สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การแยกความคิดออกจากความเป็นจริง
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การแยกความคิดออกจากความเป็นจริง
โพสต์ที่ 1
ลองคิดดูแล้ว ปัญหาแท้จริงที่เกิดกับตัวเอง คือ การใช้ความคิดนำความเป็นจริง
คนเราคิดทั้งวัน คิดโน่นคิดนี่ ฟุ้งซ่านไปเรื่อยๆ บางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังคิดเรื่องอะไร ประมาณเหม่อๆ ใจลอย สิ่งเหล่านี้ เรียกว่า ไม่อยู่กับความเป็นจริง
ทีนี้ ก็เลยติดนิสัยแบบนี้มาใช้กับการลงทุนในหุ้นด้วย เพราะว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรานี่แหละ ซึ่งเจ้า "ราคาหุ้น" นี่แหละตัวดีเลย เป็นสาเหตุให้คิดฟุ้งซ่านไปตลอดเวลา พอหุ้นขึ้นมากๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันคงมีอะไรดีๆ บางทีก็ไม่รู้ บางทีมีข้อมูลด้านบวกอยู่แล้วก็มั่นใจว่าเพราะเรื่องนี้แน่ๆ เวลาหุ้นลงมากๆ ก็เป็นไปในทางกลับกัน
ในความเป็นจริง ทุกคนน่าจะยอมรับได้ตรงกันว่า การที่ราคาหุ้นขึ้นลง สาเหตุที่ปฏิเสธไม่ได้แน่นอน คือ เกิดจากการจับคู่ระหว่างมีคนซื้อกับคนขาย ซึ่งที่จริงแท้ 100% ก็คือ ความจริงที่ทุกคนรู้มีอยู่แค่นี้แหละ
ส่วนที่เหลือว่า ใครจะซื้อเพราะอะไร ขายเพราะอะไร ก็ล้วนแล้วแต่เดากันไปแทบทั้งนั้น (บางทีแม้แต่สาเหตุจริงๆ ว่าตัวเราเองขายทำไม ยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำไปก็มี)
คนเราคิดทั้งวัน คิดโน่นคิดนี่ ฟุ้งซ่านไปเรื่อยๆ บางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังคิดเรื่องอะไร ประมาณเหม่อๆ ใจลอย สิ่งเหล่านี้ เรียกว่า ไม่อยู่กับความเป็นจริง
ทีนี้ ก็เลยติดนิสัยแบบนี้มาใช้กับการลงทุนในหุ้นด้วย เพราะว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรานี่แหละ ซึ่งเจ้า "ราคาหุ้น" นี่แหละตัวดีเลย เป็นสาเหตุให้คิดฟุ้งซ่านไปตลอดเวลา พอหุ้นขึ้นมากๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันคงมีอะไรดีๆ บางทีก็ไม่รู้ บางทีมีข้อมูลด้านบวกอยู่แล้วก็มั่นใจว่าเพราะเรื่องนี้แน่ๆ เวลาหุ้นลงมากๆ ก็เป็นไปในทางกลับกัน
ในความเป็นจริง ทุกคนน่าจะยอมรับได้ตรงกันว่า การที่ราคาหุ้นขึ้นลง สาเหตุที่ปฏิเสธไม่ได้แน่นอน คือ เกิดจากการจับคู่ระหว่างมีคนซื้อกับคนขาย ซึ่งที่จริงแท้ 100% ก็คือ ความจริงที่ทุกคนรู้มีอยู่แค่นี้แหละ
ส่วนที่เหลือว่า ใครจะซื้อเพราะอะไร ขายเพราะอะไร ก็ล้วนแล้วแต่เดากันไปแทบทั้งนั้น (บางทีแม้แต่สาเหตุจริงๆ ว่าตัวเราเองขายทำไม ยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำไปก็มี)
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การแยกความคิดออกจากความเป็นจ
โพสต์ที่ 2
การจะแก้ความคิดฟุ้งซ่านโดยเฉพาะสำหรับนักลงทุน ในความเป็นจริงแทบเป็นไปไม่ได้ อย่างมากก็แค่กดเอาไว้ชั่วคราว
แต่มีอีกวิธีคืออย่าปล่อยให้มันมามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ โดยอาศัยการศึกษาหาความรู้ ความเชื่อที่สมเหตุสมผล ที่ผ่านการพิสูจน์ แล้วพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญา
ขอยกตัวอย่าง สำหรับแนวลงทุนแบบวีไอ
แนวคิดวีไอนั้น ความเชื่อที่ว่าน่าจะเป็นจริง สรุปลงได้เพียงประการเดียว คือ 'ราคาหุ้นในระยะยาวแล้วจะสะท้อนมาจากคุณภาพของตัวกิจการ"
ดังนั้น ถ้ายึดแนวทางนี้ในการตัดสินใจลงทุน ปัญหาความสับสนทางความคิดจะลดน้อยลงไปอย่างมาก เพราะข้อมูลข่าวสาร (ที่ท่วมโลกอยู่ทุกวันนี้) ใดๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณภาพของตัวกิจการแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องไปยุ่งเกี่ยวให้มากความ เช่น ฟองสบู่จะเกิดเมื่อไหร่ ใครที่ไหนจะทุบหุ้น จะมีออกมาตรการอะไรใหม่ๆอีกมั้ย คนไซปรัสจะได้ถอนเงินรึเปล่า
ที่จริง ถ้ายึดมั่นในแนวทางซะอย่าง และเลือกให้ค่าเฉพาะกับข้อมูลที่มีประโยชน์กับการวิเคราะห์กิจการ การลงทุนมันก็ไม่ได้สับสนวุ่นวายมากอย่างที่เป็นกันอยู่ทั่วทั้งตลาดเช่นทุกวันนี้
แต่มีอีกวิธีคืออย่าปล่อยให้มันมามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ โดยอาศัยการศึกษาหาความรู้ ความเชื่อที่สมเหตุสมผล ที่ผ่านการพิสูจน์ แล้วพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญา
ขอยกตัวอย่าง สำหรับแนวลงทุนแบบวีไอ
แนวคิดวีไอนั้น ความเชื่อที่ว่าน่าจะเป็นจริง สรุปลงได้เพียงประการเดียว คือ 'ราคาหุ้นในระยะยาวแล้วจะสะท้อนมาจากคุณภาพของตัวกิจการ"
ดังนั้น ถ้ายึดแนวทางนี้ในการตัดสินใจลงทุน ปัญหาความสับสนทางความคิดจะลดน้อยลงไปอย่างมาก เพราะข้อมูลข่าวสาร (ที่ท่วมโลกอยู่ทุกวันนี้) ใดๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณภาพของตัวกิจการแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องไปยุ่งเกี่ยวให้มากความ เช่น ฟองสบู่จะเกิดเมื่อไหร่ ใครที่ไหนจะทุบหุ้น จะมีออกมาตรการอะไรใหม่ๆอีกมั้ย คนไซปรัสจะได้ถอนเงินรึเปล่า
ที่จริง ถ้ายึดมั่นในแนวทางซะอย่าง และเลือกให้ค่าเฉพาะกับข้อมูลที่มีประโยชน์กับการวิเคราะห์กิจการ การลงทุนมันก็ไม่ได้สับสนวุ่นวายมากอย่างที่เป็นกันอยู่ทั่วทั้งตลาดเช่นทุกวันนี้
- luangrit
- Verified User
- โพสต์: 376
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การแยกความคิดออกจากความเป็นจ
โพสต์ที่ 4
ความคิดนี่แหละครับ
เป็นตัวเบี่ยงเบนเราออกจากความเป็นจริง
ไม่ว่าจะสุดโต่งไปทางด้าน + หรือ -
ก็มีผลเป็นได้ทั้งความประมาท และความทุกข์
ใครเข้าใจหลักธรรมชาติของจิต ที่คิด นึก ปรุงแต่ง
ก็จะได้ประโยชน์จากการลงทุนเต็มๆ
เป็นตัวเบี่ยงเบนเราออกจากความเป็นจริง
ไม่ว่าจะสุดโต่งไปทางด้าน + หรือ -
ก็มีผลเป็นได้ทั้งความประมาท และความทุกข์
ใครเข้าใจหลักธรรมชาติของจิต ที่คิด นึก ปรุงแต่ง
ก็จะได้ประโยชน์จากการลงทุนเต็มๆ
- raynus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การแยกความคิดออกจากความเป็นจ
โพสต์ที่ 6
ทำให้ผมนึกถึงห้อง 100 หุ้นหลายๆห้อง
หุ้น A
ื
มี ข้อดี B ข้อเสีย C
พอราคาหุ้นขึ้น จะมีแต่คนพูดถึงข้อดี B จนลืมข้อเสีย C
พอราคาหุ้นลงก็เป็นตรงข้าม
ข้อมูลดิบคงเดิม
หุ้นก็ตัวเดิม
แต่ อารมณ์ ทำให้เราตีความต่างกัน
เขาว่ากันว่า
"ศัตรูที่ สําศัญที่สุดในการลงทุนก็คือตัวเราเอง"
เห็นทีจะจริงนะครับ
หุ้น A
ื
มี ข้อดี B ข้อเสีย C
พอราคาหุ้นขึ้น จะมีแต่คนพูดถึงข้อดี B จนลืมข้อเสีย C
พอราคาหุ้นลงก็เป็นตรงข้าม
ข้อมูลดิบคงเดิม
หุ้นก็ตัวเดิม
แต่ อารมณ์ ทำให้เราตีความต่างกัน
เขาว่ากันว่า
"ศัตรูที่ สําศัญที่สุดในการลงทุนก็คือตัวเราเอง"
เห็นทีจะจริงนะครับ
สายปันผลครับ
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การแยกความคิดออกจากความเป็นจ
โพสต์ที่ 9
https://www.facebook.com/ThInvestForum/ ... 3430841557
เมื่อหลายวันก่อน ผมได้มาเปิด youtube ดูคลิปเก่าๆ ของ Money Channel เป็นตอนที่มีพี่พรชัย รัตนนนทชัยสุข หรือพี่ web แห่ง ThaiVi ไปออกรายการด้วย พี่เวปได้พูดถึงเรื่องนึงที่ผมชอบมากครับ
"หลักการการลงทุนที่ดีนั้น หลักๆ แล้วเราก็ทราบกันดี หนังสือหลายๆ เล่ม สุดท้ายแล้วเนื้อหาก็จะเริ่มซ้ำและวนไปวนมาแล้ว เปรียบเหมือนกับการที่เราอยากจะสุขภาพดี เราทุกคนก็รู้ว่าหลักการมันคืออะไร กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด
การลงทุนที่ดีก็เช่นกัน ลงทุนในบริษัทที่เติบโตได้ มีผู้บริหารที่ดี มีตราสินค้าที่แข็งแรง ราคา undervalue มีผู้บริหารที่เชื่อใจได้และมีความสามารถ
หลักการทั้งเรื่องของสุขภาพและการลงทุน เราก็รู้ๆ กันหมดแหละ แต่เราจะมีวินัยและความอดทนเพียงพอหรือเปล่าที่จะไปให้ถึงจุดหมาย"
ขอขอบคุณพี่เวป พรชัย อีกครั้งสำหรับแนวคิดดีๆ ในการลงทุนครับ
เมื่อหลายวันก่อน ผมได้มาเปิด youtube ดูคลิปเก่าๆ ของ Money Channel เป็นตอนที่มีพี่พรชัย รัตนนนทชัยสุข หรือพี่ web แห่ง ThaiVi ไปออกรายการด้วย พี่เวปได้พูดถึงเรื่องนึงที่ผมชอบมากครับ
"หลักการการลงทุนที่ดีนั้น หลักๆ แล้วเราก็ทราบกันดี หนังสือหลายๆ เล่ม สุดท้ายแล้วเนื้อหาก็จะเริ่มซ้ำและวนไปวนมาแล้ว เปรียบเหมือนกับการที่เราอยากจะสุขภาพดี เราทุกคนก็รู้ว่าหลักการมันคืออะไร กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด
การลงทุนที่ดีก็เช่นกัน ลงทุนในบริษัทที่เติบโตได้ มีผู้บริหารที่ดี มีตราสินค้าที่แข็งแรง ราคา undervalue มีผู้บริหารที่เชื่อใจได้และมีความสามารถ
หลักการทั้งเรื่องของสุขภาพและการลงทุน เราก็รู้ๆ กันหมดแหละ แต่เราจะมีวินัยและความอดทนเพียงพอหรือเปล่าที่จะไปให้ถึงจุดหมาย"
ขอขอบคุณพี่เวป พรชัย อีกครั้งสำหรับแนวคิดดีๆ ในการลงทุนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การแยกความคิดออกจากความเป็นจ
โพสต์ที่ 10
มากดไลค์ ครับ
-----------------------------------------
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ