ได้อ่าน the warrent buffet way มาเกี่ยวกับ วัฐจักรตลาดหมี กระทิง และช่วงปลายตลาดกระทิง เค้ากล่าวว่าช่วงปลายตลาดกระทิง นักวิเคราะห์ต่างๆ จะประเมินราคาหุ้นโดยใช้รายได้รวมในการประเมิน และตลาดกระทิงสามารถเกิดขึ้นได้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี และถ้ายังอยู่ในช่วงขาขึ้นแบบไม่สุดๆๆแล้วละก็ตลาดก็จะมีการปรับฐานเป็นครั้งคราวไปและในที่สุดก็จะสามารถขึ้นได้ต่อไป ผมมาวิเคราะห์วัฐจักรของตลาดตอนนี้แล้วคิดว่าตอนนี้ตลาดยังน่าเป้นการปรับฐานเพื่อไปต่อ ** เพราะใน นส. วอเรนท์ กล่าวว่า ช่วงตลาดใกล้เกิดฟองสบู่แตกจะมีเหตุการณ์หลายๆอย่างเกิดขึ้น เช่น นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าไดถูกกดดันให้ออกจากตลาดโดยไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ และ การใช้รายได้รวมในการประเมินมุลค่าหุ้น Pe pb สูง และ หุ้นได้ถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน โดยหุ้นกลุ่มหนึ่งที่ VI เคยซื้อ ราคาลดลง และอีกกลุ่ม นักลงทุนแบบโมเมนตั้ม ลงทุนอยู่ราคาจะสูงขึ้นมากๆ FED ปรับอัตราดอกเบี้ย สูงขึ้นเรื่อยๆๆ จนในที่สุด ฟองสบู่ก็จะแตก
*******สิ่งที่ผมสงสัยมากก็คือว่า การที่FED ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น โดยทั่วไปแสดงว่าแนวโน้มเศรษฐกิจมีการเจริญเติบโต ถึงได้มีการปรับ ราคาหุ้นจะตก แสดงว่าตอนนี้ FED ได้เห็นแล้วว่า trend อยู่ในช่วงขึ้น แล้ว เรื่องการขาดดุล บช. การค้าที่สูงเป็นประวัติศาสตร์ ตอนนี้ละครับ ผมรู้สึกถึงความขัดแย้งยังไงก็ไม่รู้
ทางหนึ้ง FED มองแนวโน้มว่าดี แต่อีกทาง เรื่องดุล บช.การค้าสูง ยังไงอ.นิเวศน์ ช่วยไขข้องใจเรื่องนี้หน่อยนะครับและท่านได้มองแนวโน้มตลาดเป็นอย่างไร หรือท่านได้เดินออกจากตลาดแล้วครับ
ขอบคุณอย่างสูงครับ
เรียน ดร.นิเวศน์ ครับ เกี่ยวกับภาวะตลาดตอนนี้
-
- ผู้ติดตาม: 0
ขอแก้ไขครับ
โพสต์ที่ 2
เปลี่ยนเป็นดุล บช. เดินสะพัดครับที่ขาดดุล ประมาณ 5% ของ GDP ซื่งเป็นสิ่งอันตรายมากครับ