นี้เป็นหนึ่งในความเสี่ยงของบริษัทที่ขยายไปต่างประเทศใช่ไหม

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
PrasertsakK
Verified User
โพสต์: 286
ผู้ติดตาม: 0

นี้เป็นหนึ่งในความเสี่ยงของบริษัทที่ขยายไปต่างประเทศใช่ไหม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เซ็นทรัลชะลอลงทุนจีนมังกรหักเขี้ยวบล็อกซัพพลายเออร์/หวั่นซ้ำรอยอิเหนา

"เซ็นทรัล" ชะลอแผนลงทุนในจีน หลังโดนทุนโลคัลสั่งบล็อกสินค้าห้ามซัพพลายเออร์ร่วมธุรกิจ เผย 3 ปี มีร้านค้าเปิดบริการเพียง 70% หวั่น"อินโดนีเซีย"ซ้ำรอยเร่งปรับยุทธศาสตร์เปิดเจรจาแบรนด์ดังต่างประเทศ ร่วมซัพพอร์ต คาดค้าปลีกอิเหนาแข่งดุหลังยักษ์แดนปลาดิบนำร่องลงทุน
นางยุวดี จิราธิวัฒน์ พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัล ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เปิดเผยในงานเสวนา "สูตรลับทายาทธุรกิจปูทางสู่เออีซี" ว่า การลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะการเปิดห้างสรรพสินค้าในประเทศจีนนั้นถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ และการทำตลาดเป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่งสาขาแรกที่เปิดนั้นตั้งอยู่ในศูนย์การค้ามิกซ์ซี เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง มีร้านค้าเปิดให้บริการภายในห้างเพียง 70% เท่านั้น หลังจากร้านค้าต่างๆที่เป็นคู่ค้ากับห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ถูกบังคับไม่ให้นำสินค้ามาจำหน่ายในห้างเซ็นทรัล แต่บริษัทก็ยังคงจะสู้กับตลาดดังกล่าวต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าจะต้องมีการเบรกแผนการลงทุนในประเทศจีน จากเดิมที่ตั้งเป้าขยายสาขาในประเทศจีนให้ครบ 40 แห่ง ภายใน 10 ปี
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทต้องเจรจากับพันธมิตรที่เป็นแบรนด์สินค้าชื่อดังที่เข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย เพื่อรองรับการเปิดศูนย์การค้าในอินโดนีเซียด้วย ป้องกันการบล็อกสินค้าที่จะมาเปิดภายในศูนย์เช่นเดียวกับประเทศจีน เพราะเมื่อเปิดเออีซีธุรกิจค้าปลีกในอินโดนีเซียถือว่ามีโอกาสทางการตลาดสูงมากจากขนาดประชากรกว่า 240-250 ล้านคน และผู้ประกอบการค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นก็เข้าไปบุกตลาดแล้ว อาทิ ห้างโซโก้ (Sogo) ซึ่งมีอำนาจการต่อรองกับร้านค้าและซัพพลายเออร์สูง
"ในการเข้าไปเปิดห้างค้าปลีกในประเทศจีน บริษัทไม่คิดว่าจะเจอสถานการณ์การบล็อกสินค้าจากห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ ทำให้การเปิดห้างในประเทศจีน 3 ปีที่ผ่านมา มีร้านค้าอยู่ราว 70% เท่านั้น แต่บริษัทก็อดทนและสู้ไม่ถอย ที่สำคัญสถานการณ์ดังกล่าวยังเป็นบทเรียนให้บริษัทจะต้องพิจารณาการลงทุน โดยทยอยเปิดสาขาในต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็มีความเป็นห่วงการเข้าไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซียด้วย เพราะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง และบริษัทถือว่าเข้าไปขยายธุรกิจช้า เนื่องจากมีห้างค้าปลีกหลายแบรนด์ที่เข้าไปแล้ว จึงต้องมีการพูดคุยกับแบรนด์สินค้าต่างๆที่เป็นพันธมิตรในไทยนับ 100 แบรนด์ อาทิ Top Shop, G2000 เพื่อให้ช่วยสนับสนุนหรือซับพอร์ตเซ็นทรัลในอินโดนีเซียด้วย" นางยุวดี กล่าวและว่า
การขยายธุรกิจไปต่างประเทศเอกชนต้องการให้รัฐบาลจัดตั้งหน่วยงานเหมือนกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เพื่อข่วยขับเคลื่อนธุรกิจไทยและให้ข้อมูลต่างๆ เพราะที่ผ่านมาภาคเอกชนเหนื่อยมากในการบุกตลาดต่างประเทศ เพราะต้องศึกษากฎเกณฑ์และระเบียบการลงทุนเองทั้งหมด และยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนต่างๆในแต่ละประเทศด้วย ทั้งที่การเปิดเออีซีไทยถือว่าได้เปรียบทางด้านการแข่งขันอย่างมากโดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาช็อปปิ้งในไทยเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ธุรกิจค้าปลีกของไทยนั้นถือว่ามีความแข็งแกร่งรองรับการแข่งขันเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ได้ โดยเฉพาะเครือเซ็นทรัลถือเป็นห้างค้าปลีกที่ติดอันดับโลก และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีกอยู่ในตลาดประเทศไทยมาถึง 65 ปีแล้ว จนปัจจุบันเครือเซ็นทรัลมีห้างสรรพสินค้าให้บริการ 14 สาขา และที่ผ่านมาบริษัทก็เผชิญการแข่งขันจากคู่แข่งต่างประเทศทั้งอิเซตัน, โตคิว เป็นต้น
ทั้งนี้การขยายสาขาของเซ็นทรัลถือว่าค่อนข้างน้อย โดยในปีหน้าจะมีการเปิดสาขาเพิ่มที่จังหวัดเชียงใหม่และหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ขณะที่บริษัทในเครืออย่างโรบินสันถือว่ามีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเครือยังมีการขยายธุรกิจค้าปลีกไปยังต่างประเทศด้วย อาทิ การซื้อกิจการห้างลารีนาเซนเต (La Rinascente)ในประเทศอิตาลี และการลงทุนห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในศูนย์การค้าแกรนด์ อินโดนีเซีย ช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ด้วย
ก่อนหน้านี้นางยุวดี กล่าวถึงการที่กลุ่มเซ็นทรัลต้องเร่งขยายการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีข้อจำกัดเรื่องของพื้นที่ ทำให้เซ็นทรัล ต้องเร่งขยายสาขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะมีสาขาใหม่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศอีก 3 สาขา ภายใน 5 ปีนับจากนี้ เพื่อตอบรับนโยบายของเซ็นทรัล ที่ต้องการแข็งแกร่ง และเป็นผู้นำค้าปลีกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านยอดขาย โดยประเทศที่เซ็นทรัลแสดงความสนใจเข้าไปลงทุน คือ ประเทศพม่า แต่ทั้งนี้ต้องมีความชัดเจนในข้อกฎหมาย ซึ่งต้องการให้รัฐบาลสร้างโอกาสให้นักธุรกิจเข้าไปลงทุน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในการเข้าไปลงทุน
สำหรับแผนการลงทุนของเซ็นทรัลในปีนี้ จะใช้เงินลงทุนราว 2.87หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้รวม 1.6 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 39% แบ่งเป็นรายได้จากการดำเนินธุรกิจในประเทศ 86% และ รายได้จากสาขาต่างประเทศ 14%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,772 6-8 กันยายน พ.ศ. 2555

http://www.thannews.th.com/index.php?op ... Itemid=456
http://prasertsakk.blogspot.com/
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
wigraipat
Verified User
โพสต์: 210
ผู้ติดตาม: 0

Re: นี้เป็นหนึ่งในความเสี่ยงของบริษัทที่ขยายไปต่างประเทศใช่ไ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมก็คิดอยู่เหมือนกันคับว่าเซนทรัลจะไปติดหล่มเหมือนโลตัสในจีนของ7-11หรือเปล่า
เพราะเมืองจีนนี้ผมถือว่าปราบเซียนเลยคับ
สังเกตุจากคนรวยในเมืองไทยเช่น เจ้าสัวเจริญ เจ้าสัวธนินท์ และอีกมากมาย
ผมว่าในเมืองจีนคงมีแบบนี้อีกเพียบคับ 5555+ คิดเองน่ะคับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
PrasertsakK
Verified User
โพสต์: 286
ผู้ติดตาม: 0

Re: นี้เป็นหนึ่งในความเสี่ยงของบริษัทที่ขยายไปต่างประเทศใช่ไ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ที่เอาบทความนี้ขึ้นมาเนื่องจากช่วงนี้มีการพูดถูก AEC กันมาก และดูเหมือนจะมีหลาย ๆ บริษัทจะได้ประโยชน์อย่างมากในการขยายตัวไปต่างประเทศ และประโยชน์นี้ทำให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้นมาก เลยอยากให้เพื่อน ๆ นักลงทุนระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะขนาดบริษัทที่เก่งมาก ๆ อย่างเซ้นทรัลยังเจอปัญหาที่มองไม่เห็นเมื่อไปสู้รบต่างแดนครับ

ขอให้ทุกคนลงทุนอย่างมีสติครับ
http://prasertsakk.blogspot.com/
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
โพสต์โพสต์