ที่ลงหนักๆๆต้องตรวจสอบ VAYU1 หมดอายุหรือเปล่า (กองใหญ่)
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ที่ลงหนักๆๆต้องตรวจสอบ VAYU1 หมดอายุหรือเปล่า (กองใหญ่)
โพสต์ที่ 1
วันที่/เวลา 21 พ.ย. 2556 08:18:27
หัวข้อข่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งเตือนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 เป็นวันซื้อขายสุดท้ายของ VAYU1
หลักทรัพย์ VAYU1
แหล่งข่าว SET
รายละเอียดแบบเต็ม
ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งเตือนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 เป็นวันซื้อขายสุดท้ายของ VAYU1
ตามที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี
จำกัด (มหาชน) (บริษัทจัดการ) ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนี่ง ประเภท ก. (VAYU1)
แจ้งวันครบอายุในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 และบริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนประเภท ก.
ทั้งหมดนั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขอแจ้งเตือนให้ผู้ลงทุนได้ทราบว่าวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556
เป็นวันซื้อหรือขายวันสุดท้ายของ VAYU1 โดยมีรายละเอียดดังนี้
บริษัทจัดการได้แจ้งวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนของ VAYU1
เพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนที่บริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนในวันที่ 29 พฤศจิกายน
2556 เป็นผลให้ VAYU1 พ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้น
เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
บริษัทจัดการจึงขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามการซื้อหรือขาย VAYU1 ตั้งแต่วันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2556
(รายละเอียดปรากฏตามข่าวของ VAYU1 ในวันที่ 24 กันยายน 2556)
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 5(6) แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข
และวิธีการเกี่ยวกับการห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราวลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2538
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงห้ามการซื้อหรือขาย VAYU1 ตั้งแต่วันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2556
ตามที่บริษัทจัดการขอมา และเป็นผลให้ VAYU1 พ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 30
พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป
หัวข้อข่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งเตือนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 เป็นวันซื้อขายสุดท้ายของ VAYU1
หลักทรัพย์ VAYU1
แหล่งข่าว SET
รายละเอียดแบบเต็ม
ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งเตือนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 เป็นวันซื้อขายสุดท้ายของ VAYU1
ตามที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี
จำกัด (มหาชน) (บริษัทจัดการ) ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนี่ง ประเภท ก. (VAYU1)
แจ้งวันครบอายุในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 และบริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนประเภท ก.
ทั้งหมดนั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขอแจ้งเตือนให้ผู้ลงทุนได้ทราบว่าวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556
เป็นวันซื้อหรือขายวันสุดท้ายของ VAYU1 โดยมีรายละเอียดดังนี้
บริษัทจัดการได้แจ้งวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนของ VAYU1
เพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนที่บริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนในวันที่ 29 พฤศจิกายน
2556 เป็นผลให้ VAYU1 พ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้น
เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
บริษัทจัดการจึงขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามการซื้อหรือขาย VAYU1 ตั้งแต่วันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2556
(รายละเอียดปรากฏตามข่าวของ VAYU1 ในวันที่ 24 กันยายน 2556)
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 5(6) แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข
และวิธีการเกี่ยวกับการห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราวลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2538
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงห้ามการซื้อหรือขาย VAYU1 ตั้งแต่วันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2556
ตามที่บริษัทจัดการขอมา และเป็นผลให้ VAYU1 พ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 30
พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป
-
- Verified User
- โพสต์: 1426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ที่ลงหนักๆๆต้องตรวจสอบ VAYU1 หมดอายุหรือเปล่า (กองใหญ่)
โพสต์ที่ 2
คลังปิดวายุภักดิ์จ่อคืนเงิน7หมื่นล.
คลังเตรียมคืนหน่วยลงทุนมูลค่า 7 หมื่นล้าน ให้ผู้ถือหน่วยกองทุนวายุภักษ์แบบปิด เพื่อเตรียมเปิดกองทุนวายุภักษ์แบบเปิด คาดเปิดขาย 1 ปีข้างหน้า
นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ ในรูปแบบกองทุนเปิดว่า อยู่ในขั้นเตรียมการเพื่อแจ้งต่อผู้ถือหน่วยลงทุน เกี่ยวกับการคืนหน่วยลงทุน หลังกองทุนวายุภักษ์กองเดิม จะหมดอายุช่วงเดือนพ.ย.นี้
"ขั้นตอนการดำเนินการ สคร.จะต้องคืนเงินส่วนของผู้ถือหน่วย 7 หมื่นล้านบาท โดยจำนวนนี้ มีทั้งรายย่อยและสถาบันการเงิน เมื่อคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วย ที่ไม่ใช่กระทรวงการคลังแล้ว เท่ากับว่ากองทุนวายุภักษ์ จะปิดกองทุน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยมีครบอายุ 10 ปี"
สถาบันการเงินที่ถือหน่วยลงทุนนี้มากสุด ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย 3 หมื่นล้านบาท รองลงมา คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนกระทรวงการคลังถือหุ้น 3 หมื่นล้านบาท
กองทุนวายุภักษ์กองใหม่นี้ เปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้ออย่างเท่าเทียมกัน หลังจากที่กองทุนวายุภักษ์ ซึ่งเป็นกองทุนที่ที่ลงทุนในหุ้นที่กระทรวงการคลังถือครองอยู่หมดอายุลง และกระทรวงการคลังได้มีนโยบาย จะเปิดกองทุนวายุภักษ์ใหม่อีกครั้ง แต่จะทำเป็นในรูปกองทุนเปิด จากเดิมทำในรูปกองทุนปิด
"เราจะให้สิทธิ์แก่ประชาชนทั่วไปให้สามารถเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนนี้ได้อย่างเท่าเทียม โดยไม่ให้ผู้ที่เคยถือหน่วยลงทุนวายุภักษ์เดิม ได้สิทธิ์ในการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดวายุภักษ์เป็นกรณีพิเศษก่อนนักลงทุนรายอื่น" นายประสงค์กล่าว
สำหรับกำหนดระยะเวลาการเป็นกองทุนปิดวายุภักษ์ เขากล่าวว่า กระทรวงการคลังจะจัดทำเงื่อนไขในการลงทุนต่างๆ คาดจะใช้เวลา 1 ปี กว่าที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนในกองใหม่นี้ได้ ส่วนผู้บริหารกองทุนจะให้บริษัทเดิม คือ บลจ.กรุงไทย และบลจ.เอ็มเอ็ฟซีบริหารไประยะหนึ่ง 2 -3 เดือน หลังจากนั้น จะพิจารณาผลงานว่า จะคัดเลือกผู้บริหารรายใหม่หรือใช้รายเดิม
ปัจจุบันกองทุนวายุภักษ์นี้ มีมูลค่ากองทุน 3 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท สาเหตุมูลค่ากองทุนที่ลดลง เป็นไปตามดัชนีหุ้นที่ปรับลดลง สำหรับค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของกองทุนวายุภักษ์ดังกล่าวอยู่ที่ 4-5%
วันที่ 15 ตุลาคม 2556 : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
คลังเตรียมคืนหน่วยลงทุนมูลค่า 7 หมื่นล้าน ให้ผู้ถือหน่วยกองทุนวายุภักษ์แบบปิด เพื่อเตรียมเปิดกองทุนวายุภักษ์แบบเปิด คาดเปิดขาย 1 ปีข้างหน้า
นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ ในรูปแบบกองทุนเปิดว่า อยู่ในขั้นเตรียมการเพื่อแจ้งต่อผู้ถือหน่วยลงทุน เกี่ยวกับการคืนหน่วยลงทุน หลังกองทุนวายุภักษ์กองเดิม จะหมดอายุช่วงเดือนพ.ย.นี้
"ขั้นตอนการดำเนินการ สคร.จะต้องคืนเงินส่วนของผู้ถือหน่วย 7 หมื่นล้านบาท โดยจำนวนนี้ มีทั้งรายย่อยและสถาบันการเงิน เมื่อคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วย ที่ไม่ใช่กระทรวงการคลังแล้ว เท่ากับว่ากองทุนวายุภักษ์ จะปิดกองทุน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยมีครบอายุ 10 ปี"
สถาบันการเงินที่ถือหน่วยลงทุนนี้มากสุด ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย 3 หมื่นล้านบาท รองลงมา คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนกระทรวงการคลังถือหุ้น 3 หมื่นล้านบาท
กองทุนวายุภักษ์กองใหม่นี้ เปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้ออย่างเท่าเทียมกัน หลังจากที่กองทุนวายุภักษ์ ซึ่งเป็นกองทุนที่ที่ลงทุนในหุ้นที่กระทรวงการคลังถือครองอยู่หมดอายุลง และกระทรวงการคลังได้มีนโยบาย จะเปิดกองทุนวายุภักษ์ใหม่อีกครั้ง แต่จะทำเป็นในรูปกองทุนเปิด จากเดิมทำในรูปกองทุนปิด
"เราจะให้สิทธิ์แก่ประชาชนทั่วไปให้สามารถเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนนี้ได้อย่างเท่าเทียม โดยไม่ให้ผู้ที่เคยถือหน่วยลงทุนวายุภักษ์เดิม ได้สิทธิ์ในการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดวายุภักษ์เป็นกรณีพิเศษก่อนนักลงทุนรายอื่น" นายประสงค์กล่าว
สำหรับกำหนดระยะเวลาการเป็นกองทุนปิดวายุภักษ์ เขากล่าวว่า กระทรวงการคลังจะจัดทำเงื่อนไขในการลงทุนต่างๆ คาดจะใช้เวลา 1 ปี กว่าที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนในกองใหม่นี้ได้ ส่วนผู้บริหารกองทุนจะให้บริษัทเดิม คือ บลจ.กรุงไทย และบลจ.เอ็มเอ็ฟซีบริหารไประยะหนึ่ง 2 -3 เดือน หลังจากนั้น จะพิจารณาผลงานว่า จะคัดเลือกผู้บริหารรายใหม่หรือใช้รายเดิม
ปัจจุบันกองทุนวายุภักษ์นี้ มีมูลค่ากองทุน 3 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท สาเหตุมูลค่ากองทุนที่ลดลง เป็นไปตามดัชนีหุ้นที่ปรับลดลง สำหรับค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของกองทุนวายุภักษ์ดังกล่าวอยู่ที่ 4-5%
วันที่ 15 ตุลาคม 2556 : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
-
- Verified User
- โพสต์: 262
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ที่ลงหนักๆๆต้องตรวจสอบ VAYU1 หมดอายุหรือเปล่า (กองใหญ่)
โพสต์ที่ 3
ผมว่า ถึง VAYU1 จะขายหุ้นจริง มูลค่าก็แค่ระดับ หมื่นกว่าล้าน เพราะ
ทรัพย์สินกองแรก เริ่มจัดตั้ง Size 3 แสนล้าน เป็นหุ้นใน Set เกือบหมด กระทรวงการคลังซื้อคืนตามสัญญา call option
ทรัพย์สินอื่นๆ Size 7 หมื่นล้าน เป็นหุ้นใน Set ประมาณ หมื่นกว่าล้าน ที่เหลือเป็นตราสารหนี้ กองนี้ที่ Vayu1 ต้องขาย
เพื่อเอาเงินมาคืนผู้ถือหน่วยประเภท ก
ทรัพย์สินกองแรก เริ่มจัดตั้ง Size 3 แสนล้าน เป็นหุ้นใน Set เกือบหมด กระทรวงการคลังซื้อคืนตามสัญญา call option
ทรัพย์สินอื่นๆ Size 7 หมื่นล้าน เป็นหุ้นใน Set ประมาณ หมื่นกว่าล้าน ที่เหลือเป็นตราสารหนี้ กองนี้ที่ Vayu1 ต้องขาย
เพื่อเอาเงินมาคืนผู้ถือหน่วยประเภท ก
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ที่ลงหนักๆๆต้องตรวจสอบ VAYU1 หมดอายุหรือเปล่า (กองใหญ่)
โพสต์ที่ 4
มีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ
แล้วหุ้นที่คลังถือตอนแรก ต้องกลับไปอยู่ในมือคลังทั้งหมดหรือเปล่า
ถ้าไม่ นั้นคือขายสินทรัพย์ของคลังให้แก่ประชาชนหรือนิติบุคคล โดยผ่านกองทุนนกยักษ์ เป็นการขายสินทรัพย์ของชาติ หรือเปล่า (เป็นการขายชาติรอบ 2 หรือเปล่า)
คำถามที่ต่อมา
เงินจำนวนมากๆ ถ้าหากขายหุ้นออกมา แล้วเงินไปตราสารหนี้จริงๆ ตามที่มีข้อมูลจากทาง Line ส่งต่อๆกันมา
คำถามคือ ทำไม yield ของตราสารหนี้ระยะสั้น มันแค่ทรงๆ ไม่ลดลงล่ะ
เงินระดับนั้น เพื่อเตรียมจ่ายให้ประชาชน สามารถกด Yield ลงได้สบาย
ถ้าหากฝากธนาคาร ธนาคารในประเทศสามารถรับฝากเงินจำนวนนี้ได้หรือเปล่า
ถ้าไม่กระจายฝากหลายๆธนาคาร
แล้วเมื่อกระจายออกหลายธนาคาร มันคือ ภาระของธนาคารหรือเปล่า
(ถ้าแบบนี้ ดูจาก ธพ ที่ส่ง ตลท ตอนปลายเดือนนี้ว่า ยอดฝากเงินบวมหรือเปล่า)
มันน่าคิดไหมละ
สุดท้ายใครได้ประโยชน์จากกองทุนนี้
ประชาชน ,คลัง,นักลงทุน หรือเจ็บตัวทุกคน
แล้วหุ้นที่คลังถือตอนแรก ต้องกลับไปอยู่ในมือคลังทั้งหมดหรือเปล่า
ถ้าไม่ นั้นคือขายสินทรัพย์ของคลังให้แก่ประชาชนหรือนิติบุคคล โดยผ่านกองทุนนกยักษ์ เป็นการขายสินทรัพย์ของชาติ หรือเปล่า (เป็นการขายชาติรอบ 2 หรือเปล่า)
คำถามที่ต่อมา
เงินจำนวนมากๆ ถ้าหากขายหุ้นออกมา แล้วเงินไปตราสารหนี้จริงๆ ตามที่มีข้อมูลจากทาง Line ส่งต่อๆกันมา
คำถามคือ ทำไม yield ของตราสารหนี้ระยะสั้น มันแค่ทรงๆ ไม่ลดลงล่ะ
เงินระดับนั้น เพื่อเตรียมจ่ายให้ประชาชน สามารถกด Yield ลงได้สบาย
ถ้าหากฝากธนาคาร ธนาคารในประเทศสามารถรับฝากเงินจำนวนนี้ได้หรือเปล่า
ถ้าไม่กระจายฝากหลายๆธนาคาร
แล้วเมื่อกระจายออกหลายธนาคาร มันคือ ภาระของธนาคารหรือเปล่า
(ถ้าแบบนี้ ดูจาก ธพ ที่ส่ง ตลท ตอนปลายเดือนนี้ว่า ยอดฝากเงินบวมหรือเปล่า)
มันน่าคิดไหมละ
สุดท้ายใครได้ประโยชน์จากกองทุนนี้
ประชาชน ,คลัง,นักลงทุน หรือเจ็บตัวทุกคน
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ที่ลงหนักๆๆต้องตรวจสอบ VAYU1 หมดอายุหรือเปล่า (กองใหญ่)
โพสต์ที่ 5
ระวังสิ่งหนึ่ง คือ
ลวงคือจริง
จริงคือลวง
ดังนั้น เมื่อกระแสเหมือนในปัจจุบัน
ทำให้ข่าวเรื่องเลิก กองทุนนกยักษ์อันนี้
โดยกลบหมด แต่จริงๆแล้ว มันควรเป็นที่ให้ความสำคัญของประชาชน
พอๆกับข่าวเรื่องอื่นๆ
ลวงคือจริง
จริงคือลวง
ดังนั้น เมื่อกระแสเหมือนในปัจจุบัน
ทำให้ข่าวเรื่องเลิก กองทุนนกยักษ์อันนี้
โดยกลบหมด แต่จริงๆแล้ว มันควรเป็นที่ให้ความสำคัญของประชาชน
พอๆกับข่าวเรื่องอื่นๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ที่ลงหนักๆๆต้องตรวจสอบ VAYU1 หมดอายุหรือเปล่า (กองใหญ่)
โพสต์ที่ 6
คิดได้เพิ่มเติม
ถ้าหากไม่มีการซื้อขายในตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เป็นการโอนหุ้นตามจำนวนเงินละ
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น รายใหญ่ที่ถือหน่วยลงทุน
----------------------------------------------------------
2. ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 2,946,684,200 29.47
3. ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 1,068,856,600 10.69
4. ธนาคาร ธนชาต จำกัด (มหาชน) 587,039,200 5.87
5. ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) 250,000,000 2.50
6. ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 172,167,800 1.72
7. ธนาคาร พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย 100,000,000 1.00
----------------------------------------------------------
ส่วนใหญ่เป็นธนาคารรับโอนเป็นหลักทรัพย์ไป
ก็ไปบวมที่สินทรัพย์เพื่อการลงทุน แล้วโดน mark to market
หากไม่ขาย หรือ ขายในราคาที่สูงขึ้น
ซึ่ง BIS 2 มีเรื่องของการความเสี่ยงด้านตลาดแลราคาควบคุมอยู่
ดังนั้น ถ้าไม่ขายด้วยฝีมือของบริษัทที่บริหารกองทุน ก็
1. รอจัดตั้งกองทุน ขายให้แก่ประชาชน แต่คราวนี้เป็นบริษัทจัดการกองทุนรวมของแต่ละธนาคารจัดการ
2. ธนาคารรับไว้เอง แล้วทยอยเทขายออกมา เพื่อลดความเสี่ยง มีเวลาเพิ่มอีก 1 เดือนตลอดเดือนธันวาคม ถ้าหากไม่ต้องการถือไว้ ซึ่งประมาณหลักทรัพย์มากมายขนาดนี้ขายต้องขายนาน หรือ ขายยกกระปิเลย
3. ธนาคารขายให้ต่างชาติก็เหมือนข้อ 2 แต่ต่างชาติไม่โง่ ก็กดเทขาย ให้ราคาต่ำกว่าความเป็นจริง
---------------------------------------------------------------
ข้อสังเกตเพิ่มเติม
ตอนนี้ยังเหลือเงินประกันภัยต่อจาก 2 บริษัทใหญ่ที่ยังเครมไม่เสร็จ
เงินประกันภัยพวกนี้เข้าข่ายเงินร้อน ไหลเข้ามาแสวงหาส่วนต่างการทำกำไรด้วย
อาจจะต้องระวังไว้ด้วย
ถ้าหากไม่มีการซื้อขายในตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เป็นการโอนหุ้นตามจำนวนเงินละ
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น รายใหญ่ที่ถือหน่วยลงทุน
----------------------------------------------------------
2. ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 2,946,684,200 29.47
3. ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 1,068,856,600 10.69
4. ธนาคาร ธนชาต จำกัด (มหาชน) 587,039,200 5.87
5. ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) 250,000,000 2.50
6. ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 172,167,800 1.72
7. ธนาคาร พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย 100,000,000 1.00
----------------------------------------------------------
ส่วนใหญ่เป็นธนาคารรับโอนเป็นหลักทรัพย์ไป
ก็ไปบวมที่สินทรัพย์เพื่อการลงทุน แล้วโดน mark to market
หากไม่ขาย หรือ ขายในราคาที่สูงขึ้น
ซึ่ง BIS 2 มีเรื่องของการความเสี่ยงด้านตลาดแลราคาควบคุมอยู่
ดังนั้น ถ้าไม่ขายด้วยฝีมือของบริษัทที่บริหารกองทุน ก็
1. รอจัดตั้งกองทุน ขายให้แก่ประชาชน แต่คราวนี้เป็นบริษัทจัดการกองทุนรวมของแต่ละธนาคารจัดการ
2. ธนาคารรับไว้เอง แล้วทยอยเทขายออกมา เพื่อลดความเสี่ยง มีเวลาเพิ่มอีก 1 เดือนตลอดเดือนธันวาคม ถ้าหากไม่ต้องการถือไว้ ซึ่งประมาณหลักทรัพย์มากมายขนาดนี้ขายต้องขายนาน หรือ ขายยกกระปิเลย
3. ธนาคารขายให้ต่างชาติก็เหมือนข้อ 2 แต่ต่างชาติไม่โง่ ก็กดเทขาย ให้ราคาต่ำกว่าความเป็นจริง
---------------------------------------------------------------
ข้อสังเกตเพิ่มเติม
ตอนนี้ยังเหลือเงินประกันภัยต่อจาก 2 บริษัทใหญ่ที่ยังเครมไม่เสร็จ
เงินประกันภัยพวกนี้เข้าข่ายเงินร้อน ไหลเข้ามาแสวงหาส่วนต่างการทำกำไรด้วย
อาจจะต้องระวังไว้ด้วย