและเท่าที่ผ่านมาหลายปีราคาไม่ขยับขึ้นเท่าไหร่ แต่ผลประกอบการดีมาก ปันผลดี ไม่มีการขยายการผลิต.
ข. หุ้นที่มี MOS แคบลงหรือเกือบเต็มแล้วแต่มีอนาคตที่ดีสดใส สัมผัสธุรกิจเพราะเข้าไปใช้บริการด้วยตัวเอง ผลประกอบการดี อาจไม่ใช่เบอร์หนึ่งของธุรกิจ มีคู่แข่งชัดเจนและถือหุ้นอยู่
ค. หุ้นที่ไม่น่าจะมี MOS แล้ว ราคาและ PE สูง ราคาลงมาบ้างแต่ไม่มาก แม้จะมีสถานการณ์การเมืองแย่แบบนี้ อนาคตดีมากแบบเห็นกับตา ประมาณว่าเข้าไปมีส่วนหรือสัมผัสกับความก้าวหน้าของธุรกิจ มีความมั่นใจที่จะซื้อ หุ้นแบบนี้ PE สูงนะ PEGR ก็ใกล้ ๆ 1 แล้ว และถืออยู่
ง. รอถือเงินสดไม่ซื้อจนให้หุ้น ค. ลงมาแต่ดูจากที่ผ่านมาไม่ค่อยลง แต่ก็จะรอ...
มีสมมติฐานว่า ผบห ดีทุกที่นะครับ.
ส่วนตัวผมข้อ ค ครับ
ใครคิดอย่างไรแชร์ได้ครับ
หากทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว อย่าได้สนใจกับความคิดของคนอื่น
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 2
ผม ขอเลือก จ. จาน
จ. ซื้อตัวเดิมเพิ่ม...ที่ไม่ได้ขาย ครับ
(ถือเอาไว้ ก็แสดงว่ามั่นใจมากๆ ถึงไม่ขายรึเปล่าครับ..)
ถ้าไม่ใช่ ข้อนี้ ก็ต้องขายตัวเดิม ไปซื้อ ข้อ อื่นแทน...
จ. ซื้อตัวเดิมเพิ่ม...ที่ไม่ได้ขาย ครับ
(ถือเอาไว้ ก็แสดงว่ามั่นใจมากๆ ถึงไม่ขายรึเปล่าครับ..)
ถ้าไม่ใช่ ข้อนี้ ก็ต้องขายตัวเดิม ไปซื้อ ข้อ อื่นแทน...
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 3
ข้อ จ ด้วยคนkongkiti เขียน:ผม ขอเลือก จ. จาน
จ. ซื้อตัวเดิมเพิ่ม...ที่ไม่ได้ขาย ครับ
(ถือเอาไว้ ก็แสดงว่ามั่นใจมากๆ ถึงไม่ขายรึเปล่าครับ..)
ถ้าไม่ใช่ ข้อนี้ ก็ต้องขายตัวเดิม ไปซื้อ ข้อ อื่นแทน...
โดยเฉพาะตัวที่รักมากโดนลากลงมาซะลึกเชียว
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 50
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 6
ขอเลือกข้อ ก ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 7
จ. จานด้วยอีกหนึ่งเสียงครับNevercry.boy เขียน:ข้อ จ ด้วยคนkongkiti เขียน:ผม ขอเลือก จ. จาน
จ. ซื้อตัวเดิมเพิ่ม...ที่ไม่ได้ขาย ครับ
(ถือเอาไว้ ก็แสดงว่ามั่นใจมากๆ ถึงไม่ขายรึเปล่าครับ..)
ถ้าไม่ใช่ ข้อนี้ ก็ต้องขายตัวเดิม ไปซื้อ ข้อ อื่นแทน...
โดยเฉพาะตัวที่รักมากโดนลากลงมาซะลึกเชียว
"ผมไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงเพราะว่าผมต้องการเงินมากมาย
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"
"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"
"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 10
ซื้อหุ้นที่เราเห็นครับว่าเค้าทำกิจการอะไรแล้วเราเข้าใจกิจการเค้ามากพอสามารถคำนวนได้ ต้องเป็นกิจการที่เน้นรายได้ที่แน่นอน
และกำไรที่ต้องเติบโตได้ในอนาคต ลงมาคือโอกาศ ไม่ใช่วิกฤติครับ
ถ้าเราแยกแยะระหว่างอารมณ์และเหตุผล สติก้จะมา เพราะราคาหุ้นระยะสั้นเหมือนเครื่องลงคะแนน ถ้าคนกลัวมากก้ขายมาก
ยิ่งม๊อฟตีกันเท่าไหร่ ต่างชาติขายหนักเท่าไหร่ คนรอบข้างบอกให้เราขายเท่าไหร่ ยิ่งดีครับ
เพราะ คนเหล่านี้ไม่มีเหตุผล ใช้อารมณ์ตัดสินใจซื้อขาย คนเหล่านี้ลืมไปแล้วว่า ระยะยาว ราคาหุ้นเหมือนกิโลครับ
ถ้าผลประกอบการมันดี ราคาก้จะไปได้สวยเอง
ม๊อฟไปยึดสถานประกอบการไหม ม๊อฟจะเลิกกินเลิกใช้ไหม ถ้าไม่ นี่ก้แค่ปัจจัยระยะสั้น เหมือนตอนน้ำท่วมประเทศไทย
สุดท้าย และท้ายสุด
แล้วมันก้จะผ่านไป อีกครั้งหนึ่ง ผู้มีสติเท่านั้นที่จะรู้ว่า ควรทำยังไงเมื่อของดีลดราคา
และกำไรที่ต้องเติบโตได้ในอนาคต ลงมาคือโอกาศ ไม่ใช่วิกฤติครับ
ถ้าเราแยกแยะระหว่างอารมณ์และเหตุผล สติก้จะมา เพราะราคาหุ้นระยะสั้นเหมือนเครื่องลงคะแนน ถ้าคนกลัวมากก้ขายมาก
ยิ่งม๊อฟตีกันเท่าไหร่ ต่างชาติขายหนักเท่าไหร่ คนรอบข้างบอกให้เราขายเท่าไหร่ ยิ่งดีครับ
เพราะ คนเหล่านี้ไม่มีเหตุผล ใช้อารมณ์ตัดสินใจซื้อขาย คนเหล่านี้ลืมไปแล้วว่า ระยะยาว ราคาหุ้นเหมือนกิโลครับ
ถ้าผลประกอบการมันดี ราคาก้จะไปได้สวยเอง
ม๊อฟไปยึดสถานประกอบการไหม ม๊อฟจะเลิกกินเลิกใช้ไหม ถ้าไม่ นี่ก้แค่ปัจจัยระยะสั้น เหมือนตอนน้ำท่วมประเทศไทย
สุดท้าย และท้ายสุด
แล้วมันก้จะผ่านไป อีกครั้งหนึ่ง ผู้มีสติเท่านั้นที่จะรู้ว่า ควรทำยังไงเมื่อของดีลดราคา
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 11
คัดจากบทความ เจ้ามือตัวจริงครับ
เซียนหุ้นระดับโลกอย่าง ปีเตอร์ ลินซ์ แนะนำให้นักลงทุนหมั่นติดตามการดำเนินงานของบริษัทอยู่เสมอ เขาเปรียบเปรยไว้ว่า “ถ้าคุณเป็นเจ้าของอาคารให้เช่า คุณคงไม่ละเลยที่จะคอยตรวจเช็คอยู่เสมอว่าอาคารของคุณยังอยู่ในสภาพดีและไม่ชำรุดทรุดโทรม เช่นเดียวกัน เมื่อคุณเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท คุณก็ควรต้องให้ความสนใจและติดตามพัฒนาการใหม่ๆ ของบริษัทอยู่เสมอ”
น่าเสียดายที่นักลงทุนบางส่วนไม่ค่อยสนใจติดตามการดำเนินงานของบริษัทสักเท่าไร แต่มักไปให้ความสำคัญกับราคาหุ้นที่ขยับขึ้นขยับลง ทั้งๆ ที่ผลการดำเนินงานของบริษัทนี่แหละที่เป็นตัวขับเคลื่อนราคาหุ้นที่มีประสิทธิภาพที่สุด อย่างที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ สุดยอดนักลงทุน กล่าวไว้ว่า “ถ้าบริษัททำผลงานได้ดี หุ้นก็จะดีตามไปด้วยเช่นกัน”
อนุรักษ์ บุญแสวง นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ก็เคยกล่าวไว้ว่า “กำไร คือ เจ้ามือตัวจริง ที่จะผลักดันราคาหุ้น” แม้จะเป็นที่กล่าวขานกันว่าในตลาดหุ้นนั้นมี “เจ้ามือ” ที่สามารถ “ทำราคาหุ้น” ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทุบหุ้นให้ราคาร่วงลงไปติดฟลอร์เพื่อจะได้เก็บของในราคาถูกๆ หรือการเข้าไปไล่ราคาหุ้นให้พุ่งกระฉูดทะลุเพดานเพื่อล่อให้บรรดาแมงเม่าแห่ตามเข้าไปติดกับดักก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่ว่านี้มักจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นไม่นานราคาหุ้นดังกล่าวก็มักจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ในขณะที่กำไรหรือผลดำเนินงานซึ่งเป็น “เจ้ามือตัวจริง” นั้นสามารถส่งผลต่อราคาหุ้นได้ยั่งยืนกว่า
ถ้าท่านเป็นนักลงทุน VI สติต้องมาก่อนลำดับแรก แผนการณ์ว่าจะทำยังไงมาลำดับสอง และ แผนสำรองมาอันดับสาม
เมื่อวาง อุเบกขา ก้ไม่กลัว ไม่โลภ ไม่ทุกข์ ไม่สุข ไม่สนราคาขึ้นลง จิตที่สงบปัญญาก้จะเกิด
เซียนหุ้นระดับโลกอย่าง ปีเตอร์ ลินซ์ แนะนำให้นักลงทุนหมั่นติดตามการดำเนินงานของบริษัทอยู่เสมอ เขาเปรียบเปรยไว้ว่า “ถ้าคุณเป็นเจ้าของอาคารให้เช่า คุณคงไม่ละเลยที่จะคอยตรวจเช็คอยู่เสมอว่าอาคารของคุณยังอยู่ในสภาพดีและไม่ชำรุดทรุดโทรม เช่นเดียวกัน เมื่อคุณเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท คุณก็ควรต้องให้ความสนใจและติดตามพัฒนาการใหม่ๆ ของบริษัทอยู่เสมอ”
น่าเสียดายที่นักลงทุนบางส่วนไม่ค่อยสนใจติดตามการดำเนินงานของบริษัทสักเท่าไร แต่มักไปให้ความสำคัญกับราคาหุ้นที่ขยับขึ้นขยับลง ทั้งๆ ที่ผลการดำเนินงานของบริษัทนี่แหละที่เป็นตัวขับเคลื่อนราคาหุ้นที่มีประสิทธิภาพที่สุด อย่างที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ สุดยอดนักลงทุน กล่าวไว้ว่า “ถ้าบริษัททำผลงานได้ดี หุ้นก็จะดีตามไปด้วยเช่นกัน”
อนุรักษ์ บุญแสวง นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ก็เคยกล่าวไว้ว่า “กำไร คือ เจ้ามือตัวจริง ที่จะผลักดันราคาหุ้น” แม้จะเป็นที่กล่าวขานกันว่าในตลาดหุ้นนั้นมี “เจ้ามือ” ที่สามารถ “ทำราคาหุ้น” ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทุบหุ้นให้ราคาร่วงลงไปติดฟลอร์เพื่อจะได้เก็บของในราคาถูกๆ หรือการเข้าไปไล่ราคาหุ้นให้พุ่งกระฉูดทะลุเพดานเพื่อล่อให้บรรดาแมงเม่าแห่ตามเข้าไปติดกับดักก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่ว่านี้มักจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นไม่นานราคาหุ้นดังกล่าวก็มักจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ในขณะที่กำไรหรือผลดำเนินงานซึ่งเป็น “เจ้ามือตัวจริง” นั้นสามารถส่งผลต่อราคาหุ้นได้ยั่งยืนกว่า
ถ้าท่านเป็นนักลงทุน VI สติต้องมาก่อนลำดับแรก แผนการณ์ว่าจะทำยังไงมาลำดับสอง และ แผนสำรองมาอันดับสาม
เมื่อวาง อุเบกขา ก้ไม่กลัว ไม่โลภ ไม่ทุกข์ ไม่สุข ไม่สนราคาขึ้นลง จิตที่สงบปัญญาก้จะเกิด
-
- Verified User
- โพสต์: 525
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 12
ReRedrum เขียน:จ. จานด้วยอีกหนึ่งเสียงครับNevercry.boy เขียน:ข้อ จ ด้วยคนkongkiti เขียน:ผม ขอเลือก จ. จาน
จ. ซื้อตัวเดิมเพิ่ม...ที่ไม่ได้ขาย ครับ
(ถือเอาไว้ ก็แสดงว่ามั่นใจมากๆ ถึงไม่ขายรึเปล่าครับ..)
ถ้าไม่ใช่ ข้อนี้ ก็ต้องขายตัวเดิม ไปซื้อ ข้อ อื่นแทน...
โดยเฉพาะตัวที่รักมากโดนลากลงมาซะลึกเชียว
แฮ่ .... จ จานอีกเสียงครับ .... แต่ปัญหาคือถือหุ้นเต็มมือ ไม่มีเงินสด ก็เลย ไม่ค่อยได้ทำอะไร หุ้นที่ถืออยู่ในมือ (มีอยู่ 4 ตัว) เราก็คิดมา ศึกษามา ว่าดีแล้ว ลงไปนิดหน่อย ก็ถือลืมๆไป ... แต่ก็มีบ้าง บางที่ เห็นหุ้นสุดรัก ลงมาลึก ก็ขายบางตัวที่ลบน้อยหน่อย มาซื้อตัวที่ลบมากเพิ่มหน่อย (อาจจะ ไม่ค่อยถูกหลักเท่าไหร่นะครับ)
- นายมานะ
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1116
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 13
ทำไมพี่ vim มองแบบนั้นเหรอครับ รบกวนแชร์ทัศนะด้วยครับvim เขียน:ผมคิดตรงกันข้ามนะครับ คิดว่าจะขายหุ้นตปท.ก่อนสิ้นปีภาษีแล้วถือเป็นเงินบาทharikung เขียน:มีใครสนใจข้อ ฉ. มั้ยครับ ลงทุนหุ้นตปท.
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 14
อืมม์ ผมคิดแบบนี้คือ ทั้ง บัฟเฟตต์ หรือ ฟิล ฟิชเชอร์ เค้าจะมีขุนพลใหญ่ อยู่ในพอร์ต ประมาณ 4 ตัว แต่เค้าซื้อตัวอื่นไว้ด้วยKedJade เขียน:ReRedrum เขียน:จ. จานด้วยอีกหนึ่งเสียงครับNevercry.boy เขียน:ข้อ จ ด้วยคนkongkiti เขียน:ผม ขอเลือก จ. จาน
จ. ซื้อตัวเดิมเพิ่ม...ที่ไม่ได้ขาย ครับ
(ถือเอาไว้ ก็แสดงว่ามั่นใจมากๆ ถึงไม่ขายรึเปล่าครับ..)
ถ้าไม่ใช่ ข้อนี้ ก็ต้องขายตัวเดิม ไปซื้อ ข้อ อื่นแทน...
โดยเฉพาะตัวที่รักมากโดนลากลงมาซะลึกเชียว
แฮ่ .... จ จานอีกเสียงครับ .... แต่ปัญหาคือถือหุ้นเต็มมือ ไม่มีเงินสด ก็เลย ไม่ค่อยได้ทำอะไร หุ้นที่ถืออยู่ในมือ (มีอยู่ 4 ตัว) เราก็คิดมา ศึกษามา ว่าดีแล้ว ลงไปนิดหน่อย ก็ถือลืมๆไป ... แต่ก็มีบ้าง บางที่ เห็นหุ้นสุดรัก ลงมาลึก ก็ขายบางตัวที่ลบน้อยหน่อย มาซื้อตัวที่ลบมากเพิ่มหน่อย (อาจจะ ไม่ค่อยถูกหลักเท่าไหร่นะครับ)
บางตัวเค้าซื้อเพิ่มเช่น เวลฟาเกอร์ เค้าก็ซื้อ เพราะเค้าทะลุกับมันแล้ว เค้ามีที่ทะยอยลดพอร์ต เพื่อไปซื้อตัวอื่น
แต่การขายทิ้งทั้งหมดแล้วโดดใส่อีกตัวทั้งหมด อันนี้ ผมไม่ทำนะ ผมมักจะไม่ขาย แต่ซื้อตัวใหม่เพิ่มน้อย ๆ แล้วทำการบ้านกับมันดี ๆ เช่น
หากตัวที่เราซื้อมาเป็นหุ้น เทิร์นอะราวด์ ก็จะต้อง "งม" ว่าจุดที่ เทิร์น จะ เทิร์นจริง ไม่เทิร์นจริง หาก อินดี้ บอกว่า เออ เริ่มเข้าใกล้ อันนี้ผมก็จะเริ่มทะยอยซื้อเพิ่ม
ส่วนหุ้น โกร์ธ ก็มองในมุมที่ว่า ตัวจุดคืออะไร ถ้า "จุดติด" ก็ซื้อเพิ่ม ถ้า "จุดไม่ติด" ก็ต้องดูเหตุปัจจัย บ่อยครั้ง จุดไม่ติด มากกว่า จุดติด นะ
ก็เลยอยู่กับตัวเก่ามากหน่อย
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- vim
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2748
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 15
ผมต้องบอกว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศครับคุณมานะ แต่ในมุมมองของนักลงทุนรายย่อยอย่างผมแล้ว ผมเห็นว่าการลงทุนในต่างประเทศนั้นมีสองสิ่งที่ต้องคำนึงเพิ่มขึ้นมาเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับการลงทุนในประเทศตัวเองนายมานะ เขียน:ทำไมพี่ vim มองแบบนั้นเหรอครับ รบกวนแชร์ทัศนะด้วยครับvim เขียน:ผมคิดตรงกันข้ามนะครับ คิดว่าจะขายหุ้นตปท.ก่อนสิ้นปีภาษีแล้วถือเป็นเงินบาทharikung เขียน:มีใครสนใจข้อ ฉ. มั้ยครับ ลงทุนหุ้นตปท.
1. ค่าเงิน
2. ภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ
เรื่องค่าเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนกลัวการใช้ค่า P/E ของหุ้นต่างประเทศมาเทียบกับหุ้นท้องถิ่นตรงๆ เพราะเงินที่เราจ่ายเพื่อซื้อหุ้นก้อนแรกนั้นเป็นเงินท้องถิ่น เช่นเงินบาท แต่เงินที่เราจะได้รับในอนาคตนั้นเป็นเงินต่างชาติ เช่นเงินดอลลาร์ ในทางตรงกันข้าม การขายหุ้นนั้นเราขายหุ้นในสกุลเงินต่างชาติ แต่โอนกลับมาเป็นเงินท้องถิ่น
ทำให้"ราคา"ของหุ้นนั้นไปผูกกับค่าเงินที่ใช้ซื้อด้วย
ประมาณเมื่อหลายเดือนก่อนนั้นค่าเงินบาทแข็งมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน ทั้งๆที่ปัจจัยการลงทุนนั้นแทบจะเหมือนกัน ทำให้ราคาหุ้นไทยตอนนี้นั้นแม้จะมีดัชนีไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่ราคาในมุมของต่างชาติมันเปลี่ยนไปเยอะครับ
ส่วนภาษีนั้น แต่ละประเทศมีการคิดภาษีแตกต่างกัน บางประเทศมีการลดหย่อนภาษีบุคคล บางประเทศนั้นรวมไปถึงการให้เครดิตภาษีที่เกิดจากเงินปันผลด้วย เช่นประเทศไทยเป็นต้น แต่ในอีกหลายประเภทนั้นมีการคิดภาษีที่ต่างกันออกไป ในบางประเทศนั้นเรามีความจำเป็นต้องทะยอยขายหุ้นออกในแต่ละปีเพื่อที่จะไม่ให้เสียภาษีในอัตราที่สูง
สำหรับผมนั้น ผมจำเป็นต้องรีบขายหุ้นก่อนสิ้นปีเพื่อเหตุผลทางภาษี และด้วยเหตุค่าเงินบาทอ่อนทำให้บริษัทในไทยนั้นถูกเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ได้จากการขายหุ้น เลยเป็นจังหวะที่ดีในการกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยครับตามความรู้สึกส่วนตัวของผม (หากเจอบริษัทที่น่าสนใจ)
ไม่รู้ว่าผมจะตัดสินใจถูกหรือผิด การลงทุนมีความเสี่ยงครับ โปรดพิจารณาก่อนเชื่อผมนะครับ
Vi IMrovised
- นายมานะ
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1116
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 16
ผมไม่มีทั้งความรู้และประสบการณ์เลย ต้องขอขอบคุณมากครับvim เขียน:ผมต้องบอกว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศครับคุณมานะ แต่ในมุมมองของนักลงทุนรายย่อยอย่างผมแล้ว ผมเห็นว่าการลงทุนในต่างประเทศนั้นมีสองสิ่งที่ต้องคำนึงเพิ่มขึ้นมาเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับการลงทุนในประเทศตัวเองนายมานะ เขียน:ทำไมพี่ vim มองแบบนั้นเหรอครับ รบกวนแชร์ทัศนะด้วยครับvim เขียน:ผมคิดตรงกันข้ามนะครับ คิดว่าจะขายหุ้นตปท.ก่อนสิ้นปีภาษีแล้วถือเป็นเงินบาทharikung เขียน:มีใครสนใจข้อ ฉ. มั้ยครับ ลงทุนหุ้นตปท.
1. ค่าเงิน
2. ภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ
เรื่องค่าเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนกลัวการใช้ค่า P/E ของหุ้นต่างประเทศมาเทียบกับหุ้นท้องถิ่นตรงๆ เพราะเงินที่เราจ่ายเพื่อซื้อหุ้นก้อนแรกนั้นเป็นเงินท้องถิ่น เช่นเงินบาท แต่เงินที่เราจะได้รับในอนาคตนั้นเป็นเงินต่างชาติ เช่นเงินดอลลาร์ ในทางตรงกันข้าม การขายหุ้นนั้นเราขายหุ้นในสกุลเงินต่างชาติ แต่โอนกลับมาเป็นเงินท้องถิ่น
ทำให้"ราคา"ของหุ้นนั้นไปผูกกับค่าเงินที่ใช้ซื้อด้วย
ประมาณเมื่อหลายเดือนก่อนนั้นค่าเงินบาทแข็งมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน ทั้งๆที่ปัจจัยการลงทุนนั้นแทบจะเหมือนกัน ทำให้ราคาหุ้นไทยตอนนี้นั้นแม้จะมีดัชนีไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่ราคาในมุมของต่างชาติมันเปลี่ยนไปเยอะครับ
ส่วนภาษีนั้น แต่ละประเทศมีการคิดภาษีแตกต่างกัน บางประเทศมีการลดหย่อนภาษีบุคคล บางประเทศนั้นรวมไปถึงการให้เครดิตภาษีที่เกิดจากเงินปันผลด้วย เช่นประเทศไทยเป็นต้น แต่ในอีกหลายประเภทนั้นมีการคิดภาษีที่ต่างกันออกไป ในบางประเทศนั้นเรามีความจำเป็นต้องทะยอยขายหุ้นออกในแต่ละปีเพื่อที่จะไม่ให้เสียภาษีในอัตราที่สูง
สำหรับผมนั้น ผมจำเป็นต้องรีบขายหุ้นก่อนสิ้นปีเพื่อเหตุผลทางภาษี และด้วยเหตุค่าเงินบาทอ่อนทำให้บริษัทในไทยนั้นถูกเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ได้จากการขายหุ้น เลยเป็นจังหวะที่ดีในการกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยครับตามความรู้สึกส่วนตัวของผม (หากเจอบริษัทที่น่าสนใจ)
ไม่รู้ว่าผมจะตัดสินใจถูกหรือผิด การลงทุนมีความเสี่ยงครับ โปรดพิจารณาก่อนเชื่อผมนะครับ
- deepwater
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เลือกหุ้นประเภทไหนครับ คำถามสร้างสรรค์
โพสต์ที่ 17
จริงครับ ผมเคยถือหุ้นที่คิดว่าจะเติบโต แต่ไม่มีความคืบหน้า เลยต้องปล่อยออกไปNevercry.boy เขียน:อืมม์ ผมคิดแบบนี้คือ ทั้ง บัฟเฟตต์ หรือ ฟิล ฟิชเชอร์ เค้าจะมีขุนพลใหญ่ อยู่ในพอร์ต ประมาณ 4 ตัว แต่เค้าซื้อตัวอื่นไว้ด้วยKedJade เขียน:ReRedrum เขียน:จ. จานด้วยอีกหนึ่งเสียงครับNevercry.boy เขียน:ข้อ จ ด้วยคนkongkiti เขียน:ผม ขอเลือก จ. จาน
จ. ซื้อตัวเดิมเพิ่ม...ที่ไม่ได้ขาย ครับ
(ถือเอาไว้ ก็แสดงว่ามั่นใจมากๆ ถึงไม่ขายรึเปล่าครับ..)
ถ้าไม่ใช่ ข้อนี้ ก็ต้องขายตัวเดิม ไปซื้อ ข้อ อื่นแทน...
โดยเฉพาะตัวที่รักมากโดนลากลงมาซะลึกเชียว
แฮ่ .... จ จานอีกเสียงครับ .... แต่ปัญหาคือถือหุ้นเต็มมือ ไม่มีเงินสด ก็เลย ไม่ค่อยได้ทำอะไร หุ้นที่ถืออยู่ในมือ (มีอยู่ 4 ตัว) เราก็คิดมา ศึกษามา ว่าดีแล้ว ลงไปนิดหน่อย ก็ถือลืมๆไป ... แต่ก็มีบ้าง บางที่ เห็นหุ้นสุดรัก ลงมาลึก ก็ขายบางตัวที่ลบน้อยหน่อย มาซื้อตัวที่ลบมากเพิ่มหน่อย (อาจจะ ไม่ค่อยถูกหลักเท่าไหร่นะครับ)
บางตัวเค้าซื้อเพิ่มเช่น เวลฟาเกอร์ เค้าก็ซื้อ เพราะเค้าทะลุกับมันแล้ว เค้ามีที่ทะยอยลดพอร์ต เพื่อไปซื้อตัวอื่น
แต่การขายทิ้งทั้งหมดแล้วโดดใส่อีกตัวทั้งหมด อันนี้ ผมไม่ทำนะ ผมมักจะไม่ขาย แต่ซื้อตัวใหม่เพิ่มน้อย ๆ แล้วทำการบ้านกับมันดี ๆ เช่น
หากตัวที่เราซื้อมาเป็นหุ้น เทิร์นอะราวด์ ก็จะต้อง "งม" ว่าจุดที่ เทิร์น จะ เทิร์นจริง ไม่เทิร์นจริง หาก อินดี้ บอกว่า เออ เริ่มเข้าใกล้ อันนี้ผมก็จะเริ่มทะยอยซื้อเพิ่ม
ส่วนหุ้น โกร์ธ ก็มองในมุมที่ว่า ตัวจุดคืออะไร ถ้า "จุดติด" ก็ซื้อเพิ่ม ถ้า "จุดไม่ติด" ก็ต้องดูเหตุปัจจัย บ่อยครั้ง จุดไม่ติด มากกว่า จุดติด นะ
ก็เลยอยู่กับตัวเก่ามากหน่อย
หากทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว อย่าได้สนใจกับความคิดของคนอื่น