วิจารณ์ นักวิเคราะห์

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

วิจารณ์ นักวิเคราะห์

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ก่อนอื่นผมขอ ออกตัวนะครับว่า ผมไม่มีเจตนาจะ ดูหมิ่น ดูแคลน นักวิเคระห์ท่านไหนนะครับ

ผมอยากตั้งกระทู้ ขึ้นมาเพื่อรวบรวมทั้งด้านดี และ ไม่ดี ของนักวิเคระห์ เพื่อให้สมาชิกได้ใช้วิจารณญาณ
ในการใช้บทวิเคราะห์ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหุ้นตัวนั้นๆ

อนึ่งเพื่อเป็นการส่งเสริมนักวิเคราะห์ที่มีคุณภาพ จัดทำรายงานขึ้นด้วยความรู้ ความสามารถ บนพื้นฐานความเป็นจริงของกิจการ ไม่ได้ทำบทวิเคราะห์ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือ ของการปั่นหุ้นทุบหุ้นครับ

ผมนักลงทุน ผมก็อยากให้มีแต่ นักวิเคราะห์คุณภาพในตลาดครับ
http://www.saa-thai.org/download/saa9oct2012.pdf
การวิเคราะห์การลงทุนเป็นสิ่งสาคัญก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและได้ผลตอบแทนเหมาะสมที่สุด บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งจึงมีฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน เพื่อให้บริการข้อมูลการวิเคราะห์แก่ลูกค้าผู้ลงทุน
หลายปีที่ผ่านมา ผลกระทบจากการเตรียมตัวรับการเปิดเสรีค่าบริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ที่กาหนดเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 มกราคม
2555 ทาให้จานวนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (ปัจจุบันเรียกว่านักวิเคราะห์การลงทุน) ของประเทศไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในฝ่ายงานวิจัยของ บล.มีจานวนลดลงจากระดับ 350 คน เหลือประมาณ 260 คน ในขณะที่จานวนบทวิจัยที่รวบรวมได้จากทุกบล.ก็ลดลงจากระดับ 250 หุ้น เหลือประมาณ 180 หุ้น หมายถึงว่ายังมีหุ้นอีกกว่า 400 บริษัท ที่ไม่มีใครทาวิเคราะห์วิจัยด้านปัจจัยพื้นฐานเลย
ล่าสุดนี้ สานักงาน ก.ล.ต. มีความเห็นออกมาแล้วว่า บล.ต่างๆ ควรที่จะทาบทวิจัยหุ้นให้แก่ลูกค้าผู้ลงทุนบ้างตามความพร้อมของกิจการเป็นขั้นบันไดตามส่วนแบ่งการตลาด ทาให้บล.หลายแห่งเริ่มหันกลับมาเตรียมขยายทีมวิเคราะห์การลงทุนอีกครั้ง ขณะที่ธุรกิจการเงินการลงทุนอื่นๆ ก็เริ่มตระหนักถึงความผันผวนของการลงทุนยุคปัจจุบันที่มีมากขึ้น จึงต้องการสร้างทีมนักวิเคราะห์การลงทุนเช่นกัน
นอกจากนั้น ทุกภาคส่วนมีความเห็นตรงกันว่า คุณภาพของบทวิจัยและนักวิเคราะห์เป็นเรื่องที่สาคัญที่ต้องร่วมกันผลักดันสนับสนุนอย่างเต็มที่ สมาคมนักวิเคราะห์ฯ จึงเข้ามาเพื่อช่วยตอบสนองความต้องการนี้ โดยจัดให้มีหลักสูตร “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์คุณภาพ (เชิงปฏิบ้ติการ)” ขึ้นในอัตราที่สมเหตุสมผล เพื่อเป็นตัวกลางในการสร้างนักวิเคราะห์ให้กับบุคลากรของธุรกิจการเงินการลงทุน โดยเนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมการวิเคราะห์เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมสาคัญ หลักทรัพย์ และงบการเงิน วิธีการเข้าพบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน การนาเสนอผลการวิเคราะห์อย่างมืออาชีพ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

Re: วิจารณ์ นักวิเคราะห์

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมไม่รู้จักเธอนะครับ แค่อ่านๆไปเจอ แนวคิดเธอน่าสนใจ เลยเอามาแปะให้อ่านกันครับ
______________________________

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ผู้ทรงอิทธิพลในตลาดทุน


๐ “วิริยา ลาภพรหมรัตน” นักวิเคราะห์หญิงสวย-เก่ง แห่งแวดวงตลาดหุ้น แฟนคลับล้นหลาม

๐ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ อาชีพที่เหมาะกับคนใฝ่รู้ตลอดเวลา หยุดไม่ได้แทบขาดใจ หยุดเมื่อไรตกขบวนเมื่อนั้น

๐ เบื้องหลังความสำเร็จที่วัดจากกำไรมูลค่ามหาศาลของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

๐ มองทะลุถึงอนาคต ดัก “แมงเม่า” ไม่ให้เข้ากองไฟเพราะ “ความโลภ”

ตลาดหุ้นถือเป็นแหล่งรวมธุรกิจขนาดใหญ่มูลค่านับหลายล้าน-ล้านบาท มีคนที่กอบโกยเงินเป็นเศรษฐีมากมายจากที่แห่งนี้ในขณะที่บางคนกลายเป็นแมงเม่าสูญเงินไม่น้อยเพียงเพราะตัดสินใจลงทุนจากข้อมูลที่ไม่เพียงพอหรือจากข้อมูลที่ผิดๆ

แต่ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “นักวิเคราะห์” ถือเป็นผู้หนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ-ขายหุ้น ของนักลงทุนไม่มากก็น้อย ฉบับนี้ “Smart Job” จะนำผู้อ่านไปรู้จักกับอาชีพนี้อย่างงลึกซึ้ง ผ่านมุมมองของนักวิเคราะห์หญิงที่ทั้งสวยทั้งเก่ง คนนี้

“วิริยา ลาภพรหมรัตน” ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ผู้ชี้นำการตัดสินใจในการลงทุนแก่นักลงทุนให้มั่งคั่งมากว่า 15 ปี ถือเป็นนักวิเคราะห์หุ้นทางปัจจัยพื้นฐานรุ่นแรกๆ ในตลาดหุ้น เพราะในอดีตเดิมทีส่วนใหญ่จะมีแต่นักวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งพิจารณากราฟและมูลค่าการซื้อขายเป็นหลัก

เมื่อ “เสน่ห์” ของอาชีพ
คือการก้าวให้ทันเศรษฐกิจ

แม้จะไม่ได้เริ่มต้นจากอาชีพนี้โดยตรง แต่สุดท้ายเมื่อเธอเลือกเดินเข้าสู่เส้นทางอาชีพนี้ ก็รู้สึกว่าสายงานนี้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด และอาจจะเป็นเพราะเสน่ห์ที่แฝงมากับลักษณะงาน ที่นักวิเคราะห์หลายคนคงสัมผัสได้ จึงลงเอยกับอาชีพนี้มาแล้วกว่า 15 ปี

“อาชีพนี้ยิ่งทำงานไปยิ่งมีเสน่ห์ เพราะความรู้จะเพิ่มพูนขึ้น กว้างขึ้น เนื่องจากเราจะได้เห็นการเติบโตของบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียน หรือว่าทำไมบริษัทนี้จึงถดถอย ความสุขอีกอย่างหนึ่งคือการให้ข้อมูลที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนได้อย่างถูกต้อง” วิริยา กล่าว

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ทางเศรษฐกิจทั้งมหภาคและจุลภาค ผู้ที่ทำงานในแวดวงนี้จึงต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของวงการตลาดเงิน-ตลาดทุน คอยตรวจสอบปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั้งทางบวกและลบ ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้จึงต้องพัฒนาความรู้ให้ทันเหตุการณ์ตลอดเวลา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม

บทบาทของนักวิเคราะห์คือ การทำให้การซื้อขายหุ้นหรือการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเป็นไปตามหลักการและปัจจัยพื้นฐาน แม้ว่าบางครั้งสภาพตลาดหุ้นก็มีความผันผวนบ้างอันเนื่องมาจากผลของจิตวิทยา ก่อให้เกิดการบิดเบือนมูลค่าที่แท้จริงของราคาหุ้นบ้าง แต่นักวิเคราะห์มีความเชื่ออยู่เสมอว่า สุดท้ายแล้วราคาหุ้นก็จะวิ่งกลับเข้าหามูลค่าที่แท้จริงอยู่เสมอ

เพราะฉะนั้น หากไม่มีนักวิเคราะห์อาจก่อให้เกิดผู้ที่เสนอตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องหุ้นขึ้นอย่างหลากหลายซึ่งไม่รู้ว่าน่าเชื่อถือเพียงใด นักลงทุนจึงมักใช้ข่าวลือเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจซื้อขายหุ้น หรือแม้กระทั่งป้องกันการแห่ร่วมวงไล่ปั่นหุ้นของแมงเม่าทั้งหลาย

เพราะเป็นเรื่องปกติที่นักเล่นหุ้นหลายคนมักเคยได้ยินว่า “เขาว่า....มันจะขึ้น” หรือ “เขาว่ากันว่า.....มันจะลง” ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่า “เขา” คนนั้นเป็นใคร แต่นักวิเคราะห์จะพิจารณาข้อมูลจากความเป็นไปได้ทางสถิติ โดยวิเคราะห์ว่าปัจจัยที่เข้ามากระทบกับการลงทุนจะกระทบในระยะสั้นหรือระยะยาว รุนแรงมากแค่ไหน

“ใจรัก” กุญแจสำคัญ
ฝ่าฟันเส้นทางอาชีพ

ความยากของอาชีพนี้จะอยู่ที่ช่วงแรกในการทำงาน เพราะไม่รู้ว่าจะเอาข้อมูลมาจากไหน แม้กระทั่งเมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว การที่จะวิเคราะห์หุ้นตัวหนึ่ง ต้องมีการประมาณการตัวเลขต่างๆ คำนวณหา ratio แต่พอมาถึงขั้นตอนของการประเมินมูลค่าหุ้น(valuation) ว่าควรมีมูลค่ากี่บาท นักวิเคราะห์ต้องเลือกว่าจะใช้วิธีอะไรในการหามูลค่า และตัวเลขทุกจุดที่ใช้ในการคำนวณเพื่อหามูลค่าหุ้นต้องสามารถอธิบายได้ว่ามาจากไหน เมื่อทำงานได้สักระยะหนึ่ง ผู้ที่อยู่ในอาชีพนี้จะทำงานได้สมาร์ตขึ้น บริหารเวลาได้ดีขึ้น ช่วงหลังจึงไม่เหนื่อยมากเหมือนกับช่วงแรก

ในบางครั้งผลการวิเคราะห์ที่นำเสนอต่อสาธารณะชน ว่าหุ้นตัวนี้จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จะขึ้นนะ จะลงนะ แต่ราคาที่สะท้อนในตลาดหลังจากที่ออกบทวิเคราะห์ไปแล้ว 1-2 วันกลับไม่เป็นอย่างนั้น ก็จะมีฟีดแบ็กกลับมาว่าทำไมถึงวิเคราะห์ออกมาแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วราคาหุ้นก็จะมีทิศทางราคาเป็นไปตามที่บทวิเคราะห์เคยนำเสนอไปอยู่เสมอ

“ถ้าถามว่ารู้สึกแย่หรือล้มเหลวไหม ก็ไม่นะ เพราะเป็นการมองไปในอนาคต เราก็จะมองไปข้างหน้าเสมอ ข้างหน้าที่มองก็จะอิงกับสถานการณ์ต่างๆ รอบๆ อยู่เสมอ”

นักวิเคราะห์ที่ดีนั้นต้องเริ่มจากการที่มี “ใจรัก” ในการทำงานเป็นอย่างแรก เพราะหากมีใจแล้วการทำงานก็จะง่ายขึ้น มีกำลังใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคในการทำงานได้ อย่างที่สอง ต้องมีความ รับผิดชอบต่อข้อมูลที่ได้รับมาและข้อมูลที่นำเสนอออกไป หากฐานข้อมูลเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญที่อาจกระทบกับการลงทุน นักวิเคราะห์ต้องรับผิดชอบด้วยการออกบทวิเคราะห์มาแก้ไขคำแนะนำ เช่น จากซื้อเป็นขายหรือถือ ไม่ควรปล่อยเลยตามเลย มิเช่นนั้นความน่าเชื่อถือจะลดลงไปในทันที

อย่างที่สาม ต้องมีจรรยาบรรณ โปร่งใสในการให้ข้อมูล เช่น หากได้รับข้อมูลมาว่า บริษัท ก เริ่มมีการใช้เงินในทางผิดปรกติ แม้นักวิเคราะห์คนนั้นจะสนิทกับบริษัท ก มากแค่ไหน ก็ต้องนำข้อมูลที่ได้มา เขียนเป็นบทวิเคราะห์ เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ เพราะเป็นข้อมูลที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน และมีผลโดยตรงต่อราคาหุ้น

อย่างที่สี่ ต้องมีความเป็นกลางในการให้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจ อย่าให้คำแนะนำที่สุดโต่งเกินไป เพราะขึ้นชื่อว่าตลาดหุ้นแล้วย่อมไม่ได้มีขาเดียว มีขึ้นก็มีลง ในภาวะตลาดกระทิง หุ้นพุ่งขึ้นแรงก็อย่าเชียร์จนเกินไป อาจต้องแนะนำว่าเริ่มมีความเสี่ยง ระวังจะมีการเทขายทำกำไร เป็นต้น

ครอบครัว VS งาน
ภารกิจที่ต้องบริหารให้ลงตัว

หากฝ่าฟันมาถึง ณ จุดหนึ่ง ส่วนใหญ่จะรู้สึกสนุกกับงานที่ทำ เธอย้ำว่า นักวิเคราะห์ที่ยังคงทำงานอยู่ในทุกวันนี้เพราะรู้สึกสนุกกับงานที่ทำ เพราะหากไม่รู้สึกสนุกก็จะทำงานแบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นงานที่หนัก ใช้สมองและความคิดมาก วิเคราะห์ถูกก็ไม่มีคนว่า ไม่มีคนชม แต่เมื่อใดก็ตามที่วิเคราะห์ผิดก็อาจถูกต่อว่าทันที

จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เช้ายันค่ำเรียกได้ว่าหายใจเข้าออกต้องเป็นเรื่องหุ้น ในระหว่างวันอาจต้องโฟนอินพูดคุยกับหลายๆรายการทั้งวิทยุและโทรทัศน์ เช่น วิทยุจุฬา FM 101 FM 98 เครือเนชั่นทั้งทีวีและวิทยุ รายการ Money Cannel เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นวิทยากรบรรยายในการสัมมนาต่างๆ ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงสวย-เก่ง ทำงานหนักขนาดนี้ หลายคนคงสงสัยว่าเธอบริหารเวลาอย่างไรระหว่างครอบครัวกับงาน

“พอจบจากงานแล้วถ้าไม่มีอะไรเร่งด่วน เวลาตรงนั้นก็จะให้กับครอบครัวเต็มที่ เพราะว่ามันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น”

บางครั้งทำงานยุ่งมากก็อาจรู้สึกว่าห่างเหินลูกบ้าง แต่ลูกก็ยังไม่บ่นอะไร เสาร์-อาทิตย์ จึงเป็นช่วงเวลาที่ชดเชยได้ดีที่สุด หากไม่ได้เป็นวิทยากรที่ไหนก็จะพาลูกๆ ไปเที่ยวเพื่อชดเชยกับเวลาที่ทุ่มให้กับงานที่อาจจะกินเวลาที่ต้องให้กับครอบครัวในวันจันทร์-ศุกร์ ทั้งนี้ผู้ที่จะเป็นนักวิเคราะห์ได้ ครอบครัวต้องสนับสนุน ต้องมีคนหนึ่งเป็นหลักดูแลที่บ้านได้ในระดับหนึ่ง เพื่อสนับสนุนให้

รวมถึงบริษัทต้องมีระบบที่เอื้อให้ง่ายต่อการทำงาน ทุกวันนี้เธอจะออกจากที่ทำงานประมาณ 1 ทุ่ม ในระหว่างการขับรถก็ใช้วิธีโทรศัพท์คุยกับน้องๆ นักวิเคราะห์ในแผนกแทน เรียกได้ว่าใช้เวลาทำงานได้คุ้มค่าจริงๆ

ส่วนเส้นทางเติบโตในสายอาชีพต่อจากการเป็นนักวิเคราะห์ก็เรียกว่ากว้างมาก เช่น เซลล์สถาบัน (Institutional Sales) ผู้จัดการกองทุนรวม , วาณิชธนากร , นักลงทุนสัมพันธ์ , นักบริหารความเสี่ยง , ที่ปรึกษาทางการเงิน , ผู้ช่วยผู้บริหารทางการเงิน , นักวิเคราะห์โครงการ ฯลฯ หรือใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินกิจการของตนเองได้

ถ้าพูดถึงเงินเดือนก็เรียกได้ว่าอยู่ในระดับสูงพอสมควร แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความแม่นยำของผลการวิเคราะห์ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เติบโตเร็วมากถ้าคนๆ นั้น“เจ๋ง” พอ

*******************

4 หลักคิดมือโปร

1.อนาคตของการลงทุนจะไม่ถูกจำกัดเพียงแค่ตลาดหุ้น แต่จะมีความเชื่อมโยงกันทุกตลาดที่เกี่ยวข้องกัน

2.เมื่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเปลี่ยน ต้องเปลี่ยนคำแนะนำให้ทันตามที่ปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนไป

3.ทำงานด้วยใจจะใช้พลังงานน้อยกว่าทำงานด้วยสมอง

4.เรือที่จอดที่ท่าจะปลอดภัยที่สุด “แต่เรือไม่ได้สร้างมาให้จอดที่ท่า” นักวิเคราะห์จึงต้องพูดอย่างฟันธงให้ชัดเจน

เรื่อง : เอกพล ไชยเสนา ผู้จัดการ 360 รายสัปดาห์
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

Re: วิจารณ์ นักวิเคราะห์

โพสต์ที่ 3

โพสต์

จบโทบัญชี ไม่มีใครรับ :D

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 71229.html
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

Re: วิจารณ์ นักวิเคราะห์

โพสต์ที่ 4

โพสต์

สุดยอด นักวิเคราะห์หุ้นไทย
Thai Best Analysts : Life & Work


รูปภาพ
เข้าใจถึงหลักการเขียนบทวิเคราะห์

หนังสือเล่มนี้ ไม่ได้เขียนถึงหลักการเล่นหุ้นแต่อย่างใด จึงขอไม่ให้คะแนนรวม ถึงแม้จะให้คะแนนในบางหมวดบ้าง ตามปกติ ผู้ที่จะได้รับประโยชน์ในการอ่าน น่าจะเป็นท่านที่ต้องการจะประกอบอาชีพ หรือ กำลังมองทางเลือกในอาชีพนี้อยู่ ท่านจะได้เห็นถึงจุดยืน ความคาดหวัง มุมมอง รสชาติของการทำงาน และ ความสำเร็จ ของนักวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงในแวดวงนี้

หรือหากท่านเป็นแฟนคลับของ นักวิเคราะห์ในที่นี้ก็คงจะไม่ผิดหวังเป็นแน่ เพราะพวกเขาเหล่านั้นทำงานและอุทิตให้กับงานอย่างน่าชื่นชม

70% ของนักวิเคราะห์ในเล่มนี้มักจะพูดถึงความหนักใจถึงบทวิเคราะห์ที่ต้องถูกใจนักลงทุน โดยที่จะต่างกันไปตามประเภทของกลุ่มผู้อ่าน จากประเภทกองทุนจนถึงประเภทรายย่อย ประการที่สอง ก็คือการที่จะทำให้นักลงทุนที่อ่านได้ประโยชน์และไม่ผิดหวังเพราะเชื่อในคำแนะนำ อาทิ

"ถ้าวิเคราะห์ถูก ลูกค้าก็ชม แต่ถ้าวิเคราะห์ผิด ลูกค้าก็ด่า"
"นักวิเคราะห์อาจเป็นฮีโร่ในอาทิตย์นี้ และเป็นไอ้งั่งในอีกอาทิตย์ถัดมาก็ได้"


ในฐานะนักลงทุนรายย่อยคนหนึ่ง และได้คลุกคลีกับนักลงทุนรายย่อยพอสมควร ผมขอให้ความเห็น ว่านักลงทุน และ นักวิเคราะห์จากโบรก น่าจะมีจุดยืนที่ต่างกัน (ในเชิงจิตใจ) นั่นคือ จุดประสงค์หลักของนักลงทุนต้องการผลลัพธ์ เป็นตัวเงิน ในขณะที่ นักวิเคราะห์ต้องการ ความพอใจของนักลงทุนเป็นหลัก

การวิเคราะห์หุ้นนั้นมีหลายวิธี หากแต่ผลลัพธ์ ช้าเร็วแตกต่างกันไป การคิดก็แตกต่างกันไป แล้วการบริหารการซื้อขายก็ต้องแตกต่างกันไปด้วย

อาทิเช่น ถ้าเราพูดถึง บริษัทอย่าง Toyota ในปัจจุบันซึ่ง ถูกกระหน่ำอย่างหนักจากข่าวร้ายในช่วงที่ผ่านมา ยอดขายตกลงอย่างต่อเนื่อง PE ก็ติดลบ ถึงสองหลัก ถ้าเป็นท่านจะเขียนซื้อหรือขาย ? เพราะทุกอย่างมองได้ มากกว่า สองมุมเสมอ เพราะถ้ามอง Fundamental อาจจะไม่ดี มอง Brand หรือ Management อาจจะดีว่าจะผ่านร้อนไปได้ หรือมอง เทคนิคคัล ยังต้องรอจังหวะไปก่อน ... ตรงนี้ จะเกิด Dilemma เพราะ ขึ้นอยู่กับนักวิเคราะห์เองว่าเล่น style ไหนได้บ้าง หรือ ว่ายืนตามเฉพาะแบบฉบับของตนเองอย่างเดียว ในขณะที่ นักลงทุน จะทำตามแบบฉบับของตนเองเป็นหลัก

หรือ ตัวอย่างง่ายๆ ในเล่มอย่างการแนะนำ หุ้นที่มี Volume ต่ำแต่ Fundamental ดี ทำให้ลูกค้าติดหุ้น มาต่อว่า ก็เป็นเรื่องของมุมมองที่ต่างกันนั่นเอง

ในเล่มนี้บางท่านให้ข้อคิดที่ดีทีเดียว อย่าง
คุณ ธวัชชัย อัศวพรไชย ก็ให้หลักการเขียนบทความที่ อิง Sentiment ด้วย อิง Fundamental ด้วย
คุณ เพดิมภพ สงเคราะห์ ก็ให้ข้อคิดในการจัดพอร์ตยามเกษียณอายุ
คุณ วชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย กับการเผชิญหน้ากับลูกค้าที่มี อิทธิพล

ที่มา:http://investor.co.th/tabid/913/Default.aspx
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: วิจารณ์ นักวิเคราะห์

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เสนอให้บรรดาอาจารย์ในไทยวีไอ
Ratingนักวิเคราะห์ ตามแบบวีไอครับ
เอาสักสองสามคนต่อปีก็พอ
เริ่มปีใหม่ก็เลือกมาใหม่

ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว
ก็ไว่ในหน้าเฉพาะสมาชิกเท่านั้น

เพราะที่เห็นมา มักเน้น"ความดัง"
มากกว่า"คุณภาพ"
คือ"กระแส"
มากกว่า"ความคงที่ ยั่งยืน"
samatah
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: วิจารณ์ นักวิเคราะห์

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ลองอ่านบทวิเคราะห์ที่ผมเอาลิงค์มาแปะไว้ ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ต้องการเชียร์หุ้นตัวนี้นะครับ แต่ว่าตั้งแต่ผมอ่านบทวิเคราะห์มาแทบไม่ค่อยเห็นบทวิเคราะห์ในลักษณะแบบนี้ ซึ่งต้องถือว่าในแง่ข้อมูลเค้าทำได้ดีมาก ไม่ต่างจากการมองในแบบวีไอ นักวิเคราะห์อาจจะไม่ดัง แต่ผมว่าบทความของเค้าทำได้มีคุณภาพครับ ถ้าเป็นบทวิเคราะห์แบบนี้ผมมองว่าคนอ่าน "ได้ประโยชน์" ครับ ปกติถ้าผมอ่านบทวิเคราะห์ผมไม่ค่อยสนใจราคาเป้าหมาย แต่ผมเข้าใจว่าคนจะชอบดูราคาเป้าหมายในบทวิเคราะห์ ถ้าตัวไหนยังมี upside อยู่มากก็อยากจะซื้อ แต่ที่ผมต้องการจริง ๆ คือ ข้อมูลในแง่ข้อเท็จจริงครับ เพราะการที่เค้าจะเขียนบทวิเคราะห์ออกมาส่วนหนึ่งก็ต้องมีการเข้าไป visit บ. พูดคุยกับผบห.ครับ

http://portal.settrade.com/brokerpage/I ... 2112_t.pdf
"Become a risk taker, not a risk maker"
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: วิจารณ์ นักวิเคราะห์

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณทั้งสองท่านครับ

ได้บทวิเคราะห์แบบนี้บ่อยๆน่าจะดี
อ่านแล้วฉลาดขึ้น
ขอตัวอย่างดีๆแบบนี้อีกนะครับ
samatah
investor9000
Verified User
โพสต์: 272
ผู้ติดตาม: 0

Re: วิจารณ์ นักวิเคราะห์

โพสต์ที่ 8

โพสต์

CPALL งบออกมา ผู้บริหารบอกกิจการโตกว่าเป้าที่วางไว้ เพราะค่าแรงขั้นต่ำได้ปรับขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีรายได้มากขึ้น
แม้ว่ากิจการจะมีค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น แต่ก็ได้ชดเชยจากภาษีที่ลดลง 7%

ขณะที่งบเดียวกัน มี นักวิเคราะห์เครือธนาคาร สีเขียว ๆ บอกว่า รายได้ กำไร น้อยกว่าคาด เพราะค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น

มึนมาก
โพสต์โพสต์