http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 73462.html
อย่าลืมดูแล คุณแม่ คุณพ่อ กันนะครับ ^___^อยากซื้อมั๊ย หุ้นตัวนี้
ผมมีคำถามน่าสนใจมาถามครับ ผมจะเล่าเรื่องของหุ้นตัวหนึ่งให้ฟัง จากนั้นลองคิดดูว่า "คุณอยากซื้อมันมั๊ย?"
หุ้นตัวนี้เป็นหุ้นนอกตลาดครับ มันเป็นบริษัทที่มีอนาคตสดใส อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกหุ้นตัวนี้จะยังไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับคุณได้ มิหนำซ้ำคุณยังต้อง "เพิ่มทุน" ให้กับมันอยู่เป็นประจำ ก่อนที่กระแสเงินสดของบริษัทจะกลับมาเป็นบวกและยืนบนขาของตัวเองได้ ซึ่งก็น่าจะราวๆ 20 ปี
หลังจากที่ตั้งตัวได้แล้ว บริษัทก็อาจจะจ่ายหรือไม่จ่ายเงินปันผลให้คุณก็ได้ แล้วแต่การตัดสินใจของฝ่ายบริหาร
ดูจากแนวโน้มอุตสาหกรรม เมื่อบริษัทเริ่มมีฐานะทางการเงินมั่นคงก็จะเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการ "ควบรวมกิจการ" ซึ่งก็อาจจะต้องขอเพิ่มทุนจากคุณอีกรอบ รวมถึงอาจมีการออกมาตรการ "ลด" อัตราการจ่ายเงินปันผลประกอบไปด้วย เพราะบริษัทต้องนำเงินสดไปใช้ในการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมทั้งตกแต่งออฟฟิศให้ดูดีทัดเทียมบริษัทอื่นอยู่เสมอ
ที่สำคัญคุณไม่สามารถขายมันทิ้งได้ เพราะมันเป็นหุ้นนอกตลาด พูดแบบบ้านๆ ก็คือ "ต้องถือมันไปเรื่อยๆ"
มาถึงตรงนี้คุณอาจจะคิดว่าหุ้นตัวนี้ช่างไม่น่าซื้อเอาเสียเลย...
เสียดายที่ผมต้องบอกว่าหุ้นตัวนี้ก็คือ "ตัวเรา" นั่นเองครับ
ในช่วงแรกของชีวิตที่เรายังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องมี "ใครบางคน" คอยใส่ใจดูแล ป้อนข้าวป้อนน้ำ หาเงินส่งเสียให้เราเรียน จนถึงวันที่เราเริ่มทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้
หลายคนแบ่งเงินเดือนออกมาให้ "ใครบางคน" นั้น เพื่อตอบแทนพระคุณ มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังที่มี ขณะที่อีกหลายคนก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะทำเช่นนั้นได้ ยิ่งใครแต่งงานแยกครอบครัวออกมาก็จะรู้ว่า ภาระทางการเงินในช่วงอายุ 30-40 ปี หนักหนาสาหัสขนาดไหน โดยเฉพาะคนที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เลี้ยงลูก จ่ายค่าเทอม ฯลฯ ของแบบนี้ต้องเจอเองถึงจะรู้
คนทำงานกินเงินเดือนจะรู้เลยว่า "ความกล้า" ในสมัยหนุ่มสาวจะค่อยๆ ลดลงตามอายุและความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น บางคนจึงยอมแบกรับความเครียดในชีวิต ยอมทิ้งความฝันของตัวเอง เพียงเพื่อที่จะนำพาชีวิตเล็กๆ อีกหลายชีวิตฝ่าไป
"ภาพอนาคต" ของคุณอาจเป็น "ภาพอดีต" ที่ผ่านมาของพ่อแม่ และถึงยุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ cycle ของชีวิตคนก็ยังคงเดิม
ที่ผมอยากบอกก็คือ การเป็นพ่อเป็นแม่คนนั้น ไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ใดๆ หากลองย้อนขึ้นไปดูตัวอย่างหุ้นข้างต้นก็จะเห็นว่า ผู้ถือหุ้น "แทบจะไม่ได้อะไรเลย" นอกจากความชื่นอกชื่นใจและความสุขในชีวิต ความรักที่บริสุทธิ์ทำให้เขายินดีซื้อหุ้นตัวนั้น แม้จะรู้ว่ามันไม่มีทางคุ้ม!
ถ้าจะมีบางสิ่งที่เราพอทำได้ สิ่งนั้นคือ ทำให้พ่อแม่ "ชื่นใจ" และ "ภูมิใจ" ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม
... ขอจรรโลงสังคมฉลองวันแม่ สั้นๆ แค่นี้แหละครับ
จากคุณ : Antonio at MonkeyFreeTime
เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 23:29:36