ควรหลีกเลี่ยง จำนวน 13 บริษัท ที่ว่ามานี่หรือเปล่า
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
ควรหลีกเลี่ยง จำนวน 13 บริษัท ที่ว่ามานี่หรือเปล่า
โพสต์ที่ 1
การเงิน - การลงทุน
วันที่ 7 สิงหาคม 2555
ปูด80บจ.กระทำเข้าข่ายไม่เป็นธรรมผู้ถือหุ้น
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยพบ 80 บจ.กระทำเข้าข่ายไม่เป็นธรรมผู้ถือหุ้น
เปิดแผนเชิงรุกเข้าพบกรรมการตรวจสอบ เฝ้าติดตามบริษัทขัดแย้งทางผลประโยชน์
นายมงคล ลีลาธรรม นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า จากการประเมินผลคะแนนการประชุมใหญ่
สามัญประจำปี 2555 ที่สมาคมได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมกับบริษัทจดทะเบียน 176 บริษัท
พบว่ามีบริษัทที่ต้องเฝ้าติดตาม 80 บริษัท ซึ่งเข้าข่ายการกระทำอันไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้น
เช่น การทำรายการระหว่างกัน เช่น การซื้อที่ดิน รายการกู้เงิน และการอนุมัติเพิ่มค่าตอบแทน
ให้คณะกรรมการ (รวมถึงตัวเอง) ที่ใกล้จะหมดวาระหรือที่จะลาออก ซึ่งกรณีเหล่านี้จะเกิดกับ
บริษัทที่ทำแบบนี้แล้วก็ทำอีก และส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานตกต่ำต่อเนื่องด้วย
ขณะที่ในปีนี้มีผู้ถือหุ้นมาร้องเรียนบริษัทจดทะเบียนเพิ่มเข้ามา 2-3 เรื่อง คือ
เรื่องที่เข้าข่ายผลการดำเนินงานที่ไม่ดีต่อเนื่อง,ผลตอบแทนที่ไม่เสมอภาค และความไม่ถูกต้องความไม่เป็นธรรม
"ในปีนี้สมาคมฯจึงมีนโยบายเชิงรุกโดยจะจัดตั้งโครงการเข้าพบกรรมการตรวจสอบบริษัทจดทะเบียน
หรือ watch list เพื่อเข้าพบกรรมการอิสระ ซึ่งไม่ใช่ตัวแทนของผู้ถือหุ้นหลัก
โดยตั้งเป้าปีนี้จะเข้าพบ 20 บริษัท จากทั้งหมด 80 บริษัทที่สมาคมฯ เฝ้าติดตาม
เน้นบริษัทขัดแย้งทางผลประโยชน์ และมีผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง"
ทั้งนี้ การประเมินผลคะแนนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 55 ทางสมาคมขอประกาศผลตามกลุ่มคะแนน 6 กลุ่ม ดังนี้
1.กลุ่มคะแนนดีเลิศเต็ม 100 คะแนน จำนวน 205 บริษัท
2.กลุ่มคะแนนดีเยี่ยม 90-99 คะแนน จำนวน 205 บริษัท
3.กลุ่มคะแนน ดีมาก 80-89 คะแนน จำนวน 88 บริษัท
4.กลุ่มคะแนน ดี 70-79 คะแนน มีจำนวน 43 บริษัท
5.กลุ่มคะแนน พอใช้ ระหว่าง 60-69 คะแนน มี 27 บริษัท
6. กลุ่มคะแนน ต้องปรับปรุง มีคะแนนน้อยกว่า 59 คะแนน จำนวน 13 บริษัท
ในจำนวน 13 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเอกสารเชิญประชุมไม่ครบถ้วน และการเปิดเผยข้อมูลไม่ครบถ้วน
เช่น เสนอวาระเร่งด่วนในการเพิ่มคณะกรรมการโดยไม่ได้แจ้งไว้ในรายงานกาประชุมผู้ถือหุ้นให้ทราบก่อน
ข้อมูลกรรมการ ประวัติ การศึกษาไม่ระบุ ซึ่งในกรณีต้องปรับปรุงนี้ เป็นหน้าที่ของผู้ถือหุ้นที่จะต้องเข้าไป
คัดค้านหรือซักถามบริษัทเอง ส่วนสมาคมฯมีหน้าที่ได้แค่เตือน ชี้แจง และพิทักษ์สิทธิ์ผู้ถือหุ้น
ซึ่งไม่มีอำนาจในการลงโทษหรือตรวจสอบใดๆ
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทต้องปรับปรุงการประชุมผู้ถือหุ้นมีจำนวน 13 แห่ง ได้แก่
บมจ.สาลี่ คัลเลอร์ (COLOR),
บมจ.ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล(CPR)
,บมจ.ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์(DTCI)
,บมจ.ฟูรูกาวา เม็ททัล (ไทยแลนด์) (FMT)
,บมจ.คาร์มาร์ท (KAMART)
,บมจ.ไมด้า แอสเซ็ท (MIDA)
,บมจ.ไมด้า ลิสซิ่ง (ML)
,บมจ.นิวพลัสนิตติ้ง (NPK)
,บมจ.พี พลัส พี (PLUS)
,บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท (SPORT)
,บมจ.อุตสาหกรรมผ้าเคลือบพลาสติกไทย (TCOAT)
,บมจ.ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ (TUCC) และ
บมจ.ยงไทย (YCI)
สำหรับผลคะแนนเฉลี่ยมาตรฐานปี 55 อยู่ที่ 89.43% สูงขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 88.88%
แต่พบว่าคะแนนค่าเฉลี่ยต่ำสุดกลับลดลงที่ 39.28% จาก 50.39% สะท้อนว่าควรต้องมีความพยายาม
ในการให้ผู้บริหารเห็นความสำคัญของการประชุมใหญ่สามัญประจำปีให้มากขึ้น